แชร์

บทที่ 382

ผู้แต่ง: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
สิ้นประโยคนี้ ร่างของลั่วชิงยวนสั่นคลอน

นี่มิใช่น้ำเสียงปรึกษาหรือหยั่งเชิง

เป็นน้ำเสียงที่ลั่วชิงยวนรับรู้ถึงการข่มขู่

นางมิได้เอ่ยตอบ

ไทเฮายิ้มพร้อมมองไปทางนาง “มิต้องการหรือ?”

ลั่วชิงยวนถอยหลังพร้อมคุกเข่าลง “ไทเฮาโปรดประทานอภัยเพคะ! หม่อมฉันแต่งงานกับท่านอ๋อง หม่อมฉันที่เป็นพระชายาของท่านอ๋อง จักแต่งงานกับผู้อื่นได้อย่างไร”

“หรือต่อให้หม่อมฉันยอม ก็ทำเช่นนี้มิได้! มิเช่นนั้นความสัมพันธ์ของท่านอ๋องและองค์ชายห้าจักอึดอัด หรือกระทั่งห่างเหินกันเพราะหม่อมฉัน ซึ่งเป็นการเพิ่มคำนินทา และทำราชวงศ์เสียหน้าเพคะ!”

นางมิชอบฟู่อวิ๋นโจว จักแต่งกับเขาได้เช่นไรเล่า

หรือต่อให้นางมีความคับแค้นใดกับฟู่เฉินหวน ก็ควรคลี่คลายกันเองระหว่างนางและเขา

ประโยคนี้ ทำไทเฮามิพอใจขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

ใบหน้าของไทเฮาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่กลับเป็นยิ้มเยือก “ดูท่าเจ้ายังคงรักท่านอ๋องอยู่มาก”

“ครั้งนี้เจ้ามิได้เข้าวังมาเพื่อเจอเขาหรือ? ข้าพาเจ้าไปเจอเขาเอง”

ในเสียงน่าเกรงขาม เต็มไปด้วยความข่มขู่

หัวใจของลั่วชิงยวนบีบรัด

นางจะออกจากวังเพื่อไปตามหาลูกแก้วหงส์เพลิง!

ในใจของนางร้อนรนดุจมดกล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 383

    ผู้ช่วยในร้านเดินออกมาต้อนรับ “แม่นาง ท่านมาซื้อหรือมาขายของกันหรือขอรับ?” ลั่วชิงยวนสำรวจทั้งหอมหาสมบัติอย่างกังวลใจ “ข้ามาหาคน” พูดจบนางก็วิ่งขึ้นชั้นบนในทันที คนใช้ตะลึง วิ่งไปห้ามในทันที “แม่นาง ชั้นบนไปมิได้ขอรับ!” เสินหลีกดร่างผู้ช่วยไว้ และเผยป้ายบนเอว คนใช้ผู้นั้นตกใจร่างสั่นคลอน และมิกล้าห้ามอีก พลังวิญญาณของลูกแก้วหงส์เพลิงนั้นค่อนข้างรุนแรง ทั้งหอมหาสมบัติสามารถรับรู้ได้ทั่ว ที่น่าดีใจคือ นางมิได้หาผิดที่ แต่ที่น่าร้อนใจคือ หอนี้อบอวลไปด้วยพลังวิญญาณของลูกแก้วหงส์เพลิง มิสามารถรู้แน่ชัดได้ว่าอยู่ห้องไหน ลั่วชิงยวนทำได้เพียงบุกรุกทีละห้อง เพื่อตามหาลูกแก้วหงส์เพลิง ทำผู้คนมิน้อยขึ้งโกรธ แต่เมื่อเสินหลีแสดงป้าย ผู้ที่ลุกพรวดอย่างโกรธเคือง ต่างนั่งลงอย่างหมดน้ำโห หอมหาสมบัตินั้นใหญ่มาก เรียกได้ว่าแทบจะตรงตามชื่อหอ ของสะสมทั้งหอ มีมากมายเป็นหมื่น ๆ ชิ้น ทุกครั้งที่ผลักประตู มือของลั่วชิงยวนจะมีความเจ็บปวดรุนแรงส่งมา แต่ในใจของนางร้อนรน คิดถึงเพียงแค่ลูกแก้วหงส์เพลิง มิรู้ว่าประตูบานที่เท่าไร วินาทีที่ประตูถูกเปิดออก ของที่ประกายแสงจ้าบนโต๊ะ ดึงดูดสายต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 384

    ลั่วชิงยวนมองไปทางลั่วไห่ผิงอย่างตะลึง เขาก็มาเพื่อลูกแก้วหงส์เพลิง! เขารู้ได้อย่างไรว่าอยู่ที่นี่? เขาสะกดรอยตามนาง! จู่ ๆ สันหลังของลั่วชิงยวนก็เย็นวาบขึ้นมา หลังนางออกจากวังนางก็มาที่นี่ในทันที ลั่วไห่ผิงมาเร็วเช่นนี้ นอกเสียจากเขาสั่งคนจ้องอยู่หน้าประตูวังตลอด เมื่อเห็นนางออกจากวังจึงตามมา! ลั่วไห่ผิงคิดจะทำสิ่งใด? “มิเกี่ยวกับท่าน!” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเย็นชา และกอดกล่องแพรไว้แน่น “ส่งมา!”ลั่วไห่ผิงยื่นมือแย่งชิง เสินหลีขึ้นหน้ากล่าว “ท่านอัครมหาเสนาบดี พระชายาได้รับพระราชบัญชาจากฝ่าบาท!” เสินหลีย่อมมิมีทางลงมือกับท่านอัครมหาเสนาบดีแน่ แต่เขาสามารถเอ่ยตักเตือนได้ แต่ลั่วไห่ผิงกลับมิไว้หน้าแต่นิด เขาตอบเสียงเยือก “ลูกแก้วหงส์เพลิงหาย ข้าเองก็มีส่วนรับผิดชอบมาก! ตรวจสอบมาหลายวัน จนสืบพบที่อยู่ของลูกแก้วเมื่อครู่! ข้าจักนำลูกแก้วหงส์เพลิงไปรับโทษเอง!” สิ้นประโยค ลั่วไห่ผิงจับมือที่กำลังบาดเจ็บอยู่ของลั่วไห่ผิงขึ้น นางเจ็บปวดจนเลือดสดไหลพราก อยากจะสลัดออกแต่กลับไม่มีแรงต่อต้าน ความเจ็บปวดอันมากล้นทำหน้าผากของนางซึมออกมาเป็นเม็ดเหงื่อ ลั่วไห่ผิงแย่งชิงกล่อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 385

    ลูกแก้วหงส์เพลิงนี้มิใช่ลั่วชิงยวนหากลับได้พร้อมกับเสินหลีหรือ? เกี่ยวอะไรกับลั่วไห่ผิงกัน? เพียงแต่คำพูดของเขากลับตรงข้าม “ท่านอัครมหาเสนาบดีสามารถตามหาลูกแก้วหงส์เพลิงของจริงกลับมาได้ ถือเป็นการพิสูจน์แล้วว่า ท่านอ๋องผู้สำเร็จราขการมิใช่ผู้ชั่วร้าย ที่บรรพบุรุษราชวงศ์นั้นมิยอมรับ!” “แต่มีผู้บังอาจมาแตะต้องเสาหงส์เพลิงในหอบรรพบุรุษเพื่อใส่ร้ายอ๋องผู้สำเร็จราชการ บังอาจนัก!” น้ำเสียงของจักรพรรดิกริ้วโกรธ “ผู้ใดลักลูกแก้วหงส์เพลิงไป?” บัดนี้ ลั่วไห่ผิงกลับเอ่ยตอบ “เมื่อกระหม่อมหาลูกแก้วหงส์เพลิงเจอ กระหม่อมพบกับคนสามคนพอดีพ่ะย่ะค่ะ” “แต่ผู้ใดเป็นคนลักลูกแก้วไปนั้น กระหม่อมมิทราบ” สามคนนั้น ก็คือลั่วชิงยวนและสองคนนั้นที่เจรจากันในหอมหาสมบัติ ขุนนางระดับสูงโดยรอบซุบซิบเสียงเบา เรื่องการลักลูกแก้วหงส์เพลิงนั้นจะเกี่ยวกับลั่วชิงยวนอีกหรือไม่? ท่านอัครมหาเสนาบดีช่างเที่ยงตรงเสียจริง กระทั่งลั่วชิงยวนยังจับตัวมาในตำหนัก หรือลูกแก้วหงส์เพลิงนี้ ลั่วชิงยวนจะเป็นผู้ขโมยจริง ๆ? ฟู่จิ่งหานย่อมรู้ดีว่าลั่วชิงยวนบริสุทธิ์ แต่เขากลับมิรู้รายละเอียด จึงเอ่ยถาม“พระชายาอ๋อง เจ้าอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 386

    บุตรชายคนโตของแม่ทัพฟ่านหรือ?จักรพรรดิเองก็ตะลึง “บุตรคนโตของจวนแม่ทัพติ้งหย่วนหรือ?”เสียงกังวลของชายหนุ่มค่อย ๆ ดังขึ้น “พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเป็นบุตรคนเอกของจวนแม่ทัพติ้งหย่วน ฟ่านซานเหอ”สิ้นประโยคนี้ หัวใจลั่วชิงยวนหมดลมหายใจไปพักหนึ่งเหตุใดจึงเป็นเขาได้!สามีของลั่วหลางหลาง!วันแต่งงาน แม้นางจะไปดื่มเหล้ามงคลเช่นกัน แต่คนมากเกิน นางจึงไปเจอเพียงลั่วหลางหลางโดยส่วนตัว และมิเคยเห็นสามีของลั่วหลางหลางมาก่อน!เขาคือฟ่านซานเหองั้นหรือ?ฟ่านซานเหอเข้ามาเกี่ยวโยงกับเรื่องนี้ได้อย่างไร?ลั่วชิงยวนคิดย้อนอย่างละเอียด เหตุใดลั่วไห่ผิงจึงถึงหอมหาสมบัติอย่างทันเวลา เขารู้ได้อย่างไรว่านางกำลังตามหาลูกแก้วหงส์เพลิง?และฟ่านซานเหอก็ถือลูกแก้วหงส์เพลิงขายให้กับหอมหาสมบัติอย่างบังเอิญบางทีทั้งหมดนี้อาจเป็นแผนการอยู่แล้วหรือเรื่องที่นางจะตามหาลูกแก้วหงส์เพลิง เล็ดลอดและทำพวกเขาแตกตื่นเสียนานแล้ว?แม้เช้านี้นางจะพบไทเฮา แต่นางก็คาดการณ์ไว้แล้วว่าลูกแก้วหงส์เพลิงอยู่ที่หอมหาสมบัติก่อนที่จะพบไทเฮาดังนั้นเป็นก่อนหน้านั้นก่อนฟ้าจะสว่าง!สมองของนางราวกับจะระเบิดออก ร่างกายที่อ่อนเพลีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 387

    รถม้าสั่นสะเทือน ฟู่เฉินหวนมองคนที่สลบในอ้อมอก ยื่นมือไปถอดหน้ากากของนางอย่างอดมิได้ใบหน้าของนาง บาดเจ็บหนักเพียงไหนกันแต่สัมผัสบนใบหน้า ทำลั่วชิงยวนป้องกันตัวโดยสัญชาตญาณ และจับมือเขาไว้แน่นทันทีฟู่เฉินหวนตะลึงเล็กน้อย มองดูนางที่ดวงตายังหลับพริ้ม ส่วนมือที่จับเขาไว้ ผ้าพันแผลถูกย้อมไปด้วยเลือดสด แต่นางราวกับรับรู้มิถึงความเจ็บปวด จับมือของเขาไว้แน่นต้องเป็นบาดแผลที่หนักเช่นไหน จึงทำให้นางที่สลบอยู่ยังระแวงเช่นนี้ เพราะกลัวคนจะเห็นใบหน้าของนางหน้าอกของฟู่เฉินหวนราวกับถูกหินก้อนยักษ์ทับไว้ จนเขาหายใจไม่ออกหรือที่ผ่านมาเขาเข้าใจนางผิดมาโดยตลอด เข้าใจผิดว่านางเป็นคนที่ตระกูลเหยียนส่งมาสอดแนมหรือจะเป็นอย่างที่ซูโหยวกล่าว ตระกูลเหยียนเพียงกำลังหลอกใช้นางหากเป็นเช่นนั้น คงทำร้ายนางมากเกินไปจริง ๆ เขากำมือไว้แน่น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความซับซ้อนฟู่เฉินหวนกลับตำหนัก ทันทีที่รถม้ามาถึง ซูโหยวและจือเฉาก็ออกไปต้อนรับทันที“เร็วเข้า! เรียกหมอกู้มา!”ฟู่เฉินหวนอุ้มลั่วชิงยวนลงจากรถม้า มุ่งไปห้องนางก้าวไวไม่นานนัก หมอกู้ก็มาถึงเขาแกะผ้าพันแผลบนมือของลั่วชิงยวนออก มือของนางเลือด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 388

    “มีผู้หนึ่งต้องช่วยพระชายาได้แน่!”จือเฉาลนลาน จนลืมซ่งเชียนฉู่ไป!นางลุกขึ้นเช็ดน้ำตา “แม่นมเติ้ง แม่นางซ่งเชี่ยวชาญวิชาแพทย์ เครื่องยาสมุนไพรก็มากหลาย นางต้องช่วยพระชายาได้แน่ แต่จะให้นางเข้าตำหนักอย่างไร?”“เช่นนี้ เจ้าออกตำหนักไปตามซูโหยว บอกซูโหยวว่าเครื่องยาสมุนไพรอยู่ที่ใด ให้ซูโหยวพาแม่นางซ่งเข้ามา แต่เจ้าต้องฉลาดหน่อย อย่าให้ซูโหยวรู้ตัว”“ห้ามทำตัวตนของพระชายาความแตกเด็ดขาด”ได้ยินดังนี้ จือเฉาพยักหน้า “เจ้าค่ะ บ่าวจักไปประเดี๋ยวนี้!”หลังเหล่าหมอหลวงทายาให้ท่านอ๋องเสร็จ หมอกู้ก็ส่งเขาออกไปทันทีมองฟู่เฉินหวนบนเตียงทีหนึ่ง หมอกู้ก็หันเดินออกจากไปเช่นกันฟู่เฉินหวนที่นอนอยู่บนเตียงพึมพำบางอย่างด้วยความสะลึมสะลือ จู่ ๆ เขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเขาฝืนลุกขึ้นนั่ง ใส่อาภรณ์และหนึ่งมือดันผนังห้องเดินออกจากห้องด้วยสีหน้าซีดเผือด เซียวซูเดินขึ้นหน้า “ท่านอ๋อง บาดแผลของท่าน…”“มิต้องยุ่ง” น้ำเสียงฟู่เฉินหวนไม่พอใจ และเดินออกจากเรือนไปในทันทีฟู่เฉินหวนกดหน้าอกไว้ ข่มความเจ็บปวดแรงกล้าจากบาดแผล ควบม้า และมุ่งไปทางตรอกฉางเล่อเมื่อฟู่เฉินหวนมาถึงในร้าน ทำซ่งเชียนฉู่ตกใจเป็นอย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 389

    จือเฉาเองก็มิเข้าใจ นางมิรู้ว่าเหตุใดท่านอ๋องจึงมาก่อน“แม่นางซ่ง! เซียนฉู่อยู่หรือไม่?” ฟู่เฉินหวนยังไม่ยอมเลิกพยายาม“เขามิอยู่ เขาไปทำพิธีให้ผู้อื่นที่ชนบท” ซ่งเชียนฉู่อ้างไปมั่ว“พวกเจ้าทุกคนต่างมาขอเครื่องยาสมุนไพร ต้องเป็นอาการสาหัสเช่นไหนกัน!”ตั้งแต่วินาทีที่เห็นจือเฉาปรากฏ ซ่งเชียนฉู่ก็เริ่มรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ชอบมาพากลจือเฉารีบขึ้นหน้าคุกเข่า “ท่านหมอ โปรดช่วยพระชายาด้วย นางกำลังสิ้นชีพจริง ๆ แล้ว!”ได้ยินเช่นนี้ ลมหายใจของซ่งเชียนฉู่กระตุกลั่วชิงยวนหรือ?เมื่อครู่ให้ตายอย่างไรนางก็มิยอมให้เครื่องยาสมุนไพรแก่ฟู่เฉินหวน บัดนี้หากนางเปลี่ยนกะทันหันจะแปลกไปหรือเปล่า?“เครื่องยาสมุนไพรของข้ามีไม่มากจริง ๆ! บางอย่างข้าต้องใช้ด้วย! พวกเจ้าต้องการโอสถใด ข้าขอดูก่อนว่ามีมากน้อยเท่าใด”ได้ยินดังนี้ ซูโหยวรีบนำเทียบยาออกมา “นี่ขอรับ”มองดูเทียบยา ซ่งเชียนฉู่ตะลึง “พวกท่านจักเอาหมดนี่เลยรึ! พวกนี้ต่างเป็นเครื่องยาสมุนไพรหายาก!””เพียงแต่มิขัดกับโอสถที่ข้าต้องการใช้ ก็ได้ ข้าจักไปกับพวกท่าน!”ได้ยินดังนี้ ฟู่เฉินหวนถอนหายใจโล่งอกซูโหยวจัดการสั่งรถม้าซ่งเชียนฉู่รีบห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 390

    ลั่วชิงยวนฝืนยันร่างลุกขึ้นนั่ง “เกิดอะไรขึ้นหรือ?”แม่นมเติ้งเห็นว่านางตื่นมาก็ชะงักเล็กน้อย และอึกอักที่จะเอ่ยปาก“พูดสิ!” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนไม่พอใจคิ้วของแม่นมเติ้งขมวดแน่น มีหน้าของนางโศกเศร้า “ท่านมหาราชครูลั่ว ปริดชีพตนเองเจ้าค่ะ!”สีหน้าของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไปฉับพลัน ราวกับถูกฟ้าผ่า “ว่ากระไรนะ?”นางเปิดผ้าห่มออกลงจากเตียง สวมรองเท้าหยิบหน้ากากและวิ่งออกไปด้านนอกทันที จือเฉาถืออาภรณ์และผ้าคลุมวิ่งตามออกมา “พระชายาช้าหน่อยเจ้าค่ะ ด้านนอกหิมะตกอยู่!”วินาทีที่พุ่งตัวออกจากในห้อง เกล็ดหิมะร่วงโรยบนหลังคอนางและละลายกลายเป็นน้ำ ลมเหมันต์หนาวเข้ากระดูกราวกับจะพัดนางให้สลาย หิมะทั่วฟ้าดินก็เทียบความเหน็บหนาวในใจนางมิติดแต่นิดวิ่งออกจากประตูใหญ่ นางพบว่าด้านนอกมีรถม้าคันหนึ่งพอดีนางจึงรีบขึ้นรถม้า และเอ่ยสั่งบ่าวควบม้า “ไปจวนมหาราชครู!”เมื่อนั่งลง นางจึงเห็นฟู่เฉินหวนที่อยู่ด้านตรงข้ามสีหน้าของเขาเองก็ค่อนข้างซีดเผือด บนใบหน้าเต็มไปด้วยแววหนักอึ้งที่แท้เขามารออยู่ที่นี่ คิดว่าก็คงเพราะเพิ่งรู้เรื่องมหาราชครูเช่นกันรถม้าควบไปทางจวนมหาราชครูอย่างไว ใจของลั่วชิงยวนบีบร

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1110

    ฟู่เฉินหวนตกตะลึงเขาเงยหน้ามองนางด้วยความสงสัย “วันนี้ท่านเป็นอะไรไป? จะดื่มสุราแล้วต้องถามมากมายเช่นนี้?”“เหมือนสตรี...”“ท่านคงมิประสงค์จะดื่มสุราด้วยกันกับข้า จึงพยายามปฏิเสธทางอ้อมสินะ”ลั่วชิงยวนกินไปพลางตอบ “เพียงแค่ถามเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”“เหตุใดท่านต้องตอบโต้เสียงดังด้วย”“ท่านมาหากระหม่อมก็เพื่อพูดคุยมิใช่หรือ?”ฟู่เฉินหวนเลิกคิ้ว พูดมิออก “ก็ใช่อยู่”เขายกถ้วยสุราขึ้นมา ลั่วชิงยวนชนจอกเหล้ากับเขาแล้วดื่มหมดจอกทั้งสองดื่มสุราจนถึงยามวิกาล พูดคุยกันทั้งคืนแต่เนื่องจากฟู่เฉินหวนมีกิจราชสำนักจึงมิได้พักค้างคืน ดื่มเสร็จแล้วจึงกลับตำหนักไปลมยามค่ำคืนพัดผ่านกายฟู่เฉินหวน ทำให้ตื่นจากอาการมึนเมาเมื่อออกจากตรอกก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง เขาจึงหันกลับไปมองมีเงาร่างหนึ่งรีบซ่อนตัวนัยน์ตาของฟู่เฉินหวนเย็นชาขณะขมวดคิ้วฉู่ลั่วถูกจับตามองหรือ?ฟู่เฉินหวนเดินจากไป......ยามเช้าลั่วฉิงมาที่ตรอกฉางเล่ออีกครั้ง แล้วเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งติดอยู่ที่รอยแยกของกำแพงเมื่อเปิดดูปรากฏว่าเขียนไว้ว่า คืนนี้ยามเที่ยงคืน มาพูดคุยเรื่องความร่วมมือกันเถิดลั่วฉิงตกตะลึง ฉู่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1109

    เมื่อฟู่เฉินหวนได้ฟังดังนั้นก็พยักหน้า “ข้าเข้าใจแล้ว”“แต่เหตุใดท่านเซียนฉู่จึงมิยอมรับตำแหน่งมหาปราชญ์?”ลั่วชิงยวนครุ่นคิด แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “กระหม่อมรับงานมิไหวแล้ว มิอยากให้ตำแหน่งมหาปราชญ์มาขัดขวางการทำเงินของกระหม่อม”ฟู่เฉินหวนอดหัวเราะมิได้ “ท่านขัดสนเรื่องเงินหรือ?”“ข้ามิเคยได้ยินท่านพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน”ลั่วชิงยวนตอบว่า “มิขัดสน แต่กระหม่อมชอบหาเงินพ่ะย่ะค่ะ” “อืม ข้าเข้าใจแล้ว แต่จักรพรรดิก็ตรัสแล้วว่าตำแหน่งนี้จะถูกสงวนไว้ให้ท่าน เมื่อใดที่ท่านเปลี่ยนใจหรือเมื่อใดที่ท่านหาเงินได้มากพอแล้ว ก็สามารถกลับมาเป็นมหาปราชญ์ได้ทุกเมื่อ”แล้วฟู่เฉินหวนก็ส่งลั่วชิงยวนออกจากวังระหว่างทาง ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเตือนอีกครั้ง “เมื่อครู่กระหม่อมเห็นว่าพระพักตร์ขององค์จักรพรรดิมีความมัวหมอง ท่านอ๋องควรเตือนองค์จักรพรรดิให้ระวังพระวรกายจากคนรอบข้างไว้พ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนสงสัย “หมายความว่าอย่างไร? มีผู้ใดจะลอบทำร้ายเขาหรือ?”ลั่วชิงยวนตอบว่า “ภัยพิบัติขององค์จักรพรรดิจะมาพร้อมกับภัยพิบัติของแคว้นเทียนเชวีย”เมื่อได้ยินดังนั้น ฟู่เฉินหวนก็เข้าใจ “ขอบคุณที่เตือน!”ที่จริงแ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1108

    “ทว่าหากฝ่าบาทมีสิ่งใดที่กระหม่อมสามารถช่วยได้ ฉู่ลั่วจะมิปฏิเสธพ่ะย่ะค่ะ!”“ส่วนรายละเอียดเราค่อยพูดคุยกันภายหลัง”ฟู่จิ่งหานพยักหน้า แต่ก็พูดว่า “ท่านมิต้องการเป็นมหาปราชญ์ แต่ตำแหน่งนี้ ข้ายังคงสงวนไว้ให้เป็นของท่านเสมอ! นอกจากท่านก็ไม่มีใครเหมาะสมอีกแล้ว!”ลั่วชิงยวนมิได้เอ่ยคำใดอีกผู้คนต่างก็แยกย้ายกันไปลั่วชิงยวนถูกจักรพรรดิเรียกไปยังห้องตำราจักรพรรดิถามด้วยความร้อนรน “ท่านเซียนฉู่ ภัยพิบัติที่ท่านกล่าวว่าจะเริ่มเกิดขึ้นทางทิศใต้คือ... เมืองฉินใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “น่าจะเป็นเมืองฉินพ่ะย่ะค่ะ”เรื่องนี้นางได้บอกฟู่เฉินหวนแล้วเมื่อฟู่เฉินหวนที่เพิ่งเข้ามาในห้องตำราได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงเล็กน้อยลั่วชิงยวนก็บอกเขาเรื่องเมืองฉินเช่นกันทั้งสองทำนายว่าทางทิศใต้จะเกิดภัยพิบัติเหมือนกัน...นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่?“ดูเหมือนว่าตระกูลเหยียนจะยังมิยอมแพ้! ท่านเซียนฉู่ ภัยพิบัติครั้งนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้หรือไม่?”ลั่วชิงยวนส่ายหน้า “ดูเหมือนว่าจะหลีกเลี่ยงมิได้พ่ะย่ะค่ะ”นี่เป็นครั้งที่สองที่นางทำนายเห็นได้ชัดว่ามีการส่งมือสังหารไปสังหารมหาราชาจารย์เหยีย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1107

    “คิดว่าคงเป็นเพราะท่านอาจารย์นักพรตเพิ่งมาถึงเมืองหลวง ยังมิได้มีโอกาสสืบเสาะหาชื่อเสียงของข้าในเมืองหลวง หากข้าเป็นเพียงผู้หลอกลวงต้มตุ๋น คงมีผู้คนตำหนิติเตียนข้าไปนานแล้ว”เมื่ออาจารย์นักพรตเสวียนซานได้ฟังดังนั้นก็ขมวดคิ้วดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจผิดเสียแล้วเมื่อมองดูฉู่ลั่วที่วางตัวอย่างสง่าผ่าเผยและแสดงท่าทีมั่นใจเช่นนี้ ก็รู้ว่าย่อมมีฝีมือที่แท้จริง มิใช่เพียงคนหลอกลวงพูดจาโอ้อวดครู่หนึ่งก็รู้สึกเสียใจที่มิได้สืบเสาะหาชื่อเสียงของฉู่ลั่วเสียก่อน“ที่แท้ข้าเข้าใจผิดไป ขออภัยต่อท่านเซียนฉู่ด้วย”“แต่ข้าเห็นว่าท่านเซียนฉู่มีฝีมือที่แท้จริง มิทราบว่าเรียนวิชาจากสำนักใด? เหตุใดจึงต้องใช้ชื่อของศิษย์เสวียนซานด้วยหรือ?”ลั่วชิงยวนยกยิ้มจาง แล้วกล่าวว่า “ไร้สำนักไร้พรรค”อาจารย์นักพรตเสวียนซานขมวดคิ้วแน่นด้วยความตกตะลึง แล้วกล่าวอย่างเสียดายว่า “ไร้สำนักไร้พรรค นั่นหมายความว่าเรียนวิชาลับใช่หรือไม่? ท่านเซียนฉู่ควรเข้ามาเป็นศิษย์ในสำนักเสวียนซาน วันนี้ได้พบกันโดยบังเอิญ ข้าปรารถนาจะรับท่านเป็นศิษย์เอก!”ผู้คนโดยรอบต่างตกตะลึง เมื่อครู่ยังหาเรื่อง บัดนี้กลับจะรับฉู่ลั่วเป็นศิษย์แล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1106

    ทุกคนต่างพากันเหลียวมองไปตามเสียงแล้วเห็นนักพรตผู้สง่างามก้าวเดินเข้ามาอย่างช้าๆรัศมีอันบริสุทธิ์ปราศจากมลทินของโลกมนุษย์แผ่พลังอำนาจอันน่าเกรงขามลั่วชิงยวนตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อเห็นเครื่องหมายบนคอเสื้อของนักพรตแล้วพูดขึ้นว่า “อาจารย์นักพรตเสวียนซาน”เครื่องหมายบนเสื้อผ้าของศิษย์แต่ละระดับของสำนักเสวียนซานจะมีสีแตกต่างกันเครื่องหมายบนคอเสื้อของคนผู้นี้เป็นสีทอง มีเพียงอาจารย์นักพรตเสวียนซานเท่านั้นที่มีสิทธิ์สวมใส่สำนักเสวียนซานที่มีระดับสูงกว่าสีม่วง ล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มิค่อยลงจากเขาใครกันที่สามารถเชิญอาจารย์นักพรตเสวียนซานมาที่นี่ได้อาจารย์นักพรตเสวียนซานฮึดฮัด “เจ้ารู้จักข้าบ้างก็ถือว่ายังดี!”“เจ้าดูมิเหมือนคนร้ายกาจ เหตุใดจึงแอบอ้างเป็นศิษย์ของสำนักข้า มาหลอกลวงในวังหลวงแคว้นเทียนเชวีย!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็เข้าใจทันทีนี่เป็นฝีมือของลั่วฉิงเหล่าขุนนางและข้าราชบริพารต่างตกตะลึง“หลอกลวงหรือ? คงมิใช่กระมัง?”“ความสามารถในการทำนายของท่านเซียนฉู่คงมิใช่ของปลอมกระมัง?”ผู้คนต่างเกิดความสงสัยจักรพรรดิกล่าวว่า “ท่านนักพรต ท่านพูดเช่นนั้นได้อย่างไร!”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1105

    ดีงูที่ทำให้ฝีมือของนางเพิ่มพูนขึ้นอย่างมากนั้น นางยังคงจำได้มิลืมเลือนน่าเสียดายที่ข้างกายซ่งเชียนฉู่มีคนผู้ทรงอานุภาพคอยคุ้มครอง นางจึงพยายามด้วยวิธีการต่างๆ แต่ก็ยังล้มเหลวการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างฉู่ลั่วกับซ่งเชียนฉู่อาจจะประสบความสำเร็จ แต่ฉู่ลั่วกลับดื้อดึงมิยอมร่วมมือกับนาง!เมื่อมิสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็จำต้องทำลายเขาเสีย!ลั่วชิงยวนกลับไปยังลานหลังร้านซ่งเชียนฉู่ถามด้วยความสงสัยว่า “ท่านมิได้ไปแล้วหรอกหรือ? เหตุใดจึงกลับมาอีก?”ลั่วชิงยวนทำท่าให้เงียบแล้วพาส่งเฉียนฉู่กลับไปยังห้อง จากนั้นบอกเล่าเรื่องราวให้ฟังเมื่อซ่งเชียนฉู่ฟังจบก็รีบกล่าวว่า “ดูเหมือนว่านางผู้นี้จะมิปล่อยท่านไป หรือว่าท่านจะเข้าวังไปดำรงตำแหน่งมหาปราชญ์ เมื่อมีตำแหน่งนี้แล้ว นางก็จะต้องเกรงใจบ้าง”ลั่วชิงยวนไตร่ตรอง แล้วพูดว่า “มหาปราชญ์ อืม... ค่อยว่ากันอีกที”จนกระทั่งล่วงเข้ายามดึก เมื่อแน่ใจแล้วว่าลั่วฉิงจากไปแล้ว ลั่วชิงยวนจึงกลับตำหนักอ๋องอย่างเงียบเชียบเมื่อกลับแล้วก็ถูกหล่างมู่ขวางทาง “พี่หญิง ท่านไปที่ใดมาขอรับ? ฟู่เฉินหวนมาหาท่านตอนค่ำ”“แล้วเจ้าบอกเขาว่าอย่างไร?”“ข้าบอกว่าพ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1104

    ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วมองหล่างมู่อย่างช่วยมิได้“หล่างมู่ เจ้ากลับไปก่อนเถิด ข้าจะไปทำธุระก่อน” ลั่วชิงยวนหันหลังวิ่งไปหล่างมู่ถือลูกถังหูลู่สองไม้วิ่งตามไปสองสามก้าว “พี่หญิง ท่านจะไปที่ใด? ไฉนมิพาข้าไปด้วยเล่า?”ลั่วชิงยวนมิได้ใส่ใจ รีบวิ่งออกจากถนนไปแล้วเมื่อไปเปลี่ยนอาภรณ์ที่หอฝูเสวี่ยแล้ว นางจึงไปที่ร้านอย่างเงียบเชียบเมื่อไปถึงลานด้านหลังก็พบกับซ่งเชียนฉู่ที่กำลังแบกตะกร้ากลับมาจากประตูหน้า ท่าทางดูรีบร้อนนัก“ท่านมาพอดี ท่านเห็นประกาศบนถนนหรือไม่? องค์จักรพรรดิจะเชิญท่านเข้าวังเพื่อแต่งตั้งท่านเป็นมหาปราชญ์!” ซ่งเชียนฉู่ส่งประกาศให้“นี่เป็นประกาศที่ติดอยู่ที่ประตูร้านเรา”“มิกี่วันที่ผ่านมา ข้าออกไปเก็บสมุนไพร พวกเขาคงจะมาหาท่าน แต่ไม่มีใครอยู่จึงติดประกาศไว้”“จะทำอย่างไรดี?”ซ่งเชียนฉู่ก็ตกตะลึงเช่นกันลั่วชิงยวนรับประกาศมาดูอีกครั้ง ในนั้นยังเขียนด้วยว่าให้นางเข้าวังหลวงเพื่อทำนายชะตาของแคว้นเทียนเชวียแล้วแต่งตั้งเป็นมหาปราชญ์ซ่งเชียนฉู่ถอนหายใจ “ข้าคิดว่าครั้งนี้ ตัวตนของท่านคงจะปกปิดมิได้แล้ว”“คอยดูกันต่อไปเถิด” ลั่วชิงยวนยังมิรู้ว่าจะบอกฟู่เฉินหวนอย่างไร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1103

    น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนนั้นบ่งบอกชัดเจนว่ากำลังหึงหวงอยู่ลั่วชิงยวนปอกส้มแล้วป้อนให้ฟู่เฉินหวนพลางพูดอย่างอารมณ์ดีว่า “หล่างมู่มองหม่อมฉันเป็นเพียงพี่หญิงจริง ๆ เพคะ”“เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพี่หญิงมาตั้งแต่เด็ก แต่พี่หญิงของเขาเสียชีวิตเพราะเขา จึงเป็นบ่วงกรรมและความเสียใจตลอดชีวิตของเขา”“ต่อมาหล่างชิ่นกลายเป็นพี่หญิงของเขา เขาเชื่อฟังหล่างชิ่นทุกอย่าง แต่สุดท้ายหล่างชิ่นกลับต้องการให้เขาตาย”“หลังจากนั้นเมื่อหม่อมฉันไปยังเผ่านอกด่าน ราชาเผ่านอกด่านบอกว่าหม่อมฉันเป็นพี่หญิงของเขา ดังนั้นเขาจึงมองหม่อมฉันเป็นพี่หญิงแท้ ๆ มาโดยตลอด”เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินเช่นนั้นก็สงสัยยิ่งนัก “พูดตามตรงคือข้ายังคงมิเข้าใจเลยว่าเหตุใดราชาเผ่านอกด่านจึงมั่นใจว่าเจ้าเป็นลูกสาวของเขา”ลั่วชิงยวนพูดเสียงเบาว่า “ราชาเผ่านอกด่านกับลั่วไห่ผิงมีใบหน้าเหมือนกันราวกับแกะ! พวกเขาเป็นพี่น้องกันเพคะ!”“ก่อนที่ท่านแม่ของหม่อมฉันจะมาเมืองหลวงแล้วแต่งงานกับลั่วไห่ผิง นางเคยมีความสัมพันธ์กับราชาเผ่านอกด่าน แต่สุดท้ายก็มิได้ลงเอยกันจึงมาเมืองหลวงและแต่งงานกับลั่วไห่ผิงเพคะ”ฟู่เฉินหวนตกตะลึงยิ่งนักเมื่อได้ฟัง“

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1102

    หล่างมู่ชกเข้าที่ใบหน้าของฟู่เฉินหวนจนฟู่เฉินหวนถอยหลังไปหลายก้าวหล่างมู่แสดงสีหน้าโกรธแค้น “ข้าขอเตือนท่านเลยว่าถ้าท่านทำเช่นนี้กับพี่หญิงของข้าอีก ข้าจะฆ่าท่านเสีย!”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพลางเช็ดเลือดที่มุมปาก “ลั่วชิงยวนอยู่ที่ใด ข้าจะพบกับนาง”“นางอยู่ที่ใด แล้วท่านเกี่ยวอะไรด้วย!” หล่างมู่แสดงสีหน้ามิพอใจ เขายังคงจำได้ว่าในวันคล้ายวันพระราชสมภพของจักรพรรดิ อ๋องผู้สำเร็จราชการยินดีที่จะมอบลั่วชิงยวนให้เขาชายคนนี้ช่างน่ารังเกียจ!เขามิเข้าใจว่าเหตุใดพี่หญิงจึงยังคงอยู่กับชายผู้นี้วันนี้กลับนิ่งเฉยมองดูคนอื่นทำร้ายพี่หญิงอย่างมิแยแสอีก!หล่างมู่มิพอใจอย่างยิ่งเมื่อทั้งสองสบตากัน ความเป็นปรปักษ์ก็ปะทุขึ้นบรรยากาศตึงเครียด ในวินาทีต่อมาดูเหมือนว่าจะต้องต่อสู้กันแน่แล้วลั่วชิงยวนเพิ่งเข้ามาในลานก็เห็นเหตุการณ์นี้ จึงรีบเข้าไปขวางไว้“พวกท่านกำลังทำอะไรกัน!”“แค่ก แค่ก แค่ก...” เมื่อนางร้อนใจก็กุมอกด้วยความเจ็บปวดสีหน้าของทั้งสองเปลี่ยนไปอย่างมากแล้วเข้าไปพยุงนางพร้อมกัน ลั่วชิงยวนปัดมือของทั้งสองออก แล้วหันไปมองหล่างมู่ “พี่บอกเจ้าว่าอย่างไร!”ความโกรธของหล่างมู่หา

DMCA.com Protection Status