Share

บทที่ 1138

Author: หว่านชิงอิ๋น
คนอื่น ๆ ก็เห็นแล้วเช่นกัน

ไม่มีเวลาแล้ว ทุกคนรีบวิ่งไปยังอีกฝั่ง สะพานจึงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

โชคดีที่สะพานแข็งแรง ไม่มีใครตกลงไปข้างล่าง

แต่เฉินชีกับพรรคพวกข้างหลังก็ลงมาถึงพื้นแล้ว

ลั่วชิงยวนหันไปมอง แล้วเห็นเฉินชีวิ่งมาโดยมิพาคนตามมาด้วย

นางชะงัก รู้สึกสังหรณ์ใจมิดี

แล้วก็เห็นเฉินชีถือกระบี่พิชิตมารเดินไปที่ริมสะพาน เขาแสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายแล้วใช้กระบี่ฟันโซ่เส้นหนึ่ง

แคร้ง!

โซ่ขาดสะบั้น ร่วงลงไปในหุบเหว

สะพานสั่นคลอนอย่างรุนแรง

โชคดีที่ยังมีโซ่อีกเส้นยึดไว้

ทุกคนบนสะพานต่างตื่นตระหนก

เฉินชียกกระบี่พิชิตมารขึ้นเตรียมจะตัดโซ่อีกเส้น

หากโซ่ขาดอีกเส้น

สะพานจะพลิกคว่ำและทุกคนจะตกลงไป

ซ่งอวี่ร้องตะโกน “หยุดนะ! เจ้าต้องการสมุนไพร ข้าจะยกให้ทั้งหมด! ปล่อยพวกเขาไป!”

เขาจะมิยอมให้ลูกสาวและคนอื่น ๆ ต้องมาตายที่นี่!

เฉินชีหัวเราะเย็นชา “มาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้าคิดว่าข้ายังสนใจสมุนไพรพวกนั้นอีกรึ?”

กล่าวจบ เขาก็ยกกระบี่พิชิตมารฟันไปที่โซ่อีกเส้น

หากโซ่เส้นนี้ขาด

พวกเขาจะตกหน้าผาตายหมดอย่างมิต้องสงสัย!

ทุกคนใจหายวาบ

ลั่วชิงยวนมิสนใจอะไร ร้องตะโกน “เฉินชี!”

ทันทีที่คำนี้หลุ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1139

    เฉินชีผู้ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามก็อดทนใจเย็น เขาหรี่ตามองนางพลางยกยิ้มอย่างมีเลศนัยจนกระทั่งอาเสินบินวนกลับมา ลั่วชิงยวนจึงรู้ว่าพวกเขาลงจากสะพานอย่างปลอดภัยแล้วนางจึงก้าวเท้าก้าวสุดท้ายขึ้นไปบนลานเฉินชีเดินเข้ามาบีบคางนาง แล้วจ้องมองด้วยสายตาเหี้ยมโหด “เจ้าเป็นใคร?”“เหตุใดเจ้าจึงรู้จักข้า?”“วงเวทอัญเชิญวิญญาณ วงเวทสะกดวิญญาณ เจ้าเป็นคนแคว้นหลีหรือ?”“เหตุใดข้ามิเคยเห็นเจ้ามาก่อน?” ผู้ที่รู้จักมนตราเช่นนี้ย่อมมิใช่คนธรรมดาในแคว้นหลีต้องเป็นคนในสำนักนักบวชแต่เขามิเคยเห็นสตรีตรงหน้ามาก่อนลั่วชิงยวนจ้องมองเขา แล้วสะบัดมือเขาออก “แม่ทัพใหญ่เฉินชีมาแคว้นเทียนเชวียเพื่อช่วยลั่วฉิงใช่หรือไม่?”“น่าเสียดาย ลั่วฉิงบอกเล่าเรื่องของแม่ทัพใหญ่หมดแล้ว”เหตุผลที่เฉินชีมาที่นี่ ลั่วชิงยวนคิดได้เพียงว่าต้องมาช่วยลั่วฉิงนางพยายามยุยงให้เฉินชีกับลั่วฉิงแตกคอกันแต่เฉินชีกลับหัวเราะเยาะ “ดูเหมือนเจ้าจะรู้อะไรมิน้อย แม้แต่ลั่วฉิงก็ไม่มีความสามารถพอจะต่อกรกับเจ้า!”“แผนล้มเหลวก็มิเป็นอะไร ข้าแค่มาร่วมสนุก ทว่าหากจับเจ้ากลับไปได้ก็พอให้ข้าเล่นสนุกได้พักหนึ่ง นับว่า... มามิเสียเที่ยว”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1140

    หล่างมู่กับเซียวชูเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปช่วยลั่วชิงยวน แล้วพานางวิ่งหนีไปแต่เฉินชีก็ตามมาทันอย่างรวดเร็ว กระบี่พิชิตมารคมกริบทรงพลังยากจะต้านทานแม้จะสามรุมหนึ่งก็ยังเอาชนะได้ยากแล้วคนอื่น ๆ ก็ตามมาล้อมพวกเขาไว้ได้เฉินชีหยุดมือ มองพวกเขาอย่างสนใจ “หนีไปได้แล้วยังกลับมาหาที่ตายอีกรึ?”“อย่าหาว่าข้าใจร้ายแล้วกัน”ลั่วชิงยวนพยายามต่อต้าน แต่ก็รู้ว่าหนีมิพ้นจึงลองเจรจากับเฉินชี“ข้าจะมิหนีแล้ว เจ้าปล่อยพวกเขาไป”เฉินชีเป็นคนบ้า หากเซียวชูกับหล่างมู่ตกไปอยู่ในมือเขาคงมีจุดจบที่น่าอนาถ“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะมิหนี?” เฉินชีเลิกคิ้วถาม“ข้ารับรอง”เฉินชีโบกมือ คนข้างล่างก็หยุดหล่างมู่ดึงแขนลั่วชิงยวน “พี่หญิง!”ลั่วชิงยวนตบบ่าเขา “มิต้องห่วง”“พวกเจ้าไปก่อนเถิด”ลั่วชิงยวนส่งสายตาให้เซียวชูเซียวชูเข้าใจ รีบพาหล่างมู่หนีไป“อย่ากลับมาอีก!” ลั่วชิงยวนกำชับหล่างมู่กัดฟันวิ่งตามเซียวชูไปลั่วชิงยวนหันไปหาเฉินชี “เจ้าห้ามส่งคนไปจับพวกเขา!”เฉินชียกยิ้มเย็นชา “เหตุใดข้าต้องฟังเจ้า?”“เจ้ามิฆ่าข้า แสดงว่าข้ามีประโยชน์กับเจ้า หากเจ้ากล้าจับพวกเขา ต่อให้ต้องตาย ข้าก็จะมิยอมให้เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1141

    เมื่อเข้าใกล้ชายแดนแคว้นหลี ลั่วชิงยวนมิอาจก้าวต่อไปได้อีก“ข้าเหนื่อยนัก ข้าเดินมิไหวแล้ว ข้าขอพักเสียหน่อยก่อนเถิด!”ลั่วชิงยวนทรุดกายลงนั่ง มิปรารถนาจะเคลื่อนไหวอีกเฉินชียืนเท้าสะเอวก้มมองนางพลางกล่าว “อย่าคิดว่ายื้อเวลาแล้วพวกเขาจะช่วยเจ้ากลับไปได้”“ผู้ใดที่ข้าหมายเอาไว้ ยังมิเคยมีผู้ใดรอดพ้นจากเงื้อมมือข้าไปได้”ใจลั่วชิงยวนสั่นสะท้านนางเงยหน้าขึ้นพูดกระชากเสียงด้วยความขุ่นเคือง “แม้แต่จะพักผ่อนสักครู่ยังมิยอม เช่นนั้นก็จงสังหารข้าเสีย อย่างไรเสียข้าก็มิอยากจะไปต่อแล้ว ข้าปวดขาเหลือเกิน”เฉินชีหรี่ตาลงแล้วอุ้มนางขึ้นทันทีลั่วชิงยวนดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย “วางข้าลง!”แต่เฉินชีมิหยุด เขากล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา “เจ้าบอกว่าเดินมิไหวมิใช่รึ เช่นนั้นข้าก็จะอุ้มเจ้าไปเอง”“หากเจ้ายังใช้ข้ออ้างนี้รบกวนข้าอีก ข้าจะตัดขาเจ้าทิ้งเสีย เจ้าจะได้มิปวดขาอีก”ลั่วชิงยวนมิกล้าขยับเขยื้อนอีกเพราะเฉินชีสามารถกระทำการเช่นนั้นได้จริงเฉินชีอุ้มนางข้ามภูเขาสูงตระหง่านพวกเขาได้เข้าสู่เขตแดนแคว้นหลีแล้วแต่ขณะที่ลั่วชิงยวนกังวลว่าเซียวชูและพวกพ้องจะตามมาถึงแคว้นหลีมิได้ เฉินชีกลับห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1142

    เฉินชีเอื้อมมือไปจับข้อมือของนางที่พยายามดิ้นรนไว้ พลางกล่าวว่า “อย่าขยับ มันมิลวกเจ้าหรอก”“จะมิลวกได้อย่างไร! ปล่อยข้า! หากมือข้าไร้ประโยชน์ ข้าจะมิอาจใช้คาถาอาคมอะไรได้อีก แล้วข้าจะมิอาจช่วยเจ้าได้!”เฉินชีได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเบา ๆ “ยากนักที่ในเวลาเช่นนี้เจ้ายังคิดถึงเรื่องช่วยข้า ถูกใจข้ายิ่งนัก ข้าจะมิให้รอยแผลเป็นใด ๆ เกิดขึ้นบนมือคู่นี้ของเจ้าเป็นแน่”กล่าวจบ เขาก็ค่อย ๆ รินสิ่งนั้นลงบนกลไกที่ติดอยู่บนข้อมือของนางรังสีอันร้อนแรงแผดเผา ทำให้ใจของลั่วชิงยวนหวาดหวั่นนางมิอาจเชื่อใจเฉินชีได้เลยเปลวเพลิงยังคงลุกโชนอยู่ในเหล็กหลอมเหลว ทำให้ลั่วชิงยวนเบี่ยงตัวหลบอย่างตื่นตระหนกเหล็กหลอมเหลวร้อนระอุถูกกั้นไว้ด้วยเหล็กเพียงชั้นเดียว แทบจะแนบชิดกับผิวหนังของนาง ความรู้สึกร้อนผ่าวเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกว่าเครื่องมือนั้นจะถูกหลอมละลายได้ทุกเมื่อ แล้วของเหลวนั้นจะทะลุลงมาถึงข้อมือของนางนางอดมิได้ที่จะตัวสั่นเทาด้วยความตื่นตระหนกบังเอิญว่าเฉินชีใช้มือข้างหนึ่งหมุนกลไก ทำให้ฝ่ามือของลั่วชิงยวนหงายขึ้น เนื่องจากนางตัวสั่นค่อนข้างแรง ทำให้เหล็กหลอมเหลวที่กำลังถูกรินลงมามีบางส่วนเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1143

    หรือว่าเฉินชีมิได้หวั่นเกรงว่านางจะหลบหนีไป?ครั้นเมื่อนางวิ่งวนรอบเขาและวิ่งออกจากป่า จึงได้ตระหนักว่าสามด้านล้วนเป็นหน้าผาสูงชัน นางจึงเข้าใจว่าเหตุใดเฉินชีมิได้ส่งคนมาเฝ้านางก่อนฟ้าจะมืด นางรีบวิ่งกลับไปยังกระท่อมไม้ไผ่ทันทีที่กลับเข้าไปในกระท่อม เฉินชีก็ตามมาติด ๆแล้วนำอาหารมาให้“เป็นเช่นไรบ้าง? ทิวทัศน์บนเขางดงามหรือไม่?”เฉินชีเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มลั่วชิงยวนเอนกายพิงเก้าอี้ หลับตาพักผ่อน “แม่ทัพเฉินช่างมีอำนาจล้นฟ้า ข้าทำสิ่งใด เจ้าก็รู้แจ้งไปเสียหมด”เฉินชียืนกอดอกเลิกคิ้วครุ่นคิด “แม่ทัพเฉินรึ? นานนักแล้วที่ไม่มีผู้ใดเรียกข้าเช่นนี้”“เจ้าช่างละม้ายกับสหายเก่าของข้าผู้หนึ่ง”ใจของลั่วชิงยวนหวั่นไหวแล้วหัวเราะเยาะ “คนอย่างแม่ทัพเฉินก็มีสหายด้วยหรือ?”เฉินชียกยิ้มแล้วเลิกคิ้ว “ไม่มี”“เช่นนั้นเปลี่ยนเป็น... ศัตรูเก่า?”ลั่วชิงยวนมิอยากพูดเรื่องไร้สาระอีก นางเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าต้องการให้ข้าทำสิ่งใด บอกข้าก่อนได้หรือไม่”“มิต้องรีบร้อน” เฉินชียกยิ้มจากนั้นก็หันหลังเดินจากไป โดยทิ้งท้ายไว้ว่า “ยามราตรีบนเขาหนาวเย็น จงจำไว้ว่าต้องสวมอาภรณ์เพิ่ม มีอยู่ในตู้”เมื่อเส

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1144

    เมื่อวิ่งออกจากป่ามาถึงริมหน้าผาก็เป็นเวลาตะวันขึ้นพอดี“เบื้องล่างนี้เป็นเหวลึก ท่านปีนขึ้นมาจากที่นี่หรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนชะโงกหน้ามองลงไปเบื้องล่างฟู่เฉินหวนดึงนางกลับมา “ระวัง”เขาจูงมือลั่วชิงยวนไปนั่งข้างก้อนหินใหญ่ แล้วกล่าวว่า “ที่นี่ปีนขึ้นมานั้นง่าย แต่ลงไปยาก”“หลบซ่อนอยู่ที่นี่ก่อน ประเดี๋ยวชาวแคว้นหลีพบว่าเจ้าหายไปจะต้องตามไปข้างนอก รอพวกเขาไปแล้ว เราค่อยออกไป”ลั่วชิงยวนพยักหน้าแล้วนั่งลงเอนกายพิงฟู่เฉินหวนมือทั้งสองกุมกันแน่น มิอาจแยกจากกัน“หน้าผาสูงเช่นนั้น ท่านมิกลัวหรือเพคะ?”“เจ้าอยู่ข้างบนนี้ ข้าจะกลัวสิ่งใดเล่า”เป็นเวลารุ่งสางแล้ว ทั้งสองรอฟังความเคลื่อนไหวภายนอก รอให้ชาวแคว้นหลีถูกล่อออกไปก่อน แล้วจึงค่อยจากไปแต่แล้วสิ่งที่พวกเขามิคาดคิดก็เกิดขึ้นมีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลังทั้งสองตกใจ ลั่วชิงยวนค่อย ๆ ยื่นหน้ามองออกไปกลับเห็นเฉินชีกำลังถือกระบี่เดินเข้ามา เขามิได้ปิดบังเสียงฝีเท้าเลยด้วยซ้ำ“ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ ออกมาเถิด หากเจ้าออกมาเอง ข้าจะได้ฆ่าน้อยลงหนึ่งคน”เฉินชีกล่าวด้วยความสนุกสนานราวกับกำลังไล่ล่าเหยื่อลั่วชิงยวนใจหายวูบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1145

    พร้อมกันนั้น นางก็ได้กลิ่นยาจาง ๆเฉินชีมีวิชาตีกระบี่ที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ กล่าวกันว่าใช้วัตถุดิบจำพวกสมุนไพรด้วยนี่มิใช่กำไลธรรมดา!นางตกใจ “สิ่งนี้ทำให้ตำแหน่งของข้าถูกเปิดเผยรึ?”เฉินชีเลิกคิ้วขึ้น รอยยิ้มแฝงไปด้วยความบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเพิ่งจะรู้รึ?”“ข้าบอกแล้ว หากสวมมันไว้ เจ้าก็เป็นคนของข้า ชั่วชีวิตนี้เจ้าหนีข้ามิพ้นหรอก!”“ข้ามิถือสาว่าเจ้าเคยเป็นพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการมาก่อน หากอ๋องผู้สำเร็จราชการเต็มใจ ต่อไปเราสามคนอยู่ด้วยกันก็มิใช่ว่ามิได้”ลั่วชิงยวนโกรธจนกัดฟันกรอดฟู่เฉินหวนหันกลับมามองนางด้วยสีหน้าขุ่นเคือง แววตาเต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“นี่คืออะไร?”“เกิดอะไรขึ้นระหว่างเจ้ากับเขา!”ลั่วชิงยวนรีบปฏิเสธ “ไม่มีอะไร! เชื่อหม่อมฉันสิเพคะ! ระหว่างหม่อมฉันกับเขามิได้เกิดสิ่งใดขึ้น!”เฉินชีมองเหตุการณ์นี้ด้วยความสนใจราวกับกำลังรอคอยคำตอบฟู่เฉินหวนโกรธเล็กน้อย “เช่นนี้จะให้ข้าเชื่อได้อย่างไร!”ลั่วชิงยวนโกรธ พยายามดึงกำไลออกอย่างแรง แต่ก็ดึงมิออกกำไลนี้ถูกตีขึ้นใหม่ สวมพอดีกับข้อมือของนางจึงไม่มีช่องว่างมากนัก ทำให้มิสามารถดึงออกด้วยกำลังได้ด้วยค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1146

    ลั่วชิงยวนปีนขึ้นมาจากหน้าผาอันสูงชันอย่างยากลำบาก ทว่าเมื่อขึ้นมาก็เห็นภาพนี้ทันทีนางรีบวิ่งเข้ามาหาด้วยความร้อนใจ “ฟู่เฉินหวน!”น้ำตาของลั่วชิงยวนไหลริน มือประคองใบหน้าของเขาพลางเช็ดคราบเลือดบนใบหน้า“บอกแล้วว่าจะเผชิญหน้าด้วยกัน! เหตุใดจึงผลักหม่อมฉันออกไป!”“เฉินชีเป็นคนบ้า มิอาจเชื่อคำพูดของเขาได้!”ฟู่เฉินหวนใบหน้าซีดเผือด แต่ยังคงมีรอยยิ้ม “ข้ามิได้เชื่อเขา”ลั่วชิงยวนมองสภาพของเขาแล้วปวดใจยิ่งนักนางก้มลงมองกำไลข้อมือบนมือแววตาของนางดุดันนางลุกขึ้นเดินไปหาเฉินชีที่ล้มอยู่บนพื้นจากนั้นหยิบกระบี่พิชิตมารที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาเฉินชีพยุงตัวขึ้นนั่ง เดิมทีนึกว่าลั่วชิงยวนจะฆ่าเขาแต่มิคาดคิดว่าลั่วชิงยวนจะถือกระบี่พิชิตมารแนบกับข้อมือของตนเอง ทำให้คมกระบี่แทงผ่านกำไลนั้นเมื่อเฉินชีรู้ว่านางจะทำสิ่งใดก็ตกใจมาก “หยุดนะ! เจ้าอยากตายรึ! มือของเจ้าจะพิการ!”ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างเย็นชา “สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดคือการถูกผู้อื่นควบคุม!”“แม้มือนี้จะพิการ ข้าก็จะมิยอมให้เจ้าควบคุมการเคลื่อนไหวของข้าตลอดเวลา!”ทันทีที่นางพูดจบก็กัดฟันเหวี่ยงคมกระบี่ออกไปอย่างแรงฟู่เฉินหวน

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status