แชร์

บทที่ 1146

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 16:00:00
ลั่วชิงยวนปีนขึ้นมาจากหน้าผาอันสูงชันอย่างยากลำบาก ทว่าเมื่อขึ้นมาก็เห็นภาพนี้ทันที

นางรีบวิ่งเข้ามาหาด้วยความร้อนใจ “ฟู่เฉินหวน!”

น้ำตาของลั่วชิงยวนไหลริน มือประคองใบหน้าของเขาพลางเช็ดคราบเลือดบนใบหน้า

“บอกแล้วว่าจะเผชิญหน้าด้วยกัน! เหตุใดจึงผลักหม่อมฉันออกไป!”

“เฉินชีเป็นคนบ้า มิอาจเชื่อคำพูดของเขาได้!”

ฟู่เฉินหวนใบหน้าซีดเผือด แต่ยังคงมีรอยยิ้ม “ข้ามิได้เชื่อเขา”

ลั่วชิงยวนมองสภาพของเขาแล้วปวดใจยิ่งนัก

นางก้มลงมองกำไลข้อมือบนมือ

แววตาของนางดุดัน

นางลุกขึ้นเดินไปหาเฉินชีที่ล้มอยู่บนพื้น

จากนั้นหยิบกระบี่พิชิตมารที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา

เฉินชีพยุงตัวขึ้นนั่ง เดิมทีนึกว่าลั่วชิงยวนจะฆ่าเขา

แต่มิคาดคิดว่าลั่วชิงยวนจะถือกระบี่พิชิตมารแนบกับข้อมือของตนเอง ทำให้คมกระบี่แทงผ่านกำไลนั้น

เมื่อเฉินชีรู้ว่านางจะทำสิ่งใดก็ตกใจมาก “หยุดนะ! เจ้าอยากตายรึ! มือของเจ้าจะพิการ!”

ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างเย็นชา “สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดคือการถูกผู้อื่นควบคุม!”

“แม้มือนี้จะพิการ ข้าก็จะมิยอมให้เจ้าควบคุมการเคลื่อนไหวของข้าตลอดเวลา!”

ทันทีที่นางพูดจบก็กัดฟันเหวี่ยงคมกระบี่ออกไปอย่างแรง

ฟู่เฉินหวน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1147

    ลั่วชิงยวนเอนกายในอ้อมอกของฟู่เฉินหวนขณะนั่งอยู่หน้ากองไฟ จากนั้นก็ง่วงซึมจนหลับไปฟู่เฉินหวนลูบหน้าผากของนาง รู้สึกได้ถึงความร้อน“ชิงยวน อดทนอีกหน่อยนะ เราใกล้จะออกไปได้แล้ว”ลั่วชิงยวนมึนงง เมื่อได้ยินเสียงก็ยังตอบรับว่า “อืม”หล่างมู่และเซียวชูที่อยู่ด้านข้างก่อกองไฟให้ใหญ่ขึ้นค่อนข้างแย่ที่ในป่าเปลี่ยวแห้งแล้งเช่นนี้ไม่มีสมุนไพร จึงยังรักษามือของลั่วชิงยวนมิได้ในตอนนี้ต้องเดินทางเช่นนี้อีกหลายวันในที่สุดก็กลับมายังตำแหน่งสะพานขาดแห่งเดิมที่นี่ได้ตั้งค่ายพักแรมไว้แล้ว ซ่งเชียนฉู่เห็นพวกเขากลับมาแต่ไกลก็รีบวิ่งมารับด้วยความดีใจ“ชิงยวน!”ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวเหมือนคนใกล้สิ้นใจของลั่วชิงยวน นางก็เปลี่ยนสีหน้า“รีบพานางเข้าไปในกระโจมเร็วเข้า!”ลั่วชิงยวนถูกวางลงบนเตียงในกระโจม ซ่งเชียนฉู่แกะผ้าพันแผลที่ข้อมือออก เมื่อเห็นบาดแผลก็ตกตะลึง“เหตุใดจึงบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้”“มิได้แล้ว สมุนไพรของเรามีมิพอ”นางรีบลุกออกไปเรียกเฉินเซี่ยวหานและหล่างมู่ให้กลับไปเอายาที่หมู่บ้านตีนเขาฟู่เฉินหวนถามอย่างกังวล “นางเป็นเช่นไรบ้าง? รักษามือนางได้หรือไม่?”ซ่งเชียนฉู่ก็เป็นกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1148

    ซ่งเชียนฉู่ตอบว่า “ยามนี้ชีวิตของนางยังปลอดภัย แต่หลังจากได้รับบาดเจ็บแล้วมิได้รับการรักษาทันเวลา ล่าช้าเกินไป ตอนนี้จึงยังมิฟื้น”หล่างมู่ร้อนใจ “แล้วนางจะฟื้นเมื่อใด?”ซ่งเชียนฉู่ส่ายหน้า “ข้าเองก็บอกมิได้”เมื่อทุกคนเข้าเมืองซีหลิงแล้ว ก็พาลั่วชิงยวนไปพักที่ชั้นสองของโรงหมอ โดยซ่งเชียนฉู่และซ่งอวี่ก็พักอยู่ที่โรงหมอด้วยตอนนี้ซีหลิงกำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากโรคระบาด เพราะสมุนไพรมีมิเพียงพอเมื่อได้รับอนุญาตจากซ่งอวี่แล้ว ฟู่เฉินหวนจึงส่งคนไปขนย้ายสมุนไพรที่เหลือทั้งหมดในหุบเขามาแล้วส่งคนไปแจกจ่ายสมุนไพรตามหมู่บ้านต่าง ๆ ทุกวัน เพื่อป้องกันโรคแพร่ระบาดชาวแคว้นหลีก่อกวนหลายครั้ง ฟู่เฉินหวนจึงพาคนไปขับไล่และกำจัดโจรปล้นสะดมเหล่านั้นให้ผู้อพยพทั้งหมดกลับบ้านอย่างปลอดภัยในขณะเดียวกัน ทั่วแคว้นเทียนเชวียก็เกิดการจลาจลหรือสงครามขนาดเล็กโชคดีที่ซ่งเชียนฉู่ได้คิดค้นสูตรยาแก้โรคระบาดขึ้นมาแล้ว เมื่อเผยแพร่สูตรยานี้จึงช่วยให้ชาวบ้านทั่วทุกหนแห่งรอดพ้นจากโรคระบาดได้แม้ดูเหมือนว่าทุกหนแห่งจะวุ่นวาย แต่ก็มีข่าวดีเข้ามาอย่างต่อเนื่องฟู่เฉินหวนถูกส่งไปประจำการที่ซีหลิงและควบคุมซีห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1149

    ลั่วชิงยวนเผยรอยยิ้ม “นอนมากเกินไป ร่างกายไร้เรี่ยวแรงไปหมดแล้ว”“ท่านพ่อของเจ้าเล่า? กลับเมืองหลวงพร้อมเจ้าหรือไม่?”ซ่งเชียนฉู่ส่ายหน้า “แม้สำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยจะถูกเผาทำลาย แต่ตระกูลของข้าอาศัยอยู่ที่นั่นมาหลายชั่วอายุคน ท่านพ่อตั้งใจจะอยู่ที่นั่นเพื่อสร้างสำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยขึ้นใหม่”ได้ยินดังนั้นลั่วชิงยวนก็ตกใจเล็กน้อย “แล้วสมุนไพร...”ซ่งเชียนฉู่คลี่ยิ้ม “สมุนไพรมีไว้สำหรับใช้รักษาผู้คน เมื่อนำมารักษาโรคช่วยชีวิตผู้คนจึงจะเรียกว่าเป็นยา”“ครั้งนี้แม้จะสูญเสียสมบัติที่สะสมมานับร้อยปี แต่ผ่านไปอีกร้อยปีก็สะสมขึ้นมาใหม่ได้”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็พยักหน้า “กองคาราวานของสมาคมการค้าเฟิงตูสามารถไปถึงซีหลิงได้ ข้าจะช่วยพวกเจ้าสร้างสำนักขึ้นใหม่”“แต่เหตุใดเจ้าจึงมิอยู่ช่วยท่านพ่อของเจ้าที่ซีหลิงเล่า?”ซ่งเชียนฉู่มองนางด้วยความเป็นห่วง “ครั้งนี้เป็นเพราะเรื่องของตระกูลข้า ทำให้ท่านต้องบาดเจ็บเช่นนี้ ข้าต้องรอดูมือของท่านให้หายดีก่อนจึงจะจากไปได้”“ยิ่งกว่านั้น... ข้ายังรู้สึกว่าเขาเหมือนจะมิค่อยสบายด้วย...”ซ่งเชียนฉู่ขมวดคิ้ว แววตาเต็มไปด้วยความกังวล“ฉู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1150

    ทันทีที่คำพูดประโยคนี้หลุดออกมา ทั้งลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนสีหน้า“ว่ากระไรนะ?”ทั้งสองรีบเข้าวังบัดนี้ขุนนางน้อยใหญ่ล้วนมายืนล้อมหน้าตำหนักของจักรพรรดิด้วยความร้อนใจฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนที่ยังมิทันได้เปลี่ยนชุดถูกขวางไว้“ท่านอ๋อง พระชายา ฝ่าบาททรงมีพระอาการวิกฤต หมอหลวงมู่มิอนุญาตให้ผู้ใดเข้าเฝ้า บอกว่าจะนำความเย็นเข้าไป ทำให้กระทบกระเทือนพระวรกายพ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนได้แต่รออยู่หน้าตำหนักบรรทม มิกล้าเข้าไปลั่วชิงยวนครุ่นคิด นางเดินไปที่หน้าต่างแล้วตะโกนผ่านหน้าต่าง “ท่านหมอหลวงมู่! องค์จักรพรรดิทรงประชวรด้วยโรคใดหรือ?”เมื่อหมอหลวงมู่ได้ยินเสียงของลั่วชิงยวนก็รู้สึกราวกับพบแสงสว่างในความมืดมิด“พระอาการของฝ่าบาทคล้ายกับถูกพิษ มิใช่พิษร้ายแรง แต่สะสมมานานแล้ว เพิ่งจะกำเริบ อาการคือพระพักตร์เขียวคล้ำ หายใจติดขัด เพียงแค่สายลมผิดปกติเล็กน้อยก็กระทบกระเทือนพระวรกายแล้วขอรับ”“เส้นพระโลหิตทั่วร่างกายปูดโปน เห็นได้ชัดว่าเกิดจากการขาดอากาศ ข้าฝังเข็มเพื่อระบายเส้นลมปราณและตบหลังหลายครั้ง ท่านทรงไอเป็นพระโลหิต มีลิ่มเลือดปนออกมาด้วย มิทราบว่าเป็นสิ่งใด”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1151

    ลั่วชิงยวนรู้สึกหนักใจ จึงมิได้กล่าวสิ่งใดอีกแต่นางก็รู้สึกได้ว่าสวรรค์ลิขิตมาแล้ว ผู้ใดเล่าจะฝืนชะตาได้โชคชะตาของทุกคนล้วนเกี่ยวพันกัน การเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของคนผู้หนึ่ง อันที่จริงแล้วจะส่งผลกระทบต่อผู้คนนับมิถ้วนเช่นเดียวกับที่นางเคยทำนายว่าฟู่จิ่งหานจะมีเคราะห์พยายามช่วยเขาแล้วแต่สำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยกลับเกิดเรื่องขึ้นมาเสียก่อนหลังจากกลับมา ฟู่จิ่งหานก็ยังคงเกิดเรื่อง เพียงแต่ยังรักษาชีวิตไว้ได้......หลายวันต่อมาฟู่จิ่งหานนอนอยู่บนเตียงคนป่วย เขาฟื้นขึ้นมาหลายครั้ง แต่ก็หลับไปอย่างรวดเร็วขุนนางในราชสำนักต่างพูดคุยกันอย่างเป็นส่วนตัวมานับครั้งมิถ้วนจักรพรรดิประชวรหนัก มิสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ เรื่องใหญ่เรื่องเล็กเกือบทั้งหมดล้วนเป็นฟู่เฉินหวนที่ตัดสินใจมีขุนนางหลายคนไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิสูงสุดเพื่อขอให้จักรพรรดิสูงสุดตัดสินใจ ให้องค์ชายห้าฟู่อวิ๋นโจวเข้าควบคุมดูแลการบริหารราชการแผ่นดินแทนลั่วชิงยวนไปรักษาจักรพรรดิสูงสุดบ่อย ๆ แน่นอนว่าย่อมได้ยินเรื่องมากมายเหล่านี้ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ในเวลานี้ไม่มีผู้ใดเสนอชื่อฟู่เฉินหวนเลยต่างก็เสนอชื่อองค์ชายห้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1152

    หลังจากฟู่อวิ๋นโจวกลับมายังเมืองหลวง วันแรกที่เข้าประชุมราชสำนัก จักรพรรดิสูงสุดได้ออกพระราชโองการให้ฟู่อวิ๋นโจวรับหน้าที่ดูแลการบริหารราชการแผ่นดินและให้ฟู่เฉินหวนช่วยเหลือเขาพระราชโองการนี้ จักรพรรดิสูงสุดตรัสด้วยพระโอษฐ์เอง โดยมีลั่วชิงยวนเป็นผู้จดบันทึกนางมิรู้ว่าจักรพรรดิสูงสุดคิดเช่นไร ในใจก็อดน้อยใจแทนมิได้ฟู่เฉินหวนทำเพื่อแคว้นเทียนเชวียมากมาย มีผลงานมากมาย เหตุใดจักรพรรดิสูงสุดจึงดูเหมือนมิยอมรับความดีความชอบของเขาแม้ฟู่เฉินหวนจะมิแสดงความมิพอใจใด ๆ แต่เมื่อได้ยินพระราชโองการนี้ ในดวงตาก็ยังมีความผิดหวังเมื่อฟู่อวิ๋นโจวได้เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ไม่มีผู้ใดในราชสำนักคัดค้านดูเหมือนว่าทุกคนจะพึงพอใจหลังจากเลิกประชุม ฟู่อวิ๋นโจวเดินมาหาฟู่เฉินหวน “ต่อไปก็ต้องพึ่งพาเสด็จพี่ช่วยเหลือแล้ว กระหม่อมยังมีหลายสิ่งที่มิเข้าใจ หวังว่าเสด็จพี่จะเมตตาชี้แนะ”ฟู่เฉินหวนกล่าวอย่างแผ่วเบา “เช่นนั้นไปคุยกันที่ห้องทรงพระอักษรเถิด”เมื่อมาถึงห้องทรงพระอักษร มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นแต่ฟู่อวิ๋นโจวกลับมิได้ขอคำแนะนำเรื่องราชการ กลับถามว่า “เสด็จพี่รักลั่วชิงยวนจริงหรือไม่?”ฟู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1153

    ฟู่เฉินหวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ร้านอาหารอร่อย ๆ ก็ไปกินกันมาหมดแล้ว ได้ยินว่าน้ำแกงเนื้อแกะที่ตรอกหูซีอร่อย ไปซดสักถ้วยให้ร่างกายอบอุ่นดีหรือไม่?”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “เพคะ!”จากนั้นทั้งสองก็ไปยังร้านเก่าแก่แห่งนั้นแล้วสั่งน้ำแกงเนื้อแกะสองถ้วย ปรากฏว่าถ้วยใหญ่กว่าใบหน้าเสียอีกบนโต๊ะยังมีเนื้อย่างและน้ำแกงผักรสชาติเผ็ดร้อน หอมอร่อยด้วย เมื่อกินคู่กับน้ำแกงเนื้อแกะในค่ำคืนเหมันตฤดูเช่นนี้ช่างอิ่มเอมใจยิ่งนักระหว่างกินอาหาร ลั่วชิงยวนรินเหล้าหนึ่งจอกแล้วกล่าวว่า “เพื่อฉลองชัยชนะในเมืองฉิน!”ฟู่เฉินหวนยกยิ้มจาง ยกจอกขึ้นชนกับนางเบา ๆดื่มหมดในรวดเดียวลั่วชิงยวนกล่าวต่อ “วันนี้จักรพรรดิสูงสุดเล่าให้หม่อมฉันฟัง... เหตุผลที่ให้ฟู่อวิ๋นโจวรับหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินแทน”“พระองค์ทรงสงสารที่ท่านเหนื่อยเกินไป มิอยากให้ท่านแบกรับมากเกินไป จึงตั้งใจจะฝึกฝนฟู่อวิ๋นโจว”ฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปแล้วมองลั่วชิงยวนด้วยแววตาลึกล้ำ“อะไรหรือเพคะ? หม่อมฉันพูดผิดไปหรือ?” ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยความมิเข้าใจฟู่เฉินหวนยิ้ม “ไม่หรอก ขอบคุณเจ้านะ”“ขอบคุณหม่อมฉันอีกแล้ว? สุภาพถึงเพียง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1154

    ลั่วเยวี่ยอิงมีความเคลื่อนไหวอีกแล้ว หรือว่าเหยียนหน่ายซินปรากฏตัวอีก?“ลั่วเยวี่ยอิงเล่าอยู่ที่ใด? ออกจากตำหนักไปแล้วหรือ?”หากออกจากตำหนักไปแล้วก็ยิ่งดี จะได้จับเหยียนหน่ายซินแล้วก็กำจัดลั่วเยวี่ยอิงไปพร้อมกันเสียเลยแต่จือเฉากลับรายงานว่า “มิใช่เจ้าค่ะ นางไปที่ห้องครัว แต่งกายเป็นนางรับใช้ มิทราบว่าคิดจะทำสิ่งใด”ลั่วชิงยวนครุ่นคิด แล้วสั่งการว่า “จือเฉา พาบ่าวในเรือนออกไปให้หมด”จือเฉารับคำ “เจ้าค่ะ”จากนั้นจือเฉาก็พาคนอื่น ๆ ออกไปจนหมดลั่วชิงยวนวางตำราแพทย์ลงแล้วเอนกายนอนลงบนเตียงนุ่มก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุม“แค่กแค่กแค่ก...”อากาศหนาวเย็นขึ้นทุกวัน ลั่วชิงยวนยังคงมิสบายจนได้นางนอนลง ตั้งใจจะงีบหลับสักครู่ยามราตรีคืบคลานเข้ามา ภายนอกเริ่มมืดมิด ลั่วชิงยวนเผลอหลับไปในขณะที่กำลังจะหลับใหล ก็รู้สึกว่ามีใครบางคนค่อย ๆ เปิดประตูห้องเข้ามา เสียงฝีเท้าแผ่วเบาค่อย ๆ เข้ามาใกล้นางจากนั้นกระถางธูปบนโต๊ะก็ถูกเปิดออก มิรู้ว่าคนผู้นั้นทำสิ่งใดอยู่ต่อมาเสียงฝีเท้านั้นก็หยุดลง ลั่วชิงยวนรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีสายตาจ้องมองนางอยู่ด้านหลังลั่วเยวี่ยอิงมองแผ่นหลังของลั่วชิงยวน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1191

    ลั่วชิงยวนกล่าวจบก็ยกจอกสุราขึ้นดื่มจนหมดฟู่เฉินหวนหรี่ตาจ้องมองนางด้วยแววตาคมกล้า มิละสายตาไปแม้แต่น้อย แล้วค่อย ๆ ดื่มสุราในจอกจนหมด“ฟู่เฉินหวน ที่จริงมีอีกเรื่องหนึ่ง...” ลั่วชิงยวนตั้งใจจะบอกเรื่องการมีตัวตนของชีวิตน้อย ๆ ในครรภ์ทว่ายังพูดมิจบก็ถูกฟู่เฉินหวนขัดจังหวะ“เจ้านำเข็มทิศติดตัวมาหรือไม่”“ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วยทำนาย”ลั่วชิงยวนชะงักไปครู่หนึ่งแล้วหยิบเข็มทิศในอกเสื้อออกมา“ท่านอยากจะให้ทำนายเรื่องใด?” ลั่วชิงยวนถามฟู่เฉินหวนจ้องมองนางด้วยแววตาคมกล้า สายตาเย็นชานั้นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกแปลกประหลาด“เหตุใดท่านจึงมองหม่อมฉันเช่นนั้น?”ตอนนี้สายตาที่ฟู่เฉินหวนมองนางราวกับมองคนแปลกหน้าเฉียบคมและเย็นชาเสียงเย็นเยียบดังขึ้น “เจ้าเป็นใครกันแน่”ลั่วชิงยวนตกใจ มองเขาด้วยความมิเข้าใจ “ท่านเป็นอะไรไปเพคะ?”มองแววตาเย็นชาของฟู่เฉินหวนแล้ว ลั่วชิงยวนก็พลันรู้สึกใจคอมิดี จู่ ๆ เริ่มวิงเวียน ภาพตรงหน้าพร่าเลือนนางรีบกุมศีรษะ ตระหนักได้ว่าตอนนี้นางมีบางอย่างผิดปกติ นางเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างยากลำบาก “ท่านวางยาในสุราหรือ?”แต่ฟู่เฉินหวนกลับมิตอบในตอนนั้นเอง ประ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1190

    หากนางคาดเดามิผิด นั่นคือสมบัติล้ำค่าของแคว้นหลีก่อนหน้านี้เคยบังคับให้ลั่วชิงยวนมอบให้แล้วแต่ก็ล้มเหลวบัดนี้ฟู่อวิ๋นโจวได้ขึ้นครองราชย์ ฟู่เฉินหวนก็ถูกนางควบคุม นางจะต้องให้ลั่วชิงยวนมอบเข็มทิศนั้นให้นางให้ได้!สีหน้าของฟู่เฉินหวนเปลี่ยนไปลั่วฉิงกล่าวต่อ “เมื่อครู่ข้าอยู่ในห้องตำรา พบของบางอย่างที่ถูกไฟไหม้”“มีหีบใบหนึ่งอยู่ แม่กุญแจบนหีบนั้นเป็นแม่กุญแจสุริยันจันทราของแคว้นหลี”“คิดว่าคงเป็นของใช้ของหมู่เฟยของท่านอ๋องกระมัง”“หม่อมฉันช่วยท่านเปิดได้”“แลกเปลี่ยนกันดีหรือไม่?”......ล่วงเข้ายามดึก เตาไฟในห้องตำราถูกจุดขึ้น ภายในห้องอบอุ่นฟู่เฉินหวนหยิบของในหีบออกมาดูทีละชิ้น แววตาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นตกตะลึง ตามมาด้วยความโกรธที่เพิ่มมากขึ้นเขากำมือแน่น เส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนขึ้นมาสีหน้าสงบนิ่ง แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความเดือดดาล......ในที่สุดก็มีวันฟ้าใสอีกครั้ง จักรพรรดิสูงสุดมิยอมให้พวกหลี่ว์โม่ทั้งสามคนออกไป ลั่วชิงยวนจึงคิดจะออกจากวังทุกวันบังเอิญว่าวันนี้เป็นวันที่มีแสงแดดอบอุ่นในเหมันตฤดู ลั่วชิงยวนจึงอ้างว่าจะออกไปอาบแดดและเดินเล่นไปทั่วในวัง ทำให้สา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1189

    “จะไม่มีฟู่จิ่งหานอีกต่อไปแล้วขอรับ”“คุณชายลองคิดดูเถิดขอรับว่าจะใช้นามว่าอะไรดี”ฟู่จิ่งหานตกตะลึงเมื่อได้ฟังดังนั้น เขารีบลงจากรถม้า กระโดดลงพื้นไปยืนชื่นชมทิวทัศน์หิมะอันกว้างใหญ่แล้วสูดอากาศที่หนาวเย็นแต่สดชื่นเขาหลับตาลง รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก“ดีจริง ๆ ในที่สุดก็หลุดพ้นจากกรงขังนั้นได้แล้ว”“ข้า... ไม่สิ ข้าต้องคิดแล้วว่าจะใช้นามว่าอะไรดี”พูดจบ สีหน้าของฟู่จิ่งหานก็พลันเปลี่ยนไปขณะถามว่า “เสินหลี เจ้านำเงินติดตัวออกมาด้วยหรือไม่?”เขารีบค้นตัวเสินหลีกลับพบเพียงถุงเงินใบเล็กเทออกมาดูแล้ว ปรากฏว่ามีเงินมิกี่ตำลึง“เสินหลี เจ้ามินำเงินออกมาด้วย จะปล่อยให้ข้าอดตายหรือ?”เสินหลียิ้มกว้าง “คุณชายวางใจเถิดขอรับ เสินหลีจะมิปล่อยให้คุณชายต้องหิวโหยแน่ขอรับ”ฟู่จิ่งหานมองเขาด้วยสายตาสงสัย “จริงหรือ? แต่ข้า... แต่ข้าทำอะไรมิเป็นเลย”เขาเคยชินกับการมีคนปรนนิบัติ จู่ ๆ จากจักรพรรดิกลายเป็นสามัญชน การไม่มีเงินติดตัวเลยทำให้เขารู้สึกมิสบายใจ“ข้าน้อยทำเป็นขอรับ ข้าน้อยทำได้ทุกอย่าง จะดูแลคุณชายให้ดีที่สุด!”ฟู่จิ่งหานจึงมิคิดมาก อย่างไรเสียก็ออกจากวังมาแล้วเขานั่งบนรถม้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1188

    เมื่อลั่วชิงยวนมาถึงพระตำหนักโช่วสี่ ไทเฮากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าซีดเซียวเตาไฟในห้องดับลงแล้ว ไทเฮานั่งอยู่เพียงลำพัง ดูโดดเดี่ยวอ้างว้างยิ่งนักลั่วชิงยวนสังเกตเห็นขวดยาบนโต๊ะสิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ฟู่เฉินหวนนำมาให้จักรพรรดิสูงสุดมิคิดจะไว้ชีวิตไทเฮาแล้ว“ถึงตอนนี้แล้วก็ยังมิยอมแพ้ ยังหวังว่าเหยียนหน่ายซินจะช่วยตระกูลเหยียน มิเหมือนคนเพ้อฝันไปหน่อยหรือเพคะ”ลั่วชิงยวนนั่งลงตรงข้ามไทเฮาไทเฮามิได้โกรธแต่กลับยกยิ้มเศร้า “หากมิลองเสี่ยงดูจะยอมรับได้อย่างไร”“ครั้งนี้ข้าแพ้แล้ว”กล่าวจบ ไทเฮาก็เงยหน้าขึ้นมองลั่วชิงยวน “ก่อนตาย ข้าขอเจ้าเพียงสิ่งเดียว”“ขอหม่อมฉันหรือ? แปลกจริง” ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆไทเฮากล่าวอย่างมีเลศนัย “เจ้ารู้จักเจ๋อเฉิง ตอนที่เจ้าสังหารเจ๋อเฉิง เจ้าเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา เจ้าคงตกใจมาก”“เจ้าน่าจะเป็นคนแคว้นหลีเช่นกัน”“มิใช่ลั่วชิงยวน บุตรีของจวนอัครเสนาบดี”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองไทเฮาไทเฮากล่าวต่อ “ความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ๋อเฉิงล้วนจริงแท้”“แม้ว่าจะมีเรื่องราวซับซ้อนมากมาย”“ข้ารู้ว่าข้าติดหนี้เขาตลอดชีวิต”“ข้าหวังเพียงว่า ชาติหน้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1187

    ไทเฮาหรี่ตาลง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ถึงตอนนี้แล้วข้าจะทำสิ่งใดได้อีก ก็คงมีเพียงแต่หาทางออกให้กับชาติภพหน้าเท่านั้น”“เหยียนหน่ายซินมารายงานข้าอย่างเด็ดขาดเช่นนี้ ข้ายังหวังสิ่งใดได้อีก”น้ำเสียงของไทเฮาแฝงไปด้วยความสิ้นหวังฟู่เฉินหวนครุ่นคิด แล้วตอบว่า “ก็ได้”“มอบของให้กระหม่อม แล้วกระหม่อมจะให้ลั่วชิงยวนมาพบท่าน”ไทเฮาพยุงร่างตัวเองลงจากเตียงแล้วเดินไปยังมุมห้องเพื่อเปิดห้องลับฟู่เฉินหวนก้าวตามเข้าไป คบเพลิงในห้องลับถูกจุดขึ้น และส่องสว่างไปทั่วภายในห้องลับมีทรัพย์สมบัติมากมายไทเฮากล่าว “สิ่งเหล่านี้ เจ้าเอาไปได้ทั้งหมด”“อย่างไรเสีย ข้าก็ไม่มีบุญได้ใช้แล้ว”ไทเฮาพาฟู่เฉินหวนไปยังมุมห้องแล้วเปิดหีบใบใหญ่ ภายในมีสิ่งของสีดำมากมายทุกชิ้นล้วนมีร่องรอยของการถูกไฟไหม้สิ่งของเหล่านั้นล้วนเป็นข้าวของในวังหลัง“สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งเดียวที่มิได้ถูกไฟไหม้ สิ่งใดที่ขนย้ายได้ก็ขนย้ายมาทั้งหมด”ฟู่เฉินหวนมองร่องรอยการถูกไฟไหม้ ภาพเหตุการณ์อันน่าสยดสยองปรากฏขึ้นในมโนสำนึกเปลวไฟแผดเผาผู้คนมากมาย เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวนและเสียงกรีดร้องนับมิถ้วนแต่พวกนางกลับหนีออกม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1186

    แต่การกระทำของเหยียนหน่ายซินครั้งนี้นับว่าชาญฉลาด นางตรงมาแจ้งให้จักรพรรดิสูงสุดทราบเองมิต้องพูดถึงว่า เหยียนหน่ายซินมิได้ต้องการให้ตระกูลเหยียนฟื้นคืนกลับมา ต่อให้นางต้องการก็ต้องคิดถึงตัวเอง อย่าให้ตำแหน่งฮองเฮาที่เพิ่งได้มาต้องหลุดมือไป“ตัวข้าทราบแล้ว เจ้ากลับไปเถิด”จักรพรรดิสูงสุดกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยหลังจากเหยียนหน่ายซินจากไป จักรพรรดิสูงสุดก็มีรับสั่ง “ไปเชิญอ๋องผู้สำเร็จราชการเข้าวัง ข้าต้องการพบเขา”ลั่วชิงยวนมิรู้ว่าจักรพรรดิสูงสุดจะทำอะไร แต่ก็เห็นแววตาแห่งความเหี้ยมโหดซ่อนเร้นอยู่เมื่อฟู่เฉินหวนมาถึง ลั่วชิงยวนก็ออกจากห้องไปรออยู่ที่ลานตำหนักหิมะโปรยปรายจากท้องฟ้า ทันใดนั้น หลี่ว์โม่ที่กำลังกางร่มก็มายืนอยู่ข้างหลังนาง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “องค์หญิง โปรดรักษาสุขภาพด้วยพ่ะย่ะค่ะ”ลั่วชิงยวนหันไปมองเขามิรู้ว่าจักรพรรดิสูงสุดทรงหาคนพวกนี้มาจากที่ใด ดูท่าว่าจะติดตามนางจริง ๆ“พวกเจ้ามิต้องตามข้ามาหรอก ข้าจะกราบทูลองค์จักรพรรดิสูงสุดเอง ดูแล้วพวกเจ้าก็มิใช่คนธรรมดา หากออกไปแล้วย่อมมีหนทางของตัวเอง”“วันนี้ก็เก็บของออกจากวังกันเถิด”แต่หลี่ว์โม่กลับพูด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1185

    “องค์หญิง กระหม่อมชื่อจินเจา เชี่ยวชาญทั้งหมากรุก การขว้างลูกดอก การขี่ม้าและการยิงธนู หากองค์หญิงอยากจะออกไปเล่นสนุก กระหม่อมก็สามารถร่วมเล่นด้วยได้พ่ะย่ะค่ะ!”ชายหนุ่มทั้งสามมีบุคลิกลักษณะแตกต่างกัน แต่ล้วนมีรูปโฉมหล่อเหลายิ่งนักหลี่ว์โม่มีท่าทางสุภาพอ่อนโยน รอยยิ้มอบอุ่น มีกลิ่นอายของผู้แก่เรียนหลีฉีมีท่าทางรักอิสรเสรี ใบหน้าค่อนข้างเย็นชา แต่ดูแล้วก็รู้ว่ามีวรยุทธ์สูงส่งส่วนจินเจาเป็นชายหนุ่มที่ดูหยิ่งทะนง มิยึดติดในกฎเกณฑ์ลั่วชิงยวนพิจารณาดู แล้วเอ่ยด้วยความตกใจ “องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงพาพวกเจ้ามาใช่หรือไม่?”ที่นี่คือวังหลวง หากมิใช่ขุนนาง คนภายนอกย่อมมิอาจเข้ามาได้ยิ่งเป็นการปรากฏตัวในห้องของนางด้วยหากมิได้รับอนุญาตจากจักรพรรดิสูงสุด ชายหนุ่มทั้งสามย่อมไม่มีทางที่จะทำเช่นนี้ได้“องค์หญิงทรงคาดเดาถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงส่งพวกเรามาปรนนิบัติองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ”“เพียงแต่องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงกำชับว่า ให้พวกเราแต่งกายเป็นองครักษ์เวลาเข้าออกวังพ่ะย่ะค่ะ”“ต่อไปพวกเราจะเป็นทหารองครักษ์ส่วนตัวขององค์หญิงเองพ่ะย่ะค่ะ”ลั่วชิงยวนตกใจ รีบโบกมือปฏิเสธ “ไม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1184

    ในยามที่สติเลือนราง ลั่วชิงยวนเห็นเงาร่างหนึ่งทรุดกายลงอุ้มนางขึ้น“ฟู่เฉินหวน… ในที่สุดท่านก็ยอมมาพบหม่อมฉัน...”ทว่าเสียงที่ดังขึ้นในวินาทีต่อมากลับทำให้นางรู้สึกสิ้นหวังอีกครั้ง“ข้าเอง ฟู่จิ่งหลี!”ฟู่จิ่งหลีมีสีหน้าเคร่งเครียด รีบอุ้มลั่วชิงยวนขึ้นรถม้าลั่วชิงยวนที่นอนอยู่บนรถม้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “ท่านมาทำอะไรที่นี่”“หากข้ามิมา เจ้าคงแข็งตายอยู่หน้าประตูตำหนักแล้ว” ฟู่จิ่งหลีกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรนแล้วสั่งสารถี “เข้าวัง เร็วเข้า!”ลั่วชิงยวนดิ้นรนจะลงจากรถม้า “เรื่องของหม่อมฉัน ท่านอย่ามายุ่ง! หม่อมฉันมิเชื่อว่าเขาจะทนดูหม่อมฉันแข็งตายอยู่หน้าประตูตำหนักได้!”“หม่อมฉันเพียงต้องการคำอธิบาย!”ฟู่จิ่งหลีดึงนางกลับมา“ในเมื่อเขาตัดสินใจหย่ากับเจ้าแล้วก็จะมิเหลียวแล เขามักจะเด็ดขาดเช่นนี้มาโดยตลอด เจ้าจะดิ้นรนไปเพื่ออะไร”“ใช้ชีวิตอยู่ในวังมิดีหรือ”ฟู่จิ่งหลีก็รู้สึกอึดอัดใจลั่วชิงยวนรู้สึกหนักใจ นางมิรู้ว่าควรทำเช่นไรแล้วแต่นางรู้ว่าฟู่เฉินหวนมิใช่คนเช่นนั้นเพียงแต่นางมิรู้ว่าจะทำอย่างไร เขาจึงจะเปลี่ยนใจรถม้าแล่นเข้าวังลั่วชิงยวนถูกพากลับไปที่ตำหนักขอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1183

    วิธีนี้ทำร้ายลั่วฉิงมิได้ในระยะสั้นยังไม่มีวิธีแก้ปัญหานี้ เขาจึงได้แต่ให้ลั่วชิงยวนอยู่ห่างจากเขาเพื่อความปลอดภัยลั่วชิงยวนก็ตามเขามาจนถึงหน้าประตูตำหนักอ๋องแต่ฟู่เฉินหวนกลับเดินเข้าประตูไป แล้วปิดประตูใส่หน้านางโดยมิหันกลับมามองลั่วชิงยวนมีสีหน้าอิดโรยซีดเซียว เมื่อมองภาพนั้น หัวใจเขาก็เจ็บปวดจนเกือบจะร้องไห้ออกมาเขารู้ว่านางตามมาตลอดนางมิยอมแพ้ ยังคงเข้าตำหนักทางประตูหลังแล้วตรงไปที่ห้องตำรานางรับใช้และทหารองครักษ์ที่พบเห็นต่างตกใจ แต่ก็ไม่มีใครขัดขวางเมื่อมาถึงหน้าห้องตำรา ลั่วชิงยวนก็เอ่ยขึ้น “ฟู่เฉินหวน อย่าหลบหน้าหม่อมฉัน มีเรื่องอะไร พวกเรามาพูดกันให้ชัดเจน!”ฟู่เฉินหวนตกใจ เดินไปเปิดประตูแล้วมองนางด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าตามเข้ามาในตำหนักได้อย่างไร”“ลั่วชิงยวน ข้าพูดชัดเจนแล้ว ข้าหย่ากับเจ้าแล้ว มิอยากเจอเจ้าอีก!”กล่าวจบ เขาก็ตะโกนเสียงดัง “ใครก็ได้!”“ไล่ลั่วชิงยวนออกไป! เอาข้าวของของนางไปทิ้งให้หมด!”“หากผู้ใดกล้าให้นางเข้าตำหนักอีก ข้าจะมิละเว้น!”จากนั้นองครักษ์ก็เข้ามา ทำท่าทางเชิญ “เชิญเถิดขอรับ”ลั่วชิงยวนมองฟู่เฉินหวนด้วยความเสียใจ “ท่านจะผลัก

DMCA.com Protection Status