แชร์

บทที่ 1147

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนเอนกายในอ้อมอกของฟู่เฉินหวนขณะนั่งอยู่หน้ากองไฟ จากนั้นก็ง่วงซึมจนหลับไป

ฟู่เฉินหวนลูบหน้าผากของนาง รู้สึกได้ถึงความร้อน

“ชิงยวน อดทนอีกหน่อยนะ เราใกล้จะออกไปได้แล้ว”

ลั่วชิงยวนมึนงง เมื่อได้ยินเสียงก็ยังตอบรับว่า “อืม”

หล่างมู่และเซียวชูที่อยู่ด้านข้างก่อกองไฟให้ใหญ่ขึ้น

ค่อนข้างแย่ที่ในป่าเปลี่ยวแห้งแล้งเช่นนี้ไม่มีสมุนไพร จึงยังรักษามือของลั่วชิงยวนมิได้ในตอนนี้

ต้องเดินทางเช่นนี้อีกหลายวัน

ในที่สุดก็กลับมายังตำแหน่งสะพานขาดแห่งเดิม

ที่นี่ได้ตั้งค่ายพักแรมไว้แล้ว ซ่งเชียนฉู่เห็นพวกเขากลับมาแต่ไกลก็รีบวิ่งมารับด้วยความดีใจ

“ชิงยวน!”

ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวเหมือนคนใกล้สิ้นใจของลั่วชิงยวน นางก็เปลี่ยนสีหน้า

“รีบพานางเข้าไปในกระโจมเร็วเข้า!”

ลั่วชิงยวนถูกวางลงบนเตียงในกระโจม ซ่งเชียนฉู่แกะผ้าพันแผลที่ข้อมือออก เมื่อเห็นบาดแผลก็ตกตะลึง

“เหตุใดจึงบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้”

“มิได้แล้ว สมุนไพรของเรามีมิพอ”

นางรีบลุกออกไปเรียกเฉินเซี่ยวหานและหล่างมู่ให้กลับไปเอายาที่หมู่บ้านตีนเขา

ฟู่เฉินหวนถามอย่างกังวล “นางเป็นเช่นไรบ้าง? รักษามือนางได้หรือไม่?”

ซ่งเชียนฉู่ก็เป็นกั
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1148

    ซ่งเชียนฉู่ตอบว่า “ยามนี้ชีวิตของนางยังปลอดภัย แต่หลังจากได้รับบาดเจ็บแล้วมิได้รับการรักษาทันเวลา ล่าช้าเกินไป ตอนนี้จึงยังมิฟื้น”หล่างมู่ร้อนใจ “แล้วนางจะฟื้นเมื่อใด?”ซ่งเชียนฉู่ส่ายหน้า “ข้าเองก็บอกมิได้”เมื่อทุกคนเข้าเมืองซีหลิงแล้ว ก็พาลั่วชิงยวนไปพักที่ชั้นสองของโรงหมอ โดยซ่งเชียนฉู่และซ่งอวี่ก็พักอยู่ที่โรงหมอด้วยตอนนี้ซีหลิงกำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากโรคระบาด เพราะสมุนไพรมีมิเพียงพอเมื่อได้รับอนุญาตจากซ่งอวี่แล้ว ฟู่เฉินหวนจึงส่งคนไปขนย้ายสมุนไพรที่เหลือทั้งหมดในหุบเขามาแล้วส่งคนไปแจกจ่ายสมุนไพรตามหมู่บ้านต่าง ๆ ทุกวัน เพื่อป้องกันโรคแพร่ระบาดชาวแคว้นหลีก่อกวนหลายครั้ง ฟู่เฉินหวนจึงพาคนไปขับไล่และกำจัดโจรปล้นสะดมเหล่านั้นให้ผู้อพยพทั้งหมดกลับบ้านอย่างปลอดภัยในขณะเดียวกัน ทั่วแคว้นเทียนเชวียก็เกิดการจลาจลหรือสงครามขนาดเล็กโชคดีที่ซ่งเชียนฉู่ได้คิดค้นสูตรยาแก้โรคระบาดขึ้นมาแล้ว เมื่อเผยแพร่สูตรยานี้จึงช่วยให้ชาวบ้านทั่วทุกหนแห่งรอดพ้นจากโรคระบาดได้แม้ดูเหมือนว่าทุกหนแห่งจะวุ่นวาย แต่ก็มีข่าวดีเข้ามาอย่างต่อเนื่องฟู่เฉินหวนถูกส่งไปประจำการที่ซีหลิงและควบคุมซีห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1149

    ลั่วชิงยวนเผยรอยยิ้ม “นอนมากเกินไป ร่างกายไร้เรี่ยวแรงไปหมดแล้ว”“ท่านพ่อของเจ้าเล่า? กลับเมืองหลวงพร้อมเจ้าหรือไม่?”ซ่งเชียนฉู่ส่ายหน้า “แม้สำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยจะถูกเผาทำลาย แต่ตระกูลของข้าอาศัยอยู่ที่นั่นมาหลายชั่วอายุคน ท่านพ่อตั้งใจจะอยู่ที่นั่นเพื่อสร้างสำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยขึ้นใหม่”ได้ยินดังนั้นลั่วชิงยวนก็ตกใจเล็กน้อย “แล้วสมุนไพร...”ซ่งเชียนฉู่คลี่ยิ้ม “สมุนไพรมีไว้สำหรับใช้รักษาผู้คน เมื่อนำมารักษาโรคช่วยชีวิตผู้คนจึงจะเรียกว่าเป็นยา”“ครั้งนี้แม้จะสูญเสียสมบัติที่สะสมมานับร้อยปี แต่ผ่านไปอีกร้อยปีก็สะสมขึ้นมาใหม่ได้”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็พยักหน้า “กองคาราวานของสมาคมการค้าเฟิงตูสามารถไปถึงซีหลิงได้ ข้าจะช่วยพวกเจ้าสร้างสำนักขึ้นใหม่”“แต่เหตุใดเจ้าจึงมิอยู่ช่วยท่านพ่อของเจ้าที่ซีหลิงเล่า?”ซ่งเชียนฉู่มองนางด้วยความเป็นห่วง “ครั้งนี้เป็นเพราะเรื่องของตระกูลข้า ทำให้ท่านต้องบาดเจ็บเช่นนี้ ข้าต้องรอดูมือของท่านให้หายดีก่อนจึงจะจากไปได้”“ยิ่งกว่านั้น... ข้ายังรู้สึกว่าเขาเหมือนจะมิค่อยสบายด้วย...”ซ่งเชียนฉู่ขมวดคิ้ว แววตาเต็มไปด้วยความกังวล“ฉู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1150

    ทันทีที่คำพูดประโยคนี้หลุดออกมา ทั้งลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนสีหน้า“ว่ากระไรนะ?”ทั้งสองรีบเข้าวังบัดนี้ขุนนางน้อยใหญ่ล้วนมายืนล้อมหน้าตำหนักของจักรพรรดิด้วยความร้อนใจฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนที่ยังมิทันได้เปลี่ยนชุดถูกขวางไว้“ท่านอ๋อง พระชายา ฝ่าบาททรงมีพระอาการวิกฤต หมอหลวงมู่มิอนุญาตให้ผู้ใดเข้าเฝ้า บอกว่าจะนำความเย็นเข้าไป ทำให้กระทบกระเทือนพระวรกายพ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนได้แต่รออยู่หน้าตำหนักบรรทม มิกล้าเข้าไปลั่วชิงยวนครุ่นคิด นางเดินไปที่หน้าต่างแล้วตะโกนผ่านหน้าต่าง “ท่านหมอหลวงมู่! องค์จักรพรรดิทรงประชวรด้วยโรคใดหรือ?”เมื่อหมอหลวงมู่ได้ยินเสียงของลั่วชิงยวนก็รู้สึกราวกับพบแสงสว่างในความมืดมิด“พระอาการของฝ่าบาทคล้ายกับถูกพิษ มิใช่พิษร้ายแรง แต่สะสมมานานแล้ว เพิ่งจะกำเริบ อาการคือพระพักตร์เขียวคล้ำ หายใจติดขัด เพียงแค่สายลมผิดปกติเล็กน้อยก็กระทบกระเทือนพระวรกายแล้วขอรับ”“เส้นพระโลหิตทั่วร่างกายปูดโปน เห็นได้ชัดว่าเกิดจากการขาดอากาศ ข้าฝังเข็มเพื่อระบายเส้นลมปราณและตบหลังหลายครั้ง ท่านทรงไอเป็นพระโลหิต มีลิ่มเลือดปนออกมาด้วย มิทราบว่าเป็นสิ่งใด”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1151

    ลั่วชิงยวนรู้สึกหนักใจ จึงมิได้กล่าวสิ่งใดอีกแต่นางก็รู้สึกได้ว่าสวรรค์ลิขิตมาแล้ว ผู้ใดเล่าจะฝืนชะตาได้โชคชะตาของทุกคนล้วนเกี่ยวพันกัน การเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของคนผู้หนึ่ง อันที่จริงแล้วจะส่งผลกระทบต่อผู้คนนับมิถ้วนเช่นเดียวกับที่นางเคยทำนายว่าฟู่จิ่งหานจะมีเคราะห์พยายามช่วยเขาแล้วแต่สำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยกลับเกิดเรื่องขึ้นมาเสียก่อนหลังจากกลับมา ฟู่จิ่งหานก็ยังคงเกิดเรื่อง เพียงแต่ยังรักษาชีวิตไว้ได้......หลายวันต่อมาฟู่จิ่งหานนอนอยู่บนเตียงคนป่วย เขาฟื้นขึ้นมาหลายครั้ง แต่ก็หลับไปอย่างรวดเร็วขุนนางในราชสำนักต่างพูดคุยกันอย่างเป็นส่วนตัวมานับครั้งมิถ้วนจักรพรรดิประชวรหนัก มิสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ เรื่องใหญ่เรื่องเล็กเกือบทั้งหมดล้วนเป็นฟู่เฉินหวนที่ตัดสินใจมีขุนนางหลายคนไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิสูงสุดเพื่อขอให้จักรพรรดิสูงสุดตัดสินใจ ให้องค์ชายห้าฟู่อวิ๋นโจวเข้าควบคุมดูแลการบริหารราชการแผ่นดินแทนลั่วชิงยวนไปรักษาจักรพรรดิสูงสุดบ่อย ๆ แน่นอนว่าย่อมได้ยินเรื่องมากมายเหล่านี้ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ในเวลานี้ไม่มีผู้ใดเสนอชื่อฟู่เฉินหวนเลยต่างก็เสนอชื่อองค์ชายห้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1152

    หลังจากฟู่อวิ๋นโจวกลับมายังเมืองหลวง วันแรกที่เข้าประชุมราชสำนัก จักรพรรดิสูงสุดได้ออกพระราชโองการให้ฟู่อวิ๋นโจวรับหน้าที่ดูแลการบริหารราชการแผ่นดินและให้ฟู่เฉินหวนช่วยเหลือเขาพระราชโองการนี้ จักรพรรดิสูงสุดตรัสด้วยพระโอษฐ์เอง โดยมีลั่วชิงยวนเป็นผู้จดบันทึกนางมิรู้ว่าจักรพรรดิสูงสุดคิดเช่นไร ในใจก็อดน้อยใจแทนมิได้ฟู่เฉินหวนทำเพื่อแคว้นเทียนเชวียมากมาย มีผลงานมากมาย เหตุใดจักรพรรดิสูงสุดจึงดูเหมือนมิยอมรับความดีความชอบของเขาแม้ฟู่เฉินหวนจะมิแสดงความมิพอใจใด ๆ แต่เมื่อได้ยินพระราชโองการนี้ ในดวงตาก็ยังมีความผิดหวังเมื่อฟู่อวิ๋นโจวได้เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ไม่มีผู้ใดในราชสำนักคัดค้านดูเหมือนว่าทุกคนจะพึงพอใจหลังจากเลิกประชุม ฟู่อวิ๋นโจวเดินมาหาฟู่เฉินหวน “ต่อไปก็ต้องพึ่งพาเสด็จพี่ช่วยเหลือแล้ว กระหม่อมยังมีหลายสิ่งที่มิเข้าใจ หวังว่าเสด็จพี่จะเมตตาชี้แนะ”ฟู่เฉินหวนกล่าวอย่างแผ่วเบา “เช่นนั้นไปคุยกันที่ห้องทรงพระอักษรเถิด”เมื่อมาถึงห้องทรงพระอักษร มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นแต่ฟู่อวิ๋นโจวกลับมิได้ขอคำแนะนำเรื่องราชการ กลับถามว่า “เสด็จพี่รักลั่วชิงยวนจริงหรือไม่?”ฟู่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1153

    ฟู่เฉินหวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ร้านอาหารอร่อย ๆ ก็ไปกินกันมาหมดแล้ว ได้ยินว่าน้ำแกงเนื้อแกะที่ตรอกหูซีอร่อย ไปซดสักถ้วยให้ร่างกายอบอุ่นดีหรือไม่?”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “เพคะ!”จากนั้นทั้งสองก็ไปยังร้านเก่าแก่แห่งนั้นแล้วสั่งน้ำแกงเนื้อแกะสองถ้วย ปรากฏว่าถ้วยใหญ่กว่าใบหน้าเสียอีกบนโต๊ะยังมีเนื้อย่างและน้ำแกงผักรสชาติเผ็ดร้อน หอมอร่อยด้วย เมื่อกินคู่กับน้ำแกงเนื้อแกะในค่ำคืนเหมันตฤดูเช่นนี้ช่างอิ่มเอมใจยิ่งนักระหว่างกินอาหาร ลั่วชิงยวนรินเหล้าหนึ่งจอกแล้วกล่าวว่า “เพื่อฉลองชัยชนะในเมืองฉิน!”ฟู่เฉินหวนยกยิ้มจาง ยกจอกขึ้นชนกับนางเบา ๆดื่มหมดในรวดเดียวลั่วชิงยวนกล่าวต่อ “วันนี้จักรพรรดิสูงสุดเล่าให้หม่อมฉันฟัง... เหตุผลที่ให้ฟู่อวิ๋นโจวรับหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินแทน”“พระองค์ทรงสงสารที่ท่านเหนื่อยเกินไป มิอยากให้ท่านแบกรับมากเกินไป จึงตั้งใจจะฝึกฝนฟู่อวิ๋นโจว”ฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปแล้วมองลั่วชิงยวนด้วยแววตาลึกล้ำ“อะไรหรือเพคะ? หม่อมฉันพูดผิดไปหรือ?” ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยความมิเข้าใจฟู่เฉินหวนยิ้ม “ไม่หรอก ขอบคุณเจ้านะ”“ขอบคุณหม่อมฉันอีกแล้ว? สุภาพถึงเพียง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1154

    ลั่วเยวี่ยอิงมีความเคลื่อนไหวอีกแล้ว หรือว่าเหยียนหน่ายซินปรากฏตัวอีก?“ลั่วเยวี่ยอิงเล่าอยู่ที่ใด? ออกจากตำหนักไปแล้วหรือ?”หากออกจากตำหนักไปแล้วก็ยิ่งดี จะได้จับเหยียนหน่ายซินแล้วก็กำจัดลั่วเยวี่ยอิงไปพร้อมกันเสียเลยแต่จือเฉากลับรายงานว่า “มิใช่เจ้าค่ะ นางไปที่ห้องครัว แต่งกายเป็นนางรับใช้ มิทราบว่าคิดจะทำสิ่งใด”ลั่วชิงยวนครุ่นคิด แล้วสั่งการว่า “จือเฉา พาบ่าวในเรือนออกไปให้หมด”จือเฉารับคำ “เจ้าค่ะ”จากนั้นจือเฉาก็พาคนอื่น ๆ ออกไปจนหมดลั่วชิงยวนวางตำราแพทย์ลงแล้วเอนกายนอนลงบนเตียงนุ่มก่อนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุม“แค่กแค่กแค่ก...”อากาศหนาวเย็นขึ้นทุกวัน ลั่วชิงยวนยังคงมิสบายจนได้นางนอนลง ตั้งใจจะงีบหลับสักครู่ยามราตรีคืบคลานเข้ามา ภายนอกเริ่มมืดมิด ลั่วชิงยวนเผลอหลับไปในขณะที่กำลังจะหลับใหล ก็รู้สึกว่ามีใครบางคนค่อย ๆ เปิดประตูห้องเข้ามา เสียงฝีเท้าแผ่วเบาค่อย ๆ เข้ามาใกล้นางจากนั้นกระถางธูปบนโต๊ะก็ถูกเปิดออก มิรู้ว่าคนผู้นั้นทำสิ่งใดอยู่ต่อมาเสียงฝีเท้านั้นก็หยุดลง ลั่วชิงยวนรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีสายตาจ้องมองนางอยู่ด้านหลังลั่วเยวี่ยอิงมองแผ่นหลังของลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1155

    เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้นก็หน้าเสียลั่วเยวี่ยอิงหนีไปแล้วหรือ?เขารีบไปยังเรือนของลั่วชิงยวนปรากฏว่าในลาน ลั่วเยวี่ยอิงยังมิตายมีนางรับใช้คนหนึ่งมารายงาน “พระชายา ท่านอ๋องเสด็จกลับมาแล้ว กำลังมาทางนี้เจ้าค่ะ!”ลั่วชิงยวนหน้าเสีย “ขวางเขาไว้ก่อน!”กล่าวจบ นางก็คว้าผ้าแพรขาวออกแรงรัดคอ หมายจะฆ่าลั่วเยวี่ยอิงก่อนที่ฟู่เฉินหวนจะมาถึงมิเช่นนั้นลั่วเยวี่ยอิงต้องฟ้องฟู่เฉินหวนแน่นอนแต่เมื่อลั่วเยวี่ยอิงได้ยินว่าท่านอ๋องเสด็จมาก็เหมือนกับเจอที่พึ่งสุดท้าย นางจึงดิ้นรนสุดชีวิต พยายามต่อยเตะลั่วชิงยวนแต่ก็สายไปเสียแล้วฟู่เฉินหวนเดินเข้ามาในเรือนเมื่อเห็นภาพนั้น ฟู่เฉินหวนก็หน้าซีด เขารีบพุ่งเข้าไปต่อยลั่วชิงยวนที่หน้าอกลั่วชิงยวนกระอักเลือด ล้มลงกับพื้นทันใด“พระชายา!” จือเฉาตกใจ รีบเข้าไปดูผ้าแพรหลุด ลั่วเยวี่ยอิงคลานเข้าไปกอดขาฟู่เฉินหวน “ท่านอ๋อง... พระชายาจะฆ่าหม่อมฉัน! นางจะฆ่าหม่อมฉัน!”“ท่านฆ่านางเถิด ฆ่านางเถิด! มิเช่นนั้นหม่อมฉันต้องตายด้วยน้ำมือของนางเป็นแน่เพคะ!”ฟู่เฉินหวนตาแดงก่ำเหมือนจะคลุ้มคลั่ง เขามองลั่วชิงยวนด้วยสายตาอาฆาตแล้วพุ่งเข้าไปบีบคอลั่วชิ

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1227

    นางสะบัดมือ ผงยาพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของฉู่จิ้งฉู่จิ้งมึนหัวทันที“เป็นเจ้านี่เอง!” ฉู่จิ้งโยนคนที่อยู่ในอ้อมแขนออกไปลั่วฉิงตีลังกาลงพื้นอย่างมั่นคง แล้วมองฉู่จิ้งด้วยสายตาเย็นชา “ที่แท้ก็ต้องปลอมตัวเป็นเด็กคนนี้จริง ๆ ถึงจะหลอกเจ้าได้สินะ”“ตอนนั้นเฉินเซี่ยวหานมีโอกาสใช้ซ่งเชียนฉู่มาข่มขู่เจ้า แต่เขากลับมิทำ ทำให้แผนของข้าล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า ช่างโง่เขลาสิ้นดี!”“วันนี้ข้าจะควักดีงูของเจ้าด้วยตัวเอง!”“จัดการเจ้าแล้วข้าค่อยไปจัดการลั่วชิงยวน!”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของฉู่จิ้งก็เปลี่ยนไปลั่วชิงยวนคงจะตกอยู่ในอันตรายเขามิอยากต่อสู้กับนาง ตัดสินใจรีบหันหลังวิ่งหนีแต่บนพื้นกลับมีแสงสีทองส่องประกายวงเวทสีทองอยู่ใต้เท้าของเขาเขาออกไปมิได้!ลั่วฉิงเดินเข้ามาหาช้า ๆ พลางหัวเราะอย่างเย็นชา “เจ้าคิดว่าข้ามิได้เตรียมตัวเลยงั้นรึ?”“มีโอกาสล่อเจ้าออกมาได้เช่นนี้ ข้าจะปล่อยให้เจ้าหนีไปได้อย่างไรเล่า”ลั่วฉิงถือกระบี่ยาวเข้ามา แววตาเต็มไปด้วยความกระหายเลือดนางจะควักดีของเขาทั้งเป็น!ถึงตอนนั้น มิเพียงแต่อาการบาดเจ็บของนางจะหายเท่านั้น แต่ยังจะทำให้พลังเพิ่มขึ้นอีกด้วย!

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1226

    ลั่วชิงยวนหยิบยันต์ออกมาจากแขนเสื้อ แล้วถือไว้ในมือ วินาทีต่อมายันต์นั้นลุกไหม้เป็นเถ้าถ่าน พลังหยินอันรุนแรงพวยพุ่งออกมาลั่วฉิงตกใจมากนางเห็นยันต์ลุกไหม้ก่อนที่มิติจะเปิดออก ทันใดนั้นงูยักษ์ก็พุ่งทะยานออกมาจากมิติมันอ้าปากเปื้อนเลือดขนาดใหญ่พุ่งเข้าหาลั่วฉิงเสียงคำรามดังกึกก้องลั่วฉิงรีบหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา แต่กลับไร้ประโยชน์ นางถูกเสียงคำรามผลักจนกระเด็นออกจากห้อง เข็มทิศอาณัติสวรรค์ในมือหล่นลงพื้นนางตกลงไปที่ห้องโถงชั้นล่าง ได้แต่ลุกขึ้นยืนโซซัดโซเซ และเงยหน้ามองห้องนั้นด้วยความโกรธนางกัดฟันแล้วหันหลังเดินออกไปข้างกายลั่วชิงยวนมีงูยักษ์คอยปกป้อง!แต่ก็ดี ทั้งเข็มทิศอาณัติสวรรค์และดีงู นางต้องการทั้งหมด!ประตูห้องถูกปิดลงอีกครั้งลั่วชิงยวนก้มลงเก็บเข็มทิศอาณัติสวรรค์ที่ตกอยู่บนพื้น ในที่สุดก็วางใจได้เสียทีของอย่างอื่นจะหายไปก็ได้แต่เข็มทิศอาณัติสวรรค์จะหายไปมิได้นางรู้ว่าลั่วฉิงต้องสะกดรอยตามมาแน่นอน จึงจงใจแวะพักที่นี่เพื่อให้ลั่วฉิงมีโอกาสลงมือครู่หนึ่งจือเฉาและฉู่จิ้งก็กลับมา ลั่วชิงยวนรีบพาพวกเขาเดินทางไปซีหลิงในทันทีมิกล้าเสียเวลาอีกบนรถม้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1225

    พระชายาใช้ชีวิตอย่างไรในตอนที่ถูกขังอยู่หลังจากกินข้าวเสร็จลั่วชิงยวนก็มอบสมุนไพรให้จือเฉา ให้นางไปต้มที่ห้องครัวส่วนลั่วชิงยวนนอนพักบนเตียง ขณะสะลึมสะลือ นางได้ยินเสียงบุรุษหลายคนกำลังพูดคุยเรื่องสงครามอยู่ชั้นล่างลั่วชิงยวนได้ยินเรื่องกองทัพแคว้นหลีและซีหลิงนางจึงลุกไปเปิดประตูแล้วยืนฟังที่มาจากทางเดิน“สู้รบกันมาตั้งนานแล้ว ยังมิรู้ผลแพ้ชนะ ครั้งนี้ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการคงจะแพ้กระมัง”“เป็นไปมิได้ นี่เป็นสิ่งที่ท่านมหาปราชญ์ทำนาย บอกว่าท่านอ๋องไปแล้วจะชนะอย่างแน่นอน!”“แต่ก็มิรู้ว่าต้องรอนานเท่าใด”“จะว่าไปแล้ว ท่านมหาปราชญ์ผู้นี้มีความสามารถจริงหรือ? เทียบกับพระชายาอ๋องคนก่อนแล้ว ความสามารถช่างห่างไกล”ลั่วชิงยวนกลับเข้าห้องปรากฏว่ากองทัพแคว้นหลียังมิถอยทัพฟู่เฉินหวนถึงกับไปซีหลิงเพื่อต่อสู้กับกองทัพแคว้นหลี ดูเหมือนว่าอยากจะช่วยลั่วฉิงรักษาสถานะในราชสำนักจริง ๆมิรู้ว่าทั้งสองกลายเป็นมิตรกันได้อย่างไรหรือเป็นเพราะมีศัตรูร่วมกันก็คือนาง?จือเฉาต้มยาเสร็จแล้วนำมาให้ หลังจากที่ลั่วชิงยวนกินยาแล้วก็นั่งลงบนเก้าอี้ข้างหน้าต่างพลางสัมผัสแสงแดดภายนอกจือเฉานำผ้าห่ม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1224

    ความเจ็บปวดถาโถมเข้ามาดุจสายน้ำ เลือดเอ่อล้นขึ้นมาในลำคอ“เป็นอย่างไรบ้าง?” ฉู่จิ้งขมวดคิ้ว“มิเป็นอะไร” ลั่วชิงยวนพยายามพยุงตัวเองขึ้น สิ่งที่ทรมานยิ่งกว่าคือแสงแดดที่แยงตาในขณะนี้แสบตามากจนน้ำตาไหลมิหยุด“พระชายา พระชายา!” จือเฉาโผเข้ามาหาพลางร้องไห้โฮ “พระชายา โชคดีเหลือเกินที่ท่านปลอดภัย”“ตอนที่ยังวุ่นวาย พวกเราหนีไปตอนนี้กันเถิดเจ้าค่ะ ” จือเฉาจูงมือลั่วชิงยวน แล้วรีบหนีออกจากประตูหลังนางยังจำคำพูดของซูโหยวได้ ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้แล้ว ต้องพาพระชายาออกไปก่อนที่จะเกิดเรื่องใหญ่โตมิเช่นนั้นหากทุกคนรู้ว่าพระชายายังมิตาย พระชายาอาจจะออกไปมิได้แล้วลั่วชิงยวนถูกพาตัวออกจากประตูหลัง แสงแดดแยงตาจนมองมิเห็นทางข้างหน้าเมื่อขึ้นรถม้าได้จึงรู้สึกดีขึ้นบ้าง“พระชายา เหตุใดท่านจึงร้องไห้หรือเจ้าคะ” จือเฉารีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาสักพักฉู่จิ้งก็ขึ้นรถม้าตามมา “พระชายาของเจ้าถูกขังอยู่ในห้องลับที่มืดมิดนานเกินไป ยังปรับตัวเข้ากับแสงภายนอกมิได้”ได้ยินดังนั้น จือเฉาก็รีบหยิบห่อผ้ามาจากกล่อง แล้วหยิบเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ออกมาแล้วคลุมศีรษะให้ลั่วชิงยวนร่างผอมบางถูกคลุมด้วยเสื้อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1223

    หัวใจของลั่วชิงยวนกระตุก แต่มิส่งเสียง ได้ยินลั่วฉิงยืนอยู่ข้างนอกครู่หนึ่งก็จากไปแต่ประตูห้องเปิดอยู่ ลั่วชิงยวนมองเห็นแสงสว่างจากด้านนอก ในที่สุดก็ได้เห็นแสงที่แตกต่างจากแสงเทียนแต่ทันใดนั้น นางก็ได้กลิ่นไหม้และเห็นไฟลุกไหม้จากด้านนอกบ้านไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว มินานลั่วชิงยวนก็ได้กลิ่นควันไฟเปลวเพลิงกำลังแผดเผาเรือนหลังนี้ลั่วชิงยวนรีบนำน้ำมาชุบผ้าห่มแล้วอุดช่องว่างเพื่อป้องกันมิให้ควันลอยเข้ามาฟู่เฉินหวนอาจจะมิสนใจชีวิตของนาง แต่เมื่อเรือนไฟไหม้ก็ต้องให้คนมาช่วยดับไฟเพียงแค่นางยืนหยัดต่อไป ไฟก็จะมิลามเข้ามา อีกสักพักก็คงจะดับแล้วแต่ไฟกลับยิ่งลุกไหม้รุนแรงขึ้นผู้คนในตำหนักพบเห็นเข้าจึงรีบมาช่วยกันดับไฟจือเฉาได้ยินข่าวจึงรีบมา แล้วเห็นไฟไหม้ในเรือนนั้นเหมือนกับครั้งก่อนไม่มีผิดนางร้อนใจมากพระชายายังอยู่ข้างใน!นางรีบไปตักน้ำดับไฟกับคนอื่น ๆท่ามกลางความวุ่นวาย ลั่วฉิงแอบซ่อนตัวอยู่ในที่มืด ไม่มีใครสังเกตเห็นนางแน่นอนว่านางต้องรอ รอลั่วชิงยวนออกมาครั้งนี้มิว่าอย่างไรก็จะมิปล่อยให้ลั่วชิงยวนหนีไปได้!“แค่ก แค่ก แค่ก แค่ก...” ลั่วชิงยวนพิงกำแพง ควันที่ลอยเข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1222

    “ตามข้ามา” ซูโหยวสั่งจือเฉาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตามซูโหยวไปเมื่อมาถึงห้องของซูโหยว ซูโหยวก็หยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกมายื่นให้จือเฉาจือเฉางุนงง “นี่คือ...”“นี่คือสิ่งที่ท่านอ๋องให้เจ้าทำก่อนหน้านี้ จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายที่ท่านอ๋องเขียนถึงพระชายา”จือเฉารับจดหมายมาอ่าน แล้วก็ต้องตกใจสุดขีด “พระชายามิได้...”ซูโหยวยกนิ้วชี้แตะริมฝีปาก แล้วกล่าวว่า “พระชายายังมิตาย”“ทั้งหมดนี้เป็นแผนการของท่านอ๋อง”“ข้าเตรียมทุกอย่างให้เจ้าแล้ว เช้าวันพรุ่ง เจ้าก็พาพระชายาออกจากตำหนัก ออกจากเมืองหลวง แล้วอย่าได้กลับมาอีก”“ส่วนจดหมายฉบับนี้ค่อยมอบให้พระชายาหลังจากผ่านไปครึ่งปี”“เจ้าทำได้หรือไม่?”จือเฉาตกใจมากและรู้สึกสับสน “แผนการของท่านอ๋องคืออะไรกันแน่”“เจ้าอย่าสนใจมาก ทำตามที่ท่านอ๋องสั่งก็พอ เจ้าแค่ต้องรู้ว่าทำเช่นนี้จึงจะรักษาชีวิตของพระชายาได้”“เรื่องที่ข้าบอกเจ้า ห้ามบอกพระชายา แค่ส่งจดหมายฉบับนี้ให้พระชายาหลังจากผ่านไปครึ่งปีก็พอ”“นี่เป็นโอกาสที่เจ้าทั้งสองจะมีชีวิตรอด เข้าใจหรือไม่?”จือเฉาตั้งใจฟัง พยักหน้า แล้วเก็บจดหมายไว้ในอกเสื้อ“แล้วตอนนี้พระชายาอยู่ที่ใด? วันพร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1221

    ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยแล้วยื่นมือออกไปนอกช่อง พยายามดึงถุงเข้ามาแล้วหยิบขวดยาออกมาทีละขวดหลังจากตรวจสอบดูว่ามียาอะไรบ้าง ลั่วชิงยวนก็กินยาเม็ดหนึ่งนางกำลังจะถามฉู่จิ้งว่าหายาพวกนี้มาจากที่ใด แต่เมื่อมองไปที่มุมห้องก็กลายเป็นว่าฉู่จิ้งขดตัวหลับไปเสียแล้วลั่วชิงยวนลากผ้าห่มมาห่มให้เขาเมื่อเข้าเหมันตฤดู พลังของฉู่จิ้งจะอ่อนแอลง ทำให้เขาง่วงนอนและต้องจำศีล ปกติแล้วจะมิค่อยตื่นขึ้นมาการออกไปหายาคงจะต้องใช้พลังทั้งหมดที่มียาที่นำมาเพียงพอสำหรับพวกเขาใช้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ได้แต่หวังว่าเหมันตฤดูจะผ่านพ้นไปโดยเร็วในห้องลับที่มืดมิด ลั่วชิงยวนได้แต่นอนและกินเท่านั้น มองมิเห็นแสงตะวัน มีเพียงความมืดมิดมิรู้จบห้วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมานช่างยาวนานเหลือเกินเสบียงแห้งแข็งราวกับหิน ทั้งแห้งและแข็งจนกลืนลำบาก กลืนลงไปแล้วก็เหมือนกินใบมีด เจ็บคอมากบาดแผลทั่วร่างก็มิสามารถล้างทำความสะอาดได้ ได้แต่ใช้ผ้าสะอาดเช็ดรอบแผล ทายาและพันแผลใหม่ทุกวันถึงแม้ว่าบาดแผลส่วนใหญ่จะมิแย่ลง แต่ก็มิได้ดีขึ้นเลยในห้องลับนั้นหนาวเหน็บ หนาวจนต้องห่มผ้าห่มสองผืนแต่ก็ยังคงรู้สึกหนาวผิวแห้งแตกไปหมด บางค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1220

    ลั่วฉิงรีบกลับไปที่ตำหนัก ค้นหาทั่วทุกซอกทุกมุมแต่ก็มิพบลั่วชิงยวนนางขมวดคิ้ว ลั่วชิงยวนถูกซ่อนไว้ที่ใดกันแน่!กลยุทธ์จักจั่นลอกคราบนี้เป็นฝีมือของลั่วชิงยวนเอง หรือฟู่เฉินหวนเป็นผู้บงการ?หากเป็นฟู่เฉินหวน แล้วเขาคิดจะทำอะไร!ลั่วฉิงออกจากตำหนักอ๋องด้วยความโกรธ และส่งคนไปเฝ้าประตูหน้าและประตูหลังของตำหนักอ๋องไว้หากลั่วชิงยวนปรากฏตัว ต้องจับนางให้ได้ในทันที!ในเมื่อเฉินชีไปซีหลิงแล้ว ก็ต้องสู้กับฟู่เฉินหวนจนตายไปข้างหนึ่ง มีเพียงช่วงเวลานี้เท่านั้นที่สามารถจับลั่วชิงยวนได้ มิเช่นนั้นก็จะไม่มีโอกาสอีก!......ลั่วชิงยวนถูกกัดจนสะดุ้งตื่นความเจ็บปวดที่ข้อเท้าทำให้นางสะดุ้งตื่น นางลืมตาขึ้นอย่างงุนงง เมื่อพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งก็เห็นงูนอนขดอยู่ข้างเท้าของนาง และกัดนางเข้าทันทีที่รู้สึกตัว นางก็รู้สึกเจ็บปวดที่ท้องอย่างรุนแรงนางก้มลงมองใต้แสงสลัว เมื่อเห็นเลือดไหลนองพื้นใต้ชายกระโปรงก็ตกใจสุดขีดขณะที่ลูบท้อง น้ำตาของลั่วชิงยวนก็ไหลรินไม่มีแล้ว!ไม่มีลูกแล้ว!เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?ลั่วชิงยวนมิรู้ว่าตัวเองสลบไปนานเท่าใด แต่นึกถึงคืนที่ถูกขังไว้ ยาที่ฟู่เฉินหวนกรอกให้นา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1219

    “แต่ก่อนหน้านี้ท่านอ๋องก็เคยรับลั่วเยวี่ยอิงเป็นพระชายารองมาก่อน เรื่องของลั่วเยวี่ยอิงกับเหยียนผิงเซียวก็ดังไปทั่ว ท่านอ๋องยังแต่งงานกับลั่วเยวี่ยอิง”“ตอนนั้นท่านยังมิรู้สึกเสียหน้า เหตุใดจึงมารู้สึกตอนที่พระชายาอ๋องทำให้ท่านเสียหน้าเล่า!”“ใช่ นี่มันมากเกินไปแล้ว!”“ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องยังเป็นถึงมหาปราชญ์ ทั้งยังได้รับการแต่งตั้งเป็นองค์หญิงด้วย! ท่านอ๋องช่างอาจหาญนัก บอกว่าจะฆ่าก็ฆ่า!”“ท่านก็มิได้ฆ่าอย่างเปิดเผย แค่ไฟไหม้ พระชายาจึงสิ้นใจไป ใครจะมีหลักฐานว่าท่านเป็นคนฆ่า เฮ้อ...”“น่าสงสารพระชายา ต้องอดทนมาตลอดชีวิต”เพียงวันเดียว ชื่อเสียงของฟู่เฉินหวนก็เสื่อมเสียลงอย่างมากจือเฉาคุกเข่าร้องไห้อยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังครึ่งวัน เดิมทีอยากจะออกจากตำหนักอ๋องไปแต่กลับถูกองครักษ์ขวางไว้ “เจ้าออกจากตำหนักมิได้”“เหตุใด? พระชายาจากไปแล้ว ข้ามิอยากอยู่ในที่แห่งนี้แล้ว!” จือเฉาพูดพลางน้ำตาไหล“ไม่มีเหตุผล เจ้าไปมิได้”กล่าวจบ องครักษ์สองคนก็ลากจือเฉาไปขังไว้ในเรือนอีกแห่ง“ปล่อยข้า! ปล่อยข้า!”“พวกเจ้าจะทำอะไร!”ประตูลั่นดาล จือเฉาทุบประตูอย่างสุดกำลังแต่ก็ไร้ผลสุดท้ายก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status