แชร์

บทที่ 1144

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-12 16:00:00
เมื่อวิ่งออกจากป่ามาถึงริมหน้าผา

ก็เป็นเวลาตะวันขึ้นพอดี

“เบื้องล่างนี้เป็นเหวลึก ท่านปีนขึ้นมาจากที่นี่หรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนชะโงกหน้ามองลงไปเบื้องล่าง

ฟู่เฉินหวนดึงนางกลับมา “ระวัง”

เขาจูงมือลั่วชิงยวนไปนั่งข้างก้อนหินใหญ่ แล้วกล่าวว่า “ที่นี่ปีนขึ้นมานั้นง่าย แต่ลงไปยาก”

“หลบซ่อนอยู่ที่นี่ก่อน ประเดี๋ยวชาวแคว้นหลีพบว่าเจ้าหายไปจะต้องตามไปข้างนอก รอพวกเขาไปแล้ว เราค่อยออกไป”

ลั่วชิงยวนพยักหน้า

แล้วนั่งลงเอนกายพิงฟู่เฉินหวน

มือทั้งสองกุมกันแน่น มิอาจแยกจากกัน

“หน้าผาสูงเช่นนั้น ท่านมิกลัวหรือเพคะ?”

“เจ้าอยู่ข้างบนนี้ ข้าจะกลัวสิ่งใดเล่า”

เป็นเวลารุ่งสางแล้ว ทั้งสองรอฟังความเคลื่อนไหวภายนอก รอให้ชาวแคว้นหลีถูกล่อออกไปก่อน แล้วจึงค่อยจากไป

แต่แล้วสิ่งที่พวกเขามิคาดคิดก็เกิดขึ้น

มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลัง

ทั้งสองตกใจ ลั่วชิงยวนค่อย ๆ ยื่นหน้ามองออกไป

กลับเห็นเฉินชีกำลังถือกระบี่เดินเข้ามา เขามิได้ปิดบังเสียงฝีเท้าเลยด้วยซ้ำ

“ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่ ออกมาเถิด หากเจ้าออกมาเอง ข้าจะได้ฆ่าน้อยลงหนึ่งคน”

เฉินชีกล่าวด้วยความสนุกสนานราวกับกำลังไล่ล่าเหยื่อ

ลั่วชิงยวนใจหายวูบ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1145

    พร้อมกันนั้น นางก็ได้กลิ่นยาจาง ๆเฉินชีมีวิชาตีกระบี่ที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ กล่าวกันว่าใช้วัตถุดิบจำพวกสมุนไพรด้วยนี่มิใช่กำไลธรรมดา!นางตกใจ “สิ่งนี้ทำให้ตำแหน่งของข้าถูกเปิดเผยรึ?”เฉินชีเลิกคิ้วขึ้น รอยยิ้มแฝงไปด้วยความบ้าคลั่ง “ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าเพิ่งจะรู้รึ?”“ข้าบอกแล้ว หากสวมมันไว้ เจ้าก็เป็นคนของข้า ชั่วชีวิตนี้เจ้าหนีข้ามิพ้นหรอก!”“ข้ามิถือสาว่าเจ้าเคยเป็นพระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการมาก่อน หากอ๋องผู้สำเร็จราชการเต็มใจ ต่อไปเราสามคนอยู่ด้วยกันก็มิใช่ว่ามิได้”ลั่วชิงยวนโกรธจนกัดฟันกรอดฟู่เฉินหวนหันกลับมามองนางด้วยสีหน้าขุ่นเคือง แววตาเต็มไปด้วยความเคลือบแคลง“นี่คืออะไร?”“เกิดอะไรขึ้นระหว่างเจ้ากับเขา!”ลั่วชิงยวนรีบปฏิเสธ “ไม่มีอะไร! เชื่อหม่อมฉันสิเพคะ! ระหว่างหม่อมฉันกับเขามิได้เกิดสิ่งใดขึ้น!”เฉินชีมองเหตุการณ์นี้ด้วยความสนใจราวกับกำลังรอคอยคำตอบฟู่เฉินหวนโกรธเล็กน้อย “เช่นนี้จะให้ข้าเชื่อได้อย่างไร!”ลั่วชิงยวนโกรธ พยายามดึงกำไลออกอย่างแรง แต่ก็ดึงมิออกกำไลนี้ถูกตีขึ้นใหม่ สวมพอดีกับข้อมือของนางจึงไม่มีช่องว่างมากนัก ทำให้มิสามารถดึงออกด้วยกำลังได้ด้วยค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1146

    ลั่วชิงยวนปีนขึ้นมาจากหน้าผาอันสูงชันอย่างยากลำบาก ทว่าเมื่อขึ้นมาก็เห็นภาพนี้ทันทีนางรีบวิ่งเข้ามาหาด้วยความร้อนใจ “ฟู่เฉินหวน!”น้ำตาของลั่วชิงยวนไหลริน มือประคองใบหน้าของเขาพลางเช็ดคราบเลือดบนใบหน้า“บอกแล้วว่าจะเผชิญหน้าด้วยกัน! เหตุใดจึงผลักหม่อมฉันออกไป!”“เฉินชีเป็นคนบ้า มิอาจเชื่อคำพูดของเขาได้!”ฟู่เฉินหวนใบหน้าซีดเผือด แต่ยังคงมีรอยยิ้ม “ข้ามิได้เชื่อเขา”ลั่วชิงยวนมองสภาพของเขาแล้วปวดใจยิ่งนักนางก้มลงมองกำไลข้อมือบนมือแววตาของนางดุดันนางลุกขึ้นเดินไปหาเฉินชีที่ล้มอยู่บนพื้นจากนั้นหยิบกระบี่พิชิตมารที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาเฉินชีพยุงตัวขึ้นนั่ง เดิมทีนึกว่าลั่วชิงยวนจะฆ่าเขาแต่มิคาดคิดว่าลั่วชิงยวนจะถือกระบี่พิชิตมารแนบกับข้อมือของตนเอง ทำให้คมกระบี่แทงผ่านกำไลนั้นเมื่อเฉินชีรู้ว่านางจะทำสิ่งใดก็ตกใจมาก “หยุดนะ! เจ้าอยากตายรึ! มือของเจ้าจะพิการ!”ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างเย็นชา “สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดคือการถูกผู้อื่นควบคุม!”“แม้มือนี้จะพิการ ข้าก็จะมิยอมให้เจ้าควบคุมการเคลื่อนไหวของข้าตลอดเวลา!”ทันทีที่นางพูดจบก็กัดฟันเหวี่ยงคมกระบี่ออกไปอย่างแรงฟู่เฉินหวน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1147

    ลั่วชิงยวนเอนกายในอ้อมอกของฟู่เฉินหวนขณะนั่งอยู่หน้ากองไฟ จากนั้นก็ง่วงซึมจนหลับไปฟู่เฉินหวนลูบหน้าผากของนาง รู้สึกได้ถึงความร้อน“ชิงยวน อดทนอีกหน่อยนะ เราใกล้จะออกไปได้แล้ว”ลั่วชิงยวนมึนงง เมื่อได้ยินเสียงก็ยังตอบรับว่า “อืม”หล่างมู่และเซียวชูที่อยู่ด้านข้างก่อกองไฟให้ใหญ่ขึ้นค่อนข้างแย่ที่ในป่าเปลี่ยวแห้งแล้งเช่นนี้ไม่มีสมุนไพร จึงยังรักษามือของลั่วชิงยวนมิได้ในตอนนี้ต้องเดินทางเช่นนี้อีกหลายวันในที่สุดก็กลับมายังตำแหน่งสะพานขาดแห่งเดิมที่นี่ได้ตั้งค่ายพักแรมไว้แล้ว ซ่งเชียนฉู่เห็นพวกเขากลับมาแต่ไกลก็รีบวิ่งมารับด้วยความดีใจ“ชิงยวน!”ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวเหมือนคนใกล้สิ้นใจของลั่วชิงยวน นางก็เปลี่ยนสีหน้า“รีบพานางเข้าไปในกระโจมเร็วเข้า!”ลั่วชิงยวนถูกวางลงบนเตียงในกระโจม ซ่งเชียนฉู่แกะผ้าพันแผลที่ข้อมือออก เมื่อเห็นบาดแผลก็ตกตะลึง“เหตุใดจึงบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้”“มิได้แล้ว สมุนไพรของเรามีมิพอ”นางรีบลุกออกไปเรียกเฉินเซี่ยวหานและหล่างมู่ให้กลับไปเอายาที่หมู่บ้านตีนเขาฟู่เฉินหวนถามอย่างกังวล “นางเป็นเช่นไรบ้าง? รักษามือนางได้หรือไม่?”ซ่งเชียนฉู่ก็เป็นกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1148

    ซ่งเชียนฉู่ตอบว่า “ยามนี้ชีวิตของนางยังปลอดภัย แต่หลังจากได้รับบาดเจ็บแล้วมิได้รับการรักษาทันเวลา ล่าช้าเกินไป ตอนนี้จึงยังมิฟื้น”หล่างมู่ร้อนใจ “แล้วนางจะฟื้นเมื่อใด?”ซ่งเชียนฉู่ส่ายหน้า “ข้าเองก็บอกมิได้”เมื่อทุกคนเข้าเมืองซีหลิงแล้ว ก็พาลั่วชิงยวนไปพักที่ชั้นสองของโรงหมอ โดยซ่งเชียนฉู่และซ่งอวี่ก็พักอยู่ที่โรงหมอด้วยตอนนี้ซีหลิงกำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากโรคระบาด เพราะสมุนไพรมีมิเพียงพอเมื่อได้รับอนุญาตจากซ่งอวี่แล้ว ฟู่เฉินหวนจึงส่งคนไปขนย้ายสมุนไพรที่เหลือทั้งหมดในหุบเขามาแล้วส่งคนไปแจกจ่ายสมุนไพรตามหมู่บ้านต่าง ๆ ทุกวัน เพื่อป้องกันโรคแพร่ระบาดชาวแคว้นหลีก่อกวนหลายครั้ง ฟู่เฉินหวนจึงพาคนไปขับไล่และกำจัดโจรปล้นสะดมเหล่านั้นให้ผู้อพยพทั้งหมดกลับบ้านอย่างปลอดภัยในขณะเดียวกัน ทั่วแคว้นเทียนเชวียก็เกิดการจลาจลหรือสงครามขนาดเล็กโชคดีที่ซ่งเชียนฉู่ได้คิดค้นสูตรยาแก้โรคระบาดขึ้นมาแล้ว เมื่อเผยแพร่สูตรยานี้จึงช่วยให้ชาวบ้านทั่วทุกหนแห่งรอดพ้นจากโรคระบาดได้แม้ดูเหมือนว่าทุกหนแห่งจะวุ่นวาย แต่ก็มีข่าวดีเข้ามาอย่างต่อเนื่องฟู่เฉินหวนถูกส่งไปประจำการที่ซีหลิงและควบคุมซีห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1149

    ลั่วชิงยวนเผยรอยยิ้ม “นอนมากเกินไป ร่างกายไร้เรี่ยวแรงไปหมดแล้ว”“ท่านพ่อของเจ้าเล่า? กลับเมืองหลวงพร้อมเจ้าหรือไม่?”ซ่งเชียนฉู่ส่ายหน้า “แม้สำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยจะถูกเผาทำลาย แต่ตระกูลของข้าอาศัยอยู่ที่นั่นมาหลายชั่วอายุคน ท่านพ่อตั้งใจจะอยู่ที่นั่นเพื่อสร้างสำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยขึ้นใหม่”ได้ยินดังนั้นลั่วชิงยวนก็ตกใจเล็กน้อย “แล้วสมุนไพร...”ซ่งเชียนฉู่คลี่ยิ้ม “สมุนไพรมีไว้สำหรับใช้รักษาผู้คน เมื่อนำมารักษาโรคช่วยชีวิตผู้คนจึงจะเรียกว่าเป็นยา”“ครั้งนี้แม้จะสูญเสียสมบัติที่สะสมมานับร้อยปี แต่ผ่านไปอีกร้อยปีก็สะสมขึ้นมาใหม่ได้”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็พยักหน้า “กองคาราวานของสมาคมการค้าเฟิงตูสามารถไปถึงซีหลิงได้ ข้าจะช่วยพวกเจ้าสร้างสำนักขึ้นใหม่”“แต่เหตุใดเจ้าจึงมิอยู่ช่วยท่านพ่อของเจ้าที่ซีหลิงเล่า?”ซ่งเชียนฉู่มองนางด้วยความเป็นห่วง “ครั้งนี้เป็นเพราะเรื่องของตระกูลข้า ทำให้ท่านต้องบาดเจ็บเช่นนี้ ข้าต้องรอดูมือของท่านให้หายดีก่อนจึงจะจากไปได้”“ยิ่งกว่านั้น... ข้ายังรู้สึกว่าเขาเหมือนจะมิค่อยสบายด้วย...”ซ่งเชียนฉู่ขมวดคิ้ว แววตาเต็มไปด้วยความกังวล“ฉู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1150

    ทันทีที่คำพูดประโยคนี้หลุดออกมา ทั้งลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนก็เปลี่ยนสีหน้า“ว่ากระไรนะ?”ทั้งสองรีบเข้าวังบัดนี้ขุนนางน้อยใหญ่ล้วนมายืนล้อมหน้าตำหนักของจักรพรรดิด้วยความร้อนใจฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนที่ยังมิทันได้เปลี่ยนชุดถูกขวางไว้“ท่านอ๋อง พระชายา ฝ่าบาททรงมีพระอาการวิกฤต หมอหลวงมู่มิอนุญาตให้ผู้ใดเข้าเฝ้า บอกว่าจะนำความเย็นเข้าไป ทำให้กระทบกระเทือนพระวรกายพ่ะย่ะค่ะ”ฟู่เฉินหวนและลั่วชิงยวนได้แต่รออยู่หน้าตำหนักบรรทม มิกล้าเข้าไปลั่วชิงยวนครุ่นคิด นางเดินไปที่หน้าต่างแล้วตะโกนผ่านหน้าต่าง “ท่านหมอหลวงมู่! องค์จักรพรรดิทรงประชวรด้วยโรคใดหรือ?”เมื่อหมอหลวงมู่ได้ยินเสียงของลั่วชิงยวนก็รู้สึกราวกับพบแสงสว่างในความมืดมิด“พระอาการของฝ่าบาทคล้ายกับถูกพิษ มิใช่พิษร้ายแรง แต่สะสมมานานแล้ว เพิ่งจะกำเริบ อาการคือพระพักตร์เขียวคล้ำ หายใจติดขัด เพียงแค่สายลมผิดปกติเล็กน้อยก็กระทบกระเทือนพระวรกายแล้วขอรับ”“เส้นพระโลหิตทั่วร่างกายปูดโปน เห็นได้ชัดว่าเกิดจากการขาดอากาศ ข้าฝังเข็มเพื่อระบายเส้นลมปราณและตบหลังหลายครั้ง ท่านทรงไอเป็นพระโลหิต มีลิ่มเลือดปนออกมาด้วย มิทราบว่าเป็นสิ่งใด”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1151

    ลั่วชิงยวนรู้สึกหนักใจ จึงมิได้กล่าวสิ่งใดอีกแต่นางก็รู้สึกได้ว่าสวรรค์ลิขิตมาแล้ว ผู้ใดเล่าจะฝืนชะตาได้โชคชะตาของทุกคนล้วนเกี่ยวพันกัน การเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของคนผู้หนึ่ง อันที่จริงแล้วจะส่งผลกระทบต่อผู้คนนับมิถ้วนเช่นเดียวกับที่นางเคยทำนายว่าฟู่จิ่งหานจะมีเคราะห์พยายามช่วยเขาแล้วแต่สำนักหุบเขาซีหลิงจี้เยวี่ยกลับเกิดเรื่องขึ้นมาเสียก่อนหลังจากกลับมา ฟู่จิ่งหานก็ยังคงเกิดเรื่อง เพียงแต่ยังรักษาชีวิตไว้ได้......หลายวันต่อมาฟู่จิ่งหานนอนอยู่บนเตียงคนป่วย เขาฟื้นขึ้นมาหลายครั้ง แต่ก็หลับไปอย่างรวดเร็วขุนนางในราชสำนักต่างพูดคุยกันอย่างเป็นส่วนตัวมานับครั้งมิถ้วนจักรพรรดิประชวรหนัก มิสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ เรื่องใหญ่เรื่องเล็กเกือบทั้งหมดล้วนเป็นฟู่เฉินหวนที่ตัดสินใจมีขุนนางหลายคนไปเข้าเฝ้าจักรพรรดิสูงสุดเพื่อขอให้จักรพรรดิสูงสุดตัดสินใจ ให้องค์ชายห้าฟู่อวิ๋นโจวเข้าควบคุมดูแลการบริหารราชการแผ่นดินแทนลั่วชิงยวนไปรักษาจักรพรรดิสูงสุดบ่อย ๆ แน่นอนว่าย่อมได้ยินเรื่องมากมายเหล่านี้ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ในเวลานี้ไม่มีผู้ใดเสนอชื่อฟู่เฉินหวนเลยต่างก็เสนอชื่อองค์ชายห้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1152

    หลังจากฟู่อวิ๋นโจวกลับมายังเมืองหลวง วันแรกที่เข้าประชุมราชสำนัก จักรพรรดิสูงสุดได้ออกพระราชโองการให้ฟู่อวิ๋นโจวรับหน้าที่ดูแลการบริหารราชการแผ่นดินและให้ฟู่เฉินหวนช่วยเหลือเขาพระราชโองการนี้ จักรพรรดิสูงสุดตรัสด้วยพระโอษฐ์เอง โดยมีลั่วชิงยวนเป็นผู้จดบันทึกนางมิรู้ว่าจักรพรรดิสูงสุดคิดเช่นไร ในใจก็อดน้อยใจแทนมิได้ฟู่เฉินหวนทำเพื่อแคว้นเทียนเชวียมากมาย มีผลงานมากมาย เหตุใดจักรพรรดิสูงสุดจึงดูเหมือนมิยอมรับความดีความชอบของเขาแม้ฟู่เฉินหวนจะมิแสดงความมิพอใจใด ๆ แต่เมื่อได้ยินพระราชโองการนี้ ในดวงตาก็ยังมีความผิดหวังเมื่อฟู่อวิ๋นโจวได้เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ไม่มีผู้ใดในราชสำนักคัดค้านดูเหมือนว่าทุกคนจะพึงพอใจหลังจากเลิกประชุม ฟู่อวิ๋นโจวเดินมาหาฟู่เฉินหวน “ต่อไปก็ต้องพึ่งพาเสด็จพี่ช่วยเหลือแล้ว กระหม่อมยังมีหลายสิ่งที่มิเข้าใจ หวังว่าเสด็จพี่จะเมตตาชี้แนะ”ฟู่เฉินหวนกล่าวอย่างแผ่วเบา “เช่นนั้นไปคุยกันที่ห้องทรงพระอักษรเถิด”เมื่อมาถึงห้องทรงพระอักษร มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นแต่ฟู่อวิ๋นโจวกลับมิได้ขอคำแนะนำเรื่องราชการ กลับถามว่า “เสด็จพี่รักลั่วชิงยวนจริงหรือไม่?”ฟู่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1197

    ผ่านไปครู่หนึ่ง เซิ่งไป่ชวนก็มาถึงลั่วชิงยวนพยุงตัวลุกขึ้นนั่งเซิ่งไป่ชวนเห็นเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ บนหน้าผากนาง จึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “พระชายารู้สึกหนาวหรือไม่ขอรับ?”ลั่วชิงยวนกล่าวอย่างแผ่วเบา “ข้ามิเป็นอะไร มิต้องตรวจชีพจรแล้ว ข้าจะเขียนใบเทียบยาให้ เจ้าช่วยไปหยิบยาให้หน่อย”เซิ่งไป่ชวนพยักหน้า เขาย่อมเชื่อมั่นในฝีมือแพทย์ของลั่วชิงยวนจึงมิฝืนใจเพียงแต่กล่าวว่า “เห็นอาการของพระชายาทรงทรุดลงทุกวัน เกรงว่าจะเป็นเพราะความวิตกกังวล พระชายาควรปล่อยวางบ้าง”“เพื่อรักษาพระวรกายให้แข็งแรงขอรับ”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ขอบคุณหมอหลวงเซิ่ง”“ข้าจะระมัดระวัง”ขณะที่กำลังสนทนากัน ก็พลันได้ยินเสียงตวาดดังมาจากด้านนอก“ว่ากระไรนะ! สั่งลงไป ผู้ใดกล้าพูดถึงเรื่องนี้อีกให้ตัดหัวได้เลย!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยด้วยความสงสัย นางจึงสวมรองเท้าเดินออกไปจือเฉานำผ้าคลุมมาสวมให้นางเห็นจักรพรรดิสูงสุดกำลังโมโหอยู่ใต้ชายคา“เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือเพคะ?” ลั่วชิงยวนถามด้วยความอยากรู้จักรพรรดิสูงสุดกล่าวว่า “ไม่มีอะไร เจ้าไปพักผ่อนเถิด ข้ามิได้ดุใครมานานแล้วเลยลองฝึกฝนดู”จากนั้นจักรพรรดิสูงสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1196

    เดิมทีนางตั้งใจจะบอกข่าวดีนี้แก่เขาในยามที่เขากับนางคืนดีกันแล้วทว่าสิ่งที่รอคอยกลับเป็นการหลอกลวง เขาชิงเอาเข็มทิศอาณัติสวรรค์ของนางไปบัดนี้เขาใจแข็งเช่นนี้ ลั่วชิงยวนจึงจำต้องบอกเรื่องนี้แก่เขาในใจนางยังคงมีความหวัง หวังว่าเพื่อลูกในครรภ์ ฟู่เฉินหวนอาจจะใจอ่อนลงบ้างทว่าประตูบานนั้นยังคงปิดสนิทนอกจากเสียงลมหวีดหวิวที่พัดผ่านก็ไม่มีเสียงตอบรับใดสายลมหนาวราวกับจะพัดพาความอบอุ่นสุดท้ายในใจนางให้หายไปน้ำตาใสไหลรินอาบแก้มซีดเผือดลั่วชิงยวนหันหลังเดินจากไปอย่างเงียบงันเหล่าบ่าวไพร่ในตำหนักเห็นนางแล้วอยากจะทักทาย แต่ก็ลังเล มิกล้าเอ่ยปากบัดนี้ลั่วชิงยวนราวกับคนไร้วิญญาณ เดินออกจากตำหนักไปอย่างไร้จุดหมายนางเดินไปเรื่อย ๆ รู้สึกราวกับว่าสายลมหนาวจะพัดพาร่างนางให้แหลกสลายไป ความหนาวเหน็บกัดกร่อนกระดูก......ภายในห้องตำรา ฟู่เฉินหวนทรุดลงนอนสลบแน่นิ่งกองอยู่ที่มุมห้อง พื้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดจนกระทั่งซูโหยวกลับมาพบเข้า จึงรีบให้คนไปตามหมอหลวงมู่มาโดยด่วนหมอหลวงมู่ตรวจอาการแล้วก็ตกใจยิ่งนัก รีบปรุงยาให้ทันทีและยังนำโสมมังกรที่ตกทอดกันมาในตระกูลออกมาตัดแบ่งส่วนเล็ก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1195

    เขามิอยากแตะต้องนางแม้เพียงปลายเล็บฟู่เฉินหวนรีบส่งคนออกไปตามล่าเฉินชี แล้วจึงกวาดสายตามองลั่วชิงยวนที่นอนอยู่บนพื้นหิมะอย่างเย็นชาก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “พากลับไป”องครักษ์สองนายเข้ามาพยุงลั่วชิงยวน แล้วพานางออกไปจากศาลาลั่วชิงยวนจ้องมองฟู่เฉินหวนด้วยดวงตาแดงก่ำ เมื่อสบเข้ากับสายตาเย็นชาของเขา หัวใจนางก็พลันเหมือนถูกบีบขณะที่นางถูกพาตัวออกไป เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นทั่วศาลาเสียดแทงโสตประสาทยิ่งนักเมื่อกลับถึงตำหนัก ฟู่เฉินหวนก็รีบจัดการวางกำลังคนไปจับตัวเฉินชีลั่วชิงยวนยืนรออยู่ท่ามกลางหิมะ จนกระทั่งเขาจัดการทุกอย่างเสร็จจึงเดินเข้าไปหา“ฟู่เฉินหวน...”ทว่าฟู่เฉินหวนกลับมองนางด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตำรา แล้วปิดประตูใส่หน้าเสียงปิดประตูดังสนั่น ทำให้ลั่วชิงยวนสะดุ้งตกใจนางมิยอมแพ้ เดินไปเคาะประตู “ฟู่เฉินหวน ท่านรังเกียจหม่อมฉันแล้วใช่หรือไม่!”“เฉินชีกับลั่วฉิงร่วมมือกัน! เหตุใดท่านจึงหลอกเอาเข็มทิศของหม่อมฉันไป! ทั้งหมดนี้เป็นแผนของพวกเขา!”นางทุบประตูเรียก “ฟู่เฉินหวน ท่านต้องอธิบายให้หม่อมฉันฟัง!”ประตูเปิดออกกะทันหันฟู่เฉินหวนก้าวออกมาด้วยความโกรธ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1194

    ลั่วชิงยวนเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองเขาด้วยความโกรธครั้นเห็นนางมิยอมอ้าปากแม้สักนิด เฉินชีจึงโน้มกายเข้าไปใกล้ แล้วเอ่ยเสียงแผ่วเบา “เจ้าอยากให้ข้าทำเกินเลยกว่านี้รึ?”ลั่วชิงยวนขบฟันแน่นก่อนจะยอมอ้าปากรับสิ่งที่เฉินชีป้อนให้เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบด้าน“สวรรค์โปรด! สองคนนี้กำลังทำสิ่งใดกันอยู่”“พระชายาของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการกำลังลักลอบคบชู้ต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้หรือ?”เหล่าสตรีผู้สูงศักดิ์ต่างส่งคนไปทูลท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการให้รีบมาโดยพลันเฉินชีนั่งอยู่ในศาลา ยังคงจงใจแสดงท่าทีคลอเคลียกับลั่วชิงยวน แล้วกระซิบเสียงเบา “หลังจากวันนี้ เจ้าคงมิอาจอยู่ในเมืองหลวงได้อีกแล้วกระมัง?”“เหตุใดจึงมิติดตามข้ากลับแคว้นหลีเล่า?”“เจ้าเกิดมาเพื่อเป็นคนของแคว้นหลี”“ข้าสามารถส่งเจ้ากลับสู่ตำแหน่งเดิม ให้เป็นนักบวชหญิงผู้สูงส่งได้”“หากเจ้าเต็มใจ จงกะพริบตา แล้วข้าจะพาเจ้าไป”ช่างไร้ยางอาย!ลั่วชิงยวนเบิกตากว้างจนดวงตาแดงก่ำ มิยอมกะพริบตาแม้เพียงน้อยในใจนางก่นด่าเฉินชีนับร้อยครั้งครั้นเห็นนางดื้อรั้นเช่นนี้ เฉินชีกลับหัวเราะออกมา“ดูท่าว่าอาเหลายังคงรู้จักข้าดี”ทั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1193

    จนกระทั่งฟ้าสาง ผู้คนเริ่มทยอยออกมาตามถนนบรรยากาศบนท้องถนนเริ่มคึกคักขึ้น เฉินชียังคงโอบนางเดินไปข้างหน้าอย่างแช่มช้าในสายตาของคนภายนอก ทั้งสองดูสนิทสนมกันมากจนกระทั่งเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่งก็มีเสียงร้องด้วยความตกใจ “นั่นมิใช่พระชายาของอ๋องผู้สำเร็จราชการหรือ? เหตุใดนางจึง...”ลั่วชิงยวนได้ยินดังนั้น หัวใจก็พลันกระตุกแต่เฉินชีกลับยกยิ้มอย่างสาแก่ใจ แล้วพาลั่วชิงยวนไปที่ร้านขนมร้านนั้นก่อนจะแสร้งถามลั่วชิงยวนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าชอบกินอันไหน?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขาด้วยความโกรธเฉินชีกลับยิ่งหัวเราะอย่างลำพองใจเขาโยนถุงเงินหนัก ๆ ลงบนแผงร้าน “ข้าเหมาทั้งหมด!”เถ้าแก่ตกตะลึงจากนั้นเฉินชีก็หยิบขนมชิ้นหนึ่งมาป้อนที่ปากของลั่วชิงยวน “ลองชิมดูหรือไม่?”ลั่วชิงยวนจ้องมองเขา มิยอมอ้าปากแววตาของเฉินชีเย็นชา มือใหญ่เลื่อนไปที่ท้ายทอยของนางแล้วออกแรงบีบพลางยัดขนมเข้าไปในปากของนางด้วยรอยยิ้ม“กินสิ”ท้ายทอยของลั่วชิงยวนเจ็บปวด นางจำใจต้องอ้าปากกัดขนมชิ้นนั้นเฉินชีเห็นดังนั้นจึงพอใจมาก “ชอบหรือไม่?”เขามองนางด้วยสายตาคมกริบ ก่อนยกมือขึ้นเช็ดเศษขนมที่มุมปากของนางท่าทาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1192

    สติเลือนรางลงทุกขณะ ในที่สุดก็ต้านฤทธิ์ยามิไหวจึงสลบไปเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ลั่วชิงยวนก็รู้สึกได้ถึงการเข้ามาใกล้ของใครบางคนพยายามลืมตาขึ้น แต่ก็ยังคงอ่อนแรงจนขยับร่างกายมิได้มีเงาร่างหนึ่งทรุดกายลงตรงหน้าในวินาทีต่อมา มือเย็นเฉียบก็คว้าปลายคางของนาง บังคับให้นางเงยหน้าขึ้นลั่วชิงยวนจึงเห็นใบหน้าที่ขยายใหญ่ขึ้นตรงหน้ารอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั้นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลังโดยมิรู้ตัวเฉินชี!“เหตุใดจึงเป็นเจ้าอีก! เจ้ากล้ามาที่เมืองหลวงเลยหรือ!” ลั่วชิงยวนพูดอย่างอ่อนแรงเฉินชีดึงนางขึ้นจากพื้น แล้วบีบปลายคางของนาง “ฟู่เฉินหวนมิต้องการเจ้าแล้ว”“ไปกับข้าเถอะ”ลั่วชิงยวนสะบัดมือเขาออกอย่างแรง “เจ้าฝันไปเถิด!”“อาเหลา เหตุใดเจ้าจึงยังดื้อรั้นเช่นเดิม นิสัยเช่นนี้ทำให้เจ้าต้องพบเจอความยากลำบากอีกมาก” เฉินชียกยิ้มขณะจ้องมองใบหน้าของนางใบหน้าซีดเซียว อ่อนแรงราวกับจะแตกสลายได้เพียงแค่สัมผัส เขาชื่นชอบยิ่งนักทันใดนั้นลั่วชิงยวนที่มีแววตาเย็นชากัดมือที่บาดเจ็บของเขาอย่างแรงกัดจนเลือดไหลทะลักเข้ามาในปากเฉินชีร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดลั่วชิงยวนฉวยโอกาสวิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1191

    ลั่วชิงยวนกล่าวจบก็ยกจอกสุราขึ้นดื่มจนหมดฟู่เฉินหวนหรี่ตาจ้องมองนางด้วยแววตาคมกล้า มิละสายตาไปแม้แต่น้อย แล้วค่อย ๆ ดื่มสุราในจอกจนหมด“ฟู่เฉินหวน ที่จริงมีอีกเรื่องหนึ่ง...” ลั่วชิงยวนตั้งใจจะบอกเรื่องการมีตัวตนของชีวิตน้อย ๆ ในครรภ์ทว่ายังพูดมิจบก็ถูกฟู่เฉินหวนขัดจังหวะ“เจ้านำเข็มทิศติดตัวมาหรือไม่”“ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วยทำนาย”ลั่วชิงยวนชะงักไปครู่หนึ่งแล้วหยิบเข็มทิศในอกเสื้อออกมา“ท่านอยากจะให้ทำนายเรื่องใด?” ลั่วชิงยวนถามฟู่เฉินหวนจ้องมองนางด้วยแววตาคมกล้า สายตาเย็นชานั้นทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกแปลกประหลาด“เหตุใดท่านจึงมองหม่อมฉันเช่นนั้น?”ตอนนี้สายตาที่ฟู่เฉินหวนมองนางราวกับมองคนแปลกหน้าเฉียบคมและเย็นชาเสียงเย็นเยียบดังขึ้น “เจ้าเป็นใครกันแน่”ลั่วชิงยวนตกใจ มองเขาด้วยความมิเข้าใจ “ท่านเป็นอะไรไปเพคะ?”มองแววตาเย็นชาของฟู่เฉินหวนแล้ว ลั่วชิงยวนก็พลันรู้สึกใจคอมิดี จู่ ๆ เริ่มวิงเวียน ภาพตรงหน้าพร่าเลือนนางรีบกุมศีรษะ ตระหนักได้ว่าตอนนี้นางมีบางอย่างผิดปกติ นางเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างยากลำบาก “ท่านวางยาในสุราหรือ?”แต่ฟู่เฉินหวนกลับมิตอบในตอนนั้นเอง ประ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1190

    หากนางคาดเดามิผิด นั่นคือสมบัติล้ำค่าของแคว้นหลีก่อนหน้านี้เคยบังคับให้ลั่วชิงยวนมอบให้แล้วแต่ก็ล้มเหลวบัดนี้ฟู่อวิ๋นโจวได้ขึ้นครองราชย์ ฟู่เฉินหวนก็ถูกนางควบคุม นางจะต้องให้ลั่วชิงยวนมอบเข็มทิศนั้นให้นางให้ได้!สีหน้าของฟู่เฉินหวนเปลี่ยนไปลั่วฉิงกล่าวต่อ “เมื่อครู่ข้าอยู่ในห้องตำรา พบของบางอย่างที่ถูกไฟไหม้”“มีหีบใบหนึ่งอยู่ แม่กุญแจบนหีบนั้นเป็นแม่กุญแจสุริยันจันทราของแคว้นหลี”“คิดว่าคงเป็นของใช้ของหมู่เฟยของท่านอ๋องกระมัง”“หม่อมฉันช่วยท่านเปิดได้”“แลกเปลี่ยนกันดีหรือไม่?”......ล่วงเข้ายามดึก เตาไฟในห้องตำราถูกจุดขึ้น ภายในห้องอบอุ่นฟู่เฉินหวนหยิบของในหีบออกมาดูทีละชิ้น แววตาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นตกตะลึง ตามมาด้วยความโกรธที่เพิ่มมากขึ้นเขากำมือแน่น เส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนขึ้นมาสีหน้าสงบนิ่ง แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วยความเดือดดาล......ในที่สุดก็มีวันฟ้าใสอีกครั้ง จักรพรรดิสูงสุดมิยอมให้พวกหลี่ว์โม่ทั้งสามคนออกไป ลั่วชิงยวนจึงคิดจะออกจากวังทุกวันบังเอิญว่าวันนี้เป็นวันที่มีแสงแดดอบอุ่นในเหมันตฤดู ลั่วชิงยวนจึงอ้างว่าจะออกไปอาบแดดและเดินเล่นไปทั่วในวัง ทำให้สา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1189

    “จะไม่มีฟู่จิ่งหานอีกต่อไปแล้วขอรับ”“คุณชายลองคิดดูเถิดขอรับว่าจะใช้นามว่าอะไรดี”ฟู่จิ่งหานตกตะลึงเมื่อได้ฟังดังนั้น เขารีบลงจากรถม้า กระโดดลงพื้นไปยืนชื่นชมทิวทัศน์หิมะอันกว้างใหญ่แล้วสูดอากาศที่หนาวเย็นแต่สดชื่นเขาหลับตาลง รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก“ดีจริง ๆ ในที่สุดก็หลุดพ้นจากกรงขังนั้นได้แล้ว”“ข้า... ไม่สิ ข้าต้องคิดแล้วว่าจะใช้นามว่าอะไรดี”พูดจบ สีหน้าของฟู่จิ่งหานก็พลันเปลี่ยนไปขณะถามว่า “เสินหลี เจ้านำเงินติดตัวออกมาด้วยหรือไม่?”เขารีบค้นตัวเสินหลีกลับพบเพียงถุงเงินใบเล็กเทออกมาดูแล้ว ปรากฏว่ามีเงินมิกี่ตำลึง“เสินหลี เจ้ามินำเงินออกมาด้วย จะปล่อยให้ข้าอดตายหรือ?”เสินหลียิ้มกว้าง “คุณชายวางใจเถิดขอรับ เสินหลีจะมิปล่อยให้คุณชายต้องหิวโหยแน่ขอรับ”ฟู่จิ่งหานมองเขาด้วยสายตาสงสัย “จริงหรือ? แต่ข้า... แต่ข้าทำอะไรมิเป็นเลย”เขาเคยชินกับการมีคนปรนนิบัติ จู่ ๆ จากจักรพรรดิกลายเป็นสามัญชน การไม่มีเงินติดตัวเลยทำให้เขารู้สึกมิสบายใจ“ข้าน้อยทำเป็นขอรับ ข้าน้อยทำได้ทุกอย่าง จะดูแลคุณชายให้ดีที่สุด!”ฟู่จิ่งหานจึงมิคิดมาก อย่างไรเสียก็ออกจากวังมาแล้วเขานั่งบนรถม้

DMCA.com Protection Status