แชร์

บทที่ 1002

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น

ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างมาก

ลั่วชิงยวนก็ตกใจเช่นกัน นกอินทรีจิกหล่างชิ่น นางยกมือขึ้นกุมใบหน้า เลือดไหลออกมามิหยุด

นกอินทรีตัวนั้นบินกลับมาอีกครั้ง และร่อนลงบนแขนของลั่วชิงยวน

ลั่วชิงยวนหันหน้าไปมองด้วยความตกใจ ดวงตาของนกเหยี่ยวคู่นั้นแหลมคม เต็มไปด้วยความฉลาด

สายตาของนกเหยี่ยวนั้น ในบางส่วนช่างคล้ายคลึงกับมนุษย์

“เจ้าเฉลียวฉลาดเพียงนี้เชียวหรือ?”

เดิมทีนางคิดว่า นี่เป็นแผนการของราชาเผ่านอกด่านที่ทำให้นกอินทรีร่อนลงมาเกาะนาง

แต่มิคาดคิดว่านกอินทรีจะปกป้องนางและเข้าโจมตีหล่างชิ่นเช่นนี้

นกอินทรีเอียงศีรษะ แล้วมองนาง

ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบหัวของมัน

มันกะพริบตาโดยไม่มีท่าทีขัดขืนและโกรธเคือง

ทุกคนรอบข้างยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก

หล่างชิ่นมองดูฉากนี้ด้วยความมิเชื่อ "เป็นแบบนี้ได้อย่างไร…?"

ไม่มีใครสามารถสัมผัสเทพปีกอินทรีได้

“สวรรค์ ลั่วชิงยวนเป็นใครกันแน่ เทพปีกอินทรีมิจิกนางแม้แต่น้อย”

“แถมยังดูเชื่องอีกด้วย!”

ทุกคนต่างตกตะลึงกันหมด

ส่วนราชาเผ่านอกด่านนั้นกลับไพล่มือไว้ด้านหลัง แสดงรอยยิ้มพอใจ

“ข้ามิได้ดูผิดไปแน่ เจ้าคือลูกสาวของข้
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1003

    ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ทุกคนก็ตกตะลึง“ว่ากระไรนะ ชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ?”“นางคือชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ?”ราชาเผ่านอกด่านก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อได้ยินสิ่งนี้ลั่วชิงยวนมองไปยังหล่างมู่โดยมิเปลี่ยนสีหน้าของเขาหล่างมู่ยังคงตกตะลึงและดูเหมือนจะยังมิเข้าใจว่า เหตุใดลั่วชิงยวนที่สัญญาว่าจะช่วยเขายึดบัลลังก์ วันนี้เสด็จพ่อของเขากลับประกาศว่าลั่วชิงยวนกลายเป็นพี่สาวของเขาเสียแล้วอีกทั้งนางยังจะกลายเป็นราชาองค์ใหม่อีกด้วย“ข้าคือชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการจริง ๆ แต่ความสัมพันธ์ของข้ากับอ๋องผู้สำเร็จราชการนั้น… มิดีเอาเสียเลย”“ในยามที่หล่างชิ่นและหล่างมู่ไปยังแคว้นเทียนเชวียเพื่อแสดงความยินดีกับองค์จักรพรรดิในวันคล้ายวันพระราชสมภพ หล่างมู่ขอนำตัวข้าไปต่อหน้าผู้คนมากมาย และอ๋องผู้สำเร็จราชการก็มิปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย”“หากเขาใส่ใจข้าจริง ๆ เขาจะมิปล่อยข้าไปกับหล่างมู่แน่”“หล่างชิ่นก็รู้เรื่องนี้ดี มิอย่างนั้นเหตุใดเจ้าถึงเปิดโปงเรื่องนี้เอายามนี้เล่า เพราะเจ้าคงมิอยากให้ข้าอยู่ในเผ่านอกด่านตั้งแต่แรก”“เจ้าย่อมรู้ว่าฟู่เฉินหวนกับข้าเข้ากันมิได้ราวน้ำกับไฟ”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1004

    ลั่วชิงยวนนำชนเผ่าทั้งสองเข้าโจมตีเมืองผิงหนิงนางได้เขียนแผนบนแผนที่การป้องกัน และคิดว่าฟู่เฉินหวนจะเข้าใจความตั้งใจของนางด้านหน้าว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดอยู่เลยเสียงกีบม้าดังกึกก้อง พวกเขาเร่งรีบมาจนถึงนอกเมืองผิงหนิงแต่ทว่าบนหอประตูเมืองมีเพียงมิกี่คน เมื่อพวกเขาเห็นพวกนอกด่านมา พวกเขาก็ลั่นกลองเพื่อเตือนทันที และเริ่มจุดคบเพลิงเพื่อส่องสว่างพื้นที่โดยรอบ"ตามคาด ขณะนี้การป้องกันเมืองผิงหนิงอ่อนแอ เราควรฉวยโอกาสนี้ยึดเมืองผิงหนิง"แต่ลั่วชิงยวนปราม "ช้าก่อน! ระวังจะเป็นกับดัก!"หล่างชิ่นเยาะเย้ยจากด้านข้าง "เจ้าบอกเองมิใช่หรือว่า พวกนั้นแอบโจมตีเผ่าของเรา เราจึงมีโอกาสโจมตีเมืองผิงหนิง?ลั่วชิงยวนเหลือบมองนางอย่างเย็นชา "ข้าบอกว่าการป้องกันในเมืองลดลงครึ่งหนึ่ง มิใช่ปราศจากการป้องกัน"“ดูเหมือนเจ้าจะเคยตกหลุมพรางครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมิรู้จักจำเสียที”หล่างชิ่นโกรธเล็กน้อย "เจ้า!"ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นมองหอประตูเมืองแล้วตะโกนว่า "ผู้รักษาประตูเมืองอยู่ที่ใด?"ในมิช้า ร่างอันสง่างามก็ปรากฏขึ้นที่หอประตูเมืองลั่วชิงยวนตกใจมากเมื่อเห็นเขา‘ฟู่เฉินหวน!’‘เหตุใดเป็นเขา!’

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1005

    "อย่างไร?"ฟู่เฉินหวนมิได้พูด และลั่วชิงยวนกล่าวต่อ "ข้ารู้สถานการณ์ในเมืองผิงหนิงเป็นอย่างดี เรามิควรเสียสละโดยมิจำเป็นด้วยกันทั้งคู่อีกเลย"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฟู่เฉินหวนก็กระโดดขึ้นทันทีใช้วิชาตัวเบาบินลงมาจากหอประตูเมืองโดยตรง“ได้ ข้าจะให้การต่อสู้ที่ยุติธรรมแก่เจ้า!”ลั่วชิงยวนยกมุมริมฝีปากขึ้นแต่หล่างชิ่นกลับโกรธมาก "ลั่วชิงยวน เจ้าเคยรับปากนี่ว่าจะใช้โอกาสนี้ยึดเมืองผิงหนิงให้ได้!""นี่เจ้ากำลังทำอะไร!"ในเวลานี้ ชิงหวยที่อยู่ข้าง ๆ นาง มองนางด้วยความเกลียดชัง"เป้าหมายสูงสุดของเราคือการเจรจาสงบศึกเพื่อลดความสูญเสีย! ยามนี้เราลดการบาดเจ็บล้มตายได้ แต่เจ้ากลับยุยงให้เกิดสงคราม มีเจตนาอะไรกันแน่!"“เจ้าคิดจะฆ่ายอดฝีมือในเผ่าของเราทั้งหมด เพื่อที่เจ้าจะได้บรรลุความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งของตัวเองอย่างนั้นรึ?”แน่นอนว่าชิงหวยย่อมมิต้องการให้ญาติและสหายของนางต้องตายในสนามรบอีกลั่วชิงยวนสามารถทำให้อ๋องผู้สำเร็จราชการรับปากสู้กันตัวต่อตัวได้ นับซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอยู่แล้วหล่างชิ่นโกรธ จิตใจอัดอั้นอย่างหนัก แต่ก็ไม่มีคำใดจะโต้แย้งลั่วชิงยวนควบม้าให้เดินออกไปอย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1006

    ฟู่เฉินหวนกระอักเลือดออกมาเต็มปากร่างที่มิอาจยืนได้มั่นคงคุกเข่าลงกับพื้นลั่วชิงยวนรีบวิ่งเข้าไปประคองเขาด้วยความตกใจแต่นัยน์ตาสีแดงก่ำของฟู่เฉินหวนกลับมองนางอย่างเย็นชา ห้ามมิให้นางเข้ามาใกล้“ข้าแพ้แล้ว ยอมจำนน”ลั่วชิงยวนกำดาบแน่นขณะพยายามกลั้นใจเอาไว้“เช่นนั้นตอนนี้เราสามารถเจรจากันได้หรือยัง?” ลั่วชิงยวนส่งสายตาเป็นนัยนางต้องการอาศัยโอกาสในการเจรจาเพื่อเข้าเมืองไปรักษาบาดแผลให้เขาแต่ฟู่เฉินหวนกลับมีน้ำเสียงเย็นชา “ข้ากำลังบาดเจ็บสาหัส เจ้าจะมาเจรจาในยามนี้ก็ดูจะเป็นการรังแกคนเจ็บมากเกินไป”“อีกทั้งยังจะทำให้คนสงสัยว่าเจ้าต้องการฉวยโอกาสนี้ปลิดชีวิตข้าด้วยหรือไม่”“สามวันให้หลังเถิด”ฟู่เฉินหวนพยายามกลั้นเลือดที่พร้อมพุ่งออกมาจากลำคอยามนี้ใบหน้าของฟู่เฉินหวนซีดเผือด ทำให้ลั่วชิงยวนเป็นห่วงยิ่งนักเหตุใดเขาจึงปฏิเสธ!ลั่วชิงยวนจึงกล่าวขึ้น “ย่อมได้ เจรจากันสามวันหลังจากนี้ ถอยทัพ!”การเข้าเมืองไปเจรจาในยามนี้มิเหมาะสมอย่างยิ่งเพราะอาจทำให้คนเข้าใจผิดว่าพวกเผ่านอกด่านจะฉวยโอกาสเข้ายึดเมืองลั่วชิงยวนทำให้ฟู่เฉินหวนบาดเจ็บสาหัส นี่เป็นการสร้างโอกาสที่ดีให้พวกเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1007

    เขี้ยวเหล็กสิบหกอันหลุดออกมาแล้วสองอัน หวังว่าจะไม่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีกมิเช่นนั้นท่านอ๋องจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่วันกัน……ระหว่างทางที่ลั่วชิงยวนและเผ่านอกด่านกำลังเดินทางกลับค่าย นกอินทรีตัวนั้นก็บินมาอีกครั้งมันโบยบินอยู่บนท้องฟ้า ทุกคนล้วนเห็นกันหมด“พญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์”ทุกคนต่างยกแขนขึ้นทำความเคารพด้วยความศรัทธาอย่างที่สุดแต่ว่านกอินทรีตัวนั้นกลับโบยบินวนมาเกาะที่ไหล่ของลั่วชิงยวนทำให้ทุกคนต่างตกใจ“แม้แต่พญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์ก็ยังมาร่วมฉลองชัยชนะของเรา”ทุกคนยิ่งตื่นเต้น ส่งเสียงไชโยโห่ร้องกลับไปยังค่ายลั่วชิงยวนก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน นกอินทรีตัวนี้ดูจะชอบนางมากแต่นางรู้ดีว่านางมิใช่หยวนหนิง นางคือลั่วเหลาต่างหากแล้วเหตุใดพญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์ที่เผ่านอกด่านเคารพสักการะจึงเลือกนางเมื่อกลับมาถึงค่ายก็พบว่าราชาเผ่านอกด่านรออยู่แล้วเมื่อเห็นทุกคนตื่นเต้นดีใจเช่นนี้ก็รู้ผลแล้วใบหน้าปรากฏรอยยิ้มแห่งความโล่งใจ“หยวนหนิง ลูกของพ่อมิทำให้พ่อผิดหวังจริง ๆ”หัวหน้าเผ่าอื่น ๆ ก็ต่างพากันเข้ามาห้อมล้อมดูเหมือนว่ากองกำลังที่ลอบโจมตีพวกเขาก็ถอยทัพไปหมดแล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1008

    “ม้าหนึ่งหมื่นตัว วัวกับแกะอีกหกพันตัว และให้เมืองผิงหนิงเปิดประตูเมืองให้เรา เพื่อให้เราสามารถเข้าเมืองไปซื้อยาและอาหารได้ทุกเมื่อ”“นี่คือสิ่งที่พวกเราต้องการจากการเจรจา”เมื่อได้ฟังดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกใจหล่างชิ่นผู้นี้ช่างไร้ยางอายเสียจริงทั้งที่พวกเขาเป็นฝ่ายเริ่มสงครามก่อน หลังจากที่จับตัวฉินเชียนหลี่ไปแล้ว เบี้ยหวัดทหาร อาวุธและแม้แต่เสบียงในเมืองก็ถูกพวกเขาขโมยไปตอนนี้กลับต้องการเสบียงมากมายถึงเพียงนี้ แล้วยังจะให้เมืองผิงหนิงเปิดประตูเมืองให้พวกเขาอีกเช่นนั้นผู้คนในเมืองผิงหนิงก็จะมิกล้าอาศัยอยู่ที่นั่นอีกต่อไป เพราะอีกมินานก็จะกลายเป็นดินแดนของเผ่านอกด่านหากดินแดนของทั้งสองเขตมิชัดเจนก็จะเกิดเรื่องมิดีขึ้นในมิช้าแต่หัวหน้าเผ่าอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย“เงื่อนไขนี้ยากก็จริง แต่มิใช่ว่านี่คือจุดประสงค์ในการเจรจาของเราหรือ!”“เรามิสามารถกลับไปมือเปล่าอย่างน่าอับอายได้”ราชาเผ่านอกด่านตบไหล่ลั่วชิงยวน “เช่นนั้นเจ้าก็ลองดูเถิดว่าจะต่อรองอะไรได้บ้าง”ทุกคนคิดว่าตอนนี้ฝ่ายตนได้เปรียบจึงสามารถต่อรองสิ่งเหล่านี้ได้หล่างชิ่นมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย้ยหยัน“เรื่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1009

    ราชาเผ่านอกด่านกลับเผยรอยยิ้ม ท่าทางเช่นนี้ค่อนข้างเหมือนกับสมัยที่เขายังอยู่ในวัยหนุ่ม“เอาเถอะ กลับไปพักผ่อนที่ค่ายของตนเองเพื่อรอผลการเจรจาในอีกสามวันข้างหน้าก่อนเถอะ”หลังจากที่ราชาเผ่านอกด่านออกคำสั่ง ทุกคนก็แยกย้ายกันไปลั่วชิงยวนเข้าไปในกระโจมของราชาเผ่านอกด่านเพื่อฝังเข็มถอนพิษให้เขาแต่กลับเห็นราชาเผ่านอกด่านยังคงยิ้มอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่ามีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น“ท่านมีความสุขเรื่องอะไรหรือ?”ราชาเผ่านอกด่านมองนางด้วยสายตาอ่อนโยน “ดีใจที่เจ้ากลับมาอยู่เคียงข้างพ่อ”“เจ้ากล้าหาญ มีไหวพริบและสามารถปราบหล่างชิ่นได้ พ่อก็ยิ่งดีใจมาก!”เมื่อลั่วชิงยวนได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ“ปราบหล่างชิ่นได้หรือ? ในบรรดาลูก ๆ ของท่าน ไม่มีผู้ใดที่ปราบหล่างชิ่นได้เลยหรือ?”“หล่างมู่ก็มิได้หรือ?”ราชาเผ่านอกด่านกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หล่างชิ่นแข็งแกร่งมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เด็กนางก็กดขี่หล่างมู่มาโดยตลอด ทำให้หล่างมู่ยอมจำนนต่อนาง ดังนั้นหล่างมู่จึงโหดเหี้ยมต่อคนนอก แต่กลับเชื่อฟังหล่างชิ่นอย่างมาก”“แม้ว่าตอนนี้จะเงียบขรึม แต่ในใจก็ยังมิกล้าต่อต้านหล่างชิ่น”“ส่วนหล่างชิ่นมีนิสั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1010

    ใบหน้าเขาซีดเซียวราวกับพร้อมจะทรุดลงได้ทุกเมื่อลั่วชิงยวนมิเคยเห็นฟู่เฉินหวนป่วยหนักถึงเพียงนี้มาก่อนแต่ถึงอย่างนั้นความสง่างามบนใบหน้าของเขาก็ยังคงมิลดลงลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเอ่ยปาก “ดูเหมือนว่าบาดแผลของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการจะมิยังค่อยหายดีนัก”“มิเกี่ยวกับเจ้า” ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเย็นชา น้ำเสียงเฉยเมยแม้จะรู้ว่าเป็นการแสดง แต่ลั่วชิงยวนก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวด“ตอนนี้ท่านคงจะขาดแคลนเครื่องยาสมุนไพร พวกข้าสามารถจัดหาให้ได้”“สามารถนำเข้าไปเป็นเงื่อนไขในการเจรจาครั้งนี้ได้”“ท่านคงจะรู้ฝีมือการรักษาของข้าดีอยู่แล้ว ข้ารับรองว่าจะรักษาแผลของท่านให้หายได้”ฟู่เฉินหวนเอ่ยเสียงเย็นชา “พูดมาตามตรงเถอะว่าเจ้าต้องการเงื่อนไขอะไรบ้าง”ลั่วชิงยวนจึงกล่าวเงื่อนไขทั้งหมดออกมาหลังจากฟังจบ ฟู่เฉินหวนก็หัวเราะเยาะ “พวกเจ้าช่างกล้าขอจริง ๆ”ลั่วชิงยวนถามต่อ “แล้วหากข้าแลกด้วยสนหิมะเขาฉีซานเล่า?”ฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้นก็หรี่ตาลงลั่วชิงยวนกำลังบอกเป็นนัยกับเขา“ของสิ่งนี้เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องยาสมุนไพรอื่น ๆ ข้ารับรองว่าจะทำให้แผลของท่านหายสนิทได้ และจะมิส่งผลต่อวรยุทธ”ฟู่เฉินหวนข

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1411

    “แม้จะต้องยอมตายไปพร้อมกับถูหมิง ข้าก็ยินดี!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึง แต่ก็ยังคงสงสัยอยู่บ้าง“แต่เจ้าสนิทสนมกับถูหมิงถึงเพียงนั้น น่าจะมีโอกาสฆ่าเขาได้นับครั้งมิถ้วน”ฉีเสวี่ยเวยขมวดคิ้วแน่น ดวงตาแดงก่ำ “แท้จริงแล้วคนผู้นั้นระแวดระวังตัวมาก หากมิใช่เพราะต้องการลดความระแวดระวังของเขา ข้ากับชายมากหน้าหลายตาก็คงมิ...”เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ฉีเสวี่ยเวยก็เม้มริมฝีปากแน่นหลังจากกล้ำกลืนความรู้สึกแล้ว จึงกล่าวต่อ “ในป่าครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาใกล้ชิดข้า เดิมทีตอนนั้นข้ามีโอกาสที่จะฆ่าเขาได้!”“แต่เจ้าปีศาจฝูเหมิ่งนั่นบังเอิญมาขวาง!”“หากมิใช่เพราะเขา ข้าคงทำสำเร็จไปแล้ว!”ฉีเสวี่ยเวยกัดฟันพูด เต็มไปด้วยความเคียดแค้นลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจ เมื่อเห็นสีหน้าของฉีเสวี่ยเวย ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความแค้น ดูมิเหมือนคนโกหกทำให้นางเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อฉีเสวี่ยเวยไปบ้างขณะที่ลั่วชิงยวนยังคงครุ่นคิด ฉีเสวี่ยเวยก็มองมาที่นาง “เจ้ายังมิเชื่อข้าหรือ?”“ขอเพียงเจ้าฆ่าถูหมิงได้ ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเจ้า! ข้าจะบอกสิ่งที่เจ้าอยากรู้ทุกอย่าง!”ลั่วชิงยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1410

    ลั่วชิงยวนนอนนิ่งอยู่บนเตียง มิกล้าขยับกายทว่างูตัวนั้นกลับกัดข้อเท้านางอย่างแรงหนึ่งครั้ง จากนั้นก็รีบเลื้อยหนีไปรออยู่ครู่หนึ่ง ฉีเสวี่ยเวยเห็นว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จึงเปิดประตูเข้ามานางมิอาจมั่นใจได้ว่าพวกคนใบ้จะกลับมาเมื่อใด จึงมิกล้าเสียเวลานานหลังจากปิดประตูอย่างระแวดระวังแล้ว นางก็มายังปลายเตียง จ้องมองข้อเท้าของลั่วชิงยวนอย่างละเอียด ปรากฏว่าถูกงูกัดจริง ๆ นางต้องตายเพราะพิษนี้แน่นอน!ทันใดนั้นเอง ฉีเสวี่ยเวยก็ชักกริชออกมาแล้วเดินไปยังหัวเตียง ค่อย ๆ จรดใบมีดลงบนใบหน้าของลั่วชิงยวนแต่ในพริบตานั้นเอง ลั่วชิงยวนก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้นฉีเสวี่ยเวยพลันตกใจ แต่ก็มิได้หนีในทันที เพราะนางคิดว่าลั่วชิงยวนโดนพิษงูเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ต้องตายอยู่ดีลั่วชิงยวนรีบคว้าข้อมือของฉีเสวี่ยเวยไว้เพื่อแย่งชิงกริชมาจากนางฉีเสวี่ยเวยก็ลงมือโจมตีเช่นกัน เพียงแต่นางคาดมิถึงว่าสตรีผู้นี้ที่ถูกพิษแล้วจะยังมีพละกำลังมากมายถึงเพียงนี้หลังจากทั้งสองต่อสู้กันครู่หนึ่งในห้อง ฉีเสวี่ยเวยก็พ่ายแพ้ ถูกลั่วชิงยวนจับกดไว้บนโต๊ะฉีเสวี่ยเวยตกใจมาก “เจ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1409

    “แน่นอน”“อีกอย่าง เมื่อหาของเหล่านี้ครบแล้วเมืองแห่งภูตผีทั้งเมืองก็จะเป็นของพวกเรา แล้วยังต้องขึ้นเขาไปเอาของเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหาปะไร”คำพูดนี้กระตุ้นความโลภในใจของทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างมิต้องสงสัยพวกเขาจึงมิลังเลอีกต่อไป รีบติดตามลั่วชิงยวนไปยังเส้นทางเดิมตลอดทางยังมีงูมากมาย ลั่วชิงยวนก็หาสมุนไพรบางชนิดตลอดทางแล้วมอบให้ทุกคนผูกติดไว้บนตัวและทาตามเท้า เพื่อให้กลิ่นของสมุนไพรนั้นช่วยไล่งูดังนั้นการเดินทางของพวกเขาจึงราบรื่นดี เมื่อยามค่ำคืนมาเยือนพวกเขาก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนนั้นอีกครั้งพวกเขากลับมายังหมู่บ้านเดิมในช่วงกลางดึกสงัดในหมู่บ้านยังมีอาหารหลงเหลืออยู่ ดังนั้นทุกคนจึงหยุดพักกินอาหารกันก่อนเมื่อฟื้นฟูพละกำลังได้แล้วคนทั้งหมดก็ออกเดินทางต่อมาถึงสุสานเดิม ยามนี้วิญญาณอาฆาตเต็มไปทั่วทั้งภูเขา พลังหยินแผ่ซ่านไปทั่วเมื่อลั่วชิงยวนมาถึงที่แห่งนั้นก็พบว่าปากถ้ำเปิดออกแล้วมีคนกล่าวขึ้นว่า “วันนั้นฝูเหมิ่งก็มาที่นี่!”ลั่วชิงยวนตกใจเล็กน้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำแล้ว ภาพที่ปรากฏด้านในนั้นมิเปลี่ยนแปลงมากนัก สิ่งที่เปลี่ยนไปเพียงอย่างเดียวคือโลงศพที่ถูกล่ามโซ่นั้นระเบ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1408

    เมื่อได้ยินดังนั้น ความโลภก็ปรากฏในดวงตาของถูหมิง ใครเล่าจะมิปรารถนาสมบัติของเมืองแห่งภูตผี เขาตอบตกลงในทันที “ได้”ลั่วชิงยวนกล่าวต่อว่า “แต่การนำของสิ่งนี้มาจะต้องเผชิญกับอันตรายบ้าง ดังนั้นอาจจะต้องมีคนของเจ้าสละชีวิต”“แต่คนมากก็แบ่งกันได้น้อย คนตายไปบ้างก็มิจำเป็นต้องสนใจความเป็นความตายของพวกเขา”“ความลับนี้ข้าบอกเพียงเจ้าเท่านั้น เจ้าอย่าได้แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้เชียว”“โดยเฉพาะฉีเสวี่ยเวย”เมื่อได้ยินดังนั้นถูหมิงก็หันกลับไปมอง แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็มิเคยสนใจความเป็นความตายของคนเหล่านั้นอยู่แล้ว“หาได้มีปัญหาไม่!”ถูหมิงรับปากอย่างง่ายดาย แต่ลั่วชิงยวนกลับยังคงระแวดระวัง “ยังมีเรื่องที่ต้องบอกเจ้าอีกอย่าง กองทัพของเมืองแห่งภูตผีถูกพวกข้าปลุกปั่นแล้ว คาดว่าอีกมินานคงไล่ตามมา”“ก่อนที่จะหาของทั้งหกชิ้นพบ อย่าได้คิดที่จะทำสิ่งใดนอกเหนือจากนี้ ท้ายที่สุดแล้ว พวกเราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับศัตรู หากถูกพวกมันจับได้คงไม่มีใครมีจุดจบที่ดี”สีหน้าของถูหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย มิคาดคิดว่าสตรีผู้นี้จะเก่งกาจมากถึงเพียงนี้ กระทั่งปลุกกองทัพของเมืองแห่งภูตผีขึ้นมาได้ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางต้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status