แชร์

บทที่ 1002

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น

ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างมาก

ลั่วชิงยวนก็ตกใจเช่นกัน นกอินทรีจิกหล่างชิ่น นางยกมือขึ้นกุมใบหน้า เลือดไหลออกมามิหยุด

นกอินทรีตัวนั้นบินกลับมาอีกครั้ง และร่อนลงบนแขนของลั่วชิงยวน

ลั่วชิงยวนหันหน้าไปมองด้วยความตกใจ ดวงตาของนกเหยี่ยวคู่นั้นแหลมคม เต็มไปด้วยความฉลาด

สายตาของนกเหยี่ยวนั้น ในบางส่วนช่างคล้ายคลึงกับมนุษย์

“เจ้าเฉลียวฉลาดเพียงนี้เชียวหรือ?”

เดิมทีนางคิดว่า นี่เป็นแผนการของราชาเผ่านอกด่านที่ทำให้นกอินทรีร่อนลงมาเกาะนาง

แต่มิคาดคิดว่านกอินทรีจะปกป้องนางและเข้าโจมตีหล่างชิ่นเช่นนี้

นกอินทรีเอียงศีรษะ แล้วมองนาง

ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเอื้อมมือไปลูบหัวของมัน

มันกะพริบตาโดยไม่มีท่าทีขัดขืนและโกรธเคือง

ทุกคนรอบข้างยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก

หล่างชิ่นมองดูฉากนี้ด้วยความมิเชื่อ "เป็นแบบนี้ได้อย่างไร…?"

ไม่มีใครสามารถสัมผัสเทพปีกอินทรีได้

“สวรรค์ ลั่วชิงยวนเป็นใครกันแน่ เทพปีกอินทรีมิจิกนางแม้แต่น้อย”

“แถมยังดูเชื่องอีกด้วย!”

ทุกคนต่างตกตะลึงกันหมด

ส่วนราชาเผ่านอกด่านนั้นกลับไพล่มือไว้ด้านหลัง แสดงรอยยิ้มพอใจ

“ข้ามิได้ดูผิดไปแน่ เจ้าคือลูกสาวของข้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1003

    ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ทุกคนก็ตกตะลึง“ว่ากระไรนะ ชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ?”“นางคือชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ?”ราชาเผ่านอกด่านก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อได้ยินสิ่งนี้ลั่วชิงยวนมองไปยังหล่างมู่โดยมิเปลี่ยนสีหน้าของเขาหล่างมู่ยังคงตกตะลึงและดูเหมือนจะยังมิเข้าใจว่า เหตุใดลั่วชิงยวนที่สัญญาว่าจะช่วยเขายึดบัลลังก์ วันนี้เสด็จพ่อของเขากลับประกาศว่าลั่วชิงยวนกลายเป็นพี่สาวของเขาเสียแล้วอีกทั้งนางยังจะกลายเป็นราชาองค์ใหม่อีกด้วย“ข้าคือชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการจริง ๆ แต่ความสัมพันธ์ของข้ากับอ๋องผู้สำเร็จราชการนั้น… มิดีเอาเสียเลย”“ในยามที่หล่างชิ่นและหล่างมู่ไปยังแคว้นเทียนเชวียเพื่อแสดงความยินดีกับองค์จักรพรรดิในวันคล้ายวันพระราชสมภพ หล่างมู่ขอนำตัวข้าไปต่อหน้าผู้คนมากมาย และอ๋องผู้สำเร็จราชการก็มิปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย”“หากเขาใส่ใจข้าจริง ๆ เขาจะมิปล่อยข้าไปกับหล่างมู่แน่”“หล่างชิ่นก็รู้เรื่องนี้ดี มิอย่างนั้นเหตุใดเจ้าถึงเปิดโปงเรื่องนี้เอายามนี้เล่า เพราะเจ้าคงมิอยากให้ข้าอยู่ในเผ่านอกด่านตั้งแต่แรก”“เจ้าย่อมรู้ว่าฟู่เฉินหวนกับข้าเข้ากันมิได้ราวน้ำกับไฟ”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1004

    ลั่วชิงยวนนำชนเผ่าทั้งสองเข้าโจมตีเมืองผิงหนิงนางได้เขียนแผนบนแผนที่การป้องกัน และคิดว่าฟู่เฉินหวนจะเข้าใจความตั้งใจของนางด้านหน้าว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดอยู่เลยเสียงกีบม้าดังกึกก้อง พวกเขาเร่งรีบมาจนถึงนอกเมืองผิงหนิงแต่ทว่าบนหอประตูเมืองมีเพียงมิกี่คน เมื่อพวกเขาเห็นพวกนอกด่านมา พวกเขาก็ลั่นกลองเพื่อเตือนทันที และเริ่มจุดคบเพลิงเพื่อส่องสว่างพื้นที่โดยรอบ"ตามคาด ขณะนี้การป้องกันเมืองผิงหนิงอ่อนแอ เราควรฉวยโอกาสนี้ยึดเมืองผิงหนิง"แต่ลั่วชิงยวนปราม "ช้าก่อน! ระวังจะเป็นกับดัก!"หล่างชิ่นเยาะเย้ยจากด้านข้าง "เจ้าบอกเองมิใช่หรือว่า พวกนั้นแอบโจมตีเผ่าของเรา เราจึงมีโอกาสโจมตีเมืองผิงหนิง?ลั่วชิงยวนเหลือบมองนางอย่างเย็นชา "ข้าบอกว่าการป้องกันในเมืองลดลงครึ่งหนึ่ง มิใช่ปราศจากการป้องกัน"“ดูเหมือนเจ้าจะเคยตกหลุมพรางครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมิรู้จักจำเสียที”หล่างชิ่นโกรธเล็กน้อย "เจ้า!"ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นมองหอประตูเมืองแล้วตะโกนว่า "ผู้รักษาประตูเมืองอยู่ที่ใด?"ในมิช้า ร่างอันสง่างามก็ปรากฏขึ้นที่หอประตูเมืองลั่วชิงยวนตกใจมากเมื่อเห็นเขา‘ฟู่เฉินหวน!’‘เหตุใดเป็นเขา!’

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1005

    "อย่างไร?"ฟู่เฉินหวนมิได้พูด และลั่วชิงยวนกล่าวต่อ "ข้ารู้สถานการณ์ในเมืองผิงหนิงเป็นอย่างดี เรามิควรเสียสละโดยมิจำเป็นด้วยกันทั้งคู่อีกเลย"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฟู่เฉินหวนก็กระโดดขึ้นทันทีใช้วิชาตัวเบาบินลงมาจากหอประตูเมืองโดยตรง“ได้ ข้าจะให้การต่อสู้ที่ยุติธรรมแก่เจ้า!”ลั่วชิงยวนยกมุมริมฝีปากขึ้นแต่หล่างชิ่นกลับโกรธมาก "ลั่วชิงยวน เจ้าเคยรับปากนี่ว่าจะใช้โอกาสนี้ยึดเมืองผิงหนิงให้ได้!""นี่เจ้ากำลังทำอะไร!"ในเวลานี้ ชิงหวยที่อยู่ข้าง ๆ นาง มองนางด้วยความเกลียดชัง"เป้าหมายสูงสุดของเราคือการเจรจาสงบศึกเพื่อลดความสูญเสีย! ยามนี้เราลดการบาดเจ็บล้มตายได้ แต่เจ้ากลับยุยงให้เกิดสงคราม มีเจตนาอะไรกันแน่!"“เจ้าคิดจะฆ่ายอดฝีมือในเผ่าของเราทั้งหมด เพื่อที่เจ้าจะได้บรรลุความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งของตัวเองอย่างนั้นรึ?”แน่นอนว่าชิงหวยย่อมมิต้องการให้ญาติและสหายของนางต้องตายในสนามรบอีกลั่วชิงยวนสามารถทำให้อ๋องผู้สำเร็จราชการรับปากสู้กันตัวต่อตัวได้ นับซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอยู่แล้วหล่างชิ่นโกรธ จิตใจอัดอั้นอย่างหนัก แต่ก็ไม่มีคำใดจะโต้แย้งลั่วชิงยวนควบม้าให้เดินออกไปอย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1006

    ฟู่เฉินหวนกระอักเลือดออกมาเต็มปากร่างที่มิอาจยืนได้มั่นคงคุกเข่าลงกับพื้นลั่วชิงยวนรีบวิ่งเข้าไปประคองเขาด้วยความตกใจแต่นัยน์ตาสีแดงก่ำของฟู่เฉินหวนกลับมองนางอย่างเย็นชา ห้ามมิให้นางเข้ามาใกล้“ข้าแพ้แล้ว ยอมจำนน”ลั่วชิงยวนกำดาบแน่นขณะพยายามกลั้นใจเอาไว้“เช่นนั้นตอนนี้เราสามารถเจรจากันได้หรือยัง?” ลั่วชิงยวนส่งสายตาเป็นนัยนางต้องการอาศัยโอกาสในการเจรจาเพื่อเข้าเมืองไปรักษาบาดแผลให้เขาแต่ฟู่เฉินหวนกลับมีน้ำเสียงเย็นชา “ข้ากำลังบาดเจ็บสาหัส เจ้าจะมาเจรจาในยามนี้ก็ดูจะเป็นการรังแกคนเจ็บมากเกินไป”“อีกทั้งยังจะทำให้คนสงสัยว่าเจ้าต้องการฉวยโอกาสนี้ปลิดชีวิตข้าด้วยหรือไม่”“สามวันให้หลังเถิด”ฟู่เฉินหวนพยายามกลั้นเลือดที่พร้อมพุ่งออกมาจากลำคอยามนี้ใบหน้าของฟู่เฉินหวนซีดเผือด ทำให้ลั่วชิงยวนเป็นห่วงยิ่งนักเหตุใดเขาจึงปฏิเสธ!ลั่วชิงยวนจึงกล่าวขึ้น “ย่อมได้ เจรจากันสามวันหลังจากนี้ ถอยทัพ!”การเข้าเมืองไปเจรจาในยามนี้มิเหมาะสมอย่างยิ่งเพราะอาจทำให้คนเข้าใจผิดว่าพวกเผ่านอกด่านจะฉวยโอกาสเข้ายึดเมืองลั่วชิงยวนทำให้ฟู่เฉินหวนบาดเจ็บสาหัส นี่เป็นการสร้างโอกาสที่ดีให้พวกเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1007

    เขี้ยวเหล็กสิบหกอันหลุดออกมาแล้วสองอัน หวังว่าจะไม่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีกมิเช่นนั้นท่านอ๋องจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่วันกัน……ระหว่างทางที่ลั่วชิงยวนและเผ่านอกด่านกำลังเดินทางกลับค่าย นกอินทรีตัวนั้นก็บินมาอีกครั้งมันโบยบินอยู่บนท้องฟ้า ทุกคนล้วนเห็นกันหมด“พญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์”ทุกคนต่างยกแขนขึ้นทำความเคารพด้วยความศรัทธาอย่างที่สุดแต่ว่านกอินทรีตัวนั้นกลับโบยบินวนมาเกาะที่ไหล่ของลั่วชิงยวนทำให้ทุกคนต่างตกใจ“แม้แต่พญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์ก็ยังมาร่วมฉลองชัยชนะของเรา”ทุกคนยิ่งตื่นเต้น ส่งเสียงไชโยโห่ร้องกลับไปยังค่ายลั่วชิงยวนก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน นกอินทรีตัวนี้ดูจะชอบนางมากแต่นางรู้ดีว่านางมิใช่หยวนหนิง นางคือลั่วเหลาต่างหากแล้วเหตุใดพญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์ที่เผ่านอกด่านเคารพสักการะจึงเลือกนางเมื่อกลับมาถึงค่ายก็พบว่าราชาเผ่านอกด่านรออยู่แล้วเมื่อเห็นทุกคนตื่นเต้นดีใจเช่นนี้ก็รู้ผลแล้วใบหน้าปรากฏรอยยิ้มแห่งความโล่งใจ“หยวนหนิง ลูกของพ่อมิทำให้พ่อผิดหวังจริง ๆ”หัวหน้าเผ่าอื่น ๆ ก็ต่างพากันเข้ามาห้อมล้อมดูเหมือนว่ากองกำลังที่ลอบโจมตีพวกเขาก็ถอยทัพไปหมดแล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1008

    “ม้าหนึ่งหมื่นตัว วัวกับแกะอีกหกพันตัว และให้เมืองผิงหนิงเปิดประตูเมืองให้เรา เพื่อให้เราสามารถเข้าเมืองไปซื้อยาและอาหารได้ทุกเมื่อ”“นี่คือสิ่งที่พวกเราต้องการจากการเจรจา”เมื่อได้ฟังดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกใจหล่างชิ่นผู้นี้ช่างไร้ยางอายเสียจริงทั้งที่พวกเขาเป็นฝ่ายเริ่มสงครามก่อน หลังจากที่จับตัวฉินเชียนหลี่ไปแล้ว เบี้ยหวัดทหาร อาวุธและแม้แต่เสบียงในเมืองก็ถูกพวกเขาขโมยไปตอนนี้กลับต้องการเสบียงมากมายถึงเพียงนี้ แล้วยังจะให้เมืองผิงหนิงเปิดประตูเมืองให้พวกเขาอีกเช่นนั้นผู้คนในเมืองผิงหนิงก็จะมิกล้าอาศัยอยู่ที่นั่นอีกต่อไป เพราะอีกมินานก็จะกลายเป็นดินแดนของเผ่านอกด่านหากดินแดนของทั้งสองเขตมิชัดเจนก็จะเกิดเรื่องมิดีขึ้นในมิช้าแต่หัวหน้าเผ่าอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย“เงื่อนไขนี้ยากก็จริง แต่มิใช่ว่านี่คือจุดประสงค์ในการเจรจาของเราหรือ!”“เรามิสามารถกลับไปมือเปล่าอย่างน่าอับอายได้”ราชาเผ่านอกด่านตบไหล่ลั่วชิงยวน “เช่นนั้นเจ้าก็ลองดูเถิดว่าจะต่อรองอะไรได้บ้าง”ทุกคนคิดว่าตอนนี้ฝ่ายตนได้เปรียบจึงสามารถต่อรองสิ่งเหล่านี้ได้หล่างชิ่นมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย้ยหยัน“เรื่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1009

    ราชาเผ่านอกด่านกลับเผยรอยยิ้ม ท่าทางเช่นนี้ค่อนข้างเหมือนกับสมัยที่เขายังอยู่ในวัยหนุ่ม“เอาเถอะ กลับไปพักผ่อนที่ค่ายของตนเองเพื่อรอผลการเจรจาในอีกสามวันข้างหน้าก่อนเถอะ”หลังจากที่ราชาเผ่านอกด่านออกคำสั่ง ทุกคนก็แยกย้ายกันไปลั่วชิงยวนเข้าไปในกระโจมของราชาเผ่านอกด่านเพื่อฝังเข็มถอนพิษให้เขาแต่กลับเห็นราชาเผ่านอกด่านยังคงยิ้มอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่ามีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น“ท่านมีความสุขเรื่องอะไรหรือ?”ราชาเผ่านอกด่านมองนางด้วยสายตาอ่อนโยน “ดีใจที่เจ้ากลับมาอยู่เคียงข้างพ่อ”“เจ้ากล้าหาญ มีไหวพริบและสามารถปราบหล่างชิ่นได้ พ่อก็ยิ่งดีใจมาก!”เมื่อลั่วชิงยวนได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ“ปราบหล่างชิ่นได้หรือ? ในบรรดาลูก ๆ ของท่าน ไม่มีผู้ใดที่ปราบหล่างชิ่นได้เลยหรือ?”“หล่างมู่ก็มิได้หรือ?”ราชาเผ่านอกด่านกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หล่างชิ่นแข็งแกร่งมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เด็กนางก็กดขี่หล่างมู่มาโดยตลอด ทำให้หล่างมู่ยอมจำนนต่อนาง ดังนั้นหล่างมู่จึงโหดเหี้ยมต่อคนนอก แต่กลับเชื่อฟังหล่างชิ่นอย่างมาก”“แม้ว่าตอนนี้จะเงียบขรึม แต่ในใจก็ยังมิกล้าต่อต้านหล่างชิ่น”“ส่วนหล่างชิ่นมีนิสั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1010

    ใบหน้าเขาซีดเซียวราวกับพร้อมจะทรุดลงได้ทุกเมื่อลั่วชิงยวนมิเคยเห็นฟู่เฉินหวนป่วยหนักถึงเพียงนี้มาก่อนแต่ถึงอย่างนั้นความสง่างามบนใบหน้าของเขาก็ยังคงมิลดลงลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเอ่ยปาก “ดูเหมือนว่าบาดแผลของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการจะมิยังค่อยหายดีนัก”“มิเกี่ยวกับเจ้า” ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเย็นชา น้ำเสียงเฉยเมยแม้จะรู้ว่าเป็นการแสดง แต่ลั่วชิงยวนก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวด“ตอนนี้ท่านคงจะขาดแคลนเครื่องยาสมุนไพร พวกข้าสามารถจัดหาให้ได้”“สามารถนำเข้าไปเป็นเงื่อนไขในการเจรจาครั้งนี้ได้”“ท่านคงจะรู้ฝีมือการรักษาของข้าดีอยู่แล้ว ข้ารับรองว่าจะรักษาแผลของท่านให้หายได้”ฟู่เฉินหวนเอ่ยเสียงเย็นชา “พูดมาตามตรงเถอะว่าเจ้าต้องการเงื่อนไขอะไรบ้าง”ลั่วชิงยวนจึงกล่าวเงื่อนไขทั้งหมดออกมาหลังจากฟังจบ ฟู่เฉินหวนก็หัวเราะเยาะ “พวกเจ้าช่างกล้าขอจริง ๆ”ลั่วชิงยวนถามต่อ “แล้วหากข้าแลกด้วยสนหิมะเขาฉีซานเล่า?”ฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้นก็หรี่ตาลงลั่วชิงยวนกำลังบอกเป็นนัยกับเขา“ของสิ่งนี้เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องยาสมุนไพรอื่น ๆ ข้ารับรองว่าจะทำให้แผลของท่านหายสนิทได้ และจะมิส่งผลต่อวรยุทธ”ฟู่เฉินหวนข

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1236

    เฉินชีตกตะลึง หลังจากครุ่นคิดสักพักจึงพยักหน้า “ได้!”ลั่วชิงยวนมองเขาด้วยแววตาลึกล้ำ “จริงหรือ? เจ้าตัดใจได้หรือ?”เฉินชีนั่งลงรินชาใส่ถ้วย แล้วยื่นให้นาง “มีเพียงอาเหลาเท่านั้นที่ทำให้ข้าตัดใจมิได้”“รอให้ร่างกายของเจ้าดีขึ้น ข้าค่อยไปฆ่าลั่วฉิงได้หรือไม่?”“บนเขานี้ไม่มีใครดูแลเจ้า ข้ามิวางใจ”ลั่วชิงยวนก้มหน้า นัยน์ตาฉายแววเย็นชาขณะกล่าวเสียงแผ่วเบา “กลัวข้าหนีหรือ”“เจ้าสบายใจได้ ในเมื่อข้าเต็มใจไปกับเจ้าแล้วก็จะมิกลับไปอีก”เมื่อก้าวออกจากซีหลิง นางก็ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับแคว้นเทียนเชวียอีกต่อไปนางตายครั้งแล้วครั้งเล่า ควรจะตัดใจได้แล้วเวลาที่เหลือ นางจะทำสิ่งที่อาจารย์ยังทำมิเสร็จให้สำเร็จ“เช่นนั้นรอข้าไปหาสมุนไพรมาให้เจ้าก่อน”ตอนนี้เฉินชีอ่อนโยนราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคนแต่ลั่วชิงยวนก็หาได้แปลกใจไม่เอาแน่เอานอนมิได้ นิสัยเปลี่ยนแปลงง่าย นี่คือที่มาของฉายาเฉินชีจอมบ้าคลั่งลั่วชิงยวนหลับตาลง อยากจะหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า มิอยากตื่นขึ้นมาอีกเลยเฉินชีออกจากห้อง ปิดประตูแล้วเดินออกไปหลังจากรีบไปเก็บสมุนไพรแล้วเขาก็วิ่งขึ้นเขาด้วยความเหนื่อยหอบ เมื่อผลักปร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1235

    “เฉินชี ข้าจะกลับไปกับเจ้า ถอยทัพเดี๋ยวนี้” ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาเฉินชีรีบยกมือขึ้นกองทัพแคว้นหลีหยุดรุกคืบเฉินชียื่นมือไปหานาง “เจ้าจะกลับไปกับข้าจริง ๆ ใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนมิหันกลับมามอง แต่ยื่นมือออกไปอย่างเด็ดเดี่ยวเฉินชียกยิ้มอย่างผู้มีชัย แววตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นขณะดึงลั่วชิงยวนขึ้นหลังม้าด้วยกัน แล้วควบม้าหันหลังกลับไปอย่างองอาจส่วนกองทัพแคว้นหลีก็ถอยทัพทันทีเซียวชูเห็นดังนั้นก็พึมพำ “แคว้นหลีถอยทัพแล้ว เป็นพระชายาที่หยุดสงครามครั้งนี้...”ฟู่เฉินหวนกำมือแน่น เห็นร่างที่พร่ามัวค่อย ๆ หายไป เขาร้อนใจจนอยากจะลุกขึ้น แต่เลือดกลับไหลทะลักออกมาสุดท้ายทุกอย่างก็มืดลง“ท่านอ๋อง!”......เฉินชีมีความสุขมาก เขาควบม้าอย่างรวดเร็วข้างหูของลั่วชิงยวนมีเพียงเสียงลมและเสียงพูดด้วยความตื่นเต้นของเฉินชี “อาเหลา นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าเต็มใจขี่ม้ากับข้า”ลั่วชิงยวนกล่าวด้วยแววตาเย็นชา “ช้าลงหน่อย ข้าปวดหู”เฉินชีก็ชะลอความเร็วลงลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนมาที่นี่ นางกินโอสถจตุรธาตุ ดูเหมือนว่าจะได้ผลกับเฉินชีจริง ๆ“ข้ายังมิอยากกลับแคว้นหลี ข้าต้องร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1234

    เสียงกลองศึกดังขึ้นกองทัพแคว้นหลีบุกมาถึงชายแดนอีกครั้งและครั้งนี้ ฟู่เฉินหวนนำทัพออกรบด้วยตัวเองเฉินชีควบม้าอยู่หน้ากองทัพแคว้นหลีเมื่อเห็นฟู่เฉินหวน เขาก็ยกยิ้มเย็นชา “ในที่สุดเจ้าก็มิเป็นเต่าหัวหดแล้ว! ช่างหาได้ยากนัก!”ฟู่เฉินหวนมองเขาด้วยแววตาเย็นชา “นางอยู่ที่ไหน?”เฉินชีหรี่ตาลง ยกยิ้มมุมปากอย่างผู้มีชัย “ฆ่าตายไปแล้ว”แววตาของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยจิตสังหาร“เป็นอย่างไร? จะสู้กับข้าจนตายไปข้างหนึ่งหรือไม่?” ดวงตาของเฉินชีลุกโชน อยากจะลงมือเต็มทีแล้วฟู่เฉินหวนชักกระบี่กระโจนเข้าใส่ในชั่วขณะนั้น เซียวชูก็ใจกระตุกวูบเฉินชียกยิ้มอย่างผู้มีชัย รีบชักกระบี่กระโดดขึ้น วันนี้เขาจะฆ่าฟู่เฉินหวนด้วยมือของเขาเอง!กระบี่ยาวในมือของทั้งสองฟาดฟันกันจนเกิดเสียงดังสนั่นจิตสังหารแผ่ซ่านไปทั่วขณะต่อสู้ ฟู่เฉินหวนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เฉินชี เจ้าคิดว่าใครจะเป็นผู้ชนะ”“ไร้สาระ แน่นอนว่าต้องเป็นข้า! เฉินชีคนนี้มิเคยพ่ายแพ้!” เฉินชีหัวเราะอย่างเย็นชา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงโอหังฟู่เฉินหวนใช้พลังทั้งหมดต้านทานการโจมตีของเฉินชี พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ต่อหน้ากองทัพ หาก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1233

    คนที่เขาต้องการฆ่าคือฟู่เฉินหวน!......ในห้องใต้ดินแห่งหนึ่งมีแผนที่แขวนอยู่บนผนัง บนโต๊ะมีแบบจำลองขนาดใหญ่ ที่นี่คือสถานที่สำหรับวางกลยุทธ์ฟู่เฉินหวนที่ใบหน้าซีดเซียวกำลังดื่มชา “แค่ก แค่ก แค่ก แค่ก...”เซียวชูรีบลูบหลังให้ท่านอ๋อง “ท่านอ๋อง ร่างกายของท่านแย่ลงเรื่อย ๆ อยู่ที่ห้องใต้ดินมิได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้างล่างนี้หนาวเย็นเกินไป”หลังจากที่ฟู่เฉินหวนหยุดไอก็โบกมือ “หากออกไปจะถูกเฉินชีหาเจอ”“เขาเป็นชาวแคว้นหลี มีวิธีมากมายในการตามหาข้า”“มีเพียงที่นี่เท่านั้นที่อยู่ได้ พลังหยินปกปิดพลังหยางจึงหามิพบ”เซียวชูกล่าวอย่างจนใจ “มีเพียงท่านอ๋องเท่านั้นที่คิดวิธีนี้ออก”ที่นี่คือห้องใต้ดินของสัปเหร่อในสุสานเดิมทีห้องใต้ดินนี้ใช้สำหรับเก็บอาหารของสัปเหร่อ ตอนนี้ด้านบนเต็มไปด้วยหลุมศพในห้องใต้ดินนั้นหนาวเย็นมาก อาภรณ์หนาแค่ไหนก็มิสามารถต้านทานความหนาวเย็นได้หนึ่งถึงสองเดือนมานี้ ท่านอ๋องอาศัยอยู่ที่นี่ เพราะต้องหลบหนีการตามล่าของเฉินชีคอยวางแผนในซีหลิงอย่างลับ ๆ และควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดจนถึงตอนนี้ยังมิเคยแพ้ มิเพียงแต่มิให้กองทัพแคว้นหลีบุกเข้าซีหลิงได้เท่านั้น แต่ยั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1232

    “จะได้มิต้องกังวล”ลั่วอวิ๋นสี่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกใจหายดวงตาใต้หน้ากากของนางแดงก่ำ อยากจะพูดบางอย่างออกมาแต่ก็พูดมิออกนางจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบเชียบเมื่ออยู่คนเดียวแล้วก็พิงกำแพงร้องไห้ออกมาเหตุใดญาติพี่น้องของนางจึงต้องจากไปทีละคนลั่วชิงยวนเอนหลังพิงเตียงพลางครุ่นคิด นางรู้ว่าคำพูดนั้นโหดร้าย ทว่าเจ็บแต่จบดีกว่าเจ็บเรื้อรังบางทีในภายภาคหน้านางอาจจะหาวิธีรักษาชีวิตได้ ถึงตอนนั้นค่อยบอกข่าวนี้กับพวกนาง อาจจะเป็นเรื่องน่ายินดีก็เป็นได้หลังจากกินยาแล้วลั่วชิงยวนก็พักผ่อนครึ่งวัน จากนั้นจึงออกเดินทางไปซีหลิงต้องเดินทางอย่างช้า ๆ ร่างกายของลั่วชิงยวนมิสามารถทนต่อการเดินทางไกลได้อีกแล้วจึงต้องหยุดพักบ่อยครั้งในคืนที่แสงจันทร์กระจ่าง ลั่วชิงยวนจะใช้เข็มทิศอาณัติสวรรค์ ซึ่งพลังที่ดูดซับมาจะทำให้ความเหนื่อยล้าหายไปใช้เวลาประมาณครึ่งเดือนจึงถึงซีหลิงส่วนเฉินชีนั้นเดินทางไปกลับหนึ่งรอบแล้วในวันที่เดินทางถึงซีหลิง ลั่วชิงยวนพักอยู่ที่โรงเตี๊ยม ส่วนฉู่จิ้งรีบไปหาซ่งเชียนฉู่เขาจึงแยกทางกับพวกนางลั่วชิงยวนคิดว่าควรจะให้ลั่วอวิ๋นสี่กลับไปได้แล้ว จึงให้จือเฉ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1231

    บัดนี้การต่อสู้ระหว่างทั้งสองกองทัพหยุดลงแล้ว แต่ยังคงอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดต่อไปถึงแม้ว่าเฉินชีอยากจะฆ่าฟู่เฉินหวน แต่ก็มิยอมให้คนของตัวเองตายอย่างสูญเปล่าหากพูดถึงกลยุทธ์ แม้แต่เฉินชียังต้องยอมรับว่าฟู่เฉินหวนเก่งกาจมาก ถือเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งการจะฆ่าเขานั้นมิใช่เรื่องง่ายดังนั้นจึงหยุดรบก่อนแล้วค่อยหาโอกาสหลายวันมานี้ เขาปลอมตัวเข้าไปในซีหลิงเพื่อสืบข่าวและสังเกตการณ์การป้องกันของซีหลิงแต่การป้องกันของซีหลิงนั้นแปลกประหลาด เพราะมิเห็นเลยว่าคนอยู่ที่ไหน มิรู้ว่าที่ใดมีกำลังพลมาก ที่ใดมีกำลังพลน้อยแม้แต่ร่องรอยของฟู่เฉินหวนก็ยังมิแน่นอนเขาคิดว่าตัวเองสามารถเข้าไปในซีหลิงได้โดยไม่มีใครรู้ บนใต้หล้านี้มีน้อยคนนักที่จะมีวรยุทธ์สูงส่งเทียบเท่าเขาแต่กลับหามิพบแม้กระทั่งที่ซ่อนของฟู่เฉินหวนมีค่ายประจำการอยู่มิน้อย แต่เฉินชีก็ดูออกว่าทั้งหมดล้วนเป็นภาพลวงตาที่ใช้หลอกล่อเขาวันนี้เฉินชียังคงเดินไปมาในซีหลิงเพื่อสำรวจไปรอบ ๆ และทันใดนั้นก็ได้รับจดหมายฉบับหนึ่งเมื่อเห็นเนื้อความในจดหมาย สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนไปก่อนจะรีบควบม้าออกไปทันที......อากาศกลับมาหนาวเย็น ล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1230

    “ท่านแม่... ท่านอย่าทิ้งข้าไปอีกเลย ท่านไปที่ใด ข้าก็จะไปที่นั่น!”เมื่อจือเฉาได้ยินดังนั้นก็ตกใจฉู่จิ้งเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ“เจ้ามีลูกชายโตถึงเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใด?”เสียงนี้ฟังดูแล้วน่าจะอายุมากกว่าลั่วชิงยวนเสียอีกลั่วชิงยวนกล่าวอย่างจนใจ “ก็... อยู่ ๆ ก็มี...”หลังจากกล่าวจบ นางก็มองไปที่ลั่วอวิ๋นสี่ “ตอนนี้วรยุทธ์ของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? มิต้องการเขาแล้วใช่หรือไม่?”ลั่วอวิ๋นสี่พยักหน้า “แข็งแกร่งขึ้นมากแล้ว น่าจะปกป้องพี่หญิงได้แล้ว”“ส่วนเตี่ยฉุย ให้เขาตามเจ้าไปเถิด”ลั่วชิงยวนตอบรับ “ได้ เมื่อไปถึงซีหลิงแล้วข้าจะหาวิธีพาเขาออกมา”......ลั่วฉิงถูกขังอยู่ในวงเวท พยายามดิ้นรนออกไป แต่ก็ออกไปมิได้วงเวทนี้ขังนางไว้อย่างแน่นหนาเมื่อเห็นเลือดถูกดูดออกไปจากร่าง ลั่วฉิงก็รู้สึกหวาดกลัวอย่างมากนางจะตายที่นี่มิได้!นางรอแล้วรอเล่า ในที่สุดเมื่อฟ้าเริ่มสางก็มีคนเดินผ่านมาลั่วฉิงราวกับพบเจอผู้ช่วยชีวิต นางนอนคว่ำอยู่บนพื้น แล้วยื่นมือออกไป “ช่วยข้าด้วย...”ชายที่แบกจอบตกใจ รีบนั่งยอง ๆ และกล่าวถาม “แม่นาง เจ้าเป็นอะไร? จะไปหาหมอหรือไม่?”ลั่วฉิงเห็นเขาเข้ามาในเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1229

    ร่างนั้นขวางหน้าลั่วฉิงไว้แล้วเข้าโรมรันต่อสู้กับลั่วฉิงหลังจากปะทะกันหลายกระบวนท่า ถึงแม้จะเสียเปรียบเล็กน้อย แต่ก็สามารถขวางลั่วฉิงไว้ได้ลั่วชิงยวนถือเข็มทิศตามหาตำแหน่งของฉู่จิ้งเมื่อเห็นการต่อสู้ที่ดุเดือดก็ตกใจเล็กน้อย แล้วรีบวิ่งเข้าไปปลดวงเวทปล่อยตัวฉู่จิ้งออกมาเมื่อลั่วฉิงเห็นลั่วชิงยวนมาก็พลันตกตะลึง และถูกฝ่ามือตบจนกระเด็นไปหลายเมตรนางเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ “ลั่วชิงยวน เจ้านี่เอง!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “วงเวทของเจ้ายังอ่อนหัดนัก”“ข้าจะมอบให้เจ้าอีกหนึ่ง”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลง หยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ออกมา“นองเลือดแปดทิศ!”ทันใดนั้น วงเวทสีทองที่ใหญ่โตมโหฬารพลันผุดขึ้นแผ่ขยายไปบนท้องฟ้าปกคลุมลั่วฉิงไว้ลั่วฉิงอยากจะหนี แต่หนีมิพ้นนางกางมือออก เห็นเหมือนเส้นไหมสีแดงลอยขึ้นมาจากฝ่ามือถูกวงเวทดูดเข้าไปจากนั้นนางก็ตระหนักได้ด้วยความตกใจว่า นี่คือเลือดของนาง!ลั่วชิงยวนมองนางด้วยแววตาเย็นชา “ภายในเจ็ดวัน เจ้าจะกลายเป็นศพแห้ง”“เดิมทีข้าเห็นแก่มิตรภาพแห่งสำนัก จึงจะไว้ชีวิตเจ้า แต่เจ้ากลับรบกวนข้ามิเลิก กัดมิยอมปล่อย”“เจ้าต้องการเข็มทิศอาณัติสวรรค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1228

    แต่ลั่วชิงยวนกลับมิเปลี่ยนสีหน้า ในดวงตามีเพียงความเย็นชามือกำกริชแน่น“ไม่มีใครอยากเป็นนักโทษของผู้อื่น หม่อมฉันก็เช่นกัน”“มาถึงขั้นนี้ ท่านกับหม่อมฉันก็เป็นศัตรูกันแล้ว”“อย่ามาใช้น้ำเสียงเหยียดหยามมาสั่งหม่อมฉันอีก”“หม่อมฉัน ลั่วชิงยวน มิเกี่ยวข้องอะไรกับท่านอีกต่อไป!”กล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็คว้าปอยผมมาตัดขาดทันใดแล้วปล่อยให้ปลิวไปในอากาศ“หม่อมฉันตัดด้ายที่ผูกพันท่านกับหม่อมฉันด้วยมือของหม่อมฉันเอง นับจากนี้เราจะกลายเป็นคนแปลกหน้าของกันและกันเท่านั้น”“หากท่านยังมารบกวนอีก หม่อมฉันจะฆ่าท่านโดยมิลังเล”ใต้ความมืดมิดยามรัตติกาล แววตาของลั่วชิงยวนช่างเย็นชาเหลือเกินแววตาที่มิคุ้นเคยราวกับมองคนแปลกหน้า ในดวงตาไม่มีความรักใคร่หลงเหลืออยู่อีกแล้วการตัดครั้งนี้ถือว่าตัดความอาลัยทั้งหมดของนางแล้วนับจากนี้ นางจะมิหันหลังกลับไปอีก!ลั่วชิงยวนก้าวเท้าเดินจะจากไปแต่ฟู่เฉินหวนกลับพุ่งเข้ามา คว้าไหล่ของนาง หมายจะบีบคอเพื่อควบคุมนางพลังที่รุนแรงทำให้นางรู้สึกกดดัน พยายามหลบหลีกอย่างสุดกำลังร่างกายของนางตอนนี้มิอาจสู้กับฟู่เฉินหวนได้เลย ลั่วชิงยวนจึงได้แต่ใช้กลอุบายถอยหลั

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status