Share

บทที่ 1004

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนนำชนเผ่าทั้งสองเข้าโจมตีเมืองผิงหนิง

นางได้เขียนแผนบนแผนที่การป้องกัน และคิดว่าฟู่เฉินหวนจะเข้าใจความตั้งใจของนาง

ด้านหน้าว่างเปล่า ไม่มีสิ่งใดอยู่เลย

เสียงกีบม้าดังกึกก้อง พวกเขาเร่งรีบมาจนถึงนอกเมืองผิงหนิง

แต่ทว่าบนหอประตูเมืองมีเพียงมิกี่คน เมื่อพวกเขาเห็นพวกนอกด่านมา พวกเขาก็ลั่นกลองเพื่อเตือนทันที และเริ่มจุดคบเพลิงเพื่อส่องสว่างพื้นที่โดยรอบ

"ตามคาด ขณะนี้การป้องกันเมืองผิงหนิงอ่อนแอ เราควรฉวยโอกาสนี้ยึดเมืองผิงหนิง"

แต่ลั่วชิงยวนปราม "ช้าก่อน! ระวังจะเป็นกับดัก!"

หล่างชิ่นเยาะเย้ยจากด้านข้าง "เจ้าบอกเองมิใช่หรือว่า พวกนั้นแอบโจมตีเผ่าของเรา เราจึงมีโอกาสโจมตีเมืองผิงหนิง?

ลั่วชิงยวนเหลือบมองนางอย่างเย็นชา "ข้าบอกว่าการป้องกันในเมืองลดลงครึ่งหนึ่ง มิใช่ปราศจากการป้องกัน"

“ดูเหมือนเจ้าจะเคยตกหลุมพรางครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังมิรู้จักจำเสียที”

หล่างชิ่นโกรธเล็กน้อย "เจ้า!"

ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นมองหอประตูเมืองแล้วตะโกนว่า "ผู้รักษาประตูเมืองอยู่ที่ใด?"

ในมิช้า ร่างอันสง่างามก็ปรากฏขึ้นที่หอประตูเมือง

ลั่วชิงยวนตกใจมากเมื่อเห็นเขา

‘ฟู่เฉินหวน!’

‘เหตุใดเป็นเขา!’
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1005

    "อย่างไร?"ฟู่เฉินหวนมิได้พูด และลั่วชิงยวนกล่าวต่อ "ข้ารู้สถานการณ์ในเมืองผิงหนิงเป็นอย่างดี เรามิควรเสียสละโดยมิจำเป็นด้วยกันทั้งคู่อีกเลย"เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ฟู่เฉินหวนก็กระโดดขึ้นทันทีใช้วิชาตัวเบาบินลงมาจากหอประตูเมืองโดยตรง“ได้ ข้าจะให้การต่อสู้ที่ยุติธรรมแก่เจ้า!”ลั่วชิงยวนยกมุมริมฝีปากขึ้นแต่หล่างชิ่นกลับโกรธมาก "ลั่วชิงยวน เจ้าเคยรับปากนี่ว่าจะใช้โอกาสนี้ยึดเมืองผิงหนิงให้ได้!""นี่เจ้ากำลังทำอะไร!"ในเวลานี้ ชิงหวยที่อยู่ข้าง ๆ นาง มองนางด้วยความเกลียดชัง"เป้าหมายสูงสุดของเราคือการเจรจาสงบศึกเพื่อลดความสูญเสีย! ยามนี้เราลดการบาดเจ็บล้มตายได้ แต่เจ้ากลับยุยงให้เกิดสงคราม มีเจตนาอะไรกันแน่!"“เจ้าคิดจะฆ่ายอดฝีมือในเผ่าของเราทั้งหมด เพื่อที่เจ้าจะได้บรรลุความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งของตัวเองอย่างนั้นรึ?”แน่นอนว่าชิงหวยย่อมมิต้องการให้ญาติและสหายของนางต้องตายในสนามรบอีกลั่วชิงยวนสามารถทำให้อ๋องผู้สำเร็จราชการรับปากสู้กันตัวต่อตัวได้ นับซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอยู่แล้วหล่างชิ่นโกรธ จิตใจอัดอั้นอย่างหนัก แต่ก็ไม่มีคำใดจะโต้แย้งลั่วชิงยวนควบม้าให้เดินออกไปอย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1006

    ฟู่เฉินหวนกระอักเลือดออกมาเต็มปากร่างที่มิอาจยืนได้มั่นคงคุกเข่าลงกับพื้นลั่วชิงยวนรีบวิ่งเข้าไปประคองเขาด้วยความตกใจแต่นัยน์ตาสีแดงก่ำของฟู่เฉินหวนกลับมองนางอย่างเย็นชา ห้ามมิให้นางเข้ามาใกล้“ข้าแพ้แล้ว ยอมจำนน”ลั่วชิงยวนกำดาบแน่นขณะพยายามกลั้นใจเอาไว้“เช่นนั้นตอนนี้เราสามารถเจรจากันได้หรือยัง?” ลั่วชิงยวนส่งสายตาเป็นนัยนางต้องการอาศัยโอกาสในการเจรจาเพื่อเข้าเมืองไปรักษาบาดแผลให้เขาแต่ฟู่เฉินหวนกลับมีน้ำเสียงเย็นชา “ข้ากำลังบาดเจ็บสาหัส เจ้าจะมาเจรจาในยามนี้ก็ดูจะเป็นการรังแกคนเจ็บมากเกินไป”“อีกทั้งยังจะทำให้คนสงสัยว่าเจ้าต้องการฉวยโอกาสนี้ปลิดชีวิตข้าด้วยหรือไม่”“สามวันให้หลังเถิด”ฟู่เฉินหวนพยายามกลั้นเลือดที่พร้อมพุ่งออกมาจากลำคอยามนี้ใบหน้าของฟู่เฉินหวนซีดเผือด ทำให้ลั่วชิงยวนเป็นห่วงยิ่งนักเหตุใดเขาจึงปฏิเสธ!ลั่วชิงยวนจึงกล่าวขึ้น “ย่อมได้ เจรจากันสามวันหลังจากนี้ ถอยทัพ!”การเข้าเมืองไปเจรจาในยามนี้มิเหมาะสมอย่างยิ่งเพราะอาจทำให้คนเข้าใจผิดว่าพวกเผ่านอกด่านจะฉวยโอกาสเข้ายึดเมืองลั่วชิงยวนทำให้ฟู่เฉินหวนบาดเจ็บสาหัส นี่เป็นการสร้างโอกาสที่ดีให้พวกเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1007

    เขี้ยวเหล็กสิบหกอันหลุดออกมาแล้วสองอัน หวังว่าจะไม่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีกมิเช่นนั้นท่านอ๋องจะมีชีวิตอยู่ได้อีกกี่วันกัน……ระหว่างทางที่ลั่วชิงยวนและเผ่านอกด่านกำลังเดินทางกลับค่าย นกอินทรีตัวนั้นก็บินมาอีกครั้งมันโบยบินอยู่บนท้องฟ้า ทุกคนล้วนเห็นกันหมด“พญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์”ทุกคนต่างยกแขนขึ้นทำความเคารพด้วยความศรัทธาอย่างที่สุดแต่ว่านกอินทรีตัวนั้นกลับโบยบินวนมาเกาะที่ไหล่ของลั่วชิงยวนทำให้ทุกคนต่างตกใจ“แม้แต่พญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์ก็ยังมาร่วมฉลองชัยชนะของเรา”ทุกคนยิ่งตื่นเต้น ส่งเสียงไชโยโห่ร้องกลับไปยังค่ายลั่วชิงยวนก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน นกอินทรีตัวนี้ดูจะชอบนางมากแต่นางรู้ดีว่านางมิใช่หยวนหนิง นางคือลั่วเหลาต่างหากแล้วเหตุใดพญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์ที่เผ่านอกด่านเคารพสักการะจึงเลือกนางเมื่อกลับมาถึงค่ายก็พบว่าราชาเผ่านอกด่านรออยู่แล้วเมื่อเห็นทุกคนตื่นเต้นดีใจเช่นนี้ก็รู้ผลแล้วใบหน้าปรากฏรอยยิ้มแห่งความโล่งใจ“หยวนหนิง ลูกของพ่อมิทำให้พ่อผิดหวังจริง ๆ”หัวหน้าเผ่าอื่น ๆ ก็ต่างพากันเข้ามาห้อมล้อมดูเหมือนว่ากองกำลังที่ลอบโจมตีพวกเขาก็ถอยทัพไปหมดแล

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1008

    “ม้าหนึ่งหมื่นตัว วัวกับแกะอีกหกพันตัว และให้เมืองผิงหนิงเปิดประตูเมืองให้เรา เพื่อให้เราสามารถเข้าเมืองไปซื้อยาและอาหารได้ทุกเมื่อ”“นี่คือสิ่งที่พวกเราต้องการจากการเจรจา”เมื่อได้ฟังดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกใจหล่างชิ่นผู้นี้ช่างไร้ยางอายเสียจริงทั้งที่พวกเขาเป็นฝ่ายเริ่มสงครามก่อน หลังจากที่จับตัวฉินเชียนหลี่ไปแล้ว เบี้ยหวัดทหาร อาวุธและแม้แต่เสบียงในเมืองก็ถูกพวกเขาขโมยไปตอนนี้กลับต้องการเสบียงมากมายถึงเพียงนี้ แล้วยังจะให้เมืองผิงหนิงเปิดประตูเมืองให้พวกเขาอีกเช่นนั้นผู้คนในเมืองผิงหนิงก็จะมิกล้าอาศัยอยู่ที่นั่นอีกต่อไป เพราะอีกมินานก็จะกลายเป็นดินแดนของเผ่านอกด่านหากดินแดนของทั้งสองเขตมิชัดเจนก็จะเกิดเรื่องมิดีขึ้นในมิช้าแต่หัวหน้าเผ่าอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย“เงื่อนไขนี้ยากก็จริง แต่มิใช่ว่านี่คือจุดประสงค์ในการเจรจาของเราหรือ!”“เรามิสามารถกลับไปมือเปล่าอย่างน่าอับอายได้”ราชาเผ่านอกด่านตบไหล่ลั่วชิงยวน “เช่นนั้นเจ้าก็ลองดูเถิดว่าจะต่อรองอะไรได้บ้าง”ทุกคนคิดว่าตอนนี้ฝ่ายตนได้เปรียบจึงสามารถต่อรองสิ่งเหล่านี้ได้หล่างชิ่นมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย้ยหยัน“เรื่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1009

    ราชาเผ่านอกด่านกลับเผยรอยยิ้ม ท่าทางเช่นนี้ค่อนข้างเหมือนกับสมัยที่เขายังอยู่ในวัยหนุ่ม“เอาเถอะ กลับไปพักผ่อนที่ค่ายของตนเองเพื่อรอผลการเจรจาในอีกสามวันข้างหน้าก่อนเถอะ”หลังจากที่ราชาเผ่านอกด่านออกคำสั่ง ทุกคนก็แยกย้ายกันไปลั่วชิงยวนเข้าไปในกระโจมของราชาเผ่านอกด่านเพื่อฝังเข็มถอนพิษให้เขาแต่กลับเห็นราชาเผ่านอกด่านยังคงยิ้มอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่ามีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น“ท่านมีความสุขเรื่องอะไรหรือ?”ราชาเผ่านอกด่านมองนางด้วยสายตาอ่อนโยน “ดีใจที่เจ้ากลับมาอยู่เคียงข้างพ่อ”“เจ้ากล้าหาญ มีไหวพริบและสามารถปราบหล่างชิ่นได้ พ่อก็ยิ่งดีใจมาก!”เมื่อลั่วชิงยวนได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ“ปราบหล่างชิ่นได้หรือ? ในบรรดาลูก ๆ ของท่าน ไม่มีผู้ใดที่ปราบหล่างชิ่นได้เลยหรือ?”“หล่างมู่ก็มิได้หรือ?”ราชาเผ่านอกด่านกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หล่างชิ่นแข็งแกร่งมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เด็กนางก็กดขี่หล่างมู่มาโดยตลอด ทำให้หล่างมู่ยอมจำนนต่อนาง ดังนั้นหล่างมู่จึงโหดเหี้ยมต่อคนนอก แต่กลับเชื่อฟังหล่างชิ่นอย่างมาก”“แม้ว่าตอนนี้จะเงียบขรึม แต่ในใจก็ยังมิกล้าต่อต้านหล่างชิ่น”“ส่วนหล่างชิ่นมีนิสั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1010

    ใบหน้าเขาซีดเซียวราวกับพร้อมจะทรุดลงได้ทุกเมื่อลั่วชิงยวนมิเคยเห็นฟู่เฉินหวนป่วยหนักถึงเพียงนี้มาก่อนแต่ถึงอย่างนั้นความสง่างามบนใบหน้าของเขาก็ยังคงมิลดลงลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเอ่ยปาก “ดูเหมือนว่าบาดแผลของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการจะมิยังค่อยหายดีนัก”“มิเกี่ยวกับเจ้า” ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเย็นชา น้ำเสียงเฉยเมยแม้จะรู้ว่าเป็นการแสดง แต่ลั่วชิงยวนก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวด“ตอนนี้ท่านคงจะขาดแคลนเครื่องยาสมุนไพร พวกข้าสามารถจัดหาให้ได้”“สามารถนำเข้าไปเป็นเงื่อนไขในการเจรจาครั้งนี้ได้”“ท่านคงจะรู้ฝีมือการรักษาของข้าดีอยู่แล้ว ข้ารับรองว่าจะรักษาแผลของท่านให้หายได้”ฟู่เฉินหวนเอ่ยเสียงเย็นชา “พูดมาตามตรงเถอะว่าเจ้าต้องการเงื่อนไขอะไรบ้าง”ลั่วชิงยวนจึงกล่าวเงื่อนไขทั้งหมดออกมาหลังจากฟังจบ ฟู่เฉินหวนก็หัวเราะเยาะ “พวกเจ้าช่างกล้าขอจริง ๆ”ลั่วชิงยวนถามต่อ “แล้วหากข้าแลกด้วยสนหิมะเขาฉีซานเล่า?”ฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้นก็หรี่ตาลงลั่วชิงยวนกำลังบอกเป็นนัยกับเขา“ของสิ่งนี้เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องยาสมุนไพรอื่น ๆ ข้ารับรองว่าจะทำให้แผลของท่านหายสนิทได้ และจะมิส่งผลต่อวรยุทธ”ฟู่เฉินหวนข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1011

    จู่ ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นจากด้านนอกราวกับว่ามีอะไรบางอย่างถล่มลงมามินานก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งมาอย่างเร่งรีบ“รายงาน! ทหารเผ่านอกด่านยกทัพมาลอบโจมตีพ่ะย่ะค่ะ!”“พวกมันใช้แม่ทัพฉินเป็นโล่มนุษย์ แล้วบุกเข้ามาจากจุดที่กำแพงเมืองทางทิศเหนือพังทลายลงมา บัดนี้บุกเข้ามาในเมืองผิงหนิงแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” เมื่อได้ฟังดังนั้น สีหน้าของหลายคนในห้องก็เปลี่ยนไปอย่างมาก“ว่ากระไรนะ? บุกเมืองแล้วหรือ?”“นี่มันเกิดอะไรขึ้น...”หัวหน้าเผ่าทั้งสองยังมิทันได้คิดให้เข้าใจแววตาอันแหลมคมของฟู่เฉินหวนก็จ้องมาที่พวกเขาสามคน“การเจรจาสันติภาพเป็นเรื่องหลอกลวง การโจมตีแบบลอบกัดต่างหากที่เป็นของจริง!”“ทหาร จับตัวพวกมันสามคนไปขังไว้! คุมตัวให้แน่นหนา!”ในวินาทีต่อมา เหล่าทหารก็กรูเข้ามาจับตัวพวกเขาสามคนไปขังไว้ในห้องมืดที่มีการเฝ้าระวังอย่างแน่นหนา“ใครกันที่มิเชื่อฟังคำสั่งแล้วลงมือเองเช่นนี้! การเจรจาสันติภาพจะสำเร็จอยู่แล้ว!” หงเซียวโกรธจัดจนชกกำแพงอย่างแรง“จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากหล่างชิ่น!” ถูจินโกรธจนเคราแทบตั้ง“นางต้องการสืบทอดบัลลังก์จึงมิยอมให้หยวนหนิงเจรจาสำเร็จ!”หงเซียวตกใจก่อนจะตำหนิตั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1012

    “เหล่าชนเผ่านอกด่านทั้งหลายจงถอยทัพบัดเดี๋ยวนี้!”เสียงอันหนักแน่นของลั่วชิงยวนดังก้องกังวานแหวนอินทรีในมือของนางส่องประกายวาววับระยับท่ามกลางแสงอาทิตย์เสียงร้องอันแหลมคมดังก้องมาจากท้องฟ้า แล้วนกอินทรีตัวหนึ่งก็โผบินมามันบินมาเกาะที่แขนของลั่วชิงยวนเมื่อทหารเผ่านอกด่านทั้งหลายเห็นดังนั้นต่างก็ตกใจยิ่งนัก“นั่นคือแหวนขององค์ราชา”“นั่นคือคำสั่งของพญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์”“ถอยทัพ! ถอยทัพ!”ทุกคนต่างก้มลงคำนับพญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็ถอยทัพไปไม่มีผู้ใดสนใจหล่างชิ่นอีกต่อไปแล้วฟู่เฉินหวนเงยหน้ามองร่างบางของลั่วชิงยวน แสงตะวันสีทองสาดส่องลงบนบ่าของนางภาพอันน่าสะเทือนใจคือภาพกองทัพเถื่อนแสดงความเคารพต่อนางทำให้เขาเกิดความรู้สึกผิดแปลกไปว่านางเป็นเทพจริง ๆเทพผู้มองสรรพสิ่งอย่างหยามหยัน สูงส่งจนผู้ใดมิอาจล่วงเกินได้หล่างชิ่นตกใจกลัวผู้เป็นบิดาได้มอบแหวนอินทรีให้แก่นางตั้งนานแล้ว!มิว่าจะทำอย่างไรก็ไร้ประโยชน์!ไม่มีอะไรต้องแย่งชิงอีกแล้ว!ขณะที่ลั่วชิงยวนหันหลังกลับเพื่อจะจับหล่างชิ่นทันใดนั้นเงาร่างอันว่องไวก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วคว้าร่างของหล่างชิ่นก

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1286

    ภายในห้องบรรทมอันโอ่อ่าฉินอี้เดินมาที่ข้างเตียงด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลยามนี้เกาเหมียวเหมี่ยวได้ทำแผลและกินโอสถเรียบร้อยแล้ว แต่ใบหน้าของนางยังคงซีดอยู่เล็กน้อยเมื่อเห็นฉินอี้เดินมาหาด้วยใบหน้าฟกช้ำและเปื้อนเลือด เกาเหมียวเหมี่ยวจึงมองเขาด้วยความมิอยากเชื่อ“ท่านแพ้ลั่วชิงยวนรึ?”ฉินอี้ขมวดคิ้วเป็นปม พลางมองบาดแผลของเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยความกังวลและพูดว่า “เหมียวเหมี่ยว บาดแผลเจ้าสาหัสมาก ช่วงสองวันนี้เจ้าควรพักผ่อนให้ดีก่อน อย่าเพิ่งเดินไปไหนมาไหนเลย”ทว่าเกาเหมียวเหมี่ยวกลับมิได้สนใจในความห่วงใยของฉินอี้นางจ้องมองฉินอี้ด้วยความโมโหแล้วยกฝ่ามือฟาดไปหนึ่งฉาดฉินอี้มิประหลาดใจแม้แต่น้อย แต่กลับมองเกาเหมียวเหมี่ยวด้วยสีหน้าจริงจังและเป็นห่วง“เหมียวเหมี่ยว...”เกาเหมียวเหมี่ยวโมโหมากจนเอามือฟาดเขาสองครั้งติดต่อกันและแสดงความเกรี้ยวกราดออกมา “ขยะไร้ค่า! ขยะไร้ค่า!”“ท่านเป็นถึงองค์ชายผู้สูงส่ง แต่กลับถูกลั่วชิงยวนจัดการจนมีสภาพเช่นนี้ อับอายจนมิรู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด!”เกาเหมียวเหมี่ยวโกรธจนแทบอยากจะฉีกลั่วชิงยวนเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยดวงตาของฉินอี้หรี่ลง แต่กลับมิได

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1285

    แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังต่อสู้กันอย่างสูสีวิชาฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างฉับพลันของลั่วชิงยวนทำให้ฉินอี้มิทันตั้งตัว เขาถูกรัวหมัดใส่อย่างต่อเนื่องจนลอยกระเด็นออกไป และกระอักเลือดออกมาการต่อสู้สิ้นจบลงในพริบตาเดียวหลายคนที่อยู่รอบด้านล้วนเห็นมิชัด“เมื่อครู่เกิดกระไรขึ้น?”“ต่อสู้กันอยู่มิใช่หรือ? เหตุใดจู่ ๆ ฉินอี้ถึงแพ้ได้เล่า?”ลั่วชิงยวนมองฉินอี้ด้วยสายตาเย็นชา “ดูเหมือนวรยุทธ์ขององค์ชายใหญ่จะเป็นอย่างที่คนเขาลือกันนะเพคะ”เทียบกับคนทั่วไปแล้ว วรยุทธ์ของฉินอี้ก็ถือว่ามิได้อ่อนด้อยเลยแต่สำหรับคนที่เป็นถึงองค์ชายนั้นช่างดูอ่อนแอนักเมื่อครู่ที่ลั่วชิงยวนลองทดสอบ ดูเหมือนว่าเขายังคงมีทักษะวรยุทธ์แบบเดียวกับที่เคยเรียนมาเมื่อก่อน และมิได้มีความก้าวหน้ามากนักเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรหากฉินอี้เพียรพยายามมากกว่านี้ ผลลัพธ์ก็คงมิเป็นเช่นนี้ฉินอีจ้องนางด้วยโทสะ ดูเหมือนจะเจ็บใจที่วรยุทธ์ของตนอ่อนด้อยเกินไป ทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์รอบข้างยิ่งบาดหูมากขึ้นไปอีกเขากัดฟันพลางกำหมัดแน่น และพุ่งเข้าหาลั่วชิงยวนอย่างดุร้ายเขามิยอมพ่ายแพ้เช่นนี้หรอกแต่เขากลับมิสามารถเอาชนะลั่วชิงย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1284

    ลั่วชิงยวนตกตะลึง อารมณ์ความรู้สึกของนางดำดิ่งเป็นไปตามที่นางคาดเดาเอาไว้ว่ามิเหลือแม้แต่ศพอย่างนั้นหรือ?“มิพบศพด้วยซ้ำ” อวี๋โหรวกล่าวเสียงขรึมดวงตาของลั่วชิงยวนหม่นลง ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะถูกกำจัดไปแล้วจริง ๆ ส่วนจะกำจัดอย่างไรและทิ้งไว้ที่ไหน บางทีอาจมีเพียงฆาตกรเท่านั้นที่รู้“น่าเสียดายจริง ๆ” ลั่วชิงยวนทอดถอนใจด้วยความเสียดายอวี๋โหรวจ้องนางด้วยสายตาจริงจังและพูดอย่างหนักแน่น “มิน่าเสียดายหรอก ข้าเชื่อว่าเจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป!”ทันใดนั้น สายตาที่จริงจังของอวี๋โหรวก็ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเย็นวาบไปถึงสันหลังและยังสงสัยด้วยว่าอวี๋โหรวจะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างหรือไม่ทว่าแม้แต่ศิษย์น้องหญิงก็จำนางมิได้ อีกทั้งอวี๋โหรวก็มิได้สนิทสนมกับนาง แล้วจะจำนางได้อย่างไรลั่วชิงยวนยิ้มและกล่าวว่า “ข้าจะถือว่านั่นคือคำปลอบใจก็แล้วกัน”อวี๋โหรวพูดอย่างจริงจัง “ข้ามิได้ปลอบใจเจ้า ข้าพูดจริง”หลังจากนั้น อวี๋โหรวก็ยิ้มอีกครั้งและพูดว่า “ทางข้ายังพอมียาอยู่บ้าง หากเจ้าต้องการอะไรก็บอกข้าได้เลย”ลั่วชิงยวนมิค่อยเข้าใจว่า เหตุใดอวี๋โหรวถึงทำดีกับนางนางมิค่อยรู้จักอวี๋โหรวมากนัก ในภาพจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1283

    หรือเป็นเพราะเขาเชื่อมั่นในพลังความแข็งแกร่งของลั่วชิงยวน?แต่เมื่อมาครุ่นคิดดูตอนนี้ สตรีที่สามารถทำให้เซินฉีหลงใหลได้ถึงเพียงนี้คงไม่มีทางที่จะเป็นขยะไร้ค่าแม้จะมิได้แข็งแกร่งกว่าเฉินชี แต่ก็เป็นคนที่สามารถต่อกรกับเขาได้อย่างสูสีเพราะเช่นนี้เขาจึงมิแลเกาเหมียวเหมี่ยวเลยด้วยซ้ำ……เมื่อกลับมาถึงห้องลั่วชิงยวนก็นั่งลงพักผ่อนเฉินชีเดินตามเข้ามาและนั่งลงข้าง ๆ นาง พร้อมกับรินชาสองจอก“สมแล้วที่เป็นอาเหลา มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่กล้าทำให้เกาเหมียวเหมี่ยวตกอยู่ในสภาพเช่นนั้น! ข้าชอบ!” มีแสงประกายเจิดจ้าส่องสว่างในดวงตาของเฉินชีสายตาของเขาดูเหมือนอยากจะกลืนกินลั่วชิงยวนเข้าไปทั้งตัวลั่วชิงยวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกาเหมียวเหมี่ยวได้รับบาดเจ็บสาหัส ฝ่าบาทกับฮองเฮาคงมิยอมปล่อยข้าไปแน่ คงต้องให้เจ้าช่วยออกหน้าให้แล้ว”เฉินชียิ้มมุมปาก “วางใจได้ มีข้าอยู่ทั้งคน”ลั่วชิงยวนที่ยังกังวลอยู่เล็กน้อยกำชับด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เฉินชี ครั้งนี้เจ้าจะยืนนิ่งดูดายอีกมิได้แล้ว เพราะหากข้าตาย แผนทั้งหมดของเจ้าก็จะสูญเปล่า”“ใต้หล้านี้ไม่มีลั่วเหลาคนที่สองหรอกนะ”เฉินชีพยักหน้าอย่างจริงจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1282

    เลือดสด ๆ ยังคงไหลมิหยุด ไหลนองไปตามร่องลึกของลวดลายวงเวทบนพื้นดินคาดมิถึงว่ามันจะค่อย ๆ ทำให้อักษรเวทของวงเวทส่องแสงขึ้นจากนั้นหมอกสีเขียวจาง ๆ ก็กระจายฟุ้งอยู่รอบตัวลั่วชิงยวนสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นไอโอสถทั้งสิ้นหอรักษ์ดาราแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่สามารถกลั่นไอโอสถจากเลือดได้ และไอโอสถเหล่านี้ก็สามารถรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้ลั่วชิงยวนหลับตาและสูดลมหายใจด้วยความเพลิดเพลิน ทำให้ร่างกายที่ปวดร้าวของนางดูเหมือนจะผ่อนคลายลงนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีอยู่ของแท่นประลองหอรักษ์ดาราแต่ไอโอสถนี้ก็จางลงอย่างรวดเร็วลั่วชิงยวนปล่อยเกาเหมียวเหมี่ยว นางยืนขึ้นพร้อมกับยืดเส้นยืดสาย และเดินลงจากแท่นประลองคนอื่นที่อยู่รอบ ๆ ต่างมองมาที่นางด้วยสายตาที่หวาดกลัวมากขึ้น และพวกเขาก็มิกล้าพูดจาดูถูกเหยียดหยามนางเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปแล้วลั่วชิงยวนกวาดตามองอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็มองไปที่เฉินชีด้วยสายตาลึกซึ้งแล้วเดินจากไปเกาเหมียวเหมี่ยวที่ได้รับบาดเจ็บถูกปลดแส้ออกอย่างรวดเร็วและถูกช่วยลงจากแท่นประลอง นางกัดฟันแน่นพลางจ้องตามหลังลั่วชิงยวนที่กำลังเดินออกไปครู่ต่อมา นางก็เห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1281

    “โอ้สวรรค์ ข้าคงมิได้ตาลายใช่หรือไม่?”“นางไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน!”ทุกคนในเมืองหลวงต่างรู้ดีว่าเกาเหมียวเหมี่ยวคือใครนางมิเพียงมีสถานะองค์หญิงที่สูงส่งเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่จะได้สืบราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าอีกด้วยเนื่องจากองค์ชายใหญ่มีความสามารถปานกลาง จึงมิเป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิและฮองเฮา ทว่าองค์หญิงผู้นี้กลับแข็งแกร่งและไร้ความปรานี จึงได้รับความโปรดปรานจากพวกเขาไม่มีใครในเมืองหลวงกล้าขัดใจนางเว้นเสียแต่ เฉินชีเพราะนางชอบเขาทว่าแม้จะเป็นเฉินชี แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาก็ให้เกียรตินางมากลั่วชิงยวนผู้นี้กล้ามากถึงขั้นเหยียบย่ำองค์หญิงต่อหน้าธารกำนัลมากมายเช่นนี้!เกาเหมียวเหมี่ยวพยายามดิ้นพร้อมกับก่นด่าไปด้วย “ลั่วชิงยวน ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! หากเจ้ามิปล่อยข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายจนหาที่ฝังมิได้เลยคอยดู!”“ท่านนี่พูดมากนัก เงียบเสีย!”ลั่วชิงยวนมองนางด้วยสายตาเย็นชา พลางคว้าแส้แล้วดึงมันอย่างแรงทันใดนั้นแส้ที่คอของเกาเหมียวเหมี่ยวก็รัดแน่นขึ้นบังคับให้เกาเหมียวเหมี่ยวต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแต่ยังคงถูกแส้รั้งไว้จนหน้าแดงนางหายใจมิออกจนเส้นเลือดแตกและตา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1280

    ลั่วชิงยวนถูกแส้ฟาดจนกระอักเลือด ทำให้อาภรณ์ชุดขาวของนางมีรอยเปื้อนสีแดงมีรอยแส้ที่น่าสะเทือนใจพาดอยู่บนหลังของนางเป็นเส้น ๆทุกคนที่อยู่รอบนอกต่างรู้สึกหวาดกลัวมีคนที่อดมิได้ที่จะกระซิบขึ้นว่า “มิยุติธรรมเลย คนหนึ่งมีอาวุธ แต่อีกคนไม่มี นี่มันจงใจแกล้งกันชัด ๆ มิใช่หรือ”“ชู่! พระนางเป็นองค์หญิง ถึงพระนางจะจงใจฆ่าลั่วชิงยวน แล้วใครจะพูดอะไรได้ ระวังไว้เถิด หากนางจับได้ เจ้าได้เดือดร้อนแน่”ทุกทิศมีแต่ความเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรใครใช้ให้เกาเหมียวเหมี่ยวเป็นองค์หญิงเล่า?นางคือองค์หญิงที่ได้รับความโปรดปรานมาตั้งแต่ยังเล็กนางกลายเป็นคนเย่อหยิ่งบ้าอำนาจ และวิธีการของนางเลวทรามมิน้อยไปกว่าเฉินชีเลยทุกคนในที่นี้ล้วนไม่มีใครกล้าขัดทว่ามีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยลั่วชิงยวนได้ แต่คนผู้นั้นกลับนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ พลางมองลั่วชิงยวนที่ถูกฟาดบนพื้นจนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดมีแสงประกายเจิดจ้าอยู่ในดวงตาของเขาและเจือไปด้วยความยินดีปรีดาลั่วชิงยวนกลิ้งไปบนพื้นและทันใดนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากนางเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่แสดงถึงความตื่นเต้นดีใจของเฉินชี เขาม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1279

    “สตรีนางนี้ตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งนัก”“การตอบสนองเร็วเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”“พลังความสามารถของจั๋วฉ่างตงนั้นสูงมาก แม้แต่บรรดาคนที่อยู่ที่นี่ก็ยังมีเพียงมิกี่คนเท่านั้นที่สามารถเอาชนะนางได้”ผลลัพธ์ของการประลองครั้งนี้ ไม่มีอะไรให้ต้องลุ้นแล้วทว่าขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นจั๋วฉ่างตงก็ล้มลงอย่างแรงเมื่อทุกคนจ้องมองไปและแน่ใจว่าคนที่ลอยตกลงมาคือจั๋วฉ่างตง พวกเขาก็พากันตกตะลึงงัน“ข้าเห็นมิชัดเลย จั๋วฉ่างตงกระเด็นออกไปได้อย่างไรกัน?”ทุกคนต่างสงสัยจั๋วฉ่างตงกระอักเลือดและเงยหน้ามองคนผู้นั้นด้วยความตกตะลึง ดวงตาของนางเยือกเย็นจนน่าหวาดกลัวเป็นไปได้อย่างไรกันนางเป็นขยะไร้ค่ามิใช่รึคราวก่อนที่ส่งคนไปทดสอบ ก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าไม่มีพลังที่จะรับมือได้เลย เป็นไปมิได้ที่จู่ ๆ นางจะเปลี่ยนมาร้ายกาจถึงเพียงนี้!จั๋วฉ่างตงมิยอมรับ นางดีดตัวขึ้นและพุ่งไปหาลั่วชิงยวนอีกครั้งดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา ร่างกายของนางเคลื่อนไหวรวดเร็วจนกลายเป็นภาพลวงตา พลางปล่อยหมัดออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าลั่วชิงยวนต่อยจั๋วฉ่างตงอย่างรุนแรงจนกระเด็น จากน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1278

    “ได้ยินมาว่านางจะประลองกับจั๋วฉ่างตงที่หอรักษ์ดาราในวันพรุ่ง”แม้หลายปีมานี้จั๋วฉ่างตงจะมิได้ดำรงตำแหน่งขุนนางใด ๆ แต่กำลังความสามารถของนางก็ถือว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดาคนรุ่นเดียวกันอย่างแน่นอน“แล้วเจ้ามิช่วยนางเล่า? เหตุใดจึงปล่อยให้นางขโมยโอสถทะลวงปราณไป?”ขณะนี้ เฉินชีที่อยู่ในห้องเดินออกมาอย่างช้า ๆ พร้อมมองไปยังทิศทางที่ลั่วชิงยวนหนีไปด้วยดวงตาที่เป็นประกายริมฝีปากของเขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา“ข้าชอบที่เห็นนางอยู่ในสภาพบาดเจ็บเลือดตกยางออก”“ยิ่งนางจนมุมข้าก็ยิ่งปรีดา”เฒ่าโอสถขมวดคิ้วและส่ายหัวด้วยอารมณ์ซับซ้อน “สตรีบ้านไหนได้เจอเจ้า ถือว่าโชคร้ายที่สุดจริง ๆ”……หลังจากกลับมาถึงห้องอย่างปลอดภัยแล้ว ลั่วชิงยวนก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์และนั่งขัดสมาธิบนตั่งนุ่มข้างหน้าต่างนางหยิบโอสถทะลวงปราณ และนำเข็มทิศอาณัติแห่งสวรรค์ออกมาทำการบำเพ็ญตนแค่คืนเดียวก็เพียงพอที่จะนำเอาประสิทธิภาพสูงสุดของโอสถทะลวงปราณออกมาได้แม้จะมิสามารถฟื้นฟูพลังยุทธได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถฟื้นคืนมาได้อย่างน้อยเจ็ดถึงแปดในสิบส่วนเพียงแค่จัดการกับจั๋วฉ่างตงได้ก็พอแล้ว……วันต่อมาเวลารุ่งสางบริเวณร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status