แชร์

บทที่523

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
เหล่าทหารหลายคนเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าใจเป็นพิเศษ

“ดังนั้นคนเมื่อครู่...คือซื่อจื่อแห่งตระกูลเฟิงหรือ?”

“แต่ข้าได้ยินมาว่า หลังจากที่การหมั้นหมายของตระกูลเฟิงและแม่นางจิ่วแล้วถูกยกเลิกไปแล้ว ก็ไม่ได้มีการเกี่ยวดองกันอีกเลยมาตลอดนี่”

“ใช่เลย เหมือนว่าของหมั้นเองก็ส่งไปแล้ว แต่เหมือนตระกูลเฟิงจะไม่ยอมเลือกวันเสียที และไม่ยอมประกาศต่อภายนอกด้วย”

“หลังจากนั้นในเมืองหลวงก็มีเรื่องต่างๆ เกิดขึ้นสินะ? เรื่องของตระกูลจั๋ว เรื่องของตระกูลเหยียน ราคาวัตถุดิบยาเพิ่มขึ้น สองตระกูลทะเลาะกันแตกหัก...แล้วยังเรื่องโรคระบาดครั้งนี้อีก”

ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในใจทหารหลายคนก็เข้าใจแล้ว ว่าชายหนุ่มหล่อเหลาที่ทำให้พวกเขารู้สึกเย็นวาบคนนั้น น่าจะเป็นซื่อจื่อจากตระกูลเฟิง

“ได้ยินมานานแล้วว่าซื่อจื่อตระกูลเฟิงมีนิสัยเย็นชา ไม่เห็นใจไม่เมตตาไม่เข้าใจความรู้สึกของใคร ปฏิเสธคนอื่นราวกับอยู่ห่างไกลกันพันลี้”

“แต่ว่า สำหรับแม่นาวจิ่วกลับอ่อนโยนเสียเหลือเกิน...”

พวกเขาเองก็เข้าใจแล้ว ว่าทำไมบนมือของเฟิ่งเหยียนถึงได้มีบาดแผลที่ประหลาดขนาดนั้น

ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นตระกูลเฟิง แม้จะไม่ใช่ว่าทุกคนท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 524

    “กลิ่นอายที่คุ้นเคย พอได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าเจ้ามา” จั๋วซือหรานพูดต่อ “แต่ก่อนหน้าก็เหมือนจะไม่ชัดเจนขนาดนี้ ทว่าข้าเองก็ไม่คิดมาก ตอนที่เตรียมจะหลับ จู่ๆ ปฏิกิริยามันก็เข้ามาเอง”ดวงตาที่ดูไม่กระฉับกระเฉงเพราะง่วงของจั๋วซือหราน ในที่สุดก็ปิดขึ้นมา เหลือบมองไปทางเฟิงเหยียนอย่างเกียจคร้าน“นั่นเป็นกลิ่นสุราน้ำเต้าใช่ไหม?” จั๋วซือหรานมองเฟิงเหยียน“อืม” เฟิงเหยียนเองก็มองนางและไม่รู้ว่าเข้าใจผิดหรือเปล่า จั๋วซือหรานเห็นประกายอ่อนโยนวาบผ่านไปในดวงตาของเขาจากนั้นก็ได้ยินเฟิงเหยียนถามขึ้น “ความรู้เกี่ยวกับยาการแพทย์ของเจ้าร้ายกาจเสียขนาดนั้น ก่อนหน้านี้คิดไม่ออกเลยหรือว่านั่นเป็นกลิ่นสุราน้ำเต้า? ก่อนหน้านี้เจ้าคิดว่าเป็นอะไร”ริมฝีปากของจั๋วซือหรานเบ้ไปเล็กน้อยก่อนหน้านี้นางไม่มีปฏิกิริยาจริงๆ รู้สึกมาตลอดว่ากลิ่นบนตัวชายคนนี้หอมจริงๆ“สรุปคือ ต้องดื่มสุราน้ำเต้าแค่ไหน กลิ่นอายถึงจะเข้มข้นชัดเจนขนาดนี้ล่ะ” จั๋วซือหรานขมวดคิ้วถามขึ้นบนสีหน้าเฟิงเหยียนยังคงไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไร มีประโยชน์ก็พอแล้ว นอนเถอะ”จั๋วซือหรานไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำตามที่บอกนางเลิกคิ้วขึ้นเล็ก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 525

    ไม่ว่านางจะดูเด็ดเดี่ยวไม่อ่อนข้อต่อภายนอกเพียงใด จะดูดื้อรั้นไม่ยอมใครสักแค่ไหน แต่อันที่จริงในใจ เกี่ยวกับเรื่องสัมพันธ์ชายหญิง...อันที่จริงนางก็ไม่มีประสบการณ์ชาติที่แล้วก็เป็นแค่หญิงโสดไม่มีคนรักจนกระทั่งตายส่วนชาตินี้ เพราะตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตอย่างมีอิสรเสรี จึงไม่คิดจะยึดติดกับอะไรมากมายนักดังนั้นคนที่หล่อเหลาฟ้าประทานไม่มีใครเทียมอย่างท่านอ๋องนี่ จั๋วซือหรานจึงรู้สึกกระหายอยากมาตั้งแต่แรกหรือก็คือ ในเมื่อตัดสินใจจะอิสระเสรีแล้ว แล้วยังกระหายอยากกับความหล่อเหลาหุ่นดีของอีกฝ่าย ถ้าอย่างนั้นก็ไม่น่าจะเป็นอะไรสิอยากจูบก็จูบ เหมือนจะไม่มีอะไรที่ไม่ได้นี่นาแต่พอจะทำอะไรแบบนั้น ก็เหมือนจะยังหวาดๆ อยู่บ้างทว่า เฟิงเหยียนก็เหมือนจะแค่แหย่นางเล่นเท่านั้น อันที่จริงไม่ได้คิดจะทำอะไรนางหรอกพอเห็นนางค้านกลับคอแข็งเช่นนี้ เขากระทั่งยัง...พยักหน้าตามใจให้เสียด้วยเขาบีบคางของนาง พยักหน้า “อืม ไม่กลัวสินะ”ในเส้นเสียงมีความแหบพร่าอยู่ แต่ในน้ำเสียงกลับไม่ได้เปลี่ยนไปแปลงไปเท่าใดนัก เหมือนจะไม่ค่อยแตกต่างกับช่วงเวลาปกติ แต่ก็ประหลาด มันทำให้คนที่ได้ยิน...รู้สึกว่าต้องอ่อนโ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 526

    จั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมาทันที ท่าทางของทั้งสองคนเวลานี้มันจะมากเกินไปหน่อยแล้ว สาเหตุจากเพราะเมื่อครู่เพิ่งกอดจูบกันไปตอนนี้ เฟิงเหยียนนอนอยู่ข้างตัวนางใกล้กันมาก ไหล่ของนางสามารถรู้สึกได้ถึงกล้ามมัดไหล่ของเฟิงเหยียนได้ยิ่งไปกว่านั้น ความใกล้ขนาดนี้...เฟิงเหยียนหมุนตามองมา จั๋วซือหรานจึงรู้สึกว่า ลมหายใจของเขารดลงมาบนใบหน้า ราวกับพัวกันเข้ามาในลมหายใจของตนเอง“อื๋อ? อื๋อ?” จั๋วซือหรานยังตั้งตัวไม่ได้ ส่งเสียงสงสัยออกมาสองคำเฟิงเหยียนเอ่ยขึ้น “ช่วงนี้ ข้าไม่มีที่จะอยู่แล้ว”จั๋วซือหรานตกตะลึงนางกระพริบตาปริบ จากนั้นก็กระพริบตาปริบๆ อีกจู่ๆ ก็เข้าใจความหมายของเฟิงเหยียนขึ้นมาจั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “เพราะข้าไม่ค่อยแน่ใจ ดังนั้นจึงอยากจะถามท่านอ๋องเสียหน่อย...อยากจะพักอยู่ที่นี่ใช่ไหม?” “是。” นางมองดวงตาเฟิงเหยียน เฟิงเหยียนเองก็มองนาง จากนั้นจึงพยักหน้า “ใช่”จั๋วซือหรานมึนงง “หรือก็คือ..จะอยู่กับข้าที่นี่?”“ใช่” เฟิงเหยียนพยักหน้าอีกครั้ง “ข้าไม่มีที่ไหนที่จะไปได้แล้ว”หญิงสาวคนนี้ ปกติหยิ่งทะนงองอาจ จะใครก็ไม่อาจมาข่มเหงนางได้ดูแล้วเหมือนไม่กลัวฟ้ากลัวดิน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 527

    เฟิงเหยียนเอียงตามองไปพอเห็นใบหน้าหลับของจั๋วเสียวจิ่ว ก็อดพูดขึ้นมาไม่ได้ ว่าหญิงสาวคนนี้งดงามเหลือเกินเฟิงเหยียนอันที่จริงก็รู้ว่าตนเองจำหน้าใครไม่ค่อยได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจำใครไม่ได้เลย แต่บางครั้งเพียงแค่พบหน้ากันแล้วก็ผ่านไป จึงขี้เกียจจะไปจดจำรูปร่างหน้าตาแต่ต่อให้คนแบบเขา ก็ยังต้องยอมรับ ว่าจั๋วเสียวจิ่วคนนี้ มีใบหน้าที่ไม่ว่าจะยอมหรือไม่ยอมจดจำ แต่เพียงมองแค่แวบเดียว ความงามนั้นก็ราวกับประทับลงไปในความทรงจำของสมองแล้วตอนที่ยังตื่นดี ก็เป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมแกมโกงอยู่หน่อยๆ งดงามเป็นพิเศษ และพอหลังจากหลับไป สองตาที่มีประกายเฉลียวฉลาดนั้นหลับลง ขนตาเรียวยาว ก็ราวกับปีกผีเสื้อหุบคลุมลงมาอย่างไรอย่างนั้น มีรอยดำเป็นวงบริเวณเบ้าตาดูเป็นความงามที่สงบเยือกเย็นเฟิงเหยียนเอียงตามอง หญิงสาวเช่นนี้ อายุก็ยังไม่มากยังหน้าตางดงามเสียขนาดนี้ ราวกับเป็นดอกไม้บนกิ่งที่เปราะบางอ่อนแอที่สุด พร้อมที่จะถูกเด็ดดอมไปทุกเมื่อ ใครจะคิดถึงว่าในกระดูกกลับเป็นดอกไม้งามอหังการ มีหนามแหลมพิษงอกยาวยื่นอยู่ ไม่ว่าใครที่อยากจะข่มเหงนาง ก็ต้องจ่ายออกมาด้วยเลือดทั้งสิ้นยิ่งไปกว่านั้นหญิงสาวคนนี้ ไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 528

    “โรคระบาดจะมาแล้ว นางรับผิดชอบไหวหรือ!”“รีบเปิด รีบเปิดร้าน!”“ข้าต้องการซื้อยา ข้าจะซื้อยา!”เหยียนหยี่หลิงยืนอยู่หน้าประตูศูนย์การแพทย์ตระกูลเหยียนที่ปิดสนิท ตาหรุบต่ำ สีหน้าบนใบหน้ายังคงมีท่าทีรู้สึกลำบากใจแต่ในดวงตาที่หรุบต่ำนั้น กลับมีประกายขบขันอยู่เหยียนหยี่หลิงคิดถึงแขกคนสำคัญที่จู่ๆ ก็มาหานางเมื่อเช้าแม้เหยียนหยี่หลิงจะไม่ค่อยเข้าใจนัก ว่าองค์หญิงเจาหมิ่นทำไมจู่ๆ จึงมาหานางแต่เช้าขนาดนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ได้แจ้งกล่าว แต่แอบเข้ามาพบอีกด้วยเหยียนหยี่หลิงมองออก ว่าองค์หญิงคนนี้ก็เหมือนอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก แม้บนใบหน้าจะมีรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบก็ตามแต่ก็ทำให้คนรู้สึกเหมือนไม่ค่อยจะดีใจเท่าไรนักหลังจากนั้น องค์หญิงเจาหมิ่นก็ให้ตำรับยานางมาหนึ่งตำรับ และบอกกับนางว่า...“ในเมืองหลวงจะมีโรคระบาดปรากฏ นี่คือตำรับยาที่เอามารักษาโรคระบาดนั้น”“เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะจั๋วจิ่วก่อนหน้านี้ ตระกูลเหยียนของพวกเจ้าเสียหายไปไม่น้อย ถ้ามีตำรับยานี้ โรคระบาดที่ว่า ไม่แน่ว่าพวกเจ้าอาจจะกู้ชื่อเสียงกับความเสียหายกลับมาได้บางส่วน”เหยียนหยี่หลิงจำได้ว่าตนเองตอนนั้นยังไม่ค่อยเข้าใจ ถ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 529

    หลังจากที่ศูนย์การแพทย์ร้านยาของตระกุลเหยียนเปิดทำการรักษาจ่ายยาอีกครั้งเพียงไม่นานนัก ก็มีข้อมูลส่งมาจากตระกูลเฟิงว่าหญิงสาวที่กำลังจะหมั้นหมายกับซื่อจื่อตระกูลเฟิง ก็เหมือนคิดวางแผนทำลายตระกูลเฟิง จนทำให้ตระกูลเฟิงเสียหายอย่างหนักหนาสาหัสไม่ใช่ตระกูลเฟิงที่ส่งต่อกันออกมา แต่เหมือนจะเป็นข่าวที่ลือออกมาจากกลุ่มคนใช้ในบ้านตระกูลเฟิงว่าตามหลักการ น่าจะไม่ได้อยู่ในท่าทีตัวแทนของตระกูลเฟิงแต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้น ถ้าหากเป็นตระกูลอื่น ข่าวลือที่พวกคนใช้ลือออกมา อาจจะไม่สามารถเป็นท่าทีตัวแทนของตระกูลนั้นได้แต่นี่ไม่ใช่ตระกูลอื่น ทว่าเป็นตระกูลเฟิงตระกูลเฟิงนั้นเข้มงวดในกฎระเบียบมาแต่ไหนแต่ไร ไม่มีทางยอมให้พวกเหล่าคนใช้ลือข้อมูลออกมาภายนอกง่ายๆ ยังไม่ต้องสนใจว่าลือออกมาได้หรือเปล่าก่อน ต่อให้จะลือออกมา ถ้าตระกุลเฟิงไม่อนุญาต ก็จะจัดการกลบข่าวลือนี้ทิ้งไปแต่ว่าข่าวลือครั้งนี้ กลับปะทุออกมา ไม่มีการสกัดกั้นแต่อย่างใด ดังนั้น ต่อให้บอกว่าเป็นคนใช้ลืออกมา ก็ยังอธิบายได้ว่าเป็นท่าทีต่อเรื่องนี้ของตระกูลเฟิงอยู่ดีดังนั้นชั่วเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งวัน ชื่อเสียงของจั๋วซือหราน ก็เน่าเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 530

    เรื่องเหล่านี้ จะให้แม่นางจิ่วมาแบกคนเดียวไม่ได้ ซือคงเซี่ยนคิดในใจแต่ยังเขายังไม่ทันลุก มือข้างหนึ่งก็กดลงมาบนบ่าเขา กดเขาให้นั่งลงไปบนเก้าอี้ซือคงเซี่ยนหันไปมองอย่างตกใจ จึงเห็นชายหนุ่มยืนอยู่ด้านหลังตนเอง ชายหนุ่มสวมหน้ากากไว้ มองไม่ออกถึงสีหน้าแต่การเคลื่อนไหวและน้ำเสียง ยังเผยความมั่นคงออกมา“ไม่ได้ ซือหรานบอกให้พวกท่านอยู่ที่นี่ ที่นี่ปลอดภัย” เสียงของเขาไม่ได้ติดอ่างนัก เพียงแต่ว่าน้ำเสียงเปลี่ยนช้าลงมาหน่อย และจากความเร็วของเสียงที่เปลี่ยนไปนี้ ฟังแล้วจึงยิ่งรู้สึกมั่นคงขึ้น“ตอนนี้เมืองหลวงเป็นช่วงที่มีแต่เรื่อง พวกท่านห้ามออกไป” เสียงของชิ่งหมิงมั่นคงปกติพูดติดอ่างอยู่แท้ๆ เวลาพูดกับคนที่ไม่สนิทก็เสียเวลาไปครึ่งค่อนวันกว่าจะได้สักประโยค ตอนนี้กลับมั่นคงพึ่งพาได้ขึ้นมาราวกับรู้สึกว่าเช่นนี้ยังมีกำลังไม่เพียงพอ เพราะซือคงเซี่ยนถึงอย่างไรก็เป็นอ๋องชิ่งหมิงหยุดไปขณะหนึ่ง เอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “ซือหรานวาให้ข้าปกป้องพวกท่านให้ปลอดภัย นางจึงจะวางใจออกไปรับมือกับความยุ่งยากภายนอก ข้าได้รับการไหว้วานมาก็ต้องทำตามอย่างซื่อสัตย์ ปล่อยให้พวกท่านออกไปไม่ได้ จะได้ลดความยุ่งยากให้ซ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 531

    “ไปจับเจ้าสองคนที่ก่อนหน้านี้ถูกเฮยหลิงกัดแล้วยังบ้าอยู่นั่นมาเสีย”เจ้าสำนักหอฟ้าดาวเอ่ยขึ้น โบกๆ ตำรับยาในมือ “จากนั้นเจ้าตำรับยาสองชุดนี้ จัดการไปต้มมาอย่างละชุด”ลูกน้องเองก็ไม่ใช่เพิ่งจะติดตามเจ้าสำนักหอฟ้าดาวเป็นวันแรก พอได้ยินก็ขานรับคำสั่ง กระทั่งยังถามเหมือนจะเตรียมการล่วงหน้ามาอีกคำหนึ่ง “นายท่าน แล้วต้อง...ให้คนไปเตรียมวัตถุดิบเหล่านี้มาไหม?”เจ้าสำนักหอฟ้าดาวเหลือบมองตำรับยาสองแผ่นนั้นผาดหนึ่ง ก็ยังรู้สึกว่า คนอย่างจั๋วซือหราน ไม่เคยทำสงครามโดยไม่เตรียมตัว ในเมื่อวางหมากนี้ออกมา ก็เห็นได้ว่าเตรียมการไว้ดีระดับหนึ่งแล้วดังนั้นถึงแม้จะไม่มีการพิสูจน์ที่สมบูรณ์ แต่เจ้าสำนักหอฟ้าดาวก็ยังพยักหน้า “ได้”ลูกน้องออกไปจัดเตรียมทันทีไม่นานนัก สองคนที่ถูกพิษกู่จนกลายพันธุ์ไป ก็ถูกลากออกมาจากในคุกใต้ดินและเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาไปทำร้ายคนอื่นจนระบาด ดังนั้นจึงนำกรงเหล็กมาด้วยกันเลย “แฮ่แฮ่...!” ส่วนใหญ่เป็นเพราะเลือดเนื้อสดใหม่ของคนรอบๆ สำหรับพวกเขาแล้วมีแรงดึงดูดอย่างมาก ในคอหอยพวกเขาส่งเสียงคำรามต่ำออกมาน้ำแกงยาที่ต้มออกมาจากสองตำรับยานั้นก็เตรียมไว้เสร็จแล้วเจี่ยง

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 938

    ถังหยวนมองสภาพจั๋วหรูซินตอนนี้ เขาอดมีสายตาสับสนขึ้นมาไม่ได้ตรงหน้าเขามีภาพตอนที่จั๋วซือหรานถูกลงโทษแวบผ่านขึ้นมา กระดูกสันหลังที่ไม่ยอมคดงอนั่นเก้าแส้ฟาดลงไป หน้าขาวซีด เหมือนจะร่วงพับสิ้นสติ สภาพซมซานน่าเวทนาแต่ในสีหน้าท่าทาง ไม่มีท่าทีเจ็บปวดร้องไห้ชักกระตุกให้เห็นกระทั่งว่า ถังหยวนเกิดความรู้สึกลวงขึ้นมา ว่ามันควรจะเป็นเช่นนี้หรือเปล่า?แต่ตอนนี้พอเห็นท่าทางของจั๋วหรูซิน จึงมีปฏิกิริยาเข้าใจขึ้นทันที จั๋วหรูซินแบบนี้ต่างหากที่เป็นสภาพปกติแต่แบบจั๋วซือหรานนั่น เป็นตัวตนที่แตกต่างจากคนอื่นจั๋วหลานมองจั๋วซือหราน "เสียวจิ่ว พอสบายใจขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานเดินขึ้นไปทีละก้าวทุกคนล้วนคิดว่า หญิงสาวคนนี้ยังไม่สะใจพอ ต้องเข้าไปมองความเจ็บปวดทรมานของจั๋วหรูซินใกล้ๆ จึงจะพอใจจั๋วอวิ๋นชินอดทนอยู่ข้างๆ แม้เขาจะไม่พอใจน้องสาวคนนี้นัก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นน้องสาวจะอย่างไรก็ยังมีความรู้สึกทนไม่ไหวอยู่ เขาเตรียมจะยัดยาลูกกลอนให้กับจั๋วหรูซินแล้วแต่ตอนนี้พอเห็นจั๋วซือหรานเดินขึ้นมา แม้เขาจะหยุดเท้าลง แต่ในที่สุดก็ทนไม่ไหวจั๋วอวิ๋นชินเอ่ยขึ้นเสียงขรึม "จั๋วซือหราน หรูชินได้ร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 937

    จั๋วอวิ๋นฉียืนอยู่ท้ายกลุ่มคน ผู้อาวุโสเจ็ดจั๋วอี้ยืนอยู่ข้างเขา ดึงแขนเขาอย่างตื่นเต้นไม่ยอมปล่อย เหมือนกลัวว่าเขาจะวิ่งหนีหายไปอย่างไรอย่างนั้นทั้งสองคนยืนอยู่แบบนั้นที่ท้ายกลุ่มคน ได้ยินคำพูดเหล่านี้ของจั๋วซือหรานด้านในจั๋วอี้อดถอนใจขึ้นมาไม่ได้ เขากระซิบเสียงแผ่วเบาข้างหูกับจั๋วอวิ๋นฉี "ตอนนั้นถ้าเจ้ามีนิสัยแบบนางก็คงดี"จั๋วอวิ๋นฉีพอได้ยินก็ยิ้มบางๆก็ไม่มีจริงๆ นั่นล่ะคำพูดเมื่อครู่ของจั๋วซือหราน เหมือนแทบจะพูดออกมาตรงๆ ว่าจะกำจัดจั๋วหรูซินออกไปถ้าท่านลุงถังลงมือ ดุจากจำนวนโบยที่จั๋วหรูซินต้องโดน นางได้พิการแน่สิ่งเดียวที่จะเดิมพันได้ก็คือ...การหวดทีเดียวของจั๋วซือหราน ว่าจะเบามือกว่าหรือไม่แต่ ให้ใครมาอยู่ในมุมของจั๋วหรูซิน ที่มีความแค้นเก่ากับจั๋วซือหรานมากขนาดนั้น จะกล้าเดิมพันให้จั๋วซือหรานลงมือเบาหน่อยได้หรือ?ใครจะกล้าเดิมพันกัน? ต่อให้เป็นคนอื่น ก็คงไม่กล้าเดิมพันเช่นนี้แต่นี่ก็เป็นความหวังสุดท้ายแล้ว นี่ต่างหากที่ทรมานคนมากที่สุดจั๋วอวิ๋นฉีอดถอนใจไม่ได้ นางจับทางใจคนได้พอเหมาะพอเจาะดีจริงๆจั๋วซือหรานไม่รีบร้อนเลยสักนิด มองดูจั๋วอวิ๋นชินกับจั๋วหรูซินอย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 936

    จั๋วซือหรานมองนางเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้ม ไม่ต้องพูดอะไร ในดวงตาเหมือนเขียนคำว่า 'เจ้ากำลังพูดบ้าอะไร? ข้าต้องจงใจอยู่แล้ว' เอาไว้จั๋วอวิ๋นชินที่อยู่ข้างๆ สูดลมหายใจลึก บอกกับผู้อาวุโสใหญ่ว่า "ผู้อาวุโสใหญ่ หรูซินทำผิด เป็นเพราะพี่ชายอย่างข้าไม่สั่งสอนนางให้ดี..."แต่ผู้อาวุโสใหญ่ก็คิดว่าเขาคงคิดจะทำเหมือนจั๋วเห้อหรงก่อนหน้านี้ คิดจะรับโทษแทนนาง จึงส่ายหัวเอ่ยขึ้นว่า "ไม่ต้องพูดอะไร ใครทำใครก็รับ นางทำผิด นางก็ต้องรับโทษด้วยตนเอง!"จั๋วอวิ๋นชินพอได้ยินคำนี้ ก็รู้ว่าผู้อาวุโสใหญ่เข้าใจผิดแล้ว "ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้จะขอร้องแทนนาง เพียงแต่ว่า ถึงอย่างไรข้าที่ไม่ได้สั่งสอนน้องสาวให้ดี ดังนั้นถ้าหากเป็นไปได้ ข้าก็อยากจะลงมือเอง หวังว่าท่านจะเห็นด้วย"จั๋วหลานได้ยินคำนี้ ก็นิ่งเงียบไม่พูดอะไรในเมื่อไม่ได้ปฏิเสธทันที ก็ถือว่ายังมีหวังนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จั๋วอวิ๋นชินจะช่วยน้องสาวคนนี้แม่จะไม่สามารถใจดีหรือใจอ่อนเกินไปได้ แต่อย่างน้อยก็ยังพอจะเบามือลงในขอบเขตที่เป็นไปได้จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มข้างๆ "ในเมื่อท่านพี่รักและสงสารขนาดนี้ เช่นนั้นก็ตรงไปตรงมาหน่อย..."นาง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 935

    จั๋วอวิ๋นชินถูกน้องสาวคนนี้ทำให้โกรธมาก ชัดเจนว่า ที่นางมีวันนี้ ก็เพราะความผิดของตัวนางเองทั้งนั้นกระทั่งการกระทำลายตัวเองของจั๋วหรูซิน ไม่เพียงแต่ทำร้ายตัวนางเองเท่านั้น แต่ยังทำร้ายท่านพ่อด้วยหลังจากที่จั๋วเห้อหรงรับกฏของตระกูลแทนจั๋วหรูซินครั้งที่แล้ว สภาพก็ย่ำแย่มาตลอด เดิมทีที่อำนาจในตระกูลถูกรีบกลับไปยังไม่พอสภาพร่างกายเองก็ได้รับผลกระทบจากการถูกโบยตามกฏตระกูลด้วยด้วยเหตุนี้จึงอดพูดไม่ได้ ว่าจั๋วซือหรานคืออัจฉริยะ หลังจากถูกโบยไปเก้าครั้ง ก็ยังทนมาได้โดยไม่พิกลพิการ แล้วยังมีฝีมือความสามารถความสำเร็จแบบในตอนนี้อีกไม่ง่ายเลยจริงๆกระทั่งว่า จั๋วอวิ๋นชินมาคิดอย่างละเอียด การทำลายตัวเองของจั๋วหรูซิน ยังทำร้ายทั้งตระกูลจั๋วอีกด้วยแม้จะบอกว่า ที่จั๋วซือหรานรู้สึกย่ำแย่ต่อตระกูลจั๋วขนาดนี้ ก็เพราะวิธีการที่ตระกูลจั๋วปฏิบัติต่อนางมาตลอดแต่ว่า สาเหตุหลักยังคงเป็นเพราะจั๋วหรูซินวางแผนร้าจการเกินไปเป็นลูกหลานตระกูลเดียวกันแท้ๆ นางกลับจะเอาชีวิตของจั๋วซือหรานมาล้อเล่น...ถ้าหากไม่ใช่ด้วยฝีมือของจั๋วซือหรานเอง เช่นนั้นก็จะต้องจับคู่กันไปทั้งชีวิตเลยนะ เสน่ห์หนอนพิษกู่ไม่ใช

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 934

    คนเหล่านั้นไม่กล้าอิดออดอีก ทยอยกันคุกเข่าลงหลังจากตอนที่ได้ยินเสียงหัวเข่ากระแทกหนักๆ ตึงๆๆตอนที่ผู้อาวุโสใหญ่จั๋วหลานรีบพุ่งไปเข้าไปขวางตรงหน้าจั๋วซือหราน นางก็ไม่ได้ตบเขาออกไปผู้อาวุโสใหญ่มองจั๋วซือหราน เอ่ยขึ้นว่า "ข้าลงโทษพวกเขาแล้ว ถ้าเจ้ายังไม่พอใจ เจ้าไปลงโทษพวกเขาด้วยตนเองได้เลย ด้วยฝีมือของเจ้า คิดจะลงโทษพวกเขาไม่ใช่เรื่องยากอยู่แล้ว"จั๋วซือหรานพอได้ยิน มุมปากก็ยกขึ้น "ก็ไม่ยากจริงๆ"จั๋วอวิ๋นฉีถอนหายใจเงียบๆ ถอนหายใจกับการตัดสินใจของนางคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นเหล่านั้น ตอนนี้ก็เพิ่งจะรู้สึกตัวขึ้นมาจริงด้วย ด้วยฝีมือของนาง เธอแค่คนเดียวก็จัดการรับมือกับคนเถื่อนได้นับสิบ แล้วทำไมตอนที่พวกเขาพูดอะไรไม่น่าฟัง นางถึงไม่ตบพวกเขาจนคว่ำไปล่ะ?นางมีฝีมือจะตบพวกเขาจนคว่ำอยู่แล้วแท้ๆพวกเขาตอนนี้เข้าใจแล้ว นางจงใจทำ จงใจจะให้ตระกูลจั๋วมารับมือพวกเขา ให้พวกเขาตบหน้าพวกเขากันเองนางจะให้พวกเขาได้รู้:พวกเจ้าคิดจะทำให้ข้ารู้สึกสะอิดสะเอียนแค่ไหน ข้าก็จะให้พวกเจ้ากินขี้ของพวกเจ้ากลับไป ลองดูสิว่าใครจะสะอิดสะเอียนยิ่งกว่าถ้าหากพวกเขาไม่ญาติดีกับท่าทีของนาง เช่นนั้นนางก็จะไม่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 933

    ผู้อาวุโสเจ็ดจั๋วอี้แทบจะพุ่งเข้ามาอย่างอดไม่อยู่ในสายตาเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น มองจั๋วอวิ๋นฉีอยู่เป็นระยะ"อวิ๋นฉี! อวิ๋นฉี! นั่นเจ้าจริงหรือ!" เสียงของผู้อาวุโสเจ็ดสั่นพร่าขึ้นมาจั๋วอวิ๋นฉีมองไปทางผู้อาวุโสเจ็ด เผยให้เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนน้ำตาของจั๋วอี้แทบจะร่วงลงมาแล้ว ตอนที่เขามองไปทางจั๋วซือหราน ในดวงตาก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้งเดิมทีเขายังคิดว่า ดันจั๋วซือหรานขึ้นไปนั่งตำแหน่งอาวุโสที่นางต้องการ จากนั้นก็จะขอให้นางช่วยอวิ๋นฉีกลับมาในตระกูลนางวันนี้เพิ่งจะมาถึง ก็ทำได้เสียแล้ว!ตอนนี้เอง ข้างๆ ก็เกิดเสียงที่ต่างกันขึ้นมา มีคนที่แม้จะไม่ชอบผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสห้า แต่ก็ไม่คิดว่าจั๋วอวิ๋นฉีที่ปรากฏตัวขึ้นอย่งกะทันหัน แล้วก็หญิงสาวที่ขนยังไม่ทันขึ้นอย่างจั๋วซือหราน จะสามารถมานั่งตำแหน่งนี้ได้ดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นว่า "แต่เขาไม่ได้อยู่ในตระกูลมานานแล้วนะ จะมารับผิดชอบได้ที่ไหน...นี่เป็นตำแหน่งของผู้อาวุโสตระกูลเชียว ดูจะรีบร้อนเกินไปหน่อย"จั๋วซือหรานไม่สนใจกับเสียงต่างนางยักไหล่ เอ่ยขึ้นว่า "ข้ายังไงก้ได้ แต่ว่าพวกท่านต้องเข้าใจจุดนี้นะ ตอนนี้พวกท่านต้องการให้ข้ากลับมา อย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 932

    จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นด้านใน "ในเมื่อข้ากล้าพูดเช่นนี้ ข้าก็ต้องรู้อยู่แล้ว่าเขาอยู่ทึ่ไหน"จั๋วซือหรานพูดพลางมองไปทางประตูจากนั้นนางจึงดึงไหมกู่ไร้รูปร่างในมือของตนเอง ไม่กู่ค่อยๆ เปลี่ยนจากโปร่งใสจนมีสีกึ่งโปร่งใส เชื่อมออกไปยังนอกประตูจั๋วซือหรานมองไปทางประตู เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "เชลยคนอื่นถ้าหลบหนีไปไกลแบบเจ้าเนี่ย คงจะเอาชีวิตไปทิ้งกันหมดแล้ว"ทุกคนตกตะลึงขึ้นมาจากเนื้อหาในคำพูดของนาง...เชลยหรือ?นี่มันสถานการณ์อะไรกัน?จากนั้นจึงเห็นว่า พอจั๋วซือหรานดึงมือ ไหมกู่กึ่งโปร่งใสเส้นนั้นก็ดึงชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในประตูดูจากเสื้อผ้าของเขาแล้ว ทุกคนล้วนตกตะลึงกันหมด"นี่มัน...นี่ไม่ใช่เชลยจากแดนใต้ที่อยู่ข้างๆ เจ้าก่อนหน้านี้คนนั้นหรือ?""นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"จั๋วซือหรานลุกขึ้นมาจากที่นั่ง เดินตรงไปยัง 'ฮาร์วีย์'ยืนอยู่ตรงหน้าเขาชายหนุ่มก้มหน้ามองนาง เส้นผมไม่ยาวนักของเขาถักเป็นเปีย ปลายผมยังห้อยลูกปัดไว้ ผิวหนังสีคล้ำ แม้จะไม่ถึงกับดำ แต่ก็ไม่ใช่ผิวขาวนวลเบ้าตาลึก โหนกแก้มสูงเล็กน้อย จะดูอย่างไร...ก็ล้วนเป็นเอกลักษณ์หน้าตาคนแดนใต้แต่จั๋วซือหรานยืนอยู่ตรงหน้าเขา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 931

    "อะไรนะ!" ผู้อาวุโสสามกับผู้อาวุโสห้าพอได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสใหญ่ ก็ยิ่งตกตะลึงขึ้นไปอีกแต่จั๋วซือหรานก็เหมือนจะมองไม่เห็นพวกเขาเสียอย่างนั้นนางมองผู้อาวุโสใหญ่จั๋วหลาน หลังจากนั้นก็เหลือบมองไปทางจั๋วอี้ผู้อาวุโสเจ็ดตอนนี้จึงเอ่ยต่อว่า "เรื่องนี้พวกท่านไม่ต้องกังวล ข้าหาตัวเลือกผู้อาวุโสที่เหมาะสมไว้แล้ว"ผู้อาวุโสสามกับผู้อาวุโสห้าทนไม่ไหวขึ้นอีกครั้ง แต่ต่อให้รู้ว่านางตอนนี้จะสำคัญมากกับตระกูลก็ทนต่อไม่ไหวแล้วจึงก่นด่าจั๋วซือหรานขึ้นมา"เจ้ากล้าดียังไง!" ผู้อาวุโสห้าเดิมทีก็มีนิสัยขี้โมโห ด่ากราดขึ้นมา "เจ้าอย่าคิดว่าตอนนี้เจ้ามีชื่อเสียงขึ้นมาในเมืองหลวง แล้วจะหลงตัวเองจนไม่มีขอบเขตนะ!"ผู้อาวุโสสามไม่ได้ฉุนเฉียวขนาดนั้น แต่ก็มองออกได้ไม่ยากถึงอารมณ์โกรธแค้น พูดจาให้ขุ่นเคืองขึ้นมา "เจ้าคิดว่าหมูหมากาไก่ที่ไหนก็จะขึ้นมาเป็นผู้อาวุโสตระกูลได้หรือ?! ตระกูลเราไม่เคยมีผู้อาวุโสหญิงมาก่อนด้วยซ้ำ! ไม่ต้องพูดถึงเด็กสาวที่ขนยังไม่งอกแบบเจ้าเลย!"พอเทียบกับความเดือดดาลของพวกเขาสองคนจั๋วซือหรานกลับนิ่งกว่ามาก "พอเห็นคนแบบพวกท่านมาเป็นผู้อาวุโสตระกูลนี่ล่ะ ดังนั้นถูกต้อง ข้าคิดจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 930

    ทุกคนล้วนมองออก ถ้าพูดจากด้านพลัง จั๋วซือหรานได้เปรียบอย่างสมบูรณ์ต่อให้นางไม่ต้องพูดซ้ำเกรงว่าหลังจากวันนี้ ชื่อของจั๋วซือหรานคงกลายเป็นตำนานมีชีวิตในเมืองหลวงแน่ๆถ้าจะให้พูดจริงๆ นางสู้กับตระกูลใหญ่ห้าตระกูลตามลำพัง แต่ก็ยัง...ไม่พ่ายแพ้แค่คิด ก็รู้สึกว่าเป็นแรงบันดาลใจได้แล้วรถม้าแล่นมาถึงบ้านตระกูลจั๋วรู้สึกเหมือนจากไปเสียนาน แต่พอย้อนนึกดู ก็เหมือนจะไม่ได้นานเท่าไรทว่าตอนนี้ จั๋วซือหรานไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วนางเดินเข้าไปในโถงประชุม ไม่แม้แต่จะมองพวกเขา เดินตรงไปที่นั่งบนสุด แล้วนั่งลงทุกคนล้วนตะลึงงันไปชั่วขณะหนึ่ง ทั้งห้องนิ่งเงียบเป็นเป่าสากเหมือนมีคนรู้สึกว่าสมควรจะตำหนินาง นางขึ้นไปนั่งบนที่นั่งสูงสุดได้อย่างไรกัน?! ที่นั่งสูงสุดบนโถงประชุม มีไว้ให้เหล่าผู้อาวุโสนั่งแต่นางก็นั่งลงแล้ว กระทั่งมองออกไม่ยากด้วยว่านางจงใจยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งที่นางนั่ง ก็เป็นตำแหน่งของผู้อาวุโสสามพอดีแต่เห็นได้ชัด ว่าประสบการณ์ในอดีต ทำให้นางมีความรู้สึกไม่ดีกับผู้อาวุโสสามมากและเพราะการแสดงออกในเมืองหลวงของจั๋วซือหรานยิ่งยอดเยี่ยม ยิ่งโดดเด่นผู้อาวุโสสามกับผู้อาวุโ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status