แชร์

บทที่ 762

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
ทั้งที่ตอนก้าวเดินก่อนหน้านี้แทบจะทนไม่ไหวแล้วแท้ๆ ทว่าตอนนี้ กลับนิ่งไปเสียแล้ว

ตอนนี้เอง ซางถิงก็ตั้งตัวกลับมาได้แล้วว่าตนเองพูดอะไรออกไป

หน้าของเขาแดงหนักกว่าเดิม หางตาก็เลยแดงขึ้นไปอีก เขารีบโบกมือพูดว่า "ข้า ความหมายของข้าคือ...ข้าเองก็จะทำเหมือนเจี่ยงเทียนซิงกับเฮยหลิงแบบนั้น! ที่คอยเป็นกำลังให้เจ้า!"

"อา อย่างนี้นี่เอง" จั๋วซือหรานหัวเราะ "ก็ไม่ใช่ไม่ได้นี่นา..."

จั๋วซือหรานพูดพลางแหงนตาขึ้นเล็กน้อย และเห็นฉุนจวินที่ประตู

จั๋วซือหรานสายตาชะงักไป เสียงหยุดลงทันที

แน่นอนว่ามองเห็นร่างสูงใหญ่ที่คลุมไว้ตั้งแต่หัวจรดเท้าข้างๆ ฉุนจวินด้วยเช่นกัน

อ๊ะโอ้ จั๋วซือหรานคิดในใจ แย่แล้ว

ร่างสูงใหญ่ที่คลุมไว้ด้วยเสื้อคลุมหนาตั้งแต่หัวจรดเท้าร่างนั้น เหมือนจะมีปฏิกิริยาขึ้นมา หมุนตัวเดินออกไปด้านนอก

ฉุนจวินรีบร้อนตะโกน "เอ๊ะ ท่านรอข้าด้วย!"

ฉุนจวินไล่ตามมา

จั๋วซือหรานเองก็ก็กระโดดเหยงๆ ไล่ตามออกไป

วิชาของเขาก็รวดเร็วอยู่ วิชาที่ปราดเปรียวของจั๋วซือหราน ตอนที่ไล่ตามมา เขาก็มุดเข้าไปในรถม้านอกประตูแล้ว

จั๋วซือหรานรีบตามเข้าไป

ตอนที่หย่อนก้นเข้าไปในรถม้า เพราะรีบขยับตัวเกินไป ก้นเลยเ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 763

    "ที่ข้าคิดน่ะหรือ?" จั๋วซือหรานทวนซ้ำคำพูดก่อนหน้าของเขามาอีกรอบจากนั้นจึงยิ้มจนตาพญาหงส์โค้งหวาน เปล่งประกายเสน่ห์ที่ดึงดูดถึงจิตใจนางเอ่ยต่อว่า "ถ้าให้ข้าพูด ท่านต้องหึงแล้วแน่ๆ เลย""เจ้ายังดูอารมณ์ดีอีกนะ" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นอย่างจนใจจั๋วซือหรานไม่ได้ปฏิเสธ นางหัวเราะตอบว่า "ข้าไม่ดีใจได้หรือ? ท่านอ๋องหึงหวงเลยนะ นี่ก็เป็นสิ่งยืนยันว่าสนใจข้าไง"จั๋วซือหรานนึงเพิ่งลุกขึ้นนั่งตัวตรง เปิดเสื้อคลุมของเขาออก พิจารณาสถานการณ์กับตัวเขายื่นมือไปกุมข้อมือเขาแน่น จับชีพจรให้เขา"หลังจากท่านกลับไป พวกเขายังทำร้ายท่านอีกไหม?" จั๋วซือหรานถามแม้ดูจากสภาพและชีพจรของเฟิงเหยียนแล้ว ยังไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่ก็ยังไม่ค่อยวางใจ จึงถามขึ้นตรงๆเฟิงเหยียนตอบ "ขอแค่ข้ากลับไป ยังจะมีใครกล้าทำอะไรข้า ข้าไม่ทำอะไรพวกเขาก็ดีแค่ไหนแล้ว"เฟิงเหยียนตอบพลางยื่นมือไปจัดทรงผมที่แก้มของเธอ ทัดไปที่หลังใบหูเขาก้มหน้าลงมองจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานไม่ต้องเงยหน้าสบตาเขา ก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่ลึกซึ้งของเขาเหมือนเป็นความอ่อนโยน และเหมือนจะเป็นความรู้สึกลึกซึ้งกว่าความอ่อนโยน"ไม่ทำอะไรท่านก็ดีแล้ว" จั๋วซ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 764

    "มาสิ เพราะคิดถึงเจ้ามาก" เฟิงเหยียนเอ่ยเสียงขรึมคำพูดของผู้ชาย ไม่มีน้ำเสียงอะไรที่ดูเกินจริงเป็นพิเศษ เสียงทุ้มนุ่มที่ค่อยๆ พูดออกมา คำพูดสั้นๆ ง่ายๆ นี้ กลับมีความหมายที่ลึกซึ้งและน่าสนใจ ทำเอาใจของนางหนักอึ้งขึ้นมาทันทีอัดแน่นไปหมด"ข้าจะคิดหาวิธีต่อ ดูว่าสถานการณ์ของท่านจะจัดการอย่างไร ข้ามีวิธีการอยู่เสมอนั่นล่ะ จะต้องหาวิธีได้แน่" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนขานรับอืม เสียงฟังแล้วดูอ่อนนุ่ม เขาเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจกับอาการบาดเจ็บของตัวเองสักเท่าไรไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ไม่ต้องสน ตอนนี้ได้นั่งด้วยกันกับนาง ให้นางได้พิงไหล่ตนเอง แค่นี้ก็ดีมากแล้วจั๋วซือหรานพิงบนไหล่เขาไม่ค่อยสบายนัก จึงขดตัวเข้าไปในอ้อมกอดเขาหลังจากเปลี่ยนไปอยู่ในท่าที่สบายหน่อย ถึงได้เริ่มคุยกับเขาเรื่องธุรกิจโรงเตี๊ยมในวันนี้นางเอาแผนของตนเองเล่าออกมารอบหนึ่งหลังจากเฟิงเหยียนได้ยิน ก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ถามขึ้นว่า "ทำไมอยากจะทำโรงเตี๊ยมโรงน้ำชาขึ้นมาล่ะ?""ก็ไม่มีอะไร แค่รู้สึกว่า คงต้องค่อยๆ ทำเครือข่ายข่าวสารของตนเองให้ดีหน่อย" จั๋วซือหรานตอบ "ทำโรงเตี๊ยมเป็นทิศทางที่ไม่เลว ปิดบังหูตาได้ด้วย"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 765

    ระหว่างทางกลับ ในใจเฟิงเหยียนถูกอัดแน่นจนเต็มประดาอดพูดไม่ได้เลย ถ้าหากหญิงสาวคนนั้นคิดจะเล่นกับหัวใจเขาล่ะก็ ถือว่าเป็นนักเล่นกับหัวใจชั้นหนึ่งเลยทีเดียวเชียวแค่พูดไม่กี่คำ ก็หยิบหัวใจของเขาลงมาบีบๆ นวดๆ จนทำให้มันเชื่อฟังอย่างสิ้นเชิงฉุนจวินนั่งอยู่ขับรถอยู่ด้านหน้า ก็อดบ่นขึ้นามาไม่ได้ "นายท่าน ตอนนี้ก็มีเรื่องลำบากอยู่มากแล้ว ท่านก็อดทนหน่อยเถอะ เช่นนี้ไม่ใช่แค่ดีกับท่านนะ แต่ยังดีกับแม่นางจิ่วด้วย""รู้แล้ว" เฟิงเหยียนตอบกลับเรียบๆ "หลังจากนี้จะรวัง วันนี้ก็ใจด่วนใจเร็วไปหน่อย""ข้าน้อยกังวลว่าตระกูลเฟิงพวกนั้น กลังเตรียมการจะทำร้ายท่าน แล้วก็แม่นางจิ่ว..." ฉุนจวินถอนใจขึ้นเบาๆ "ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังซ่อนเอาไว้ลึกมาก บางครั้งกระทั่งไม่รู้ว่าพวกเขาพวกเขาคิดอะไรอยู่ด้วยซ้ำ ดังนั้นควรระวังเอาไว้ก่อน..."ตอนนี้เอง เสียงของฉุนจวินก็ชะงักไปลูกศรคมกริบดอกหนึ่ง ทะลุคอของฉุนจวินออกไป!เลือดสดสาดกระจายบนรถม้า!เฟิงเหยียนเดิมทีที่ยังได้ยินฉุนจวินพูดอยู่ พอได้ยินเสียงของเขาชะงักไป จากนั้นยังมีเสียง...ของแหลมทะลุเนื้อคนตามเข้ามา ฟังแล้วทำเอาฟันจำต้องขบกันแน่นเลยทีเดียว"ฉุนจวิน!

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 766

    เพราะเขาได้ยินเสียงเสียงฝีเท้ารอบๆ เข้ามาใกล้ และมีเสียงกระซิบกระซาบบางส่วนเนื้อหาในคำพูด ทำให้ฉุนจวินรู้สึกใจสะพรึงขึ้นมา!"เร็ว! เขาลงมือช่วยองครักษ์เงาของเขาแล้ว บนตัวเขาไม่มีพลังวิญญาณรักษาของจั๋วซือหราน คงทนได้ไม่นานแล้ว!""ถือโอกาสนี้! พาตัวเขาไปซะ!"ฉุนจวินจึงเพิ่งรู้สึกตัว ว่านี่เป็นแผนร้าย นี่เป็นแผนร้ายที่ตระกูลเฟิงเพ่งเล็งมาที่นายท่านยิ่งไปกว่านั้นดูแล้ว พวกเขาน่าจะวางแผนมานานแล้วด้วยเบ้าตาของฉุนจวินร้อนวูบ น้ำตาไหลอาบลงมาอย่างคุมไม่อยู่เพราะว่า เขาเห็นว่าแผลบนตัวของนายท่าน เริ่มขยายออกความรุนแรงนั่น บาดแผลไหม้เกรียมที่น่ากลัว เริ่มแผ่ลามไปทั่วตัวเขา แม้จะใส่เสื้อคลุมกับสวมหมวกปีกกว้างอยู่ แต่ก็ยังชัดเจนมาก ยังคงดูรุนแรง ตามหลักการก็ไม่ควรรุนแรงถึงระดับนี้ น่ากลัวเหลือเกิน ตระกูลเฟิงคงจะทำอะไรเข้าไปอีกเหมือนกับตอนที่นายท่านบาดเจ็บตอนที่ทดสอบเมื่อครั้งนั้นเลยฉุนจวินได้ยินเสียงของนายท่าน คอหอยเขาน่าจะมีแผลไหม้เกรียมอยู่ ดังนั้นเสียงฟังแล้วจึงแหบแห้งเขาบอกเสียงต่ำกับฉุนจวินว่า "ไปหา...หรานหราน นางจะ ช่วยเจ้า จากนั้น...อยู่กับนาง ปกป้องนาง ไม่ต้องกลับไปอีก ถ้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 767

    แต่ว่าร่างกายของฉุนจวินกลับไม่ได้ร่วงลงไปบนพื้นน้ำแข็ง และไม่มีความเจ็บปวดแบบที่คิดเอาไว้เดิมทีเขายังคิดว่า เพราะแผลที่คอของตนเองปวดมาเกินไป จนทำให้ร่างกายมองข้ามความเจ็บปวดอื่นไปจนหมดแต่เพียงไม่นานก็ตั้งสติขึ้นได้ ว่ามันไม่ใช่เขาไม่ได้ร่วงลงมาบนพื้น!เขาถูกสายไร้รูปร่างบางอย่างรับเอาไว้!"ให้ตายเถอะ!" เสียงร้องอุทานเสียงหนึ่งดังขึ้นฉุนจวินจำได้ นี่เป็นเสียงของฝูซูคนรับใช้ข้างกายแม่นางจิ่ว"คอของเเขาถูกธนูแทงจนทะลุแล้ว ไม่รู้จริงๆ ว่ายืนหยัดมาถึงที่นี่ได้อย่างไร..." อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ฟังน้ำเสียงแล้วดูตกตะลึงกับเคร่งขรึมฉุนจวินฟังออกอีก นี่เป็นเสียงของชายที่แทบจะทำให้นายท่านหึงอกแตกตายก่อนหน้านี้ ลูกหลานของตระกูลซางและต่อมา ฉุนจวินก็ได้ยินเสียงที่ทำให้คนสงบใจลง"ฝูซู ไปเอาสุราแรงๆ เช็ดที่เตียงนั้นในห้องข้ารอบหนึ่ง" จั๋วซือหรานกำชับขึ้นมา"รับทราบ!" ฝูซูปกติเป็นคนที่ชอบพูดจาหยอกล้อ แต่เวลาจริงจัง ก็ยังถือว่าพึ่งพาได้อยู่ รีบวิ่งไปจัดการแล้วจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ "ซางถิง เจ้าไปหาข่าวมาหน่อย บนถนนที่จากบ้านพวกเราไปยังบ้านตระกูลเฟิง เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมฉุนจวินถึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 768

    วินาทีต่อมาเขาจึงรู้สึกถึงความเจ็บปวดของคมแหลมส่งเข้ามาจากคอ ม่านตาเขาหดลง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นแต่เพียงไม่นาน เขาก็รู้สึกได้ว่าที่ขยายออกมาจากความเจ็บปวดของคมแหลมนั่นไม่ใช่ความเจ็บปวด แต่เป็นความชาความรู้สึกด้านชานั้น แจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ เหมือนจะไม่เจ็บแล้วเขาตะลึงไปหน่อยๆ เหมือนไม่ค่อยเข้าใจกับเรื่องนี้นักจั๋วซือหรานวางเข็มฉีดยาลงไปข้างๆ หยิบมีดผ่าตัดเล่มหนึ่งออกมา ขยายบาดแผลที่ถูกธนูแทงทะลุบนคอฉุนจวินให้กว้างขึ้นพอทั้งสองด้านกว้างขึ้นหน่อยแล้ว จากนั้นจึงโรยยาห้ามเลือดลงไปบนแผลอย่างหนา แล้วจึงเริ่มดึงลูกศรออกลูกศรถูกดึงออกทีละนิดตอนที่ลูกธนูครึ่งดอกด้านซ้ายถูกดึงอกมา จั๋วซือหรานเดิมทีคิดว่าเลือดจะพุ่งออกมา จึงเตรียมพร้อมการรักษาเขาไว้แล้วแต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด หลังจากที่ตนเองดึงลูกธนูออกมาแผลบนคอของฉุนจวิน เลือดกลับหยุด แผลผสานเข้ามาด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าพอเห็นฉากนี้ ตาของจั๋วซือหรานก็ถลึงตาโตขึ้นนางเป็นคนที่มือนิ่งมาตลอด แต่ตอนนี้กลับสั่นระริกขึ้นมานางสงบมือของตนเองลง จากนั้นจึงดึงลูกศรออกจากคออีกด้านจองฉุนจวินและเป็นไปตามคาด เป็นเหมือนกับอีกด้านไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 769

    ซางถิงตอบ "ไม่มีใครมีข้อมูลเลย แค่พูดกันว่าเหมือนมีรถม้าหลายคนจอดอยู่ตรงนั้น ต่อมาก็มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา ขับรถม้าพวกนั้นออกไปแล้ว""เฟิงเหยียนล่ะ" จั๋วซือหรานถามขึ้นซางถิงส่ายหัว "ไม่ได้ยินว่ากลับไปที่บ้านเลย""แล้วคนที่ขับรถพวกนั้นออกไปคือใครกัน? มีเบาะแสบ้างมั๊ย" จั๋วซือหรานถาม"ไม่มีเลย" ซางถิงคิดๆ เอ่ยต่อมาว่า "พอข้าคิดๆ ก็เลยไปหาข่าวที่ประตูเมืองมา รู้แค่ว่า มีรถม้าของตระกูลเฟิงออกไปแล้ว""ได้ ข้ารู้แล้ว ขอบคุณเจ้ามาก" จั๋วซือหรานพอฟังถึงจุดนี้ ก็ร้องเชอะหัวเราะขึ้นเสียงเย็นชานางสะบัดชายเสื้อ หมุนตัวเข้าไปในห้องฉุนจวินกำลังเขียนหนังสือ บนหน้าผากมีเหงื่อผุดซึมจั๋วซือหรานเดินเข้าไปพลางถามขึ้นว่า "คนที่จับนายท่านเจ้าไป คือคนของตระกูลเฟิงใช่ไหม?"ฉุนจวินพอได้ยินคำนี้ ก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว จากนั้นก็พยักหน้าตอบเบาๆเขาก้มหน้า สีหน้ารู้สึกผิดมาก เขารีบเขียนกระดาษอย่างรวดเร็ว ยื่นส่งไปให้จั๋วซือหรานจั๋วซือหรานกวาดมองผาดหนึ่ง ก็เห็นเนื้อหาที่เขียนว่า "คุณหนูจิ่ว ผิดที่ข้าเอง เพราะข้าบาดเจ็บ นายท่านเพื่อช่วยชีวิตข้า จึงเอาพลังวิญญาณที่ท่านให้ไปทั้งหมดส่งมาให้ข้า จากนั้นเขาก็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 770

    เดิมทีฉุนจวินคิดว่า นางมีสายตากับน้ำเสียงเช่นนั้น ก็เพราะยังไม่มีเบาะแสอะไรแต่ใครจะรู้ ว่าพริบตาต่อมา เขาก็อ่านออกถึงความเด็ดเดี่ยวกับจิตสังหารถึงที่สุดใน...ดวงตาแม่นางจิ่ว"หลังจากนั้นข้าก็จะเริ่มสังหารคน" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบฉุนจวินรู้สึกแค่ว่าแผ่นหลังเย็นวาบ เขาเองก็พูดไม่ออกว่าเพราะอะไรถึงรู้สึกแบบนี้ แต่มันไม่ใช่ความกลัวทว่าแปลกมาก เขาไม่กลัวจั๋วซือหราน แต่กลับสันหลังวาบจากคำพูดนี้ของจั๋วซือหราน คล้ายกับความยำเกรงต่อผู้แข็งแกร่งอะไรแบบนั้น..."ข้าจะดูว่าต้องสังหารคนแค่ไหน พวกเขาถึงจะคืนคนให้ข้า" จั๋วซือหรานสายตายังคงเหม่อไปไกล แต่จิตสังหารในสายตา ยังคงไม่จางหายนางเอ่ยต่อมาเสียงเรียบ "พวกเขาไม่ใช่คิดจะให้ข้าโกรธหรือ ตอนนี้ข้าโกรธแล้ว ข้าจะดู ว่าพวกเขาจะแบกรับความโกรธของข้าได้ไหม"จั๋วซือหรานพูดประโยคนี้จบ ก็บอกกับฉุนจวินคำหนึ่งว่า "เจ้าเขียนสิ่งที่ควรเขียนมาเถอะ แล้วก็รักษาตัวให้ดี ข้ามีเรื่องต้องออกไปข้างนอกหน่อย เพิ่งนึกออก ว่าก่อนที่จะเก็บพวกตระกูลเฟิงนี่ยังมีคนอื่นที่ต้องไปจัดการอยู่"ฉุนจวินรีบเขียนขึ้นมา: ใครหรือขอรับ?จั๋วซือหรานเอียงตามองเขา ถามขึ้นว่า

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status