Share

บทที่ 766

Author: หูเทียนเสี่ยว
เพราะเขาได้ยินเสียงเสียงฝีเท้ารอบๆ เข้ามาใกล้ และมีเสียงกระซิบกระซาบบางส่วน

เนื้อหาในคำพูด ทำให้ฉุนจวินรู้สึกใจสะพรึงขึ้นมา!

"เร็ว! เขาลงมือช่วยองครักษ์เงาของเขาแล้ว บนตัวเขาไม่มีพลังวิญญาณรักษาของจั๋วซือหราน คงทนได้ไม่นานแล้ว!"

"ถือโอกาสนี้! พาตัวเขาไปซะ!"

ฉุนจวินจึงเพิ่งรู้สึกตัว ว่านี่เป็นแผนร้าย นี่เป็นแผนร้ายที่ตระกูลเฟิงเพ่งเล็งมาที่นายท่าน

ยิ่งไปกว่านั้นดูแล้ว พวกเขาน่าจะวางแผนมานานแล้วด้วย

เบ้าตาของฉุนจวินร้อนวูบ น้ำตาไหลอาบลงมาอย่างคุมไม่อยู่

เพราะว่า เขาเห็นว่าแผลบนตัวของนายท่าน เริ่มขยายออก

ความรุนแรงนั่น บาดแผลไหม้เกรียมที่น่ากลัว เริ่มแผ่ลามไปทั่วตัวเขา แม้จะใส่เสื้อคลุมกับสวมหมวกปีกกว้างอยู่ แต่ก็ยังชัดเจนมาก ยังคงดูรุนแรง ตามหลักการก็ไม่ควรรุนแรงถึงระดับนี้ น่ากลัวเหลือเกิน ตระกูลเฟิงคงจะทำอะไรเข้าไปอีก

เหมือนกับตอนที่นายท่านบาดเจ็บตอนที่ทดสอบเมื่อครั้งนั้นเลย

ฉุนจวินได้ยินเสียงของนายท่าน คอหอยเขาน่าจะมีแผลไหม้เกรียมอยู่ ดังนั้นเสียงฟังแล้วจึงแหบแห้ง

เขาบอกเสียงต่ำกับฉุนจวินว่า "ไปหา...หรานหราน นางจะ ช่วยเจ้า จากนั้น...อยู่กับนาง ปกป้องนาง ไม่ต้องกลับไปอีก ถ้า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Dino Khamruangsri
กำลังสนุก ต่อคะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 767

    แต่ว่าร่างกายของฉุนจวินกลับไม่ได้ร่วงลงไปบนพื้นน้ำแข็ง และไม่มีความเจ็บปวดแบบที่คิดเอาไว้เดิมทีเขายังคิดว่า เพราะแผลที่คอของตนเองปวดมาเกินไป จนทำให้ร่างกายมองข้ามความเจ็บปวดอื่นไปจนหมดแต่เพียงไม่นานก็ตั้งสติขึ้นได้ ว่ามันไม่ใช่เขาไม่ได้ร่วงลงมาบนพื้น!เขาถูกสายไร้รูปร่างบางอย่างรับเอาไว้!"ให้ตายเถอะ!" เสียงร้องอุทานเสียงหนึ่งดังขึ้นฉุนจวินจำได้ นี่เป็นเสียงของฝูซูคนรับใช้ข้างกายแม่นางจิ่ว"คอของเเขาถูกธนูแทงจนทะลุแล้ว ไม่รู้จริงๆ ว่ายืนหยัดมาถึงที่นี่ได้อย่างไร..." อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ฟังน้ำเสียงแล้วดูตกตะลึงกับเคร่งขรึมฉุนจวินฟังออกอีก นี่เป็นเสียงของชายที่แทบจะทำให้นายท่านหึงอกแตกตายก่อนหน้านี้ ลูกหลานของตระกูลซางและต่อมา ฉุนจวินก็ได้ยินเสียงที่ทำให้คนสงบใจลง"ฝูซู ไปเอาสุราแรงๆ เช็ดที่เตียงนั้นในห้องข้ารอบหนึ่ง" จั๋วซือหรานกำชับขึ้นมา"รับทราบ!" ฝูซูปกติเป็นคนที่ชอบพูดจาหยอกล้อ แต่เวลาจริงจัง ก็ยังถือว่าพึ่งพาได้อยู่ รีบวิ่งไปจัดการแล้วจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ "ซางถิง เจ้าไปหาข่าวมาหน่อย บนถนนที่จากบ้านพวกเราไปยังบ้านตระกูลเฟิง เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมฉุนจวินถึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 768

    วินาทีต่อมาเขาจึงรู้สึกถึงความเจ็บปวดของคมแหลมส่งเข้ามาจากคอ ม่านตาเขาหดลง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นแต่เพียงไม่นาน เขาก็รู้สึกได้ว่าที่ขยายออกมาจากความเจ็บปวดของคมแหลมนั่นไม่ใช่ความเจ็บปวด แต่เป็นความชาความรู้สึกด้านชานั้น แจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ เหมือนจะไม่เจ็บแล้วเขาตะลึงไปหน่อยๆ เหมือนไม่ค่อยเข้าใจกับเรื่องนี้นักจั๋วซือหรานวางเข็มฉีดยาลงไปข้างๆ หยิบมีดผ่าตัดเล่มหนึ่งออกมา ขยายบาดแผลที่ถูกธนูแทงทะลุบนคอฉุนจวินให้กว้างขึ้นพอทั้งสองด้านกว้างขึ้นหน่อยแล้ว จากนั้นจึงโรยยาห้ามเลือดลงไปบนแผลอย่างหนา แล้วจึงเริ่มดึงลูกศรออกลูกศรถูกดึงออกทีละนิดตอนที่ลูกธนูครึ่งดอกด้านซ้ายถูกดึงอกมา จั๋วซือหรานเดิมทีคิดว่าเลือดจะพุ่งออกมา จึงเตรียมพร้อมการรักษาเขาไว้แล้วแต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด หลังจากที่ตนเองดึงลูกธนูออกมาแผลบนคอของฉุนจวิน เลือดกลับหยุด แผลผสานเข้ามาด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าพอเห็นฉากนี้ ตาของจั๋วซือหรานก็ถลึงตาโตขึ้นนางเป็นคนที่มือนิ่งมาตลอด แต่ตอนนี้กลับสั่นระริกขึ้นมานางสงบมือของตนเองลง จากนั้นจึงดึงลูกศรออกจากคออีกด้านจองฉุนจวินและเป็นไปตามคาด เป็นเหมือนกับอีกด้านไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 769

    ซางถิงตอบ "ไม่มีใครมีข้อมูลเลย แค่พูดกันว่าเหมือนมีรถม้าหลายคนจอดอยู่ตรงนั้น ต่อมาก็มีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา ขับรถม้าพวกนั้นออกไปแล้ว""เฟิงเหยียนล่ะ" จั๋วซือหรานถามขึ้นซางถิงส่ายหัว "ไม่ได้ยินว่ากลับไปที่บ้านเลย""แล้วคนที่ขับรถพวกนั้นออกไปคือใครกัน? มีเบาะแสบ้างมั๊ย" จั๋วซือหรานถาม"ไม่มีเลย" ซางถิงคิดๆ เอ่ยต่อมาว่า "พอข้าคิดๆ ก็เลยไปหาข่าวที่ประตูเมืองมา รู้แค่ว่า มีรถม้าของตระกูลเฟิงออกไปแล้ว""ได้ ข้ารู้แล้ว ขอบคุณเจ้ามาก" จั๋วซือหรานพอฟังถึงจุดนี้ ก็ร้องเชอะหัวเราะขึ้นเสียงเย็นชานางสะบัดชายเสื้อ หมุนตัวเข้าไปในห้องฉุนจวินกำลังเขียนหนังสือ บนหน้าผากมีเหงื่อผุดซึมจั๋วซือหรานเดินเข้าไปพลางถามขึ้นว่า "คนที่จับนายท่านเจ้าไป คือคนของตระกูลเฟิงใช่ไหม?"ฉุนจวินพอได้ยินคำนี้ ก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว จากนั้นก็พยักหน้าตอบเบาๆเขาก้มหน้า สีหน้ารู้สึกผิดมาก เขารีบเขียนกระดาษอย่างรวดเร็ว ยื่นส่งไปให้จั๋วซือหรานจั๋วซือหรานกวาดมองผาดหนึ่ง ก็เห็นเนื้อหาที่เขียนว่า "คุณหนูจิ่ว ผิดที่ข้าเอง เพราะข้าบาดเจ็บ นายท่านเพื่อช่วยชีวิตข้า จึงเอาพลังวิญญาณที่ท่านให้ไปทั้งหมดส่งมาให้ข้า จากนั้นเขาก็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 770

    เดิมทีฉุนจวินคิดว่า นางมีสายตากับน้ำเสียงเช่นนั้น ก็เพราะยังไม่มีเบาะแสอะไรแต่ใครจะรู้ ว่าพริบตาต่อมา เขาก็อ่านออกถึงความเด็ดเดี่ยวกับจิตสังหารถึงที่สุดใน...ดวงตาแม่นางจิ่ว"หลังจากนั้นข้าก็จะเริ่มสังหารคน" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบฉุนจวินรู้สึกแค่ว่าแผ่นหลังเย็นวาบ เขาเองก็พูดไม่ออกว่าเพราะอะไรถึงรู้สึกแบบนี้ แต่มันไม่ใช่ความกลัวทว่าแปลกมาก เขาไม่กลัวจั๋วซือหราน แต่กลับสันหลังวาบจากคำพูดนี้ของจั๋วซือหราน คล้ายกับความยำเกรงต่อผู้แข็งแกร่งอะไรแบบนั้น..."ข้าจะดูว่าต้องสังหารคนแค่ไหน พวกเขาถึงจะคืนคนให้ข้า" จั๋วซือหรานสายตายังคงเหม่อไปไกล แต่จิตสังหารในสายตา ยังคงไม่จางหายนางเอ่ยต่อมาเสียงเรียบ "พวกเขาไม่ใช่คิดจะให้ข้าโกรธหรือ ตอนนี้ข้าโกรธแล้ว ข้าจะดู ว่าพวกเขาจะแบกรับความโกรธของข้าได้ไหม"จั๋วซือหรานพูดประโยคนี้จบ ก็บอกกับฉุนจวินคำหนึ่งว่า "เจ้าเขียนสิ่งที่ควรเขียนมาเถอะ แล้วก็รักษาตัวให้ดี ข้ามีเรื่องต้องออกไปข้างนอกหน่อย เพิ่งนึกออก ว่าก่อนที่จะเก็บพวกตระกูลเฟิงนี่ยังมีคนอื่นที่ต้องไปจัดการอยู่"ฉุนจวินรีบเขียนขึ้นมา: ใครหรือขอรับ?จั๋วซือหรานเอียงตามองเขา ถามขึ้นว่า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 771

    พวกเขาเพิ่งกระโจนออกมา ก็เห็นว่าในมือจั๋วซือหรานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วราวกับเล่นกลเจ้าของสีดำที่ส่งเสียงกัมปนาทลั่นท้องฟ้าก่อนหน้านี้หายไปแล้ว ตอนนี้ในมือของนางมีดาบคู่เข้ามาแทน!พริบตาต่อมาร่างของนางก็หายไป"เร็ว! จัดการนางให้ได้!" คนที่ส่งเสียงขู่จั๋วซือหรานเมื่อครู่ รีบร้องขึ้นมาอีกครั้งแต่ว่า องครักษ์เงากับคนคุ้มกันของจวนตระกูลเฟิงเหล่านั้น ก็ไม่สามารถใช้สายตาจับร่องรอยจั๋วซือหรานได้เลยตอนที่พวกเขายังพยายามค้นหาร่องรอยจั๋วซือหรานในเรือน ใครก็ไม่ทันสังเกต ว่าจั๋วซือหรานปรากฏขึ้นด้านหลังคนที่ตะโกนขึ้นเมื่อครู่แล้วคนผู้นี้เดิมทียังเหลียวซ้ายระวังขวาอยู่ พิจารณารอบๆ อย่างระมัดระวัง คอยมองว่าปีศาจหญิงคนนั้นอยู่ที่ไหนแต่กลับไม่สังเกตเลย ว่าร่างที่ราวกับเป็นภูติผีปรากฏขึ้นมาด้านหลังเขา หลังจากนั้นดาบเล่มหนึ่ง ก็เหวี่ยงเข้าที่หลังคอเขาพาดอยู่บนคอหอยเขา"อั่ก..." เสียงของเขาชะงักไปฉับพลัน จากนั้นจึงมีเสียงสั้นๆ ดังออกมาเขาสามารถสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกที่เย็นเฉียบแนบอยู่กับผิวหนังของตนเองคนอื่นๆ ที่ยังค้นหาคนอยู่ในเรือน กลับยังไม่ทันสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงทางนี้ใ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 772

    เหมือนมีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีพริบตาต่อมา เขาก็ได้ยินเสียงจั๋วซือหรานที่อยู่ด้นหลัง เป่าปากดังขึ้นมาสายตาทั้งหมดหันไปทางนางทันที!พริบตาต่อมา สายตาทั้งหมดก็ตกตะลึงไป!เพราะพวกเขาเห็นหญิงสาวที่ราวกับเป็นภูตผีคนนี้ นางที่สวมชุดสีแดงราวกับเพชรฆาตที่จ้องเอาชีวิตใช้ดาบเล่มหนึ่งแทงเข้าไปในคอคนคนนั้น!เลือดสดพุ่งกระฉูด สาดกระเซ็นไปทั่ว มีหยดเลือดกระเด็นไปบนหน้านางด้วยผิวขาวนวลของนางค่อยๆ กลายเป็นสีแดงจัดเขาจ้องมองคนเหล่านี้เขม็ง ปากยิ้มโค้งขึ้นมา เผยฟันขาวสะอาด สวยงามจนยากจะเปรียบเทียบ แต่ในสายตาของศัตรูแล้ว มันกลับเป็นความหวาดผวานางบอกจะสังหารก็สังหารจริงๆยิ่งไปกว่านั้นยังแจ้นมาสังหารคนถึงในจวนชาวบ้านเข้าอีก!วินาทีต่อมา ร่างของนางก็หายไปเพียงไม่นาน ก็มีคนล้มลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีแผลถึงกับชีวิต แต่ที่ล้มลงไป ส่วนใหญ่คือบาดเจ็บสาหัส!หญิงสาวคนนี้ ตอนที่รักษา ก็ราวกับแย่งชีวิตจากยมทูต แต่พอสังหารคนขึ้นมาก็ราวกับเป็นเทพแห่งความตายที่ลงมาเก็บเกี่ยวชีวิตคนติ๋ง ติ๋ง...เลือดสดหยดลงมาจากปลายดาบนางอี้ชิงพบว่า ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ คนที่คอยซุ่มโจมตีจั๋วซือหรานในเรือน ทยอยกันล้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 773

    ยาลูกกลอนไหลลงไปในคอเขาอย่างรวดเร็ว!อี้ชิงถลึงตาโต เสียงแหบพร่า "เจ้าให้ข้า...กินอะไรลงไป?!"เขาได้ยินเสียงหัวเราะเย็นชาของจั๋วซือหราน ราวกับได้ยินเสียงทุ้มต่ำมาจากนรก!"ก็แค่ของเล่นที่น่าสนใจบางส่วนน่ะ น่าจะทำให้ประสาทสัมผัสของเจ้าดีขึ้นมาหลายเท่าตัวกระมัง" จั๋วซือหรานหัวเราะเย็นชา "กระดูกบนตัวมนุษย์มีสองร้อยหกชิ้น มีให้พวกเราเล่นสนุกเหลือเฟือเลย"พอพูดจบคำนี้วินาทีต่อมา ความเจ็บปวดวูบหนึ่งก็ระเบิดขึ้นบนขาเขา!"อ๊าค...!" อี้ชิงคุกเข่าลงกับพื้นแต่การเคลื่อนไหวของจั๋วซือหรานกลับไม่ได้หยุดที่การคุกเข่าลงของเขานางแทบจะเป็นมีดชอนไชไปตามร่องกระดูกเลยทีเดียว บีบกระดูกบนตัวเขาทิ้งไปทีละท่อนๆไม่ได้ใช้อุปกรณ์อะไร แค่มือเรียวของนางเท่านั้น แต่กลับรู้สึกว่าโหดร้ายยิ่งกว่าคีมเสียอีก!และอี้ชิงเองก็ได้ลิ้มรสสิ่งที่นางพูดไว้...ความเจ็บปวดหลายเท่าสติของเขาก็แทบจะไม่เหลือแล้วเลือดในปากเขาไหลลงมาจากคาง มองแล้วดูซมซานน่าเวทนาราวกับว่ากระทั่งสติสัมปชัญญะก็ค่อยๆ หายไปแล้วแต่ว่าก็ค่อยๆ ฟื้นฟูสติสัมปชัญญะกลับมาด้วย และในช่วงเวลาสั้นๆ ที่สติกลับคืนมา เขาก็พูดตะกุกตะกักกับจั๋วซือหราน "ไว้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 774

    นี่เกือบจะตัดขาของนางออกมาอยู่แล้วเพราะว่าพวกเขา...รู้ว่าวิชาเคลื่อนไหวของนางยอดเยี่ยม ถนัดการส่งข่าว กลัวว่านางจะเอาข่าวไปรายงานกับเฟิงเหยียนหรือจั๋วซือหรานดังนั้นจึงทำให้ขานางบาดเจ็บสาหัสเสีย ยิ่งกว่านั้นยังส่งนางเข้ามาขังในคุกใต้ดิน แล้วยังเป็นห้องขังที่น้ำท่วมอีกตอนนี้ ขาของนางแช่อยู่ในน้ำสกปรกของคุกใต้ดิน เจ็บปวดขึ้นมาเป็นระยะ ยิ่งไปกว่านั้นนางยังรู้สึกว่าตนเองกำลังตัวร้อนสถานการณ์แย่ลงทุกที ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป คงต้อง...ตายแน่ๆตนเองตายไม่ไม่มีอะไรต้องกลัว แต่ยังไม่ทันได้รายงานกับนายท่าน ยังไม่ได้รายงานกับแม่นางจิ่ว...ถ้าหากต้องตายไปเช่นนี้ นางไม่ยอม นางตายตาไม่หลับ!ยิ่งไปกว่านั้น เหล่าพวกพ้อง แต่ละคนล้วนแข็งแกร่งกล้าหาญ ตอนนี้ก็ถูกขังกันอยู่ในคุกใต้ดินนี่มัน...ปัง!ตอนที่หานกวงถูกไข้ความร้อนทำให้มึนงง ในใจทั้งโกรธแค้นและเสียใจเสียงหนึ่งก็ดังลอดเข้ามาน่าจะเป็นด้านนอกคุก แต่ว่าต่อให้อยู่ในคุก ก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน!เสียงนี้ดังมาก สะเทือนขึ้นมาจนนางได้สติเดิมทีสมองที่ยังมึนงงเพราะความร้อน ตอนนี้ก็เปลี่ยนเป็นกระจ่างขึ้นมาแล้วพอควรหานกวงตกตะลึงขึ้นมา จากนั้น

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status