Share

บทที่ 760

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
คนของตระกูลซางม่านตาหดลง ทยอยกันมองออก ว่าสัตว์ประหลาดเหล่านี้ล้วนเป็นของซางเชวี่ย

และเป็นอย่างที่จั๋วซือหรานบอกจริงๆ เนื่องจากถูกซางเชวี่ยเปิดช่องพลังแล้วสูดรับ ทำให้พวกมันมีสภาพอ่อนแอมาก

สายตาที่จืดจางของจั๋วซือหรานมองพวกเขา "พวกเจ้าไม่ใช่บอกว่าแค่ข้าให้พวกมันออกมาจากถุงเก็บสัตว์ พวกมันก็จะกลับไปหาเจ้านายหรอกหรือ?"

จั๋วซือหรานถามคำนี้ออกมา คำพูดนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาเพิ่งพูดออกมาเองจริงๆ

แต่ก็ไม่รู้เพราะอะไร เวลานี้ ตอนที่ออกมาจากในปากของจั๋วซือหราน

พวกเขากลับไม่กล้าที่จะพยักหน้าอย่างประหลาด

จั๋วซือหรานมองพวกเขาแล้วเชิดคางขึ้น เอ่ยขึ้นว่า "เช่นนั้นพวกเจ้าก็ลองมองดู พวกมันถ้ายอมไปกับพวกเจ้า พวกเจ้าก็เอากลับไปเลย"

พอคำพูดนี้ออกมา เหล่าชายชราตระกูลซางก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ล้วนมองไปทางซางเชวี่ย บอกกับนางเสียงต่ำว่า "เชวี่ยเอ๋อร์ เร็ว เก็บสัตว์อสูรของเจ้ากลับไปเถอะ!"

ซางเชวี่ยพยักหน้า ประกบปางในมือขึ้นมา

แต่เพียงไม่นาน สีหน้าของนางก็ยิ่งเคร่งขรึม ยิ่งตกใจหวาดกลัวขึ้นเรื่อยๆ "ทำ...ทำไม? เพราะอะไร? ทำไมจึงเป็นเช่นนี้? เจ้าทำอะไรลงไป?! จั๋วซือหรานเจ้าทำอะไรลงไป?!"

จั๋วซือหรา
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 761

    ตอนที่คนตระกูลซางเดินออกมาจากเรือนของจั๋วซือหราน ล้วนหน้านิ่วคอตก ไม่ได้ดูน่าเกรงขามเหมือนก่อนหน้านี้แล้วและตอนนี้เอง พวกเขาก็เห็นรถม้าหลายคัน ค่อยๆ หยุดลงที่ประตูเรือนของจั๋วซือหรานบนรถม้าถึงแม้จะไม่มีตราสัญลักษณ์ชัดเจน แต่คนรถม้าอยู่ในชุดของตระกูลเฟิงเห็นพวกเขาลงจากรถม้าเหล่าชายชราตระกูลซางรู้สึกสนใจ ถามขึ้นว่า "พวกเจ้ากำลัง...? ตระกูลเฟิงมาหาเรื่องจั๋วจิ่วหรือ?"คนขับรถม้ามองพวกเขา ตอบว่า "ซื่อจื่อของพวกเราเอาของขวัญมาส่งให้แม่นางจั๋วจิ่วน่ะ"เหล่าชายชราตระกูลซาง "..."พวกเขารีบร้อนออกไป ก่นด่าเสียงต่ำ "ใครบอกกันว่าตระกูลเฟิงกับจั๋วจิ่วเป็นเหมือนน้ำกับไฟ?! พูดจาเลอะเทอะจริงๆ! นี่คนเขายังรีบเอาของขวัญมาส่งด้วยซ้ำ! ตอนนี้ใครก็ไม่กล้าไปยั่วโมโหจั๋วจิ่วกันแล้ว! ให้ตายเถอะ มีแต่พวกเรานี่ล่ะที่เอาหน้ายื่นส่งไปให้!"ซางเชวี่ยคอตก บนใบหน้าที่อ่อนแรงมีความกลัดกลุ้ม เธอก็ก็บอกไม่ถูกว่ารู้สึกเคียดแค้นหรือรู้สึกอะไรกับจั๋วซือหราน แต่ที่รู้สึกสำนึกเสียใจนั้นเป็นเรื่องจริง ถ้ารู้แต่แรก คงไม่เข้าไปยั่วโมโหคนผู้นี้แล้วนางมีฝีมือในการควบคุมสัตว์เสียด้วย...ถ้าหากไม่ไปยั่วโมโหนาง แล้วเข้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 762

    ทั้งที่ตอนก้าวเดินก่อนหน้านี้แทบจะทนไม่ไหวแล้วแท้ๆ ทว่าตอนนี้ กลับนิ่งไปเสียแล้วตอนนี้เอง ซางถิงก็ตั้งตัวกลับมาได้แล้วว่าตนเองพูดอะไรออกไปหน้าของเขาแดงหนักกว่าเดิม หางตาก็เลยแดงขึ้นไปอีก เขารีบโบกมือพูดว่า "ข้า ความหมายของข้าคือ...ข้าเองก็จะทำเหมือนเจี่ยงเทียนซิงกับเฮยหลิงแบบนั้น! ที่คอยเป็นกำลังให้เจ้า!""อา อย่างนี้นี่เอง" จั๋วซือหรานหัวเราะ "ก็ไม่ใช่ไม่ได้นี่นา..."จั๋วซือหรานพูดพลางแหงนตาขึ้นเล็กน้อย และเห็นฉุนจวินที่ประตูจั๋วซือหรานสายตาชะงักไป เสียงหยุดลงทันทีแน่นอนว่ามองเห็นร่างสูงใหญ่ที่คลุมไว้ตั้งแต่หัวจรดเท้าข้างๆ ฉุนจวินด้วยเช่นกันอ๊ะโอ้ จั๋วซือหรานคิดในใจ แย่แล้วร่างสูงใหญ่ที่คลุมไว้ด้วยเสื้อคลุมหนาตั้งแต่หัวจรดเท้าร่างนั้น เหมือนจะมีปฏิกิริยาขึ้นมา หมุนตัวเดินออกไปด้านนอกฉุนจวินรีบร้อนตะโกน "เอ๊ะ ท่านรอข้าด้วย!"ฉุนจวินไล่ตามมาจั๋วซือหรานเองก็ก็กระโดดเหยงๆ ไล่ตามออกไปวิชาของเขาก็รวดเร็วอยู่ วิชาที่ปราดเปรียวของจั๋วซือหราน ตอนที่ไล่ตามมา เขาก็มุดเข้าไปในรถม้านอกประตูแล้วจั๋วซือหรานรีบตามเข้าไปตอนที่หย่อนก้นเข้าไปในรถม้า เพราะรีบขยับตัวเกินไป ก้นเลยเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 763

    "ที่ข้าคิดน่ะหรือ?" จั๋วซือหรานทวนซ้ำคำพูดก่อนหน้าของเขามาอีกรอบจากนั้นจึงยิ้มจนตาพญาหงส์โค้งหวาน เปล่งประกายเสน่ห์ที่ดึงดูดถึงจิตใจนางเอ่ยต่อว่า "ถ้าให้ข้าพูด ท่านต้องหึงแล้วแน่ๆ เลย""เจ้ายังดูอารมณ์ดีอีกนะ" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นอย่างจนใจจั๋วซือหรานไม่ได้ปฏิเสธ นางหัวเราะตอบว่า "ข้าไม่ดีใจได้หรือ? ท่านอ๋องหึงหวงเลยนะ นี่ก็เป็นสิ่งยืนยันว่าสนใจข้าไง"จั๋วซือหรานนึงเพิ่งลุกขึ้นนั่งตัวตรง เปิดเสื้อคลุมของเขาออก พิจารณาสถานการณ์กับตัวเขายื่นมือไปกุมข้อมือเขาแน่น จับชีพจรให้เขา"หลังจากท่านกลับไป พวกเขายังทำร้ายท่านอีกไหม?" จั๋วซือหรานถามแม้ดูจากสภาพและชีพจรของเฟิงเหยียนแล้ว ยังไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่ก็ยังไม่ค่อยวางใจ จึงถามขึ้นตรงๆเฟิงเหยียนตอบ "ขอแค่ข้ากลับไป ยังจะมีใครกล้าทำอะไรข้า ข้าไม่ทำอะไรพวกเขาก็ดีแค่ไหนแล้ว"เฟิงเหยียนตอบพลางยื่นมือไปจัดทรงผมที่แก้มของเธอ ทัดไปที่หลังใบหูเขาก้มหน้าลงมองจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานไม่ต้องเงยหน้าสบตาเขา ก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่ลึกซึ้งของเขาเหมือนเป็นความอ่อนโยน และเหมือนจะเป็นความรู้สึกลึกซึ้งกว่าความอ่อนโยน"ไม่ทำอะไรท่านก็ดีแล้ว" จั๋วซ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 764

    "มาสิ เพราะคิดถึงเจ้ามาก" เฟิงเหยียนเอ่ยเสียงขรึมคำพูดของผู้ชาย ไม่มีน้ำเสียงอะไรที่ดูเกินจริงเป็นพิเศษ เสียงทุ้มนุ่มที่ค่อยๆ พูดออกมา คำพูดสั้นๆ ง่ายๆ นี้ กลับมีความหมายที่ลึกซึ้งและน่าสนใจ ทำเอาใจของนางหนักอึ้งขึ้นมาทันทีอัดแน่นไปหมด"ข้าจะคิดหาวิธีต่อ ดูว่าสถานการณ์ของท่านจะจัดการอย่างไร ข้ามีวิธีการอยู่เสมอนั่นล่ะ จะต้องหาวิธีได้แน่" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนขานรับอืม เสียงฟังแล้วดูอ่อนนุ่ม เขาเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจกับอาการบาดเจ็บของตัวเองสักเท่าไรไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ไม่ต้องสน ตอนนี้ได้นั่งด้วยกันกับนาง ให้นางได้พิงไหล่ตนเอง แค่นี้ก็ดีมากแล้วจั๋วซือหรานพิงบนไหล่เขาไม่ค่อยสบายนัก จึงขดตัวเข้าไปในอ้อมกอดเขาหลังจากเปลี่ยนไปอยู่ในท่าที่สบายหน่อย ถึงได้เริ่มคุยกับเขาเรื่องธุรกิจโรงเตี๊ยมในวันนี้นางเอาแผนของตนเองเล่าออกมารอบหนึ่งหลังจากเฟิงเหยียนได้ยิน ก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ถามขึ้นว่า "ทำไมอยากจะทำโรงเตี๊ยมโรงน้ำชาขึ้นมาล่ะ?""ก็ไม่มีอะไร แค่รู้สึกว่า คงต้องค่อยๆ ทำเครือข่ายข่าวสารของตนเองให้ดีหน่อย" จั๋วซือหรานตอบ "ทำโรงเตี๊ยมเป็นทิศทางที่ไม่เลว ปิดบังหูตาได้ด้วย"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 765

    ระหว่างทางกลับ ในใจเฟิงเหยียนถูกอัดแน่นจนเต็มประดาอดพูดไม่ได้เลย ถ้าหากหญิงสาวคนนั้นคิดจะเล่นกับหัวใจเขาล่ะก็ ถือว่าเป็นนักเล่นกับหัวใจชั้นหนึ่งเลยทีเดียวเชียวแค่พูดไม่กี่คำ ก็หยิบหัวใจของเขาลงมาบีบๆ นวดๆ จนทำให้มันเชื่อฟังอย่างสิ้นเชิงฉุนจวินนั่งอยู่ขับรถอยู่ด้านหน้า ก็อดบ่นขึ้นามาไม่ได้ "นายท่าน ตอนนี้ก็มีเรื่องลำบากอยู่มากแล้ว ท่านก็อดทนหน่อยเถอะ เช่นนี้ไม่ใช่แค่ดีกับท่านนะ แต่ยังดีกับแม่นางจิ่วด้วย""รู้แล้ว" เฟิงเหยียนตอบกลับเรียบๆ "หลังจากนี้จะรวัง วันนี้ก็ใจด่วนใจเร็วไปหน่อย""ข้าน้อยกังวลว่าตระกูลเฟิงพวกนั้น กลังเตรียมการจะทำร้ายท่าน แล้วก็แม่นางจิ่ว..." ฉุนจวินถอนใจขึ้นเบาๆ "ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังซ่อนเอาไว้ลึกมาก บางครั้งกระทั่งไม่รู้ว่าพวกเขาพวกเขาคิดอะไรอยู่ด้วยซ้ำ ดังนั้นควรระวังเอาไว้ก่อน..."ตอนนี้เอง เสียงของฉุนจวินก็ชะงักไปลูกศรคมกริบดอกหนึ่ง ทะลุคอของฉุนจวินออกไป!เลือดสดสาดกระจายบนรถม้า!เฟิงเหยียนเดิมทีที่ยังได้ยินฉุนจวินพูดอยู่ พอได้ยินเสียงของเขาชะงักไป จากนั้นยังมีเสียง...ของแหลมทะลุเนื้อคนตามเข้ามา ฟังแล้วทำเอาฟันจำต้องขบกันแน่นเลยทีเดียว"ฉุนจวิน!

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 766

    เพราะเขาได้ยินเสียงเสียงฝีเท้ารอบๆ เข้ามาใกล้ และมีเสียงกระซิบกระซาบบางส่วนเนื้อหาในคำพูด ทำให้ฉุนจวินรู้สึกใจสะพรึงขึ้นมา!"เร็ว! เขาลงมือช่วยองครักษ์เงาของเขาแล้ว บนตัวเขาไม่มีพลังวิญญาณรักษาของจั๋วซือหราน คงทนได้ไม่นานแล้ว!""ถือโอกาสนี้! พาตัวเขาไปซะ!"ฉุนจวินจึงเพิ่งรู้สึกตัว ว่านี่เป็นแผนร้าย นี่เป็นแผนร้ายที่ตระกูลเฟิงเพ่งเล็งมาที่นายท่านยิ่งไปกว่านั้นดูแล้ว พวกเขาน่าจะวางแผนมานานแล้วด้วยเบ้าตาของฉุนจวินร้อนวูบ น้ำตาไหลอาบลงมาอย่างคุมไม่อยู่เพราะว่า เขาเห็นว่าแผลบนตัวของนายท่าน เริ่มขยายออกความรุนแรงนั่น บาดแผลไหม้เกรียมที่น่ากลัว เริ่มแผ่ลามไปทั่วตัวเขา แม้จะใส่เสื้อคลุมกับสวมหมวกปีกกว้างอยู่ แต่ก็ยังชัดเจนมาก ยังคงดูรุนแรง ตามหลักการก็ไม่ควรรุนแรงถึงระดับนี้ น่ากลัวเหลือเกิน ตระกูลเฟิงคงจะทำอะไรเข้าไปอีกเหมือนกับตอนที่นายท่านบาดเจ็บตอนที่ทดสอบเมื่อครั้งนั้นเลยฉุนจวินได้ยินเสียงของนายท่าน คอหอยเขาน่าจะมีแผลไหม้เกรียมอยู่ ดังนั้นเสียงฟังแล้วจึงแหบแห้งเขาบอกเสียงต่ำกับฉุนจวินว่า "ไปหา...หรานหราน นางจะ ช่วยเจ้า จากนั้น...อยู่กับนาง ปกป้องนาง ไม่ต้องกลับไปอีก ถ้า

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 767

    แต่ว่าร่างกายของฉุนจวินกลับไม่ได้ร่วงลงไปบนพื้นน้ำแข็ง และไม่มีความเจ็บปวดแบบที่คิดเอาไว้เดิมทีเขายังคิดว่า เพราะแผลที่คอของตนเองปวดมาเกินไป จนทำให้ร่างกายมองข้ามความเจ็บปวดอื่นไปจนหมดแต่เพียงไม่นานก็ตั้งสติขึ้นได้ ว่ามันไม่ใช่เขาไม่ได้ร่วงลงมาบนพื้น!เขาถูกสายไร้รูปร่างบางอย่างรับเอาไว้!"ให้ตายเถอะ!" เสียงร้องอุทานเสียงหนึ่งดังขึ้นฉุนจวินจำได้ นี่เป็นเสียงของฝูซูคนรับใช้ข้างกายแม่นางจิ่ว"คอของเเขาถูกธนูแทงจนทะลุแล้ว ไม่รู้จริงๆ ว่ายืนหยัดมาถึงที่นี่ได้อย่างไร..." อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ฟังน้ำเสียงแล้วดูตกตะลึงกับเคร่งขรึมฉุนจวินฟังออกอีก นี่เป็นเสียงของชายที่แทบจะทำให้นายท่านหึงอกแตกตายก่อนหน้านี้ ลูกหลานของตระกูลซางและต่อมา ฉุนจวินก็ได้ยินเสียงที่ทำให้คนสงบใจลง"ฝูซู ไปเอาสุราแรงๆ เช็ดที่เตียงนั้นในห้องข้ารอบหนึ่ง" จั๋วซือหรานกำชับขึ้นมา"รับทราบ!" ฝูซูปกติเป็นคนที่ชอบพูดจาหยอกล้อ แต่เวลาจริงจัง ก็ยังถือว่าพึ่งพาได้อยู่ รีบวิ่งไปจัดการแล้วจั๋วซือหรานเอ่ยต่อ "ซางถิง เจ้าไปหาข่าวมาหน่อย บนถนนที่จากบ้านพวกเราไปยังบ้านตระกูลเฟิง เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมฉุนจวินถึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 768

    วินาทีต่อมาเขาจึงรู้สึกถึงความเจ็บปวดของคมแหลมส่งเข้ามาจากคอ ม่านตาเขาหดลง ดวงตาเบิกกว้างขึ้นแต่เพียงไม่นาน เขาก็รู้สึกได้ว่าที่ขยายออกมาจากความเจ็บปวดของคมแหลมนั่นไม่ใช่ความเจ็บปวด แต่เป็นความชาความรู้สึกด้านชานั้น แจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ เหมือนจะไม่เจ็บแล้วเขาตะลึงไปหน่อยๆ เหมือนไม่ค่อยเข้าใจกับเรื่องนี้นักจั๋วซือหรานวางเข็มฉีดยาลงไปข้างๆ หยิบมีดผ่าตัดเล่มหนึ่งออกมา ขยายบาดแผลที่ถูกธนูแทงทะลุบนคอฉุนจวินให้กว้างขึ้นพอทั้งสองด้านกว้างขึ้นหน่อยแล้ว จากนั้นจึงโรยยาห้ามเลือดลงไปบนแผลอย่างหนา แล้วจึงเริ่มดึงลูกศรออกลูกศรถูกดึงออกทีละนิดตอนที่ลูกธนูครึ่งดอกด้านซ้ายถูกดึงอกมา จั๋วซือหรานเดิมทีคิดว่าเลือดจะพุ่งออกมา จึงเตรียมพร้อมการรักษาเขาไว้แล้วแต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด หลังจากที่ตนเองดึงลูกธนูออกมาแผลบนคอของฉุนจวิน เลือดกลับหยุด แผลผสานเข้ามาด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าพอเห็นฉากนี้ ตาของจั๋วซือหรานก็ถลึงตาโตขึ้นนางเป็นคนที่มือนิ่งมาตลอด แต่ตอนนี้กลับสั่นระริกขึ้นมานางสงบมือของตนเองลง จากนั้นจึงดึงลูกศรออกจากคออีกด้านจองฉุนจวินและเป็นไปตามคาด เป็นเหมือนกับอีกด้านไ

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1268

    นางยืนเงียบๆ อยู่ตรงนั้น แหงนตาขึ้นมองพวกเขาสายตาของเฟิงเหยียนอึ้งไปเล็กน้อย เห็นนางยืนอยู่ในประตูด้วยสีหน้านิ่งขรึมเขารู้สึกลำคอแห้งผากอย่างประหลาด ความรู้สึกนั้น บางทีควรจะเรียกว่า...ตึงเครียดไหม?"เจ้า...ตื่นขึ้นมาตอนไหนน่ะ?" เฟิงเหยียนถามจั๋วซือหรานมองเขา "ไม่นานเท่าไร"เหมือจะมองออกถึงความกระอักกระอ่วนของเขา หรืออาจจะไม่สรุปคือ มุมปากจั๋วซือหรานยกขึ้นบางๆ พูดมาคำหนึ่ง "ท่านอ๋องน้อย ไม่เจอกันเสียนาน"นางทำแบบนี้โดยไม่เอ่ยถึงคำพูดก่อนหน้านั้นแม้แต่น้อยเฟิงเหยียนอ้าปากพะงาบ ต่อให้คิดจะพูดอะไร แต่ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้จึงแค่ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง "ดีขึ้นบ้างหรือยัง?"จั๋วซือหรานพยักหน้า "ดีขึ้นมากแล้ว"กระทั่งปันอวิ๋นก็ยังมองออกถึงเรื่องระหว่างพวกเขา ไม่รู้เพราะเจ้าสมองกลับนี่ไปแตะเนื้อต้องตัวทำอะไรนาง หรือเป็นเพราะคำพูดเมื่อครู่นางได้ยินคำพูดของเฟิงเหยียน...สรุปคือ ปันอวิ๋นมองพวกเขาทั้งสองคน แล้วก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกแทนพวกเขาทั้งสองคนปันอวิ๋นคิดๆ ดู ตอนที่ตนเองอยู่กับจั๋วซือหรานก็ยังไม่ได้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขนาดนี้รู้สึกร้อนใจแทนเจ้าบ้านี่จร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1267

    เพราะเป็นเพื่อนสนิท ปันอวิ๋นจึงเข้าใจความหมายที่เขาคิดจะแสดงออกมาหรือก็คือ ปันอวิ๋นเดาได้นานแล้วบางทีตอนนั้นเพื่อจะให้จั๋วซือหรานหลีกเลี่ยงโชคชะตาเช่นนี้ ตนเองจึงเลือกที่จะลืมเลือนแต่สุดท้ายพอวกไปวนมา ก็กลับมาเดินอยู่บนเส้นทางเดิมเจ้าสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตานี่ ลึกลับเอามากๆบางครั้งเหมือนจะมีเมตตา แต่บางครั้งก็เหมือนไม่เคยปราณีใครผู้ใด"แล้วเจ้าตอนนี้...คิดจะทำอย่างไร?" ปันอวิ๋นถามเขาจ้องเฟิงเหยียนตาไม่กระพริบเอาจริงๆ ปันอวิ๋นใช้มองจากมุมมองคนนอกอย่างมีเหตุมีผล ยังหวังว่าจั๋วซือหรานจะสามารถปล่อยวางได้แต่พอคิดถึงว่าถ้าหากจั๋วซือหรานปล่อยวางแล้วล่ะก็ ด้วยโชคชะตาภาชนะพลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงของเฟิงเหยียน ผลสรุปสุดท้าย ก็คือตายก่อนวัยอันควรอยู่ดีและเพราะรู้เรื่องนี้ ดังนั้นปันอวิ๋นจึงหยุดไปครู่หนึ่ง เอ่ยเสริมมาคำนึง "ถังฉือเคยบอกข้าไว้ ในโถงวิญญาณอสูร พวกสัตว์เทพที่ถูกเก็บกลับมาเหล่านั้น..."ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว คิดถึงคำพูดของถังฉือถังฉือมีบาปหนาจากการฆ่าฟันคนมากมาย กลายเป็นคนเย็นชาไร้หัวใจไปแล้ว ถ้าหากไม่เย็นชาไร้หัวใจ ป่านนี้คงเป็นบ้าไปแล้วดังนั้นตอนที่เขาพูดถึงเรื่องเห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1266

    ปันอวิ๋นส่งให้เขาชามหนึ่ง ตนเองก็ด้วยทั้งสองคนไม่พูดพล่ามทำเพลง กระดกรวดเดียวจนหมดราวกับว่า สุราที่มาช้าไปหลายปีนี้ ในที่สุดก็ได้ดื่มเสียทีราวกับว่าภาพเด็กน้อยที่แอบขโมยสุราพวกนั้นมาดื่ม ซ้อนทับเข้ามากับพวกเขาในเวลานี้"ช่วงนี้เจ้า ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลยหรือ?"หลังจากร่ำสุราลงท้องไปสองชาม จิตใจก็เหมือนจะผ่อนคลายลงมาไม่น้อย ปันอวิ๋นถามขึ้นอย่างสบายๆ เป็นกันเองเฟิงเหยียนฟังออก ว่าเขาถามถึงเหล่าพี่น้องพวกนั้นเขาตอบอืมไปคำหนึ่ง "ไม่ได้ติดต่อกันเลย""เช่นนั้นก็คงไม่รู้สถานการณ์ของพวกเขาเลยสินะ" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนไม่ยอมรับหรือปฏิเสธกับสิ่งนี้ ถือว่ายอมรับไปกลายๆปันอวิ๋นยิ้มๆ เหมือนจะเย้ยหยันตนเอง "แต่ก็ไม่โทษพวกเขาที่ไม่ติดต่อเจ้า ด้วยสถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้ ก็ไม่มีหน้ามาติดต่อเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ"ได้ยินคำนี้ของปันอวิ๋น เฟิงเหยียนก็ไม่พูดอะไรอีกปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "ซงซีตอนนี้ทุกวันเหมือนขลุกอยู่แต่ในห้องหลอมสกัด หลอมสกัดอยู่ทุกวันไม่ได้พักเลย"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ คิ้วก็ขมวดขึ้นบางๆ"เยี่ยนเหวย...ก็สูบเลือดออกมาทุกวัน อยู่แบบไม่เหมือนผู้เหมือนคน ผู้อาวุโสหวงจ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1265

    บางทีคงเป็นเพราะการคุยแบบเปิดอกก่อนหน้านี้ ทำให้ระยะทางขอเพื่อนสนิทสองคนที่เคยห่างไปตามกาลเวลา ย่อหดลงไปไม่น้อยเลยกระมังดังนั้นพอได้ยินปันอวิ๋นบอกว่าไม่ต้องขอบคุณ เฟิงเหยียนจึงเหลือบมองเขา น้ำเสียงเปลี่ยนไป "ก็ได้ เช่นนั้นก็ไม่ขอบคุณแล้วกัน"เฟิงเหยียนสั่งขึ้นมา "ไป ไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อย"แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในเสียงกลับไม่ได้ออกคำสั่งอะไร ฟังแล้วเหมือนการใช้งานระหว่างเพื่อนกันมากกว่าปันอวิ๋นชะงักไปเล้กน้อย เพราะตอนพวกเขายังเด็ก ก็เคยใช้งานกันและกันแบบนี้ไป ไปเอาสุรามาหน่อยได้ งั้นเจ้าก็เอาปลาไปย่างซะข้าเห็นว่าเจ้าหน้าตาเหมือนปลาถ้าเจ้ายังพูดอีกรอบ จะโดนข้ากดจนจมถังสุราตายไปเลยเพราะคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน ทั้งสองคนก็เหมือนกลับไปสมัยยังเด็กในชั่วพริบตาปันอวิ๋นยกมุมปากขึ้นบางๆ ลุกขึ้นไปให้คนรับใช้ส่งสุราเข้ามาคือสุราห้าพิษที่เขาจะหมักอยู่ทุกปี และใช้แมลงพิษมาหลอมจริงๆ แต่ตัวสุรากลับไม่มีพิษใดๆ กระทั่งยังหอมอบอวลเข้มข้นเป็นพิเศษ เป็นสุราที่หาได้ยากยิ่งและเป็นความลับที่ไม่เผยแพร่สู่ภายนอกของหุบเขาหมื่นพิษ ปกติมีแค่เจ้าหุบเขาที่รู้แต่ปันอวิ๋น หลังจากออกสำนักมา ก็ไม่ได้ด

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status