แชร์

บทที่ 515

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ภายใต้การจ้องมองของทุกคน จั๋วซือหรานลากผู้ชนะเลิศหลายสนมตัวสูงและล่ำสัน ซึ่งชื่อเฮยหลิง ออกจากสนามประลองและเดินเข้าไปในห้องด้านใน

หลังจากประตูห้องด้านในปิดลง ความเงียบในก่อนหน้านี้บนบริเวณของผู้ชมที่ด้านนอกก็พังทลายลง

ทันใดนั้นเสียงดังไปทั่ว

ผู้คนมักจะรังแกผู้อ่อนแอและหลีกเลี่ยงผู้แข็งแกร่ง เดิมทีพวกเขาคิดว่าจั๋วซือหรานเป็นเพียงคนตัวเล็กที่ถูกรังแกได้ง่าย แต่นางเป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์พอดี และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ก็เหมาะสมที่รักษาอาการบ้าคลั่งของเฮยหลิง ณ ปัจจุบัน

นั่นเป็นเหตุผลที่นางฉวยโอกาสได้ดี ดังนั้นจึงไม่มีใครเอาจริงเอาจังกับนาง แถมนางยังเป็นผู้หญิงอยู่

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าไม่ว่าเราจะอยู่ในโลกใดก็ตาม ผู้หญิงมักจะถูกดูถูกด้วยเหตุผลบางอย่างเสมอ

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อนางต่อสู้กับเฮยหลิง กระบวนการทั้งหมดนั้นก็ดูง่ายเกินไป

ซึ่งทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกว่านางมีความแข็งแกร่งไม่เพียงพอเท่าไร นางทำได้เพียงเพราะร่างกายของนางเบาเท่านั้น

กล่าวโดยสรุป ทุกคนไม่ได้จริงจังกับนาง และพวกเขาเลยกล้าพูดจาหยาบคายกับนางเช่นนั้นในก่อนหน้านี้

จนกระทั่งถึงเมื่อครู่นี้ เมื่อนางแสดงความสา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 516

    “ เขามาที่นี่จริง ๆ หรือ” ดวงตาของเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวแสดงความประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ยิ้มเยาะเย้ย "ดูเหมือนว่าเขาได้ยินเรื่องที่เฮยหลิงก่อความวุ่นวาย และอยากเข้ามาชมภาพที่ข้าเอาเรื่องไม่อยู่นะ…”“เขาคือใคร” จั๋วซือหรานได้ยินสิ่งที่เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวพูดในก่อนหน้านี้ และนางเดาออกคร่าว ๆ ว่า 'เปาบุ้นจิ้น' คนนั้นน่าจะเป็นคนจากอีกสองหอ“ช่างมันเถิด” จั๋วซือหรานโบกมือ “พระจันทร์บนใบหน้าของเขาชัดเจนมาก เขากลัวคนอื่นไม่รู้เขามาจากหอเงินจันทร์ใช่ไหม ”เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวพยักหน้าและกล่าวว่า "นั่นคือ เจ้าสำนักของหอเงินจันทร์ ยินเจ๋ออัน"“ยินเจ๋ออัน” จั๋วซือหรานหรี่ตา “ข้าจำชื่อของเขาไว้แล้ว”จั๋วซือหรานจำได้สิ่งที่เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวเพิ่งพูดในเมื่อครู่นี้ เนื่องจากผู้คนจากอีกสองหอต้องการส่วนแบ่งในธุรกิจของสนามฝึกฝนเช่นกัน พวกเขาจึงถือว่าเป็นผู้ควบคุมดูแลสนามฝึกฝน และมักจะมาก่อปัญหาในบางครั้งจั๋วซือหรานบอกเจ้าสำนักของหอฟ้าดาว "ข้าโจมตีกลับทันทีเลย ข้าอาจทำให้คนนี้ขุ่นเคือง... "เมื่อเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เขายังคิดอยู่ว่าจั๋วซือหรานกลัวมีปัญหาเข้ามาหานาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 517

    จั๋วจิ่วต้องจัดการอีกฝ่ายแน่ ๆ และเขาเป็นเพื่อน ตราบใดที่เขาช่วยเหลือนางเมื่อนางต้องการ นั่นหมายความว่าเขากับนางต้องไปสู้กับอีกฝ่ายพร้อมกันจั๋วซือหรานกล่าวถึงสถานการณ์ในก่อนหน้านี้สั้น ๆ นั่นก็คือเรื่องที่นางถอนอาคมหนอนพิษกู่ในค่ายลาดตระเวนและค่ายทหารรักษาการณ์หลังจากได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวขมวดคิ้ว "ดังนั้นเจ้าหมายถึงเมื่อครู่นี้ มีศัตรูแอบซ่อนตัวอยู่ในท่ามกลางของเหล่านักพนันหรือ และคนผู้นั้นสังเกตสถานการณ์ที่นี่ด้วยหรือ"“หากพิจารณาการกระทำของอีกฝ่ายที่เคยทำอะไรกับค่ายลาดตระเวนและค่ายรักษาการณ์ในก่อนหน้านี้ ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น”จั๋วซือหรานกล่าวต่อ "เพียงแต่พวกเขาทราบตัวตนของข้าแล้ว และอีกฝ่ายก็ใส่ความผิดมาใส่ข้าแล้ว ข้าเลยไม่อยากไปหาผู้ที่แอบซ้อนที่เบื้องหลังแล้ว"นางจับคนผู้นั้นที่หน่วยลาดตระเวนได้ แต่ตอนที่นางอยู่ในค่ายรักษาความปลอดภัย เนื้องจากสาถนการณ์ที่นั่นวุ่นวายอย่างมาก นางเลยจับผู้แอบซ้อนไม่ได้สถานการณ์บนอัฒจันทร์ของสนามฝึกฝนนั้นวุ่นวายกว่าค่ายรักษาความปลอดภัยเป็รหลาย ๆ เท่าดังนั้นจั๋วซือหรานจึงไม่ใส่ใจในทางกลับกัน เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวกังวล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 518

    โดยไม่คาดคิด ฉากใดที่เขาคาดไว้ไม่ได้ปรากฏขึ้นแต่ปรากฏฉากที่หอฟ้าดาวของหอฟ้าดาวรู้สึกน่าทึ่งยิ่งกว่านั้น ลูกหนามอันสีดำที่ดุ ๆ นั้นอ่อนโยนอย่างกระทันหัน มันกลิ้งไปกลิ้งมา...และถูไปถูมาในมือของจั๋วซือหรานมันดูเหมือน...เหมือนมันกำลังหลงไหลอยู่จั๋วซือหรานบีบลูกเนื้อดำมืด นางยกมันขึ้นและมองมัน“อืม...” นางเอามือแตะที่คางและคิดอยู่ครู่หนึ่งเจ้าสำนักของหอฟ้าดาวเงียบและไม่ส่งเสียงใด ๆ เขาหายใจเบาเล็กน้อยโดยคิดว่าจั๋วซือหรานคงเจอปัญหาใหญ่แล้วโดยไม่คาดคิด จั๋วซือหรานจ้องไปที่ลูกฟู ๆ เนื้อสีดำเข้มในมือของนาง นางคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า "เรามาเรียกมันว่า 'ขนมงา' กันดีกว่า"เจ้าสำนักของหอฟ้าดาว: "..."ในความเป็นจริง จั๋วซือหรานไม่ได้สังเกตสีหน้าของเขาตลอดเวลา ไม่เช่นนั้นนางต้องเห็นได้ชัดเจนอย่างแน่นอนว่าเจ้าสำนักของเจ้าสำนักตกใจขนาดไหน...จากนั้น มีฉากที่น่าทึ่งมากเกิด ขึ้นซึ่งทำให้สีหน้าของ เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวพังทลายลงมือของจั๋วซือหรานเปล่งประกายด้วยพลังวิเศษ และนางได้แตะเครื่องหมายบนหางและหน้าท้องของ 'ขนมงา' โดยลบเครื่องหมายดั้งเดิมที่เป็นรูปดอกถูหมี และเปลี่ยนให้เป็นตัวอักษร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 519

    นอกจากนี้ยังเป็นเพราะอีกฝ่ายขยันวางแผนให้รอบคอบขนาดนี้ เขาไม่ได้มีกลแค่นี้พิษกู่ร้อยไหมเป็นหลัก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคนเบื้องหลังไม่ได้เล่นกลอื่นแม้แต่อาคมหนอนพิษกู่ธรรมดา ๆ ก็เพียงพอที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายอันใหญ่ในเมืองหลวงแล้วและใบสั่งยาที่จั๋วซือหรานเอาให้เจี่ยงเทียนซิงนั้นเป็นใบสั่งยาเพื่อกำจัดอาคมหนอนพิษกู่"เดี๋ยวจะมีข่าวที่ว่าเมืองหลวงกำลังมีโรคระบาด จำเป็นต้องใช้ยารักษาโรค และข่างต่าง ๆ ประมาณนี้ ... "จั๋วซือหรานพูดและเลิกคิ้ว "ข้าคิดไปคิดมา เวลาเร่งรีบเหลือเกิน และร้านขายยาของข้ายังไม่ทันเปิดเลย แม้ว่าทางบ้านคุณตาของข้าได้ทำธุรกิจค้าวัสดุยาก็จริง แต่ธุรกิจของคุณตาไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง”“เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เมื่อมีข่าวที่เกี่ยวกับการแพร่กระจายโรคระบาดในเมืองหลวง เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ตระกูลเหยียนและตระกูลจั๋วน่าจะได้กำไรก่อน”เสียงของจั๋วซือหรานเย็นชาอย่างมาก "ข้ากับพวกเขาไม่เป็นมิตร เงินนี้ ให้สุนัขได้ ดีกว่าให้พวกเขาได้ ดังนั้นเจ้าเอาสูตรนี้..."เจ้าสำนักของหอฟ้าดาวขมวดคิ้วแน่น "แม้ว่า..."เขากัดริมฝีปาก “แต่...”เขาคิดคำพูดของจั๋วซือหรานอย่างล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 520

    “ เจ้าสำนัก ” เฮยหลิงพูดด้วยเสียงต่ำ"อืม"เจี่ยงเทียนซิงตอบและพูดอย่างเบา ๆ "เจ้าไปได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าเป็นคนอิสระแล้ว"มีความงุนงงเล็กน้อยในสายตาของเฮยหลิง แต่เขาไม่รู้สึกแปลกใจเลยเจี่ยงเทียนซิงมองเขา และทันใดนั้น เขามีความคิดหนึ่ง "ตอนที่เจ้าบ้าคลั่ง เจ้ารู้เรื่องไหม"ดวงตาอันสีดำของเฮยหลิงเป็นประกาย จากนั้นเขาก็พยักหน้าเล็กน้อย "จำได้ทุกเรื่อง"เจี่ยงเทียนซิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ตกใจมากเขาแค่พยักหน้าและพูดว่า "พอดี ข้าไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม เจ้าเป็นคนอิสระแล้ว แล้วส่วนทำไมเจ้าถึงเป็นคนอิสระได้ ข้าไม่ได้เป็นผู้ตัดสิน"ดวงตาของเฮยหลิงกะพริบอีกครั้ง และดวงตาของเขาซึ่งยังค่อนข้างว่างเปล่า ดูเหมือนจะมีสมาธิในทันใดนั้น"ข้าเข้าใจแล้ว" เฮยหลิงกล่าว "ขอบคุณเจ้าสำนักที่คอยดูแลข้ามาตลอด ข้าขอลาก่อนขอรับ"เจี่ยงเทียนซิงพยักหน้า เขามองเฮยหลิงเดินจากไป แล้วพูดว่า "แม้ว่าบุคคลนั้นจะต่อสู้อย่างดุเดือด แต่จริง ๆ แล้วนางเป็นคนใจอ่อน หากเจ้าไม่มีที่ไปจริง ๆ เจ้าไปหานางก็ได้ ... "ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าของเฮยหลิงก็หยุดลง ราวกับว่าเจี่ยงเทียนซิงพูดถึงเรื่องที่เขาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 521

    อันที่จริง ต่อให้ไม่มีใครพึ่งพาได้ จั๋วซือหรานก็ไม่เคยกลัวมาก่อนนางมีชีวิตมาแล้วสองชาติ ไม่ว่าจะขุมพลังเมื่อตอนไหน ก็ล้วนเป็นความสามารถและฝีมือของตนเองทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ใดเลยแต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นซือคงเจาหมิ่นกับซือคงอวี้ที่ก่อเรื่องวุ่นวายนี้ขึ้นจั๋วซือหรานราวกับเป็นเครื่องจักรอนันต์อย่างไรอย่างนั้น ทำงานต่อกันไปถึงสองวันแต่เหล็กตีไปมันก็รู้สึกอ่อนล้า ไหนจะเรื่องที่นางก็เป็นแค่ร่างกายเนื้อ...แม้จะไม่ถึงกับทนไม่ไหว นั่งนั้นมีนิสัยที่จะแบกเรื่องทั้งหมดเอาไว้มาแต่ไหนแต่ไร แต่ว่าพอด้านหลังมีคนที่คอยประคองบ่านางให้ยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว ตอนที่กลิ่นหอมเย็นชื่นใจที่คุ้นเคยลอยเข้ามาในลมหายใจนางจั๋วซือหรานก็ยังรู้สึกได้ถึงความสงบใจ“ท่านอ๋อง...” จั๋วซือหรานเรียกขึ้นแผ่วเบา ผ่อนลมหายใจออกมา พิงหลังเอนเข้าไปยังหน้าอกกว้างแผ่นหนึ่ง“เรื่องที่ตลาดมืด เรียบร้อยแล้วหรือยัง?” เสียงทุ้มต่ำทรงเส่น่ห์ดังขึ้นมาที่ข้างหูนาง“อืม” จั๋วซือหรานขานรับเสียงต่ำมาคำหนึ่ง ส่วนใหญ่น่าจะเพราะเหนื่อยล้า ดังนั้นอันที่จริงจั๋วซือหรานเองก็ยังไม่ทันสังเกต ว่าเสียงของตนเองอ่อนหวานจนดูเหมือนอ้อนไปแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 522

    ก่อนหน้านี้ตอนที่เฟิงเหยียนคลุมผ้าให้ก็ไม่ทันสังเกตขณะนี้ หลังจากที่เขาคลุมผ้าให้กับหญิงสาวในอ้อมกอดแล้ว แขนท่อนหนึ่งของเขาก็โผล่ออกมานอกผ้าคลุมทหารหลายคนเห็นเพียงชายเสื้อสีดำของเขา ส่วนมือของเขากลับไม่เห็นอะไรที่น่าสงสัยแต่ตอนที่ในชายเสื้อเห็นผิวหนังของข้อมือวับแวมออกมา ภาพนั้นก็น่าสะพรึงเอามากๆบาดแผลสีดำไหม้ปรากฏขึ้นต่อเนื่อง ดูโหดร้ายน่ากลัว ราวกับเคยถูกเผาไหม้มาอย่างไรอย่างนั้น จากนั้นขณะที่หายใจ ยังมีสัญลักษณ์ลายดอกไม้สีทึบหลั่งทะลักขึ้นมาราวกับมีพลังฟื้นฟูที่มหัศจรรย์บางอย่าง ทำให้บาดแผลที่ดำไหม้แต่เดิมที หลังจากสัญลักษณ์ลายดอกไม้นี้หลั่งทะลักขึ้นมา ก็หายเป็นปกติแล้วสลายไปแต่รอยไหม้ที่โหดร้ายเพียงไม่นานก็ปรากฎขึ้นอีก ฟื้นฟูและหายไปอีกครั้งขณะที่หายใจ...เป็นเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมาเดิมที แค่จะให้เหล่าทหารรู้สึกว่าแปลกประหลาดเท่านั้น ไม่ได้จะให้รู้สึกสะพรึงกลัวขนาดนี้แต่ทหารเหล่านี้ก็นึกออกทันที ว่าบาดแผลเช่นนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะมองอย่างไร ก็น่าจะกระตุ้นความเจ็บปวดที่รุนแรงขึ้นมาบ้างแต่ชายหนุ่มหลอเหล่าตรงหน้าคนนี้ สีหน้าบนใบหน้ากลับไม่เปลี่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่523

    เหล่าทหารหลายคนเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าใจเป็นพิเศษ“ดังนั้นคนเมื่อครู่...คือซื่อจื่อแห่งตระกูลเฟิงหรือ?”“แต่ข้าได้ยินมาว่า หลังจากที่การหมั้นหมายของตระกูลเฟิงและแม่นางจิ่วแล้วถูกยกเลิกไปแล้ว ก็ไม่ได้มีการเกี่ยวดองกันอีกเลยมาตลอดนี่”“ใช่เลย เหมือนว่าของหมั้นเองก็ส่งไปแล้ว แต่เหมือนตระกูลเฟิงจะไม่ยอมเลือกวันเสียที และไม่ยอมประกาศต่อภายนอกด้วย”“หลังจากนั้นในเมืองหลวงก็มีเรื่องต่างๆ เกิดขึ้นสินะ? เรื่องของตระกูลจั๋ว เรื่องของตระกูลเหยียน ราคาวัตถุดิบยาเพิ่มขึ้น สองตระกูลทะเลาะกันแตกหัก...แล้วยังเรื่องโรคระบาดครั้งนี้อีก”ถึงแม้จะพูดเช่นนี้ แต่ในใจทหารหลายคนก็เข้าใจแล้ว ว่าชายหนุ่มหล่อเหลาที่ทำให้พวกเขารู้สึกเย็นวาบคนนั้น น่าจะเป็นซื่อจื่อจากตระกูลเฟิง“ได้ยินมานานแล้วว่าซื่อจื่อตระกูลเฟิงมีนิสัยเย็นชา ไม่เห็นใจไม่เมตตาไม่เข้าใจความรู้สึกของใคร ปฏิเสธคนอื่นราวกับอยู่ห่างไกลกันพันลี้”“แต่ว่า สำหรับแม่นาวจิ่วกลับอ่อนโยนเสียเหลือเกิน...”พวกเขาเองก็เข้าใจแล้ว ว่าทำไมบนมือของเฟิ่งเหยียนถึงได้มีบาดแผลที่ประหลาดขนาดนั้นถึงอย่างไรนั่นก็เป็นตระกูลเฟิง แม้จะไม่ใช่ว่าทุกคนท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 736

    "เดิมทีข้าแค่คิดจะจับเจ้าเป็นๆ พากลับไปสอบสวนเสียหน่อย ว่าเจ้าไปรเียนรู้ทักษะภาษาสัตว์ที่แทบจะสาปสูญไปแล้วของตระกูลซางมาได้อย่างไร" ซางเชวี่ยน้ำเสียงเย็นชาลงไปอีกจั๋วซือหรานมองนาง มุมปากยกขึ้นจนเป็นร้อยยิ้มจางๆ ไม่มีความอบอุ่นใดๆ กระทั่งไม่มีอารมณ์ใดอีกด้วยราวกับไม่ว่าซางเชวี่ยกับคนตระกูลซางพวกนี้จะพูดอะไรหรือทำอะไร ก็ไม่อาจส่งผลอะไรกับใจนางได้เลยจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "คนที่บีบเค้นถามข้า บอกว่าข้าแอบเรียนวิชาแพทย์ของตระกูลพวกเขา ตอนนี้ยังนอนอยู่ในบ้าน บางครั้งก็อั้นฉี่ไม่ไหวอยู่เลย "จั๋วซือหรานมองดวงตาซางเชวี่ย "เจ้าอยากจะลองไหม?"ซางเชวี่ยหัวเราะเย็นชา "ข้ายังพูดไม่จบเลยนะ ข้าเดิมทีคิดจะจับเจ้าเป็นๆ แต่ตอนนี้ ข้าเปลี่ยนความคิดแล้ว คนอย่างเจ้า เป็นตัวแปรที่ไม่สามารถควบคุมได้ ไม่รู้ว่าจะเอาความยุ่งยากหรือการเปลี่ยนแปลงมามากแค่ไหน ตายๆ ไปเสียดีกว่า คนตายไปคือปลอดภัยที่สุด ไม่ว่าสำหรับใครก็เป็นเช่นนี้"เสียงเพิ่งหยุดลง ข้อมือของซางเชวี่ยก็สั่นไหวอย่างรุนแรงแสงเงินสายหนึ่ง รวดเร็วมาก! แล่นตรงเข้ามาทางจั๋วซือหรานจั๋วซือหรานหรี่ตาลงเล็กน้อย ยื่นมือออกทันทีแต่นางยังไม่ทันยื่นมือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 735

    "นี่มัน...ไหมกู่?" ซางถิงอยู่ใกล้ๆ จั๋วซือหราน ดังนั้นจึงเห็นเส้นใยเหล่านี้ยิงออกมาจากมือนางและเพราะสามารถมองเห็นได้ชัด ดังนั้นซางถิงจึงมองออกรางๆ ว่าเส้นใยแต่ละเส้นเหล่านี้ กลับไม่เหมือนตาข่ายใยแมงมุมอะไรแต่คล้ายกับ...ไหมกู่ไหมกู่ที่แมลงกู่พ่นออกมาหญิงสาวคนนี้...ใช้วิชากู่ได้ด้วย!ซางถิงก่อนหน้านี้รู้สึกแค่ว่า จั๋วซือหรานถึงแม้จะเก่งกาจ แต่ว่าตนเองก็ออมมือไปบนเวทีด้วยไม่ได้ใช้วิญญาณเลือดอสูรออกมาด้วยซ้ำแต่ตอนนี้ดูแล้ว จั๋วซือหรานที่อยู่บนเวทีเองก็เหมือนจะออมมืออยู่ไม่น้อยเลย ทั้งสองฝ่ายต่างออมมือจนสู้ออกมาเป็นแบบนั้นคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าจั๋วซือหรานจะใช้วิชากู่ได้ด้วย!หญิงสาวคนนี้! คิด! จะทำอะไรกันแน่!วิชาแพทย์ วิชาสกัดยา วิชายุทธ์ ตอนนี้วิชาควบคุมสัตว์กับวิชากู่ก็ยัง...!คนของโถงตัดหัวล้วนมองนางอย่างระแวดระวัง หลังจากกันไหมกู่ของนางออกไปแล้ว ก็ยังไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแต่ก็มีอยู่สองสามคนที่ไม่ระวังถูกไหมกู่ของนางเปื้อนเข้าไป ล้วนล้มลงพื้นครวญครางเจ็บปวดขึ้นมาสายตาซางเชวี่ยก็จับจ้องที่จั๋วซือหรานเช่นกัน "วิชากู่เจ้าก็เป็นด้วย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 734

    "แต่จากที่ข้ารู้ แมลงพิษที่ใช้เป็นกู่มาหลอมได้...แมงมุมเองก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นพอจั๋วซือหรานพูดคำนี้ คนของโถงตัดหัว สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีจั๋วซือหรานยิ้มๆ "เล่นกู่หรือ? ช่วงนี้ข้าก็สนใจกับการเล่นกู่เหมือนกัน ดังนั้น ตาข่ายของพวกเจ้า ฉันเลยทดสอบไปแล้ว ตอนนี้ตาข้าแล้วกระมัง?"ตอนที่จั๋วซือหรานพูดคำนี้ ซางถิงก็ตกตะลึงไปเขารู้สึกว่าคำพูดนี้ดูคุ้นหู ตอนอยู่บนเวที จั๋วซือหรานก็พูดแบบนี้กับเขาเหมือนกันและหลังจากที่นางพูดคำนี้ ก็โต้กลับอย่างรุนแรงใส่เขาทันทีตอนนี้ นางพูดแบบนี้ออกมาอีกครั้งไม่รู้เพราะอะไร ซางถิงรู้สึกว่า น่าจะเป็นความรู้สึกคล้ายๆ กับก่อนหน้านี้กระมังคนอย่างจั๋วซือหราน ตอนที่เป็นคู่ต่อสู้ของนาง คงรู้สึกตำมือเป็นอย่างมาก มาเจอคนแบบนี้ เหมือนเจอกับเข็มแหลมรอบด้านจริงๆไม่ว่าจะสัมผัสจากมุมไหน ก็ล้วนทิ่มแทงมือทั้งสิ้น!แต่ตอนที่ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้กับนาง แล้วมาเป็นสหายร่วมรบที่มีเป้าหมายเดียวกันก็เหมือนจะรู้สึกว่าวางใจได้อย่างประหลาดเลยทีเดียวตอนที่ได้ยินนางพูดเช่นนี้ ก็เหมือนจะไม่มีอะไรให้สับสนแล้วซางเชวี่ยหัวเราะเย็นชาขึ้นมาในกลุ่มโถงตัดหั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 733

    "มันต้องไม่ปกติอยู่แล้ว! นั่นมันวิชาลับสืบทอดของโถงตัดหัว" ซางถิงเอ่ยขึ้น "ตาข่ายแมงมุมของพวกเขาล้วนหลอมขึ้นมา ก็เพราะเอาไว้ควบคุมฝ่ายตรงข้าม""ในเมื่อควบคุมจั๋วซือหรานได้แล้ว" ผู้หญิงเสียงเย็นชานั่นเอ่ยขึ้นมา "ก็เก็บซางถิงเสีย ข้าเห็นตอนที่เขาสู้กับจั๋วซือหรานบนเวที สู้จนหมดเรี่ยวหมดแรงแล้ว ยังไม่รู้ว่าจับแอบเก็บไพ่ตายอะไรที่ไม่อยากให้ใครเห็นไว้หรือเปล่า? ดูแล้วประหลาดๆ"ซางถิงพอได้ยินเนื้อหาคำพูดของซางเชวี่ย สีตาก็เปลี่ยนไปเขากำกำปั้นแน่น เขาซ่อนไพ่ตายความสามารถที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ไว้จริง เขาสามารถเปิดช่องพลังได้แต่ไม่เหมือนกับเปิดช่องพลังทั่วไป เขาไม่เพียงแต่สามารถเปิดช่องพลัง ยกระดับความสามารถตนเองขึ้นชั่วคราว ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่รู้สึกอ่อนล้าหลังจากที่ใช้พลังเกินตัวอีกด้วยเพราะการเปิดช่องพลังของเขา ไม่ได้เกิดจากใช้พลังงานของตนเองจนหมดแล้วดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินการเปิดช่องพลังของเขา คือใช้พละกำลังของสัตว์ที่ควบคุม ไม้ตายนี้เรียกว่า...วิญญาณเลือดอสูรไขาไม่เพียงแต่สามารถใช้พลังของสัตว์ที่ควบคุมได้ แต่ยังใช้พลังวิญญาณของสัตว์ควบคุมได้ในบางระดับด้วย กระทั่ง ยังสามารถทำให้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 732

    เขาสัมผัสได้ว่าบนบาดแผลทั้งสองที่ถูกดาบของนางแทงไว้ จนทำให้หินต้องห้ามยังแตกก่อนหน้านี้เวลานี้มันคันยุบยิบ ราวกัยว่า...กำลังผสานอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ "รักษาให้เจ้าก่อน อีกเดี๋ยวถ้าสู้ขึ้นมา จะได้ไม่ขี้เกียจ"ซางถิงเกือบจะโมโหจนหัวเราะขึ้นมายังไม่ทันที่เขาจะได้พูด ในกลุ่มคนเหล่านั้นที่ล้อมเข้ามา ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น"จั๋วซือหราน เจ้าสังหารลูกหลานตระกูลข้าไป แอบเรียนวิชาลับตระกูลข้า โทษนี้สมควรตาย แต่เห็นแก่ว่าเจ้าไม่ใช่คนในตระกูลเรา ไม่เข้าใจกฏเกณฑ์ของตระกูล จะไว้ชีวิตเจ้า แล้วจะพาเจ้ากลับไปช่วยอธิบายให้หน่อย ว่าไปร่ำเรียนวิชาลับตระกูลเรามาจากที่ไหน"จั๋วซือหรานพอได้ยินเนื้อหานี้ "เข้ามาเพราะความสามารถข้าจริงๆ ด้วย"ซางถิงหัวเราะเฮอะขึ้นมา เอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหรานว่า " ข้าก็บอกว่าแล้วไม่ได้มาหาข้า ในเมื่อมันไม่เกี่ยวกับข้า ข้าไปได้แล้วใช่ไหม?"จั๋วซือหรานหัวเราะเหอะๆ " อย่าสิ ข้ารักษาให้เจ้าแล้วนะ รับแล้วก็ตอบแทนกันหน่อยมันเป็นมารยาท"ซางถิงกัดฟัน "แล้วทำไมเจ้าไม่พูดเสียหน่อยว่าบาดแผลพวกนั้นมันมายังไง..."ตอนนี้เอง เสียง 'คาดโทษ' จั๋วซือหรานก่อนหน้านี้ก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 731

    เพราะเวลาค่อนข้างดึกแล้ว กระทั่งสนามประลองทางนี้ก็ยังเงียบสงบ ดังนั้นที่นี่ต่อให้สู้กันขึ้นมาตอนนี้ ก็ไม่ได้ดึงดูดสายตาใครยิ่งไปกว่านั้น ตลาดมืดก็มีกฏของตลาดมืด คนของตลาดมืดก็มีวิถีการดำรงชีวิตของตนเองเช่นกันในนี้กฏที่ใช้ได้ทั่วไปข้อหนึ่งคือ...อย่ายุ่งเรื่องชาวบ้านดังนั้นพวกเขาต่อให้ตายกันที่นี่ ก็น่าจะไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนักตลาดมืดฝังศพเอาไว้แทบทุกที่ นี่คือที่มาของคำพูดนี้ดังนั้นในกลุ่มคนเหล่านี้ หลังจากเข้ามาล้อมซางถิงกับจั๋วซือหรานแล้ว เดิมทีรอบๆ ก็ยังมีคนอยู่อีกส่วนหนึ่งดูจากท่าทางแล้วไม่ธรรมดาเลย ทยอยกันกระจายตัวออกเหมือนสัตว์ ตอนนี้ที่นี่จึงสงบมาก...แทบไม่มีคนเลยคืนเดือนมืดลมพัดแรง ค่ำคืนแห่งการสังหารดูจากเสื้อผ้าคนเหล่านี้ อันที่จริงยังมองไม่ออกถึงตัวตนฐานะแท้จริงของพวกเขาแตว่า ขอแค่คนรู้จริงเรื่องกลุ่มอย่างซางถิง ก็จะมองออกถึงกลุ่มได้อย่างรวดเร็วซางถิงมองกลุ่มออกจากเครื่องมือควบคุมสัตว์ของพวกเขาอย่างรวดเร็วซางถิงเอียงหน้าเล็กน้อย บอกกับจั๋วซือหรานด้านหลังว่า "ระวังด้วย คนพวกนี้ ทั้งหมดเป็นคนของโถงตัดหัวตระกูลซาง"โถงตัดหัว?" จั๋วซือรหานฟังคำนี้แล้วก็เอ่ย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 730

    แต่ยังไม่ทันได้แตะไหล่ของจั๋วซือหราน นางก็มีปฏิกิริยากลับมาอย่างรวดเร็ว“เจ้า” จั๋วซือหรานเห็นหน้าคนด้านหลังอย่างชัดเจนผมสีขาวรุงรังกับดวงตาสีฟ้าทึมที่เป็นเอกลักษณ์ แสดงชัดถึงตัวตนฐานะของเขา นี่คือคู่มือที่ประลองกับนางบนเวทีเมื่อครู่นี้นั่นเองดวงตาสีฟ้าทึมของเขาจ้องมองจั๋วซือหราน “ข้ายังคิดว่าเจ้าไปแล้วเสียอีก ทำไม? กำลังรอข้าหรือ?”จั๋วซือหรานมองเขา “เจ้านี่...มั่นใจในตัวเองเสียจริงนะ”“ใช่สิ” รอยยิ้มในดวงตาสีฟ้าทึมของเขายิ่งเพิ่มมากขึ้น “ข้ากับเจ้ามันคนประเภทเดียวกัน เป็นพวกที่มั่นใจในตนเองแบบนั้น”จั๋วซือหรานหัวเราะ จากนั้นจึงเห็นแขนที่ห้อยอยู่ข้างตัวเขา ยังมีเลือดสดไหลอาบลงมา กลิ่นคาวเลือดบนตัวเขายังไม่หายไป“เจ้าน่าจะรักษาแผลก่อนแล้วค่อยมาพูดจาคุยโตนะ” จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น“เรื่องเล็กน่า” ซางถิงเอ่ยตอบจั๋วซือหรานคิดๆ เอ่ยขึ้นว่า “เมื่อครู่เจ้าออมมือไว้ ไม่งั้นคงไม่เจ็บขนาดนี้”“ใช่เลย ข้าออมมือไว้ ก็เลยลดความยุ่งยากลงไปได้พอควร” ซางถิงตอบจั๋วซือหรานยิ้ม “อินเจ๋ออันไม่ใช่ความยุ่งยากหรือ?”“เขา? เขาจะไปยุ่งยากอะไร...” ซางถิงดูไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ เอ่ยต่อว่า “ข้าออมมือ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 729

    ได้ยินคำนี้ ฮั่วจือโจวยกมุมปากขึ้น “คุณหนูเฟิงสือ เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว ข้าก็แค่อยากร่วมมือกับแม่นางจิ่วเท่านั้น”เฟิงหร่านมองเขา แม้บนปากจะไม่คัดค้าน แต่ในใจก็แอบคิด นั่นก็เพราะเจ้ายังสัมผัสไม่ได้ถึงเสน่ห์ของพี่หญิงจั๋วเท่านั้นส่วนเจี่ยงเทียนซิงที่อยู่ข้างๆ พอได้ยินคำพูดของเฟิงหร่าน ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร เพียงแต่รอยยิ้มในดวงตาค่อยลดลงมาเท่านั้นครู่ต่อมา จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า “แต่ว่าตระกูลเฟิงของพวกเจ้า ไม่ใช่ว่าดูถูกซือหรานหรอกหรือ เพราะอะไรกัน? พวกเจ้าเห็นสิ่งนี้เป็นของไร้ค่า แต่ก็ไม่ยอมให้คนอื่นได้ครอบครองหรือ? ใหญ่โตเสียจริง”สำหรับคำพูดของเจี่ยงเทียนซิง เฟิงหรานกระทั่งโต้แย้งก็ยังแย้งออกมาไม่ได้นางริมฝีปากสั่นระริก ครึ่งมาจึงบอกว่า “สรุปคือ หลังจากนี้จะมีวิธีเอง”ฝูซูมองจากข้างๆ เขารู้แน่นอนว่าคุณหนูของตนเองยอดเยี่ยมแค่ไหนทำให้คนหลงใหลได้แค่ไหนและก็รู้ว่าคุณหนูเฟิงสือถูกคุณหนูทำให้หลงไปแล้ว การที่พูดแบบนี้ออกมาก็ไม่ได้ผิดอะไรแต่ปฏิกิริยาของเจี่ยงเทียนซิงนี่ กลับทำให้ฝูซูอดเหลือบมองเขาขึ้นมากหน่อยไม่ได้ในใจฝูซูก่อนหน้านี้ก็รู้สึกว่าเจี่ยงเทียนซิงคนนี้เหมือนจะ...รู้สึก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 728

    “นี่ฝูซูกับเฮยหลิงยังไว้หน้าพวกเจ้าอยู่นะ ถึงยังไม่จับตะเกียบ ไม่อย่างนั้นพวกเจ้าแค่น้ำแกงก็ไม่ได้ชิมด้วยซ้ำ” เจี่ยงเทียนซิงวางตะเกียบลงหัวเราะฮั่วจือโจวไม่อยากเชื่อ ถามขึ้นว่า “นี่คือของที่แม่นางจั๋วจิ่วทำหรือ? จริงหรือเปล่า?”“เป็นของที่คุณหนูข้าทำเอง” ฝูซูพยักหน้าอินเจ๋ออันมองเขา ถามขึ้นว่า “คุณชายฮั่ว ยอมรับแล้วหรือยัง?”ฮั่วจือโจวถอนหายใจเบาๆ พยักหน้าเจี่ยงเทียนซิงเห็นท่าทางแขกยึดครองตำแหน่งเจ้าภาพของอินเจ๋ออันแล้วก็หัวเราะพรวดขึ้นมา “เปาน้อย เจ้าเองก็ไว้หน้าตัวเองหน่อยดีไหม คำพูดนี้ข้าต่างหากที่ควรถาม? เจ้าน่ะยอมรับแล้วหรือยัง?”“ถ้าข้าไม่ยอมรับ แล้วข้าจะเอาเงินมาให้พวกเจ้าด้วยตัวเองทำไมกัน?!” อินเจ๋ออันจ้องอย่างมาดร้ายไปทางเจี่ยงเทียนซิงตัวเขาเองอาจจะไม่ทันสังเกต ว่าตนเองกระทั่งลืมไปแล้วว่าต่อต้านชื่อเรีย ‘เปาน้อย’ อยู่เฟิงหร่านนั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไรมาตลอด สนใจแค่การกินอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็วราวพายุดูดเท่านั้นนางกินไปด้วย พิจารณาชายหนุ่มสามคนนี้ไปด้วยในใจจู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกวิตกกังวลขึ้นมาเฟิงหร่านเกิดวิตกกังวลขึ้นมาแทนพี่ชายตนเอง นางชื่นชมในใจ พี่หญิงจั๋วน

DMCA.com Protection Status