共有

บทที่ 130

作者: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานยืนเท้าออกและดึงเก้าอี้จากด้านข้าง การเคลื่อนไหวของนางสง่าและผ่อนคลาย นางค่อย ๆ นั่งลง

ดูเหมือนว่าในครูี่เดียว สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

รอยยิ้มบนใบหน้าของนางยังคงสงบและไม่แยแส " คุณหนูเจ็ดเหยียนอย่าใจร้อนเหมือนข้าเลย ถูกคนยั่งยุง่าย ๆ หากพวกเจ้าแข่งต่อไม่ไหว ยอมแพ้ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ข้าชนะรอบแรกไปแล้ว ดังนั้นไม่ต้องการอะไรมาก ให้เหยียนชางมาเขียนผ่านป้ายว่ายอมแพ้แล้ว ”

“เจ้า” เหยียนหยี่หลิงโกรธมากจนสีหน้าของนางเปลี่ยนเป็นแดง

จั๋วซือหรานพูดอย่างผ่อนคลาย นางเพียงไม่กี่คำ นางก็ชิงอำนาจการตัดสินใจกลับมาได้อีกครั้ง

ผู้อาวุโสสี่เหยียนจะมองไม่ออกเจตนาในคำพูดของนางได้อย่างไร แต่เขาก็ถูกเงื่อนไขที่จั๋วซือหรานเสนอโดยดึงดูดแล้วจริง ๆ

ไม่ใช่ว่าตระกูลเหยียนไม่มีแพทย์กลั่นยา แต่เป็นเพราะแพทย์กลั่นยาของตระกูลเหยียนส่วนใหญ่ได้ไปที่ลัทธิแล้ว อัจฉริยะไม่อยากรับใช้ตระกูลหรอก

แต่จั๋วซือหรานประกาศอย่างกระจ่างว่า หากนางแพ้ นางยอมรับใช้ตระกูลของเขา

ผู้อาวุโสสี่เหยียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาถามด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก "เจ้ารักษาคำพูดของเจ้าไหม ถึงเวลานั้น อย่าบอกนะ ตระกูลจั๋ว บิดพลิ้วอีก.
この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード
ロックされたチャプター
コメント (1)
goodnovel comment avatar
กุลธิดา
มาต่อให้หลายๆตอนหน่อยค่าา ติดลม
すべてのコメントを表示

関連チャプター

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 131

    การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของจั๋วซือหราน จากลังเลไปสู่ทัศนคติที่สงบและมีความมั่นใจ ซึ่งทำให้ผู้อาวุโสสี่เหยียนรู้สึกเป็นห่วงทันทีนี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำลายความน่าเกรงขามของตัวเองโดยยกย่องความมุ่งมาดปรารถนาของผู้อื่น แต่เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้มีความสามารถพิเศษอย่างแท้จริง และโดยธรรมชาติแล้วไม่สามารถตัดสินนางและวัดนางด้วยมาตรฐานทั่วไปได้แต่เหยียนหยี่หลิงไม่ได้ระมัดระวังเช่นนี้นัก เมื่อครู่นี้นางเห็นท่าทางที่ลังเลของจั๋วซือหรานและเห็นจั๋วซือหรานอาการไออย่างกะทันหัน นางรู้สึกว่ารอบนี้ตระกูลของนางชนะแล้วเหยียนหยี่หลิงพูดว่า "คุณหนูจั๋วจิ่ว ข้าว่าทำเช่นนี้ไม่เหมาะหรอกนะ หากเจ้าแพ้ เจ้ากลั่นยาให้เราแค่หนึ่งปีเท่านั้น แต่หากเราแพ้ เราจะต้องปิดศูนย์การแพทย์ และร้านขายยายังคงให้บริการเจ้าด้วย เจ้าเรียกร้องเกินเหตุมากไปหน่อยไหมจั๋วซือหรานไม่เคยมีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้หญิง ดังนั้นหลังจากได้ยินคำพูดนี้ นางก็ตอบอย่างตามอารมณ์ "ใช่แล้ว คุณหนูเจ็ดเหยียน หากเจ้ารู้สึกไม่พอใจ ตอนนี้เจ้าไปเรียกเหยียนชางที่ฉี่ราดใส่กางเกงกลับมาที่นี่ และเขียนแผ่นป้ายให้ข้าเลย”จั๋วซือหรานเหลือบมองเหยียนหยี่หลิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 132

    แต่แน่นอนว่าเขาไม่เลือกที่จะต่อสู้จนตายได้ หากวจิ่วถูกเหยียนอีตีจนตาย เขาจะไม่รู้ว่าจะอธิบายแก่ตระกูลจั๋วได้อย่างไรเขารังแกเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่มีการหนุนหลังของตระกูล และเขายังรังแกนางจนตาย คำเล่าลือสามารถทำลายชื่อเสียงของผู้คนได้ เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลเหยียนเสียหน้าอย่างหนักและไม่สามารถปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนแล้วยิ่งไปกว่านั้น เขายังคงรอจั๋วซือหรานเป็นแรงงานเปล่าหนึ่งปีเพื่อกลั่นยาให้ตระกูลของเขาผู้อาวุโสสี่เหยียนรีบกล่าว "ไม่ต้องถึงขั้นที่ทำร้ายมิตรภาพหรอก หยุดมื่อเมื่อตัดสินชัยชนะได้"จั๋วซือหรานเลิกคิ้วเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดนี้ผู้ที่ชมการแข่งขันในก่อนหน้านี้เคยเห็นจั๋วซือหรานชนะมาหนึ่งตาแล้ว ดังนั้นในตอนแรกพวกเขาทุกคนจึงคิดว่าจั๋วซือหรานชนะแน่นอนแต่เมื่อพวกเขาเห็นจั๋วซือหรานตกลงที่จะยอมแข่งกับตระกูลเหยียนอีกสามตา และยอมกฏที่ว่า ผู้ใดชนะสองตา คนผู้นั้นชนะ แถมยังต้องแข่งศิลปะการต่อสูเ ทั้ง ๆ ที่นางไอหนักเช่นนั้น...ทุกคนไม่เชื่อนางมีโอกาสชนะ พวกเขาแค่รู้สึกว่าสถานการณ์นั้นไม่ดี“โถ แม่นางจั๋วจิ่วคนนี้จริง ๆ เลย ชนะตาเดียว ดีใจจนเหริงเลยหรือ”“ใช่สิ นางคิดว่าตัวเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 133

    เหยียนอีได้ยินเพียงเสียงที่ชัดเจนของนาง แต่เขาไม่รู้ว่าเสียงนั้นมาจากไหน เสียงนั้นปะปนอยู่ในสายลมและลอยเข้าไปในหูของเขาในเวลาเดียวกัน จั๋วซือหรานไม่ได้อยู่ตรงหน้าเขาอีกต่อไปเหยียนอีรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงเมื่อเขาได้ยินเสียงประหลาดใจและเสียงหายใจเข้าลึก ๆ จากรอบตัวเขาพลังที่สะสมอยู่ในร่างกายเขาแต่ก็สลายไปอย่างรวดเร็วก่อนจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งทำให้เขาเจ็บปวดอย่างรุนแรงระบบเส้นลมปราณถูกยืดออกด้วยแรงมหาศาลชั่วครู่หนึ่ง และจากนั้นก็ดูเหมือนจะคลายตัวลงชั่วขณะหนึ่ง ความรู้สึกว่างเปล่าทำให้เหยียนอีเกือบทรงตัวไม่ได้ในชั่วขณะนั้น“เกิดอะไรขึ้น...” ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนไม่ทันสังเกตการเคลื่อนไหวของจั๋วซือหราน ต่างไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นแต่พวกเขาเห็นแต่จั๋วซือหรานถือเข็มทองคำสองสามเล่มไว้ในมือ แล้วจู่ ๆ นางก็หายตัวไป เมื่อนางปรากฏตัวอีกครั้ง นางก็อยู่ข้างหลังเหยียนอีเพียงไม่กี่ก้าวแต่เหยียนอี ซึ่งแต่เดิมดูเหมือนเส้นเลือดของเขาจะโผล่ออกมาและท่าทีที่เขากำลังระเบิดความแข็งแกร่งออกมา จู่ ๆ ก็ยุบลงและใบหน้าของเขาก็ซีดขางเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้เขาดูตัวใหญ่มากในขณะนี้ เขาดูเหมือนเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 134

    แต่ในขณะนี้ เหยียนอีรู้สึกถึงวิกฤติครั้งใหญ่มันเหมือนกับสัญชาตญาณทางชีววิทยา เขามีความรู้สึกน่าขนลุกของสัตว์กินพืชที่ตกเป็นเป้าหมายของสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่แต่นี่เป็นไปได้อย่างไร เด็กผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนสัตว์ตัวน้อยที่สามารถบดขยี้สัตว์ขนาดเล็กจนตายได้เพียงแค่หยิกนิ้วเดียวเขามีความรู้สึกเช่นนี้ได้อย่างไรผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มองไม่ออก พวกเขาแค่คิดว่าจั๋วซือหราน เป็นคนลึกซึ้งและพวกเขาเดาไม่ถูกนางอยากจะทำอะไรส่วนผู้ที่มองรู่เรื่องรวมถึงผู้อาวุโสสี่เหยียน พวกเขาต่างประหลาดใจ นางไม่ใช่เพียงคนลึกซึ้งและเดาออกยากริมฝีปากของผู้อาวุโสสี่เหยียนสั่นไหว ทันใดนั้นเขาก็จำได้คำถามของจั๋วจิ่ว นางได้ถามเขาว่า ให้นางหยุดในเวลาที่เหมาะสมหรือให้นางหยุดจนกว่ามีคนต้องตาย เมื่อเขาตอบว่า ให้นางหยุดในเวลาที่เหมาะสม ความเศร้าแวบขึ้นมาในดวงตาของนางคืออะไรนั่นควรจะเป็น...ความผิดหวังกระมังหากเขาไม่เลือกให้นางหยุดในเวลาที่เหมาะสม จั๋วจิ่วคงฆ่าใครซักคนในสนามนี้ต่อหน้าต่อตาทุกคนแล้วผู้อาวุโสสี่เหยียนรู้สึกเขาแทบจะหายใจไม่ได้ หากไม่ใช่เป็นเพราะเขา... ปฏิเสธยอมรับความพ่ายแพ้อย่างไร้ยางอายและยืนกรานที่จะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 135

    ในขณะที่ป้ายของศูนย์การแพทย์เหยียนพังและตกบนพื้น ทุกคนต่างตกใจกัน“ จั๋วซือหรานคนนี้ นางกล้าทำจริง ๆ ”“นางนี่แหละ เป็นคนแรกที่พูดจริงทำจริง...นางไม่ไว้หน้าให้ตระกูลเหยียนจริง ๆ ”“ตอนนี้นางไม่ได้เป็นสมาชิกของสำนักงานใหญ่ของตระกูลจั๋วอีกแล้ว นางไม่ได้รับการหนุนหลังจากตระกูล แต่นางไม่กล้าทำให้ผู้อื่นแค้นเคืองจริง ๆ ”“แต่ตอนนี้...ใครจะกล้าทำอะไรนางล่ะ เจ้าเองก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหยียนอีใช่ไหม”“โอ๊ย แค่คิดก็เจ็บคอแล้ว หากผู้อาวุโสของตระกูลเหยียนไม่เรียกให้หยุดทันเวลา จั๋วจิ่วคงตัดหัวของเหยียนอีไปแล้ว”จั๋วซือหรานได้เก็บอาวุธในมือของนางอย่างสบาย ๆจากนั้นทุกคนจึงเห็นว่าตั้งแต่ต้นจนจบ นางยังคงแต่งกายด้วยชุดสีขาวแบบเดียวกับชุดที่นางสวมตอรชนที่นางมาถึง เสื้อผ้าของนางยังคงสะอาดและเรียบ นางดูมีบุคลิกที่ห่างไกลและประณีตที่ไม่เหมือนผู้อื่นหากเจ้าไม่เห็นด้วยตาตัวเองว่า ก่อนหน้านี้ นางยืนอยู่ข้างหลัง เหยียนอี ดาบในมือของนางยื่นจากด้านหลังและวางที่คอของเหยียนอี ราวกับว่านางกำลังจะตัดคอของเขาในวินาทีถัดไปใครก็ตามที่มองไปที่จั๋วซือหรานที่แต่งกายด้วยชุดสีขาวคงไม่คิดว่า นางเป็นผู้ที่โหด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 136

    “ เหยียนชางต้องคุกเข่าลงและขอโทษข้า และเขียนแผ่านป้ายที่มีเนื้อหาว่า ยอมแพ้ เรื่องนี้ อย่าว่าล่าช้าไปปหนึ่งวันเลย ต่อให้ล่าช้าไปหนึ่งชั่วยาม หรือล่าช้าไปสิบห้านาทีก็ไม่ได้” เสียงของจั๋วซือหรานเต็มไปด้วยความเย็นชาผู้อาวุโสสี่เหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเสนอ "สาวน้อยจั๋วจิ่ว ทำไมเจ้าต้องรีบขนาดนี้..."สาเหตุหลักคือ เขาได้ยินว่า เหยียนชางถูกทรมานอย่างหนักนับตั้งแต่เขาได้รับเชิญไปดื่มชาไปที่หน่วยสืบสวนพิเศษโดยซือหลี่ตันติ่ง ตอนนี้เหยียนชางดูแย่ามากไม่รู้ว่าตอนนี้เขาหายดีหรือยัง หากเขายังไม่หายดี และให้เขามาที่นี่ เขาจะไม่เสียหน้าต่อสาธารณะหรือจั๋วซือหรานหัวเราะเบา ๆ “เขาทำร้ายข้าอย่างไร ผู้อาวุโสสี่เหยียนต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ สถานการณ์ในวันนี้ทั้งหมดเป็นเพราะเหตุผลนี้ ดังนั้น เว้นแต่ว่าวันนี้ท้องฟ้าถล่ม หากท้องฟ้าไม่ถล่ม เขาต้องมาขอโทษข้าให้ได้ และเขายังต้องเขียนแผ่นป้ายด้วย”นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้อาวุโสสี่เหยียนเกลียดเหยียนชางมากในใจ เขาเกลียดเจ้าโง่นั้นมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ไม่ได้สร้างผลงานใด ๆ แก่ตระกูล แต่สร้างปัญหาเก่งจริง ๆหากไม่ใช่เพราะเขาไปหาเรื่องผู้หญิงบ้า ๆ ค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 137

    เมื่อเหยียนฉีได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสสี่ ม่านตาของเขาก็หดตัวลงอย่างรวดเร็ว ผู้อาวุโสสี่กำลังพูดอะไรอยู่น่ะเหยียนฉีทราบดี ผู้อาวุโสสี่ไม่สบายใจ และไม่สามารถระบายความโกรธต่อจั๋วซือหราน ดังนั้นเขาจึงพูดใส่คนอย่างตามอารมณ์แต่หากจั๋วซือหรานเป็นผู้ที่หาเรื่องได้ยาก เฟิงเหยียนก็ยากกว่า จั๋วซือหรานมากกว่าสิบเท่า“ผู้อาวุโสสี่ ท่าน…” เหยียนฉีขมวดคิ้ว แต่เขาไม่สามารถกล่าวหาผู้อาวุโสของตระกูลได้โดยตรง เขาทำได้เพียงหันสายตาไปที่เฟิงเหยียน และพยายามเรียกความสนใจของเฟิงเหยียน “ขอรับ ไม่ต้องกังวล ข้าจะไปดูตอนนี้... "ก่อนที่เหยียนฉีจะพูดจบ เขาถูกเสียงอันเย็นชาของเฟิงเหยียนขัดจังหวะเฟิงเหยียนจ้องมองผู้อาวุโสสี่เหยียน ทันทีที่เขามองผู้อาวุโสสี่เหยียน ผู้อาวุโสสี่เหยียนก็รู้สึกเหมือนว่าเขาหนาวเหน็บเห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มคนนี้มีพลังวิเศษที่ร้อนแรงที่สุด แต่เขากลับมีสายตาที่เย็นชาที่สุด "เหยียนเซิ่ง ข้ามองไม่ออกเลยว่า เจ้ารู้จักข้อบกพร่องของตัวเองดีนะ ตามความจริง ตระกูลเฟิงไม่จำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์กับผู้ไม่ได้เรื่องอย่างพวกเจ้า "ทันใดนั้นสีหน้าของผู้อาวุโสสี่เหยียน แล้วก่อนหน้านี้เขาพูดอย่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 138

    อย่างที่นางเดาไว้จริว ๆ เมื่อนางพูดจบ ดวงตาของฮั่วจือโจวก็หรี่ลงเล็กน้อย เขามีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย หากคนภายนอกไม่มองดี ๆ อาจมองไม่ออกเลยจั๋วซือหรานเห็นการเปลี่ยนเปลงจุดนี้ นางจึงหันไปมองฮั่วชิงหยวนฮั่วชิงหยวนยังคงไม่พอใจเล็กน้อย เพราะพี่ชายว่าเขาต่อหน้าผู้อื่น "พี่สาม พี่อย่าว่าข้าเสียมารยาทและโง่เขลาสิ"จั๋วซือหรานยิ้มและพูดว่า " คุณชายห้าฮั่ว "“ฮะ” ฮั่วชิงหยวนมองนาง“เดิมทีเจ้าเลี้ยงข้าดื่มชาเพื่อฟังข้าเล่าเนื้อหาการสอบแพทย์กลั่นยา วันนี้เจ้าน่าจะได้ข้อมูลแล้ว” จั๋วซือหรานกล่าวฮั่วชิงหยวนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตระหนักว่า ตอนที่จั๋วซือหรานเจรจากับผู้อาวุโสสี่เหยียนในเมื่อพวกเขากำลังเดิมพันกัน นางได้พูดถึงข้อสอบของนางในการสอบแพทย์กลั่นยาคือยาเม็ดกู้หยวนชั้นสี่“อ้าว ใช่เลย” ฮั่วชิงหยวนถามด้วยความสงสัย “แล้วมันเป็นยาเม็ดกู้หยวนชั้นสี่จริง ๆ หรือ”ฮั่วจือโจวขมวดคิ้วจากด้านข้าง เขาพูดด้วยน้ำเสียงตำหนิ “ชิงหยวน”ฮั่วชิงหยวนโค้งริมฝีปากแล้วพูดว่า "ขอรับ ขอรับ ข้ารู้แล้วขอรับ แม่นางจิ่วไม่พูดเท็จต่อหน้าซือหลี่หรอก อีกอย่าง ซือหลี่ตันติ่งก็พยักหน้าและยืนยันแล้ว ข้าร

最新チャプター

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1263

    ท่าทีของเฟิงเหยียน ไม่ถือว่ากระตือรือร้นมากนัก กระทั่งค่อนข้างเย็นชาด้วยซ้ำแต่ก็เป็นเรื่องปกติ หลังจากที่เขาออกจากสำนักในตอนนั้น ก็ไม่ได้มีความฮึกเหิมเหมือนสมัยครั้งยังเด็กอีกมักจะเย็นชา และมักจะเฉยเมยปันอวิ๋นเม้มริมฝีปาก เข้าใจถึงสาเหตุนั้นสภาพการณ์ตอนที่เฟิงเหยียนออกจากสำนักครั้งนั้น เขาเองก็รู้เป็นอย่างดีต่อให้จนถึงตอนนี้ ก็ยังจดจำได้อย่างชัดเจนเพราะเฟิงเหยียนถูกทรยศเป็นคนแรก ดังนั้น ตอนนั้นพวกเขาก็อยู่ในฐานะคนที่ยังไม่ถูกทรยศอันที่จริง จะมากน้อยก็ยังมีความสงสัยว่าถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์เดียวกันก็คงไม่เข้าใจอยู่พวกเขารู้สึกว่าเฟิงเหยียนทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเฟิงเหยียนที่ไม่รู้จักบุญคุณพวกเขารู้สึกว่า เป็นเฟิงเหยียนที่ทำไม่ถูกเฟิงเหยียนเป็นคนอกตัญญูจนต่อมา ต่อมาของต่อมา ทุกคนทยอยกันเดินบนเส้นทางของเฟิงเหยียน ใครก็หนีไม่พ้นการทรยศหรือใช้ประโยชน์ทั้งนั้นตามหลักแล้วควรจะยอมรับชะตากรรมอย่างที่เคยเตือนเฟิงเหยียนเอาไว้ในตอนนั้น และมองว่าสิ่งนั้นเป็นการบ่มเพาะและการให้ความสำคัญจากสำนักแต่เพระาอะไร...ถึงได้ดีใจกันขึ้นมาไม่ได้เลยและหลังจากนั้นอีก แต่ละคนก็ทร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1262

    ดังนั้นเขาจึงยังไม่กล้าไปกอดนางไว้แบบนี้ตลอด คอยอยู่ด้วยเงียบๆแต่เขากลับไม่ง่วงเลย ไม่ได้หลับ ไม่ได้ปิดตาด้วยแค่มองนางเงียบๆ สัมผัสถึงความร้อนในตัวนางกับชีพจรนางกระทั่งตัวเขาเองก็ยังบอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่ก็มีความรู้สึกอย่างหนึ่ง...รู้สึกสงบใจอย่างมากราวกับว่า ทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสมบูรณ์แบบแล้วทั้งที่ความทรงจำในอดีตยังไม่กลับคืนเข้าที่ แต่ความรู้สึกนี้ เหมือนสลักประทับอยู่ในจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น ยากที่จะลบเลือนจนกระทั่งลมหายใจของจั๋วซือหรานมั่นคงแล้ว สีหน้ายิ่งมีประกายแดง สภาพดีขึ้นมากแล้วเขามองไปที่คราบเลือดแห้งกรังเหล่านั้นบนใบหน้าจั๋วซือหราน รู้สึกเสียดแทงตาเหลือเกินจึงได้เคลื่อนไหวเบาๆ เดินออกไปด้านนอก กำชับคนรับใช้ให้เตรียมน้ำร้อนมาไม่ให้คนรับใช้เข้ามาปรนนิบัติ แต่เขาหิ้วถังน้ำเข้ามาเองเขาอุ้มนางมาแช่ในถังน้ำ คอยสระชำระเส้นผมนางทีละเล็กทีละน้อย เช็ดคราบเลือดบนผิวนางออกอาบตัวนางจนสะอาดหมดจด อุ้มกลับไปบนเตียง ใช้ผ้าห่มห่อตัวนางจากนั้นจึงใช้พลังวิญญาณธาตุไฟบริสุทธิ์ เป่าผมนางจนแห้งและเพราะมีกลิ่นอายของเขาห่อหุ้มอยู่ จั๋วซือหรานจึงหลับลึกอย่างสบาย ไม่ตื

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1261

    พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงที่บริสุทธิ์ที่สุด ถูกส่งผ่านเข้ามาอย่างนั้นจั๋วซือหรานมีความรู้สึกเหมือนตนเองถูกแช่ไว้ในน้ำอุ่น เป็นความรู้สึกที่สบายอย่างที่สุดในลำคอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความสบายยิ่งไปกว่านั้น คนเราก็เหมือนจะเป็นเช่นนี้เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองลำบากยากเย็นอะไรนักแต่ตอนที่ร่างกายสามารถผ่อนคลายลงมาได้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดทรมานอีกแล้วพอย้อนคิดไปถึงความยากลำบากเหล่านั้นก่อนหน้า กลับรู้สึกว่าตนเองน่าสงสารขึ้นมาจั๋วซือหรานตอนนี้ก็รู้สึก ว่าตนเอง...ไม่ค่อยได้รับความเป็นธรรมเท่าไรชายคนนี้ เจ้าคนสมควรตายนี่มีสิทธิ์อะไร?มีสิทธิ์อะไรกัน?"..." ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บที่ปลายลิ้นเขาขมวดคิ้ว รสชาติคคาวหวานของเลือดแผ่ซ่านในร่องฟันของทั้งสองคนเขามองหญิงสาวตรงหน้า ก็เห็นแววตาของนางมีความหงุดหงิดอยู่หน่อยๆแล้วยังมีสีหน้าท้าทายอีกด้วยดูเหมือนจะจงใจกัดปลายลิ้นเขา น่าจะโมโหเอาการชายหนุ่มไม่ครางออกมาเลย ราวกับไม่รู้สึกเจ็บอย่างไรอย่างนั้นยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใส่ใจ ปลายลิ้นยังโถมใส่นางอย่างเร่าร้อนรุนแรงถ้านางอยากได้ ก็ต้องแล้วแต่นางจั๋วซือหรานดูจนใจหน่อยๆ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1260

    เหมือนว่าความทรมานทั้งหมดก่อนหน้านี้ ไม่ได้ทรมานอะไรขนาดนั้นและไม่รู้ว่าเจ้าโง่นี้ใช้แรงกระแทกนางมากแค่ไหน...มีหลายครั้ง ที่นางรู้สึกได้ว่า ในมิตินี้เหมือนสั่นไหวขึ้นมาราวกับวิญญาณของนางที่ถูกขังอยู่ในมิติ จะถูกดันกลับเข้าไปที่เดิมเลยจั๋วซือหรานถลึงตาโตขึ้นหน่อย จ้องมองมิติที่โยกไหวหน่อยๆรู้สึกหมดคำจะพูดแมงมุมน้อยงึมงำขึ้นมาข้างๆ "นายท่าน...ในนี้มัน...ร้อนจัง..."จั๋ซซือรหานมองไปทางเหล่าสัตว์อสูรของตนเอง มองออกไม่ยาก พวกมันเหมือนเริ่มมึนๆ จะหลับกันแล้ว พอเห็นแบบนี้ ก็เหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรนักกับสถานการณ์ครั้งที่แล้วเพียงแต่ครั้งที่แล้ว ตนเองถูกทำจนเกือบจะสลบไปและตอนนี้ ตนเองถูกทำ...จนใกล้จะตื่นขึ้นมาแล้วผู้ชายคนนี้...ร้ายกาจจริงๆนี่มันช่าง....สัมผัสแนบเนื้อบนตัวนางมีเหงื่อบางๆ ชั้นหนึ่ง ผิวที่เคยขาวซีดไปทั้งตัว ตอนนี้พอมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่ จึงยิ่งดูเป็นประกายระยิบระยับขึ้นมาและไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน..."อือ..." หญิงสาวที่ไม่มีปฏิกิริยามาตลอด ริมฝีปากที่ยังมีรอยเลือดที่ยังเช็ดไม่สะอาด ส่งเสียงครางออกมาเหมือนลูกแมวตัวน้อยฟังดูแล้วเป็นเสียงอือๆ งึมงำๆน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1259

    ในใจจั๋วหวายเข้าใจอย่างหนักแน่นว่าเฟิงเหยียนคือผู้ชายทรยศแต่ว่านี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เขาคิดว่าเฟิงเหยียนจะทำให้พี่สาวดีขึ้นได้คนเราก็มักมีสองมาตรฐานเช่นนี้ ไม่มีทางเลือกดังนั้นจั๋วหวายแม้จะไม่ได้เน้นหนักว่าผู้ชายทรยศคนนั้นคือผู้ชายทรยศ แต่ก็ยังถามขึ้นว่า "เขาจะพาพี่สาวข้าไปไหน?"ปันอวิ๋นได้ยินคำนี้ สายตาก็ลึกซึ้งขึ้นมา "นั่น...เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กๆ ไม่ต้องถามเยอะ"จั๋วหวายเบ้ปาก ในใจก็บ่นว่าตนเองไม่ใช่เด็กแล้วเสียหน่อยแต่ปันอวิ๋นในที่สุดก็ไม่ได้บอกจั๋วหวาย ว่าเฟิงเหยียนจะพาจั๋วซือหรานไปที่ไหนในใจปันอวิ๋นชัดเจนดี สภาพของจั๋วซือหรานแย่หนักถึงระดับนี้แล้ว ขนาดยาก็ยังดื่มไม่ลงถ้าคิดจะใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ปลอบประโลมตัวนาง รวมถึงปลอบประโลมลูกในท้องนาง...วิธีการที่ดีที่สุด คือสิ่งนั้นอย่างไม่ต้องสงสัยสติสัมปชัญญะของจั๋วซือหรานไม่ได้หลับลึกอย่างสมบูรณ์ ในมิติยังสัมผัสรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบๆความรู้สึกนั้น เหมือนกับสติสัมปชัญญะถูกขังอยู่ในมิติอย่างไรอย่างนั้นนางจึงเป็นได้เพียงแค่ผู้ชมเท่านั้น"เฮ้อ ดูท่าเขาจะใช้วิะีนั้นสินะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นขนมถั่วแดงกั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1258

    แต่ว่าชายหนุ่มยังคงไม่ตอบเขาเขาเพียงยกมือขึ้นมา สะบัดแขนเสื้อ เผยท่อนแขนออกมาจากในแขนเสื้อจั๋วหวายจึงเห็นว่าท่อนแขนของชายคนนี้ มีลายมัดกล้ามที่สวยงาม กระชับเรียวยาวผิวเองก็ขาวเย็น ไม่รู้ว่าเพราะปกติไม่ค่อยโดนแสงแดดหรือเปล่าและตอนนี้เอง ผิวหนังขาวเย็นที่โผล่ออกมานอกแขนเสื้อพอต้องกับแสงตะวัน จั๋วหวายก็รู้สึกเหมือนขาวจนสะท้อนแสงออกมาเลย!จากนั้น หลังจากสัมผัสกับแสง ก็ค่อยๆ รอยแผลเหมือนไฟลวกที่ค่อยๆ แดงขึ้น ก็ปรากฏมาบนท่อนแขนเขาไม่เพียงเท่านี้ หลังจากที่รอยไหม้เหล่านี้ปรากฏ ท่อนแขนเขาก็มีอักขระประหลาดบางส่วนปรากฏขึ้นมาอย่างรวดเร็วพออักขระคำสาปปรากฏ บาดแผลเผาไหม้พวกนั้นก็ถูกสะกดลงไป บาดแผลบนผิวหนังเริ่มสมานตัวกลับเหมือนเดิม หลังจากแผลสมานดี อักขระคำสาปเหล่านั้นก็ค่อยๆ สลายหายไปบนผิวหนังเขาแต่ไม่นานนัก ก็ปรากฏแผลไฟลวกอีกครั้ง อักขระเหล่านั้นก็ปรากฏขึ้นมาอีกซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้ ดูแล้วทำให้คน...รู้สึกประหลาดมากจั๋วหวายมองจนบื้อไปเลยและชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจกับแผลที่หายแล้วก็เกิด เกิดแล้วก็หายพวกนี้เลย ราวกับเหมือนมองไม่เห็นอย่างไรอย่างนั้นและก็เหมือนไม่ได้เจ็บได้ปวดเลย แม้ต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1257

    เหมือนว่าพอสายตามองเห็นหญิงสาวในอ้อมกอดปันปวิ๋นที่เหมือนลมพัดก็สลายหายไปได้ ตอนนั้นเอง สัมผัสทั้งหมดก็เหมือนหายวับไปในพริบตาดวงตามองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว หุเองก็ไม่ได้ยินเสียงอื่นใดอีกความรู้สึกเดียวที่เหลืออยู่คือความเจ็บปวดรุนแรงเหมือนมีดกรีดกลางใจ ไม่เพียงเท่านี้ สมองก็เหมือนถูกของมีคมกวนคนอย่างไรอย่างนั้น เจ็บขึ้นมาเป็นระยะๆยิ่งเจ็บ ก็ยิ่งอยากจะมองนางให้ชัดจเน ไม่อยากพลาดไปแม้แต่น้อยปันอวิ๋นพอเห็นร่างของเขา และกลิ่นอายนั่นบนตัวปันอวิ๋นในที่สุดก็ถอนใจโล่ง เขามาได้เสียที..."เจ้าหุบเขา?" ศิษย์สำนักข้างๆ ยังระแวดระวังอยู่ปันอวิ๋นบอกกับศิษย์สำนักเสียงเรียบว่า "เขาไม่ทำอะไรหรอก"ศิษย์สำนักพอได้ยินคำนี้ จึงถอนใจโล่งออกมา เพราะตอนที่พวกคนคุ้มกันขวางเขาเมื่อครู่มันเกินต้านแล้วจริงๆปรมาจารย์กู่อย่างพวกเขาเดิมทีก็แพ้ธาตุไฟอยู่แล้ว และชายคนนี้ก็เหมือนจะมีธาตุไฟระดับสูงด้วยพวกเขาไม่มีความสามารถจะไปทัดทานได้เลยปันอวิ๋นพอเห็นร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ก็คิดในใจ ยังจะงงอะไรอยู่เล่า ถ้าเจ้ายังงงอยู่ หญิงสาวคนนี้จะไม่ไหวแล้วนะ!"โอ๊ค..." ในปากจั๋วซือหรานมีเลือดสดทะลักออกมาและมือข้างนั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1256

    ราวกับว่า...ต่อให้นางจะดูอ่อนแอเหมือนกดให้ตายได้ด้วยนิ้วเดียวแต่ยังคงไม่ยอมให้คนรู้สึกว่าอ่อนแอ ยังคงทำให้คนรู้สึกว่า ถ้าหากอยากจะเป็นศัตรูกับนาง ก่อนนางตายก็จะลากเจ้าลงนรกไปด้วยกันตอนนี้รอยยิ้มที่ดูเกียจคร้านไม่ใส่ใจ กลับยิ่งดูสงบนิ่งมั่นคงราวกับยกของหนักได้อย่างสบายนางเอ่ยขึ้นอย่างเกียจคร้าน "ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะขาดหนูไม้ไผ่อยู่กระมัง"ปันอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่พอได้ยินหนูไม้ไผ่สองคำนี้ เขาก็รู้แล้ว ว่าตอนที่เขาไปทิ้งจดหมายที่บ้านไม้ไผ่ นางก็เดาได้แล้วว่าเขาทำอะไรเพียงแต่ไม่ได้พูดออกมาเท่านั้นเป็นหญิงสาวที่เจ้าเล่ห์กว่าจิ้งจอกเสียอีกปันอวิ๋นจุ๊ปาก "เจ้านี่ถึงตายไป สมองก็คงจะแล่นอยู่อย่างนี้สินะ?"จั๋วซือหรานแค่เหลือบมองเขา ไม่ได้พูดอะไร มุมปากกลับยกโค้งขึ้นบางๆหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง คิ้วนางก็ขมวดขึ้นบางๆ"ทำไมหรือ?" ปันอวิ๋นเห็นการเปลี่ยนแปลงของสีหน้านาง จึงขมวดคิ้วเดินเข้ามา สองมือประคองบ่านางไว้อันที่จริงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยได้เห็นสีหน้าทรมานจากหน้านางนัก นางมักจะทำเป็นเหมือนไม่เป็นไรเสมอแต่ตอนนี้ บนสีหน้า กลับดูทรมานขึ้นอย่างชัดเจนจากนั้น นางก็เหมือนจะยืน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1255

    จั๋วหวายเกือบจะสำรอกออกมาแล้ว!"ถ้าจะอาเจียนก็ออกไปอาเจียนซะ ถ้าทำกู่กล่องนี้ของข้าพัง ข้าจะจับเจ้าแขวนห้อยหัวซะเลย" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายหมุนตัวพุ่งออกไป สูดลมหายใจลึกหลายครั้งกว่าจะสงบลงมาได้ จากนั้นจึงเตรียมตัวเตรียมใจ ตอนที่เข้าไปอีกครั้งก็ไม่มีกระทบกระเทือนอย่างแรงแบบก่อนหน้าแล้วแต่สายตากลับไม่ได้มองไปยังแผ่นกระดานที่มีของดิ้นกระแด่วๆ นั่นมองแล้วขนลุกสุดๆ"มีเรื่องอะไร?" ปันอวิ๋นถามขึ้นเสียงเรียบจั๋วหวายเอ่ยเสียงต่ำ "ท่านรู้..." เขาสูดจมูก ถามออกไปว่า "ท่านรู้จักเฟิงเหยียนใช่ไหม?"ปันอวิ๋นเดิมทีกำลังป้อนอาหารเจ้าพวกดุ๊กดิ๊กพวกนั้นพอได้ยินคำนี้ การเคลื่อนไหวก็หยุดลงมา ไม่หันไปมองเขา ผ่านไปครู่หนึ่งจึงถามขึ้นเรียบๆ ว่า "ทำไมล่ะ?""ข้าอยากเจอเขา ข้าอยากจะถามเขา ว่าทำไมทำแบบนี้กับพี่ของข้า" จั๋วหวายขอบตาแดงรื้นเขาสูดหายใจลึกแล้วพ่นออกมา "ข้าเองก็อยากจะถามเขา ว่าช่วยพี่ข้าได้ไหม ถ้าหากไม่ได้ หรือก็คือเขาเป็นผู้ชายทรยศ ไม่ยินยอม เช่นนั้นเขามาบอกกับท่านพี่ได้ไหม ว่าให้เลิกแล้วต่อกันจบๆ ไป"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ จะฟังความเสียใจในใจจั๋วหวายไม่ออกได้อย่างไรกั

無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status