จื่ออวิ๋นเฟยรีบกล่าวอย่างดีใจ: "เงื่อนไขอะไร?""ไปหาเจ้าหมอผีนั่นมาให้ข้า" มู่จิ่วซีหันพูดกับเขาจื่ออวิ๋นเฟยหลังจากชะงักก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก : "ข้าไม่ค่อยญาติดีกับเขา ข้าจะไปหาเขาเจอได้ยังไง?""เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวล ขอเพียงประกาศออกไปว่าเจ้าหมอเทวดาจื่ออวิ๋นเฟยมาที่แคว้นเกาอวิ๋นและช่วยข้ามู่จิ่วซีเอาไว้ หมอผีหลังจากทราบเรื่องก็จะต้องมาหาเจ้าแน่""เจ้าทำไมมั่นใจขนาดนั้น?" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างไม่มั่นใจ"ลองดูเดี๋ยวก็รู้แล้วปะ? เขาตอนนี้เหมือนหนูตามถนน อยากจะหนีหรืออยากจะซ่อน จะมีใครเก่งไปกว่าศิษย์พี่อย่างเจ้าอีก? ต่อให้ความสัมพันธ์แย่กว่านี้ ก็คงไม่ถึงขนาดไล่เขาไปตายปะ?" มู่จิ่วซียักคิ้วจื่ออวิ๋นเฟยเกาหัวและพูดอย่างเอือมๆ : "แบบนี้เจ้ากำลังให้ข้าหมดความชอบธรรมไม่ใช่หรือไง? ขนาดศิษย์น้องตัวเองยังทำร้าย?""แล้วจะเรียนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งมั๊ยล่ะ?" มู่จิ่วซีดูถูกเขาจื่ออวิ๋นเฟยยิ้มอย่างแหยงๆ เผยสีหน้าลำบากใจ"อันที่จริงไม่ต้องการเจ้าก็ได้ แค่ยืมชื่อของเจ้าก็พอ" มู่จิ่วซีส่วเสียงเรียกดัง "เย่ฮาน!"พวกของเย่ฮานทั้งสี่ในเรือนได้รีบเข้ามาจื่ออวิ๋นเฟยมุมปากกระตุก มู่จิ่วซีพ
"หมอเทวดา เจ้าบอกพวกเขาทีว่าข้าไม่เป็นไรแล้ว" มู่จิ่วซีเห็นจื่ออวิ๋นเฟยออกมาก็รีบพูด"คุณหนูใหญ่ ท่านไม่เป็นอะไรก็จริง แต่ท่านก็ต้องพักผ่อนให้มาก ข้าทำซุปบำรุงหม้อใหญ่เอาไว้ เจ้าควรจะค่อยๆ ดื่มสิ" จื่ออวิ๋นเฟยรีบยิ้มอย่างขมขื่น"ดื่มสิ ดื่มแน่นอน แต่ว่าพอนอนมากเข้า ร่างกายมันปวดเมื่อย ออกมาเดินสบายกว่าหน่อย ท่านผู้สำเร็จราชการแทนไปเข้าราชสำนักช่วงเช้าหรอ?" มู่จิ่วซีเปลี่ยนหัวข้อสนทนา"ซีเอ๋อร์!" พอสิ้นเสียง โม่จุนก็เดินอาดๆ เข้ามา "เจ้าลุกมาทำไม รีบกลับไปนอน""ข้าบอกแล้วว่าไม่เป็นไร" มู่จิ่วซีกล่าว "คิดว่าข้าไม่เป็นห่วงชีวิตของตัวเองหรือไง?""งั้นเจ้าก็ต้องไปนอนพักผ่อน หากข้าบอกว่ายังไม่หาย เจ้าก็อย่าลงมาเดิน แล้วก็อย่าคิดฟุ้งซ่านด้วย พักผ่อนฟื้นฟูอาการ เจ้าก็เห็นว่าเจ้าบาดเจ็บ 2 ครั้งนี้ทำเอาผอมไปมาก""ผอมที่ไหน? ข้าไม่ได้ผอมลงเลย?" มู่จิ่วซีเถียงกลับ"ผอม" โม่จุนเดินเข้ามาหาแล้วโอบเอวของมู่จิ่วซีอุ้มขึ้นทันทีและเดินเข้าไปข้างใน"เห้ยๆๆ เจ้าจะทำอะไร แอบตีเนียนล่วงเกินข้าหรอ!" มู่จิ่วซีถูกจอมเผด็จการโม่จุนทำเอานางไปไม่ถูก"ถ้าข้าอยากล่วงเกินรอเจ้าหายดีก่อนค่อยว่ากัน" โม่จุนวาง
มู่จิ่วซีมองหนุ่มหล่อสาวงามเดิมเข้ามา รู้สึกสบายตาจนอารมณ์ดีขึ้นมาทันที"จิ่วซี เจ้าพยุงตัวขึ้นมาเองได้ไง รีบนอนลงเถอะ" ฮั้วอวิ๋นเทียนเข้ามาก็เห็นมู่จิ่วซีกำลังจะลงจากเตียง เลยรีบเดินเข้าไปหาห้ามมู่จิ่วซี"ท่านพี่ฮั้ว ข้าไม่เป็นไร เจ้าไม่ต้องกังวล" มู่จิ่วซียิ้มกล่าว จากนั้นก็เหลือบมองฉินอวี่เยียนรูปร่างผอมบางแต่กลับคงไว้ซึ่งความงามและกล่าว "พี่สาวเยียนเอ๋อร์ ทำไมเจ้ามาเยี่ยมข้า ไม่ไปพักผ่อน""จิ่วซี ขอบคุณเจ้ามาก ถ้าไม่ใช่เจ้า ข้าก็ไม่รู้ว่าต้องถูกขังอีกนานเท่าไหร่" ฉินอวี่เยียนนั่งตรงขอบเตียงและมองมู่จิ่วซีด้วยความตื้นตันใจมู่จิ่วซีมองใบหน้าของนางอย่างละเอียดซึ่งเหมือนกับอาจื่อมากจริงๆ เพียงแต่ตรงมุมปากของอาจื่อมีไฝสีแดงเม็ดหนึ่ง ดูไปแล้วก็มีเสน่ห์เย้ายวน ทว่าฉินอวี่เยียนกลับงดงามแบบพื้นบ้านดั้งเดิม ใบหน้าดูมีความกล้าหาญ"ออกมาได้ก็ดีแล้ว เจ้าก็ควรพักผ่อนให้ดี ท่านพี่ฮั้ว เจ้าต้องซื้อของอร่อยๆ ให้นางทาน เลี้ยงดูพี่สาวเยียนเอ๋อร์ให้สมบูรณ์ด้วย" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวกับฮั้วอวิ๋นเทียนฮั้วอวิ๋นเทียนพยักหน้าและกล่าว : "แน่อยู่แล้ว เยียนเอ๋อร์ลำบากมา 3 ปี ควรต้องโทษข้าที่ถูกอาจื่อหลอก
"นางมีโรคหัวใจที่ไหน หลอกอวิ๋นเทียนทั้งนั้น หลังจากข้าถูกจับตัวไป นางบอกว่านางทนไม่ไหว เลยจงใจแกล้งป่วยโรคหัวใจ อวิ๋นเทียนก็ดันกลับเชื่อ"ฉินอวี่เยียนฟังฮั้วอวิ๋นเทียนเล่าว่าฉินหลานจื่ออยู่กับเขามาตลอดสามปี นางบอกว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิด นางรู้สึกว่ามันไร้สาระมู่จิ่วซีเห็นใบหน้ากระอักกระอ่วนของฮั้วอวิ๋นเทียนก็อยากจะหัวเราะ"นางไม่ใช่ว่าบอกหรอกหรือว่าเจ้าให้ท่านพี่ฮั้วดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวของเจ้า?" มู่จิ่วซีถามอีกครั้งฉินอวี่เยียนเหลือบมองฮั้วอวิ๋นเทียน ฮั้วอวิ๋นเทียนก็เผยสีหน้าทุเรศยิ่งกว่าร้องไห้ออกมา : "จิ่วซี เจ้าเมื่อก่อนบอกว่าข้าตาบอด ข้าตอนนี้คิดดูแล้วคงไม่ใช่แค่ตาที่บอด แต่หัวใจก็บอดด้วย""พรูด!" มู่จิ่วซีหลุดขำออกมาฉินอวี่เยียนมองฮั้วอวิ๋นเทียนด้วยความตกใจเล็กน้อย ถึงอย่างไรในความทรงจำของนาง ฮั้วอวิ๋นเทียนก็ไม่ใช่คนที่ซุกซนช่างเจรจาดูเหมือนเขากับมู่จิ่วซีจะสนิทกันดี คุ้นเคยเหมือนกับคนในครอบครัว"ตอนนั้นหอดาราจันทราก่อตั้งขึ้นที่แคว้นตงเฉิน ข้าพาพวกนางพี่น้องทั้งสองไปด้วยจนยุ่งพะวังหน้าพะวังหลัง มีวันหนึ่ง ข้าถูกศัตรูตามล่า พวกนางทั้งสองและข้าร่วมกันต่อสู้ ตอนนั้นพวก
ดวงตาโฉบเฉี่ยวทั้งสองข้างของฮั้วอวิ๋นเทียนหรี่ลง ภายในแววตาแฝงด้วยความโกรธา"ตอนแรกเป็นพวกศัตรูจริงๆ ข้ารู้จักพวกมัน แต่พวกชุดดำหลังจากนั้น ข้าตอนนี้มาคิดดูก็คงไม่ใช่ศัตรู แต่เป็นผู้พิทักษ์เงาที่ท่านอ๋องสี่ส่งมาช่วยอาจื่อ"ดังนั้นเจ้าเลยสังหารศัตรูใช่ไหม?" มู่จิ่วซีถาม"ใช่ หลังจากนั้นเพื่อแก้แค้นให้กับเยียนเอ๋อร์ ข้าเลยไล่ล่าทั้ง 5 แคว้นและฆ่าพวกมันทิ้งทั้งหมด" ฮั้วอวิ๋นเทียนเหลือบมองฉินอวี่เยียนครู่หนึ่งฉินอวี่เยียนซาบซึ้งใจอย่างมากจนตาแดงระเรื่อ"อวิ๋นเทียน ลำบากเจ้าแย่เลย""เรื่องต้องมาเกิดกับเจ้าก็เพราะข้า ในใจข้าไม่อาจสงบได้" ฮั้วอวิ๋นเทียนถอนหายใจโล่งอก อันที่จริงเขาอยากจะบอก หากรู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ตอนนั้นเขาไม่ควรไถ่ตัวพี่น้องคู่นี้มาเลยเหมือนกับลูกพี่ลูกน้องหมอเทวดาจื่ออวิ๋นเฟยได้พูดไว้ ผู้หญิงก็คือปัญหา!"ยังดีที่ตอนนี้ไม่มีเรื่องแล้ว แค่อาจื่อไม่อยู่แล้วเท่านั้น ไม่รู้ว่าไปซ่อนอยู่ไหน" มู่จิ่วซียิ้มเจื่อนๆ "นิสัยของนาง นางไม่ยอมรามือแน่นอน ข้าทำลายแผนการของนาง คงแค้นจนอยากสับข้าเป็นหมื่นๆ ชิ้นแล้วล่ะ"ฮั้วอวิ๋นเทียนกล่าวด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป : "จิ่วซี มันก็อาจจะเป
ทว่าประโยคเมื่อครู่ทำให้นางเหมือนถูกเคาะเรียกสติ นางคิดไปคนเดียวงั้นเหรอ?แต่ว่าฮั้วอวิ๋นเทียนไม่ได้ติดค้างอะไรนาง ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของอาจื่อน้องสาวของนาง ดังนั้นอันที่จริงฮั้วอวิ๋นเทียนไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดมู่จิ่วซีเองก็ตกตะลึงหันมองฉินอวี่เยียน คิ้วขมวดขึ้นทันทีพร้อมกับใจที่คิดว่าคงไม่มีทาง ฮั้วอวิ๋นเทียนคงไม่ได้ชอบฉินอวี่เยียนหรอกใช่ไหม?ก็แค่เขาคงคิดว่าฉินอวี่เยียนยอมตายเพื่อเขา เลยรู้สึกว่าติดค้างฉินอวี่เยียน ทำเป็นเรื่องธรรมดาอย่างกับตั้งชื่อให้ แต่อันที่จริงตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้น ดังนั้นฮั้วอวิ๋นเทียนจึงได้สติ เขาอันที่จริงก็เห็นฉินอวี่เยียนเป็นน้องสาวมู่จิ่วซีรู้สึกได้ว่าเริ่มทะแม่ง ฉินอวี่เยียนคงลำบากใจมาก"ใช่ ฮั้วอวิ๋นเทียนดูแลเราเหมือนน้องสาว ปฏิบัติกับพวกเราพี่น้องดีมาก" ฉินอวี่เยียนเห็นได้ชัดว่าฟังออก ขนาดคำเรียกฮั้วอวิ๋นเทียนยังเปลี่ยนเป็นมาใช้ท่านพี่ฮั้วเพียงแต่บนใบหน้ายังมีความกระอักกระอ่วนและเดียวดายหลงเหลือหลังจากประโยคนี้ เหตุการณ์ ณ ตรงนั้นอักอ่วนเล็กน้อย มู่จิ่วซีมองฮั้วอวิ๋นเทียนและถลึงตาใส่เขา ราวกับไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทำแบบนี้ฮั้วอวิ๋นเทียนหลั
หลิวฮั่วและเหอเฟิงรีบออกมา มู่จิ่วซีกล่าว : "พาคนไปตรวจสอบหอหล่านจวี๋อีกครั้ง ตรวจสอบให้ละเอียดด้วย!""ขอรับ คุณหนูใหญ่" ทั้งสองรีบรับคำสั่งและออกไป"จิ่วซี ผู้พิทักษ์เงาของท่านผู้สำเร็จราชการแทนโม่จุนมีอยู่ไม่น้อย ต่อให้เข้ามาได้ ก็ใช่ว่าจะออกไปได้" ฮั้วอวิ๋นเทียนรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายตรงมุมมืด"ข้าคือสมบัติชาติของแคว้นเกาอวิ๋น เขาต้องส่งคนจำนวนมากมาคุ้มกันข้าอยู่แล้ว" มู่จิ่วซีหัวเราะฮั้วอวิ๋นเทียนทันใดนั้นก็หัวเราะกล่าวเสียงดัง : "ไม่เลวๆ เจ้าประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่มาหลายครั้งแล้ว อันที่จริงโม่จุนก็ควรจะขอบคุณเจ้าดีๆ""เขามอบเรือนเล็กฉิงเทียนในพระราชอุทยานหลินหยวนแก่ข้า ข้าพอใจแล้ว" มู่จิ่วซีเผยยิ้มกล่าว อันที่จริงนางทำเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เพื่อของรางวัล แต่เพื่อให้ครอบครัวของนางหลังจากนี้ไม่ต้องพลัดพรากกันเพราะสงคราม"แค่กๆๆ จิ่วซี ข้าได้ส่งข่าวออกไปแล้ว หอดาราจันทราจะรับช่วงต่อกิจการใน 5 แคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่" ฮั้วอวิ๋นเทียนเผยสีหน้าร้ายกาจ ตอนนี้ค่อยๆ เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้างมู่จิ่วซีตกตะลึงตาค้างไม่อยากจะเชื่อฮั้วอวิ๋นเทียน"คนในยุทธจักรที่แท้ก็ดวงตาแพรวพราวดั่งหิมะ เจ้
บนรถม้าของฮั้วอวิ๋นเทียน ฉินอวี่เยียนนั่งเงียบไม่ส่งเสียง"เยียนเอ๋อร์ ข้าจะพาเจ้าไปซื้อของ เสื้อผ้าของเจ้าไม่เหมาะจะใส่แล้ว แล้วก็จะปีใหม่แล้วด้วย เจ้าอยากได้อะไรก็เตรียมเอาไว้ ปีนี้เราฉลองปีใหม่ที่แคว้นเกาอวิ๋นแล้วกัน" ฮั้วอวิ๋นเทียนกล่าวอย่างดีใจมากฉินอวี่เยียนมองใบหน้าที่แต่ก่อนทั้งเย็นชาและเย่อหยิ่งมาตลอด ทว่าตอนนี้กลับอบอุ่นเหมือนคนเป็นไข้ ในใจขมขื่นอย่างมาก"ได้สิ แล้วแต่ท่านพี่ฮั้วเลย""เป็นอะไรไป? ไม่สบายใจ?" ฮั้วอวิ๋นเทียนเห็นนางไม่ค่อยจะสนใจ "คิดถึงอาจื่ออีกแล้วเหรอ?"ฉินอวี่เยียนสายหน้าและฝืนยิ้มกล่าว : "ไม่มีอะไรค่ะ แค่เหนื่อยเล็กน้อย อาจเพราะถูกขังไว้นาน เลยไม่ค่อยชินกับอากาศสดชื่นข้างนอก""ไร้สาระ เยียนเอ๋อร์ สีหน้าของเจ้ามันบอกว่าไม่ใช่เรื่องนี้ เจ้ามีเรื่องในใจ หรือกลัวว่าอาจื่อจะตายงั้นเหรอ?" ที่แท้ฮั้วอวิ๋นเทียนไม่ได้ฉลาดเรื่องของความรู้สึกฉินอวี่เยียนก้มหน้าส่ายหัว อารมณ์ของนางจมปลักยิ่งขึ้นฮั้วอวิ๋นเทียนขมวดคิ้วและกล่าว : "ในเมื่อเจ้าไม่ค่อยสบาย งั้นพรุ่งนี้เราค่อยออกมาซื้อของแล้วกัน กลับไปพักผ่อนก่อน ไม่รีบ"ฉินอวี่เยียนเงยขึ้นมองท่าทีอ่อนโยนของเขา ในใ
ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล
จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด
มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล
"แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก
มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา
"ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน
เย่อู่เหิงรีบวิ่งออกไป มู่จิ่วซีสีหน้าเปลี่ยน หลังจากเดินไปมาหลายรอบก็กัดฟัน เปลี่ยนเป็นชุดจิ้นจวงและเดินออกมา"คุณหนู ท่านจะไปไหน?" ลู่เอ๋อร์เข้ามาจากด้านนอกเห็นมู่จิ่วซีเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไป นางตกใจสะดุ้งจนตะโกนร้องเรียก"ข้ามีธุระ เย่ฮาน ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซีตะโกนเรียกจื่ออวิ๋นเฟยที่กำลังงุ่นง่านกับศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งได้ยินเสียงของมู่จิ่วซี ก็รีบวิ่งออกมา"คุณหนูใหญ่ เจ้า ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?" เย่ฮานกล่าวอย่างตกใจ"มู่จิ่วซี ไม่รักชีวิตตัวเองเลยรึไง แผลยังไม่ทันหายยังจะออกไปอีก?" จื่ออวิ๋นเฟยเองก็ตกใจ"ข้าต้องเข้าไปในวัง ไปเตรียมม้า!" มู่จิ่วซีรีบวิ่งออกไป"เห้ยๆๆ เจ้าระมัดระวังด้วย อย่าบุ่มบ่ามจนแผลฉีกล่ะ" จื่ออวิ๋นเฟยตะโกนจากด้านหลัง"เอายามาให้ข้าเม็ดหนึ่ง! กันไว้ก่อน" มู่จิ่วซีันควับกลับมาและยืนมือไปทางจื่ออวิ๋นเฟย "กลับมาแล้วข้าจะปรุงยาเอามาคืนเจ้า"จื่ออวิ๋นเฟยเบือนหน้าหนีเดินถอยออกไป มู่จิ่วซีเบ้ปากกล่าว : "ขี้งก"พูดจบก็รีบเดินไปทางประตูจื่ออวิ๋นเฟยหยุดฝีเท้าลงและพูดขึ้นมากะทันหัน : "เอาไป!"มู่จิ่วซีหันกลับมา เห็นเพียงขวดยาที่ถูกโยนมาให้"ในนั้นเหลือแค่ 2 เม็ด
"เจ้าไปวาดใบหน้าของหน้ากากหนังมนุษย์ของอาจื่อออกมาก่อน" มู่จิ่วซีกล่าว"เออ ข้า ข้าก็จำไม่ค่อยได้แล้ว เป็นผู้หญิงธรรมดามากๆ ไม่สะดุดตาเลย ข้าตอนนั้นกำลังเพิ่งเริ่มศึกษาค้นคว้า เลยทำหน้ากากออกมาแค่ผืนเดียว ถ้าของมันดี ข้าคงอดไม่ได้ที่จะต้องยกให้คนอื่นใช่ไหมล่ะ?" จื่ออวิ๋นเฟยทำสีหน้าโศกเศร้า"ไม่มีเอกลักษณ์อะไรเลยงั้นเหรอ? ถ้าเจ้าเห็นกับตาจะจำได้ไหม?" มู่จิ่วซีสูดหายใจเข้า"เอกลักษณ์? มีสิ ตรงจมูกหว่างตามีไฝสีดำเม็ดหนึ่ง มีแค่จุดนั้น เพราะว่าเป็นไฝเลยไม่มีวิธีจะเอาออก อาจื่อตอนนั้นยังบอกว่าอัปลักษณ์"มู่จิ่วซีก็ถอยหายใจได้ในที่สุด ขอเพียงมีเอกลักษณ์จุดสังเกต อย่างน้อยให้นางครั้งหน้าเห็นและจำได้ อีกอย่างอาจื่อคงจะต้องคิดหาวิธีมาฆ่านางแน่นอน"อายุล่ะ ภายนอกอายุประมาณเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"ประมาณระหว่าง 20-30 ปี" จื่ออวิ๋นเฟยกล่าว "สีผิวดูคล้ำกว่าเจ้าเล็กน้อย ไม่ใช่คุณหนูประเภทนั้น คล้ายกับบ่าวรับใช้"มู่จิ่วซีพยักหน้า เข้าใจแล้ว"งั้นก็ดี ตอนนี้ข้าจะสอนศาสตร์ศัลยกรรมตกแต่งให้เจ้า" มู่จิ่วซีจิตใจวิตกกังวล แต่ก็ทำได้เพียงสงบใจและรอฟังข่าวเท่านั้นตกกลางคืน เย่อู่เหิงได้มาเยี่ยม คน
จื่ออวิ๋นเฟยกล่าวอย่างระแวง : "เจ้า เจ้าอย่ามองข้าแบบนั้น อาจื่อไม่ใช่ว่ามีโรคหัวใจแต่กำเนิดรึไง? มอบยาให้นางไปก็เพื่อใช้ปกป้องชีวิตของนาง""เจ้าไม่ใช่ว่าเห็นนางขัดหูขัดตาหรือไง?" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างโมโห"เออ คือ คือข้าได้แลกเปลี่ยนกับฮั้วอวิ๋นเทียน ว่าให้ข้าสามารถรับสวัสดิการที่ดีที่สุดในหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้นได้ ได้รับการปกป้องจากหอดาราจันทราทั้ง 6 แคว้น" จื่ออวิ๋นเฟยสำนักผิดมู่จิ่วซีหมดคำจะพูด"ท่านอ๋องสามตอนนั้นได้ก่อกบฎ ถูกโม่จุนหักขาไปข้าง ทว่าวันนี้ขาของข้ากลับมาเดินบนพื้นได้อีก แค่อาจไม่ค่อยคล่องแคล่ว คงได้ทานยาเทพสถิตย์ไปแล้วแน่" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างมั่นใจ "นอกเสียจากมียารักษาสุดยอดยิ่งกว่ายาเทพสถิตย์"จื่ออวิ๋นเฟยอ้าปากกว้าง จากนั้นก็กล่าวอย่างอักอ่วน : "งั้น งั้นก็คงจะเป็นยาเทพสถิตย์แล้วล่ะ""จะให้พวกเขาหนีออกไปจากแคว้นเกาอวิ๋นไม่ได้เด็ดขาด ไม่งั้นไอระยำสองตัวนั้นคงทำให้พวกเราไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แน่นอน" มู่จิ่วซีกำหมัดจนแน่น แววตาเต็มไปด้วยจิตสังหารจื่ออวิ๋นเฟยส่งเสียงไอ เขาถึงกับหัวหด"เจ้ายังมีอะไรปิดบังข้าอีก?" มู่จิ่วซีรู้สึกว่าจื่ออวิ๋นเฟยแปลกออกไป"หะ! ไม่