เซวียนหยวนเชามองมู่จิ่วซีที่นิ่งราวกับภูเขาพร้อมกับยิ้มกล่าว : "ได้ยินมาว่าท่านอ๋องหกคนนี้ชอบเจ้ามู่จิ่วซี คิดอยากจะไปสู่ขอแต่งงาน เจ้ามันไร้หัวใจจริงๆ""ข้าโดดเด่นขนาดนี้ คนมาสู่ขอมีตั้งเยอะ" มู่จิ่วซีกล่าว "องค์มกุฎราชกุมาร เจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่ พูดมาเถอะ อย่าทำเป็นเล่นเหมือนเด็กจนทำให้ข้าต้องเอือมกับเจ้า""ใช้ตัวเจ้าแลกกับท่านอ๋องหกล่ะเป็นไง?" เซวียนหยวนเชายิ้มมุกปาก "กินยาเม็ดนี้ ผูกมัดแขนข้าเจ้า ขอเพียงเจ้ายอมร่วมมืออย่างเชื่อฟัง ข้าก็จะไม่ฆ่าเจ้าทิ้ง"ขณะพูดมือของเขาก็ปรากฎเม็ดยาสีดำ"ยาอะไร? พูดมาให้ข้าฟังก่อน แล้วก็เจ้าจะพาข้าออกจากแคว้นเกาอวิ๋นใช่ไหม?" มู่จิ่วซีถาม"ยากระดูกอ่อน ก็แค่ให้คุณหนูใหญ่มู่สูญเสียกำลังภายในไปก็เท่านั้น ส่วนเรื่องจะพาเจ้าออกจากแคว้นเกาอวิ๋นไปหรือไม่ ข้าเองก็หวังว่าจะทำเช่นนั้น" เซวียนหยวนเชายิ้มเล็กน้อย"ส่งยามาให้ข้าดู" มู่จิ่วซียื่นมือออกไป เซวียนหยวนเชาก็โยนโยนยาเม็ดนั้นมาให้นางทันที มู่จิ่วซีวางไว้ใต้จมูกดม จากนั้นก็เลิกคิ้วเล็กน้อย"ได้ยินมาว่าวิชาแพทย์ของคุณหนูใหญ่มู่ไม่เลว" เซวียนหยวนเชากล่าว "ยาเม็ดนี้คือยากระดูกอ่อน ไม่มีอันตรายอะไรกั
เซวียนหยวนเชายักใหล่กล่าว : "ขอเพียงคุณหนูใหญ่มู่ทำตามที่พูด แน่นอนข้าเองก็จะไม่เล่นลูกไม้ตุกติก"มู่จิ่วซีหันมองท่านอ๋องหกที่ค่อยๆ เดินไปยังเรือนหน้า เขากระวนกระวายจริงๆ แต่ว่านางนั้นมองออกว่าเขากำลังพยายามอย่างมาก แสดงว่ายากระดูกอ่อนเม็ดนี้คงจะรุนแรง"ผลของยานานเท่าไหร่?" มู่จิ่วซีถาม"12 ชั่วยามและจะสลายไปเอง ท่านอ๋องหกกลับไปนอนสักหน่อยเดี๋ยวก็ฟื้นตัวดีขึ้น" เซวียนหยวนเชากล่าว "คุณหนูใหญ่มู่รู้สึกอย่างไรบ้าง?""ก็พอไหว แค่รู้สึกเย็นวูบวาบตรงท้อง คงจะไม่ท้องเสียหรอกใช่ไหม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้วเซวียนหยวนเชาชะงักนิ่ง จากนั้นก็หันไปมองพวกคนชุดดำ พวกคนชุดดำก็ส่ายหัวและกล่าว : "ยานี้ไม่ทำให้ท้องเสีย แต่จะค่อนไปทางเย็นพะยะค่ะ""งั้นข้ากินแล้วมดลูกจะเย็นไหม? หลังจากนี้ถ้าข้ามีลูกไม่ได้ขึ้นมา ข้าจะมาเอาชีวิตเจ้า" มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็แสร้งทำเป็นโกรธโมโหและกล่าวใบหน้าของคนชุดดำเป็นชายวัยกลางคน หน้าตาอัปลักษณ์ ไม่มีอะไรโดดเด่น พอได้ยินคำพูดของมู่จิ่วซีก็ตื่นตกใจ จากนั้นก็กล่าวอย่างไม่พอใจ : "คุณหนูใหญ่มู่ ตอนนี้มันใช่เวลามาสนใจเรื่องนี้ไหม?""เจ้าเป็นหมอหรือไง?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้วกล่าว "
มู่จิ่วซีไม่อยากจะมีหูไว้ได้ยิน ขายหน้ามากจริงๆ"คุณหนูใหญ่มู่ ข้าขออนุญาต" ชายชุดดำเดินมาจับแขนมู่จิ่วซีไพล่ไว้ด้านหลังและมัดเข้าด้วยกัน จากนั้นก็พยุงมู่จิ่วซีไปยังเรือนหลังเซวียนหยวนเชายืนอยู่ในเรือนราวกับว่ากำลังฟังเสียงเคลื่อนไหวโดยรอบ จากนั้นมุมปากเขาก็กระตุกยิ้มขึ้นมาและหันหลังเดินเข้าไปข้างในเขาไม่คาดคิดจริงๆ ว่ามู่จิ่วซีจะกล้ามากขนาดนี้ คาดไม่ถึงว่าจะมาช่วยท่านอ๋องหกคนเดียวมู่จิ่วซีถูกพวกชายชุดดำผลักเข้าไปในเรือน จากนั้นก็ออกไปทางประตูหลัง ด้านหลังมีทางเดินขรุขระบนภูเขาตัดผ่านเข้าไปในป่ามุ่งตรงไปยังด้านข้างอ้อมไปด้านหลังภูเขาตะวันตกด้านหลังภูเขาตะวันตกเป็นสวน เป็นทางเดินปกติบนภูเขา หลังจากอ้อมเขามาแล้วก็จะเดินได้อย่างสะดวกมากมู่จิ่วซีเดินสะดุดเป็นระยะๆ ข้าวดำก็หล่นออกมาจากในรองเท้า นี่เป็นเครื่องหมายที่นางทำไว้ให้กับโม่จุน"ทำไมพวกเจ้าถึงคิดจะมาภูเขาตะวันตก?" มู่จิ่วซีถามเซวียนหยวนเชายิ้มกล่าว : "สถานที่นี้ไม่ใช่ว่าวิวสวยมากหรอกเหรอ? อีกอย่างต่อให้คนของเจ้ามากกว่า ด้วยความสามารถของข้า การสังหารคนเพื่อฝ่าวงล้อมหลบหนีก็จะสะดวกอย่างมากไม่ใช่หรือไง?"มู่จิ่วซีพยักหน้
มู่จิ่วซีถูกเขาอุ้มตะแคง แน่นอนว่าทำให้มองดวงตาของเขาได้อย่างชัดเจนแน่นอนว่าเห็นใบหน้าของเขาชัดเจนมากขึ้น คงจะไม่พูดไม่ได้ว่าเซวียนหยวนเชาเป็นหนุ่มรูปงาม เป็นบุรุษชายเกินร้อย ผนวกกับรูปร่างและฐานะด้วยแล้ว ผู้หญิงของแคว้นเป่ยจิ้นคงจะหลงใหลเขาแทบคลั่งเหมือนกับโม่จุนในใจของหญิงสาวแคว้นเกาอวิ๋น ทั้งฐานะและการปฏิบัติ"หรอ ไม่ทราบว่าหนุ่มหล่อทั้งสามอันดับภายในใจของคุณหนูใหญ่มู่เป็นใครบ้างล่ะ?" เซวียนหยวนเชาถามอย่างสงสัย"แน่นอนโม่จุนอันดับหนึ่ง อันดับสองคือเจ้าสำนักหอดาราจันทรา อันดับสามคือใต้เท้าเย่เย่อู่เหิง ทั้งสามคนนี้เป็นหนุ่มหล่อมาก" มู่จิ่วซีหัวเราะเบาๆ พร้อมกับพูด"ฮั้วอวิ๋นเทียนเป็นหนุ่มหล่อด้วยงั้นเหรอ?" เซวียนหยวนเชายิ้มเยาะ"เอ๋ องค์มกุฎราชกุมารรู้จักเจ้าสำนักฮั้วด้วยหรอ" มู่จิ่วซีพอได้ยิน ก็รู้สึกว่าทั้งสองคนคงมีความแค้นกัน"เจ้าสำนักหอดาราจันทรามีชื่อเสียงโด่งดัง ข้าจะไม่รู้จักได้ยังไง เขาแทรกเข้ามาในแคว้นเป่ยจิ้นได้ลึกมาก" เซวียนหยวนเชาส่งเสียงเหอะออกมาเบาๆ"นั่นแหละความสามารถเขา" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว "ยากระดูกอ่อนนี้มีผลข้างเคียงเยอะมาก ข้ารู้สึกว่าปวดท้องนิดหน่อยแล้ว"
อีกอย่างหากถูกค้นเอาไป นางคงจะปวดใจ ถึงอย่างไรนางก็อุตส่าห์ตั้งใจทำขึ้นมาเหมาะกับนางคนเดียวแต่ว่าอวัยวะสำคัญบางส่วนอย่างเช่นหัวใจ นางก็ได้ซ่อนแผ่นเหล็กเอาไว้ ต่อให้ถูกดาบแทงโดน นางก็จจะไม่ตายในทันที นางป้องกันอันตรายไว้ก่อนเผื่อในอนาคต อีกอย่างพวกเขาจะไม่มีทางค้นตรงอวัยวะแถวนั้นมู่จิ่วซีถูกอุ้มลงจากม้า จากนั้นก็ถูกอุ้มเดินไปถนนสักระยะก็ถึงจะเข้าไปยังในบ้านหลังหนึ่ง ไม่นานแสงสว่างก็ส่องตรงหน้า ถุงคลุมหัวของนางถูกถอดออกเซวียนหยวนเชากล่าว : "คุณหนูใหญ่มู่ คงต้องลำบากให้เจ้าพักที่นี่ไปก่อน ไม่นานจะเปลี่ยนไปที่ที่ดีกว่านี้ให้เจ้า"มู่จิ่วซีหันมองไปรอบด้านซึ่งเป็นบ้านไม้ ด้านในไม่มีอะไรเลยสักอย่าง เหมือนกับอยู่ในห้องรับแขกของบ้านคนปกติ"ดื่มชาหน่อยสิ" เซวียนหยวนเชาเห็นคนเอาชาเข้ามาให้ก็เลยพูดกับมู่จิ่วซีมู่จิ่วซีเห็นหน้าของคนที่เอาชาเข้ามาให้ไร้ซึ่งอารมณ์ พอวางชาเสร็จก็ออกไป นางนั่งอยู่บนเก้าอี้และกล่าว : "ขอบใจ"พอพูดจบนางก็ดื่มชาร้อน ทันใดนั้นร่างกายก็เหมือนกับได้ผ่อนคลายขึ้นมามาก"เจ้าพักผ่อนไปก่อน เดี๋ยวข้ารีบไปรีบมา" เซวียนหยวนเชาพูดจบก็เดินออกไป อีกทั้งยังปิดประตู แต่มู่จิ่
เซวียนหยวนเชาหรี่ดวงตากลมโตสีฟ้าลงพร้อมกับกล่าว : "คุณหนูใหญ่มู่ทำไมถึงคิดเช่นนั้น?""แล้วไม่ใช่หรือไง?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าว "ข้าก็แค่เดา พวกเจ้าอุตส่าห์ทุ่มเทตั้งใจขนาดนี้เพื่อสังหารข้า ตอนนี้จับข้าได้แล้ว แสดงว่าจะต้องมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่า แล้วก็ต้องรีบลงมือด้วย ไม่อย่างงั้นจะเก็บภูเขาให้เกรงว่าได้มีฟืนใช้ทำไม มกุฎราชกุมารอย่างเจ้าพอแพ้หมดอำนาจไปแล้วก็คงจะต้องพิจารณาตัวเอง และหวนกลับมาทวงอำนาจอีกครั้งถึงจะถูก" (เก็บภูเขาให้เกรงว่าได้มีฟืนใช้ หมายถึง หากยังมีชีวิตก็จะมีความหวัง)"คุณหนูใหญ่มู่ฉลาดเหนือคนอื่นจริงๆ ตอนนี้คงไม่จำเป็นต้องปิดบังเจ้า ข้าต้องการจะช่วยหวางชิวจริงๆ เพราะว่าเขาจะตายไม่ได้""หรอ? เป็นพี่ชายของเจ้าจริงๆ งั้นเหรอ?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้วกล่าว"ไม่ใช่พี่ชาย แต่เป็นคนสำคัญอย่างมากกับสถานการณ์แคว้นเป่ยจิ้นตอนนี้" เซวียนหยวนเชากล่าวมู่จิ่วซีเลิกคิ้วและไม่ถามอะไรอีกแต่เพียงแค่เอ่ยออกมา : "งั้นเจ้าคิดแล้วหรือยังว่าจะจัดการข้าอย่างไร?""บางคนบอกว่าให้ฆ่าเจ้าทิ้งซะ หลีกเลี่ยงราตรียืดยาว ความฝันยิ่งมากหลาย แต่ว่าข้าอดเสียดายไม่ได้" เซวียนหยวนเชากล่าว (ราตรียืดยาว ความฝันย
ข้าต้องการให้เจ้าช่วยข้าเดิมพัน!" เซวียนหยวนเชาในที่สุดก็พูดจุดประสงค์ออกมา"อะไรนะ?" มู่จิ่วซีชะงัก ต่อให้นางคิดจนหัวแทบแตกก็คงจะคาดไม่ถึง "ให้ข้าช่วยเจ้าเดิมพัน?""ใช่!" เซวียนหยวนเชามานั่งอยู่ตรงด้านหน้าของโต๊ะ "เป็นการเดิมพันครั้งเดียว หากชนะ หลังจากนี้ข้าก็จะเป็นจักรพรรดิของแคว้นเป่ยจิ้น หากแพ้ แคว้นเป่ยจิ้นก็จะเผชิญกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ ข้าไม่อยากให้พสกนิกรต้องมาเดือดร้อนลำบาก ดังนั้นเลยหวังว่าจะสามารถชนะเดิมพันครั้งนี้""เจ้าเดิมพันกับใคร?" มู่จิ่วซีสนใจขึ้นมาทันที เรื่องราวเลยเถิดจนน่าขำ แต่ทว่ายิ่งรู้สึกตื่นเต้น เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารคนนี้ต้องการให้นางช่วยเดิมพัน ฮาๆๆ แล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?"เซวียนหยวนห้าวพี่ชายของข้า" เซวียนหยวนเชากล่าว "ข้าตอนนี้ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร แม้ข้าจะสูงศักดิ์เป็นถึงมกุฎราชกุมาร แต่พลังที่แท้จริงของข้าก็ไม่อาจเทียบเสด็จพี่ของข้าได้ เดิมทีหากข้าสามารถคว้าแคว้นเกาอวิ๋นมาได้และช่วยเหลือข้าสักหน่อย บางทีข้าก็อาจไม่จำเป็นต้องเดิมพัน แต่ตอนนี้เจ้าได้ทำลายความหวังข้าไปทั้งหมดแล้ว เจ้าว่าข้าควรจะโกรธเจ้าไหมล่ะ""แค่กๆๆ ดูเหมือนข้าจะเข้าใจขึ้นมาบ
เซวียนหยวนเชาเกือบจะสะดุดคานประตู จากนั้นเขาก็หันมายิ้มอย่างเจิดจรัสและพูดกับมู่จิ่วซี : "รอสักครู่ เดี๋ยวข้าจะให้คนทำอาหารมื้อดึกมาให้""ขอบพระทัยองค์มกุฎราชกุมาร บางทีหากข้าอารมณ์ดีก็อาจช่วยเจ้าก็ได้" มู่จิ่วซีพูดเสริมอีกประโยค เพื่อหลีกเลี่ยงจะทำห้เขาโมโหอย่างรุนแรงจนไม่อาจรับมือจัดการได้เซวียนหยวนเชาเดินออกไปอย่างเร็ว เขาต้องการสูดอากาศอย่างมาก ส่วนมู่จิ่วซีพอเห็นเขากระโดดพรวดออกไป มุมปากของนางก็ยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นชาในมือพลิกเข็มเงินออกมาพร้อมกับฝังลงในจุดฝังเข็มต่างๆ บนร่างกายอย่างแรง จากนั้นก็เริ่มโคจรลมปราณเฟิงเหยียนหยูเฟย เพื่อขับเคลื่อนกำลังภายในแต่ตอนแรกเห็นได้ชัดว่าไม่เกิดผลลัพธ์อะไร ทว่ามู่จิ่วซีเชื่อมั่นอย่างมากในความมุ่งมั่นของตนเอง หลังจากนางลองพยายามไปมาหลายครั้ง ในที่สุดกำลังภายในก็เริ่มขับเคลื่อนพอกำลังภายในขับเคลื่อน ความรู้สึกอ่อนล้าทั่วตัวก็เริ่มจางหายไป พละกำลังเริ่มค่อยๆ กลับเข้าสู่ร่างกาย รอยยิ้มตรงมุมปากของมู่จิ่วซีค่อยๆ กว้างขึ้นแต่ขั้นตอนทั้งหมดไม่ได้รวดเร็วขนาดนั้น การจะใช้กำลังภายในสยบฤทธิ์ของยาทั้งหมดได้ มู่จิ่วซีคาดว่าคงจะต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั