ณ งานแฟชั่นโชว์
เวลา 18.00 น. "ยินดีด้วยนะมึง โชว์มึงดีมากเลยได้ A แน่นอน" โมเน่เอ่ยกับเวนิสทันทีเมื่อโชว์จบลงพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้แสนสวยเพื่อเป็นการแสดงความยินดีให้แก่เพื่อนรักของเธอ "ขอบใจนะเพื่อนรัก เดียวกูเคลียร์วิชานี้เสร็จวันศุกร์ไปปาร์ตี้กันไหมกูเลี้ยงเอง" เวนิสเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มดีใจที่งานของเธอจบลงด้วยดีและมีเหล่าอาจารย์ต่างชื่นชมโชว์ของเธอ "ไม่ได้ว่ะ กูต้องกลับไทยแล้วแด๊ดดี๊เรียกให้กลับด่วน" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเสียดาย "ทำไมรีบกลับจัง มีปัญหาไรรึป่าว" "แด๊ดดี๊บอกสาขาที่ฝรั่งเศสมีปัญหาเลยจะรีบไปดู" "น่าเสียดายจัง ไม่เป็นไรมึงเดียวค่อยเจอกันที่ไทยกูก็จะกลับสิ้นเดือนนี้" "กรี๊ด จริงหรอ" โมเน่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจสุดขีด โมเน่เองกลับไปก็กลัวเหงาเช่นกันเพราะนอกจากเวนิสที่เป็นเพื่อนกับเธอมาตั้งแต่อนุบาลเธอก็ไม่มีเพื่อนที่ไหน ด้วยนิสัยเอาแต่ใจไม่ยอมใครของพวกเธอและไม่อยากสุงสิงกับใครเลยคบกันมาแค่สองคนมาตลอด "จริงสิยะ" "งั้นคืนนี้เราไปดินเนอร์กันเบาๆ เพื่อเป็นการฉลองที่เราสองคนจบแล้วดีไหม" "ได้ มึงเลือกร้านเลยเดียวกูเคลียร์สถานที่คืนเขาก่อน" เวนิสเอ่ยพร้อมทั้งหันไปมองยังสถานที่จัดงานที่ตอนนี้กำลังเริ่มทยอยเก็บกันแล้ว "ได้จ๊ะเพื่อนรัก" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มแฉ่งก่อนจะเดินไปนั่งเลือกร้านรอเพื่อนรักของเธอ ณ ราชอาณาจักรไทย "ถึงสักทีเมื่อยชะมัด" ร่างบางที่พึ่งเดินลงมาจากเครื่องบินเอ่ยขึ้นพร้อมกับบิดขี้เกียจไปมาเมื่อเหยียบถึงพื้นดินถึงเเม้ว่าเธอจะนั่งชั้นเฟิร์สคลาสมาแต่การเดินทางที่ยาวนานก็ทำให้เธอรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวมากเช่นกัน "คุณหนูครับทางนี้ครับ" สมชายคนขับรถประจำบ้านที่มารอรับโมเน่เอ่ยขึ้นก่อนจะรีบเดินไปช่วยเธอขนสัมภาระ "แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ไม่มารับฉันหรอ? " โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหาพ่อกับแม่ของเธอทันที "พวกคุณท่านยังประชุมไม่เสร็จครับเลยให้ผมมารับคุณหนูแล้วพวกท่านจะไปรอที่บ้าน" สมชายเอ่ยขึ้นขณะเข็นกระเป๋าเดินตามหลังเธอออกไปยังที่จอดรถ "เห้อ~ " ร่างบางที่ได้ยินคำตอบของสมชายก็ถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวังก่อนจะเดินขึ้นรถไป "คุณหนูจะไปที่ไหนก่อนไหมครับ" "ไม่ ฉันอยากกลับบ้านเลย" "ครับ" หลังจากรับคำสั่งจากเจ้านายสมชายก็ออกรถตรงไปยังบ้านทันที ณ บ้านโสภาสิริ "คุณหนูกลับมาแล้วค่ะคุณท่าน" ช้อยแม่บ้านเก่าแก่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นรถที่สมชายขับไปรับคุณหนูกำลังแล่นมาจอดยังหน้าประตูบ้านหลังใหญ่ "โมเน่ของแด๊ดดี๊" ก้อง ก้องเกียรติ โสภาสิริ ที่ได้ยืนรอลูกสาวของตนอยู่ที่ประตูหน้าบ้านเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจเมื่อเห็นว่าลูกสาวสุดที่รักกลับมาบ้านแล้ว "แด๊ดดี๊ หม่ามี๊คิดถึงจังเลยค่ะ" โมเน่ที่เห็นพ่อกับแม่ยืนรออยู่หน้าประตูบ้านก็รีบลงจากรถและเอ่ยขึ้นก่อนจะรีบเดินไปกอดพวกท่านทั้งสอง "หม่ามี๊ก็คิดถึงโมเน่ที่สุดเลยลูก" พลอย คุณหญิง ไพริน โสภาสิริ เอ่ยขึ้นพร้อมกับสวมกอดลูกสาวอันเป็นที่รักทันทีด้วยความคิดถึง "กินอะไรมารึยังลูก" ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นพร้อมกับลูบหัวลูกสาวตัวเองอย่างเอ็นดู "ยังเลยค่ะ โมเน่คิดถึงอาหารฝีมือยายช้อยที่สุดเลยค่ะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทำน้ำเสียงและสายตาออดอ้อนช้อยแม่บ้านเก่าแก่ที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กยามพ่อและแม่ของเธอยุ่งอยู่กับงานจนแทบไม่มีเวลาให้ เธอจึงรักช้อยเหมือนกับคนในครอบครัวเธอคนหนึ่ง "วันนี้ช้อยเตรียมแต่ของโปรดคุณหนูไว้ทั้งนั้นเลยค่ะ" ช้อยเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม เธอเองก็คิดถึงคุณหนูของเธอเช่นกันใครจะว่าคุณหนูของเธอเอาแต่ใจนิสัยเสียแค่ไหนแต่เธอเป็นคนเลี้ยงล้วนรู้ดีกว่าใครว่าจริงๆ แล้วคุณหนูของเธอเป็นคนยังไง "ลูกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ จะได้ลงมาทานข้าวเดียวแด๊ดดี๊มีเรื่องงานจะคุยด้วย" ก้องเกียรติเอ่ยพร้อมกับยิ้มให้ลูกสาวของตนพร้อมกับที่แม่ของเธอคลายอ้อมกอดออก "อะไรกันคะโมเน่พึ่งจะกลับมาเองนะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งทำสีหน้านอยพ่อของเธอที่เธอพึ่งกลับมาก็จะให้ทำงานเสียแล้ว "โอ๋ๆ ก็พรุ่งนี้แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ต้องไปร่วมงานเลี้ยงสมาคมเลยอยากพาโมเน่ไปให้รู้จักนักธุรกิจคนอื่นไงลูก" "แต่ว่า.." "ไม่มีแต่โมเน่ ไปเปลี่ยนชุดนะลูกจะได้มาทานข้าวกัน" ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยจบผู้เป็นแม่ของเธอก็แทรกพูดขึ้นมาก่อน "ก็ได้ค่ะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งทำหน้านอยและเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อที่จะเปลี่ยนชุด - 40 นาทีผ่านไป - "อิ่มจังเลยค่ะ กินข้าวที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่ายายช้อยทำ" โมเน่เอ่ยขึ้นอย่างเอาใจพร้อมกับลูบพุงตัวเองที่พึ่งจะกินข้าวจานที่สามหมดไป นานแล้วที่เธอไม่ได้กินอาหารไทยที่ถูกปากแบบนี้หนำซ้ำยายช้อยยังทำแต่อาหารโปรดของเธอไว้รอทั้งนั้น มีทั้ง แกงเขียวหวานไก่ หมูเค็ม ปูผัดผงกะหรี่ ปลาทับทิมนึ่งมะนาว หมูสร่ง ไก่ทอดเปรี้ยวหวาน จะไม่ให้เธอเติมข้าวก็คงเป็นเรื่องแปลก "ปากหวานไม่เปลี่ยนเลยนะคะคุณหนูเดียวช้อยไปเอาบัวลอยไข่หวานของโปรดคุณหนูมาให้นะคะ" ช้อยที่ได้ยินที่โมเน่ชมก็ยิ้มแก้มแทบปริพร้อมทั้งรีบเดินกลับไปยังหลังครัวเพื่อที่จะเตรียมขนมหวานมาเสิร์ฟ "เอาล่ะมาเข้าเรื่องงานกันเลยนะ" ก้องเกียรติเอ่ยหลังจากที่พึ่งวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ "ค่ะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับตั้งใจฟังที่ผู้เป็นพ่อกำลังจะพูด "ที่แด๊ดดี๊บอกว่าเดือนหน้าแด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ต้องไปดูงานที่ฝรั่งเศสอาจจะเลื่อนไปเร็วขึ้นเพราะทางนั้นค่อนข้างมีปัญหา" "แต่โมเน่พึ่งกลับมาเองนะคะจะทิ้งโมเน่ให้อยู่คนเดียวหรอลูกน้องแด๊ดดี๊เยอะแยะก็ให้ทำแทนไปสิ" "มันเป็นปัญหาที่แด๊ดดี๊ต้องไปจัดการเองแด๊ดดี๊จะสั่งงานไว้ให้โมเน่งานหนึ่งได้ไหมลูกถ้าโมเน่ทำได้แด๊ดดี๊มีรางวัลใหญ่ให้" "งานอะไรหรอคะ" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและแววตาเป็นประกายเมื่อได้ยินคำว่ารางวัลใหญ่ "ตอนนี้โรมแรมของเราคู่แข่งค่อนข้างที่จะเยอะถึงโรงแรมเราจะเป็นโรงแรมเก่าแก่และมีฐานลูกค้าอยู่แล้วแต่เดียวนี้โรมแรมใหม่ๆ ที่พึ่งเปิดตัวก็ดึงลูกค้าเราไปมากเช่นกัน" ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จริงอยู่ว่าโรงแรมของเขาเป็นโรงแรมหรูเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมานานนับรุ่นต่อรุ่นแต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็ทำให้เกินการเเข่งขันมากขึ้นด้วยเช่นกัน "แล้วทำไมเราไม่จ้างพวกดาราดังๆ หรืออินฟลูเอนเซอร์ดังๆ มารีวิวให้ล่ะคะเงินจ้างแค่นั้นไม่สะเทือนขนหน้าแข้งเราเลยด้วยซ้ำ" "วิธีแบบนั้นโรงแรมไหนเขาก็ทำกับนะจ๊ะลูกโรงแรมเราก็เคยทำ" คุณหญิงไพรินเอ่ย "แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงดีล่ะคะ" "แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ได้ข่าวมาว่าบริษัท GR ที่เป็นบริษัทที่ส่งออกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผลิตไวน์หรูระดับโลกอย่างไวน์ le raisin blanc มาเปิดบริษัทลูกที่ไทยและจะมีงานเปิดบริษัทอาทิตย์หน้าถ้าเราดิวกับเขาได้แล้วให้เขาส่งไวน์ le raisin blanc ที่ผลิตมาจำนวนจำกันต่อปีให้แค่โรงแรมของเรา..." ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นก่อนจะหยุดและหันไปมองทางลูกสาวของตนว่าเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อไหม "โรงแรมของเราก็จะเป็นที่จับตามองจากบรรดาเหล่าเศรษฐีจากทั่วโลกมากขึ้น" โมเน่เอ่ยขึ้นอย่างเข้าใจความหมายของผู้เป็นพ่อ แต่เดิมฐานลูกค้าที่มาพักโรงแรมของที่บ้านเธอส่วนมากมักจะเป็นคนมีเงินและคนใหญ่คนโตเพราะด้วยการตกแต่งการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างทำให้ห้องพักมีราคาที่ค่อนข้างสูงแต่ถ้ายิ่งได้บริษัท GR ส่งไวน์หรูอย่าง le raisin blanc ที่ผลิตปีหนึ่งไม่ถึงร้อยขวดให้โรงแรมเธอที่มีสาขาอยู่แทบจะทั่วโลกก็จะยิ่งเรียกเหล่าบรรดาเศรษฐีได้มากขึ้นอย่างไม่ยากเลย "ใช่จ๊ะ เพราะอย่างงั้นหม่ามี๊กับแด๊ดดี๊เลยอย่างให้ลูกดิวกับมิสเตอร์ดราก้อนให้สำเสร็จ" "มิสเตอร์ดราก้อน" โมเน่เอ่ยทวนชื่ออีกครั้งอย่างนึกตะหงิดใจ "ใช่จ๊ะ มิสเตอร์ดราก้อนเป็นลูกชายคนโตของบริษัท GR อายุน่าจะมากกว่าลูกสัก 4 - 5 ปี " "ถ้าลูกปิดดิวนี้ได้แด๊ดดี๊เตรียมรางวัลไว้ให้ลูกสาวคนสวยแล้วหรือโมเน่จะเลือกเองก็ได้" "แด๊ดดี๊พูดแล้วนะคะ แล้วงานที่โรงแรมล่ะคะแด๊ดดี๊ก็รู้ว่าโมเน่โง่จะตายจบมาได้เพราะเงินแด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ทั้งนั้น" "ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกระหว่างที่แด๊ดดี๊ไม่อยู่จะให้สิธากลับมาดูแลแทนให้ก่อน โมเน่เเค่เข้าไปเซ็นเอกสารเล็กๆ น้อยๆ ก็พอ" ก้องเกียรติเอ่ยถึงผู้ช่วยคนสนิทที่ตอนนี้เขาส่งไปดูแลสาขาที่ดูไบ "หรือโมเน่จะหาลูกเขยเก่งๆ ฉลาดๆ มาให้หม่ามี๊กับแด๊ดดี๊ก็ได้นะลูก" "โมเน่จะไปหาจากไหนล่ะคะ สู้ให้โมเน่หาแฟนให้โมเน่เอาเงินไปจ้างคนที่เก่งๆ มาบริหารแทนดีกว่า" "มิสเตอร์ดราก้อนไงหม่ามี๊เคยเจอเขาครั้งนึงหล่อมากเลยนะลูกข่าวเสียหายก็ไม่เคยมี เดียวอาทิตย์หน้าตอนงานเปิดบริษัทของเขาที่ไทยหม่ามี๊พาไปแนะนำ" "แด๊ดดี๊ก็ไม่ติดนะถ้าเป็นมิสเตอร์ดราก้อนแด๊ดดี๊คงจะเบาใจเรื่องงานขึ้นเยอะเลย ฮ่าๆ " ก้องเกียรติเอ่ยอย่างหยอกล้อกับลูกสาวของตน "แด๊ดดีอะ แค่บริหารงานเองเดียวโมเน่จะทำให้ดู" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับทำหน้าบึ้งตึงก่อนจะตักขนมหวานที่แม่บ้านพึ่งเอามาเสิร์ฟให้เขาปากMonet Partหลังจากที่ฉันกินข้าวเย็นเสร็จก็ขอตัวขึ้นมาบนห้องทันทีเพราะรู้เหมือนเพลียและรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวจากการเดินทาง"ดราก้อนงั้นหรอ""คงไม่ใช่หรอกมั้ง" ฉันที่ล้มตัวบนที่นอนเอ่ยพึมพำกับตัวเองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นกดโทรไปหายัยเวนิส(ว่าไงยะถึงแล้วหรอ)"ถึงได้สักพักแล้ว มึงงงง" (เป็นไรทำไมทำเสียงอย่างงั้นยะ)"เมื่อกี้แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊กูให้งานแรกกูทำคือดีลกับบริษัท GR แล้วคนที่กูต้องไปดิวด้วยคือผู้บริหารบริษัทที่ชื่อมิสเตอร์ดราก้อน"(แล้วไงต่อยะ)"ก็คนที่กูไปขอซื้อเขากินก็ซื้อดราก้อนมึงว่าจะเป็นคนเดียวกันไหม"(โอ้ย อีนี่ก็คิดมากคนที่มึงไปขอซื้อนั้นเขาเป็นบาร์เทนเดอร์อันนี้เขาเป็นเจ้าของบริษัทเลยนะยะ) "แต่มึงว่าจะไม่บังเอิญไปหน่อยหรอวะ"(แล้วคนชื่อดราก้อนมันมีคนเดียวในโลกรึไงกูไปนอนต่อดีกว่าแค่นี้แหละ)ตู๊ดๆๆ"คงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง" ฉันเอ่ยหลังจากยัยเวนิสวางสายไป เเต่ก็จริงอย่างที่ยังเวนิสบอกมันคงไม่บังเอิญโลกกลมขนาดที่บาร์เทนเดอร์จะกลายมาเป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่โตขนาดนั้นหรอกMonet End- วันต่อมา -ก๊อกๆ"คุณหนูเสร็จรึยังค่ะคุณผู้หญิงให้มาตามค่ะ""เสร็จแล้วค่ะ ช้อยบอกหม
"ไง ดีใจจังที่จำชื่อผัวได้" เขาเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉยดราก้อนเอ่ยจบก็สาวเท้าเดินมาหาเธอขณะที่เธอเองก็เดินถอยหลังไปติดกับประตูห้องน้ำห้องที่เธอพึ่งจะเดินออกมาด้วยใบหน้าที่แสดงสีหน้าหวาดกลัวได้อย่างชัดเจน"อย่ามาพูดจามั่วๆ เรื่องคืนนั้นมันก็แค่ one night stand และอีกอย่างคืนนั้นฉันก็เมามากจนจำอะไรไม่ได้ด้วย" ร่างบางเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งพยายามผลักอกแกร่งของเขาออกไปแต่ก็ไม่เป็นผล"หึ ถ้าคืนนั้นเธอจำไม่ได้งั้นฉันจะเตือนความจำเธอให้เอง" ร่างแกร่งเค้นหัวเราะออกมาจากลำคอพร้อมกับใช้มือหนาจับคางมนของคนตัวเล็กให้เชิดขึ้นมาสบสายตากับเขา"อย่านะไอ.. อุ้ปป" ยังไม่ทันที่โมเน่จะเอ่ยจบก็โดนร่างแกร่งประกบปากจูบอย่างเร้าร้อนสะก่อนพร้อมกับใช้มือหนารั้งเอวบางเข้ามาแนบตัว"อืมม ~ อ่อยอะ (ปล่อยนะ) " โมเน่ร้องทวงออกมาจากในลำคอทันทีเมื่อถูกมือซุกซนของร่างแกร่งเลื่อยมาบีบขยำหน้าอกอวบอิ่มของเอ่ยอย่างถือวิสาสะก๊อกๆ"ว่า" ดราก้อนที่ถูกลูกน้องที่อยู่หน้าห้องเคาะประตูเรียกขัดจังหวะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์"แย่แล้วครับ ลูกน้องที่โกดังโทรมาบอกว่าสินค้าของเรามาไม่ทันกำหนดครับนาย" มาตินเอ่ยขึ้นจากทางด้านนอกประต
- 3 วันต่อมา -ณ โรงแรม Moonskyทันทีที่ร่างอรชรของหญิงสาวเดินผ่านประตูเข้ามาในโรงแรมพนักงานทุกคนที่กำลังทำงานอยู่ก็รีบยืนขึ้นทำความเคารพเธอทันทีนี้ก็ผ่านมา 3 วันแล้วที่เธอเริ่มฝึกงานและมาเรียนรู้งานที่โรงแรมโดยมีสาวิตรีเลขาของพ่อเธอช่วยสอน"แด๊ดดี๊อยู่ไหม? " โมเน่ที่พึ่งขึ้นลิฟท์มาถึงชั้นบนสุดของโรงแรมเอ่ยขึ้นถามสาวิตรีที่นั่งอยู่หน้าห้องของผู้เป็นพ่อ"อยู่ค่ะคุณโมเน่" หลังจากสาวิตรีเอ่ยจบร่างบางก็เคาะประตูแล้วรีบเปิดเข้าไปทันทีก๊อกๆ"แด๊ดดี๊ขาาา""มาแล้วหรอลูก" ก้องเกียรติที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ของผู้บริหารเอ่ยขึ้นแต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองลูกสาวที่กำลังเดินเข้ามาแต่กับเอาแต่จ้องอ่านบางอย่างในไอแพดด้วยใบหน้าเคร่งเครียด"เป็นอะไรคะแด๊ดดี๊ทำไมหน้าเครียดเชียว" โมเน่ที่เดินมายืนข้างผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นพร้อมกับชะโงกหน้าดูไอแพดของผู้เป็นพ่อ"โรงแรม Mareena สื่อแววจับมือกับบริษัทนำเขาเครื่องดื่มแอลกอฮอลยักษ์ใหญ่ GR " โมเน่อ่านข่าวที่ขึ้นพลาดหัวข่าวว่าโรมแรมดังของอังกฤษที่พึ่งมาเปิดสาขาที่ไทยสนใจร่วมมือกับบริษัท GR พร้อมกับมีรูปผู้บริหารสาวของโรมแรมกำลังนั่งคุยอยู่กับดราก้อน"นี้แค่ข่าวออกยังไ
- บนรถ -"เห้อ~ " หลังจากที่รถตู้คันหรูเคลื่อนตัวออกจากบริษัท GR ได้ไม่นานก้องเกียรติก็ถอนหายใจออกมาทันทีอย่างคนเหนื่อยล้า"แด๊ดดี๊อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ" โมเน่ที่เห็นสีหน้าที่ดูตึงเครียดและเหนื่อยล้าของผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้น"ถ้าโรงแรม Mareena ได้ GR ไปโรงแรมเราแย่แน่""งั้นรอบนี้โมเน่ขอเป็นคนทำข้อเสนอไปยื่นเองได้ไหมคะ""แน่ใจหรอลูก" ก้องเกียรติที่ได้ยินที่ลูกสาวเอ่ยก็หันไปมองหน้าเธอและเอ่ยถาม"แน่ใจคะเชื่อใจโมเน่นะคะ ยิ้มได้แล้ว" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มให้ผู้เป็นพ่อแต่ภายในใจเธอกับสั่นกลัวเพราะเธอรู้ดีว่าสิ่งที่ดราก้อนต้องการคืออะไร- วันต่อมา -ณ บริษัท GRร่างอรชรที่พึ่งขับรถยุโรปคันหรูมาถึงยังบริษัทของดราก้อนได้แต่สูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะสวมแว่นตาสีดำจากแบรนด์หรูและก้าวเท้าเดินลงจากรถเข้าไปยังข้างในบริษัทอย่างพยายามซ่อนความกลัวไว้ในใบหน้าที่ดูเย่อหยิ่ง"สวัสดีค่ะมาพบใครคะ" ทันทีที่เธอเดินผ่านพ้นประตูบริษัทเสียงพนักงานต้อนรับก็เอ่ยขึ้น"มิสเตอร์ดราก้อน" โมเน่เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบพร้อมทั้งถอดแว่นตาดำของแบรนด์หรูออก"เออ..คุณโมเน่ได้นัดไว้รึป่าวคะ? " "ไม่ค่ะ""ปกติจะเจอท่านประธานต้
มือหนารวบข้อมือทั้งสองข้างของคนตัวเล็กไปไว้ด้านหลังพร้อมกับไล่ริมฝีปากหนาดูดเม้นตามตัวของเธอจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำๆ"เจ็บ" โมเน่เอ่ยออกมาเสียงสั่นเมื่อถูกชายหนุ่มมอบสัมผัสที่หยาบโลนเหมือนกับสัตว์ร้ายให้แก่เธอ"หุปปาก แล้วจับมันใส่เข้าไปสะ" ดราก้อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกดต่ำพร้อมกับถอดนิ้วของเขาออกจากรูสวาทงามของเธอก่อนที่จะมองไปยังแก่นกายของเขาที่ตอนนี้มันขยายใหญ่เต็มขนาดให้เธอเอาเข้าไปร่างบางที่ได้ยินที่เขาสั่งก็ได้แต่เก็บความเคียดเเค้นไว้ในใจก่อนจะใช้มือเรียวจับแก่นกายมหึมาของเขามาจ่อที่ยังบริเวณรูสวาทของตัวเองพร้อมกับค่อยๆ นั่งลงไป"อื้อ~ เจ็บ" โมเน่ร้องออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ ไหลเมื่อเธอพยายามดันแก่นกายแต่เข้ามาได้แค่หัวมันกับเจ็บมาจนเหมือนตรงส่วนนั้นของเธอมันจะฉีก"อย่ามาสำอ่อยทำยังกับไม่เคย" คนใจร้ายเอ่ยด้วยถ้อยคำที่ร้ายกาจพร้อมกับมองดูแก่นกายของเขาที่เข้าไปยังรูสวาทของเธอได้แค่หัวเท่านั้นก๊อกๆ"นายครับมีสายด่วนจากนายท่านครับ" มาตินเอ่ยขึ้นพร้อมกับเคาะประตู"ให้ตายเถอะ" ดราก้อนสบดออกมาอย่างหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะพร้อมกับดันตัวร่างบางที่นั่งคล่อมเขาอยู่ให้นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานข
ทันทีที่ร่างสูงเอ่ยจบก็ใช้มือหนากระชากข้อเท้าของร่างบางที่ขยับหนีไปจนติดหัวเตียงลงมาพร้อมกับรีบขึ้นไปคล่อมตัวเธอไว้ทันที"นะ..นายจะทำอะไร" โมเน่เอ่ยถามเสียงสั่นเมื่อถูกคนตัวสูงใช้เข็มขัดแบรนด์หรูมามัดแขนทั้งสองข้างของเธอไว้เหนือศรีษะจนทำให้เธอไม่สามารถขัดขืนได้มาเฟียหนุ่มรีบจัดการถอดอาภรณ์ช่วงล่างตัวเองออกเผยให้เห็นแก่นกายมหึมาที่มันดูใหญ่เกินขนาดคนเอเซีย"ดะ..เดียวก่อน อื้ม~ "แคว้ก!ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยห้ามเขาจนจบประโยคคนใจร้ายก็จัดการฉีกกระชากชุดนอนของเธอจนขาดริ้วเผยให้เห็นเรือนร่างขาวอมชมพูที่ตอนนี้มีแค่เสื้อชั้นในและแพตตี้ตัวจิ๋วเท่านั้นมาเฟียหนุ่มไล่สายตามองคนใต้ร่างของเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างพึ่งพอใจที่ร่างกายของเธอยังคงมีรอยแดงเป็นจ้ำๆ จากฝีมือของเขาเมื่อกลางวันอยู่ก่อนจะโน้มหน้าถ้าลงไปดูดเม้นซอกคอขาวไล่ลงมายังเนินอกอวบอิ่ม"อะ..เจ็บ" ร่างบางร้องออกมาด้วยสีหน้าบิดเบียวเมื่อถูกมือหนากระชากเสื้อชั้นในของเธอออกและฝังคมเคี้ยวไว้กับเต้านมอวบจนเป็นรอยเคี้ยวก่อนจะลากลิ้นสากเลื่อนลงต่ำมายังหน้าท้องแบนราบและเลื่อนต่ำลงใต้สะดือไปจนถึงกลีบกุหลาบงามที่ถูกปิดไว้ด้วยแพตตี้ตัวจิ๋ว"อ
- เช้าวันต่อมา - เวลา 7.00 น. แสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้ารอดส่องเข้ามาผ่านกระจกบานหรูกระทบกับใบหน้าของหญิงสาวที่หลับไหลอยู่ด้วยความเหนื่อยล้าจากเรื่องเมื่อคืนเหมือนกับเป็นการช่วยปลุกให้เธอตื่นจากห้วงนิทรา "อื้ม~ เจ็บ" ทันทีที่เธอรู้สึกตัวตื่นความเจ็บปวดก็แล่นเข้ามาทันทีโดยเฉพาะใจกลางความเป็นสาวก่อนที่เธอจะค่อยๆ ลืมตาตื่นมาพบกับว่าเธอกำลังอยู่ในอ้อมกอดของชายใจร้ายที่ยังหลับไหลอยู่ ก่อนที่เหตุการณ์เมื่อคืนจะหลั่งเข้ามาในความทรงจำของเธออีกครั้ง ร่างบางมองใบหน้าคมคายนั้นอยู่พักใหญ่ด้วยความคับแค้นใจก่อนจะก้มลงมองดูร่างกายของตัวเองที่เลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำรักของคนใจร้ายและคราบเลือดของเธอที่เกิดจากการฉีกขาดของจุดสงวน "นอนนิ่งๆ ถ้าไม่อยากตาย" ร่างแกร่งเอ่ยขึ้นเมื่อร่างบางขยับตัวพร้อมทั้งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น "ปล่อย! นายได้ที่นายต้องการแล้วก็กลับไปสะแล้วก็อย่างลืมที่สัญญากับฉันไว้ด้วย" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยความโกรธพร้อมทั้งดันตัวเองออกจากอ้อมกอดแกร่งของเขาก่อนจะฝืนลุกขึ้นนั่ง "ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าจะสัญญากับเธอ" ดราก้อนที่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองร่างบางก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเรียบอย่างไม่รู้สึกรู
- เช้าวันต่อมา -ณ โรงแรม Moonskyก๊อกๆชายวัยกลางคนที่กำลังตรวจเอกสารด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่นั้นก็เอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูของเลขาหน้าห้อง"เข้ามา""ทางบริษัท GR ติดต่อมาขอเข้าพบตอน 9 โมงค่ะ" สาวิตรีที่ได้ยินคำอนุญาติจากผู้เป็นเจ้านายก็เปิดประตูออกมาพร้อมทั้งเอ่ยขึ้น"จริงหรอ! บอกไปว่าทางเราสะดวกและยินดีมาก" ก้องเกียรติที่ได้ยินที่เลขาของตนบอกก็วางเอกสารลงเเละเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น"แล้วประชุมช่วงเช้า.." สาวิตรีเอ่ยขึ้นอย่างมีสีหน้าลำบากใจเพราะว่าช่วงเช้าของวันนี้ก็มีประชุมที่สำคัญมากเช่นกัน"เลื่อนออกก่อนสักชั่วโมงแล้วก็โทรตามโมเน่ให้มาให้ทันก่อน 9 โมง""รับทราบค่ะ" หลังจากที่ได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนายแล้วเธอก็เอ่ยขึ้นก่อนจะหันหลังกลับไปทำตามที่ก้องเกียรติสั่ง- 15 นาทีผ่านไป -ก๊อกๆแกร็ก~"อ้าว คุณหญิงไปส่งลูกค้าเสร็จแล้วหรอผมกำลังจะโทรไปบอกข่าวดีเลย" ก้องเกียรติที่กำลังจัดเตรียมเอกสารอยู่อย่างอารมณ์ดีก็เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นภรรยาของตนเปิดประตูเข้ามาในห้อง"เสร็จแล้วค่ะแล้วก็นี่ฉันซื้อวุ้นมะพร้าวร้านโปรดคุณมาให้ด้วย" คุณหญิงไพรรินที่พึ่งไปส่งลูกค้าของตนที่สนามบินเ
- เช้าวันใหม่ -คลืด คลืด~มือเรียวของร่างบางที่กำลังงัวเงียควานหาโทรศัพท์ที่ส่งเสียงร้องปลุกเธอให้ตื่นในยามสายของวัน"ว่าไงคะหม่ามี๊"( ในข่าวหมายความว่ายังไง ทำไมมีอะไรไม่บอกหม่ามี๊กับแด๊ดดี๊! ) คำถามของผู้เป็นแม่และน้ำเสียงที่ดูน่ากลัวอย่างที่ท่านไม่เคยพูดแบบนี้กับเธอดังขึ้นทำเอาร่างบางที่กำลังงัวเงียอยู่ลืมตาเบิกกว้างและดีดตัวลุกขึ้นมาด้วยความตกใจ"ข่าวอะไรคะ? " โมเน่เอ่ยถามผู้เป็นเเม่เสียงแผ่วอย่างมึนงงว่าเธอมีข่าวอะไร( ข่าวลูกกับมิสเตอร์ดราก้อนไงทำไมไม่พูดกับหม่ามี๊กับแด๊ดดี๊ตรงๆ )"ป่าวนะคะหม่ามี๊ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดกันแน่ๆ " โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบไอแพดของตัวเองที่วางอยู่ตรงหัวนอนมาเปิดดูข่าวของวันนี้ทันทีพร้อมกับตาเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าตอนนี้มีแต่ข่าวของเธอว่อนอินเตอร์เน๊ตไปหมดข่าวใหญ่ช็อควงการธุรกิจ หนุ่มนักธุรกิจสุดฮ็อตซุ่มคบสาวไฮโซทายาทโรงแรมดังถึงกับควงกันมาออกงานสังคมแต่เรื่องไม่จบเพียงเท่านี้เพราะดันไปปะทะกันเข้ากับหนุ่มไฮโซที่เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ไม่นาน!!รูปภาพ ( ตอนเดินควงแขนเข้างานด้วยกัน )รูปภาพ ( ตอนดราก้อนกับซีโน่ทะเลาะกัน )คลิปวิดีโอ ( คลิปวิดีโอตอนดราก
ร่างบางกรีดร้องออกมาเสียงหลงเมื่อถูกมือหนาของร่างแกร่งกระชากเสื้อผ้าของเธอจนขาดวิ่นจนเหลือแต่เพียงบราปีกนกและแพตตี้ตัวจิ๋วพร้อมทั้งพยายามจะดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธนาการของเขาแต่ก็ไม่เป็นผล“เหอะ ทีกับฉันทำเป็นดีดดิ้น!! ” ดราก้อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกดต่ำอย่างพยายามข่มโทสะไว้ไม่ให้เพิ่มมากขึ้นทั้งๆ ที่เขาแทบจะข่มอารมณ์ไม่ไหวจนอยากฆ่าชายหนุ่มคนที่เธอพุดคุยด้วยให้ตายคามือเสียด้วยซ้ำ“อื้อ~ ปล่อยนะ” โมเน่เอ่ยและพยายามหันหน้าหนีเมื่อมาเฟียหนุ่มโน้มหน้าเข้ามาดูดเม้นคอระหงของเธอจนเกิดรอยแดงมือหนาของดราก้อนเลื่อนมาบีบขยำหน้าอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมตามจังหวะการหายใจอย่างแรงจนเหมือนมันจะแหลกคามือก่อนที่จะกระชากบราปีกนกของเธอออก"เจ็บ! " โมเน่เอ่ยออกมาเดียวสีหน้าบิดเบี้ยวมือเรียวพยายามดันใบหน้าของดราก้อนที่กำลังดูดกัดยอดปถุมถันของเธออยู่อย่างแรงแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะยิ่งเธอดันเขาออกเท่าไหร่เขาก็ดูดดึงยอดปทุมถันเธอแรงเท่านั้น“อ้าขาออก!! ” ดราก้อนที่พึ่งผละออกจากเต้านมอวบอิ่มก็ตวาดขึ้นเสียงดัง"...." คนตัวเล็กไม่ได้เอ่ยตอบแต่กับหนีบขาตัวเองไว้แน่นอย่างพยายามขัดขืนมือแกร่งของดราก้อนจับขาเธอตั้งฉากขึ้นพร้
"ได้สิงั้นไปทางนั้นกันไหม" ซีโน่เอ่ยพร้อมกับชี้มือไปทางสวนด้านหลังของงานที่ไม่ค่อยมีผู้คนมากนัก"ได้ค่ะ ดูเงียบดี" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับหยิบแก้วไวน์ติดมือไปด้วยก่อนจะเดินตามร่างสูงของซีโน่ไปโดยที่มีเฟรดเดินตามไม่ห่าง"แล้วนี้คุณลุงไม่มาด้วยหรอคะ" โมเน่เอ่ยขึ้นเมื่อทิ้งสะโพกยังม้านั่งตรงข้ามกับร่างสูง"มาสิ โดยพวกหุ้นส่วนลากไปดื่มตั้งแต่เข้างานแล้ว""เข้าทางคุณลุงสินะคะ""ฮ่าๆ แล้วคุณอากับคุณน้ายังไม่กลับหรอ? ""ยังคะ เห็นหม่ามี๊ไลน์มาบอกว่าทางนั้นมีปัญหานิดหน่อยอาจจะกลับมาช้า""งั้นหรอ ถ้าเรื่องงานมีปัญหาอะไรบอกพี่ได้นะเดียวพี่ไปช่วย""ได้เลยค่ะเดียวโมเน่จะทักหาพี่ซีโน่คนแรกเลย ชนแก้วกันดีกว่าค่ะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งชูแก้วไวน์ในมือขึ้นมาด้านหน้าชายหนุ่มเคร้ง~เสียงชนแก้วไวน์ทั้งสองแก้วประสานเสียงกันก่อนที่ทั้งคู่จะพากับดื่มด่ำกับรสชาติหวานอมฝาดของไวน์ราคาแพงพร้อมกับต่างชวนกันพูดคุยเรื่องต่างๆ อย่างสนุกสนานโดยที่มีเฟรดยืนอยู่ด้านหลังของหญิงสาวไม่ห่าง"เดียวพี่ไปเอาเครื่องดื่มมาเพิ่มให้นะ" ซีโน่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าไวน์ที่เขาและเธอหยิบมาหมดแล้ว"ค่ะ" โมเน่เอ่ยพร้อมกับยิ้มหวานตอบกลับช
"ได้ค่ะ คุณโมเน่จะเอาไปหัดทำขนมหรอคะ" สาวิตรีเอ่ยตอบหญิงสาวพร้อมทั้งรีบนำของที่เธอใช้ให้ไปซื้อออกมาให้ทันที"ชะ..ใช่ แล้วนี้เชฟมารึยัง" ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักอย่างไม่เต็มเสียงก็จะเอ่ยถามถึงเชฟที่จะสอนเธอทำอาหาร"เชฟมารอคุณโมเน่แต่เช้าแล้วค่ะ""งั้นเดียวฉันลงไป" เอ่ยจบหญิงสาวก็เดินลงไปที่ห่องทำอาหารของโรงแรมทันที- หลายชั่วโมงผ่านไป -ติ๊ง~เสียงของเตาอบขนมดังขึ้นพร้อมทั้งร่างบางที่เปิดฝาเตาเเละนำขนมที่เธอพึ่งอบเสร็จมาวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าสภาพขนมที่เธอพึ่งทำนั้นดูน่าตาไม่ค่อยจะดีนัก"ทำไมมันออกมาดูไม่น่ากินเลยค่ะ" "คุณโมเน่พึ่งทำครั้งแรกเดียวเราลองใหม่อีกทีก็ได้ครับ" เชฟที่เป็นคนสอนเธอเอ่ยขึ้นอย่างให้กำลังใจพร้อมทั้งสอนเธอทำขนมอีกรอบและอีกรอบจนเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมงเวลา 14.00 น."สวยมากครับคุณโมเน่ต่อไปก็เหลือแต่รสชาติ" เชฟเอ่ยชมเธอขึ้นเมื่อเห็นว่าหญิงสาวแต่งหน้าขนมเค้กเสร็จและยังดูดีต่างจากตอนแรกอีกด้วย ก่อนที่เขานั้นจะใช้มีดหันเค้กออกมาดูเนื้อข้างในและใช้ส้อมตักเค้กเข้าปาก"เป็นไงค่ะอร่อยไหม" หญิงสาวยิ้มและเอ่ยขึ้นด้วยแววตาคาดหวัง"อร่อยมากครับกลิ่นว
"คุณโมเน่มีอะไรจะให้ดิฉันทำหรอคะ? " สาวิตรีเอ่ยถามเมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานของหญิงสาว"วอลนัททำเมนูอะไรได้บ้าง" โมเน่เอ่ยถามขณะกำลังหย่อนสะโพกลงที่เก้าอี้ทำงานของเธอ"วอลนัทหรอคะ? " สาวิตรีเอ่ยทวนอีกครั้งอย่างแปลกใจเมื่ออยู่ดีๆ ก็ถูกถามถึงเรื่องวอลนัทไม่ใช่เรื่องงาน"....""คงจะเป็นพวกขนมมั้งคะดิฉันไม่ค่อยทราบคุณโมเน่จะให้ไปตามเชฟมาให้ไหมคะ""อืม ไปตามมาให้ทีนะ""ค่ะรอสักครู่นะคะ" สาวิตรีเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งกำลังจะเดินออกไปจากห้องแต่ก็ถูกหญิงสาวเรียกไว้ก่อน"เดียวก่อน""คะ? ""เธอช่วยไปหาซื้อผงวอลนัทสำหรับทำอาหารมาให้ฉันหน่อยแล้วอย่าให้ใครรู้" โมเน่เอ่ยพร้อมกับหยิบกระเป๋าตังแบรนด์หรูออกมาก่อนจะหยิบเงินจำนวนหนึ่งที่ดูเยอะกว่าค่าวอลนัทวางไว้บนโต๊ะทำงานของเธอ"ได้ค่ะ คุณโมเน่ต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมคะ" สาวิตรีที่มองเจ้านายของตนอย่างไม่ค่อยเข้าใจนักก่อนจะเดินกลับมายังที่โต๊ะทำงานของผู้เป็นนายอีกครั้งและเอ่ยขึ้นพร้อมหยิบเงินจำนวนนั้นไป"ไม่มีแล้วไปเถอะ" หลังจากโมเน่เอ่ยจบสาวิตรีก็ออกไปทันทีหลังจากที่สาวิตรีออกไปได้ไม่นานนักก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นก๊อกๆ"เชฟมาแล้วค่ะ" สาวิตรีที่เคาะประตูอยู่
"ผมล้อเล่นอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ" ฟอลคอร์เอ่ยอย่างหยอกล้อพร้อมกับยิ้มออกมาซึ่งต่างจากสีหน้าของผู้เป็นพี่โดยสิ้นเชิง"อย่ายุ่งกับยัยนั้น" ดราก้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกดต่ำ"ว้าว ดูหวงจังเลยนะไม่สมกับเป็นพี่เลยแต่พี่รู้ใช่ไหมว่าบ้านเรามีจุดอ่อนไม่ได้โดยเฉพาะพี่""กูจัดการคนของกูเองได้""ก็ขอให้เป็นแบบนั้นเพราะดูคนของพี่จะพยศน่าดู" ฟอลคอร์เอ่ยขึ้นก่อนจะล้วงเอาบุหรี่ราคาแพงในกระเป๋าเสื้อของตนออกมาก่อนจะอัดนิโคตินเข้าเต็มปอดแล้วค่อยๆ พ่นควันขาวขุนออกมา"ถ้าจะมาพูดแต่เรื่องไร้สาระก็กลับไปสะกูจะทำงาน""ก็ว่าจะกลับแล้วล่ะป่านี้เด็กๆ ที่ผมเลี้ยงไว้คงคิดถึงผมแย่""....." ดราก้อนไม่ได้เอ่ยตอบอะไรได้แต่มองดูท่าทางสบายๆ ของน้องชายของเขานิ่งๆ จนฟอลคอร์สูบบุหรี่จนหมดม้วนแล้วลุกขึ้นเตรียมตัวที่จะออกจากห้อง"อ่อ พ่อฝากบอกว่าจะไปรอที่ฝรั่งเศสนะอย่านานล่ะ" ขณะที่ผู้เป็นน้องเดินไปถึงหน้าประตูห้องก็หันกลับมามองผู้เป็นพี่พร้อมกับเอ่ยทิ้งท้ายเรื่องที่พ่อของตนฝากมาและเปิดประตูจากไป"เห้อ~ " หลังจากผู้เป็นน้องเดินจากไปมาเฟียหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาทันทีอย่างเหนื่อยล้าพร้อมกับเองหลังพิงพนักเก้าอี้ร่างสูงหลับตาลงช้าๆ และค
"เธอสินะที่ชื่อโมเน่" ชายหนุ่มที่หน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับดราก้อนเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้เต็มความสูงและเดินเข้ามาหาเธอ"นี้นายเป็นใคร ถอยไปนะ" โมเน่เอ่ยขึ้นเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาประชิดตัวเธอ"ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก ไม่ต้องกลัว" เขาเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งฝุดยิ้มร้ายที่มุมปากและมองร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้า"...." "สวยดีหนิถึงว่า...""ว้าย~ มีอะไรกันรึป่าวคะคุณฟอลคอร์" ยังไม่ทันที่ฟอลคอร์จะเอ่ยจบมะลิที่พึ่งเดินออกมาจากห้องอาหารเอ่ยขึ้นทันทีอย่างตกใจกลัวว่าทั้งคู่จะมีปัญหากัน"ฟอลคอร์? " โมเน่เอ่ยทวนชื่อคนตรงหน้าอีกครั้ง"นี่คุณฟอลคอร์เป็นน้องชายของนายค่ะ" มะลิเอ่ยแนะนำชายหนุ่มให้กับว่าที่นายหญิงของเธอ"ไม่มีอะไรหรอกไปทำงานของเธอต่อเถอะ" ฟอลคอร์เอ่ยพร้อมกับทำมือไล่ให้สาวใช้ออกไปให้พ้น"ค่ะ" มะลิที่เห็นท่าทางของฟอล์คอร์ก็รีบก้มหน้าก้มตาและรีบเดินออกไปทันที"น้องชายของไอเลวนั้นหรอ เหอะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับกอดอกและเชิดหน้าขึ้นก่อนจะเดินไปนั่งไขว่ห้างยังโซฟาหรูกลางห้องรับแขกร่างสูงมองการกระทำของว่าที่พี่สะใภ้ของตัวเองก่อนจะเดินตามหลังเธอไปนั่งโซฟาตรงข้ามกับเธอพร้อมกับเอ่ยขึ้น"ปากร้ายใช้ได้เล
"โอ้ย ปล่อยนะฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของนายนะที่นายจะลากไปตรงไหนก็ได้ตามใจตัวเอง" ร่างบางที่ถูกคนตัวสูงลากออกมาเอ่ยโวยวายขึ้นพร้อมทั้งสะบัดแขนของตัวเองออกอย่างไม่พอใจ"...." คนตัวสูงได้แต่มองท่าทางโวยวายอย่างเอาแต่ใจของคนตัวเล็กที่เริ่มจะเมาแล้วเพราะว่าไวน์ที่นำมาเลี้ยงต้อนรับลูกค้าคนสำคัญวันนี้เป็นไวน์แบบพิเศษที่มีเปอร์เซ็นต์ของแอลกอฮอล์ที่แรงกว่าไวน์ธรรมดาเป็นเท่าตัวและไวน์ตัวนี้มักจะไม่ถูกวางจำหน่ายแต่จะรู้จักกันแค่เพียงในวงในเท่านั้น"ไวน์อะไรทำไมมันแรงจัง" โมเน่เอ่ยพึมพำกับตัวเองพร้อมทั้งใช้มือบางตบที่แก้มทั้งสองข้างของตัวเองเบาๆ "ไหวไหมครับ" มาตินเอ่ย"อย่ามายุ่ง""ขึ้นรถ" ดราก้อนที่เห็นท่าทางของคนตัวเล็กก็เอ่ยสั่งขึ้นเสียงดุพร้อมกับใช้สายตามองไปยังประตูรถตู้คันหรู"ดีแต่ออกคำสั่ง" ร่างบางเอ่ยขึ้นพร้อมกับกอดอกแล้วสะบัดหน้าใส่คนตัวสูงก่อนจะเดินขึ้นรถไปด้วยสติที่เริ่มจะมึนเมาจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล"ไม่ไหวก็นอนลงมา" ขณะที่รถคันหรูกำลังแล่นตามท้องถนนดราก้อนที่หันไปมองร่างบางที่นั่งเอาหัวพิงกระจกก็เอ่ยพร้อมกับเอื้อมมือหนาหมายจะไปจับหัวร่างบางหมับ!"ฉันไม่นอนตักคนสกปรกแบบนายหรอก" โมเน่เอ่
แปะ แปะ แปะเสียงปรบมือของเอลิคที่พึ่งเดินออกมาจากอีกห้องดังขึ้นเมื่อได้ยินคำตอบของดราก้อนพร้อมกับมองร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้า"ว้าว คนนี้น่ะหรอที่เอาเลือดหัวมึงออกได้""...." ดราก้อนไม่ได้เอ่ยตอบอะไรพร้อมทั้งเดินไปนั่งบนโซฟาตัวหรูโดยมีโมเน่เดินตามไปด้วย"กูไม่ได้อยากรู้ว่ายัยนี้เป็นอะไรกับมึงกูแค่อยากรู้ว่ามึงพามาด้วยทำไม" เฟยหลงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบและมองมาที่ผู้หญิงข้างกายเพื่อนของเขาโมเน่ได้แต่นั่งตัวแข็งทื่ออย่างทำตัวไม่ถูกและหวาดกลัวกับบรรยากาศรอบตัวที่มีแต่เหล่ามาเฟียและภายในโกดังก็ยังมีลูกน้องของแต่ละคนยืนถืออาวุธกันเต็มไปหมด"โทษที พอดีพากลับไปส่งบ้านไม่ทันคงไม่ถือสาใช่ไหม" ดราก้อนขึ้นอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะหยิบบุหรี่ราคาแพงขึ้นมาจุดก่อนจะอัดเข้าปอดของตัวเองและพ่นควันออกมา"กูไม่ถือสาหรอก" แดเนียลที่พึ่งเดินกลับเข้ามาเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งมองมายังโมเน่ก่อนจะพูดกับเธอ"สวัสดีแม่สาวน้อยฉันชื่อแดเนียล""...." ร่างบางที่ถูกมาเฟียหนุ่มอีกคนทักไม่ได้เอ่ยตอบอะไรและใช้มือบางเกาะแขนเสื้อของดราก้อนไว้แน่นอย่างหวาดกลัว"ดูเหมือนเมียมึงจะกลัวนะ" แดเนียลเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินไปนั่งข้างเฟยหลง"หึ จะไปนั่ง