บทที่ 1
เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย
“แม๊!!!!!!!!”
เสียงโวยวายดังลั่นบ้านนั้นไม่ใช่เสียงใคร เป็นเสียงของผมเองครับ จู่ ๆ แม่ก็มาบอกว่าให้เก็บข้าวเก็บของเพราะวันพรุ่งนี้จะมีคนมารับไปทำงานด้วย ผมผู้ซึ่งนั่งโซ้ยมาม่าพร้อมกับหางานทำไปด้วยก็กรี๊ดลั่นบ้านเลยทีเดียว เพิ่งเรียนจบแท้ ๆ แต่แม๊!!! ดันหางานให้ผมซะแล้ว
สวัสดีครับ ผมชื่อ ‘บิว’ พีรพล มนตรีอิสระ อายุยี่สิบสองปี เพิ่งเรียนจบด้านไอทีมาหมาด ๆ ตั้งใจว่าจะหางานทำตรงสายให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ออกไปจากบ้านหลังนี้เสียที เพราะเบื่อแม่ผีพนันเข้าสิงจนหางานให้ผมนี่ล่ะ งานดี ๆ จะไม่ว่าเลยแต่งานที่หามาให้นั่นคือเป็นเมียรับจ้างของมาเฟียเจ้าของบ่อนการพนันที่แม่ติดหนี้ไว้
แค่คิดก็ขนลุกขนพองสยองเกล้า!
ชีวิตผมทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย!
“แกจะโวยวายหาหอกอะไร! ฉันไม่ได้จะขายแกสักหน่อย แค่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แลกกับหนี้เท่านั้น”
“เล็กน้อยงั้นเหรอแม่ เงินเป็นล้านแม่เล่นไปได้ยังไงกัน ชีวิตผมต้องหมดอิสรภาพก็เพราะแม่”
“เอาน่า แค่ไม่กี่เดือนเองก็จะได้เป็นอิสระแล้ว อยู่ที่นั่นอยู่ฟรีกินฟรีแถมยังได้เงินเดือนอีกต่างหาก ไม่ต้องไปหางานให้มันยุ่งยาก แค่ไปเป็นสะใภ้หลอก ๆ ให้แม่คุณนาธานท่านสบายใจเท่านั้นเอง”
“ผมเป็นผู้ชายนะแม่ จะไปเป็นสะใภ้ได้ยังไงกัน ผมไม่ไป! ยังไงก็จะไม่ไป”
เป็นครั้งแรกกระมังที่ผมกล้าขัดใจแม่ เรื่องคอขาดบาดตายขนาดนี้ผมขอตัดสินชะตาชีวิตเองบ้าง แต่สีหน้าแม่ตอนนี้ไม่ได้น่ากลัวเลยสักนิด นางกำลังงอนผมน่ะสิ ทำหน้าบูดบึ้ง หันหลังให้อย่างไว ผมได้แต่ถอนหายใจอย่างรู้สึกเบื่อเต็มทนแล้ว
“เอาเลย จะไปไหนก็ไป ฉันมันแก่แล้วยังไงก็ใกล้จะตาย แค่ตายเร็วหน่อยมันจะเป็นไรไป น้องแกก็ไม่ต้องเรียนหนังสือต่อ ฉันมันเกิดมาอาภัพ มีลูกก็ช่วยเหลืออะไรไม่ได้”
“ไม่ต้องทำเป็นงอนหรอก สรุปจะบังคับผมไปให้ได้ใช่ป่ะ”
“แกไม่ไปแล้วนี่ ยังไงฉันก็ต้องโดนทวงหนี้อยู่ดี ไม่มีเงินให้อย่างมากก็แค่โดนซ้อมจนตาย”
ผมยืนข่มอารมณ์อยู่นานกว่าจะปรับความคิดใหม่ได้ ถึงอย่างไรก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ยอมช่วยเหลือแกสักครั้งก่อนไปตามทางของตัวเองก็แล้วกัน ถ้าหากว่าผมยังมีชีวิตกลับมานะ
“ก็ได้ ๆ ผมจะยอมแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ถ้าเสร็จงานนี้แล้วแม่สัญญาว่าจะยอมปล่อยให้ผมไปทำงานที่ผมรักนะ”
“แกมันลูกกตัญญูจริง ๆ เลย ฉันรักแกที่สุดเลยอีบิวลูกร้ากกก”
นางเข้ามากอดผมยกใหญ่ ทว่าผมทำหน้าเซ็งไม่ยิ้มแย้มเลยสักนิด ต้องพับโครงการหางานเอาไว้ก่อน ขึ้นไปเก็บเสื้อผ้าและของจำเป็นสำหรับการเดินทางครั้งใหม่ นอนกอดแมวให้มันเต็มอิ่มเหมือนชีวิตนี้ไม่มีอะไรต้องทำแล้ว ตื่นขึ้นมาอีกทีก็ได้ยินเสียงเปิดประตูห้อง
“จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนพี่บิว เย็นแล้วนะ” นั่นไม่ใช่เสียงใครที่ไหนหากแต่เป็นเสียงบอลน้องชายผมเองล่ะ ตอนนี้มันเรียนอยู่ชั้นมอสี่แล้ว การเรียนก็ไม่ได้เรื่องสักเท่าไหร่ เอาแต่แว้นรถไปวัน ๆ ดีหน่อยที่มันไม่ได้ไปยุ่งกับยาเสพติด
“กลับมาแล้วเหรอ”
“ทำไมทำหน้าอย่างนี้ล่ะ เหมือนคนกำลังปวดขี้”
“ยิ่งกว่าปวดขี้อีกน่ะสิ”
ผมนอนแผ่หลาบนเตียงวางสายตาไว้ที่เพดานห้องเหมือนคนกำลังหมดสิ้นหนทางชีวิตอะไรเทือกนั้น บอลวางกระเป๋าเป้ไว้บนโต๊ะแล้วลงมานั่งข้างเตียงด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“มีเรื่องอะไรเหรอ บอกหน่อยสิ”
“อยากรู้ให้ไปถามแม่เองสิ” น้ำเสียงของผมเหมือนคนไม่มีกะจิตกะใจจะพูดกับใคร
“แม่อยู่ให้ถามซะที่ไหนกัน ไปบ่อนแล้วล่ะมั้ง”
“ไปอีกแล้วเหรอ แล้วเอาเงินที่ไหนไปเล่น กูละเบื่อแม่จริง ๆ เลย ผีพนันเข้าสิงจนเอากูไปปลดหนี้น่ะสิ”
“หา! แม่เอาพี่ไปปลดหนี้ ไปวันไหน”
“พรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้! ไปที่ไหน ทำไมแม่ถึงได้เลวอย่างนี้นะ โชคดีที่ไม่เอาผมไป”
“ยังไงก็แม่อย่าว่าแกเลย กูตอบตกลงแล้วยังไงก็ต้องไป ไม่ได้ไปขายตัวเหมือนอย่างที่มึงคิดหรอก แค่ไปเป็นเมียหลอก ๆ ให้แม่ของเจ้าหนี้ตายใจ หากเขาได้แต่งงานกับแฟนแล้วกูก็จะเป็นอิสระ”
“อ้อ โล่งอกไปหน่อย ยังดีที่ไม่ต้องเสียตัว แต่อาจจะอึดอัดใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง”
“นิดหน่อยที่ไหนล่ะ มึงลืมแล้วเหรอว่ากูเป็นผู้ชาย เขาก็เป็นผู้ชาย มันจะเป็นไปได้ยังไง แม่ผัวที่ไหนอยากมีลูกสะใภ้เป็นผู้ชายวะ ยัยป้านั่นจะเป็นยังไงบ้าง จะใจร้ายเหมือนในละครหรือเปล่าก็ไม่รู้ อีกอย่างกูคงจะคิดถึงเจ้าหมูตอนมากแน่ ๆ”
“แหม ๆ คิดถึงแต่แมวไม่คิดถึงน้องชายบ้างเหรอ เดี๋ยวก็จับมันย่างกินซะให้เข็ด”
หมูตอนคือแมวที่ผมเลี้ยงไว้ตั้งแต่มันยังเด็ก แม่ของหมูตอนมาคลอดทิ้งไว้แล้วหนีไป พาลูกตัวอื่นไปหมดเหลือเพียงมันตัวเดียว หมูตอนเป็นแมวบ้านมีขาว อวบอ้วน น่ารักน่าชัง มันเป็นแมวที่ชอบอ้อนมาก ใครเห็นก็ต้องหลงรักและตอนนี้มันก็นอนอยู่ในอ้อมกอดผมนี่ล่ะ นอนหลับปุ๋ยเชียว
“ฝากมึงดูแลมันด้วยนะ ไม่รู้ว่ากูจะได้กลับมาตอนไหน อย่าลืมส่งรูปมันให้กูดูทุกวันด้วยล่ะ จะได้สบายใจว่ามันอยู่ดีกินดี”
“จ้า!!! น้องจะส่งให้ทุกวันเลย”
“ฮือ ๆ กูไม่อยากไปเลย”
จู่ ๆ ผมก็ร้องไห้ออกมา กอดบอลซะแน่นขนัดจนมันตกอกตกใจ กอดปลอบผมอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกดีขึ้น รู้สึกใจหายเหมือนกันที่เรียนจบมาหมาด ๆ แต่ต้องมีสามีกำมะลออย่างไม่ทันตั้งตัว
*-*-*-*-*-*-*
และแล้ววันที่ผมไม่อยากให้ถึงก็มาถึง วันที่ผมต้องจากครอบครัวไปอยู่ในสถานที่ไม่คุ้นเคย ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ยากจะคาดเดาได้ ตอนนี้รถตู้จากโรงเชือดจอดรอที่หน้าบ้านแล้ว ผมอุ้มเจ้าหมูตอนเดินลงมาอย่างหมดอาลัยตายอยาก โดยมีไอ้บอลถือกระเป๋าตามหลัง ส่วนแม่ยืนรออยู่หน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว คงจะดีใจมากสินะที่หนี้กำลังจะหมดลงแล้ว หลังจากผมได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น
“ไปแล้วนะแม่”
“เออ ๆ ไปดีมาดี อยู่ที่นั่นก็อย่าทำตัวมีปัญหา อย่าให้คนอื่นว่าได้ว่าฉันเลี้ยงดูแกไม่ดี อดทนให้มาก ๆ”
“ผมต้องอดทนอยู่แล้วล่ะ ถ้าไม่อดทนแม่ก็จะเดือดร้อนไปด้วย” ประโยคหลังผมประชดครับแม๊!!
“มีแกเป็นลูกมันดีอย่างนี้นี่เอง”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมไปล่ะ ดูแลหมูตอนให้มันดี ๆ ด้วยอย่าให้ได้ยินข่าวว่าแม่ปล่อยมันให้อดอยากนะ” ว่าแล้วก็ส่งเจ้าหมูตอนให้แม่อุ้มไว้ แล้วคว้ากระเป๋าสัมภาระจากบอลมาถือไว้
“เออห่วงแต่แมวนั่นล่ะ ฉันไม่ปล่อยให้มันอดอยากหรอกไม่ต้องห่วง โชคดีละกัน” ผมรู้ว่านางอยากจะกอดผมสักครั้งแต่ยังทำเป็นคนจิตใจแข็งกระด้างเช่นเคย ผมเองก็อยากจะกอดแม่เหมือนกันแต่ด้วยความที่ยังน้อยใจอยู่จึงไม่กล้าเข้าไปหา พวกเราจึงต้องจากกันทั้งอย่างนี้
“ดูแลตัวเองด้วยนะพี่”
“อืม มึงก็เหมือนกัน ตั้งใจเรียนล่ะ อย่าดื้อให้มันมากนัก”
“รู้แล้วน่า”
แน่นอนว่าเราสองพี่น้องสวมกอดกันเพื่อเป็นการร่ำลา เพราะค่อนข้างสนิทกันมาก นอนด้วยกันทุกคืน ผมพยายามกลั้นน้ำตาไว้ให้นานที่สุดก่อนถือกระเป๋าเดินขึ้นรถตู้ เมื่อหย่อนก้นลงนั่งแล้วน้ำตามันก็หยดแหมะลงมา ผมยังคงมองแม่กับน้องชายด้วยความรู้สึกใจหาย ไอ้บอลโบกมือให้พร้อมกับน้ำตา ส่วนแม่ยืนแสดงสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้มีความอาลัยอาวรณ์เลย เพียงแต่ดวงตาแดงก่ำเท่านั้น
ในที่สุดประตูรถตู้ก็ถูกปิด บนรถมีผมเพียงคนเดียวเท่านั้น ผมถามลุงคนขับว่าจะพาไปที่ไหน เขาบอกเพียงว่าไปพบคุณนาธานที่เพนท์เฮาส์ก่อน คุณนาธานผู้นี้จะหน้าตาเป็นอย่างไร นิสัยแบบไหนกันนะ ผมเริ่มชักอยากจะรู้แล้ว ทำไมถึงคิดว่าแม่ตัวเองจะชอบสะใภ้แบบผม แล้วทำอย่างนี้ท่านจะยอมรับสะใภ้ตัวจริงได้ยังไงกัน ผมเริ่มงงกับความคิดของผู้ชายคนนี้แล้ว
ในที่สุดก็มาถึงที่หมาย ลงจากรถแล้วลุงคนขับรถก็พาขึ้นมายังชั้นบนสุดของคอนโดหรูแห่งหนึ่ง หัวใจเต้นตึกตักตั้งแต่ได้ย่ำเท้าขึ้นมาแล้ว เขาจะเป็นพวกมาเฟียโหดเหมือนในละครไหมนะ เข้าไปแล้วจะโดนทำอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้
“ถึงแล้วครับ” เสียงลุงคนขับรถตู้เอ่ยทำลายห้วงแห่งความคิดของผม
เราทั้งสองออกมาจากลิฟต์จากนั้นเดินตรงไปยังประตูบานหนึ่ง ลุงคนขับรถตู้ไม่ได้เคาะประตูแต่เปิดเข้าไปเลยราวกับเคยมาที่นี่ก่อนหน้าแล้ว วินาทีแรกที่เข้ามาในนี้แอร์เย็นฉ่ำมาก เย็นจนผมต้องกอดตัวเองเอาไว้ ที่นี่หรูหราใหญ่โตบ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของ
ภายในห้องไม่มีใครอยู่ ลุงคนขับรถตู้พาผมเดินออกมายังสระว่ายน้ำข้างนอก จึงได้รู้ว่าเขาคนนั้นกำลังว่ายน้ำอยู่ในสระพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงก็สวยและเซ็กซี่ส่วนผู้ชายทั้งหล่อและหุ่นล่ำมาก คาดว่านั่นคงจะเป็น ‘คุณนาธาน’ อย่างแน่นอน
“มาแล้วครับคุณนาธาน”
“กลับได้”
“ครับ”
เมื่อลุงขับรถเดินออกไปแล้วผมก็ยืนตัวเกร็งอยู่ที่เดิม มองดูคู่รักคู่นี้พลอดรักกันครู่หนึ่ง ทำเหมือนผมเป็นธาตุอากาศเสียอย่างนั้น ไม่นานพวกเขาก็ขึ้นมาจากสระว่ายน้ำ เดินตรงมานั่งลงบนเก้าอี้อาบแดดที่อยู่ตรงหน้าผม
“นี่เหรอคะเด็กที่คุณจ้างมาเป็นลูกสะใภ้สายวายของแม่คุณ” สายตาที่ผู้หญิงคนนี้มองมาที่ผมเหมือนตัวประหลาดอะไรเทือกนั้น เห็นแล้วหมั่นไส้ชะมัด! ทนเอาไว้ก่อนไอ้บิว ผมทำได้เพียงท่องไว้ในใจตลอด
“ลูกชายของลูกหนี้ที่บ่อนน่ะ เห็นบอกว่าเป็นผู้ชายเรียบร้อย ใสซื่อไม่มีพิษภัย แถมยังเป็นแม่บ้านแม่เรือนเหมือนที่คุณแม่ต้องการ คิดว่าถึงยังไงก็ไม่มีเงินจ่ายเลยจ้างมาซะเลย ซอนย่าว่ายังไง”
“หน้าตาซื่อบื้อจริง ๆ ด้วยค่ะ แม่คุณรสนิยมแปลกประหลาด เป็นสาววายไม่พอยังอยากจะได้ลูกสะใภ้เป็นผู้ชายอีกด้วย”
“ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงกับคุณแม่แล้ว เลยต้องยอมตามใจเพื่อให้ท่านมีความสุข อีกสักพักคงจะเลิกเองล่ะมั้ง”
ทั้งสองคนสนทนากันเหมือนผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ เริ่มรู้สึกรำคาญซะแล้ว จะให้ทำอะไรก็รีบบอกมาสิพูดอยู่นั่นล่ะ
“สรุปว่าจะให้ผมทำอะไรบ้างครับ ช่วยเล่ารายละเอียดงานให้ฟังหน่อยได้ไหม”
ได้ยินอย่างนั้นผู้หญิงที่ชื่อซอนย่าก็ตวัดสายตามามองผมอย่างไม่พอใจ
“ใครสั่งให้พูด!”
“ไม่มีครับ แต่ผมคิดว่าควรถามเพราะอยากจะเริ่มทำงานแล้ว” ผมตอบออกไปด้วยสีหน้าใสซื่อไร้เดียงสานั่นยิ่งทำให้เจ้าหล่อนเดือดดาลเป็นที่สุด
“อยากจะเริ่มทำงานแล้วเหรอ ได้! งั้นมาทาครีมกันแดดให้ฉันหน่อยสิ”
ผมยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ทำไมจะต้องไปรับใช้ผู้หญิงคนนี้ด้วย แต่ถ้าผมไม่ทำก็เกรงว่าจะโดนรังแกหนักกว่านี้น่ะสิ เลยต้องยอม ๆ ไปก่อน เดินตรงไปรับครีมกันแดดจากนาง ขณะกำลังยืนเปิดฝาครีมกันแดดก็ถูกเท้าของนางถีบลงไปในน้ำอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว โชคดีที่ผมว่ายน้ำเป็นจึงไม่ได้รับอันตรายใด ๆ แต่เสื้อผ้าเปียกปอนไปหมด ตัวเปียกไม่เท่าไหร่แต่มันเจ็บใจนี่สิ
“ฮ่า ๆ เฉิ่มจริง ๆ แกล้งเธอก็สนุกดีนะ”
“มันจะมากไปแล้วนะคุณ ผมไปทำอะไรให้งั้นเหรอ”
“ก็แค่หมั่นไส้ จะทำไมเหรอ ไอ้ขี้ข้า” สีหน้าและแววตาของยัยซอนย่าทำให้หมัดของผมสั่นระริกเลยทีเดียว อยากจะซัดหน้าให้สักหมัดให้สาสม ผมขึ้นมาจากสระกำลังจะเดินตรงไปหาเจ้าหล่อนแต่โดนส่งเสียงห้ามเอาไว้ก่อน
“หยุดอยู่ตรงนั้น เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งรอในห้องนั่งเล่น”
เสียงทุ้มของคุณนาธานสั่ง ทำให้ผมต้องยอมข่มอารมณ์เอาไว้ ถลึงตามองอย่างเอาเรื่องแล้วเดินกลับเข้าไปข้างใน เดินเข้ามาแล้วก็ค้นเอาเสื้อผ้าออกมาเพื่อจะเปลี่ยน มองซ้ายมองขวาเดินหาห้องน้ำจนเจอ เมื่อล็อกประตูแล้วก็เปิดน้ำจากฝักบัวให้ไหลกรี๊ดออกมาดัง ๆ เพื่อระบายความคับแค้นใจ หน็อย!!!! ยัยผีบ้านั่น สักวันเถอะผมจะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู
“ยัยบ้า! สักวันเถอะฉันจะเอาคืน”
สัญญากับตัวเองด้วยสายตามุ่งมั่นแล้วก็ทำการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาในชุดใหม่ ออกมานั่งรอบนโซฟาในห้องนั่งเล่นแล้วก็ส่องสายตามองไปยังสระว่ายน้ำ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่สักคน สงสัยยกโขยงกันเข้าห้องนอนแล้วกระมัง ป่านนี้คงจะเล่นจ้ำจี้กัน ให้ตายสิ! ต้องมานั่งรอสองคนนั้นอาโบเดเบกันนานแค่ไหนเนี่ย
“นี่เธอ!”
เสียงทุ้มที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้ผมต้องสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ หันไปมองก็เห็นคุณนาธานยืนอยู่ด้านหลังจริง ๆ เขาสวมใส่เพียงกางเกงขาสั้นตัวจิ๋วโชว์ซิกแพ็คและกล้ามล่ำ ๆ โดยไม่อายเลยสักนิด รีบหันกลับมาพร้อมด้วยสีหน้าที่แดงก่ำโดยอัตโนมัติ แต่เอ๊ะ! ทำไมผมต้องอายด้วยเนี่ย อยู่บ้านก็เดินแก้ผ้าต่อหน้าไอ้บอลบ่อย ๆ นี่นา
“อายอะไร เมื่อครู่ก็เห็นตอนฉันใส่กางเกงว่ายน้ำแล้ว ไอ้บื้อ”
ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ก่อนเขาจะเดินข้ามฝั่งมานั่งตรงข้าม ยกขาขึ้นไขว่ห้าง ผมจึงมองหายัยตัวแสบนั่นทันที
“ไม่ต้องห่วง ซอนย่ากลับไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ฉันกับเธอเท่านั้น”
“เริ่มเลยดีไหมครับ”
ได้ยินอย่างนั้นเขาก็ส่งสายตามามองที่ผม เหมือนต้องการถามว่าให้เริ่มทำอะไรอย่างนั้นหรือ เมื่อรู้ตัวว่าคำถามเมื่อครู่มันสื่อถึงเรื่องอื่นได้ด้วยก็รีบแก้ตัวออกไป
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ หมายถึงเริ่มคุยเรื่องงานกัน”
“อ้อ อย่างนั้นเหรอ ฉันก็นึกว่าจะเริ่ม...”
“ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นนะครับ ไม่ได้คิดเลยจริง ๆ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย”
“ฉันก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ฉันจะพูดเรื่องที่ต้องทำให้เธอฟังอย่างละเอียด ห้ามแหกกฎแม้แต่ข้อเดียว เพราะหากเธอทำผิดข้อตกลงฉันไม่รับรองความปลอดภัยของแม่กับน้องชายเธอแน่ อ้อ! และที่สำคัญแมวของเธอด้วย”
“นี่คุณรู้จักแม้กระทั่งแมวผมเหรอ”
“รู้สิ ก่อนจะรับเธอมาฉันสืบมาทุกอย่างแล้ว ไม่งั้นคงไม่เลือกเธอ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ว่ามาเลยครับ หากมันไม่เหลือบ่ากว่าแรงผมทำได้หมด เพราะคนอย่างผมความอดทนสูงอยู่แล้ว”
ได้ยินอย่างนั้นเขาก็ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย “เฉิ่ม ๆ อย่างเธอไม่นึกว่าจะมีความมั่นใจสูงขนาดนี้ เรียบร้อยจริงหรือเปล่าเนี่ย?”
“ทำไม ถึงผมจะเฉิ่มจะเรียบร้อยแต่มีความมั่นใจในตัวเองไม่ได้เหรอ”
“ได้! ฉันชอบคนแบบนี้ล่ะ น่าจะเอาแม่ฉันอยู่”
เขายิ้มมุมปากอีกแล้ว แววตาคู่นั้นช่างน่ากลัวยิ่งนัก ถึงจะหล่อมากก็เถอะแต่ก็ไม่น่าไว้ใจอยู่ดี หลังจากตีฝีปากกันสักพักเขาก็เริ่มเล่ารายละเอียดงานที่ต้องทำให้ฟัง ผมได้แต่นั่งทำหน้าเหวอ มองตาค้าง เมื่อได้ฟังสิ่งที่ตัวเองต้องเผชิญในทุก ๆ วันในคฤหาสน์หลังใหญ่ของเขา
ฟังจบแล้วได้แต่ตะโกนร้องในใจว่า ‘กูจะทนได้นานแค่ไหนวะเนี่ยยยย!!!’
บทที่ 2สะใภ้คนใหม่ ในที่สุดผมก็ได้เข้ามาสู่รั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ของคุณนาธานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่างใหญ่โตเสียนี่กระไร ถนนทางเข้าบ้านกว้างกว่าถนนเข้าซอยบ้านผมเสียอีก มีคนรับใช้มายืนต้อนรับหน้าบ้านจำนวนหลายคนอย่างกับในละคร เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกรวยขึ้นมาทันทีเลยล่ะ เมื่อรถจอดเทียบหน้าบ้านแล้วก็มีคนเปิดประตูรถให้เราทั้งคู่ ผมทำตัวไม่ถูกเมื่อจู่ ๆ ก็กลายมาเป็นเจ้าชายในชั่วข้ามคืน แม้ความเป็นจริงจะเป็นเจ้าชายกำมะลอก็ตามที แต่ดู ๆ ไปแล้วที่นี่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดแฮะ “ยินดีต้อนรับคุณนาธานกลับบ้านครับ / ค่ะ” “ยินดีต้อนรับคุณบิวครับ / ค่ะ” “สวัสดีครับทุกคน” ผมยิ้มเขินพลางยกมือไหว้ทุกคนอย่างไม่คุ้นชิน หันไปมองหน้าคุณนาธานก็เห็นเพียงความเย็นชา เขาทำหน้าราวกับว่ารำคาญผมเต็มทนแล้ว คว้ามือลากผมให้เดินตามเข้าไปในบ้าน พยายามบิดข้อมือพลางส่งสายตาดุให้เขาแต่ไม่ได้ผลเลยสักนิด “ปล่อยผมนะคุณ” “เธออย่าทำตัวเงอะงะซื่อบื้อได้ไหม ทำตัวให้สมกับเป็นเมียมาเฟียอย่างฉันหน่อยสิ” “ก็ผมไม่ใช่เมียคุณจริง ๆ
บทที่ 3ไม่มีทางเลือก เช้าวันใหม่ของผมในรั้วคฤหาสน์แอนเดสันได้เริ่มต้นจากการได้ยินเสียงคนเปิดลิ้นชัก ดังกุกกักเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง หันไปมองก็เห็นคุณนาธานสวมใส่ชุดสูทอย่างเนี้ยบเตรียมตัวจะออกไปข้างนอกแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะตื่นเช้ากว่าผมเสียอีก “คุณจะไปแล้วเหรอ หาววว” ว่าแล้วก็อ้าปากหาวหวอด ส่งมือขึ้นเกาศีรษะแกร็ก ๆ หมดสภาพคนหน้าตาดีกันเลยทีเดียว “อยู่ที่นี่ตื่นให้มันเช้า ๆ หน่อย แม่ฉันเป็นคนเข้มงวด อย่าทำอะไรให้มันเดือดร้อนมาถึงฉันก็แล้วกัน อยากได้อะไรก็บอก จะสั่งคนส่งมาให้” กล่าวแล้วก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้ผมนั่งทำหน้ายุ่งอยู่คนเดียว แต่เมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้นผมก็ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความเริงร่า เพราะนับจากนี้ห้องนี้จะเป็นของผมคนเดียวแล้ว หลังจากนั้นก็ไปอาบน้ำอย่างสบายใจ แต่งตัวให้เรียบร้อยที่สุดเพื่อเอาใจคุณนายวิมล เลือกในตู้ที่คุณนาธานซื้อมาไว้นั่นล่ะครับ เดินลงมาข้างล่างก็เห็นแม่บ้านสูงวัยกำลังตั้งโต๊ะ จึงเดินเข้าไปทักทายเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ป้าแม่บ้านคนนี้ชื่อ ‘ป้าแหวน’ ทำงานที่นี่มาตั้งแต่สมัยสาว ๆ จนกระทั่งต
บทที่ 4แค่ครั้งเดียว นึกถึงเหตุการ์เมื่อคืนนี้ผมยังคงขนลุกไม่หาย คุณนายให้ผมดื่มน้ำแกงอะไรสักอย่างในถ้วยกระเบื้องสีขาว รสชาติขมมาก แทบอยากจะอ้วกออกมา แต่โดนสั่งห้ามเอาไว้จึงต้องกลืนมันลงไปจนเกลี้ยง แค่นั้นยังไม่พอบังคับให้นั่งอยู่ในวงล้อมสายสิญจน์เพื่อฟังบทสวดประหลาดจากท่านจนจบ ปิดท้ายด้วยการใช้มือตบเบา ๆ ที่หน้าท้องสามครั้งอีกด้วย เสร็จพิธีก็ถูกไล่ให้กลับห้องนอนโดยไม่พูดหรืออธิบายอะไรให้ฟังเลย ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก วันนี้คุณนายวิมลโทรเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้กลับมาที่บ้านโดยด่วนให้เหตุผลว่าผมไม่สบาย โทรแล้วโทรอีกจนเขารำคาญกระมังเลยต้องกลับมาที่คฤหาสน์ ออฟฟิศกับบ้านเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ถ้าถามผมว่าไกลไหมตอบว่าไม่ แต่เหตุผลที่เขาไม่ยอมกลับมานอนค้างที่บ้านคงเป็นเพราะต้องการอยู่กับแฟนสาวอย่างสบายใจกระมัง แฟนของคุณนาธานก็คือซอนย่านั่นล่ะครับ เธอเป็นนางเอกซูเปอร์สตาร์ มีชื่อเสียงระดับประเทศ สวยและมีความสามารถ ในทีวีดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวานแต่ในชีวิตจริงผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณนายวิมลไม่ชอบขี้หน้า
บทที่ 5สะใภ้ตัวจริง ช่วงเวลาที่สุดแสนจะกลัดกลุ้มได้ผ่านพ้นไปแล้ว เขากลับไปในช่วงค่ำของวันนั้น ส่วนผมนั่งร้องไห้อยู่ในห้องนานหลายชั่วโมงกว่าจะทำใจได้ สรุปว่าผมมาทำอะไรที่นี่ มาขายตัวหรือมาเป็นเมียหลอก ๆ หรือมาเป็นสะใภ้หลอก ๆ เริ่มไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน คุณนายวิมลให้คนมาเรียกลงไปที่ห้องรับแขก ผมจึงต้องรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หากทว่าดวงตายังคงแดงก่ำมิอาจปกปิดได้ ลงมาถึงแล้วก็เห็นท่านนั่งอ่านนิยายวายเรื่องโปรดรออยู่ก่อนแล้ว จึงยกมือไหว้แล้วนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าก้มตาไม่อยากให้ท่านมองเห็นร่องรอยของการร้องไห้มา “เป็นยังไงบ้าง” “ไม่เป็นไรครับคุณแม่” น้ำเสียงของผมสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ว่าจะไม่ร้องแล้วนะแต่พอมีคนมาสะกิดความรู้สึกนั้นอีกทีก็ต้องอ่อนแออีกครั้ง “ฉันขอโทษที่ทำอย่างนั้นลงไป ฉันแค่อยากให้เธอกับนาธานผูกพันกัน ทุกอย่างมันจะได้ง่ายขึ้น” “คุณแม่ต้องการแค่นั้นเองเหรอครับ ไม่ห่วงความรู้สึกผมเลยเหรอครับ ผมขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเสียตัวให้ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ไม่เคยรักเลยด้วยซ้ำและไม่คิ
บทที่ 6ภารกิจใหม่ หลังจากถูกเขม่นด้วยสายตาจากนางเอกชื่อดังแล้ว ผมก็มองนางเปลี่ยนไปไม่คิดจะญาติดีด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาคิดอะไรมากเพราะต้องออกไปเดินแบบแล้ว แขกของงานวันนี้มีแต่พวกคุณหญิงคุณนายและไฮโซทั้งนั้น แน่นอนว่าคุณนายวิมลต้องบังคับให้ลูกชายมาด้วย ไม่สิ! หากจะบอกว่าบังคับก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะเขาเองก็คงอยากจะมาให้กำลังใจแฟนสาวด้วย รอบแรกของการเดินแบบผ่านไปด้วยดี การเดินของวันนี้จะเดินเป็นคู่ชายหญิง คู่ของผมเป็นนางแบบอาชีพที่มีสกิลการเดินค่อนข้างดีมาก ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจที่มีคู่เดินซึ่งมีประสบการณ์มาก่อน พวกเราเข้ามาเปลี่ยนชุดอย่างเร่งรีบ ทุกอย่างดูวุ่นวายไปเสียหมด ชุดที่สองสำหรับงานในวันนี้เป็นชุดผ้าไหมที่ออกแบบตัดเย็บให้ดูทันสมัย ทุกครั้งที่ผมเข้ามาเปลี่ยนชุดซอนย่าก็ออกไปเดินบนเวที โชคดีที่เราไม่ได้เดินพร้อมกันมิเช่นนั้นคงเกิดซีนขัดแข้งขัดขาเหมือนในละครเป็นแน่
บทที่ 7เป็นของเล่นก็พอได้ ในที่สุดผมก็ได้โบยบินออกจากกรงทองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เดินทางมายังเชียงใหม่ตั้งแต่เช้า ถึงสนามบินก็มีรถจากทางรีสอร์ตมารอรับถึงที่ เดินทางจากตัวเมืองไม่ไกลนักก็มาถึงที่หมาย รีสอร์ตแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควร ฉากหลังเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน บรรยากาศดีมาก วันนี้คึกคักเป็นพิเศษเพราะเปิดรีสอร์ตอย่างเป็นทางการ และเปิดต้อนรับนักเที่ยวเป็นวันแรกอีกด้วย ห้องพักที่ทางรีสอร์ตเตรียมไว้ให้เป็นบ้านน็อกดาวน์หลังเล็ก ๆ ติดกับลำธารน้ำไหล มีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ทัศนียภาพของที่นี่ช่างงดงาม เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจจริง ๆ หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่แล้วก็แต่งตัวหล่อ ๆ ออกไปร่วมแสดงความยินดีตามที่คุณนายวิมลได้วานมา เดินออกมาได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็เจอกับพนักงานสาวสวยซึ่งกำลังจะเดินมาหาผมพอดี เมื่อได้คุยกันนางบอกว่าทางคุณปัญจรีย์ให้มารับผมไปงานด้วยเกรงว่าจะห
บทที่ 8รู้สึกแปลกไป ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วผมก็ต้องเป็นคนดูแลคุณนาธานอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขายังคงลงน้ำหนักเท้าได้ไม่มาก แทนที่จะกลับกรุงเทพมหานครแต่สั่งให้พากลับมายังห้องพักห้องเดิม ส่วนผมไม่มีทางกลับเพราะตั้งใจจะมาเที่ยวทั้งทีต้องเที่ยวให้หนำใจ เขาเจ็บอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะตามไปแกล้งผม เมื่อรู้ข่าวคุณป้าปัญจรีย์ก็เข้ามาเยี่ยมถึงห้องพัก ท่านถามว่าจะกลับกรุงเทพฯเลยไหมจะได้เตรียมรถและตั๋วเครื่องบินให้หลานชาย แต่เมื่อคุณนาธานปฏิเสธและบอกว่าจะอยู่เที่ยวที่นี่สักพักก่อน ท่านจึงเปลี่ยนแผนสั่งให้คนนำรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งมาให้ เพื่อจะได้ขับไปเที่ยวได้ตามสบายใจ รถก็มีแล้วจะขาดก็แต่เงินเท่านั้น กระเป๋าสตางค์ก็ยังไม่ได้คืน ผมจึงคิดว่าจะต้องใช้วิธีสกปรกเพื่อเอาเงินมาจากคุณนาธาน รอช่วงที่เขาหล
บทที่ 8รู้สึกแปลกไป ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วผมก็ต้องเป็นคนดูแลคุณนาธานอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขายังคงลงน้ำหนักเท้าได้ไม่มาก แทนที่จะกลับกรุงเทพมหานครแต่สั่งให้พากลับมายังห้องพักห้องเดิม ส่วนผมไม่มีทางกลับเพราะตั้งใจจะมาเที่ยวทั้งทีต้องเที่ยวให้หนำใจ เขาเจ็บอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะตามไปแกล้งผม เมื่อรู้ข่าวคุณป้าปัญจรีย์ก็เข้ามาเยี่ยมถึงห้องพัก ท่านถามว่าจะกลับกรุงเทพฯเลยไหมจะได้เตรียมรถและตั๋วเครื่องบินให้หลานชาย แต่เมื่อคุณนาธานปฏิเสธและบอกว่าจะอยู่เที่ยวที่นี่สักพักก่อน ท่านจึงเปลี่ยนแผนสั่งให้คนนำรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งมาให้ เพื่อจะได้ขับไปเที่ยวได้ตามสบายใจ รถก็มีแล้วจะขาดก็แต่เงินเท่านั้น กระเป๋าสตางค์ก็ยังไม่ได้คืน ผมจึงคิดว่าจะต้องใช้วิธีสกปรกเพื่อเอาเงินมาจากคุณนาธาน รอช่วงที่เขาหล
บทที่ 7เป็นของเล่นก็พอได้ ในที่สุดผมก็ได้โบยบินออกจากกรงทองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เดินทางมายังเชียงใหม่ตั้งแต่เช้า ถึงสนามบินก็มีรถจากทางรีสอร์ตมารอรับถึงที่ เดินทางจากตัวเมืองไม่ไกลนักก็มาถึงที่หมาย รีสอร์ตแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควร ฉากหลังเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน บรรยากาศดีมาก วันนี้คึกคักเป็นพิเศษเพราะเปิดรีสอร์ตอย่างเป็นทางการ และเปิดต้อนรับนักเที่ยวเป็นวันแรกอีกด้วย ห้องพักที่ทางรีสอร์ตเตรียมไว้ให้เป็นบ้านน็อกดาวน์หลังเล็ก ๆ ติดกับลำธารน้ำไหล มีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ทัศนียภาพของที่นี่ช่างงดงาม เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจจริง ๆ หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่แล้วก็แต่งตัวหล่อ ๆ ออกไปร่วมแสดงความยินดีตามที่คุณนายวิมลได้วานมา เดินออกมาได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็เจอกับพนักงานสาวสวยซึ่งกำลังจะเดินมาหาผมพอดี เมื่อได้คุยกันนางบอกว่าทางคุณปัญจรีย์ให้มารับผมไปงานด้วยเกรงว่าจะห
บทที่ 6ภารกิจใหม่ หลังจากถูกเขม่นด้วยสายตาจากนางเอกชื่อดังแล้ว ผมก็มองนางเปลี่ยนไปไม่คิดจะญาติดีด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาคิดอะไรมากเพราะต้องออกไปเดินแบบแล้ว แขกของงานวันนี้มีแต่พวกคุณหญิงคุณนายและไฮโซทั้งนั้น แน่นอนว่าคุณนายวิมลต้องบังคับให้ลูกชายมาด้วย ไม่สิ! หากจะบอกว่าบังคับก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะเขาเองก็คงอยากจะมาให้กำลังใจแฟนสาวด้วย รอบแรกของการเดินแบบผ่านไปด้วยดี การเดินของวันนี้จะเดินเป็นคู่ชายหญิง คู่ของผมเป็นนางแบบอาชีพที่มีสกิลการเดินค่อนข้างดีมาก ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจที่มีคู่เดินซึ่งมีประสบการณ์มาก่อน พวกเราเข้ามาเปลี่ยนชุดอย่างเร่งรีบ ทุกอย่างดูวุ่นวายไปเสียหมด ชุดที่สองสำหรับงานในวันนี้เป็นชุดผ้าไหมที่ออกแบบตัดเย็บให้ดูทันสมัย ทุกครั้งที่ผมเข้ามาเปลี่ยนชุดซอนย่าก็ออกไปเดินบนเวที โชคดีที่เราไม่ได้เดินพร้อมกันมิเช่นนั้นคงเกิดซีนขัดแข้งขัดขาเหมือนในละครเป็นแน่
บทที่ 5สะใภ้ตัวจริง ช่วงเวลาที่สุดแสนจะกลัดกลุ้มได้ผ่านพ้นไปแล้ว เขากลับไปในช่วงค่ำของวันนั้น ส่วนผมนั่งร้องไห้อยู่ในห้องนานหลายชั่วโมงกว่าจะทำใจได้ สรุปว่าผมมาทำอะไรที่นี่ มาขายตัวหรือมาเป็นเมียหลอก ๆ หรือมาเป็นสะใภ้หลอก ๆ เริ่มไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน คุณนายวิมลให้คนมาเรียกลงไปที่ห้องรับแขก ผมจึงต้องรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หากทว่าดวงตายังคงแดงก่ำมิอาจปกปิดได้ ลงมาถึงแล้วก็เห็นท่านนั่งอ่านนิยายวายเรื่องโปรดรออยู่ก่อนแล้ว จึงยกมือไหว้แล้วนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าก้มตาไม่อยากให้ท่านมองเห็นร่องรอยของการร้องไห้มา “เป็นยังไงบ้าง” “ไม่เป็นไรครับคุณแม่” น้ำเสียงของผมสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ว่าจะไม่ร้องแล้วนะแต่พอมีคนมาสะกิดความรู้สึกนั้นอีกทีก็ต้องอ่อนแออีกครั้ง “ฉันขอโทษที่ทำอย่างนั้นลงไป ฉันแค่อยากให้เธอกับนาธานผูกพันกัน ทุกอย่างมันจะได้ง่ายขึ้น” “คุณแม่ต้องการแค่นั้นเองเหรอครับ ไม่ห่วงความรู้สึกผมเลยเหรอครับ ผมขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเสียตัวให้ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ไม่เคยรักเลยด้วยซ้ำและไม่คิ
บทที่ 4แค่ครั้งเดียว นึกถึงเหตุการ์เมื่อคืนนี้ผมยังคงขนลุกไม่หาย คุณนายให้ผมดื่มน้ำแกงอะไรสักอย่างในถ้วยกระเบื้องสีขาว รสชาติขมมาก แทบอยากจะอ้วกออกมา แต่โดนสั่งห้ามเอาไว้จึงต้องกลืนมันลงไปจนเกลี้ยง แค่นั้นยังไม่พอบังคับให้นั่งอยู่ในวงล้อมสายสิญจน์เพื่อฟังบทสวดประหลาดจากท่านจนจบ ปิดท้ายด้วยการใช้มือตบเบา ๆ ที่หน้าท้องสามครั้งอีกด้วย เสร็จพิธีก็ถูกไล่ให้กลับห้องนอนโดยไม่พูดหรืออธิบายอะไรให้ฟังเลย ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก วันนี้คุณนายวิมลโทรเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้กลับมาที่บ้านโดยด่วนให้เหตุผลว่าผมไม่สบาย โทรแล้วโทรอีกจนเขารำคาญกระมังเลยต้องกลับมาที่คฤหาสน์ ออฟฟิศกับบ้านเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ถ้าถามผมว่าไกลไหมตอบว่าไม่ แต่เหตุผลที่เขาไม่ยอมกลับมานอนค้างที่บ้านคงเป็นเพราะต้องการอยู่กับแฟนสาวอย่างสบายใจกระมัง แฟนของคุณนาธานก็คือซอนย่านั่นล่ะครับ เธอเป็นนางเอกซูเปอร์สตาร์ มีชื่อเสียงระดับประเทศ สวยและมีความสามารถ ในทีวีดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวานแต่ในชีวิตจริงผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณนายวิมลไม่ชอบขี้หน้า
บทที่ 3ไม่มีทางเลือก เช้าวันใหม่ของผมในรั้วคฤหาสน์แอนเดสันได้เริ่มต้นจากการได้ยินเสียงคนเปิดลิ้นชัก ดังกุกกักเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง หันไปมองก็เห็นคุณนาธานสวมใส่ชุดสูทอย่างเนี้ยบเตรียมตัวจะออกไปข้างนอกแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะตื่นเช้ากว่าผมเสียอีก “คุณจะไปแล้วเหรอ หาววว” ว่าแล้วก็อ้าปากหาวหวอด ส่งมือขึ้นเกาศีรษะแกร็ก ๆ หมดสภาพคนหน้าตาดีกันเลยทีเดียว “อยู่ที่นี่ตื่นให้มันเช้า ๆ หน่อย แม่ฉันเป็นคนเข้มงวด อย่าทำอะไรให้มันเดือดร้อนมาถึงฉันก็แล้วกัน อยากได้อะไรก็บอก จะสั่งคนส่งมาให้” กล่าวแล้วก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้ผมนั่งทำหน้ายุ่งอยู่คนเดียว แต่เมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้นผมก็ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความเริงร่า เพราะนับจากนี้ห้องนี้จะเป็นของผมคนเดียวแล้ว หลังจากนั้นก็ไปอาบน้ำอย่างสบายใจ แต่งตัวให้เรียบร้อยที่สุดเพื่อเอาใจคุณนายวิมล เลือกในตู้ที่คุณนาธานซื้อมาไว้นั่นล่ะครับ เดินลงมาข้างล่างก็เห็นแม่บ้านสูงวัยกำลังตั้งโต๊ะ จึงเดินเข้าไปทักทายเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ป้าแม่บ้านคนนี้ชื่อ ‘ป้าแหวน’ ทำงานที่นี่มาตั้งแต่สมัยสาว ๆ จนกระทั่งต
บทที่ 2สะใภ้คนใหม่ ในที่สุดผมก็ได้เข้ามาสู่รั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ของคุณนาธานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่างใหญ่โตเสียนี่กระไร ถนนทางเข้าบ้านกว้างกว่าถนนเข้าซอยบ้านผมเสียอีก มีคนรับใช้มายืนต้อนรับหน้าบ้านจำนวนหลายคนอย่างกับในละคร เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกรวยขึ้นมาทันทีเลยล่ะ เมื่อรถจอดเทียบหน้าบ้านแล้วก็มีคนเปิดประตูรถให้เราทั้งคู่ ผมทำตัวไม่ถูกเมื่อจู่ ๆ ก็กลายมาเป็นเจ้าชายในชั่วข้ามคืน แม้ความเป็นจริงจะเป็นเจ้าชายกำมะลอก็ตามที แต่ดู ๆ ไปแล้วที่นี่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดแฮะ “ยินดีต้อนรับคุณนาธานกลับบ้านครับ / ค่ะ” “ยินดีต้อนรับคุณบิวครับ / ค่ะ” “สวัสดีครับทุกคน” ผมยิ้มเขินพลางยกมือไหว้ทุกคนอย่างไม่คุ้นชิน หันไปมองหน้าคุณนาธานก็เห็นเพียงความเย็นชา เขาทำหน้าราวกับว่ารำคาญผมเต็มทนแล้ว คว้ามือลากผมให้เดินตามเข้าไปในบ้าน พยายามบิดข้อมือพลางส่งสายตาดุให้เขาแต่ไม่ได้ผลเลยสักนิด “ปล่อยผมนะคุณ” “เธออย่าทำตัวเงอะงะซื่อบื้อได้ไหม ทำตัวให้สมกับเป็นเมียมาเฟียอย่างฉันหน่อยสิ” “ก็ผมไม่ใช่เมียคุณจริง ๆ
บทที่ 1 เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย “แม๊!!!!!!!!” เสียงโวยวายดังลั่นบ้านนั้นไม่ใช่เสียงใคร เป็นเสียงของผมเองครับ จู่ ๆ แม่ก็มาบอกว่าให้เก็บข้าวเก็บของเพราะวันพรุ่งนี้จะมีคนมารับไปทำงานด้วย ผมผู้ซึ่งนั่งโซ้ยมาม่าพร้อมกับหางานทำไปด้วยก็กรี๊ดลั่นบ้านเลยทีเดียว เพิ่งเรียนจบแท้ ๆ แต่แม๊!!! ดันหางานให้ผมซะแล้ว สวัสดีครับ ผมชื่อ ‘บิว’ พีรพล มนตรีอิสระ อายุยี่สิบสองปี เพิ่งเรียนจบด้านไอทีมาหมาด ๆ ตั้งใจว่าจะหางานทำตรงสายให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ออกไปจากบ้านหลังนี้เสียที เพราะเบื่อแม่ผีพนันเข้าสิงจนหางานให้ผมนี่ล่ะ งานดี ๆ จะไม่ว่าเลยแต่งานที่หามาให้นั่นคือเป็นเมียรับจ้างของมาเฟียเจ้าของบ่อนการพนันที่แม่ติดหนี้ไว้ แค่คิดก็ขนลุกขนพองสยองเกล้า! ชีวิตผมทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย! “แกจะโวยวายหาหอกอะไร! ฉันไม่ได้จะขายแกสักหน่อย แค่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แลกกับหนี้เท่านั้น” “เล็กน้อยงั้นเหรอแม่ เงินเป็นล้านแม่เล่นไปได้ยังไงกัน ชีวิตผมต้องหมดอิสรภาพก็เพราะแม่” “เอาน่า แค่ไม่กี่เดือนเองก็จะได้เป็นอิสระแล้ว อยู่ที่นั่