บทที่ 6
ภารกิจใหม่
หลังจากถูกเขม่นด้วยสายตาจากนางเอกชื่อดังแล้ว ผมก็มองนางเปลี่ยนไปไม่คิดจะญาติดีด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาคิดอะไรมากเพราะต้องออกไปเดินแบบแล้ว แขกของงานวันนี้มีแต่พวกคุณหญิงคุณนายและไฮโซทั้งนั้น แน่นอนว่าคุณนายวิมลต้องบังคับให้ลูกชายมาด้วย ไม่สิ! หากจะบอกว่าบังคับก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะเขาเองก็คงอยากจะมาให้กำลังใจแฟนสาวด้วย
รอบแรกของการเดินแบบผ่านไปด้วยดี การเดินของวันนี้จะเดินเป็นคู่ชายหญิง คู่ของผมเป็นนางแบบอาชีพที่มีสกิลการเดินค่อนข้างดีมาก ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจที่มีคู่เดินซึ่งมีประสบการณ์มาก่อน พวกเราเข้ามาเปลี่ยนชุดอย่างเร่งรีบ ทุกอย่างดูวุ่นวายไปเสียหมด ชุดที่สองสำหรับงานในวันนี้เป็นชุดผ้าไหมที่ออกแบบตัดเย็บให้ดูทันสมัย ทุกครั้งที่ผมเข้ามาเปลี่ยนชุดซอนย่าก็ออกไปเดินบนเวที โชคดีที่เราไม่ได้เดินพร้อมกันมิเช่นนั้นคงเกิดซีนขัดแข้งขัดขาเหมือนในละครเป็นแน่
“อีกรอบเดียวก็เสร็จแล้ว เอาวะไอ้บิว”
กล่าวกับตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกกำลังใจแล้วปั้นหน้ายิ้มเพื่อจะเดินออกไปหน้าเวที หากทว่ามีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นเสียก่อน
“น้องบิวคะ”
คนที่เข้ามาทักคือผู้จัดงานวันนี้นั่นเองครับ
“ว่าไงครับพี่”
“รอบสุดท้ายน้องต้องมาเดินคู่กับน้องซอนย่านะคะ”
“อ้าว! ทำไมล่ะครับ”
“มันเป็นความต้องการของคุณซอนย่าค่ะ เชิญทางนี้ค่ะ ใกล้จะถึงคิวแล้ว”
“ครับ ๆ”
แม้ไม่ชอบใจแต่ต้องยอมเพราะมันเป็นช่วงเวลาคับขัน ผมอยากให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ชุดก็ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งที่ใส่เรียบร้อยแล้ว ในระหว่างแต่งตัวนั้นซอนย่ามองมายังผมพร้อมยิ้มมุมปากเหมือนมีแผนร้ายในใจ ผมเองก็จ้องมองเธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เหมือนเป็นการประกาศสงครามย่อม ๆ
ในที่สุดเราก็เดินออกมาพร้อมกันในชุดฟินาเล่ เสียงปรบมือดังสนั่นทั่วทั้งฮอลล์เมื่อเราทั้งคู่ปรากฏตัวในชุดผ้าไหมดีไซน์งดงาม มีความอลังการกว่าทุกชุด เราต่างก็ยิ้มทำให้หน้าที่ให้ดีที่สุด หากทว่ากำลังจะถึงปลายรันเวย์ซอนย่ากลับเล่นสกปรกขัดขาผมจนล้มลงไม่เป็นท่า
เสียงฮือฮาดังขึ้นไปทั่วทั้งฮอลล์ หลายคนยืนขึ้นมองพร้อมถ่ายรูป บางคนถ่ายวิดีโอเอาไว้ ผมผู้ซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์อย่างนี้ ไม่รู้ว่าจะต้องแก้สถานการณ์ยังไง ตั้งใจจะลุกขึ้นหากทว่ากลับรู้สึกเจ็บที่ข้อเท้า ซอนย่าทำทีจะช่วยพยุงขึ้นทว่าเธอกลับส่งเสียงเบา ๆ ให้เพียงผมได้ยินคนเดียว
“เจียมตัวซะบ้างก็ดี เธอมันก็แค่เด็กเศษสวะไร้ค่า” นางกล่าวในขณะที่ใบหน้ายังคงเปื้อนยิ้ม ผมปัดมือเธอออกไปจะลุกขึ้นเองแต่มันเจ็บเหลือเกิน
ทันใดนั้นมีใครบางคนปีนรันเวย์ขึ้นมาช่วยผมให้ลุกขึ้นจนสำเร็จ จากนั้นก็พาผมเดินลงมาจากเวที ทิ้งให้ยัยซอนย่าเดินเฉิดฉายอยู่บนนั้นต่อไป ในที่สุดนางก็ทำสำเร็จ เขี่ยผมลงมาข้างล่างส่วนตัวเองได้โดดเด่นอยู่บนในนั้นชุดฟินาเล่เพียงคนเดียว
“ไหวไหมครับ”
“พอไหวครับ ขอบคุณนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ พอดีว่าผมเป็นช่างภาพอยู่ตรงนั้นพอดี เลยช่วยได้ทันเวลา”
“ถ้าไม่มีคุณผมก็คงจะขายขี้หน้าไปมากกว่านี้แน่ ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ไว้มีโอกาสผมขอเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อได้ไหม”
“ยินดีครับ นี่นามบัตรผมนะครับ”
เขาคนนั้นยื่นนามบัตรให้กับผม รับมาแล้วก็เงยขึ้นมายิ้มให้
“ผมอั๋นนะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ผมบิวครับ ยินดีเช่นกัน”
ในระหว่างกำลังยืนคุยกันคุณนายวิมลก็เดินเข้ามาพร้อมกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน สีหน้าของท่านดูตื่นตกใจมากเมื่อเห็นผมเกิดอุบัติเหตุบนเวที หากทว่าสีหน้าของคุณนาธานไม่ได้แยแสอะไรผมเลย แต่ก็แอบมีเหล่ตามองคุณอั๋นบ้างเล็กน้อย คล้ายกับอยากจะไล่ออกไปจากตรงนี้
“เป็นยังไงบ้างหนูบิว”
“เจ็บข้อเท้านิดหน่อยครับคุณแม่”
“ฉันขอโทษที่ให้หนูมาเดินแบบวันนี้ เลยต้องโดนยัยนั่นกลั่นแกล้งจนถึงขั้นเจ็บตัวอย่างนี้”
“ซอนย่าไม่ทำอย่างนั้นหรอกครับคุณแม่” แหนะ! ยังมีหน้ามาแก้ต่างแทนยัยนั่นอีก ผมเกลียดขี้หน้าสองคนนี้เข้าไส้ซะเหลือเกิน
“เมียแกเจ็บขนาดนี้ยังจะมีหน้ามาแก้ต่างแทนแม่นั่น เป็นผัวประสาอะไรกันหา! รีบเข้าไปช่วยพยุงหนูบิวสิ”
“ผมกับบิวเรายังไม่ได้แต่งงานกันนะครับ เดี๋ยวคนอื่นก็เข้าใจผิดกันไปหรอก” คนอื่นที่ว่านั่นคือคุณอั๋น
“เข้าใจผิดยังไงในเมื่อนี่เมียแก อีกไม่นานก็จะได้แต่งงานกันอยู่ดี” เอ็ดให้ลูกชายแล้วหันไปเอ่ยกับคุณอั๋นต่อ “ขอบใจนะพ่อหนุ่มที่ช่วยเหลือลูกสะใภ้ฉันได้ทันเวลา”
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี ถ้ายังไงผมขอตัวก่อนนะครับ”
คุณอั๋นยกมือไหว้คุณนายวิมล หันมายิ้มให้ผมแล้วเดินไปจากตรงนั้น ผมยืนถือนามบัตรเอาไว้แน่นรอฟังว่าคุณนายวิมลจะเอายังไงต่อ เพราะตอนแรกบอกว่าจะพาผมไปแนะนำให้เพื่อนได้รู้จัก
“งั้นให้นาธานไปส่งที่บ้านก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันจะกลับพร้อมคนขับรถ”
“คือผมไม่ว่างครับคุณแม่ ให้คนขับรถไปส่งบิวก่อนแล้วค่อยกลับมารับคุณแม่ดีกว่าไหม”
“ไม่ได้! แกจะต้องไปส่งเมียแก ถ้าไม่ไปฉันจะถือว่าแกไม่ใช่ลูก แค่นี้ทำไม่ได้เชียวรึ”
สายตาของคุณนายวิมลน่ากลัวมาก มีหรือที่ลูกชายคนโปรดจะไม่ยอมรับปาก ผมยกมือไหว้ท่านแล้วเดินตามหลังคุณนาธานออกมาจากงาน ในระหว่างทางบังเอิญเจอกับซอนย่า สายตาที่เธอมองมายังผมคล้ายกับกำลังจะฆ่าจะแกงกันเสียอย่างนั้น ผมเองก็มองแรงใส่นางไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“นาธานจะไปไหนคะ เรามีนัดกันแล้วไม่ใช่เหรอ”
“พอดีว่าผมจะไปส่งบิวก่อนน่ะ คุณแม่บังคับให้ไปส่ง” สีหน้าของเขามีความอึดอัดไม่น้อยเมื่อเห็นสีหน้าของแฟนสาว คงกลัวว่าจะเข้าใจผิดล่ะสิท่า ทั้งที่รู้ว่าผมเป็นแค่ตัวหลอก
“วุ่นวายไม่เข้าเรื่อง เจ็บนิดเดียวทำเป็นสำออย”
“เพราะใครกันล่ะที่ทำผม ยังมีหน้ามาว่าคนอื่นอีกเหรอ”
“แกกล้าต่อปากต่อคำกับฉันเหรอ”
“มากกว่านี้ก็กล้า!” ผมทนไม่ไหวกำหมัดจะชกหน้าผู้หญิงคนนั้น ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยฟิวส์ขาดขนาดนี้มาก่อน ยอมรับว่าโกรธมากจริง ๆ
“ว้าย! นาธานคะช่วยด้วย” นางเข้าไปยืนหลบด้านหลังคุณนาธานได้ทันเวลา ไม่งั้นคงโดนหมัดผมเข้าไปแล้ว ได้เป็นข่าวดังไปทั่วประเทศก็วันนี้ล่ะ
เพี๊ยะ!
ในวินาทีนั้นเขาก็ฟาดมือมาที่แก้มของผมเต็มแรงจนหน้าหัน ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก หน้าชา ขอบตาร้อนผ่าวน้ำในตาจะไหลลงมาเต็มทีแล้ว ผมหันหน้ามามองแรงใส่เขาคนนั้นด้วยความรู้สึกน้อยใจ
“อย่ามาทำตัวนักเลงใส่คนของฉัน เธอมันก็แค่ลูกจ้าง”
“ครับ ผมมันก็แค่ลูกจ้าง คุณไปเถอะผมกลับเองได้” กล่าวจบน้ำตาก็หยดแหมะลงมา
ผมไม่สนใจสองคนนั้นเดินจากมาทั้งที่ยังเจ็บข้อเท้า เมื่อพ้นสายตาเขาแล้วก็ปล่อยโฮออกมาอย่างหนักหน่วง อยากจะไปให้พ้นชีวิตผู้ชายคนนี้เร็ว ๆ ไม่รู้ว่าจะต้องทนอีกนานแค่ไหน ที่ทนอยู่เพราะเห็นแก่คุณนายวิมลและอนาคตของครอบครัวเท่านั้น
เดินมาได้สักพักก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น เกือบจะถึงถนนใหญ่อยู่แล้วเชียวแต่ทว่าผมกลับสะดุดข้อเท้าตัวเองจนล้ม แต่โชคดีมีใครบางคนมารับตัวไว้ได้ทันเวลา
“คุณบิว!”
“คุณอั๋น!”
“เป็นอะไรไหมครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่สะดุดขาตัวเองล้ม ขอบคุณอีกครั้งนะครับ วันนี้ต้องรบกวนคุณตลอดเลย”
“ผมยินดีครับ”
เขายังคงโอบกอดผมไว้อย่างลืมตัว กำลังจะเอ่ยกับคุณอั๋นทว่าสายตาของผมกลับมองเห็นคุณนาธานกำลังเดินมาหา ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมอยากประชดเขาด้วยการจูบคุณอั๋น เขาจะผละใบหน้าออกมาแต่ผมรั้งต้นคอไว้ไม่ยอมปล่อย แต่หารู้ไม่ว่าผมคิดผิดที่หางานให้คุณอั๋นจนได้
ผั๊วะ!
คุณนาธานวิ่งเข้ามากระชากตัวคุณอั๋นแล้วซักหมัดเข้าไปที่ใบหน้าสุดแรง แน่นอนว่าคุณอั๋นก็ไม่ยอมส่งหมัดกลับคืนไปเช่นกัน เขาสองคนกำลังจะวิ่งเข้ามาหากันอีกครั้งแต่ผมรีบเข้าไปขวางเอาไว้
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
“เธอมันร่าน! จูบกับผู้ชายคนอื่นในที่สาธารณะไม่ละอายใจบ้างเหรอ!”
“จะละอายใจทำไมในเมื่อผมยังโสด ไม่มีเจ้าของ ผมก็แค่รับจ้างมาเป็นเมียหลอก ๆ ของคุณเท่านั้น”
“มานี่เลย!”
ได้ยินอย่างนั้นก็เลือดขึ้นหน้า เขาคว้าข้อมือผมแล้วลากตัวให้เดินตามไป แต่ผมผู้ซึ่งเจ็บข้อเท้าพยายามส่งเสียงร้องห้าม เขารำคาญจึงอุ้มผมขึ้นพาเดินไปโดยไม่พูดไม่จาสักคำ ผมเองก็ได้แต่เงียบเพราะไม่รู้ว่าจะโดนอะไรบ้างหลังจากนี้ จะเป็นห่วงก็แต่ความรู้สึกของคุณอั๋น ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเรื่องนี้เขาไม่ได้เกี่ยวข้องเลยด้วยซ้ำ
.
.
ตั้งแต่ตอนนั้นมาจนถึงบ้านผมไม่คุยกับเขาสักคำ เขาอุ้มผมขึ้นมานอนบนเตียงแล้วเดินไปล็อกประตูเอาไว้ กลับมายืนเท้าสะเอวมองหน้าผมอย่างเอาเรื่อง ผมไม่แม้จะมองหน้าเขา หันหน้าหนีไปอีกทาง
“ฉันว่ามันเริ่มไปกันใหญ่แล้ว ถึงยังไงเธอก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสะใภ้แม่ของฉันแล้ว ไม่ควรไปยืนจูบกับคนอื่นอย่างนั้น ห้ามมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกเด็ดขาด!”
“มันเป็นความผิดของผมเหรอครับ” ผมหันไปมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจ มันไม่ใช่ความผิดของผมเลย คนที่ผิดคือเขาที่พาผมเข้ามาอยู่ในวังวนนี้
“ใช่! ตั้งแต่เธอเข้ามาในบ้าน ชีวิตฉันมันก็ยุ่งยากไปหมด แทนที่จะได้สบายใจเหมือนอย่างที่คิดเอาไว้แต่ไม่เลย ต้องมายุ่งวุ่นวายกับเธอกับคุณแม่ เหมือนเอาตัวปัญหามาแขวนคอเอาไว้”
“จบเรื่องนี้สิครับ บอกคุณแม่ว่าแค่จ้างผมมาแล้วให้ผมกลับไป หรือไม่ก็เลิกกับซอนย่าเพื่อให้คุณแม่สบายใจ ชีวิตคุณมีทางเลือกแค่สองทางนี้เท่านั้น”
“อย่ามาสู่รู้ มาอย่าบงการชีวิตฉัน”
“ถ้าทำไม่ได้ก็รีบกลับเถอะ ผมจะพักผ่อน”
กล่าวแล้วทอดกายลงนอน หันหน้าหนีไปอีกฝั่ง กอดอกอย่างรู้สึกเซ็งขั้นสุด ความรักทำให้คนตาบอดมันคือเรื่องจริง ในตอนนี้ผมเริ่มคิดอยากช่วยให้ความฝันของคุณนายวิมลสำเร็จจริง ๆ แล้วล่ะ...ทำให้สองคนนั้นเลิกกัน
ปิดเปลือกตาลงได้ไม่นานก็ต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เพราะคุณนาธานตามขึ้นมาบนเตียง คว้าข้อมือผมไปตรึงไว้เหนือศีรษะ สีหน้าและแววตาเขาคล้ายกับจะฆ่าคนตายได้ในวินาทีนี้ ความกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามาจับใจอีกครั้ง
“คุณจะทำอะไร ปล่อยผมนะ”
“อวดดี อวดเก่ง ปากเก่ง คิดว่าตัวเองเป็นใคร” น้ำเสียงเย็นยะเยือกน่าขนลุก แม้ใจจะสั่นไหวแต่สีหน้าและแววตาทำเป็นเก่งสู้
“ถ้าไม่ปล่อยผมจะร้องให้คนใช้ทั้งบ้านได้ยินว่าคุณคิดจะทำอะไรผม ผมจะบอกให้หมดว่าคุณจ้างมาทำอะไรที่นี่ อื้อ...”
ร่างใหญ่ส่งริมฝีปากเข้ามาปิดปากผมอย่างรวดเร็ว ผมพยายามบิดข้อมือแต่ไม่เป็นผลสำเร็จ เรี่ยวแรงอันน้อยนิดมีหรือจะสู้เขาได้ ริมฝีปากน้อย ๆ ถูกบดขยี้อย่างดูดดื่ม เขาละมือข้างหนึ่งมาฉีกเสื้อของผมอย่างป่าเถื่อน ตามด้วยกางเกงทั้งชั้นนอกและใน ร่างอันเปลือยเปล่าของผมดิ้นพล่านใต้ร่างหนา รสจูบยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ลมหายใจถี่กระชั้นบ่งบอกว่าเขากำลังมีอารมณ์มากเพียงใด หากทว่าในตอนนี้ผมแทบจะหมดลมหายใจตายลงตรงนี้เสียแล้ว
“อื้อ...”
ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายตบหน้าเขาซ้ำ ๆ เพื่อให้หยุด ดูเหมือนว่ามันจะได้ผลเขายอมปล่อยแล้วพลิกตัวไปนอนข้างผม ถอนหายใจเฮือกใหญ่ราวกับหงุดหงิดมากเหลือเกิน
“จะไปไหนก็ไป”
“คุณนั่นล่ะจะไปไหนก็ไป ผมไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์ของใคร บอกแล้วไงว่าครั้งนั้นครั้งเดียวจะไม่มีอีก คุณไม่มีสิทธิ์มาแตะเนื้อต้องตัวผมเข้าใจไว้ด้วย”
“เออ! ฉันไม่มีสิทธิ์ แต่ถ้าฉันจะเอาใครก็ห้ามไม่ได้”
“แฟนคุณก็มีไปเอากับเธอสิ เธออยากให้ไปหาอยู่ไม่ใช่เหรอ!”
ผมตะโกนกลับไปอย่างเหลืออด น้ำตาไหลอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ลงจากเตียงเดินเขย่งเท้าออกมาจากห้อง ส่วนเขาก็เดินตามออกมาติด ๆ ล่วงหน้าลงไปก่อน ลงมาถึงชั้นล่างแล้วก็เจอกับป้าสร้อย จึงยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มให้หมด ในตอนนั้นได้ยินเสียงเร่งเครื่องยนต์ก่อนจะขับออกไปจากรั้วบ้าน
“กลับมาแล้วเหรอคะ”
“ครับป้าสร้อย”
“แล้วทำไมเดินแบบนี้ละคะ เกิดอะไรขึ้น!”
“เกิดอุบัติเหตุที่งานวันนี้นิดหน่อยครับ ไม่เป็นอะไรมาก”
“มานั่งก่อนค่ะอย่าเพิ่งเดินมาก เดี๋ยวป้าไปเอายามานวดให้”
“ขอบคุณครับป้าสร้อย”
ป้าสร้อยนำยามานวดให้ ในระหว่างนั้นท่านชวนผมคุยเรื่องงานวันนี้ ตบท้ายด้วยคำถามที่เป็นประเด็นสำคัญนั่นก็คือ...
“อย่าหาว่าป้าสอดรู้สอดเห็นเลยนะคะ คุณบิวทะเลาะกับคุณนาธานมาใช่ไหมคะ”
“นิดหน่อยครับป้า แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” ผมฝืนยิ้มให้ป้าสร้อย
“ไม่ใหญ่ได้ยังไงกันคะ ร้อยวันพันปีป้าไม่เคยเห็นคุณนาธานอารมณ์ร้อนอย่างนั้นมาก่อน เสียงเร่งเครื่องดังขนาดนั้นแสดงว่าต้องโมโหมากแน่ ๆ”
“ก็แล้วแต่เขาเลยครับ ผมไม่สนใจหรอก”
“งั้นป้าเข้าครัวก่อนนะคะ คุณบิวนั่งพักอยู่ตรงนี้อย่าเพิ่งเดินนะคะ”
“ขอบคุณครับป้าสร้อย”
ท่านคงอยากถามให้ลึกกว่านี้ แต่เห็นสีหน้าผมแล้วคงเกรงใจ เมื่อนั่งอยู่คนเดียวแล้วผมก็ระบายน้ำตาออกมาให้เต็มเหนี่ยว ตอนนี้เขาเริ่มล้ำเส้นเกินไปแล้ว คิดจะมาทำเหมือนผมเป็นเมียบำเรอ เป็นอีตัวที่อยากจะได้ตอนไหนก็ได้ ผมจะไม่ยอมเป็นอย่างนั้นแน่
*-*-*-*-*-*-*
หลายวันที่ผ่านมาคุณนาธานไม่ย่างกรายกลับเข้ามาในบ้านเลย คุณนายวิมลถามว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นผมจึงโกหกไปว่าเขาเริ่มระแวง เริ่มสงสัยว่าผมอาจจะมีข้อตกลงบางอย่างกับคุณนายวิมล ท่านรับรู้แต่ไม่ยอมพูดอะไร ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้สั่งให้ทำอะไร ผมจึงใช้ชีวิตไปวัน ๆ ทำกับข้าว ทำงานอดิเรกไปเรื่อย
แต่วันนี้หลังจากใส่บาตรในตอนเช้าแล้วกำลังจะถือของกลับจู่ ๆ ก็หน้ามืดคล้ายจะเป็นลม ป้าสร้อยกับคุณนายวิมลจึงช่วยกันพยุงมานั่งในห้องรับแขก นำยาหอมมาให้ดมจนรู้สึกดีขึ้น คุณนายวิมลถามว่าจะไปโรงพยาบาลไหมจะได้เรียกให้คุณนาธานมารับ ผมปฏิเสธเพราะไม่อยากเห็นหน้าเขา
“ตอนแรกกะว่าจะให้เธอไปทำธุระที่ต่างจังหวัดให้”
“ไปทำธุระอะไรที่ไหนครับ” ผมหูผึ่งทันทีเมื่อรู้ว่ามีโอกาสจะได้ออกไปใช้ชีวิตที่อื่นบ้าง
“พอดีว่าญาติที่เชียงใหม่กำลังจะเปิดรีสอร์ตใหม่ เชิญไปร่วมงานที่นั่น แต่ช่วงนั้นฉันติดทริปเที่ยวยุโรปกับเพื่อนน่ะสิ เลยกะว่าจะให้เธอช่วยเป็นธุระให้”
“มันจะดีเหรอครับ ผมเป็นใครก็ไม่รู้”
“ก็ไปในนามตัวแทนฉันไงล่ะ แค่เอาของไปร่วมแสดงความยินดีจากนั้นก็เที่ยวให้เต็มที่ค่อยกลับมา แต่เธอไม่ค่อยสบายไม่รู้จะไปได้ไหม”
“ไปได้ครับ ตอนนี้ผมดีขึ้นแล้ว ว่าแต่...จะให้ผมไปกับใครครับ” ผมนั่งลุ้นตัวเกร็งกลัวว่าท่านจะให้ไปพร้อมกับคุณนาธาน เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นผมไม่ยอมไปแน่
“ไปคนเดียวน่ะสิ คิดว่าฉันจะให้ไปกับตานาธานรึยังไง”
ได้ยินอย่างนั้นก็ถอนหายใจอย่างรู้สึกโล่ง
“ตอนแรกก็คิดครับ แต่ตอนนี้ไม่คิดแล้ว ขอให้ผมอยู่ห่างเขาสักพักบ้างเถอะครับคุณแม่ ผมสัญญาว่าถ้าชาร์จพลังงานจนเต็มแล้วจะกลับมาสานต่อภารกิจให้คุณแม่อย่างเต็มที่ รับรองว่าคุณนาธานและยัยซอนย่าจะต้องเลิกกันภายในหนึ่งเดือนแน่นอน”
“สาธุ! ขอให้มันเป็นอย่างนั้น ตอนนี้ความหวังของฉันขึ้นอยู่กับเธอแล้วล่ะ”
“ตอนแรกผมคิดว่ามันไม่ค่อยดีที่ทำให้คนรักต้องเลิกกัน แต่เมื่อรู้นิสัยของยัยซอนย่าแล้วไม่สงสารอะไรเลย ยัยนั่นร้ายกาจเหมือนที่คุณแม่พูดเลยครับ ผมเจอกับตัวตอนงานเดินแบบแล้ว”
“อ้าว! เธอไปโดนยัยนั่นทำอะไรมา”
“ก็ที่ผมล้มบนเวทีเพราะโดนยัยนั่นขัดขาน่ะสิครับ”
“เห็นไหมล่ะเป็นอย่างที่ฉันพูดไม่ผิด ตอนนี้เราลงเรือลำเดียวกันแล้วต้องทำให้สำเร็จนะ”
“ครับคุณแม่ ผมจะสู้สุดใจเลยครับ”
“ดีมากกกก”
คุณนายวิมลยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างพอใจ ส่วนป้าสร้อยเองก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน สองคนนี้เป็นเจ้านายกับลูกน้องที่เข้าขากันมาก นึกว่าเพื่อนร่วมรุ่นอะไรเทือกนั้น ส่วนตอนนี้ผมรู้สึกดีเป็นบ้าเพราะจะได้ออกไปเที่ยวเชียงใหม่เพียงลำพัง ไม่ต้องเจอหน้าไอ้ผู้ชายสายหื่นนั่นอีกหลายวัน
บทที่ 7เป็นของเล่นก็พอได้ ในที่สุดผมก็ได้โบยบินออกจากกรงทองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เดินทางมายังเชียงใหม่ตั้งแต่เช้า ถึงสนามบินก็มีรถจากทางรีสอร์ตมารอรับถึงที่ เดินทางจากตัวเมืองไม่ไกลนักก็มาถึงที่หมาย รีสอร์ตแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควร ฉากหลังเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน บรรยากาศดีมาก วันนี้คึกคักเป็นพิเศษเพราะเปิดรีสอร์ตอย่างเป็นทางการ และเปิดต้อนรับนักเที่ยวเป็นวันแรกอีกด้วย ห้องพักที่ทางรีสอร์ตเตรียมไว้ให้เป็นบ้านน็อกดาวน์หลังเล็ก ๆ ติดกับลำธารน้ำไหล มีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ทัศนียภาพของที่นี่ช่างงดงาม เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจจริง ๆ หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่แล้วก็แต่งตัวหล่อ ๆ ออกไปร่วมแสดงความยินดีตามที่คุณนายวิมลได้วานมา เดินออกมาได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็เจอกับพนักงานสาวสวยซึ่งกำลังจะเดินมาหาผมพอดี เมื่อได้คุยกันนางบอกว่าทางคุณปัญจรีย์ให้มารับผมไปงานด้วยเกรงว่าจะห
บทที่ 8รู้สึกแปลกไป ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วผมก็ต้องเป็นคนดูแลคุณนาธานอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขายังคงลงน้ำหนักเท้าได้ไม่มาก แทนที่จะกลับกรุงเทพมหานครแต่สั่งให้พากลับมายังห้องพักห้องเดิม ส่วนผมไม่มีทางกลับเพราะตั้งใจจะมาเที่ยวทั้งทีต้องเที่ยวให้หนำใจ เขาเจ็บอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะตามไปแกล้งผม เมื่อรู้ข่าวคุณป้าปัญจรีย์ก็เข้ามาเยี่ยมถึงห้องพัก ท่านถามว่าจะกลับกรุงเทพฯเลยไหมจะได้เตรียมรถและตั๋วเครื่องบินให้หลานชาย แต่เมื่อคุณนาธานปฏิเสธและบอกว่าจะอยู่เที่ยวที่นี่สักพักก่อน ท่านจึงเปลี่ยนแผนสั่งให้คนนำรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งมาให้ เพื่อจะได้ขับไปเที่ยวได้ตามสบายใจ รถก็มีแล้วจะขาดก็แต่เงินเท่านั้น กระเป๋าสตางค์ก็ยังไม่ได้คืน ผมจึงคิดว่าจะต้องใช้วิธีสกปรกเพื่อเอาเงินมาจากคุณนาธาน รอช่วงที่เขาหล
บทที่ 1 เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย “แม๊!!!!!!!!” เสียงโวยวายดังลั่นบ้านนั้นไม่ใช่เสียงใคร เป็นเสียงของผมเองครับ จู่ ๆ แม่ก็มาบอกว่าให้เก็บข้าวเก็บของเพราะวันพรุ่งนี้จะมีคนมารับไปทำงานด้วย ผมผู้ซึ่งนั่งโซ้ยมาม่าพร้อมกับหางานทำไปด้วยก็กรี๊ดลั่นบ้านเลยทีเดียว เพิ่งเรียนจบแท้ ๆ แต่แม๊!!! ดันหางานให้ผมซะแล้ว สวัสดีครับ ผมชื่อ ‘บิว’ พีรพล มนตรีอิสระ อายุยี่สิบสองปี เพิ่งเรียนจบด้านไอทีมาหมาด ๆ ตั้งใจว่าจะหางานทำตรงสายให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ออกไปจากบ้านหลังนี้เสียที เพราะเบื่อแม่ผีพนันเข้าสิงจนหางานให้ผมนี่ล่ะ งานดี ๆ จะไม่ว่าเลยแต่งานที่หามาให้นั่นคือเป็นเมียรับจ้างของมาเฟียเจ้าของบ่อนการพนันที่แม่ติดหนี้ไว้ แค่คิดก็ขนลุกขนพองสยองเกล้า! ชีวิตผมทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย! “แกจะโวยวายหาหอกอะไร! ฉันไม่ได้จะขายแกสักหน่อย แค่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แลกกับหนี้เท่านั้น” “เล็กน้อยงั้นเหรอแม่ เงินเป็นล้านแม่เล่นไปได้ยังไงกัน ชีวิตผมต้องหมดอิสรภาพก็เพราะแม่” “เอาน่า แค่ไม่กี่เดือนเองก็จะได้เป็นอิสระแล้ว อยู่ที่นั่
บทที่ 2สะใภ้คนใหม่ ในที่สุดผมก็ได้เข้ามาสู่รั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ของคุณนาธานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่างใหญ่โตเสียนี่กระไร ถนนทางเข้าบ้านกว้างกว่าถนนเข้าซอยบ้านผมเสียอีก มีคนรับใช้มายืนต้อนรับหน้าบ้านจำนวนหลายคนอย่างกับในละคร เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกรวยขึ้นมาทันทีเลยล่ะ เมื่อรถจอดเทียบหน้าบ้านแล้วก็มีคนเปิดประตูรถให้เราทั้งคู่ ผมทำตัวไม่ถูกเมื่อจู่ ๆ ก็กลายมาเป็นเจ้าชายในชั่วข้ามคืน แม้ความเป็นจริงจะเป็นเจ้าชายกำมะลอก็ตามที แต่ดู ๆ ไปแล้วที่นี่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดแฮะ “ยินดีต้อนรับคุณนาธานกลับบ้านครับ / ค่ะ” “ยินดีต้อนรับคุณบิวครับ / ค่ะ” “สวัสดีครับทุกคน” ผมยิ้มเขินพลางยกมือไหว้ทุกคนอย่างไม่คุ้นชิน หันไปมองหน้าคุณนาธานก็เห็นเพียงความเย็นชา เขาทำหน้าราวกับว่ารำคาญผมเต็มทนแล้ว คว้ามือลากผมให้เดินตามเข้าไปในบ้าน พยายามบิดข้อมือพลางส่งสายตาดุให้เขาแต่ไม่ได้ผลเลยสักนิด “ปล่อยผมนะคุณ” “เธออย่าทำตัวเงอะงะซื่อบื้อได้ไหม ทำตัวให้สมกับเป็นเมียมาเฟียอย่างฉันหน่อยสิ” “ก็ผมไม่ใช่เมียคุณจริง ๆ
บทที่ 3ไม่มีทางเลือก เช้าวันใหม่ของผมในรั้วคฤหาสน์แอนเดสันได้เริ่มต้นจากการได้ยินเสียงคนเปิดลิ้นชัก ดังกุกกักเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง หันไปมองก็เห็นคุณนาธานสวมใส่ชุดสูทอย่างเนี้ยบเตรียมตัวจะออกไปข้างนอกแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะตื่นเช้ากว่าผมเสียอีก “คุณจะไปแล้วเหรอ หาววว” ว่าแล้วก็อ้าปากหาวหวอด ส่งมือขึ้นเกาศีรษะแกร็ก ๆ หมดสภาพคนหน้าตาดีกันเลยทีเดียว “อยู่ที่นี่ตื่นให้มันเช้า ๆ หน่อย แม่ฉันเป็นคนเข้มงวด อย่าทำอะไรให้มันเดือดร้อนมาถึงฉันก็แล้วกัน อยากได้อะไรก็บอก จะสั่งคนส่งมาให้” กล่าวแล้วก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้ผมนั่งทำหน้ายุ่งอยู่คนเดียว แต่เมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้นผมก็ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความเริงร่า เพราะนับจากนี้ห้องนี้จะเป็นของผมคนเดียวแล้ว หลังจากนั้นก็ไปอาบน้ำอย่างสบายใจ แต่งตัวให้เรียบร้อยที่สุดเพื่อเอาใจคุณนายวิมล เลือกในตู้ที่คุณนาธานซื้อมาไว้นั่นล่ะครับ เดินลงมาข้างล่างก็เห็นแม่บ้านสูงวัยกำลังตั้งโต๊ะ จึงเดินเข้าไปทักทายเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ป้าแม่บ้านคนนี้ชื่อ ‘ป้าแหวน’ ทำงานที่นี่มาตั้งแต่สมัยสาว ๆ จนกระทั่งต
บทที่ 4แค่ครั้งเดียว นึกถึงเหตุการ์เมื่อคืนนี้ผมยังคงขนลุกไม่หาย คุณนายให้ผมดื่มน้ำแกงอะไรสักอย่างในถ้วยกระเบื้องสีขาว รสชาติขมมาก แทบอยากจะอ้วกออกมา แต่โดนสั่งห้ามเอาไว้จึงต้องกลืนมันลงไปจนเกลี้ยง แค่นั้นยังไม่พอบังคับให้นั่งอยู่ในวงล้อมสายสิญจน์เพื่อฟังบทสวดประหลาดจากท่านจนจบ ปิดท้ายด้วยการใช้มือตบเบา ๆ ที่หน้าท้องสามครั้งอีกด้วย เสร็จพิธีก็ถูกไล่ให้กลับห้องนอนโดยไม่พูดหรืออธิบายอะไรให้ฟังเลย ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก วันนี้คุณนายวิมลโทรเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้กลับมาที่บ้านโดยด่วนให้เหตุผลว่าผมไม่สบาย โทรแล้วโทรอีกจนเขารำคาญกระมังเลยต้องกลับมาที่คฤหาสน์ ออฟฟิศกับบ้านเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ถ้าถามผมว่าไกลไหมตอบว่าไม่ แต่เหตุผลที่เขาไม่ยอมกลับมานอนค้างที่บ้านคงเป็นเพราะต้องการอยู่กับแฟนสาวอย่างสบายใจกระมัง แฟนของคุณนาธานก็คือซอนย่านั่นล่ะครับ เธอเป็นนางเอกซูเปอร์สตาร์ มีชื่อเสียงระดับประเทศ สวยและมีความสามารถ ในทีวีดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวานแต่ในชีวิตจริงผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณนายวิมลไม่ชอบขี้หน้า
บทที่ 5สะใภ้ตัวจริง ช่วงเวลาที่สุดแสนจะกลัดกลุ้มได้ผ่านพ้นไปแล้ว เขากลับไปในช่วงค่ำของวันนั้น ส่วนผมนั่งร้องไห้อยู่ในห้องนานหลายชั่วโมงกว่าจะทำใจได้ สรุปว่าผมมาทำอะไรที่นี่ มาขายตัวหรือมาเป็นเมียหลอก ๆ หรือมาเป็นสะใภ้หลอก ๆ เริ่มไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน คุณนายวิมลให้คนมาเรียกลงไปที่ห้องรับแขก ผมจึงต้องรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หากทว่าดวงตายังคงแดงก่ำมิอาจปกปิดได้ ลงมาถึงแล้วก็เห็นท่านนั่งอ่านนิยายวายเรื่องโปรดรออยู่ก่อนแล้ว จึงยกมือไหว้แล้วนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าก้มตาไม่อยากให้ท่านมองเห็นร่องรอยของการร้องไห้มา “เป็นยังไงบ้าง” “ไม่เป็นไรครับคุณแม่” น้ำเสียงของผมสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ว่าจะไม่ร้องแล้วนะแต่พอมีคนมาสะกิดความรู้สึกนั้นอีกทีก็ต้องอ่อนแออีกครั้ง “ฉันขอโทษที่ทำอย่างนั้นลงไป ฉันแค่อยากให้เธอกับนาธานผูกพันกัน ทุกอย่างมันจะได้ง่ายขึ้น” “คุณแม่ต้องการแค่นั้นเองเหรอครับ ไม่ห่วงความรู้สึกผมเลยเหรอครับ ผมขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเสียตัวให้ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ไม่เคยรักเลยด้วยซ้ำและไม่คิ
บทที่ 8รู้สึกแปลกไป ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วผมก็ต้องเป็นคนดูแลคุณนาธานอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขายังคงลงน้ำหนักเท้าได้ไม่มาก แทนที่จะกลับกรุงเทพมหานครแต่สั่งให้พากลับมายังห้องพักห้องเดิม ส่วนผมไม่มีทางกลับเพราะตั้งใจจะมาเที่ยวทั้งทีต้องเที่ยวให้หนำใจ เขาเจ็บอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะตามไปแกล้งผม เมื่อรู้ข่าวคุณป้าปัญจรีย์ก็เข้ามาเยี่ยมถึงห้องพัก ท่านถามว่าจะกลับกรุงเทพฯเลยไหมจะได้เตรียมรถและตั๋วเครื่องบินให้หลานชาย แต่เมื่อคุณนาธานปฏิเสธและบอกว่าจะอยู่เที่ยวที่นี่สักพักก่อน ท่านจึงเปลี่ยนแผนสั่งให้คนนำรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งมาให้ เพื่อจะได้ขับไปเที่ยวได้ตามสบายใจ รถก็มีแล้วจะขาดก็แต่เงินเท่านั้น กระเป๋าสตางค์ก็ยังไม่ได้คืน ผมจึงคิดว่าจะต้องใช้วิธีสกปรกเพื่อเอาเงินมาจากคุณนาธาน รอช่วงที่เขาหล
บทที่ 7เป็นของเล่นก็พอได้ ในที่สุดผมก็ได้โบยบินออกจากกรงทองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เดินทางมายังเชียงใหม่ตั้งแต่เช้า ถึงสนามบินก็มีรถจากทางรีสอร์ตมารอรับถึงที่ เดินทางจากตัวเมืองไม่ไกลนักก็มาถึงที่หมาย รีสอร์ตแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควร ฉากหลังเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน บรรยากาศดีมาก วันนี้คึกคักเป็นพิเศษเพราะเปิดรีสอร์ตอย่างเป็นทางการ และเปิดต้อนรับนักเที่ยวเป็นวันแรกอีกด้วย ห้องพักที่ทางรีสอร์ตเตรียมไว้ให้เป็นบ้านน็อกดาวน์หลังเล็ก ๆ ติดกับลำธารน้ำไหล มีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ทัศนียภาพของที่นี่ช่างงดงาม เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจจริง ๆ หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่แล้วก็แต่งตัวหล่อ ๆ ออกไปร่วมแสดงความยินดีตามที่คุณนายวิมลได้วานมา เดินออกมาได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็เจอกับพนักงานสาวสวยซึ่งกำลังจะเดินมาหาผมพอดี เมื่อได้คุยกันนางบอกว่าทางคุณปัญจรีย์ให้มารับผมไปงานด้วยเกรงว่าจะห
บทที่ 6ภารกิจใหม่ หลังจากถูกเขม่นด้วยสายตาจากนางเอกชื่อดังแล้ว ผมก็มองนางเปลี่ยนไปไม่คิดจะญาติดีด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาคิดอะไรมากเพราะต้องออกไปเดินแบบแล้ว แขกของงานวันนี้มีแต่พวกคุณหญิงคุณนายและไฮโซทั้งนั้น แน่นอนว่าคุณนายวิมลต้องบังคับให้ลูกชายมาด้วย ไม่สิ! หากจะบอกว่าบังคับก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะเขาเองก็คงอยากจะมาให้กำลังใจแฟนสาวด้วย รอบแรกของการเดินแบบผ่านไปด้วยดี การเดินของวันนี้จะเดินเป็นคู่ชายหญิง คู่ของผมเป็นนางแบบอาชีพที่มีสกิลการเดินค่อนข้างดีมาก ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจที่มีคู่เดินซึ่งมีประสบการณ์มาก่อน พวกเราเข้ามาเปลี่ยนชุดอย่างเร่งรีบ ทุกอย่างดูวุ่นวายไปเสียหมด ชุดที่สองสำหรับงานในวันนี้เป็นชุดผ้าไหมที่ออกแบบตัดเย็บให้ดูทันสมัย ทุกครั้งที่ผมเข้ามาเปลี่ยนชุดซอนย่าก็ออกไปเดินบนเวที โชคดีที่เราไม่ได้เดินพร้อมกันมิเช่นนั้นคงเกิดซีนขัดแข้งขัดขาเหมือนในละครเป็นแน่
บทที่ 5สะใภ้ตัวจริง ช่วงเวลาที่สุดแสนจะกลัดกลุ้มได้ผ่านพ้นไปแล้ว เขากลับไปในช่วงค่ำของวันนั้น ส่วนผมนั่งร้องไห้อยู่ในห้องนานหลายชั่วโมงกว่าจะทำใจได้ สรุปว่าผมมาทำอะไรที่นี่ มาขายตัวหรือมาเป็นเมียหลอก ๆ หรือมาเป็นสะใภ้หลอก ๆ เริ่มไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน คุณนายวิมลให้คนมาเรียกลงไปที่ห้องรับแขก ผมจึงต้องรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หากทว่าดวงตายังคงแดงก่ำมิอาจปกปิดได้ ลงมาถึงแล้วก็เห็นท่านนั่งอ่านนิยายวายเรื่องโปรดรออยู่ก่อนแล้ว จึงยกมือไหว้แล้วนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าก้มตาไม่อยากให้ท่านมองเห็นร่องรอยของการร้องไห้มา “เป็นยังไงบ้าง” “ไม่เป็นไรครับคุณแม่” น้ำเสียงของผมสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ว่าจะไม่ร้องแล้วนะแต่พอมีคนมาสะกิดความรู้สึกนั้นอีกทีก็ต้องอ่อนแออีกครั้ง “ฉันขอโทษที่ทำอย่างนั้นลงไป ฉันแค่อยากให้เธอกับนาธานผูกพันกัน ทุกอย่างมันจะได้ง่ายขึ้น” “คุณแม่ต้องการแค่นั้นเองเหรอครับ ไม่ห่วงความรู้สึกผมเลยเหรอครับ ผมขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเสียตัวให้ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ไม่เคยรักเลยด้วยซ้ำและไม่คิ
บทที่ 4แค่ครั้งเดียว นึกถึงเหตุการ์เมื่อคืนนี้ผมยังคงขนลุกไม่หาย คุณนายให้ผมดื่มน้ำแกงอะไรสักอย่างในถ้วยกระเบื้องสีขาว รสชาติขมมาก แทบอยากจะอ้วกออกมา แต่โดนสั่งห้ามเอาไว้จึงต้องกลืนมันลงไปจนเกลี้ยง แค่นั้นยังไม่พอบังคับให้นั่งอยู่ในวงล้อมสายสิญจน์เพื่อฟังบทสวดประหลาดจากท่านจนจบ ปิดท้ายด้วยการใช้มือตบเบา ๆ ที่หน้าท้องสามครั้งอีกด้วย เสร็จพิธีก็ถูกไล่ให้กลับห้องนอนโดยไม่พูดหรืออธิบายอะไรให้ฟังเลย ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก วันนี้คุณนายวิมลโทรเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้กลับมาที่บ้านโดยด่วนให้เหตุผลว่าผมไม่สบาย โทรแล้วโทรอีกจนเขารำคาญกระมังเลยต้องกลับมาที่คฤหาสน์ ออฟฟิศกับบ้านเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ถ้าถามผมว่าไกลไหมตอบว่าไม่ แต่เหตุผลที่เขาไม่ยอมกลับมานอนค้างที่บ้านคงเป็นเพราะต้องการอยู่กับแฟนสาวอย่างสบายใจกระมัง แฟนของคุณนาธานก็คือซอนย่านั่นล่ะครับ เธอเป็นนางเอกซูเปอร์สตาร์ มีชื่อเสียงระดับประเทศ สวยและมีความสามารถ ในทีวีดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวานแต่ในชีวิตจริงผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณนายวิมลไม่ชอบขี้หน้า
บทที่ 3ไม่มีทางเลือก เช้าวันใหม่ของผมในรั้วคฤหาสน์แอนเดสันได้เริ่มต้นจากการได้ยินเสียงคนเปิดลิ้นชัก ดังกุกกักเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง หันไปมองก็เห็นคุณนาธานสวมใส่ชุดสูทอย่างเนี้ยบเตรียมตัวจะออกไปข้างนอกแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะตื่นเช้ากว่าผมเสียอีก “คุณจะไปแล้วเหรอ หาววว” ว่าแล้วก็อ้าปากหาวหวอด ส่งมือขึ้นเกาศีรษะแกร็ก ๆ หมดสภาพคนหน้าตาดีกันเลยทีเดียว “อยู่ที่นี่ตื่นให้มันเช้า ๆ หน่อย แม่ฉันเป็นคนเข้มงวด อย่าทำอะไรให้มันเดือดร้อนมาถึงฉันก็แล้วกัน อยากได้อะไรก็บอก จะสั่งคนส่งมาให้” กล่าวแล้วก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้ผมนั่งทำหน้ายุ่งอยู่คนเดียว แต่เมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้นผมก็ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความเริงร่า เพราะนับจากนี้ห้องนี้จะเป็นของผมคนเดียวแล้ว หลังจากนั้นก็ไปอาบน้ำอย่างสบายใจ แต่งตัวให้เรียบร้อยที่สุดเพื่อเอาใจคุณนายวิมล เลือกในตู้ที่คุณนาธานซื้อมาไว้นั่นล่ะครับ เดินลงมาข้างล่างก็เห็นแม่บ้านสูงวัยกำลังตั้งโต๊ะ จึงเดินเข้าไปทักทายเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ป้าแม่บ้านคนนี้ชื่อ ‘ป้าแหวน’ ทำงานที่นี่มาตั้งแต่สมัยสาว ๆ จนกระทั่งต
บทที่ 2สะใภ้คนใหม่ ในที่สุดผมก็ได้เข้ามาสู่รั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ของคุณนาธานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่างใหญ่โตเสียนี่กระไร ถนนทางเข้าบ้านกว้างกว่าถนนเข้าซอยบ้านผมเสียอีก มีคนรับใช้มายืนต้อนรับหน้าบ้านจำนวนหลายคนอย่างกับในละคร เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกรวยขึ้นมาทันทีเลยล่ะ เมื่อรถจอดเทียบหน้าบ้านแล้วก็มีคนเปิดประตูรถให้เราทั้งคู่ ผมทำตัวไม่ถูกเมื่อจู่ ๆ ก็กลายมาเป็นเจ้าชายในชั่วข้ามคืน แม้ความเป็นจริงจะเป็นเจ้าชายกำมะลอก็ตามที แต่ดู ๆ ไปแล้วที่นี่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดแฮะ “ยินดีต้อนรับคุณนาธานกลับบ้านครับ / ค่ะ” “ยินดีต้อนรับคุณบิวครับ / ค่ะ” “สวัสดีครับทุกคน” ผมยิ้มเขินพลางยกมือไหว้ทุกคนอย่างไม่คุ้นชิน หันไปมองหน้าคุณนาธานก็เห็นเพียงความเย็นชา เขาทำหน้าราวกับว่ารำคาญผมเต็มทนแล้ว คว้ามือลากผมให้เดินตามเข้าไปในบ้าน พยายามบิดข้อมือพลางส่งสายตาดุให้เขาแต่ไม่ได้ผลเลยสักนิด “ปล่อยผมนะคุณ” “เธออย่าทำตัวเงอะงะซื่อบื้อได้ไหม ทำตัวให้สมกับเป็นเมียมาเฟียอย่างฉันหน่อยสิ” “ก็ผมไม่ใช่เมียคุณจริง ๆ
บทที่ 1 เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย “แม๊!!!!!!!!” เสียงโวยวายดังลั่นบ้านนั้นไม่ใช่เสียงใคร เป็นเสียงของผมเองครับ จู่ ๆ แม่ก็มาบอกว่าให้เก็บข้าวเก็บของเพราะวันพรุ่งนี้จะมีคนมารับไปทำงานด้วย ผมผู้ซึ่งนั่งโซ้ยมาม่าพร้อมกับหางานทำไปด้วยก็กรี๊ดลั่นบ้านเลยทีเดียว เพิ่งเรียนจบแท้ ๆ แต่แม๊!!! ดันหางานให้ผมซะแล้ว สวัสดีครับ ผมชื่อ ‘บิว’ พีรพล มนตรีอิสระ อายุยี่สิบสองปี เพิ่งเรียนจบด้านไอทีมาหมาด ๆ ตั้งใจว่าจะหางานทำตรงสายให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ออกไปจากบ้านหลังนี้เสียที เพราะเบื่อแม่ผีพนันเข้าสิงจนหางานให้ผมนี่ล่ะ งานดี ๆ จะไม่ว่าเลยแต่งานที่หามาให้นั่นคือเป็นเมียรับจ้างของมาเฟียเจ้าของบ่อนการพนันที่แม่ติดหนี้ไว้ แค่คิดก็ขนลุกขนพองสยองเกล้า! ชีวิตผมทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย! “แกจะโวยวายหาหอกอะไร! ฉันไม่ได้จะขายแกสักหน่อย แค่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แลกกับหนี้เท่านั้น” “เล็กน้อยงั้นเหรอแม่ เงินเป็นล้านแม่เล่นไปได้ยังไงกัน ชีวิตผมต้องหมดอิสรภาพก็เพราะแม่” “เอาน่า แค่ไม่กี่เดือนเองก็จะได้เป็นอิสระแล้ว อยู่ที่นั่