แชร์

บทที่ 5 สะใภ้ตัวจริง

ผู้เขียน: อักษรปรุงรัก
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-12 14:48:36

บทที่ 5

สะใภ้ตัวจริง

            ช่วงเวลาที่สุดแสนจะกลัดกลุ้มได้ผ่านพ้นไปแล้ว เขากลับไปในช่วงค่ำของวันนั้น ส่วนผมนั่งร้องไห้อยู่ในห้องนานหลายชั่วโมงกว่าจะทำใจได้ สรุปว่าผมมาทำอะไรที่นี่ มาขายตัวหรือมาเป็นเมียหลอก ๆ หรือมาเป็นสะใภ้หลอก ๆ เริ่มไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน

            คุณนายวิมลให้คนมาเรียกลงไปที่ห้องรับแขก ผมจึงต้องรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หากทว่าดวงตายังคงแดงก่ำมิอาจปกปิดได้ ลงมาถึงแล้วก็เห็นท่านนั่งอ่านนิยายวายเรื่องโปรดรออยู่ก่อนแล้ว จึงยกมือไหว้แล้วนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าก้มตาไม่อยากให้ท่านมองเห็นร่องรอยของการร้องไห้มา

            “เป็นยังไงบ้าง”

            “ไม่เป็นไรครับคุณแม่” น้ำเสียงของผมสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ว่าจะไม่ร้องแล้วนะแต่พอมีคนมาสะกิดความรู้สึกนั้นอีกทีก็ต้องอ่อนแออีกครั้ง

            “ฉันขอโทษที่ทำอย่างนั้นลงไป ฉันแค่อยากให้เธอกับนาธานผูกพันกัน ทุกอย่างมันจะได้ง่ายขึ้น”

            “คุณแม่ต้องการแค่นั้นเองเหรอครับ ไม่ห่วงความรู้สึกผมเลยเหรอครับ ผมขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเสียตัวให้ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ไม่เคยรักเลยด้วยซ้ำและไม่คิดจะรักด้วย”

            “เธออยากได้อะไรฉันจะให้เธอหมดทุกอย่าง ขอแค่ทำงานนี้ให้สำเร็จ”

            “ผมขอไม่ทำแล้วได้ไหมครับ ผมเกลียดเขา”

            “เกลียดฉันด้วยไหม?”

            “ไม่ได้เกลียดครับ แต่แอบน้อยใจที่คุณแม่เอาแต่ใจจนทำให้ผมต้องอยู่ในสภาพนี้” เอ่ยพลางปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มไปด้วย

            “เข้ามานั่งใกล้ ๆ ฉันสิ” ท่านกวักมือเรียกให้ผมเข้าไปนั่งใกล้ ๆ จึงต้องยอมทำตามอย่างว่าง่าย ถึงแม้ภายในใจจะยังคงขุ่นเคืองอยู่บ้าง

            “ผม ฮึก เสียใจ คุณนาธานเขาใจร้ายเหลือเกิน ไม่อ่อนโยน ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ผมเสียใจที่เขาเป็นคนแรกของผม”

            เมื่อเห็นผมร้องไห้ร้องห่มท่านก็โอบกอดเพื่อให้กำลังใจ “หากจะโทษใครก็มาโทษที่ฉันเถอะ ฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องมาเจอกับเรื่องอย่างนี้ ฉันตั้งใจวางยาพวกเธอทั้งคู่เพื่อให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น ฉันจะรับผิดชอบด้วยการให้เธอเป็นสะใภ้ตัวจริง”

            ได้ยินอย่างนั้นผมก็ตกใจยกใหญ่ เบิกตาแล้วผละตัวออกมามองหน้าท่าน จู่ ๆ จะมาพูดอย่างนี้ได้อย่างไร ในเมื่อคนที่ทำผมไม่คิดจะพิศวาสเลยด้วยซ้ำ ส่วนผมเองก็ไม่มีทางมองเขาในแง่ดี ไม่มีทางยอมตกล่องปล่องชิ้นด้วยแน่ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวก็เกินพอ

            “ไม่เป็นไรครับคุณแม่ ผมจะถือซะว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ผมจะทำงานให้คุณแม่จนเสร็จแล้วก็จะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม ถือซะว่าสิ่งที่เสียไปชดใช้หนี้ให้เขาก็แล้วกัน”

            “แต่ฉันอยากได้เธอมาเป็นสะใภ้ตัวจริงจริง ๆ นะ ฉันว่าเธอดีกว่าแม่นางเอกนั่นตั้งเยอะ”

            “แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกครับคุณแม่ คุณนาธานไม่ได้รักผม ผมเองก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน เราเป็นผู้ชายด้วยกัน เอาตามนี้เถอะนะครับ ไม่ต้องพูดถึงมันอีก แล้วทำภารกิจต่อให้จบ”

            “น่าเสียดายจริง ๆ เธอเป็นสะใภ้ในอุดมคติของฉันเลยนะ แต่ก็ช่างเถอะฉันเคารพการตัดสินใจของเธอ แต่การเสียพรหมจรรย์ในครั้งนี้ฉันจะไม่ให้เสียเปล่า ฉันคิดไว้แล้วว่าจะซื้อบ้านให้ครอบครัวเธอหลังหนึ่งโอนให้เป็นชื่อเธอ หลังจากจบงานนี้แล้วเธอจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หรือหากอยากทำงานกับฉันต่อก็ไม่ว่าฉันยินดีต้อนรับเธอเสมอ”

            “ขอบพระคุณครับคุณแม่ แต่บ้านหลังหนึ่งราคาไม่ใช่น้อย ๆ มันไม่มากไปหน่อยเหรอครับ”

            “ไม่มากไปหรอกเมื่อเทียบกับสิ่งที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องเสียไป เอาเป็นว่าฉันจะเอาแบบมาให้เธอเลือกก็แล้วกัน ถูกใจหลังไหนก็บอกมาได้เลย”

            “ขอบพระคุณครับคุณแม่” ถึงไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนั้น แต่ก็มิอาจปฏิเสธได้ว่าเงินเท่านั้นที่จะบันดาลดลทุกสิ่งให้เกิดขึ้นได้ เมื่อเสียไปแล้วก็ต้องตักตวงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมจะไม่ยอมเสียเปรียบฝ่ายเดียวแน่

            “นับจากนี้เธอต้องเป็นฝ่ายรุก ฉันจะให้คนขับรถไปส่งที่ทำงานของนาธาน ไปประกาศศักดาว่าเธอเป็นใคร”

            “มันจะดีเหรอครับ”

            “ดีสิ ฉันคิดไตร่ตรองดีแล้ว หากไม่รีบก็อาจจะเสียเปรียบแม่นั่น”

            ว่าแล้วท่านก็ยื่นแท็บเล็ดมาให้ดูอะไรบางอย่าง เมื่อมองดูที่หน้าจอซึ่งท่านได้เปิดเอาไว้มันคือข่าวซุบซิบบันเทิง พาดหัวว่านางเอกสาวซอนย่ากำลังซุ่มคบกับนักธุรกิจหนุ่มหล่อชื่อดัง ควงคู่กันไปเที่ยวสองต่อสองอยู่บ่อยครั้ง ภาพที่ปาปารัซซี่ถ่ายมาได้ถึงจะไม่ชัดเจนแต่ก็พอดูออกว่าคือคุณนาธาน

            “ไม่แปลกนี่ครับคุณแม่เพราะเขาเป็นแฟนกัน”

            “แปลกสิ เพราะฉันไม่ชอบขี้หน้าแม่นั่น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะนอกจากเธอจะไปเยือนออฟฟิศของตานาธานแล้ว ยังต้องไปเดินแบบการกุศลที่สมาคมด้วย ฉันรู้ว่าแม่นางเอกนั่นจะไปเดินด้วย”

            “ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลยนะครับ”

            “ไม่เคยก็ต้องเคย ฉันจะจ้างครูมาสอนเดินแบบให้เอง”

            “ก็ได้ครับ”

            ผมต้องก้มหน้ารับบัญชาอย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ ทุกอย่างที่คุณนายวิมลให้ทำล้วนแต่ทำให้เขาเกิดความสงสัยทั้งสิ้น จะต้องหาคำแก้ตัวยังไงให้เอาตัวรอดไปได้ทุกครั้ง ที่สำคัญจะทำยังไงให้สองคนนั้นเลิกกันได้โดยที่ผมไม่ถูกจับได้ว่าเป็นผู้ต้องหา

*-*-*-*-*-*

            วันนี้นับเป็นวันแรกที่ผมได้ออกมาจากรั้วคฤหาสน์แอนเดสัน ทำตัวเชิด ๆ นั่งรถหรู มีคนขับรถส่วนตัว ชีวิตพลิกผันเพียงชั่วข้ามคืนแต่อีกไม่นานก็คงกลับไปเป็นไอ้บิวของแม่เหมือนเดิมแล้ว

            ตึกสูงระฟ้าใจกลางเมืองคือออฟฟิศของคุณนาธาน เขาทำธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ในประเทศก็เป็นธุรกิจประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจด้านการเงินอื่น ๆ ส่วนนอกประเทศเป็นหุ้นส่วนของบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ ทำให้เป็นคนมีหน้ามีตา รู้จักและสนิทสนมกับคนมีสีเสริมบารมีให้ยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นมาเฟียก็ย่อมได้

            คุณนายวิมลบอกว่าเขาอยู่ชั้นสามสิบของตึก ผมภาวนาขอให้เขาไม่อยู่ที่นั่นจะได้มีข้ออ้างกลับไปบอกคุณนายวิมล แต่แล้วความฝันของผมมันก็สูญสลายไป เพราะเมื่อเปิดประตูเข้าไปในนั้นก็เห็นเขายืนสั่งงานลูกน้องอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นผมทุกคนก็มองเป็นตาเดียวกัน ทำได้เพียงยิ้มพลางโบกมือทักทาย ก่อนเขาจะเดินทำหน้าดุเข้ามาหาแล้วคว้ามือออกมาจากห้องนั้นทันที

            “ดะ...เดี๋ยว จะพาผมไปไหนครับ”

            “เธอมาที่นี่ทำไม! ยุ่งไม่เข้าเรื่อง”

            “ก็คุณแม่ให้ผมเอาขนมมาให้คุณ ท่านทำเองกับมือเลยนะ” ผมยิ้มพลางยื่นถุงขนมที่คุณนายวิมลฝากมาให้ลูกชาย เพื่อจะได้มีข้ออ้างมาที่นี่

            เขาวางสายตาไว้ที่ถุงขนมก่อนเลื่อนสายตามาที่ใบหน้าผม เห็นแววตาดุดันก็รู้สึกกลัวไม่น้อย แต่ต้องยิ้มสู้เข้าไว้เพราะเขาไม่น่าจะทำอะไรผมต่อหน้าลูกน้องแน่

            “ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดฝากอะไรมาให้ลูกชาย แต่วันนี้กลับส่งเธอมา มีอะไรที่ฉันไม่รู้หรือเปล่า” แววตาที่ดุดันแปรเปลี่ยนเป็นแววตาอันมีเล่ห์เหลี่ยม เท้าใหญ่ก้าวเข้ามาใกล้ผมจึงต้องถอยหลังไปเรื่อย ๆ ด้วยความกลัว

“มะ...ไม่มีอะไรจริง ๆ เอาให้คุณแล้วผมก็จะกลับ”

“ฉันเป็นนายจ้างเธอนะลืมไปแล้วเหรอ หรือว่าคุณแม่ให้เธอมากกว่านั้นอีก”

“ไม่มีอะไรจริง ๆ ครับคุณนาธาน ผมจะกล้าโกหกคุณได้ยังไง”

กล่าวด้วยความลนลานแล้วหมุนตัวจะหนีไป แต่ตรงหน้ามันคือบันไดน่ะสิ ผมเบิกตาด้วยความตกใจเพราะร่างกำลังจะร่วงลงไปแล้ว หลับตาปี๋นึกถึงพ่อแก้วแม่แก้ว บรรพบุรุษจากทุกภพทุกชาติให้มารวมตัวกันช่วยผมด้วย!

            “ยัยซุ่มซ่าม!”

            คิดว่าตัวเองตายไปแล้วแน่ ๆ แต่ยังคงได้ยินเสียงคุณนาธานอยู่ใกล้มาก ตอนนี้ผมคงอยู่ในนรกขุมที่ร้อยแปดแน่นอน ไม่นะ! ตายแล้วยังต้องมาเจอเขาอีกหรือนี่

            “ลืมตาได้แล้ว”

            “คุณนาธาน ผมยังไม่ตายใช่ไหม”

            “ก็เออน่ะสิ”

            ตอนนี้เขาโอบกอดผมเอาไว้แน่นขนัดราวกับเป็นห่วงมาก เราจ้องตากันจู่ ๆ ภาพในวันวานก็ฉายในหัวอีกครั้ง ใบหน้าผมร้อนระอุขึ้นมาก่อนจะรีบหลบสายตาแล้วเบนหน้าหนี

            “นาธานคะ”

            เสียงหวาน ๆ ของใครบางคนดังขึ้นเราทั้งคู่จึงหันไปมอง ไม่น่าเชื่อว่าซอนย่าจะมาอยู่ตรงนี้แล้ว เมื่อเห็นว่าแฟนสาวมาพบเข้าคุณนาธานก็รีบผลักตัวผมให้ออกห่างทันที

            “ไม่มีอะไรครับซอนย่า เด็กนี่เอาขนมมาส่งน่ะ อ่ะนี่ขนมฝีมือคุณแม่ท่านเอามาฝากซอนย่าน่ะ”

            “จริงเหรอคะ ยังไงก็ฝากขอบคุณคุณแม่ด้วยนะคะ”

            เธอยิ้มด้วยความดีใจอย่างลืมตัว ก่อนเงยขึ้นมามองหน้าผม รอยยิ้มบนใบหน้างามเจื่อนลงทันที สีหน้าและสายตาของนางร้ายเริ่มทำงานทันที

            “ส่งแล้วก็กลับไปสิ ยืนบื้ออยู่ได้”

            “เธอกลับไปได้แล้ว” คุณนาธานผสมโรงอีกเสียง ราวกับผมเป็นตัวน่ารังเกียจซะเหลือเกิน

            ยังไม่ได้ทันพูดอะไรเขาก็โอบไหล่นางเอกสาวกลับเข้าไปในออฟฟิศเสียแล้ว ทิ้งให้ผมยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น กำลังคิดว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่ ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรเลย แถมยังมาเสียท่าให้กับศัตรูอีกด้วย หากคุณนายรู้เข้ามีหวังโดนเอ็ดใหญ่แน่

*-*-*-*-*-*-*

            ช่วงหลายวันที่ผ่านมาคุณนายให้ครูมาสอนเดินแบบที่บ้านอย่างเป็นล่ำเป็นสัน กะว่าจะให้ผมไปเป็นนายแบบมืออาชีพหรืออย่างไรกัน วัน ๆ ไม่ได้ทำอะไรนอกจากเรียน เรียน แล้วก็เรียน ทำเอาแทบไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นเลย ส่วนคุณนาธานไม่เคยโผล่หน้ามาตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันที่จะต้องไปร่วมงานเดินแบบผ้าไทยและเครื่องเพชรมูลค่านับร้อยล้านของคุณหญิงคุณนายทั่วฟ้าเมืองไทย

            วันนี้เราเดินทางมายังโรงแรมที่จัดงานก่อนเวลาหลายชั่วโมงเพื่อให้ผมมาซ้อมเดินแบบบนเวทีจริง ผมพยายามมองหาซอนย่าแต่ไม่พบว่านางมาซ้อมในวันนี้ด้วย จึงแอบกระซิบถามนายแบบและนางแบบที่ซ้อมด้วยกันทราบว่านางไม่เคยมาซ้อมเพราะเป็นงานอยู่แล้ว อีกอย่างหากไม่เดินในชุดฟินนาเล่นางจะไม่รับเด็ดขาด

            ซ้อมเดินบนเวทีจนเริ่มเข้าใจลำดับขั้นตอนของงานแล้วก็มาแต่งหน้า ในระหว่างช่างกำลังช่วยแต่งหน้าให้คุณนายวิมลก็เดินเข้ามาทักทายทุกคน ดูเหมือนว่าคนจะรู้จักและให้ความเคารพนับถือไม่น้อย เพราะคุณนายเป็นไฮโซชื่อดัง แต่คนอื่นยังไม่รู้ว่าผมเป็นใคร

            “สวัสดีค่ะคุณวิมล” พี่ช่างแต่งหน้ารีบยกมือไหว้แล้วทำการละเลงหน้าผมต่อ

            “สวัสดีจ้ะ วันนี้จัดเต็มให้ลูกสะใภ้ฉันหน่อยนะจ๊ะ”

            “อ้าว! นี่ลูกสะใภ้คุณวิมลหรอกเหรอคะ ฉันเข้าใจว่าเป็นคุณซอนย่าซะอีก ไม่นึกเลยว่าคุณนาธานจะมีรสนิยมดีอย่างนี้ หายากนะคะที่แม่สามีรับลูกสะใภ้ที่เป็นผู้ชายได้”

            “ข่าวก็ลงอะไรไปเรื่อยนั่นล่ะ ลูกชายฉันมันก็พ่อปลาไหล แต่จริง ๆ แล้วคนที่เป็นตัวจริงคือหนูบิวนี่ล่ะ ตานาธานพามาฝากเนื้อฝากตัวกับฉันถึงที่บ้านจะไม่ใช่ตัวจริงได้ยังไงล่ะ”

            คุณนายวิมลเอาแต่ยกยอปอปั้นผมยกใหญ่ ทำได้เพียงยิ้มรับอย่างจำใจ แต่อีกใจก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่มีคนเห็นความสำคัญของตัวเองอย่างนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ละครฉากหนึ่งก็เถอะ

            “แม่ไปแล้วนะหนูบิว ยังไงก็สู้ ๆ นะ”

            “ขอบคุณครับคุณแม่”

            ผมยิ้มให้ก่อนท่านจะเดินออกไปจากห้องแต่งตัว นั่งให้พี่ช่างแต่งหน้าสะบัดแปรงต่อไป ตอนนี้ผมเป็นเป้าสายตาของทุกคนในห้องแต่งตัวอย่างช่วยไม่ได้

            “ทำไมไม่ยอมบอกว่าน้องเป็นสะใภ้คุณวิมล ปล่อยให้พี่เข้าใจว่าเป็นนายแบบหน้าใหม่มาเสียนาน”

            “ทำไมต้องบอกด้วยครับพี่ ผมว่ามันก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น วันนี้ผมก็มาเดินแบบเหมือนคนอื่นนี่นา”

            “สำคัญสิ เศรษฐินีไฮโซที่ใครต่างก็อยากได้เป็นแม่สามีแต่จู่ ๆ ก็มาเปิดตัวน้องซะงั้น แสดงว่าน้องต้องถูกใจคุณวิมลมากแน่ ๆ ตอนนี้ใคร ๆ ก็เข้าใจว่าซอนย่าคือตัวจริงของคุณนาธาน เชื่อว่าพรุ่งนี้เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศแน่”

            “ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”

            “ไม่เชื่อคอยดูละกันค่ะ”

            เราคุยกันไปเรื่อยอย่างถูกคอจนกระทั่งแต่งหน้าทำผมเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็ไปแต่งตัวตามชุดที่ได้ถูกกำหนดไว้ให้ ยิ่งใกล้ถึงเวลาที่จะต้องออกไปหน้าเวทีภายในห้องแต่งตัวก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้น แม้จะเคยเรียนจากครูสอนเดินแบบมาอย่างเข้มข้นแต่ผมก็ยังตื่นเต้นเพราะนี่คืองานแรก เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ รู้สึกว่าวันนี้ตัวเองหน้าตาดีขึ้นเป็นกอง ส่องกระจกแล้วยิ้มพลางคิดในใจว่านี่คือผมจริง ๆ หรือ

            ใกล้จะถึงเวลาเริ่มงานก็เห็นซอนย่าเข้ามาพร้อมผู้จัดการ นางแต่งหน้าทำผมมาพร้อมก่อนแล้วและเพิ่งมาสวมใส่ชุดที่นี่ ยอมรับว่าการเป็นดาราดังทำให้มีอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่น มีคนเอาอกเอาใจให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ บังเอิญว่าเราเดินสวนทางกันผมจึงยิ้มทักทายตามมารยาทแต่กลับโดนเมินเสียอย่างนั้น รอยยิ้มจริงใจเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเจื่อน รู้สึกเสียหน้าเป็นบ้าเลยล่ะ

            “แกคงสำคัญตัวเองผิดไป” เอ่ยเบา ๆ กับตัวเอง

ในตอนนั้นพี่ช่างแต่งหน้าคนเดิมได้เดินเข้ามาเติมหน้าให้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะออกไปหน้าเวที จู่ ๆ แกก็พูดประโยคที่ทำเอาซอนย่าต้องหันมาสนใจผม

            “วันนี้น้องบิวน่ารักมากกก เหมาะสมกับการเป็นสะใภ้ตัวจริงของตระกูลแอนเดสันทุกประการค่ะ คุณวิมลอุตส่าห์มาฝากฝังด้วยตัวเองขนาดนี้พี่เลยฟาดหน้าให้ฉ่ำ ๆ ไปเลย วันนี้น้องบิวต้องเฉิดฉายบนเวทีแน่นอนค่ะเชื่อพี่” ดูเหมือนว่าพี่แกตั้งใจให้ซอนย่าได้ยิน

            เมื่อพี่ช่างแต่งหน้าพูดประโยคนั้นจบผมก็ส่งสายตาไปมองซอนย่าเพราะเป็นห่วงความรู้สึกของนาง แต่ดูเหมือนว่าสายตาที่มองมานั้นช่างน่ากลัวเหลือเดิน ยิ่งกว่าที่ผมเจอในออฟฟิศวันนั้นเสียอีก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 6 ภารกิจใหม่

    บทที่ 6ภารกิจใหม่ หลังจากถูกเขม่นด้วยสายตาจากนางเอกชื่อดังแล้ว ผมก็มองนางเปลี่ยนไปไม่คิดจะญาติดีด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาคิดอะไรมากเพราะต้องออกไปเดินแบบแล้ว แขกของงานวันนี้มีแต่พวกคุณหญิงคุณนายและไฮโซทั้งนั้น แน่นอนว่าคุณนายวิมลต้องบังคับให้ลูกชายมาด้วย ไม่สิ! หากจะบอกว่าบังคับก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะเขาเองก็คงอยากจะมาให้กำลังใจแฟนสาวด้วย รอบแรกของการเดินแบบผ่านไปด้วยดี การเดินของวันนี้จะเดินเป็นคู่ชายหญิง คู่ของผมเป็นนางแบบอาชีพที่มีสกิลการเดินค่อนข้างดีมาก ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจที่มีคู่เดินซึ่งมีประสบการณ์มาก่อน พวกเราเข้ามาเปลี่ยนชุดอย่างเร่งรีบ ทุกอย่างดูวุ่นวายไปเสียหมด ชุดที่สองสำหรับงานในวันนี้เป็นชุดผ้าไหมที่ออกแบบตัดเย็บให้ดูทันสมัย ทุกครั้งที่ผมเข้ามาเปลี่ยนชุดซอนย่าก็ออกไปเดินบนเวที โชคดีที่เราไม่ได้เดินพร้อมกันมิเช่นนั้นคงเกิดซีนขัดแข้งขัดขาเหมือนในละครเป็นแน่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 7 เป็นของเล่นก็พอได้

    บทที่ 7เป็นของเล่นก็พอได้ ในที่สุดผมก็ได้โบยบินออกจากกรงทองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เดินทางมายังเชียงใหม่ตั้งแต่เช้า ถึงสนามบินก็มีรถจากทางรีสอร์ตมารอรับถึงที่ เดินทางจากตัวเมืองไม่ไกลนักก็มาถึงที่หมาย รีสอร์ตแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควร ฉากหลังเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน บรรยากาศดีมาก วันนี้คึกคักเป็นพิเศษเพราะเปิดรีสอร์ตอย่างเป็นทางการ และเปิดต้อนรับนักเที่ยวเป็นวันแรกอีกด้วย ห้องพักที่ทางรีสอร์ตเตรียมไว้ให้เป็นบ้านน็อกดาวน์หลังเล็ก ๆ ติดกับลำธารน้ำไหล มีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ทัศนียภาพของที่นี่ช่างงดงาม เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจจริง ๆ หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่แล้วก็แต่งตัวหล่อ ๆ ออกไปร่วมแสดงความยินดีตามที่คุณนายวิมลได้วานมา เดินออกมาได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็เจอกับพนักงานสาวสวยซึ่งกำลังจะเดินมาหาผมพอดี เมื่อได้คุยกันนางบอกว่าทางคุณปัญจรีย์ให้มารับผมไปงานด้วยเกรงว่าจะห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-14
  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 8 รู้สึกแปลกไป

    บทที่ 8รู้สึกแปลกไป ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วผมก็ต้องเป็นคนดูแลคุณนาธานอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขายังคงลงน้ำหนักเท้าได้ไม่มาก แทนที่จะกลับกรุงเทพมหานครแต่สั่งให้พากลับมายังห้องพักห้องเดิม ส่วนผมไม่มีทางกลับเพราะตั้งใจจะมาเที่ยวทั้งทีต้องเที่ยวให้หนำใจ เขาเจ็บอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะตามไปแกล้งผม เมื่อรู้ข่าวคุณป้าปัญจรีย์ก็เข้ามาเยี่ยมถึงห้องพัก ท่านถามว่าจะกลับกรุงเทพฯเลยไหมจะได้เตรียมรถและตั๋วเครื่องบินให้หลานชาย แต่เมื่อคุณนาธานปฏิเสธและบอกว่าจะอยู่เที่ยวที่นี่สักพักก่อน ท่านจึงเปลี่ยนแผนสั่งให้คนนำรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งมาให้ เพื่อจะได้ขับไปเที่ยวได้ตามสบายใจ รถก็มีแล้วจะขาดก็แต่เงินเท่านั้น กระเป๋าสตางค์ก็ยังไม่ได้คืน ผมจึงคิดว่าจะต้องใช้วิธีสกปรกเพื่อเอาเงินมาจากคุณนาธาน รอช่วงที่เขาหล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-15
  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 9 ไม่ได้รัก

    บทที่ 9ไม่ได้รัก เราทั้งสองใช้เวลาอยู่ที่เชียงใหม่สามวันแล้ว แน่นอนว่ายังคงพักที่รีสอร์ตของคุณป้าปัญจรีย์ และยังคงพักห้องเดียวกัน เมื่อยามออกไปเที่ยวผมยังคงกระเตงคุณนาธานซ้อนท้ายไปเหมือนเคย ตากแดดตากลมห่มน้ำค้างด้วยกันมาโดยตลอด ตีกันบ้าง ดีกันบ้าง ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและสถานการณ์ที่พบเจอ พรุ่งนี้ตั้งใจว่าจะกลับกรุงเทพฯแล้ว ป่านนี้คุณนายก็คงใกล้จะกลับมาจากเที่ยวยุโรปเหมือนกัน น่าแปลกที่ท่านไม่โทรมาถามข่าวคราวเราสองคนเลยตั้งแต่เดินทางมาที่นี่ วันนี้ตั้งใจว่าจะนอนพักผ่อนเอาแรงก่อนเดินทางไกล ตื่นตั้งแต่เช้าตั้งใจว่าจะออกไปนั่งจิบกาแฟที่ริมลำธารด้านหลัง สูดกลิ่นอายของอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดให้เยอะ ๆ ก่อนกลับ กำลังจะเดินผ่านเตียงไปก็ต้องเอะใจ วันนี้เขายังคงนอนหลับอยู่บนเตียง ปกติแล้วจะตื่นนอนก่อนผมเสียอีก ไม่ต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 10 หมอยินดีด้วยครับ

    บทที่ 10หมอยินดีด้วยครับ ในที่สุดเราทั้งสองก็กลับมาถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ แต่กว่าจะมาถึงผมต้องเทียวเดินเข้าออกในห้องน้ำบนเครื่องบินเพราะมีอาการอาเจียนอยู่บ่อยครั้ง ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรกันแน่ หากจะว่าอาหารเป็นพิษก็คงไม่ใช่ เพราะไม่มีอาการถ่ายท้องเลย คุณนาธานผู้ซึ่งนั่งอยู่ข้างกันเอาแต่ถามว่าไหวไหม ดูท่าทางเขาจะเป็นห่วงผมมาก แต่ไม่เชื่อหรอกว่านั่นจะออกมาจากใจ “กลับมากันแล้ว” “สวัสดีครับนมสร้อย” “สวัสดีครับป้าสร้อย” เสียงป้าสร้อยดังมาแต่ไกลเมื่อเห็นเราทั้งสองเดินเข้ามาในบ้าน ท่านรับไหว้พลางยิ้มทักทายเหมือนเช่นเคย วันนี้บ้านโล่งคาดว่าคุณนายวิมลคงยังไม่กลับมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 11 กลับบ้าน

    บทที่ 11กลับบ้าน ผมกลับมาที่บ้านอีกครั้งก็พบว่าคุณนายวิมลท่านกลับมาจากยุโรปแล้ว มีของฝากจำนวนไม่น้อยถูกวางไว้บนโต๊ะในห้องรับแขก หากทว่าผมไม่ได้ดีใจกับสิ่งของเหล่านั้นเลย เพราะยังกังวลเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวผม แม้กระทั่งตอนนี้ยังไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่ามีหนึ่งชีวิตน้อย ๆ อยู่ในท้อง ผมขอร้องให้คุณหมอปิดเรื่องนี้เป็นความลับไม่ให้บอกคุณนาธาน ตอนนี้จึงมีเพียงผมเท่านั้นที่รู้เรื่อง แต่เชื่อว่าคุณนายวิมลและป้าสร้อยเองก็คงจะรู้ผลลัพธ์สิ่งที่พยายาม ท่านคงหวังและรอคอยวันนี้มาโดยตลอด ผมจะทำอย่างไรดีในเมื่อตอนนี้มีพันธะเกิดขึ้นกับคนในบ้านหลังนี้แล้ว คุณนาธานยังคงไม่ยอมกลับไปคอนโด เอาแต่ตามเฝ้าผมตลอดเวลาไม่ห่าง คล้ายกับกลัวว่าผมจะหนีไปหรือไม่ก็โทรหาคุณอั๋น ตั้งแต่กลับมาผมยังไม่พูดกับเขาสักคำ และตั้งใจว่าไม่พูดจนกว่าเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-18
  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 12 อีกไม่นานเกินรอ

    บทที่ 12อีกไม่นานเกินรอ ผมรีบวิ่งลงมาจากชั้นบนด้วยความรู้สึกสงสัย ใครกันนะมาหาถึงบ้าน ปกติแล้วไม่เคยมีเพื่อนมาหาที่บ้านนานแล้ว คนที่เคยมาก็มีแค่คนเดียวนั่นคือฮาร์ท ฮาร์ทคือเพื่อนที่เคยอยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่ฮาร์ทไม่ได้คิดกับผมแค่เพื่อน ก่อนเรียนจบเคยสารภาพรักกับผมแต่โดนปฏิเสธไป หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พบเจอหรือพูดคุยกันอีกเลยเดินลงมาก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ฮาร์ทนั่งอยู่บนโซฟาหน้าจอทีวี เห็นเพื่อนในรอบหลายเดือนก็ยิ้มด้วยความดีใจ “ฮาร์ท!” “บิว!” “มาได้ยังไงเนี่ย” “เราคิดถึงเลยมาหาน่ะ” เขาส่งยิ้มมาให้ รอยยิ้มนี้ยังคงจริงใจเสมอไม่เคยเปลี่ยน หากตัดเรื่องค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 13 นาธานการละคร

    บทที่ 13นาธานการละคร ช่วงเวลาสามวันที่บ้าน...ผมรู้สึกว่ามันคือช่วงสุดแสนจะวิเศษนั่นเพราะมีคุณนาธาน ตั้งแต่ได้ยินว่าเขาจะบอกเลิกกับยัยซอนย่าเพื่อผม ก็เปิดใจให้เขามากขึ้น นอกจากผมแล้วแม่กับน้องชายก็เข้าถึงคุณนาธานได้มากขึ้น เขาเป็นคนกินง่ายอยู่ง่าย เข้ากับทุกคนในบ้านได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หากเป็นอย่างนี้ต่อไปผมคงรักเขาได้อย่างเต็มหัวใจเป็นแน่แท้ ในระหว่างนี้เขาไม่แม้จะแตะโทรศัพท์มือถือ เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องกับผมและเจ้าหมูตอนตลอดทั้งวันทั้งคืน ความใกล้ชิดสนิทสนมนี้ทำให้ผมกล้าที่จะพูดและทำตัวเหมือนคนสนิทสนมคุ้นเคยและรู้ใจ ไม่ต่างจากคนที่ใช้คำว่าคู่ชีวิต ที่ผมประทับใจมากนั่นคือเขาลงมือทำกับข้าวให้รับประทาน ซึ่งไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อนเลย หากคุณนายวิมลรู้ว่าคุณนาธานได้เปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้วท่านคงจะดีใจมาก วันน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20

บทล่าสุด

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 30 อวสาน

    บทที่ 30อวสาน สี่ปีผ่านไป... เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาล้วนแต่เป็นประสบการณ์ชีวิต อาจจะมีทั้งดีและร้ายปะปนกันไป ซึ่งได้สั่งสอนให้เราเรียนรู้และสามารถดำเนินชีวิตอย่างมีสติ หากทว่าในบางช่วงเวลาชีวิตของคนเรามักดิ่งลงเหวจนมิอาจปีนป่ายขึ้นมาได้ ต้องทนทุกข์เพราะความคิดด้านมืดของตัวเอง เหมือนเช่นที่ซอนย่าต้องกลายเป็นนางเอกตกอับ ต้องถูกจำคุกในข้อหาจ้างวานฆ่า รับผลกรรมในเรือนจำพร้อมกับคุณคณิน สี่ปีให้หลังชีวิตของผมวุ่นวายมากเพราะบัตเตอร์เติบโตและเข้าเรียนชั้นอนุบาลแล้ว เด็กคนนี้ทั้งดื้อทั้งซน ผิดแปลกจากเมื่อตอนเป็นทารกซึ่งเลี้ยงง่ายมาก แต่ความดื้อความซนกลับทำให้คนเป็นพ่อชอบใจนักแล พาลูกเล่นอะไรที่มันโลดโผน ชอบใช้กำลัง ผมกลัวเหลือเกินว่าโตขึ้นมาจะเป็นนักเลงหัวไม้ ต่อยตีกับคนอื่นไปทั่ว เชื่อแล้วว่าล

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 29 กระต่ายน้อย

    บทที่ 29กระต่ายน้อย วันเวลาผันผ่านมาจนถึงหกเดือนแล้ว ชีวิตผมเริ่มเข้าร่องเข้ารอย ส่วนคุณนาธานยังคงเป็นหัวหน้าสมาคมอีธาร์เช่นเคย แต่เขาน่าเกรงขามและมีความโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิมเสียอีก นั่นเพราะหลังจากได้เปิดตัวผมแล้วมีสมาชิกกลุ่มหนึ่งต่อต้านในความรักของเรา คิดว่าเขาไม่เหมาะจะเป็นหัวหน้าสมาคม การเป็นคนที่น่ากลัวกว่าเดิมมีส่วนทำให้อำนาจที่อยู่ในมือแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ไม่มีคนกล้าต่อต้านเขาแม้แต่น้อย ใช่ว่าผมจะชอบให้เขาเป็นแบบนี้ อยากให้คุณนาธานมีชีวิตที่ผ่อนคลายบ้าง เขาต้องแบกรับทุกอย่างมาโดยตลอด เมื่อกลับมาที่บ้านผมจึงอยากทำให้เขามีความสุขที่สุด ไม่ต้องตีสีหน้าเคร่งขรึมตลอดเวลา บางวันอารมณ์เสียมาจากที่ทำงาน เป็นหน้าที่ของผมต้องทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น ตาหนูก็โตวันโตคืน โชคดีที่แกเป็นเด็กร่าเริง เลี้ยงง่าย เป็นข

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 28 ไม่บ่นสักคำ

    บทที่ 28ไม่บ่นสักคำ “โห่ ฮี่โห่ ฮี่โห่ ฮี่โห่ ฮี่โหยยย ฮิ้ววว” หลังจากเสียงนำขบวนจบลงแล้วก็มีเสียงกลองยาวดังขึ้นทันที วันนี้คฤหาสน์แอนเดสันครึกครื้นเป็นพิเศษ ผมกับแม่อยู่ที่ระเบียงกำลังยืนชมขบวนแห่ขันหมากซึ่งตั้งขบวนอยู่หน้ารั้วบ้าน กำลังเคลื่อนเข้ามาอย่างช้า ๆ โดยมีคุณนายวิมลและป้าสร้อยเดินเคียงข้างเจ้าบ่าวเข้ามา วันนี้คุณนาธานสวมใส่ชุดเจ้าบ่าวซึ่งเป็นชุดไทยประยุกต์ ดูหล่อและมีเสน่ห์มาก เห็นแล้วรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังที่กำลังจะได้แต่งงานกับเขา ถึงจะมีเวลาเตรียมงานแค่ไม่กี่วันแต่ทุกอย่างออกมาเป็นที่น่าพอใจมาก ลืมบอกไปว่าวันนี้คุณอั๋นรับหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ส่วนคุณกายเป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วย “หมดทุกข์หมดโศกสักทีนะไอ้บิว จากนี้ฉ

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 27 ห้ามใจอ่อนกับใครอีก

    บทที่ 27ห้ามใจอ่อนกับใครอีก “คุณนาธาน! คุณยังไม่ตาย ฮึก...” “นาธานลูกแม่ ฮือ...แม่ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” ผมกับคุณนายวิมลต่างก็เอ่ยด้วยความดีใจ รอยยิ้มและน้ำตาปรากฏขึ้นมาพร้อมกัน ไม่เคยมีเรื่องใดทำให้ผมรู้สึกยินดีมากเท่านี้มาก่อน ตอนนี้เป็นอิสระจากบอดี้การ์ดพวกนั้นแล้วเพราะกลัวคุณนาธานจะส่งลูกตะกั่วมาเอาชีวิต ผมรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดเขาด้วยความดีใจ “คนใจร้าย ทำเอาผมแทบจะเป็นบ้าเลยรู้ไหม ฮือ...” “ไม่เอาไม่ร้อง ฉันกลับมาแล้ว” มือหนึ่งของเขายังคงถือปืนสั้น ส่วนอีกมือโอบกอดผมเอาไว้ ลูบเบา ๆ ที่กลางแผ่นหลัง&

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 26 เมียข้าใครอย่าแตะ

    บทที่ 26เมียข้าใครอย่าแตะ ข่าวร้ายในวันนั้นสร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้พวกเราเป็นอย่างยิ่ง ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าศพที่ถูกไฟคลอกอยู่ในรถคือคุณนาธานจริง ๆ วันที่รู้ข่าวคุณนายวิมลเป็นลมล้มพับจนต้องหามส่งโรงพยาบาล ส่วนผมนั่งรถไปยังโรงพยาบาลใกล้กับที่เกิดเหตุ กู้ภัยส่งร่างของเขาไปชันสูตรที่นั่น แม้ร้องไห้เสียใจจนไม่มีกะจิตกะใจทำสิ่งใด แต่ผมก็ฝืนตัวเองไปให้เห็นกับตาว่าเป็นเขาจริง ๆ ผมขอร้องคุณหมอตรวจดีเอ็นเอเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นเขาจริง แต่เมื่อได้รับของจากเจ้าหน้าที่ซึ่งเก็บมาได้จากจุดเกิดเหตุก็ทำให้ต้องล้มเลิกความคิด มันคือของใช้ส่วนตัวของเขา ไม่ว่าจะเป็นแหวน สร้อย นาฬิกา ของพวกนี้เขาไม่เคยถอดไว้ที่ไหนเลย ไม่มีอะไรจะต้องสงสัยอีกต่อไปแล้ว ยืนทำใจอยู่นานกว่าจะกล้าส่งมือไปเปิดผ้าคลุมศพ เพียงได้เห็นน้ำตามันก็ไหลหลั่ง ผมรีบปิดมันเพราะสภาพศพดูไม่ได้เลยจริง ๆ ภาพนี้คงติดตาผมไปจนวันตาย

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 25 ข่าวร้าย

    บทที่ 25ข่าวร้าย หัวใจของผมหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อรู้ว่าตาหนูหายตัวไป เราทั้งหมดรีบเดินเข้าไปยังห้องนอนของผม อู่เปลว่างเปล่าไร้เงาของเด็กทารกซึ่งนอนหลับอยู่ เป็นความชะล่าใจของพวกเราเพราะคิดว่าภายในบ้านคงไม่มีใครกล้า แม่กับป้าสร้อยกินข้าวอยู่ในห้องครัว ผมกับคุณนายวิมลสนทนากันอยู่ในห้องนั่งเล่น ใครกันที่กล้าบังอาจลักพาตัวลูกชายผมไป “ตาหนูลูกแม่ ฮือ...” “ตาหนูหลานย่า ใครกันที่มันบังอาจเข้ามาลักพาตัวหลานฉันถึงในนี้!” คุณนายวิมลตะโกนดังก้องไปทั่วทั้งบ้านด้วยความโกรธขั้นสุด ผมทรุดตัวลงนั่งด้วยความเสียใจ เป็นห่วงลูกชายว่าจะโดนคนพวกนั้นทำอะไรบ้าง เมื่อนึกขึ้นได้ว

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 24 กลับมา

    บทที่ 24กลับมา เมื่อรู้ว่ามีกองทัพนักข่าวบุกเข้ามาถึงถิ่นผมก็เกิดความกังวลใจ ใครก็รู้ว่านักข่าวน่ากลัวกว่าฝูงซอมบี้เสียอีก พวกเขาต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ข่าวไปขาย คนทั้งประเทศกำลังจับตามองคุณนาธาน ต่างก็ส่งเสียงสาปแช่งเพราะไปทำให้นางเอกขวัญใจของพวกเขาเจ็บช้ำน้ำใจ มีหรือที่ผมจะรอดไปได้ อยู่ที่น่านก็เกรงว่าจะได้รับอันตราย มาที่นี่ก็ต้องเจอกับกองทัพนักข่าวอีก ไม่มีทางเลือกอื่นให้สบายใจบ้างเลย “เราจะทำยังไงดีครับคุณแม่” “ไม่ต้องทำอะไร ยังไงก็เข้ามาไม่ได้หรอก ฉันจะสั่งเพิ่มกำลังคนให้เข้มงวดมากขึ้น ไม่ต้องเป็นห่วง” “ครับคุณแม่” “เธอเองก็พักผ่อนเถอะ จะได้มีแรงเล

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 23 บุกรุกบ้าน

    บทที่ 23บุกรุกบ้าน ภาพข่าวถูกปิดด้วยฝีมือของคุณนายวิมล ผมยังคงอึ้งกับภาพที่เห็น คิดไปต่าง ๆ นานาว่าหลังจากนี้จะไปต่ออย่างไร จะตัดสินใจอย่างไร ตอนนี้เรื่องมันกระจ่างแล้วว่าเขาไม่ได้คิดจะแต่งงานกับซอนย่าเพราะความรักเหมือนก่อนหน้า แต่คลิปที่ผมเห็นวันนั้นล่ะ ผมยังไม่อยากเชื่อใจเขาเต็มร้อยเพราะกลัวว่าจะโดนหลอกซ้ำอีก เรื่องที่คาราคาซังระหว่างผมกับเขาอาจจะคลี่คลายลงบ้าง แต่ปัญหาจากการหักหน้าซอนย่าในงานแต่งกำลังจะถาโถมเข้ามา เขาประกาศว่ามีลูกมีเมียแล้ว เชื่อว่าหลังจากนี้นักข่าวจะต้องเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตผมกับเขาเป็นแน่ “รู้ความจริงแล้วเธอคิดยังไงบ้าง” คุณนายวิมลถาม “ผม...ยังไม่อยากตัดสินใจอะไรตอนนี้ครับ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมยังค้า

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 22 สิ้นคำสาป

    บทที่ 22สิ้นคำสาป จังหวะที่ผมนั่งลงบนพื้นป้าสร้อยรีบวิ่งเข้ามาช่วยพยุงเอาไว้ หลังจากนั้นคนขับรถก็ตามมาติด ๆ เขาสวมหมวกแก็ป สวมแมส ใส่แว่นกันแดด จึงไม่รู้ว่ามีหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ดูท่าทางเป็นห่วงผมมาก “รีบพาขึ้นรถเร็วค่ะ ป้าจะเข้าไปเรียกคุณนายก่อน” ป้าสร้อยเอ่ยกับคนขับรถ จากนั้นเขาก็อุ้มผมขึ้นไปบนรถตู้ ไม่ยอมพูดยอมจาแม้แต่สักคำ ผมนอนร้องโอดโอยอยู่บนเบาะรถ ส่วนคนขับก็รีบมานั่งประจำที่ สตาร์ทเครื่องรอทุกคน “โอ้ย ทำไมปวดอย่างนี้นะ จะทนไม่ไหวแล้ว” “ไอ้บิว! แกเป็นยังไงบ้าง” “ผมปวดท้องอ่ะแ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status