บทที่ 5
สะใภ้ตัวจริง
ช่วงเวลาที่สุดแสนจะกลัดกลุ้มได้ผ่านพ้นไปแล้ว เขากลับไปในช่วงค่ำของวันนั้น ส่วนผมนั่งร้องไห้อยู่ในห้องนานหลายชั่วโมงกว่าจะทำใจได้ สรุปว่าผมมาทำอะไรที่นี่ มาขายตัวหรือมาเป็นเมียหลอก ๆ หรือมาเป็นสะใภ้หลอก ๆ เริ่มไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน
คุณนายวิมลให้คนมาเรียกลงไปที่ห้องรับแขก ผมจึงต้องรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หากทว่าดวงตายังคงแดงก่ำมิอาจปกปิดได้ ลงมาถึงแล้วก็เห็นท่านนั่งอ่านนิยายวายเรื่องโปรดรออยู่ก่อนแล้ว จึงยกมือไหว้แล้วนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าก้มตาไม่อยากให้ท่านมองเห็นร่องรอยของการร้องไห้มา
“เป็นยังไงบ้าง”
“ไม่เป็นไรครับคุณแม่” น้ำเสียงของผมสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ว่าจะไม่ร้องแล้วนะแต่พอมีคนมาสะกิดความรู้สึกนั้นอีกทีก็ต้องอ่อนแออีกครั้ง
“ฉันขอโทษที่ทำอย่างนั้นลงไป ฉันแค่อยากให้เธอกับนาธานผูกพันกัน ทุกอย่างมันจะได้ง่ายขึ้น”
“คุณแม่ต้องการแค่นั้นเองเหรอครับ ไม่ห่วงความรู้สึกผมเลยเหรอครับ ผมขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเสียตัวให้ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ไม่เคยรักเลยด้วยซ้ำและไม่คิดจะรักด้วย”
“เธออยากได้อะไรฉันจะให้เธอหมดทุกอย่าง ขอแค่ทำงานนี้ให้สำเร็จ”
“ผมขอไม่ทำแล้วได้ไหมครับ ผมเกลียดเขา”
“เกลียดฉันด้วยไหม?”
“ไม่ได้เกลียดครับ แต่แอบน้อยใจที่คุณแม่เอาแต่ใจจนทำให้ผมต้องอยู่ในสภาพนี้” เอ่ยพลางปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มไปด้วย
“เข้ามานั่งใกล้ ๆ ฉันสิ” ท่านกวักมือเรียกให้ผมเข้าไปนั่งใกล้ ๆ จึงต้องยอมทำตามอย่างว่าง่าย ถึงแม้ภายในใจจะยังคงขุ่นเคืองอยู่บ้าง
“ผม ฮึก เสียใจ คุณนาธานเขาใจร้ายเหลือเกิน ไม่อ่อนโยน ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ผมเสียใจที่เขาเป็นคนแรกของผม”
เมื่อเห็นผมร้องไห้ร้องห่มท่านก็โอบกอดเพื่อให้กำลังใจ “หากจะโทษใครก็มาโทษที่ฉันเถอะ ฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องมาเจอกับเรื่องอย่างนี้ ฉันตั้งใจวางยาพวกเธอทั้งคู่เพื่อให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น ฉันจะรับผิดชอบด้วยการให้เธอเป็นสะใภ้ตัวจริง”
ได้ยินอย่างนั้นผมก็ตกใจยกใหญ่ เบิกตาแล้วผละตัวออกมามองหน้าท่าน จู่ ๆ จะมาพูดอย่างนี้ได้อย่างไร ในเมื่อคนที่ทำผมไม่คิดจะพิศวาสเลยด้วยซ้ำ ส่วนผมเองก็ไม่มีทางมองเขาในแง่ดี ไม่มีทางยอมตกล่องปล่องชิ้นด้วยแน่ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวก็เกินพอ
“ไม่เป็นไรครับคุณแม่ ผมจะถือซะว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น ผมจะทำงานให้คุณแม่จนเสร็จแล้วก็จะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม ถือซะว่าสิ่งที่เสียไปชดใช้หนี้ให้เขาก็แล้วกัน”
“แต่ฉันอยากได้เธอมาเป็นสะใภ้ตัวจริงจริง ๆ นะ ฉันว่าเธอดีกว่าแม่นางเอกนั่นตั้งเยอะ”
“แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอกครับคุณแม่ คุณนาธานไม่ได้รักผม ผมเองก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน เราเป็นผู้ชายด้วยกัน เอาตามนี้เถอะนะครับ ไม่ต้องพูดถึงมันอีก แล้วทำภารกิจต่อให้จบ”
“น่าเสียดายจริง ๆ เธอเป็นสะใภ้ในอุดมคติของฉันเลยนะ แต่ก็ช่างเถอะฉันเคารพการตัดสินใจของเธอ แต่การเสียพรหมจรรย์ในครั้งนี้ฉันจะไม่ให้เสียเปล่า ฉันคิดไว้แล้วว่าจะซื้อบ้านให้ครอบครัวเธอหลังหนึ่งโอนให้เป็นชื่อเธอ หลังจากจบงานนี้แล้วเธอจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น หรือหากอยากทำงานกับฉันต่อก็ไม่ว่าฉันยินดีต้อนรับเธอเสมอ”
“ขอบพระคุณครับคุณแม่ แต่บ้านหลังหนึ่งราคาไม่ใช่น้อย ๆ มันไม่มากไปหน่อยเหรอครับ”
“ไม่มากไปหรอกเมื่อเทียบกับสิ่งที่ลูกผู้ชายคนหนึ่งต้องเสียไป เอาเป็นว่าฉันจะเอาแบบมาให้เธอเลือกก็แล้วกัน ถูกใจหลังไหนก็บอกมาได้เลย”
“ขอบพระคุณครับคุณแม่” ถึงไม่ได้เห็นแก่เงินขนาดนั้น แต่ก็มิอาจปฏิเสธได้ว่าเงินเท่านั้นที่จะบันดาลดลทุกสิ่งให้เกิดขึ้นได้ เมื่อเสียไปแล้วก็ต้องตักตวงให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมจะไม่ยอมเสียเปรียบฝ่ายเดียวแน่
“นับจากนี้เธอต้องเป็นฝ่ายรุก ฉันจะให้คนขับรถไปส่งที่ทำงานของนาธาน ไปประกาศศักดาว่าเธอเป็นใคร”
“มันจะดีเหรอครับ”
“ดีสิ ฉันคิดไตร่ตรองดีแล้ว หากไม่รีบก็อาจจะเสียเปรียบแม่นั่น”
ว่าแล้วท่านก็ยื่นแท็บเล็ดมาให้ดูอะไรบางอย่าง เมื่อมองดูที่หน้าจอซึ่งท่านได้เปิดเอาไว้มันคือข่าวซุบซิบบันเทิง พาดหัวว่านางเอกสาวซอนย่ากำลังซุ่มคบกับนักธุรกิจหนุ่มหล่อชื่อดัง ควงคู่กันไปเที่ยวสองต่อสองอยู่บ่อยครั้ง ภาพที่ปาปารัซซี่ถ่ายมาได้ถึงจะไม่ชัดเจนแต่ก็พอดูออกว่าคือคุณนาธาน
“ไม่แปลกนี่ครับคุณแม่เพราะเขาเป็นแฟนกัน”
“แปลกสิ เพราะฉันไม่ชอบขี้หน้าแม่นั่น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะนอกจากเธอจะไปเยือนออฟฟิศของตานาธานแล้ว ยังต้องไปเดินแบบการกุศลที่สมาคมด้วย ฉันรู้ว่าแม่นางเอกนั่นจะไปเดินด้วย”
“ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลยนะครับ”
“ไม่เคยก็ต้องเคย ฉันจะจ้างครูมาสอนเดินแบบให้เอง”
“ก็ได้ครับ”
ผมต้องก้มหน้ารับบัญชาอย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไหร่ ทุกอย่างที่คุณนายวิมลให้ทำล้วนแต่ทำให้เขาเกิดความสงสัยทั้งสิ้น จะต้องหาคำแก้ตัวยังไงให้เอาตัวรอดไปได้ทุกครั้ง ที่สำคัญจะทำยังไงให้สองคนนั้นเลิกกันได้โดยที่ผมไม่ถูกจับได้ว่าเป็นผู้ต้องหา
*-*-*-*-*-*
วันนี้นับเป็นวันแรกที่ผมได้ออกมาจากรั้วคฤหาสน์แอนเดสัน ทำตัวเชิด ๆ นั่งรถหรู มีคนขับรถส่วนตัว ชีวิตพลิกผันเพียงชั่วข้ามคืนแต่อีกไม่นานก็คงกลับไปเป็นไอ้บิวของแม่เหมือนเดิมแล้ว
ตึกสูงระฟ้าใจกลางเมืองคือออฟฟิศของคุณนาธาน เขาทำธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ในประเทศก็เป็นธุรกิจประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจด้านการเงินอื่น ๆ ส่วนนอกประเทศเป็นหุ้นส่วนของบ่อนกาสิโนขนาดใหญ่ ทำให้เป็นคนมีหน้ามีตา รู้จักและสนิทสนมกับคนมีสีเสริมบารมีให้ยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นมาเฟียก็ย่อมได้
คุณนายวิมลบอกว่าเขาอยู่ชั้นสามสิบของตึก ผมภาวนาขอให้เขาไม่อยู่ที่นั่นจะได้มีข้ออ้างกลับไปบอกคุณนายวิมล แต่แล้วความฝันของผมมันก็สูญสลายไป เพราะเมื่อเปิดประตูเข้าไปในนั้นก็เห็นเขายืนสั่งงานลูกน้องอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นผมทุกคนก็มองเป็นตาเดียวกัน ทำได้เพียงยิ้มพลางโบกมือทักทาย ก่อนเขาจะเดินทำหน้าดุเข้ามาหาแล้วคว้ามือออกมาจากห้องนั้นทันที
“ดะ...เดี๋ยว จะพาผมไปไหนครับ”
“เธอมาที่นี่ทำไม! ยุ่งไม่เข้าเรื่อง”
“ก็คุณแม่ให้ผมเอาขนมมาให้คุณ ท่านทำเองกับมือเลยนะ” ผมยิ้มพลางยื่นถุงขนมที่คุณนายวิมลฝากมาให้ลูกชาย เพื่อจะได้มีข้ออ้างมาที่นี่
เขาวางสายตาไว้ที่ถุงขนมก่อนเลื่อนสายตามาที่ใบหน้าผม เห็นแววตาดุดันก็รู้สึกกลัวไม่น้อย แต่ต้องยิ้มสู้เข้าไว้เพราะเขาไม่น่าจะทำอะไรผมต่อหน้าลูกน้องแน่
“ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดฝากอะไรมาให้ลูกชาย แต่วันนี้กลับส่งเธอมา มีอะไรที่ฉันไม่รู้หรือเปล่า” แววตาที่ดุดันแปรเปลี่ยนเป็นแววตาอันมีเล่ห์เหลี่ยม เท้าใหญ่ก้าวเข้ามาใกล้ผมจึงต้องถอยหลังไปเรื่อย ๆ ด้วยความกลัว
“มะ...ไม่มีอะไรจริง ๆ เอาให้คุณแล้วผมก็จะกลับ”
“ฉันเป็นนายจ้างเธอนะลืมไปแล้วเหรอ หรือว่าคุณแม่ให้เธอมากกว่านั้นอีก”
“ไม่มีอะไรจริง ๆ ครับคุณนาธาน ผมจะกล้าโกหกคุณได้ยังไง”
กล่าวด้วยความลนลานแล้วหมุนตัวจะหนีไป แต่ตรงหน้ามันคือบันไดน่ะสิ ผมเบิกตาด้วยความตกใจเพราะร่างกำลังจะร่วงลงไปแล้ว หลับตาปี๋นึกถึงพ่อแก้วแม่แก้ว บรรพบุรุษจากทุกภพทุกชาติให้มารวมตัวกันช่วยผมด้วย!
“ยัยซุ่มซ่าม!”
คิดว่าตัวเองตายไปแล้วแน่ ๆ แต่ยังคงได้ยินเสียงคุณนาธานอยู่ใกล้มาก ตอนนี้ผมคงอยู่ในนรกขุมที่ร้อยแปดแน่นอน ไม่นะ! ตายแล้วยังต้องมาเจอเขาอีกหรือนี่
“ลืมตาได้แล้ว”
“คุณนาธาน ผมยังไม่ตายใช่ไหม”
“ก็เออน่ะสิ”
ตอนนี้เขาโอบกอดผมเอาไว้แน่นขนัดราวกับเป็นห่วงมาก เราจ้องตากันจู่ ๆ ภาพในวันวานก็ฉายในหัวอีกครั้ง ใบหน้าผมร้อนระอุขึ้นมาก่อนจะรีบหลบสายตาแล้วเบนหน้าหนี
“นาธานคะ”
เสียงหวาน ๆ ของใครบางคนดังขึ้นเราทั้งคู่จึงหันไปมอง ไม่น่าเชื่อว่าซอนย่าจะมาอยู่ตรงนี้แล้ว เมื่อเห็นว่าแฟนสาวมาพบเข้าคุณนาธานก็รีบผลักตัวผมให้ออกห่างทันที
“ไม่มีอะไรครับซอนย่า เด็กนี่เอาขนมมาส่งน่ะ อ่ะนี่ขนมฝีมือคุณแม่ท่านเอามาฝากซอนย่าน่ะ”
“จริงเหรอคะ ยังไงก็ฝากขอบคุณคุณแม่ด้วยนะคะ”
เธอยิ้มด้วยความดีใจอย่างลืมตัว ก่อนเงยขึ้นมามองหน้าผม รอยยิ้มบนใบหน้างามเจื่อนลงทันที สีหน้าและสายตาของนางร้ายเริ่มทำงานทันที
“ส่งแล้วก็กลับไปสิ ยืนบื้ออยู่ได้”
“เธอกลับไปได้แล้ว” คุณนาธานผสมโรงอีกเสียง ราวกับผมเป็นตัวน่ารังเกียจซะเหลือเกิน
ยังไม่ได้ทันพูดอะไรเขาก็โอบไหล่นางเอกสาวกลับเข้าไปในออฟฟิศเสียแล้ว ทิ้งให้ผมยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น กำลังคิดว่าตัวเองมาทำอะไรที่นี่ ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรเลย แถมยังมาเสียท่าให้กับศัตรูอีกด้วย หากคุณนายรู้เข้ามีหวังโดนเอ็ดใหญ่แน่
*-*-*-*-*-*-*
ช่วงหลายวันที่ผ่านมาคุณนายให้ครูมาสอนเดินแบบที่บ้านอย่างเป็นล่ำเป็นสัน กะว่าจะให้ผมไปเป็นนายแบบมืออาชีพหรืออย่างไรกัน วัน ๆ ไม่ได้ทำอะไรนอกจากเรียน เรียน แล้วก็เรียน ทำเอาแทบไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นเลย ส่วนคุณนาธานไม่เคยโผล่หน้ามาตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันที่จะต้องไปร่วมงานเดินแบบผ้าไทยและเครื่องเพชรมูลค่านับร้อยล้านของคุณหญิงคุณนายทั่วฟ้าเมืองไทย
วันนี้เราเดินทางมายังโรงแรมที่จัดงานก่อนเวลาหลายชั่วโมงเพื่อให้ผมมาซ้อมเดินแบบบนเวทีจริง ผมพยายามมองหาซอนย่าแต่ไม่พบว่านางมาซ้อมในวันนี้ด้วย จึงแอบกระซิบถามนายแบบและนางแบบที่ซ้อมด้วยกันทราบว่านางไม่เคยมาซ้อมเพราะเป็นงานอยู่แล้ว อีกอย่างหากไม่เดินในชุดฟินนาเล่นางจะไม่รับเด็ดขาด
ซ้อมเดินบนเวทีจนเริ่มเข้าใจลำดับขั้นตอนของงานแล้วก็มาแต่งหน้า ในระหว่างช่างกำลังช่วยแต่งหน้าให้คุณนายวิมลก็เดินเข้ามาทักทายทุกคน ดูเหมือนว่าคนจะรู้จักและให้ความเคารพนับถือไม่น้อย เพราะคุณนายเป็นไฮโซชื่อดัง แต่คนอื่นยังไม่รู้ว่าผมเป็นใคร
“สวัสดีค่ะคุณวิมล” พี่ช่างแต่งหน้ารีบยกมือไหว้แล้วทำการละเลงหน้าผมต่อ
“สวัสดีจ้ะ วันนี้จัดเต็มให้ลูกสะใภ้ฉันหน่อยนะจ๊ะ”
“อ้าว! นี่ลูกสะใภ้คุณวิมลหรอกเหรอคะ ฉันเข้าใจว่าเป็นคุณซอนย่าซะอีก ไม่นึกเลยว่าคุณนาธานจะมีรสนิยมดีอย่างนี้ หายากนะคะที่แม่สามีรับลูกสะใภ้ที่เป็นผู้ชายได้”
“ข่าวก็ลงอะไรไปเรื่อยนั่นล่ะ ลูกชายฉันมันก็พ่อปลาไหล แต่จริง ๆ แล้วคนที่เป็นตัวจริงคือหนูบิวนี่ล่ะ ตานาธานพามาฝากเนื้อฝากตัวกับฉันถึงที่บ้านจะไม่ใช่ตัวจริงได้ยังไงล่ะ”
คุณนายวิมลเอาแต่ยกยอปอปั้นผมยกใหญ่ ทำได้เพียงยิ้มรับอย่างจำใจ แต่อีกใจก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่มีคนเห็นความสำคัญของตัวเองอย่างนี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่ละครฉากหนึ่งก็เถอะ
“แม่ไปแล้วนะหนูบิว ยังไงก็สู้ ๆ นะ”
“ขอบคุณครับคุณแม่”
ผมยิ้มให้ก่อนท่านจะเดินออกไปจากห้องแต่งตัว นั่งให้พี่ช่างแต่งหน้าสะบัดแปรงต่อไป ตอนนี้ผมเป็นเป้าสายตาของทุกคนในห้องแต่งตัวอย่างช่วยไม่ได้
“ทำไมไม่ยอมบอกว่าน้องเป็นสะใภ้คุณวิมล ปล่อยให้พี่เข้าใจว่าเป็นนายแบบหน้าใหม่มาเสียนาน”
“ทำไมต้องบอกด้วยครับพี่ ผมว่ามันก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น วันนี้ผมก็มาเดินแบบเหมือนคนอื่นนี่นา”
“สำคัญสิ เศรษฐินีไฮโซที่ใครต่างก็อยากได้เป็นแม่สามีแต่จู่ ๆ ก็มาเปิดตัวน้องซะงั้น แสดงว่าน้องต้องถูกใจคุณวิมลมากแน่ ๆ ตอนนี้ใคร ๆ ก็เข้าใจว่าซอนย่าคือตัวจริงของคุณนาธาน เชื่อว่าพรุ่งนี้เป็นข่าวใหญ่ไปทั่วประเทศแน่”
“ขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“ไม่เชื่อคอยดูละกันค่ะ”
เราคุยกันไปเรื่อยอย่างถูกคอจนกระทั่งแต่งหน้าทำผมเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็ไปแต่งตัวตามชุดที่ได้ถูกกำหนดไว้ให้ ยิ่งใกล้ถึงเวลาที่จะต้องออกไปหน้าเวทีภายในห้องแต่งตัวก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้น แม้จะเคยเรียนจากครูสอนเดินแบบมาอย่างเข้มข้นแต่ผมก็ยังตื่นเต้นเพราะนี่คืองานแรก เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ รู้สึกว่าวันนี้ตัวเองหน้าตาดีขึ้นเป็นกอง ส่องกระจกแล้วยิ้มพลางคิดในใจว่านี่คือผมจริง ๆ หรือ
ใกล้จะถึงเวลาเริ่มงานก็เห็นซอนย่าเข้ามาพร้อมผู้จัดการ นางแต่งหน้าทำผมมาพร้อมก่อนแล้วและเพิ่งมาสวมใส่ชุดที่นี่ ยอมรับว่าการเป็นดาราดังทำให้มีอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่น มีคนเอาอกเอาใจให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ บังเอิญว่าเราเดินสวนทางกันผมจึงยิ้มทักทายตามมารยาทแต่กลับโดนเมินเสียอย่างนั้น รอยยิ้มจริงใจเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเจื่อน รู้สึกเสียหน้าเป็นบ้าเลยล่ะ
“แกคงสำคัญตัวเองผิดไป” เอ่ยเบา ๆ กับตัวเอง
ในตอนนั้นพี่ช่างแต่งหน้าคนเดิมได้เดินเข้ามาเติมหน้าให้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะออกไปหน้าเวที จู่ ๆ แกก็พูดประโยคที่ทำเอาซอนย่าต้องหันมาสนใจผม
“วันนี้น้องบิวน่ารักมากกก เหมาะสมกับการเป็นสะใภ้ตัวจริงของตระกูลแอนเดสันทุกประการค่ะ คุณวิมลอุตส่าห์มาฝากฝังด้วยตัวเองขนาดนี้พี่เลยฟาดหน้าให้ฉ่ำ ๆ ไปเลย วันนี้น้องบิวต้องเฉิดฉายบนเวทีแน่นอนค่ะเชื่อพี่” ดูเหมือนว่าพี่แกตั้งใจให้ซอนย่าได้ยิน
เมื่อพี่ช่างแต่งหน้าพูดประโยคนั้นจบผมก็ส่งสายตาไปมองซอนย่าเพราะเป็นห่วงความรู้สึกของนาง แต่ดูเหมือนว่าสายตาที่มองมานั้นช่างน่ากลัวเหลือเดิน ยิ่งกว่าที่ผมเจอในออฟฟิศวันนั้นเสียอีก
บทที่ 6ภารกิจใหม่ หลังจากถูกเขม่นด้วยสายตาจากนางเอกชื่อดังแล้ว ผมก็มองนางเปลี่ยนไปไม่คิดจะญาติดีด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาคิดอะไรมากเพราะต้องออกไปเดินแบบแล้ว แขกของงานวันนี้มีแต่พวกคุณหญิงคุณนายและไฮโซทั้งนั้น แน่นอนว่าคุณนายวิมลต้องบังคับให้ลูกชายมาด้วย ไม่สิ! หากจะบอกว่าบังคับก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะเขาเองก็คงอยากจะมาให้กำลังใจแฟนสาวด้วย รอบแรกของการเดินแบบผ่านไปด้วยดี การเดินของวันนี้จะเดินเป็นคู่ชายหญิง คู่ของผมเป็นนางแบบอาชีพที่มีสกิลการเดินค่อนข้างดีมาก ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจที่มีคู่เดินซึ่งมีประสบการณ์มาก่อน พวกเราเข้ามาเปลี่ยนชุดอย่างเร่งรีบ ทุกอย่างดูวุ่นวายไปเสียหมด ชุดที่สองสำหรับงานในวันนี้เป็นชุดผ้าไหมที่ออกแบบตัดเย็บให้ดูทันสมัย ทุกครั้งที่ผมเข้ามาเปลี่ยนชุดซอนย่าก็ออกไปเดินบนเวที โชคดีที่เราไม่ได้เดินพร้อมกันมิเช่นนั้นคงเกิดซีนขัดแข้งขัดขาเหมือนในละครเป็นแน่
บทที่ 7เป็นของเล่นก็พอได้ ในที่สุดผมก็ได้โบยบินออกจากกรงทองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เดินทางมายังเชียงใหม่ตั้งแต่เช้า ถึงสนามบินก็มีรถจากทางรีสอร์ตมารอรับถึงที่ เดินทางจากตัวเมืองไม่ไกลนักก็มาถึงที่หมาย รีสอร์ตแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควร ฉากหลังเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน บรรยากาศดีมาก วันนี้คึกคักเป็นพิเศษเพราะเปิดรีสอร์ตอย่างเป็นทางการ และเปิดต้อนรับนักเที่ยวเป็นวันแรกอีกด้วย ห้องพักที่ทางรีสอร์ตเตรียมไว้ให้เป็นบ้านน็อกดาวน์หลังเล็ก ๆ ติดกับลำธารน้ำไหล มีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ทัศนียภาพของที่นี่ช่างงดงาม เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจจริง ๆ หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่แล้วก็แต่งตัวหล่อ ๆ ออกไปร่วมแสดงความยินดีตามที่คุณนายวิมลได้วานมา เดินออกมาได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็เจอกับพนักงานสาวสวยซึ่งกำลังจะเดินมาหาผมพอดี เมื่อได้คุยกันนางบอกว่าทางคุณปัญจรีย์ให้มารับผมไปงานด้วยเกรงว่าจะห
บทที่ 8รู้สึกแปลกไป ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วผมก็ต้องเป็นคนดูแลคุณนาธานอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขายังคงลงน้ำหนักเท้าได้ไม่มาก แทนที่จะกลับกรุงเทพมหานครแต่สั่งให้พากลับมายังห้องพักห้องเดิม ส่วนผมไม่มีทางกลับเพราะตั้งใจจะมาเที่ยวทั้งทีต้องเที่ยวให้หนำใจ เขาเจ็บอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะตามไปแกล้งผม เมื่อรู้ข่าวคุณป้าปัญจรีย์ก็เข้ามาเยี่ยมถึงห้องพัก ท่านถามว่าจะกลับกรุงเทพฯเลยไหมจะได้เตรียมรถและตั๋วเครื่องบินให้หลานชาย แต่เมื่อคุณนาธานปฏิเสธและบอกว่าจะอยู่เที่ยวที่นี่สักพักก่อน ท่านจึงเปลี่ยนแผนสั่งให้คนนำรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งมาให้ เพื่อจะได้ขับไปเที่ยวได้ตามสบายใจ รถก็มีแล้วจะขาดก็แต่เงินเท่านั้น กระเป๋าสตางค์ก็ยังไม่ได้คืน ผมจึงคิดว่าจะต้องใช้วิธีสกปรกเพื่อเอาเงินมาจากคุณนาธาน รอช่วงที่เขาหล
บทที่ 1 เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย “แม๊!!!!!!!!” เสียงโวยวายดังลั่นบ้านนั้นไม่ใช่เสียงใคร เป็นเสียงของผมเองครับ จู่ ๆ แม่ก็มาบอกว่าให้เก็บข้าวเก็บของเพราะวันพรุ่งนี้จะมีคนมารับไปทำงานด้วย ผมผู้ซึ่งนั่งโซ้ยมาม่าพร้อมกับหางานทำไปด้วยก็กรี๊ดลั่นบ้านเลยทีเดียว เพิ่งเรียนจบแท้ ๆ แต่แม๊!!! ดันหางานให้ผมซะแล้ว สวัสดีครับ ผมชื่อ ‘บิว’ พีรพล มนตรีอิสระ อายุยี่สิบสองปี เพิ่งเรียนจบด้านไอทีมาหมาด ๆ ตั้งใจว่าจะหางานทำตรงสายให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ออกไปจากบ้านหลังนี้เสียที เพราะเบื่อแม่ผีพนันเข้าสิงจนหางานให้ผมนี่ล่ะ งานดี ๆ จะไม่ว่าเลยแต่งานที่หามาให้นั่นคือเป็นเมียรับจ้างของมาเฟียเจ้าของบ่อนการพนันที่แม่ติดหนี้ไว้ แค่คิดก็ขนลุกขนพองสยองเกล้า! ชีวิตผมทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย! “แกจะโวยวายหาหอกอะไร! ฉันไม่ได้จะขายแกสักหน่อย แค่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แลกกับหนี้เท่านั้น” “เล็กน้อยงั้นเหรอแม่ เงินเป็นล้านแม่เล่นไปได้ยังไงกัน ชีวิตผมต้องหมดอิสรภาพก็เพราะแม่” “เอาน่า แค่ไม่กี่เดือนเองก็จะได้เป็นอิสระแล้ว อยู่ที่นั่
บทที่ 2สะใภ้คนใหม่ ในที่สุดผมก็ได้เข้ามาสู่รั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ของคุณนาธานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่างใหญ่โตเสียนี่กระไร ถนนทางเข้าบ้านกว้างกว่าถนนเข้าซอยบ้านผมเสียอีก มีคนรับใช้มายืนต้อนรับหน้าบ้านจำนวนหลายคนอย่างกับในละคร เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกรวยขึ้นมาทันทีเลยล่ะ เมื่อรถจอดเทียบหน้าบ้านแล้วก็มีคนเปิดประตูรถให้เราทั้งคู่ ผมทำตัวไม่ถูกเมื่อจู่ ๆ ก็กลายมาเป็นเจ้าชายในชั่วข้ามคืน แม้ความเป็นจริงจะเป็นเจ้าชายกำมะลอก็ตามที แต่ดู ๆ ไปแล้วที่นี่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดแฮะ “ยินดีต้อนรับคุณนาธานกลับบ้านครับ / ค่ะ” “ยินดีต้อนรับคุณบิวครับ / ค่ะ” “สวัสดีครับทุกคน” ผมยิ้มเขินพลางยกมือไหว้ทุกคนอย่างไม่คุ้นชิน หันไปมองหน้าคุณนาธานก็เห็นเพียงความเย็นชา เขาทำหน้าราวกับว่ารำคาญผมเต็มทนแล้ว คว้ามือลากผมให้เดินตามเข้าไปในบ้าน พยายามบิดข้อมือพลางส่งสายตาดุให้เขาแต่ไม่ได้ผลเลยสักนิด “ปล่อยผมนะคุณ” “เธออย่าทำตัวเงอะงะซื่อบื้อได้ไหม ทำตัวให้สมกับเป็นเมียมาเฟียอย่างฉันหน่อยสิ” “ก็ผมไม่ใช่เมียคุณจริง ๆ
บทที่ 3ไม่มีทางเลือก เช้าวันใหม่ของผมในรั้วคฤหาสน์แอนเดสันได้เริ่มต้นจากการได้ยินเสียงคนเปิดลิ้นชัก ดังกุกกักเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง หันไปมองก็เห็นคุณนาธานสวมใส่ชุดสูทอย่างเนี้ยบเตรียมตัวจะออกไปข้างนอกแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะตื่นเช้ากว่าผมเสียอีก “คุณจะไปแล้วเหรอ หาววว” ว่าแล้วก็อ้าปากหาวหวอด ส่งมือขึ้นเกาศีรษะแกร็ก ๆ หมดสภาพคนหน้าตาดีกันเลยทีเดียว “อยู่ที่นี่ตื่นให้มันเช้า ๆ หน่อย แม่ฉันเป็นคนเข้มงวด อย่าทำอะไรให้มันเดือดร้อนมาถึงฉันก็แล้วกัน อยากได้อะไรก็บอก จะสั่งคนส่งมาให้” กล่าวแล้วก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้ผมนั่งทำหน้ายุ่งอยู่คนเดียว แต่เมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้นผมก็ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความเริงร่า เพราะนับจากนี้ห้องนี้จะเป็นของผมคนเดียวแล้ว หลังจากนั้นก็ไปอาบน้ำอย่างสบายใจ แต่งตัวให้เรียบร้อยที่สุดเพื่อเอาใจคุณนายวิมล เลือกในตู้ที่คุณนาธานซื้อมาไว้นั่นล่ะครับ เดินลงมาข้างล่างก็เห็นแม่บ้านสูงวัยกำลังตั้งโต๊ะ จึงเดินเข้าไปทักทายเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ป้าแม่บ้านคนนี้ชื่อ ‘ป้าแหวน’ ทำงานที่นี่มาตั้งแต่สมัยสาว ๆ จนกระทั่งต
บทที่ 4แค่ครั้งเดียว นึกถึงเหตุการ์เมื่อคืนนี้ผมยังคงขนลุกไม่หาย คุณนายให้ผมดื่มน้ำแกงอะไรสักอย่างในถ้วยกระเบื้องสีขาว รสชาติขมมาก แทบอยากจะอ้วกออกมา แต่โดนสั่งห้ามเอาไว้จึงต้องกลืนมันลงไปจนเกลี้ยง แค่นั้นยังไม่พอบังคับให้นั่งอยู่ในวงล้อมสายสิญจน์เพื่อฟังบทสวดประหลาดจากท่านจนจบ ปิดท้ายด้วยการใช้มือตบเบา ๆ ที่หน้าท้องสามครั้งอีกด้วย เสร็จพิธีก็ถูกไล่ให้กลับห้องนอนโดยไม่พูดหรืออธิบายอะไรให้ฟังเลย ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก วันนี้คุณนายวิมลโทรเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้กลับมาที่บ้านโดยด่วนให้เหตุผลว่าผมไม่สบาย โทรแล้วโทรอีกจนเขารำคาญกระมังเลยต้องกลับมาที่คฤหาสน์ ออฟฟิศกับบ้านเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ถ้าถามผมว่าไกลไหมตอบว่าไม่ แต่เหตุผลที่เขาไม่ยอมกลับมานอนค้างที่บ้านคงเป็นเพราะต้องการอยู่กับแฟนสาวอย่างสบายใจกระมัง แฟนของคุณนาธานก็คือซอนย่านั่นล่ะครับ เธอเป็นนางเอกซูเปอร์สตาร์ มีชื่อเสียงระดับประเทศ สวยและมีความสามารถ ในทีวีดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวานแต่ในชีวิตจริงผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณนายวิมลไม่ชอบขี้หน้า
บทที่ 8รู้สึกแปลกไป ออกมาจากโรงพยาบาลแล้วผมก็ต้องเป็นคนดูแลคุณนาธานอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขายังคงลงน้ำหนักเท้าได้ไม่มาก แทนที่จะกลับกรุงเทพมหานครแต่สั่งให้พากลับมายังห้องพักห้องเดิม ส่วนผมไม่มีทางกลับเพราะตั้งใจจะมาเที่ยวทั้งทีต้องเที่ยวให้หนำใจ เขาเจ็บอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะตามไปแกล้งผม เมื่อรู้ข่าวคุณป้าปัญจรีย์ก็เข้ามาเยี่ยมถึงห้องพัก ท่านถามว่าจะกลับกรุงเทพฯเลยไหมจะได้เตรียมรถและตั๋วเครื่องบินให้หลานชาย แต่เมื่อคุณนาธานปฏิเสธและบอกว่าจะอยู่เที่ยวที่นี่สักพักก่อน ท่านจึงเปลี่ยนแผนสั่งให้คนนำรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งมาให้ เพื่อจะได้ขับไปเที่ยวได้ตามสบายใจ รถก็มีแล้วจะขาดก็แต่เงินเท่านั้น กระเป๋าสตางค์ก็ยังไม่ได้คืน ผมจึงคิดว่าจะต้องใช้วิธีสกปรกเพื่อเอาเงินมาจากคุณนาธาน รอช่วงที่เขาหล
บทที่ 7เป็นของเล่นก็พอได้ ในที่สุดผมก็ได้โบยบินออกจากกรงทองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เดินทางมายังเชียงใหม่ตั้งแต่เช้า ถึงสนามบินก็มีรถจากทางรีสอร์ตมารอรับถึงที่ เดินทางจากตัวเมืองไม่ไกลนักก็มาถึงที่หมาย รีสอร์ตแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางพอสมควร ฉากหลังเป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน บรรยากาศดีมาก วันนี้คึกคักเป็นพิเศษเพราะเปิดรีสอร์ตอย่างเป็นทางการ และเปิดต้อนรับนักเที่ยวเป็นวันแรกอีกด้วย ห้องพักที่ทางรีสอร์ตเตรียมไว้ให้เป็นบ้านน็อกดาวน์หลังเล็ก ๆ ติดกับลำธารน้ำไหล มีร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ทัศนียภาพของที่นี่ช่างงดงาม เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจจริง ๆ หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่แล้วก็แต่งตัวหล่อ ๆ ออกไปร่วมแสดงความยินดีตามที่คุณนายวิมลได้วานมา เดินออกมาได้เพียงแค่ไม่กี่ก้าวก็เจอกับพนักงานสาวสวยซึ่งกำลังจะเดินมาหาผมพอดี เมื่อได้คุยกันนางบอกว่าทางคุณปัญจรีย์ให้มารับผมไปงานด้วยเกรงว่าจะห
บทที่ 6ภารกิจใหม่ หลังจากถูกเขม่นด้วยสายตาจากนางเอกชื่อดังแล้ว ผมก็มองนางเปลี่ยนไปไม่คิดจะญาติดีด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาคิดอะไรมากเพราะต้องออกไปเดินแบบแล้ว แขกของงานวันนี้มีแต่พวกคุณหญิงคุณนายและไฮโซทั้งนั้น แน่นอนว่าคุณนายวิมลต้องบังคับให้ลูกชายมาด้วย ไม่สิ! หากจะบอกว่าบังคับก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะเขาเองก็คงอยากจะมาให้กำลังใจแฟนสาวด้วย รอบแรกของการเดินแบบผ่านไปด้วยดี การเดินของวันนี้จะเดินเป็นคู่ชายหญิง คู่ของผมเป็นนางแบบอาชีพที่มีสกิลการเดินค่อนข้างดีมาก ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจที่มีคู่เดินซึ่งมีประสบการณ์มาก่อน พวกเราเข้ามาเปลี่ยนชุดอย่างเร่งรีบ ทุกอย่างดูวุ่นวายไปเสียหมด ชุดที่สองสำหรับงานในวันนี้เป็นชุดผ้าไหมที่ออกแบบตัดเย็บให้ดูทันสมัย ทุกครั้งที่ผมเข้ามาเปลี่ยนชุดซอนย่าก็ออกไปเดินบนเวที โชคดีที่เราไม่ได้เดินพร้อมกันมิเช่นนั้นคงเกิดซีนขัดแข้งขัดขาเหมือนในละครเป็นแน่
บทที่ 5สะใภ้ตัวจริง ช่วงเวลาที่สุดแสนจะกลัดกลุ้มได้ผ่านพ้นไปแล้ว เขากลับไปในช่วงค่ำของวันนั้น ส่วนผมนั่งร้องไห้อยู่ในห้องนานหลายชั่วโมงกว่าจะทำใจได้ สรุปว่าผมมาทำอะไรที่นี่ มาขายตัวหรือมาเป็นเมียหลอก ๆ หรือมาเป็นสะใภ้หลอก ๆ เริ่มไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน คุณนายวิมลให้คนมาเรียกลงไปที่ห้องรับแขก ผมจึงต้องรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ หากทว่าดวงตายังคงแดงก่ำมิอาจปกปิดได้ ลงมาถึงแล้วก็เห็นท่านนั่งอ่านนิยายวายเรื่องโปรดรออยู่ก่อนแล้ว จึงยกมือไหว้แล้วนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าก้มตาไม่อยากให้ท่านมองเห็นร่องรอยของการร้องไห้มา “เป็นยังไงบ้าง” “ไม่เป็นไรครับคุณแม่” น้ำเสียงของผมสั่นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ว่าจะไม่ร้องแล้วนะแต่พอมีคนมาสะกิดความรู้สึกนั้นอีกทีก็ต้องอ่อนแออีกครั้ง “ฉันขอโทษที่ทำอย่างนั้นลงไป ฉันแค่อยากให้เธอกับนาธานผูกพันกัน ทุกอย่างมันจะได้ง่ายขึ้น” “คุณแม่ต้องการแค่นั้นเองเหรอครับ ไม่ห่วงความรู้สึกผมเลยเหรอครับ ผมขอโทษที่ต้องพูดตรง ๆ ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเสียตัวให้ผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน ไม่เคยรักเลยด้วยซ้ำและไม่คิ
บทที่ 4แค่ครั้งเดียว นึกถึงเหตุการ์เมื่อคืนนี้ผมยังคงขนลุกไม่หาย คุณนายให้ผมดื่มน้ำแกงอะไรสักอย่างในถ้วยกระเบื้องสีขาว รสชาติขมมาก แทบอยากจะอ้วกออกมา แต่โดนสั่งห้ามเอาไว้จึงต้องกลืนมันลงไปจนเกลี้ยง แค่นั้นยังไม่พอบังคับให้นั่งอยู่ในวงล้อมสายสิญจน์เพื่อฟังบทสวดประหลาดจากท่านจนจบ ปิดท้ายด้วยการใช้มือตบเบา ๆ ที่หน้าท้องสามครั้งอีกด้วย เสร็จพิธีก็ถูกไล่ให้กลับห้องนอนโดยไม่พูดหรืออธิบายอะไรให้ฟังเลย ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก วันนี้คุณนายวิมลโทรเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้กลับมาที่บ้านโดยด่วนให้เหตุผลว่าผมไม่สบาย โทรแล้วโทรอีกจนเขารำคาญกระมังเลยต้องกลับมาที่คฤหาสน์ ออฟฟิศกับบ้านเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ถ้าถามผมว่าไกลไหมตอบว่าไม่ แต่เหตุผลที่เขาไม่ยอมกลับมานอนค้างที่บ้านคงเป็นเพราะต้องการอยู่กับแฟนสาวอย่างสบายใจกระมัง แฟนของคุณนาธานก็คือซอนย่านั่นล่ะครับ เธอเป็นนางเอกซูเปอร์สตาร์ มีชื่อเสียงระดับประเทศ สวยและมีความสามารถ ในทีวีดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวานแต่ในชีวิตจริงผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณนายวิมลไม่ชอบขี้หน้า
บทที่ 3ไม่มีทางเลือก เช้าวันใหม่ของผมในรั้วคฤหาสน์แอนเดสันได้เริ่มต้นจากการได้ยินเสียงคนเปิดลิ้นชัก ดังกุกกักเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง หันไปมองก็เห็นคุณนาธานสวมใส่ชุดสูทอย่างเนี้ยบเตรียมตัวจะออกไปข้างนอกแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะตื่นเช้ากว่าผมเสียอีก “คุณจะไปแล้วเหรอ หาววว” ว่าแล้วก็อ้าปากหาวหวอด ส่งมือขึ้นเกาศีรษะแกร็ก ๆ หมดสภาพคนหน้าตาดีกันเลยทีเดียว “อยู่ที่นี่ตื่นให้มันเช้า ๆ หน่อย แม่ฉันเป็นคนเข้มงวด อย่าทำอะไรให้มันเดือดร้อนมาถึงฉันก็แล้วกัน อยากได้อะไรก็บอก จะสั่งคนส่งมาให้” กล่าวแล้วก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้ผมนั่งทำหน้ายุ่งอยู่คนเดียว แต่เมื่อเสียงปิดประตูดังขึ้นผมก็ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความเริงร่า เพราะนับจากนี้ห้องนี้จะเป็นของผมคนเดียวแล้ว หลังจากนั้นก็ไปอาบน้ำอย่างสบายใจ แต่งตัวให้เรียบร้อยที่สุดเพื่อเอาใจคุณนายวิมล เลือกในตู้ที่คุณนาธานซื้อมาไว้นั่นล่ะครับ เดินลงมาข้างล่างก็เห็นแม่บ้านสูงวัยกำลังตั้งโต๊ะ จึงเดินเข้าไปทักทายเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง ป้าแม่บ้านคนนี้ชื่อ ‘ป้าแหวน’ ทำงานที่นี่มาตั้งแต่สมัยสาว ๆ จนกระทั่งต
บทที่ 2สะใภ้คนใหม่ ในที่สุดผมก็ได้เข้ามาสู่รั้วคฤหาสน์หลังใหญ่ของคุณนาธานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่างใหญ่โตเสียนี่กระไร ถนนทางเข้าบ้านกว้างกว่าถนนเข้าซอยบ้านผมเสียอีก มีคนรับใช้มายืนต้อนรับหน้าบ้านจำนวนหลายคนอย่างกับในละคร เห็นอย่างนี้แล้วรู้สึกรวยขึ้นมาทันทีเลยล่ะ เมื่อรถจอดเทียบหน้าบ้านแล้วก็มีคนเปิดประตูรถให้เราทั้งคู่ ผมทำตัวไม่ถูกเมื่อจู่ ๆ ก็กลายมาเป็นเจ้าชายในชั่วข้ามคืน แม้ความเป็นจริงจะเป็นเจ้าชายกำมะลอก็ตามที แต่ดู ๆ ไปแล้วที่นี่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดแฮะ “ยินดีต้อนรับคุณนาธานกลับบ้านครับ / ค่ะ” “ยินดีต้อนรับคุณบิวครับ / ค่ะ” “สวัสดีครับทุกคน” ผมยิ้มเขินพลางยกมือไหว้ทุกคนอย่างไม่คุ้นชิน หันไปมองหน้าคุณนาธานก็เห็นเพียงความเย็นชา เขาทำหน้าราวกับว่ารำคาญผมเต็มทนแล้ว คว้ามือลากผมให้เดินตามเข้าไปในบ้าน พยายามบิดข้อมือพลางส่งสายตาดุให้เขาแต่ไม่ได้ผลเลยสักนิด “ปล่อยผมนะคุณ” “เธออย่าทำตัวเงอะงะซื่อบื้อได้ไหม ทำตัวให้สมกับเป็นเมียมาเฟียอย่างฉันหน่อยสิ” “ก็ผมไม่ใช่เมียคุณจริง ๆ
บทที่ 1 เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย “แม๊!!!!!!!!” เสียงโวยวายดังลั่นบ้านนั้นไม่ใช่เสียงใคร เป็นเสียงของผมเองครับ จู่ ๆ แม่ก็มาบอกว่าให้เก็บข้าวเก็บของเพราะวันพรุ่งนี้จะมีคนมารับไปทำงานด้วย ผมผู้ซึ่งนั่งโซ้ยมาม่าพร้อมกับหางานทำไปด้วยก็กรี๊ดลั่นบ้านเลยทีเดียว เพิ่งเรียนจบแท้ ๆ แต่แม๊!!! ดันหางานให้ผมซะแล้ว สวัสดีครับ ผมชื่อ ‘บิว’ พีรพล มนตรีอิสระ อายุยี่สิบสองปี เพิ่งเรียนจบด้านไอทีมาหมาด ๆ ตั้งใจว่าจะหางานทำตรงสายให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ออกไปจากบ้านหลังนี้เสียที เพราะเบื่อแม่ผีพนันเข้าสิงจนหางานให้ผมนี่ล่ะ งานดี ๆ จะไม่ว่าเลยแต่งานที่หามาให้นั่นคือเป็นเมียรับจ้างของมาเฟียเจ้าของบ่อนการพนันที่แม่ติดหนี้ไว้ แค่คิดก็ขนลุกขนพองสยองเกล้า! ชีวิตผมทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย! “แกจะโวยวายหาหอกอะไร! ฉันไม่ได้จะขายแกสักหน่อย แค่ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แลกกับหนี้เท่านั้น” “เล็กน้อยงั้นเหรอแม่ เงินเป็นล้านแม่เล่นไปได้ยังไงกัน ชีวิตผมต้องหมดอิสรภาพก็เพราะแม่” “เอาน่า แค่ไม่กี่เดือนเองก็จะได้เป็นอิสระแล้ว อยู่ที่นั่