แชร์

บทที่ 1683

ผู้เขียน: โมเนโต้
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ดาเนียลล่าชำเลืองมองเฟนด์อย่างเย้ายวนก่อนที่เธอจะเดินเอามือไพล่หลังเข้าไปหาเขา

ตู้ม!

อย่างที่เฟนด์ทำนายไว้ ออสก้าพ่ายแพ้ในการต่อสู้และเสียชีวิตลงด้วยน้ำมือของอเล็กซานเดอร์ ร่างของเขาตกลงมาจากท้องฟ้าสู่พื้นดิน และที่หน้าอกของเขามีรูโหว่ขนาดใหญ่

"ที่มันยอดไปเลย! พลังยุทธของออสก้านั้นเทียบเท่ากับผม และการต่อสู้กับคนแบบนี้ก็นับว่าโลดโผนมาก! ฮ่าฮ่า!” อเล็กซานเดอร์บินลงมาและรับเอาแหวนยุทธของออสก้าไป ก่อนที่เขาก็บินไปยังที่ที่เฟนด์และคนอื่น ๆ อยู่พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า

“เฮ้ คุณไม่ใช่คนเดียวหรอก ผมเองก็อยากลองเหมือนกัน ถ้านี่ไม่ใช่เรื่องภายในของตระกูลคุณ ผมจะรีบพุ่งตัวไปที่นั่นเลย!” เคนเนธหัวเราะเสียงดัง เขาเต็มไปด้วยความฮึกเหิมหลังจากที่ความแข็งแกร่งในร่างกายของเขาเพิ่มขึ้น และสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับฝ่ายตรงข้ามพลังยุทธอยู่ในระดับไล่เลี่ยกันก็ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะจะทดสอบความแข็งแกร่งของพวกเขา

“เฮ้อ… ไม่ คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น ผู้อาวุโสลำดับที่สองคนนี้ ตอนเขาอยู่ที่ตระกูลคาเบลโล เขาเป็นคนซื่อสัตย์และไม่เคยทำตัวนอกลู่นอกทาง ใครจะไปคิดว่าเขาจะทำแบบนี้หลังจากทะลวงไปสู่ระดับเทพสูงสุด!”
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1684

    เฟนด์และคนอื่น ๆ เตรียมที่จะพักผ่อนในขณะที่ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดลงหลังจากจัดให้มีคนสองสามคนผลัดกันเฝ้ายามแล้ว แนชและคนอื่น ๆ ก็เริ่มฝึก ไม่มีใครปล่อยให้โอกาสนี้เสียเปล่าเนื่องจากในป่าผืนนี้อันตรายและแม้แต่สัตว์อสูรที่อยู่ระดับเทพสูงสุด นอกจากนั้น ในบริเวณนั้นยังมีพลังฉีที่เข้มข้น และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ทุกคนได้สัมผัสกับความเข้มข้นของพลังฉีที่มากมายถึงขนาดนี้ เมื่อรวมกับทักษะยุทธใหม่ด้วยแล้ว ทุกคนก็ยิ่งต้องการที่จะทะลวงเข้าสู่ขั้นที่สองหรือขั้นที่สามของระดับเทพขั้นสูงสุดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในทางกลับกันเฟนด์ตัดสินใจที่จะฝึกบ่มเพาโอสถขั้นต้นระดับสามต่อไปเขาค้นพบว่าทักษะยุทธที่เขากำลังฝึกฝนนั้นเป็นทักษะที่น่าประทับใจ และเป็นเพราะพลังฉีที่หมุนเวียนในร่างกายของเขาที่ยังหมุนอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง มันจะดูดซับพลังฉีและแปลงเป็นพลังยุทธไปเรื่อย ๆไม่ว่าเขาจะกิน จะนอน หรือทำอะไรก็ตามแน่นอนว่าความเร็วในการฝึกฝนด้วยวิธีดังกล่าวอาจไม่เร็วเท่าการฝึกเชิงรุก แต่ข้อดีของวิธีนี้คือเฟนด์จะได้ฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา และเมื่อเวลาผ่านไปก็ยังถือว่าความเร็วของมันค่อนข้างมากไม่มีใครกล้ารบกวนเฟนด์เมื่อพวก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1685

    “เยี่ยมมาก! ในที่สุดก็ทำสำเร็จ! แม้ว่าอัตราความสำเร็จในปัจจุบันของผมจะต่ำ แต่ด้วยประสบการณ์ในการประสบความสำเร็จสำหรับยาเม็ดนี้ ผมก็สามารถบ่มเพาะโอสถเม็ดที่สองและสามได้อย่างแน่นอน ถ้าผมยังคงบ่มเพาะโอสถชนิดนี้ต่อไป อัตราความสำเร็จของผมจะเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีอะไรมาขวางได้!” เฟนด์กำหมัดแน่น ความมุ่งมั่นส่องประกายในดวงตาต้องบอกเลยว่าเมื่อเทียบกับการบ่มเพาะโอสถระดับสองแล้ว การบ่มเพาะโอสถระดับสามนั้นยากกว่ามาก แต่ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร และในที่สุดเฟนด์ก็ประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะโอสถระดับสาม“คงต้อขอเก็บไว้ก่อน ทุกคนเพิ่งทะลวงเข้าสู่ขั้นที่หนึ่งของระดับเทพสูงสุดไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ และระดับพลังยุทธคุณก็ยังไม่มั่นคง ไม่มีใครสามารถใช้ยานี้ได้ในตอนนี้” เฟนด์ยิ้มอย่างขมขื่นและเก็บยาในมืออย่างระมัดระวังแทนที่จะพักผ่อนเฟนด์ยังคงบ่มเพาะโอสถเพิ่มอีกสองครั้งแทน แต่ก็ต้องผิดหวังที่กระบวนการทั้งสองล้มเหลวแน่นอนว่าหลังจากความล้มเหลวทั้งสองครั้งนี้เฟนด์ก็ยังไม่ยอมแพ้ เพราะเขาค้นพบว่าความล้มเหลวทั้งสองมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเฟนด์จะยังคงบ่มเพาะส่วนผสมสองกลุ่มต่อไป หากดวงอาทิตย์ยังไม่โผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1686

    เมื่อเห็นสีหน้าของพวกเขา เคนเนธหัวเราะเสียงดังจนเขาปวดท้องจากนั้นเขาก็พูดว่า “หากพวกเรายังไม่ก้าวไปสู่ระดับเทพสูงสุด พวกเราคงจะตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินข่าวดีอันเหลือเชื่อนี้จากคุณ แต่ พวกคุณไม่รู้หรอกว่าคนของเราที่นี่ได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นที่หนึ่งระดับเทพสูงสุดหลายคน และเราเองก็ได้รับทักษะยุทธมาด้วย นั่นเป็นเหตุผลที่เราตอบสนองออกไปเช่นนั้น!”“เป็นไปได้ยังไง!” คราวนี้ พ่อบ้านไททัสและโยลันดาอ้าปากกว้างเพราะกลายเป็นว่าพวกเขาเองที่เป็นฝ่ายที่ประหลาดใจเคนเนธพอใจกับสีหน้าประหลาดใจของพวกเขาและพูดกับสองคนนี้ด้วยรอยยิ้ม “ผมเองก็มีข่าวที่น่าตื่นเต้นจะบอกพวกคุณทั้งคู่เหมือนกัน พวกคุณจะต้องตื่นเต้นมากแน่ ๆ เมื่อรู้เรื่องนี้!”"จริงหรือ? เมื่อเทียบกับจำนวนคนจากตระกูลวู๊ดของเราที่ทะลวงเข้าสู่ระดับเทพสูงสุดแล้ว ยังมีข่าวอื่นที่น่าประหลาดใจอีกหรือ?” โยลันดาและไททัสสบตากันเพราะสงสัยว่าเขาทั้งคู่กำลังฝันอยู่“นายน้อยเฟนด์เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับสามแล้ว และตอนนี้เขาสามารถบ่มเพาะโอสถชั้นต้นระดับสามได้แล้ว!” ภายใต้สายตาที่คาดหวังอย่างมากของสองคนนี้ เคนเนธจงใจยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะเล่าสถานการณ์ให้พวกเข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1687

    พ่อบ้านไททัส พยักหน้าและตกลงตามนั้นเพราะเขากลัวว่าเฟนด์จะปฏิเสธที่จะช่วยเขาบ่มเพาะโอสถหากเขาอิดออดไม่ยอมรับข้อเสนอเฟนด์ยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของทั้งสองคน "อย่ากังวล ขอเพียงมอบวัตถุดิบที่คุณพบในอนาคตให้ผม อัตราความสำเร็จของผมก็น่าจะเพิ่มขึ้นด้วย อืมมม... สมาชิกของตระกูลวู๊ดแค่จัดหาวัตถุดิบสามชุดให้ผมก็พอ ผมจะฝึกฝนให้หนัก เพื่อบมเพาะโอสถให้พวกคุณ สำหรับคนที่เป็นมิตรกับเรา ถ้าพวกเขาสามารถจัดหาวัตถุดิบได้ ให้ส่วนผสมห้าชุดแก่ผม แล้วผมจะพยายามบ่มเพาะโอสถให้!"“นายน้อยเฟนด์ นี่เธอหมายความว่าเธอจะให้โอสถที่ทำจากวัตถุดิบพิเศษพวกนั้นแก่เราหนึ่งเม็ด หากเรานำวัตถุดิบห้าชุดแก่เธองั้นเหรอ?” ก่อนหน้านี้อเล็กซานเดอร์ยังนึกอิจฉาตระกูลวู๊ดอยู่ในใจ เขาตื่นเต้นมากจนตาโตราวกับไข่ห่านเมื่อได้ยินสิ่งที่เฟนด์พูดไม่ว่าอย่างไร มันก็เป็นถึงโอสถชั้นต้นระดับสาม“ฮ่าฮ่า นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร!” เฟนด์หัวเราะเสียงดังเขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาจะต้องเหนื่อยแน่ถ้าเขาทำเช่นนี้ แต่ในกรณีนี้เขาจะไม่ขาดแคลนวัตถุดิบหากเขาจำเป็นต้องบ่มเพาะโอสถ จะมีคนมาช่วยเขาหาวัตถุดิบสำหรับบ่มเพาะโอสถ และยังสามารถประหยัดเวลาได้มากขึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1688

    เฟนด์และคนอื่น ๆ ไม่เคยเห็นงูหลามเลือดสองหัวในโลกภายนอก แต่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้เคยถูกกล่าวถึงในหนังสือมาแล้วหากมีใครพบเจอสัตว์อสูรเช่นนี้ที่โลกข้างนอกนั่น การคงอยู่ของมันก็คงเป็นราวกับตำนาน มันเป็นสัตว์อสูรในระดับเทพสูงสุด แค่คิดก็สยองแล้วงูหลามเลือดสองหัวกำลังปกป้องพื้นที่รอบ ๆ หญ้าวิญญาณขั้นกลางระดับสาม ทั้งตัวของมันเป็นสีแดง และดูสะดุดตาเป็นพิเศษเมื่อมองไปที่มัน“มันมีร่างกายใหญ่โต เสียงกังวานจากร่างของมันเล็กน้อย หมายความว่ามันเป็นสัตว์อสูรในขั้นที่สองระดับเทพสูงสุดอย่างแน่นอน สัตว์อสูรแบบนั้นน่าจะเก่งพอ ๆ กับขั้นที่สามระดับเทพขั้นสูงสุด! มันน่ากลัวมาก!”อเล็กซานเดอร์ศึกษางูหลามยักษ์สีแดงจากระยะไกลและทิ้งท้ายบอกเฟนด์ว่า “นายน้อยเฟนด์มีหญ้ามากมายในป่านี้ ฉันคิดว่าเราควรออกจากบริเวณนี้ และไปหาที่อื่นกันเถอะ มันจะง่ายกว่าเดิมมาก สัตว์อสูรตัวนี้แข็งแกร่งและอันตรายเกินไป!”“ถ้าเป็นหญ้าวิญญาณระดับอื่น ผมก็คงยอมแพ้ไปแล้วคงจะไม่มาแถวนี้แน่นอน!”เฟนด์มองไปที่หย่อมหญ้าวิญญาณจากระยะไกล ความหลงใหลเปล่งประกายในดวงตาของเขา “หญ้าวิญญาณนั่นไม่ใช่หญ้าวิญญาณระดับสามธรรมดา ๆ มันเป็นส่วนผสมหลัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1689

    "ไม่มีทาง นายน้อยเฟนด์ คุณสามารถสัมผัสได้ถึงเสียงสะท้อนจากระยะไกลได้ด้วยหรือ? ความแข็งแกร่งทางจิตใจของคุณแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”ชายหนุ่มจากตระกูลคาเบลโลอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา"แน่นอน เขาเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับสามแล้ว และความแข็งแกร่งทางจิตใจของเขาก็มหาศาล คนที่อยู่ในระดับพลังยุทธ์สูงเท่าเรา สามารถสังเกตอะไรแบบนี้ได้หรือไม่?”ชายหนุ่มอีกคนมองเฟนด์ด้วยความชื่นชมจากด้านข้าง“ขั้นสองระดับเทพสูงสุด? แต่ก็ช่างปะไร หญ้าวิญญาณนั้นสำคัญมาก นี่เป็นโอกาสสำหรับเรา พวกเขาอยู่ที่ขั้นสองระดับเทพสูงสุดเท่านั้น พวกเขาอาจสู้กับสัตว์อสูรไม่ไหวก็เป็นได้ คุณหาโอกาสฉวยหญ้าวิญญาณมาก็ได้ ยังไงซะคน ๆ นั้นก็ไม่ใช่สมาชิกตระกูลวู๊ดหรือสมาชิกตระกูลคาเบลโลอย่างแน่นอน!”หลังจากที่อเล็กซานเดอร์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาก็ให้คำแนะนำกับเฟนด์อยู่ข้าง ๆแนชเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “น่าจะเป็นคนจากตำหนักเทพยดารึเปล่า? เพราะเก้าในสิบของสมาชิกชนเผ่าเป็นผู้หญิง แต่ผมจำไม่ได้ว่ามีคนที่สวมชุดสีม่วงเช่นนี้ในหมู่ผู้อาวุโสในตำหนักเทพยดา”“ก็ไม่แน่หรอก คนจากตำหนักเทพยดาซึ่งอยู่ที่ขั้นสูงสุดของระดับแห่งเทพแท้จริงมีมากกว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1690

    ขณะที่เฟนด์พูด การโจมตีของหญิงสาวในชุดสีม่วงก็พุ่งตรงไปที่ลูกไฟปัง!เสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังขึ้น รัศมีดาบของหญิงสาวตัดผ่านลูกไฟยักษ์ไป หลังจากที่ลูกไฟระเบิดมันก็สูญสลายไป ในขณะเดียวกันรัศมีดาบยาวยังคงหลงเหลืออยู่ มันพุ่งไปข้างหน้าและฟาดฟันลงบนงูหลามเลือดยักษ์สองหัวฟ่อ!งูหลามยักษ์คำรามอย่างโกรธเกรี้ยว มันดุร้ายและดูรุนแรงยิ่งกว่าเดิม ในขณะเดียวกัน การโจมตีของหญิงสาวได้ทิ้งบาดแผลยาวกว่า 20 เซนติเมตรไว้บนร่างกายของสัตว์อสูร เลือดสด ๆ ไหลออกมาจากบาดแผลเหล่านั้นบาดแผลนั้นใหญ่พอตัว แต่สำหรับงูหลามเลือดยักษ์สองหัวตัวนี้กลับไม่ส่งผลกระทบอะไรกับมันเลย สิ่งนี้กลับทำให้มันยิ่งงุ่นงานเข้าไปใหญ่กรามขนาดใหญ่ทั้งสองของมันปล่อยเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวอีกครั้ง ทันใดนั้นเองมันก็พ่นลูกไฟขนาดใหญ่เท่าลูกบาสเก็ตบอลไปยังหญิงสาวจากทั้งสองด้านเห็นได้ชัดว่าสาวชุดม่วงจะไม่ปล่อยให้เกิดความผิดพลาดขึ้นขณะเผชิญกับการโจมตีนี้ เธอรีบรวบรวมพลังฉีถ่ายลงไปในดาบแล้วเหวี่ยงมันไปข้างหน้า โล่ที่ทำจากพลังฉีปรากฏขึ้นต่อหน้าเธออย่างรวดเร็ว ปกป้องเธอเหมือนกำแพงกระจกหนาตู้ม ตู้ม!ในชั่วพริบตา ลูกไฟยักษ์สองลูกก็กระ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29
  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 1691

    อย่างไรก็ตาม ในขณะที่หญิงสาวในชุดสีม่วงถูกตบไปด้านข้าง เธอก็ฟันดาบออกไปเช่นกัน และรัศมีของดาบที่ทรงพลังก็บินออกมาและตกลงบนร่างของงูหลามยักษ์ บาดแผลอีกที่ถูกสลักลงบนร่างของมันอีกครั้ง และเลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลนั้นก็ดูค่อนข้างน่ากลัวฟ่อ!แม้ว่ามันจะเคยได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก่อน แต่ครั้งนี้งูหลามยักษ์โกรธหญิงสาวมาก หลังจากส่งเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวอีกครั้ง มันก็พุ่งเข้าหาหญิงสาวในชุดสีม่วงด้วยความเร็วที่มากขึ้น มันขยายกรามของตัวเองและตั้งใจที่จะกลืนหญิงสาวไปทั้งตัว"ตาย!"หญิงสาวล้มลงบนพื้นและกระอักเลือดออกมาอีก ใบหน้าของเธอซีดลงในทันทีเธอรีบลุกขึ้นและตั้งใจจะรวบรวมพลังฉีอย่างรวดเร็วสำหรับการโจมตีโต้กลับ แต่เธอก็ตระหนักว่าเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส และเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะรวบรวมพลังฉีของตัวเองได้ เธอต้องการพักผ่อนสักระยะแต่เห็นได้ชัดว่าในช่วงเวลาปัจจุบันเป็นสถานการณ์ที่คาบเกี่ยวระหว่างความเป็นและความตาย“ฉันจะต้องมาตายที่นี่งั้นเหรอ?”ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกเสียใจเล็กน้อย เธอรู้ว่าการฉกหญ้าวิญญาณนั้นอันตราย แต่เธอก็ยังอยากจะลองดู เธอไม่คิดว่าหลังจากถูกยั่วยุ สัตว์อสูรจะยิ่งแข็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-10-29

บทล่าสุด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

DMCA.com Protection Status