เมื่อรถมาหยุดอยู่ข้างเควต้า คนสองสามคนก็เลื่อนเปิดประตูรถตู้ และพยายามลากเธอเข้าไปข้างในทันที! “เควต้า!” คุณอาเฟนเดอร์สันที่กำลังกลับมาจากร้านค้าตะโกนออกมา เมื่อเธอเห็นรถตู้ที่น่าสงสัยกำลังขับไปหาลูกสาวของเธอ จากนั้นเธอก็เริ่มวิ่งไปทางหญิงสาวที่น่าสงสารที่พยายามดิ้นรนอย่างเต็มที่เพื่อหนีจากคนที่จับเธอ คนจับเองก็ยังคงพยายามที่จะลากเธอเข้าไปในรถตู้ให้ได้ ในความกระวนกระวายใจของเธอ เธอจึงกัดแขนของหนึ่งในผู้ชายที่ปิดหน้าอย่างแรง! เขาตะโกนด้วยความเจ็บปวด จากนั้นชายที่แข็งแรงจึงผลักเควต้าออกไปอย่างแรง ทำให้เธอล้มลงกับพื้นอย่างจัง! ผลก็คือ หัวด้านหลังของเควต้ากระแทกกับข้างถนนโดยไม่ตั้งใจและเธอก็เป็นลมไปทันทีจากการประแทกอย่างแรงนั้น เมื่อเซร่ามาถึงผู้ชายกลุ่มนั้น พวกเขาก็อุ้มเควต้าที่หมดสติในตอนนี้เข้าไปในรถตู้แล้ว ด้วยความพยายามที่จะป้องกันไม่ให้พวกเขาพาเธอไป เซร่าจึงเริ่มตีผู้ชายพวกนั้นอย่างบ้าคลั่งทันที อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเธอจะต่อสู้อย่างเต็มที่แค่ไหนก็ตาม เธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้สำหรับพวกเขาอยู่ดี ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เธอจะเอาชนะผู้ชายตัวใหญ่กลุ่มหนึ่งด้วยตัวเองได้ยังไง? และในขณะ
แม้รูปภาพเองจะค่อนข้างไม่ชัดเจน แต่เจอรัลด์ก็มั่นใจว่าคนที่อยู่ในนั้นคือ ยูนัส หลง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาจะไม่สามารถจำคนที่เขาเกือบจะเขาตกเป็นเหยื่อให้แล้วยังไงกัน? “นั่นเป็นเขา หลังจากการลืบสวนเล็กน้อย พวกเราพบว่าเขามาถึงจังหวัดซอลฟอร์ดเป็นครั้งแรกเมื่อไม่กี่วันก่อน แม้ผมเข้าใจได้ว่าเขามีเหตุผลของเขาที่จะแก้แค้นคุณ แต่ผมไม่ค่อยเข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงจะตามคุณมาจนถึงที่นี่เพียงเพื่อจะทำแบบนั้นล่ะครับ!” เดรกตอบกลับ ขณะที่เขาขมวดคิ้ว แต่อย่างไรก็ตาม การตอบสนองฉับพลันของเจอรัลด์คือ การชกผนังข้าง ๆ เขาอย่างแรง “ผมไม่สนเขาหรือแม้แต่เหตุจูงใจของเขา ทั้งหมดที่ผมรู้ก็คือ เควต้าเป็นผู้บริสุทธิ์ในเหตุการณ์นี้ แต่เธอก็เกือบจะเสียชีวิตไปเพราะผม! เดรก, ไทสัน ผมเชื่อว่ายูนัสยังไม่ออกไปจากจังหวัดซอลฟอร์ด ผมต้องการให้พวกคุณสองคนแกะรอยหาเขาและจับเขามาให้ผม! ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีอะไรก็ตาม ทำให้มั่นใจว่าเขาจะไม่ออกไปจากจังหวัดซอลฟอร์ดได้อย่างลอยนวล!” เจอรัลด์กล่าวอย่างโกรธเคือง ขณะที่เขามองไปที่เควต้าที่ยังไม่ได้สติผ่านหน้าต่างประตูของห้องคนไข้ “ได้ครับ คุณคลอฟอร์ด!” พวกเขาทั้งคู่กล่าวพร้อมกันขณะท
“พวกเราอยู่ที่ไหนกันตอนนี้?” ยูนัสถาม ใบหน้าของเขาซีดเซียวเหมือนกับกระดาษแผ่นหนึ่ง “ผมก็ไม่มั่นใจมากนักเหมือนกันครับ…แม้พวกเราจะสามารถหนีจากคนของเจอรัลด์ ตอนพวกเราบังเอิญพบกับพวกเขาในถนนหลักมาได้ แต่พวกเราก็หลงทางออกมาไกลมากเกินไป และมันเป็นเพียงดินแดนแห้งแล้งรอบ ๆ ตัวเราเท่านั้นครับตอนนี้!” คนขับรถตอบกลับ เสียงของเขาเขาสั่นด้วยความกลัว แม้ก่อนหน้านี้พวกเขาคาดเดาไว้ว่าพวกเขาจะหนีรอดไปได้โดยไม่เป็นไร แต่พวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าคนของเจอรัลด์จะขัดขวางพวกเขาอย่างฉับพลันในถนนหลักที่นำไปสู่เมืองเมย์เบอร์รี่! ขอบคุณยามคำ่คืนได้คืบคลานเข้ามาแล้วในตอนนั้น และเนื่องจากคนขับรถก็เป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง เขาจึงจะสลัดพวกเขาออกไปได้ในท้ายที่สุด แม้พวกเขาหนีคนของเจอรัลด์ได้สำเร็จในขณะนี้ แต่ตอนนี้พวกเขาก็หลงทางเช่นกัน “ทำไมฉันถึงจะยังจ่ายให้นายด้วยนะ ถ้างั้น?! ไอ้โง่เอ้ย!” ยูนัสตะคอกใส่ พวกเขาอยู่ไกลจากตัวเมือง และความมืดมนของบริเวณรอบ ๆ ก็เพียงแต่จะทำให้ยูนัสยิ่งหดหู่ใจมากขึ้นเท่านั้น เป็นตอนนั้นเองที่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ในระยะไกล ลมยามค่ำคืนที่หนาวเย็นก็ยิ่งทำให้พวกเขาเย็นสันหลังวาบด้วยคว
หลังจากพูดคุยในโทรศัพท์ครู่หนึ่ง ใบหน้าของชายวัยกลางคนก็เปลี่ยนเป็นซีดเซียวอย่างมากทันที “ป เป็นอย่างงั้นเหรอ…? ผมคงรบกวนคุณมากแล้ว คุณชุยเลอร์! ผมจะส่งคนไปที่นั่นทันที!” สีหน้าของเขาซีดเซียวไปทั้งหน้าขณะที่เขาพูดขึ้นมาอย่างรีบร้อน “ตามคำบอกเล่าของตระกูลชุยเลอร์ ยูนัสได้หายตัวไปในจังหวัดซอลฟอร์ด!” “…ห๋า? พ พวกเราควรทำยังไงล่ะถ้างั้น?!” “สำหรับตอนนี้ ผมจะส่งคนไปที่นั่น บอกพี่รองให้ส่งคนไปที่นั่นเช่นกันเดี๋ยวนี้!” ผู้ชายคนนั้นตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระวนกระวายใจ “พี่รองเหรอ? แต่เขา…” “พี่ใหญ่และฉันไม่สามารถไปได้ ทางเลือกเดียวของเราคือให้สมาชิกครอบครัวจัดการเรื่องนี้ สำหรับเหตุผลนั้น มันคงไม่เป็นไรหรอกสำหรับพี่รองที่จะเป็นตัวแทนของตระกูลที่นั่น ฉันจะบอกคุณฮอบสันให้ตามเขาไปที่นั่นเช่นกัน!” เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้หญิงคนนั้นเพียงพยักหน้า ในขณะเดียวกัน ในที่สุดเจอรัลด์ก็มาถึงตรงหน้าผาด้วยเฮลิคอปเตอร์ของเขา หน้าผานั้นลึก และตามคำรายงานของลูกน้องของเขา พวกเขาแทบจะไม่สามารถค้นหาชิ้นส่วนที่สมบูรณ์ของรถได้เลย นับประสาอะไรกับผู้โดยสารทั้งสองคนล่ะ เมื่อได้ยินแบบนั้น เจอรัลด์จึงทำไ
เซร่าเป็นลูกสาวที่มีอนาคตมากที่สุดของนายท่านเฟนเดอร์สัน และยังเป็นบุคคลที่โดดเด่นมากที่สุดอันดับสองภายในตระกูลเฟนเดอร์สัน ความจริงแล้ว ตำแหน่งของเธอยังสำคัญมากกว่าอีกด้วย เมื่อเทียบพ่อของแจสมิน เมื่อรู้ว่าเรื่องนี้อย่างเดียวก็เป็นการอธิบายอย่างชัดเจนให้เข้าใจแล้วว่า เซร่าเป็นคนที่มีไหวพริบและฉลาดมากแค่ไหน เพิ่มเติมด้วยการหยั่งรู้โดยสัญชาตญาณที่เหนือกว่าของเธอ เซร่าจึงมั่นใจว่าพ่อของเธอคือคนที่ลักพาตัวเควต้าไปแน่ แม้เธอไม่รู้ว่าเขาพบเธอตั้งแต่แรกได้ยังไงก็ตาม “ฉันรู้จักพวกเฟนเดอร์สันเป็นอย่างดี เจอรัลด์ ในขณะที่เรื่องภายในที่ซับซ้อนมากมายเกิดขึ้นภายในตระกูลเฟนเดอร์สัน หากพ่อของฉันเป็นคนที่ลักพาตัวเควต้าไปล่ะก็ งั้นฉันก็วางใจได้ว่าเขาจะไม่ทำเรื่องต่าง ๆ ให้ยากสำหรับเธอหรอก ปัญหาก็คือ ฉันไม่สามารถพูดได้แบบเดียวกันเกี่ยวกับสมาชิกเฟนเดอร์สันที่เหลือ…” “ฮ่าฮ่าฮ่า! กระนั้น…เมื่อคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี้มีสาเหตุมาจากอารมณ์โกรธชั่วขณะที่ฉันมีต่อเขาเมื่อหลายปีก่อนล่ะก็! แม้ฉันมั่นใจว่าเขาเสียใจกับมัน แต่เห็นได้ชัดว่านิสัยของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย! เขายังคงคาดหวังที่จะให้ฉันก้าวออกไป และขอโ
“เด็กคนนี้…เธอช่างดื้อรั้นเหมือนกับแม่ของเธอไม่มีผิด! อืมม…แจสมินไม่ได้หาตัวเซเนียได้แล้วไม่ใช่เหรอ? สาวใช้ส่วนตัวคนนั้นของเซร่าใช่ไหม? พยายามให้เธอโน้มน้าวเควต้า อีกอย่าง ไม่มีใครควรจะรู้ว่าเควต้าอยู่ที่นี่ ไม่แม้แต่แจสมิน! ถ้าคำพูดหลุดออกไปล่ะก็ ฉันจะทำให้พวกนายแต่ละคนตายอย่างช้า ๆ แน่นอน! ตอนนี้ไปได้!” เมื่อได้ยินแบบนั้น หมอทั้งหลายก็ตัวสั่นขึ้นมาด้วยความกลัว ก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกเขาไปแล้ว ไบรสันจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นด้วยไม้เท้าในมือของเขา ก่อนจะจ้องมองอย่างว่างเปล่าไปที่ผนัง ในขณะที่เรื่องมากมายหลายอย่างอยู่ในใจของเขา ความทรงจำที่เด่นชัดที่สุดก็คือ ช่วงเวลาที่เขาตัดสัมพันธ์กับลูกสาวสุดที่รักของเขาต่อสาธารณชน เซร่า เขาไล่เธอออกไปจากตระกูลเฟนเดอร์สัน และแม้ว่าเขาจะเข้มงวดอย่างมาก เมื่อเป็นเรื่องของการใช้กฏบังคับของตระกูล แต่เขาก็รู้สึกเสียใจกับการกระทำของเขาทันทีเมื่อเธอจากไป เขาพยายามทำทุกวิธีที่เป็นไปได้เพื่อหาที่อยู่ของเซร่า เขาไม่ต้องการที่จะให้เธอกลับมาอยู่เคียงข้างเขา แต่เขาเพียงต้องการที่จะรู้ว่าลูกสาวอันเป็นที่รักของเขายังคงมีขีวิตอยู่หรือไม่ และถ้าเธอยังคงมี
“คุณหนูสาม คุณไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปจริง ๆ ครับ! คำสั่งนี้นายท่านเป็นคนออกปากโดยเฉพาะ!” บอดี้การ์ดกล่าว โดยพยายามอย่างเต็มที่ ที่จะป้องกันไม่ให้เด็กสาว ที่ดูอายุประมาณยี่สิบปีเข้าไปได้ “อืม งั้นก็เยี่ยมไปเลย! นายกำลังบอกฉันว่าตอนนี้มีสถานที่ภายในคฤหาสน์เฟนเดอร์สันที่ฉัน ควินซี่ไม่สามารถเข้าไปได้ใช่ไหม? ทั้งพี่ใหญ่และพี่รองของฉันก็ไม่ชอบฉันอยู่แล้ว นายกำลังพูดว่าคุณปู่ก็ไม่ชอบฉันเหมือนกันแล้วตอนนี้ใช่หรือเปล่า? ยิ่งนายขัดขวางฉันจากการเข้าไปมากเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งอยากเข้าไปและดูด้วยตัวเองมากขึ้นเท่านั้นแหละ! หลีกไปซะ!” ควินซี่ตะโกน ขณะที่เธอผลักบอดี้การ์ดออกไปและรีบเข้าไปข้างใน ภายในห้องที่ดูหรูหราและมีเฟอร์นิเจอร์โบราณ ดูเหมือนจะอยู่ในสไตล์ของขุนนางยุโรปในยุค 1960 ซึ่งถูกจัดวางอยู่ในทุก ๆ มุมห้อง นอกเหนือจากห้องของปู่ของเธอแล้ว ห้องนี้เป็นอีกห้องอื่นเดียวเท่านั้นที่หรูหราขนาดนี้ ในคฤหาสน์ทั้งหลังนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เธอไม่มีอะไรให้ทำ ควินซี่ก็มักจะมาที่ห้องนี้เพื่อดูอยู่บ่อย ๆ ก็เหมือนกับเฟนเดอร์สันคนอื่นส่วนใหญ่ ควินซี่มักใฝ่ฝันที่จะได้ย้ายเข้ามาในห้องพิเศษห้องนี้ ไม่ว่าจะอย่าง
แม้ตั้งแต่ตอนที่เธอยังคงเป็นเด็กน้อย แจสมินมักจะเกลียดการเข้าใจผิวเผินอยู่เสมอ ไม่ว่าจะหัวข้อไหนก็ตาม เพราะเช่นนั้น ตอนแรกเธอจึงวางแผนที่จะเข้าไปในห้องของคุณอาเพื่อพยายามค้นหาผู้มาใหม่ด้วยกันกับมินดี้ การบังเอิญพบกับควินซี่ของเธอนั้นจึงไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น ตอนนี้ที่รู้ว่าใครบางคนได้ย้ายเข้ามาอยู่ในห้องนั้น ความอยากรู้อยากเห็นของเธอจึงทำให้ตื่นเต้นขึ้นมา ใครที่จะมีสิทธิ์เพียงพอที่จะได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นั่นกันนะ?“ทำไมพวกเราไม่แอบเข้าไปดูภายในห้องกันล่ะ แจสมิน?” มินดี้แนะนำ ตอนนี้เริ่มรู้สึกอยากรู้อยากเห็นเพิ่มขึ้นเช่นกัน “อย่าบุ่มบ่ามไป สำหรับตอนนี้พวกเราควรจะไปกันก่อน ไม่นานก็เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่แล้ว และฉันไม่ต้องการที่จะทำให้เขาโกรธในช่วงเวลาเช่นนี้!” แจสมินตอบกลับ ขณะที่เธอเริ่มเดินจากไป แม้เธอจะพูดไปแบบนั้น แต่เอาตามตรงเธอก็ยิ่งสงสัยมากว่ามินดี้เสียอีก ประมาณสองวันต่อมา… “นายได้สิ่งของทั้งหมดที่ฉันบอกนายให้หามาหรือยัง? โปรดตรวจสอบอีกครั้งในภายหลังแล้วกัน พวกเราไม่อาจขาดสิ่งของพวกนี้ได้เพราะพวกเราจะต้องใช้พวกมันในการตกแต่งและจัดตั้งสถานที่จัดง