วินาทีที่พวกเขาเห็นคาร์ลอสคุกเข่า ทุกคนก็เบิกตากว้างทันที นี่มันบ้าอะไรกัน? นี่ไม่ใช่คาร์ลอส ซีนส์ อาจารย์ระดับสามที่ทรงพลังและชั่วร้ายจนยากจะหาใครเทียบได้ เขาคุกเข่าต่อหน้าชายหนุ่มคนนี้ โดยไม่แม้แต่พยายามจะต่อสู้เลยด้วยซ้ำ? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? ใคร… ชายหนุ่มคนนี้คือใครกันแน่…? ขณะที่ผู้คนในฝูงชนกำลังพูดคุยกันต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซีเรียลเองก็กำลังจ้องมองไปที่เจอรัลด์ ซึ่งตอนนี้กำลังเดินเข้าไปใกล้ชายชราที่คุกเข่าอย่างใจเย็น มือของเขายังคงล้วงอยู่ในกระเป๋าของเขา ซีเรียลไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้น ไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้น ไม่ว่าในกรณีใด ตอนนี้เขาไม่ได้ปิดบังรัศมีอันแข็งแกร่งและทรงพลังของเขาอีกต่อไปแล้ว และใครก็ตามที่สัมผัสได้ถึงรัศมีนั้นจะต้องรู้สึกใจสั่นอย่างแน่นอน ไม่เว้นแม้แต่ซีเรียล ในขณะนั้นเอง โกสก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว จากอาการตกใจที่เห็นคาร์ลอสคุกเข่าต่อหน้าเจอรัลด์ เปลือกตาของเขากระตุก เมื่อหันไปเห็นชายหนุ่มที่กำลังเดินตรงมาหาพวกเขา เมื่อก้าวไปยืนอยู่ข้างหน้าชายชรา เจอรัลด์ก็แบมือออกก่อนจะจับศีรษะของคาร์ลอส ราวกับว่าเขากำลังลงโทษเด็กที่ซุกซน “
โกสเพิกเฉยต่อคำถามของเจอรัลด์ เขาเพียงหลับตาครู่หนึ่ง… และเมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาของเขาก็สะท้อนให้เห็นประกายไฟขณะที่เขาคำราม “เพลิงดาบพิฆาต!” ทันใดนั้น ด้ามดาบคาตานะของเขาก็ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิงอันร้อนแรง จากนั้นมันก็พุ่งขึ้นไปยังส่วนปลายของดาบที่เจอรัลด์กำลังจับอยู่! แต่แล้วโกสก็ถึงกับตกตะลึง เพราะวินาทีที่เปลวไฟกำลังจะเผาไหม้มือของเจอรัลด์ พวกมันกลับดับมอดลงพร้อมกับเสียงดังฉ่า! “…อะ อะไรกัน…? มันเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร?!” โกสพูดตะกุกตะกัก ในขณะที่ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ เมื่อเขาเห็นว่าโกสอาจจะไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลใด ๆ หากเขายังคงถือดาบอยู่ เจอรัลด์จึงปล่อยมือจากด้ามดาบนั้นทันที ส่งผลให้โกสผงะถอยหลังไปเล็กน้อย ในขณะนั้น เสียงกริ่งที่แตกต่างกันเจ็ดเสียงก็ดังขึ้นจากตำแหน่งที่เลดเลอร์นั่งอยู่... จากนั้นร่างเจ็ดร่างก็กระโจนออกมาจากเงามืด และพวกมันใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีเพื่อล้อมรอบเจอรัลด์ ก่อนจะตะโกนออกมาว่า “ท่านอาจารย์!” จากสิ่งที่เจอรัลด์มองเห็น ชายที่สวมหน้ากากทั้งเจ็ดอยู่ในชุดที่ดูคล้ายนินจา แต่ละคนเปล่งรัศมีของความโหดเหี้ยมออกมาขณะที่ถือดาบเหล็กไว
ในขณะที่ทุกคนกำลังกรีดร้องและจ้องมองไปที่ฉากนองเลือดอย่างตกตะลึง หัวหน้าครอบครัวคนหนึ่งก็ตั้งสติได้และรีบโค้งคำนับเจอรัลด์ทันที เขาแสดงความรู้สึกเกรงกลัวและเคารพต่อหน้าเจอรัลด์ด้วยการตะโกนว่า “ท่านอาจารย์คลอฟอร์ด…!” เมื่อเห็นเช่นนั้น หัวหน้าครอบครัวที่เหลือก็โค้งคำนับพร้อมกันทันที ขณะที่คำว่า ‘อาจารย์คลอฟอร์ด’ ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณพื้นที่จัดงานใต้ดินทั้งหมด ในทางกลับกัน ฟินเนแกนได้หันไปมองสเต็ดสัน ซึ่งยังคงยืนตัวแข็งทื่ออยู่บนเวที และส่งสัญญาณให้เขาหนีไปด้วยกัน สเต็ดสันรู้สึกโล่งใจทันทีที่เขาเห็นและเข้าใจสัญญาณของฟินเนแกน จากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มเดินออกจากบริเวณนั้นอย่างช้า ๆ แม้ว่าทุกคนจะตะโกนเรียกชื่อของเขา แต่เจอรัลด์ก็ยังดูเฉยเมย เขาหันไปมองคาร์ลอสก่อนจะพูดว่า “คาร์ลอส ซีนส์… ฉันจำได้ว่าเคยถามคำถามบางอย่างกับแกก่อนที่แกจะหนีไป… เนื่องจากตอนนั้นฉันยังไม่ได้รับคำตอบ ฉันเลยอยากจะถามแกซ้ำอีกครั้ง ช่วยบอกเหตุผลที่ดีสักข้อว่าทำไมฉันถึงไม่ควรฆ่าแก?” เมื่อได้ยินเช่นนั้น คาร์ลอสก็กลืนน้ำลายทันทีก่อนจะตอบว่า “ผม… ผมจะเป็นลูกน้องของท่านไปจนวันตายครับ ท่านอาจารย์คลอฟอร์ด…!” แม้เขาจะไม่
เนื่องจากกองกำลังใหม่ของเจอรัลด์ยังมีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก ผู้ที่เข้าร่วมจึงเริ่มปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที ในที่สุดพวกเขาก็คิดว่ามันน่าจะเป็นการดีหากพวกเขาตั้งนิกายขึ้นมา ในการทำเช่นนั้น พวกเขาจะได้รับความเคารพนับถือจากผู้คน และสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี น่าเสียดายที่หลังจากพวกเขาได้นำเรื่องไปปรึกษากับเจอรัลด์ เขาก็ปฏิเสธคำขอของพวกเขา โดยระบุว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมที่พวกเขาจะทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกเขาตัดสินใจที่จะเลื่อนหัวข้อการสนทนานี้ออกไป เจอรัลด์ก็ใช้โอกาสนั้น ตอนที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา เพื่อบอกกับพวกเขาว่าเขาจะอยู่บนยอดเขาเทียร์สันอีกสองสามวันเท่านั้น เขายังพูดอีกว่าไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปในภูเขาตลอดระยะเวลานั้น... ในขณะเดียวกัน เพอร์ลาและลูกพี่ลูกน้องของเธอก็เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทาง เพื่อไปที่ห้างสรรพสินค้าที่ขายเสื้อผ้าหรูหราแห่งหนึ่งของเมืองเจนน่า “เธอแน่ใจเหรอเพอร์ลา…? คุณปู่บอกเองไม่ใช่เหรอว่าไม่อยากให้พวกเราออกไปไหนมากนัก…? เพราะพักหลังมานี้มีหญิงสาวในเมืองเจนน่าหลายคนหายตัวไป… ฉันกลัวว่าพวกโจรอาจจะเป็นคนที่
ขณะที่คนเหล่านั้นรีบเข้ามารุมล้อมเพอร์ลา คนที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้ากลุ่มก็ถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ เจนนี่?” เมื่อตั้งใจมองให้ชัดอีกครั้ง เพอร์ลาก็ตระหนักได้ว่าผู้นำคนนั้นไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน แต่เขาคือเบนสัน คนอวดดีที่พยายามจะเอาชนะเจอรัลด์ แต่กลับโดนเจอรัลด์จัดการเมื่อวันก่อน! “มันตบหน้าฉัน เบนสัน! นอกจากนี้ จำเด็กที่เราเจอที่ลานจอดรถของคฤหาสน์ฮาร์ทสโตนได้ไหม ดูเหมือนว่าเพอร์ลาจะสนิทสนมกับเขาด้วยนะ!” เจนนี่ตอบอย่างหยิ่งยโส “บ้าเอ๊ย! ฉันตามหาไอ้เด็กนั่นมานานแล้ว! ถ้าฉันได้เจอมันอีกเมื่อไหร่ ฉันจะฉีกมันให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเลยคอยดู! ไม่คิดเลยว่าแกจะกล้าทำร้ายเจนนี่! แกเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง?!” เบ็นสันคำราม ขณะที่เขายกฝ่ามือขึ้นพร้อมที่จะโจมตีเพอร์ลาอย่างเต็มที่ “หยุดเดี๋ยวนี้!” เสียงเย็นชาของคนคนหนึ่งดังขึ้นในขณะนั้น เมื่อหันไปมองหาที่มาของเสียง เบนสันก็เห็นว่าคนที่ตะโกนคือชายวัยกลางคนที่ติดป้ายไว้เหนือกระเป๋าด้านหน้า โดยระบุว่า 'ผู้จัดการ' และตามหลังมาติด ๆ ก็คือกลุ่มของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย.… ผู้จัดการกำลังรู้สึกเดือดดาลเป็นอย่างมาก นี่คือห้างสรรพสินค้าขา
“ฉันเข้าใจ… นั่นก็พอจะอธิบายได้!” เพอร์ลาตอบด้วยการพยักหน้า "…อะไรนะ? แฮนสัน ลูอี้? เขาเป็นใครกัน? เขาเป็นคนมีอำนาจเหรอ? เพอร์ลาคงไม่รู้จักใครที่มีอำนาจหรอกใช่ไหม?” เจนนี่พึมพำด้วยความประหลาดใจ “เงียบก่อน! เขาคือประธานแฮนสัน ลูอี้ อดีตคนขับรถของนายท่านยาโต้ จากตระกูลยาโต้แห่งเมืองเจนน่า! ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่ที่มีความสามารถพิเศษเท่านั้น แต่ปัจจุบันเขายังเป็นผู้จัดการทั่วไปของห้างสรรพสินค้าหลายแห่งอีกด้วย!” เบนสันกระซิบ เขารู้สึกตกใจไม่แพ้เจนนี่ ถึงกระนั้น อย่างน้อยนั่นก็ช่วยอธิบายได้ว่าทำไมบอดี้การ์ดของประธานลูอี้จึงแข็งแกร่งมาก! ในขณะนั้น แฮนสันถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “คุณช่วยเล่ารายละเอียดให้ผมฟังหน่อยได้ไหมครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ก่อนหน้านี้ คุณเชอร์วิน?” ใครก็ตามที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในกะลาต้องรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้กองกำลังทั้งหมดในเมืองเจนน่าอยู่ภายใต้การควบคุมของท่านอาจารย์คลอฟอร์ดผู้เหลือเชื่อและลึกลับ แฮนสันก็เป็นคนหนึ่งที่รู้เรื่องนี้ดี และเขาก็รู้ด้วยว่าเพอร์ลาเป็นศิษย์รักของอาจารย์คลอฟอร์ด เมื่อคำนึงถึงสิ่งนั้น แม้เขารู้ว่าเพอร์ลาจะสามารถรับมือกับสถา
เป็นธรรมดาที่เรื่องของเจนนี่จะได้รับการจัดการอย่างรวดเร็วโดยไม่มีอะไรยุ่งยากมากนัก กลับมาที่เรื่องของเจอรัลด์ ทุกวันนี้มีคนจำนวนมากที่มองหาโอกาสที่จะเข้าหาเขา เมื่อมันมาถึงจุดที่เขารู้สึกว่าทุกอย่างวุ่นวายจนเกินไป แต่เจอรัลด์ก็ยังรู้สึกโล่งใจที่เขาจะได้ใช้เวลาอยู่ในถ้ำมหัศจรรย์บนภูเขาเทียร์สันในอีกสองสามวันข้างหน้า ตามที่ชื่อบอกไว้ สถานที่แห่งนี้ช่างเป็นสถานที่ที่มหัศจรรย์อย่างแท้จริง และเจอรัลด์ก็พบวัตถุเวทมนต์หลายชิ้นอยู่ภายในถ้ำ ถึงกระนั้น เจอรัลด์ก็ยังต้องใช้เวลาถึงสามวันเต็ม ๆ ก่อนที่เขาจะสามารถหาสิ่งที่ผู้นำวิญญาณบอกให้ไปหาพบ มันเป็นคริสตัลชั้นยอดสีน้ำเงิน ที่มีขนาดประมาณเล็บของผู้ใหญ่… แม้ว่าเขาจะดีใจที่ได้พบมันในที่สุด แต่เจอรัลด์ก็ไม่รู้วิธีที่จะใช้มันแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม หลังจากเฝ้าสังเกตมันอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตระหนักว่าดูเหมือนมันจะมีพลังงานที่แข็งแกร่งและพิเศษอยู่ภายใน 'ฉันสงสัยจังว่าทำไมผู้นำวิญญาณถึงยืนยันที่จะให้ฉันหาอัญมณีพิเศษชิ้นนี้ให้จงได้ ... ' เจอรัลด์คิดกับตัวเองก่อนจะทำการศึกษามันต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้เวลาจะผ่านไปสองสามวันแล้ว แต่เขาก็ยังไม่รู้ว่าจ
ความเข้าใจของเธอมีแต่จะทำให้เธอรู้สึกลำบากใจมากขึ้นกว่าเดิม ถึงอย่างนั้น ซีเรียลก็ยังเห็นคุณค่าของเรื่องการแต่งงานที่ถูกกำหนดไว้แล้วมากเกินไป จนเธอไม่สามารถมองข้ามเรื่องนี้ไปได้ ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ และตัดสินใจเล่าเรื่องคำทำนายทั้งหมดของหมอดูในตอนนั้นให้เจอรัลด์ฟัง "…อืม? หมอดูเหรอ? เขามีลักษณะเป็นอย่างไร” เจอรัลด์ถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นและจริงจังในเวลาเดียวกัน ท้ายที่สุด จากคำอธิบายของเธอ… หมอดูที่ทำนายโชคชะตาให้เธออาจจะเป็นผู้นำวิญญาณหรือไม่? เป็นไปได้ไหมว่าผู้นำวิญญาณอาจจะซ่อนตัวอยู่บนภูเขาซาคราโซลิสตลอดเวลาที่ผ่านมา? หากเป็นเช่นนั้นจริง เจอรัลด์ก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาและความพยายามที่จะตามหาเขาอีกต่อไป! หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เจอรัลด์ก็ตกลงที่จะพาเธอไปที่ภูเขาแห่งนั้น นี่เป็นโอกาสที่เขาจะได้พบกับผู้นำวิญญาณอีกครั้ง และเขาก็ไม่คิดจะปฏิเสธเรื่องนั้น เมื่อซีเรียลได้ยินว่าเจอรัลด์เต็มใจที่จะทำตามคำขอของเธอ เธอก็รู้สึกทั้งประหลาดใจและมีความสุขในเวลาเดียวกัน ในเวลาต่อมา ทั้งสองคนก็ออกเดินทาง พวกเขามองเห็นโบสถ์หลังหนึ่งได้จากระยะไกล... ภูเขาซาคราโซลิสตั้งอยู่ทางใต้
พวกเขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ ไม่มีใครหรือรถคันอื่นใดอยู่รอบ ๆ เลยแม้แต่คันเดียว ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ยังอยู่ในรถเพียงลำพังด้วยนั่นหมายความว่าสถานการณ์ที่ผู้เฒ่าฟลินท์พบกับอุบัติเหตุนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่งในวิดีโอที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นแสดงให้เห็นว่ารถของผู้เฒ่าฟลินท์ลื่นไถลและหลุดการควบคุมไปเองในทันทีเจอรัลด์และเรย์ได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายนั้นเองพวกเขานั่งแท็กซี่กลับไปที่สำนักงานระหว่างทางกลับ เรย์มองเจอรัลด์ด้วยสีหน้างุนงงอย่างหนักแล้วถามว่า “เจอรัลด์ คุณคิดเห็นยังไงกับการตายของผู้เฒ่าฟลินท์?เขาตายได้ยังไง?”ใบหน้าของเจอรัลด์เคร่งเครียดมาก เขาเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน แต่ถึงกระนั้นเขาก็มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดาแน่นอน“นี่หมายความว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดยังไม่ตายเหรอ?”วินาทีต่อมา ความคิดอันบ้าบิ่นก็ผุดขึ้นในใจของเรย์เจอรัลด์รู้สึกว่าการคาดเดานี้เป็นไปได้น้อยมาก นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดตายไปต่อหน้าต่อตาเขาเอง แล้วเขาจะยังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?“เรากลับก่อนเถอะ บางทีมันอาจจะเป็นแค่อุบัติเหตุจริง ๆ ก็ได้!”เจอรัลด์บอก
เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่เจอรัลด์และเรย์ยังคงหลับอยู่ กริ่งที่ประตูก็ปลุกพวกเขาให้ตื่นเรย์เดินออกจากห้องไปที่ประตูในลักษณะกึ่งหลับกึ่งตื่นแล้วเปิดประตูออกเมื่อประตูถูกเปิดออก เขาก็ได้เห็นชายสองสามคนซึ่งกำลังสวมเครื่องแบบยืนอยู่ข้างนอก เมื่อเห็นตราบนเครื่องแบบของพวกเขา พวกเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้มาจากรัฐบาลกลาง“ขออภัย คุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ดและคุณเรย์ เลห์ตันอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพุ่งตัวเข้ามาถามเรย์พยักหน้าและตอบว่า “ผมนี่แหละเรย์ มีอะไรเหรอ?""พาเขาออกไป!"เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเรย์ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็สั่งคนของเขา และทันใดนั้นเอง เจ้าหน้าที่อีกสองคนก็เข้ามาคว้าแขนของเรย์แล้วลากเขาออกไปข้างนอก"เฮ้ย! นี่มันอะไรกัน?!"เรย์ตะโกนทันทีความโกลาหลดังกล่าวทำให้เจอรัลด์ จูโน่ และโนริตื่นขึ้นพวกเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว"คุณเป็นใคร?"เมื่อเจอรัลด์ออกมา เขาก็มองดูเจ้าหน้าที่พวกนั้นด้วยความประหลาดใจและเอ่ยถามขึ้น“คุณคงเป็นคุณเจอรัลด์ คลอฟอร์ด เรากำลังสงสัยว่าคุณเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม สารวัตรเลค หรือที่รู้จักกันในชื่อผู้เฒ่าฟลินท์ ดังนั้นเราต้องการนำคุณไปสอบ
ในเวลาเดียวกัน หมอกควันสีทมิฬของเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ล้อมรอบกายของชายชราเอาไว้หลังจากนั้นไม่นาน หมอกควันสีทมิฬดังกล่าวก็ดูดกลืนวิญญาณและพลังงานของชายชราไป ทำให้ชายกลายเป็นศพแห้งกรังเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูกสิ่งนี้ทำให้เอ็มเบอร์ลอร์ดตระหนกเป็นอย่างมาก เขาไม่ได้คาดหวังให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ยิ่งกว่านั้น เขาไม่คิดแล้วว่าชายชราจะมาสกัดกั้นการโจมตีจากเจอรัลด์แทนเขาแบบนี้“เอ็มเบอร์ลอร์ด คุณฆ่าคนบริสุทธิ์อีกแล้ว!”เจอรัลด์ตะโกนใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดด้วยความโกรธเมื่อพูดเช่นนั้น เจอรัลด์จึงตัดสินใจใช้ทักษะต้องห้ามของตัวเองเพื่อทำลายเอ็มเบอร์ลอร์ดให้สิ้นซากในขณะนี้เอ็มเบอร์ลอร์ดเสียสติไปแล้ว เขายืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองไป “วิชาทลายสหัสภพ!”เจอรัลด์ตะโกนและขว้างดาบแอสตราบิซในมือใส่เอ็มเบอร์ลอร์ดเมื่อดาบแทงเข้าไปในร่างของเอ็มเบอร์ลอร์ด มันก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาและกลืนกินเอ็มเบอร์ลอร์ดไปจนสิ้น“อ๊าก!”เอ็มเบอร์ลอร์ดกรีดร้องวินาทีต่อมา เอ็มเบอร์ลอร์ดก็กลายเป็นเถ้าถ่านในที่สุด เจอรัลด์ก็กวาดล้างเอ็มเบอร์ลอร์ดลงได้แล้วเจอรัลด์ล้างแค้นให้ชาวบ้านในหมู่บ้านฟ้าทมิฬได้แล้ว
ทั้งสามรีบมองออกไปข้างนอก ก่อนจะเห็นว่าชายชราออกจากบ้านไปตามลำพังโดยถือตะกร้าติดตัวไปด้วยขณะที่เขามุ่งหน้าไปยังกระท่อมไม้ของยามิเล็ต เฟซเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งสามก็สบตากันพวกเขาพบว่ามันค่อนข้างแปลกที่ชายชราคิดจะถือตะกร้าออกไปกลางดึกเช่นนี้ นี่จะต้องมีความลับบางอย่างที่ไม่มีใครล่วงรู้ซ่อนอยู่เป็นแน่ไม่นานหลังจากนั้น เจอรัลด์และทั้งสองก็ออกจากบ้านและติดตามชายชราไปอย่างเงียบ ๆพวกเขาติดตามชายชราไปจนถึงกระท่อมไม้ จากนั้นพวกเขาเห็นเขาหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเพื่อปลดล็อคประตูเมื่อประตูถูกปลดล็อค ชายชราผู้นั้นสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างระมัดระวัง หลังจากแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาก็ผลักประตูเปิดออกแล้วเดินเข้าไปอย่างมั่นใจเจอรัลด์และอีกสองคนก็เดินไปที่กระท่อมไม้ทันทีและยืนอยู่ตรงหน้ากระท่อมหลังนั้น“เจอรัลด์ ดูเหมือนว่าชายชรากำลังปิดบังอะไรบางอย่างกับเรา เพราะเขามีกุญแจบ้านหลังนี้อยู่กับตัว!”เรย์กระซิบกับเจอรัลด์ตอนนี้พวกเขาตระหนักได้แล้วว่าชายชราไม่ใช่คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างที่คิด เขาต้องมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเอ็มเบอร์ลอร์ดแน่“เรย์ ผู้เฒ่าฟลินท์ คุณสองคนไปซ่อนตัวก่อน เ
“เอ๋ นี่ก็ดึกแล้วนะ! ผมว่าคนที่คุณกำลังรออยู่คงไม่มาหรอก มาเถอะไปที่บ้านของผมและพักผ่อนกันจะดีกว่า!”ชายชราถอนหายใจและยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามคนเมื่อผู้เฒ่าฟลินท์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็หันกลับมาที่เจอรัลด์เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเขาเจอรัลด์เห็นปฏิกิริยาของเขาและพยักหน้าอย่างช้า ๆเนื่องจากพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้พวกเขาทำได้เพียงไปพักผ่อนที่บ้านของชายชราเท่านั้นนอกจากนี้ ท้องฟ้ามืดสนิท และไม่ปลอดภัยเลย ไม่รู้เลยว่าข้างนอกนี่มีอะไรรอพวกเขาอยู่?หลังจากพูดคุยกัน เจอรัลด์และคนอื่น ๆ ก็ติดตามชายชราออกจากกระท่อมไม้ไปชายชราพาเจอรัลด์และคนอื่น ๆ ไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาดูไม่เก่าเท่าไหร่ ราวกับเพิ่งถูกซ่อมแซมใหม่ก่อนหน้านี้“ผู้เฒ่า หมู่บ้านนี้เหลือคุณอยู่เพียงคนเดียวหรือเปล่า?”เมื่อพวกเขาอยู่ในบ้านของชายชรา ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ถามอย่างสงสัย"หึหึ!" ชายชราหัวเราะเบา ๆ"ใช่ คนอื่น ๆ ย้ายไปอยู่ในเมืองกันหมด ที่นี่เลยเหลือแค่ฉันคนเดียว!”หลังจากที่เขาหัวเราะแล้วเขาก็ตอบ“แล้วทำไมคุณไม่ย้ายเข้าเมืองด้วยล่ะ? อยู่ในเมืองไม่สบายกว่าเหรอ?”ผู้เฒ่าฟลินท์ยังคงถามต่อไป“อนิจจา ผมมันไร้ญา
“หึหึ เรย์ อย่าลืมสิว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว เขาน่ากลัวกว่าผีเสียอีก กับอีกแค่สถานที่แบบนี้นายคิดว่าเขาจะกลัวเหรอ”เจอรัลด์หัวเราะและเตือนเรย์เมื่อเรย์ได้ยินเช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าสิ่งที่อีกฝ่ายพูดสมเหตุสมผล “สำรวจกันตามสบายเลย ผมคงต้องไปก่อน!”ชายชราพูดกับทั้งสามคน“ได้เลย ผู้เฒ่า ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของคุณมากเลย!"ผู้เฒ่าฟลินท์ขอบคุณชายชราผู้นั้นอย่างรวดเร็ว“ไม่เป็นไรหรอก!”ชายชราตอบพลางโบกมือหลังจากที่ชายชราผู้นั้นจากไป เจอรัลด์และอีกสองคนก็ยืนอยู่หน้ากระท่อมไม้ จ้องมองออกไปอย่างว่างเปล่าพวกเขาไม่รู้ว่าต้องทำอะไร พวกเขาไม่อาจเข้าไปในกระท่อมได้ และไม่รู้ด้วยว่าจะเข้าไปเช่นไร“พี่เจอรัลด์ ผู้เฒ่าฟลินท์ ทีนี้เราจะทำยังไงดี? เปิดประตูออกไปเลยดีไหม?”เรย์มองไปที่เจอรัลด์และผู้เฒ่าฟลินท์แล้วถาม“ไม่ นั่นไร้สาระมาก เราบุกรุกเข้าไปไม่ได้!”ผู้เฒ่าฟลินท์ปรามเรย์ทันทีแม้ว่ายามิเล็ต เฟซจะไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว แต่กระท่อมหลังนี้ยังคงเป็นของเธอ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจทำตามอำเภอใจได้“แล้วเราควรทำยังไง? เราไม่มีกุญแจ”เรย์ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เ
ไม่มีทางที่ข้อเท็จจริงทั้งสองนี้จะเป็นเรื่องบังเอิญได้ เพราะฉะนั้นนั่นก็อาจหมายความได้ว่าเอ็มเบอร์ลอร์ดกำลังซ่อนตัวอยู่ที่นั่น แต่เพราะนี้คือคำใบ้ที่เอ็มเบอร์ลอร์ทิ้งไว้ให้พวกเขา จึงเป็นไปได้ว่าแทนที่จะไปพบเขาที่นั่น พวกเขาจะออกค้นหาตำแหน่งของเหยื่อรายต่อไปแทน หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้เฒ่าฟลินท์ก็สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งไปทันที! พวกเขาจำเป็นต้องมุ่งหน้าไปที่บ้านของยามิเล็ต เฟซเดี๋ยวนี้! “คุณแน่ใจจริง ๆ เหรอว่า เอ็มเบอร์ลอร์ดจะซ่อนอยู่ที่นั่น พี่เจอรัลด์…?” เรย์ถามระหว่างทางไปที่นั่น เจอรัลด์ส่ายหน้าแล้วตอบด้วยสีหน้าจริงจังว่า “บอกตามตรง ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นั่นก็เพราะเอ็มเบอร์ลอร์ดเป็นคนจู้จี้จุกจิกและไม่เคยทำตามกฎเกณฑ์ ฉันเดาว่าเลขพวกนี้จะนำเราไปสู่เหยื่อรายต่อไป แต่ในการตามหาเหยื่อรายนั้น เราจะเข้าใกล้ที่กบดานของเอ็มเบอร์ลอร์ดอีกก้าวหนึ่งอย่างแน่นอน!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เรย์ก็พยักหน้าเข้าใจ... หลังจากขับรถไปประมาณสี่สิบนาที ในที่สุดทั้งสามก็มาถึงบ้านคุณยายของเอ็มเบอร์ลอร์ด ยามิเล็ตอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ อันห่างไกล และไม่นานทั้งสามก็เดินอยู่ในถนนของหมู่บ้าน
"สวัสดี? เจอรัลด์มีอะไรหรือเปล่า?” ผู้เฒ่าฟลินท์ถามจากอีกฟากหนึ่งของสาย “ผู้เฒ่าฟลินท์ ถึงผมจะรู้ว่าคุณไม่อาจยอมให้เราเข้าร่วมการสืบสวนได้ แต่ผมก็หวังว่าคุณจะสามารถช่วยเราได้ นั่นก็แปลว่าหากคุณต้องการคลี่คลายคดีและจับเอ็มเบอร์ลอร์ดให้ได้ ก็ช่วยตั้งใจฟังผมและเชื่อผมด้วย ทุกสิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณต่อไปนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งทีเดียว!” เจอรัลด์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เฒ่าฟลินท์ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ทว่าในที่สุดเขาก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาสามารถไว้ใจเจอรัลด์ได้ ดังนั้นเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยงเหนือสิ่งอื่นใด ทั้งเขาและเด็กหนุ่มต่างก็ต้องการให้คดีคลี่คลายลงและจับตัวเอ็มเบอร์ลอร์ดได้ในท้ายที่สุด “…เอาล่ะ บอกมาว่าฉันจะช่วยยังไงได้บ้าง!” “มุ่งหน้าไปที่สำนักงานเขตเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็จะไปที่นั่นด้วยเช่นกัน แล้วเมื่อเราพบกันที่นั่นผมจะบอกข้อมูลเพิ่มเติมกับคุณทีหลัง!” เจอรัลด์ตอบก่อนจะวางสาย ครึ่งชั่วโมงต่อมาเรย์และเจอรัลด์ได้พบกับผู้เฒ่าฟลินท์ ณ สถานที่ที่พวกเขานัดกัน “เรามาทำอะไรที่นี่ เจอรัลด์…?” ผู้เฒ่าฟลินท์เอ่ยถามอย่างสับสน “ฟังนะ ผมต้องการให้คุณตรวจสอบประวัต
เมื่อตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้เฒ่าฟลินท์ เจอรัลด์และเรย์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกผู้เฒ่าฟลินท์อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อยในขณะที่เขาถามอย่างงุนงงว่า “…พวกนายสองคนเองเหรอ? มาทำอะไรกันที่นี่? แล้วเข้ามาที่นี่ได้ยังไง?”หัวหน้าสารวัตรมีคำสั่งไม่ให้เขาติดต่อกับเจอรัลด์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้รับแจ้งว่าเจอรัลด์ไม่ได้รับอนุญาตให้มาช่วยในการสืบสวนอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ผู้เฒ่าฟลินท์จึงทำได้เพียงเชื่อฟังผู้บังคับบัญชาของเขาเท่านั้น“เรามาตามหาเบาะแส!” เจอรัลด์ตอบ “ฟังนะ ฉันต้องขอโทษ ด้วย แต่นายสองคนไม่ได้รับอนุญาตให้มายุ่งย่ามกับคดีนี้อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นได้โปรดออกไปเสีย! ถ้านายกลับมาที่นี่อีกครั้ง เราก็จำเป็นต้องจับพวกนายกลับไปกับเราด้วย!” ผู้เฒ่าฟลินท์เตือน เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็ทำเพียงแค่พยักหน้า ด้วยความที่ไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากให้แก่ตาเฒ่าคนนี้ เจอรัลด์จึงตอบกลับไปว่า “รับทราบ!” ขณะที่เขากำลังจะจากไปพร้อมกับเรย์ เขาก็ได้ยินเสียงผู้เฒ่าฟลินท์ตะโกนว่า "เดี๋ยวก่อน! ตอนที่อยู่ที่นี่นายได้พบเบาะแสอะไรบ้างหรือเปล่า? ถ้ามีล่ะก็ช่วยมอบมันให้เราด้วย!” เ