เย่เทียนหยู่มาทันช่วงเวลาที่สำคัญพอดี มาในตอนที่หลินหว่านหรูรู้สึกเจ็บปวดและเสียใจ นายท่านหลินพูดจบก็มองไปทางหลานสาวตาไม่กระพริบเพราะรู้ว่าเรื่องนี้มันมีผลต่อเธอมากๆ แต่ว่าเขาเองก็ไม่มีหนทางที่ดีกว่านี้ อีกอย่าง ในอนาคตหลานของเขาจะต้องเข้าใจแน่ๆ พอถึงตอนนั้นหลานของเขาจะต้องรู้สึกขอบคุณเขาแน่ๆที่ทำเพื่อเธอในวันนี้ ส่วนหลี่ว์เจิ้งก็ตั้งตารอยิ่งกว่าใครเพราะว่าคนสวยตรงหน้าจะกลายเป็นคนของเขาแล้ว ทำให้สิ่งที่ทำให้เขาอารมณ์เสียก่อนหน้านี้หายไปจนหมด แต่ในตอนนี้กลับมีเสียงของเย่เทียนหยู่ลอยมา อะไรกัน ไม่ตกลงงั้นเหรอ? ไอ่บ้าคนไหนที่มันกล้าเขามาขัดขวางกัน แต่ลองฟังดูเสียงนี้ช่างฟังดูคุ้นเคย สีหน้าของนายท่านหลินเปลี่ยนไป พ่อและแม่ของหลินหว่านหรูเองก็เช่นกัน ให้ตายเถอะ เย่เทียนหยู่มาได้ยังไงกัน เหมือนวิญญาณที่ตามติดเลย เขามาก็ไม่รู้จะมาสร้างเรื่องอะไร ถ้าทำให้คุณชายหลี่ว์โมโหแล้วจะทำยังไงดี แต่จากท่าทีของครอบครัวของเธอเมื่อสักครู่ก็ทำให้ใจของเธอด้านชาไปแล้ว อย่างน้อยในตอนนี้เธอไม่อยากสนใจอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าเย่เทียนหยู่จะทำอะไรเธอก็สนับสนุนทั้งนั้น ในตอนที่ทุกคนต่
“หว่านหรู นี่ลูกพูดอะไรออกมา?” “ทำไมถึงไปนอนกับไอ่สวะนี่ได้?” “ลูกนอนที่บ้านตลอดไม่เคยออกไปไหน แม่รู้นะว่าลูกกำลังพูดเพื่อมันถึงได้พูดแบบนี้” “นี่แกบ้าหรือเปล่า ถ้าคุณชายหลี่ว์เข้าใจผิดจะทำยังไง” “คนอย่างเย่เทียนหยู่ทั้งชาติตระกูลและความหล่อเหลาก็สู้คุณชายหลี่ว์ไม่ได้ ถ้าเทียบกันมันก็ไม่ต่างจากขยะ แกชอบอะไรมัน” แม่ของเธอพูดออกมาไม่หยุด หลินหว่านหรูได้ฟังก็ตั้งท่าจะเถียงกลับเรื่องที่เธอนอนกับเย่เทียนหยู่เป็นเพราะถูกคนวางยา เธอไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิด แต่ในตอนนี้หลี่ว์เจิ้งก็ได้สติกลับมา ที่แท้คุณชายเย่ชื่อว่าเย่เทียนหยู่ จึงรีบเอ่ยขัด “นายท่านหลิน คุณน้าพวกคุณเข้าใจผิดแล้วนะครับ ผมไม่เคยคิดว่าจะคบกับหลินหว่านหรู” “คุณชายหลี่ว์ นี่คุณ…?” “ที่ผมมาในวันนี้ก็เพราะว่านายท่านหลินเอาแต่รบเร้าให้ผมมาเจอเธอ ผมถึงได้มาแต่ไม่ได้คิดอะไรเลยแน่นอน” “เพราะว่าคนที่สวยจนโลกตะลึงอย่างคุณหลินถึงเหมาะกับคนที่หล่อเหลาอย่างคุณชายเย่” “ผมจะนับว่าเป็นอะไรได้ ถ้าเทียบกับเขาผมก็ไม่ต่างจากขยะ เป็นแค่คนไร้ค่าจะไปกล้าคิดอะไรแบบนั้นกับคุณหลินได้ยังไง” หลี่ว์เจิ้งแทบจะยกคำชมทั้งหมดออกมาพูดชมอีกฝ
“นี่…นี่” “ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้?” เพียงเท่านี้ทุกคนต่างก็พากันงงงวยไปตามๆกัน ทุกคนต่างก็ไม่เชื่อสายตาของตัวเอง นี่มันเกินสิ่งที่พวกเขาจินตนาการไปมาก พ่อแม่ของเธอตาโตก่อนจะอ้าปากกว้างเหมือนอยากจะพูดแต่พูดไม่ออก ถึงแม้หลี่ว์เจิ้งจะรู้สึกอับอายมากๆ แต่เมื่อลอดตัวเสร็จก็ไม่กล้าออกไป ได้แต่มองหน้าเย่เทียนหยู่อยู่แบบนั้น “คะ…คุณเย่เชื่อผมแล้วใช่ไหม?” “อืม เชื่อแล้วล่ะ” “นายไสหัวไปได้แล้ว!” “ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ ขอบคุณคุณเย่มากครับ” หลังพูดคำนี้จบหลี่ว์เจิ้งก็รีบออกไปจากห้องอาหารแล้วก็รีบจากไปในทันที เห็นได้ชัดว่าเขากลัวมากจริงๆ เขาไม่เคยมีครั้งไหนที่จะกลัวเท่าครั้งนี้เลย ต่อให้เป็นเมื่อวานก็ยังดีกว่าวันนี้ เพราะเขารู้ดีว่าเรื่องที่ทำในวันนี้อาจจะทำให้เขาตายไปเลยก็ได้ เพราะว่าอีกฝ่ายเป็นภรรยาของเขาเชียวนะ นี่มันผิดมากๆ ในตอนที่ออกจากตึกสี่ฤดู หลี่ว์เจิ้งก็รีบจากไป ในตอนนี้ก็มีวัยรุ่นคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาคือหม่าเผิง เขาพูดออกมาอย่างตื่นเต้น “คุณชายหลี่ว์ สวัสดีครับ!” เขาอุตส่าห์ได้ยินมาว่าอีกฝ่ายจะมาที่ตึกสี่ฤดูก็รีบมาดักทางไว้ “นายเป็นใคร?” ในใจของเขาเต็มไป
“ได้เลยครับ!” “คือมันเป็นแบบนี้…” หม่าเผิงอธิบายว่าเย่เทียนหยู่เข้ามายึดตระกูลแล้วยังถือดีรังแกคนอื่นๆ อยากให้หลี่ว์เจิ้งช่วยเขาทวงคืนสมบัติของตระกูล หลี่ว์เจิ้งได้ฟังก็รีบพูด “มีคนแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย แต่ว่านะเขายึดเอาบริษัทในเครือของตระกูลหม่าไปจนหมด ถ้าจะให้ฉันช่วยทวงคืนกลับมา ให้แค่ร้อยล้านมันน้อยไปหรือเปล่า?” “งั้นคุณชายหลี่ว์อยากได้เท่าไหร่?” “อย่างน้อยก็สักพันล้าน!” หลี่ว์เจิ้งพูด ครั้งนี้เขาอับอายมากเกินไปถ้าก่อนกลับยังทำเงินได้สักร้อยล้าน ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และยังมีเหตุผลไปอธิบายให้คุณปู่ฟังด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นเรื่องที่เขาไปรุกล้ำราชามังกรก็มากพอให้เขาถูกปู่จัดการอย่างหนักหน่วงแล้ว อะไรนะ! พันล้าน! หม่าเผิงหน้าเปลี่ยนสี ให้เขาจ่ายพันล้านเพื่อที่จะได้หงหม่ากรุ๊ปกลับคืนมา นี่มันไม่คุ้มเอาซะเลย และเงินจำนวนมากมายขนาดนั้นเขาก็ไม่มีด้วย แต่เขาคิดแล้วว่าถ้าเอาบริษัทกลับคืนมาได้ก็ค่อยหาทางขายทอดตลาด ต่อให้เขาจะขาดทุนหน่อยก็ไม่เป็นไร ขอแค่อย่าให้เย่เทียนหยู่ได้รับมันไปฟรีๆก็พอ เพราะอย่างนั้นหม่าเผิงจึงรีบพูด “ไม่มีปัญหา แต่ผมไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นในตอนนี้
เมื่อคำพูดที่โมโหหงุดหงิดนี้ของหลี่ว์เจิ้งพูดออกมา ก็ทำให้ลูกน้องที่ช่วยจองตั๋วต่างงุนงงกันไปหมด ทราบว่าในอดีต ไม่ว่าหลี่ว์เจิ้งจะไปที่ไหน หากไม่ใช่ชั้นเฟิร์สคลาสก็จะไม่นั่งอย่างเด็ดขาดหลายปีมานี้ ก็ยังคงรักษาความเคยชินเช่นนี้มาตลอด ก่อนหน้านี้ มีคนๆ หนึ่งที่ไม่สามารถจองชั้นเฟิร์สคลาสได้เนื่องจากคุณชายหลี่ว์นั้นรีบร้อน ดังนั้นเขาจึงจองที่นั่งชั้นประหยัดแทน เป็นผลให้เขาถูกคุณชายหลี่ว์ทุบตีอย่างรุนแรงเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง และขาของเขาก็หัก ทำให้เดินกะเผลกตลอดเวลา ตั้งแต่นั้นมา ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม แม้ว่าจะต้องจ่ายในราคาที่สูงกว่าสิบเท่า ก็ยังต้องจองที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสให้ได้ วันนี้คุณชายหลี่ว์ทำไมนิสัยเปลี่ยนไป ในเมื่อคุณชายหลี่ว์พูดเช่นนั้นแล้ว ลูกน้องเขาจึงไปจัดการทันที บังเอิญว่ามีเที่ยวบินเร็วสุดแต่คุณชายหลี่ว์ต้องรีบไปที่สนามบินทันที เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่ว์เจิ้งก็ชมลูกน้องของเขาอย่างมากและรีบนั่งแท็กซี่ไปสนามบินด้วยตัวเอง ยอดฝีมือที่พามาเมื่อครั้งก่อน แต่ครั้งนี้ไม่ได้มาด้วยกัน เหล่าลูกน้องล้วนสับสนกันหมด ไม่สามารถจองชั้นเฟิร์สคลาสได้ ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ถูกด่า แต
เย่เทียนหยู่มองดูท่าทางโกรธแค้นของคนเหล่านี้แล้วรู้สึกหมดหนทาง จึงพูดอย่างใจเย็นว่า “ทำไมพวกคุณถึงมั่นใจนักว่าตระกูลหลี่ว์ไม่รู้เรื่องนี้เหล่านี้ ?” ทำไมถึงไม่คิดว่า นายท่านหลี่ว์รู้เรื่องทั้งหมดนี้แต่ตระกูลหลี่ว์ไม่มีทางมาแก้แค้นด้วยซ้ำ” “หยิ่งผยอง” คุณแม่หลินพูดอย่างโกรธจัด “เย่เทียนหยู่ ต่อให้นายท่านหลี่ว์จะเป็นเทพ เรื่องเพิ่งจะเกิดเมื่อซักครู่นี้ แต่เขาก็ไม่มีทางที่ทราบเรื่องได้ทันที ถึงตอนนี้ คุณยังมาโอ้อวดอยู่ที่นี่” “อย่างไรก็ตาม เธออย่าคิดว่าแบบนี้แล้วจะพาเราติดร่างแหไปด้วย พอถึงเวลานั้น จะอธิบายทุกอย่าง อย่างแน่นอน ว่าตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเรานั้นอยู่เคียงข้างนายน้อยหลี่ว์” “เธอก็รอความตายโดยไม่มีที่ฝังศพเถอะ” ยังไม่มีความสามารถนี้” “ยังคงพูดจาโอหัง” “โอเค ฉันจะรอและดูว่าคุณตายยังไง” นายท่านหลินพูดอย่างโกรธจัด เขาเชื่อว่าด้วยความสัมพันธ์ของเขากับนายท่านหลี่ว์ แค่เพียงอธิบายก็คงไม่เป็นอะไรแล้ว “โอเค ถ้าอย่างนั้นทุกคนก็จะได้เห็นกัน” “หว่านหรู ฉันจะไปแล้ว คุณจะไปกับผมไหม” “ไม่ไป” “ไป” คนที่บอกว่าไม่ไปคือคุณแม่ของหลิน ส่วนคนที่บอกว่าไป แน่นอนว่าคือหลินหว่าน
หลินหว่านหรูตามเย่เทียนหยู่ออกไปและรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อเธอขึ้นรถ เธอรีบพูดว่า "เทียนหยู่ บอกความจริงกับฉันหน่อย คุณตีหลี่ว์เจิ้งหรือเปล่า บาดแผลที่ใบหน้าของเขา คุณเป็นคนทำใช่ไหม ? ” “ใช่!” “เจ้านั่นสมควรโดนตี ดังนั้น ฉันจึงจัดการกับเขา”เย่เทียนหยู่หัวเราะ “เป็นแบบนี้จริงด้วย คุณขู่เขาด้วยความตายจริงๆ” หลินหว่านหรูคิดถึงความน่ากลัวของตระกูลหลี่ว์จึงพูดอย่างวิตกกังวลว่า “ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไร? หรือไม่งั้น พวกเรารีบจองตั๋วเครื่องบินออกนอกประเทศทันที ต่อให้ตระกูลหลี่ว์จะแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเขาก็คงไม่สามารถยื่นมือไปถึงต่างประเทศได้” “รอก่อน!” “ทำไมต้องหนีด้วย!” เย่เทียนหยู่ยิ้มขมขื่นและพูดว่า “หรือว่าคุณก็ไม่เชื่อในความแข็งแกร่งของผมเหมือนกันเหรอ” “แน่นอนว่าฉันเชื่อว่าคุณมีความสามารถ ไม่เช่นนั้นคุณคงไม่สามารถช่วยฉันได้ตั้งหลายครั้ง แต่ว่า ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ตระกูลหลี่ว์แตกต่างจากตระกูลทั่วไป พวกเขาเป็นตระกูลใหญ่ในเมืองเมืองหลงตู” “ทั่วทั้งเมืองเทียนไห่ ไม่มีใครที่สามารถแข่งขันกับพวกเขาได้” หลินหว่านหรูส่ายหัว ทันใดนั้นเธอก็คิดวิธีแก้ปัญหาขึ้นมาได้และอดไม่ได้
“เมื่อคุณอยู่ที่นี่แล้ว ฉันจะขอเตือนคุณ อย่ายั่วยุผม ไม่งั้นคุณจะต้องเสียใจภายหลังแน่” “รนหาที่ตาย!” “ฉันว่าแกคงคิดไม่ถึงว่าสำนักถังน่ากลัวขนาดไหน ตอนนี้ ฉันจะแสดงพลังอันน่าสะพรึงกลัวของปรมาจารย์สำนักถังให้แกเห็น” ชายผู้นั้นโกรธจัดและเอื้อมมือขวาออกไปคว้าใบหน้าของเย่เทียนหยู่โดยตรง ลงมือดุดันและรวดเร็วมาก หากถูกจับได้ อย่าเบาก็ทำให้เสียโฉมเล็กน้อยอย่างหนักก็ทำให้บาดเจ็บสาหัสได้ สีหน้าของเย่เทียนหยู่ยังคงสงบนิ่งพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ เขาเอียงศีรษะเบาๆ หลบเลี่ยงการโจมตี และยกมือขวาขึ้นอย่างรวดเร็ว จับข้อมือของคู่ต่อสู้ในทันที พับตัวลงทันใด ในเวลาเดียวกัน พลังอันทรงพลังที่ซ่อนอยู่ก็ปะทุขึ้น ทำลายกระดูกข้อศอกของคู่ต่อสู้ในทันที เสียงแตกทีละนิด “อ๊า!” ชายผู้นั้นครางออกมาอย่างเจ็บปวดสุดขีดโดยไม่สนใจมือขวาที่โดนทำลายของเขา ทันใดนั้นอาวุธลับรูปเพชรขนาดเล็กสามชิ้นก็ปรากฏขึ้นในมืออีกข้างของเขาและบินออกไปในทันที ตรงไปที่หน้าอกของเย่เทียนหยู่ อาวุธลับสามชิ้นนี้มีพิษร้ายแรงมาก หากโดนโจมตี พวกมันสามารถฆ่าเย่เทียนหยู่ได้อย่างแน่นอน แต่เย่เทียนหยู่ยังคงสงบนิ่งและไม่แม้แต่จะหลบอา