Share

บทที่ 462

Author: สาวฉกรรจ์จอมต๊อง
แต่บังเอิญที่ลมปราณของเขาช่วยกำจัดสารพิษทั้งหมด และคืนชีวิตให้กับผิว นอกจากนี้ มือของเขายังผอกยาทาให้เธออย่างน่าอัศจรรย์

การทำทั้งสองอย่างนี้ร่วมกันเท่านั้นถึงจะสร้างผลลัพธ์ที่น่าเหลือเชื่อได้

หลังจากฝังเข็มอยู่ราว 20 นาที เย่เทียนหยู่ก็ค่อย ๆ ทายาก่อนจะเสร็จสิ้นการรักษา

รวมแล้วใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง

หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย เย่เทียนหยู่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะอาการบาดเจ็บของเธอสาหัสมาก เขาจึงต้องใช้ความพยายามไปไม่น้อย

หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เย่เทียนหยู่ก็เรียกจางผิงโดยไม่ได้ปลุกเฉินเฟยเฟย

“คุณชายเย่ เรียบร้อยแล้วเหรอคะ?”

จางผิงถามพร้อมพยายามกดความตื่นเต้นเอาไว้ในใจ

“เราจะรู้กันพรุ่งนี้เช้า” เย่เทียนหยู่กล่าว

“อ่อ แล้วทำไมพี่เฟยเฟยถึงยังไม่ตื่นเหรอคะ”

“อย่าเพิ่งรบกวนเธอ ให้เธอได้พักผ่อนก่อน หลังจาก 10 โมงเช้าวันพรุ่งนี้ ให้เอาผ้ากอซบนใบหน้าของเธอออกแล้วล้างยาที่ค้างอยู่ข้างในออก”

เย่เทียนหยู่กล่าว

“ได้ค่ะ!”

“ถ้าอย่างนั้นผมจะกลับก่อน ถ้าคุณต้องการอะไร สามารถโทรหาผมได้ตลอดเวลา”

เย่เทียนหยู่ออกจากที่นี่หลังจากให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ขณะที่เขา
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
เพชรมณี เศรษฐีร่ำรวย
เกลียด อีนางหว่านรู จังเลย ทำไมมันโง่ เชื่อผู้ขายง่ายแบบนี้ แบบนี้ทีพระเอกทำดีแค่ไหน มันก็ไม่เชื่อ อีโง่
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 463

    หลังจากเห็นท่าทางตื้นตันของหลินหว่านหรูที่มีต่อเขา กับอาการที่แปลกไปเมื่อครู่ตอนที่เธอเห็นจี้หยก กงซุนจื้อก็แอบรู้สึกภูมิใจ หลินหว่านหรูจะเข้ามาอยู่ในกำมือของเขาไม่ช้าก็เร็วเมื่อมีความช่วยเหลือจากซูถิงส่วนเย่เทียนหยู่ ไอ้เจ้านั่นดวงดีมากจริง ๆ เพราะหลังจากเกิดเรื่องผัวพันกับหยางเฉียนเฉียนแล้ว หยางต้าฝูก็ไม่ได้ลงมือจัดการเขาแต่อย่างใดแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะถ้าหยางต้าฝูไม่ทำอะไรเลย งั้นก็มีแค่เขาต้องทำเอง ประเด็นหลักคือเย่เทียนหยู่ดูเหมือนจะมีความสามารถอยู่บ้าง ทำให้หลินหว่านหรูเริ่มสนใจเขาเมื่อนึกถึงตรงนี้ เขาก็โทรไปเพื่อจัดการเรื่องนี้ทันทีไม่นานนัก วันรุ่งขึ้นก็ไม่ถึง อย่าว่าแต่ชาวเน็ตนับไม่ถ้วน แม้แต่หลินหว่านหรูเองและคนอื่น ๆ ก็ให้ความสนใจต่อสถานการณ์ของเฉินเฟยเฟยเป็นอย่างมากเพราะพวกเขาไม่รู้ว่าเย่เทียนหยู่สามารถรักษารอยแผลเป็นบนใบหน้าของเฉินเฟยเฟยได้หรือไม่ผ่านไป 24 ชั่วโมง เฉินเฟยเฟยยังไม่กล้าถอดผ้ากอซออก เธอยังจงใจรออีกหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะพูดว่า “ผิงผิง มาช่วยฉันหน่อย”“ได้ค่ะ!”จางผิงเองก็ตั้งตารอมากเช่นกัน มือของเธอสั่นขณะที่กำลังฉีกผ้ากอซออกอย่างระมัดระวัง

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 464

    ที่แท้แล้วเมื่อ 1 ชั่วโมง`ก่อน บรรดาคอมเมนต์ที่ขอให้เฉินเฟยเฟยถ่ายทอดสดบนออนไลน์เริ่มปรากฏขึ้นบนอินเทอร์เน็ต“ไหนบอกว่า 1 วันไม่ใช่เหรอ? นี่ก็ทั้งวันแล้ว ทำไมเฉินเฟยเฟยถึงยังไม่มากล้าปรากฏตัวอีกฮะ?”“สงสัยว่าจะรักษาไม่หาย ก็เลยไม่กล้ามาแสดงตัวสินะ”“เป็นไปไม่ได้หรอก ฉันเชื่อพี่เฟยเฟย”“แน่นอนว่าเราเชื่อเฟยเฟย แต่เราจะเชื่อได้ยังไงว่าหลินซื่อกรุ๊ปมีความสามารถที่น่าอัศจรรย์ขนาดนั้น อย่าลืมสิ ว่าเธอเคยถูกแพทย์เซียนจางต้าซานบอกแล้วว่าไม่มีทางรักษาหาย”“ใช่แล้ว ตอนนี้ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเลย ถ้าให้ฉันมองนะ ฉันว่าเรื่องนี้หลินซื่อกรุ๊ปหาทางลงไม่เจอแน่”“ฮึ หลินซื่อกรุ๊ปหมายความว่าอะไร? เห็นเฟยเฟยเป็นเครื่องมือในการโฆษณาเกิดจริงรึไงกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นนั้น ในอนาคตเราจะคว่ำบาตรพวกเขาแน่”“พูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะ ถ้าไม่ใช่เพราะหลินซื่อกรุ๊ปใครจะรู้ว่าเฟยเฟยต้องทนทุกข์ทรมานมากขนาดนี้”“ไม่ว่าเพราะอะไร หลินซื่อกรุ๊ปก็ไม่น่าพูดเกินตจริงเพียงเพื่อยอดวิวเลยนะ”“ก็ใช่น่ะสิ โม้เกินไปแล้ว กลัวว่าคงจะไม่มีใครเชื่อหรอก ทุกคนที่มารวมตัวกันที่นี่ก็แค่คิดว่าปาฏิหาริย์อาจเกิดข

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 465

    ทันทีที่โพสต์เฟสบุ๊คนี้เผยแพร่ออกไป ผู้คนนับไม่ถ้วนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์หลินซื่อกรุ๊ปอย่างบ้าคลั่ง ตราหน้าว่าพวกเขาเป็นพวกต้มตุ๋น อละบอกว่าพวกเขาคิดจะเขียนบทเองเล่นเองบางคนถึงกับกล้าพูดว่าแม้แต่ตำรวจก็ยังให้ความร่วมมือกับพวกเขาโดยเฉพาะเมื่อคำพูดดังกล่าวแพร่กระจายออกไปในวงกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมกบคำให้การของแพทย์เซียนผู้ยิ่งใหญ่ ความน่าเชื่อถือจึงสูงมาก และความน่าเชื่อถือของหลินซื่อกรุ๊ปก็ต่ำมากอย่าว่าแต่พวกเขา แม้แต่หลายคนในหลินซื่อกรุ๊ปก็เริ่มเชื่อเรื่องนี้เช่นกันแม้แต่หวงหงเจี้ยนก็ยังโทรมาเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ เพราะเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเหยื่อจุดดำเมื่อครั้งที่แล้ว เขาเป็นคนให้เลขาของเขารับรองแม้ว่าหลินหว่านหรูจะเชื่อเย่เทียนหยู่ แต่เธอก็ยังถามเพื่อทำความเข้าใจว่าสถานการณ์ปัจจุบันเป็นยังไงเมื่อเห็นแบบนี้ เย่เทียนหยู่ก็โกรธมากและขอให้หลินหว่านหรูโพสต์ข้อความเฟสบุ๊คเพื่อตอบโต้“ว่ากันว่าแพทย์เซียนจางมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม และเราก็นับถือคุณมาก แต่วันนี้ คุณกลับพ่นวาจากล่าวร้ายไม่เลือกหน้า ไร้ซึ่งการตรวจสอบนำพาทุกคนให้มีอคติ”“ในเมื่อแพทย์เซียนจางไม่เชื่อห

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 466

    โดยสรุปแล้ว ใครก็ตามที่กล้าเล็งเป้าหลินซื่อกรุ๊ปหรือหลินหว่านหรู ครั้งนี้อย่าคิดว่าจะหนีรอดในเวลาเดียวกัน เย่เทียนหยู่ก็มาตามหาเฉินเฟยเฟยด้วย เพราะถ้าสถานการณ์ปกติดี ในเวลานี้เฉินเฟยเฟยควรจะหายแล้ว แต่กลับไม่มีข่าวเกี่ยวกับเธอทันทีที่เขาเปิดประตู เขาก็ตกตะลึงไปเล็กน้อยเพราะหญิงสาวที่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอมีใบหน้าที่บริสุทธิ์และสวยงามราวกับเทพี แก้มสีอมชมพูของเธอดูมีน้ำมีนวลและมีเสน่ห์เป็นพิเศษ ดวงตากลมโตที่วูบไหวของเธอดูราวกับมีจิตวิญญาณของตัวเองประกอบกับรูปร่างเว้าโค้งและผิวขาวราวกับหิมะ เธอดูไม่ต่างจากนางฟ้าที่ลงมาเกิดเลยเดี๋ยวก่อน!นั่นมันเฉินเฟยเฟยไม่ใช่เหรอ?พอจะเดาได้อยู่แล้วว่าเมื่อเธอได้รูปลักษณ์กลับคืนมาอีกครั้ง เธอจะสวยมากพอจะเป็นคนรักในฝันของผู้ชายนับพันคนแต่ไม่คิดเลยว่ามันจะน่าทึ่ง และดูบริสุทธิ์ได้ขนาดนี้ ถ้ากล่าวถึงเฉพาะรูปลักษณ์ เธอสามารถเทียบกับหลินหว่านหรูและหยางเฉียนเฉียนได้เลยเมื่อเห็นดวงตาที่เหม่อลอยของเย่เทียนหยู่ เฉินเฟยเฟยก็รู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขมากยิ่งขึ้น เธอไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของเธอได้อีกต่อไป และโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของเย่เทียนหยู่“พี่เ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 467

    ตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่ต้น หลังจากที่ใบหน้าของเฉินเฟยเฟยฟื้นตัวแล้ว ผลลัพธ์จะประกาศทางออนไลน์โดยเร็วที่สุดผ่านทางเฟสบุ๊คจากนั้นจะมีการถ่ายทอดสด ณ สถานที่ที่บริษัทจัดไว้ด้วยวิธีนี้ อย่างแรกคือการรวบรวมแฟนคลับจำนวนนับมหาศาลให้กับบริษัทและตัวเธอเองอย่างที่สอง คือ การทำให้บริษัทได้รับยอดวิวเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่พลาดโอกาสดังกล่าว หลินหว่านหรูได้สร้างบัญชีวิดีโอของบริษัทตามคำแนะนำของ เย่เทียนหยู่เพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเอาไว้อยู่ก่อนแล้วเพราะหลายคนกำลังรอรายละเอียดผลลัพธ์เฉินเฟยเฟยรวมกับความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงระยะที่ผ่านมา จำนวนแฟนคลับของบัญชีวิดีโอออฟฟิศเชียลของหลินซื่อกรุ๊ปก็พุ่งสูงขึ้น และตอนนี้ก็มีจำนวนผู้ติดตามถึง 30 ล้านคนการพุ่งทะยานอย่างมหาศาลของจำนวนผู้ติดตามดูน่ากลัวมากอย่างไม่ต้องสงสัยเมื่อเห็นเฉินเฟยเฟยเข้ามา เย่เทียนหยู่ก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างช่วยไม่ได้และพูดว่า “หว่านหรู มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ”“ฉันคิดอะไรเหรอเย่เทียนหยู่ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายกอดผู้หญิงคนอื่น นายอยากให้ฉันคิดยังไงตอนที่ทำเรื่องแบบนี้” หลินหว่านหรูถามด้วยความโมโห“เอ่อ……”

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 468

    “นั่นสิ มาดูกันว่าพวกเขาจะหาทางออกยังไงอีก!”“ถูกต้อง นายทุนเหล่านี้ไร้มนุษยธรรมแถมยังมาหลอกเฟยเฟยของเราจริง”“ก็นั่นน่ะสิ ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกนะ แต่เพื่อเทพีของเรา ฉันจะสู้กับพวกเขาให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย”“เรามาคว่ำบาตร หลินซื่อกรุ๊ปและปล่อยให้พวกเขาล้มละลายไปเลย!”“……”ทันใดนั้น ผู้คนนับไม่ถ้วนก็เริ่มก่นด่ากันอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการด่าหลินซื่อกรุ๊ปในเวลานี้หลินหว่านหรูและเย่เทียนหยู่ทั้งคู่เดินเข้ามา เมื่อมองไปที่เฟสบุ๊คของจางต้าซานและความคิดเห็นด้านล่าง หลินหว่านหรูก็ตะคอกออกมาว่า “จางต้าซานคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นแพทย์ผู้มีชื่อเสียง เดิมทีนึกว่าเป็นพวกมีคุณธรรมซะอีก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกพูดเองเออเองแบบนี้ อวดดีจริง ๆ” “ไม่ใช่เขาหรอกที่อวดดี แต่มีคนอยู่เบื้องหลังเขาต่างหาก”“คุณหมายถึงอะไร? มีใครอยู่เบื้องหลังเขาเหรอ?” หลินหว่านหรูถามด้วยความประหลาดใจ“อืม!”“ใคร?” หลินหว่านหรูถามด้วยความโกรธ“กงซุนจื้อ!” เย่เทียนหยู่ตอบเสียงเรียบ เขารู้ข่าวนี้มานานแล้วกงซุนจื้อคิดว่าไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ จะหลุดรอดจากเครือข่ายข้อมูลของเย่เทียนหยู่ได้ยังไง

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 469

    ตามคำขอของหลินหว่านหรู เฉินเฟยเฟยโพสต์เฟสบุ๊คของเธอเอง“ใครบอกว่ายาของหลินซื่อกรุ๊ปไม่ได้ผลกันคะ แค่ว่าแม้แต่ตัวฉันเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อผลลัพธ์เลยด้วยซ้ำ ฉันตกใจและดีใจมากจนลืมโพสต์บนเฟสบุ๊คไปค่ะ”“แล้วก็แพทย์เซียนจางอะไรนั่น ฉันซาบซึ้งในความมีน้ำใจของคุณที่รักษาฉันในตอนนั้น แม้ว่าในตอนนั้นคุณจะไม่สามารถรักษารอยแผลเป็นของฉันได้ก็ตาม”“เพียงแต่ว่า เพื่อที่จะโจมตีผู้มีพระคุณของฉัน คุณกำลังใช้ฉัน ใช้ความเป็นมืออาชีพของคุณ ในการพูดเรื่องเหลวไหล มันน่าสมเพชจริง ๆ ค่ะ!”คำพูดดังกล่าวได้จุดชนวนความคิดเห็นอีกครั้ง“พี่เฟยเฟย ที่คุณโพสต์แบบนี้ คุณหายดีแล้วจริงเหรอคะ”“ต้องจริงอยู่แล้วค่ะ ไม่งั้นฉันจะตกใจและมีความสุขมากจนลืมโพสต์ในเฟสบุ๊คไปได้ยังไงกัน”“จริงเหรอ พี่เฟยเฟยหายดีแล้วเหรอ ดีจังเลย”“พี่เฟยเฟย แน่ใจใช่ไหมคะว่าไม่ได้โกหกทุกคน ต่อให้พี่ยังไม่หาย แต่พวกเราแฟนคลับเฟยเฟยก็ยังจะอยู่เคียงข้างพี่นะคะ พี่ไม่จำเป็นต้องโกหกเลย”“ฉันคิดว่านี่เป็นเพียงการหลอกลวงที่หลินซื่อกรุ๊ปทำขึ้น ไม่อย่างนั้นจะไม่มีแม้แต่รูปถ่ายได้ยังไงกัน”“ใช่ ๆ ๆ ฉันก็สังเกตเหมือนกัน ในเมื่อหายแล้วทำไมไม่กล้าลงร

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 470

    “ทำไมฉันถึงรู้สึกไม่อยากเชื่อเลย แต่ประธานของหลินซื่อกรุ๊ปพูดแบบนั้น มันจะเป็นข่าวปลอมได้ยังไง?”“สถานีโทรทัศน์เทียนไห่ใช่ไหม? วันนี้ฉันไม่ได้ดูซีรีย์ของไอดอลที่ฉันชื่นชอบเลยนะ จะคอยดูล่ะ”“ฉันก็เหมือนกัน ฉันจะไม่ดูซีรีย์ยอดฮิต จะไปเกาะติดกับสถานีโทรทัศน์เทียนไห่”“……”ภายในพริบตา ผู้คนนับไม่ถ้วนบอกว่าพวกเขาจะอยู่เฝ้าที่สถานีโทรทัศน์คืนนี้เพื่อพบเฉินเฟยเฟยในขณะเดียวกัน ผู้คนนับไม่ถ้วนเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่เฟสบุ๊คของจางต้าซานและสาปแช่งด้วยความโกรธ พวกเขาเคลื่อนไหวแล้ว และจะถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์คืนนี้ ส่วนคุณ ก็ควรรีบตอบกลับซะโดยเฉพาะแฟน ๆ ของ เฉินเฟยเฟยจำนวนมากแน่นอนว่าจางต้าซานมองเห็นทั้งหมดนี้ และเขาได้วิเคราะห์ภาพถ่ายของเฉินเฟยเฟยอย่างรอบคอบ โดยผู้เชี่ยวชาญและความช่วยเหลือจากเพื่อนที่เรียนคอมพิวเตอร์ชั้นนำ และได้คำตัดสินในที่สุดนี่เป็นภาพถ่ายจริงที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด และยังแสดงให้เห็นว่าใบหน้าของเฉินเฟยเฟยฟื้นตัวขึ้นแล้วจริง ๆแม้จะยังไม่หายดีเสียทีเดียว แต่ก็เกือบหายเป็นปลิดทิ้งหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นการแต่งหน้าเพียงอย่างเดียวไม่สามารถปกปิดได้ ถ้าเธอทำได้เธอค

Pinakabagong kabanata

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1345

    เย่เทียนหยู่รู้สึกทำอะไรไม่ถูก ถ้ารู้แบบนี้ ก็คงไม่ให้พวกเธอสองคนดื่มตั้งแต่แรกในขณะเดียวกันนั้นเอง หลิวซือซือที่นั่งอยู่ตรงข้ามก็ยกแก้วในมือขึ้น แล้วพูดออกมาว่า “พี่เย่คะ ฉันมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะบอกกับพี่มาโดยตลอด แต่ก็กลับไม่มีโอกาสได้พูดมันออกมาเลย”“งั้นก็อย่าพูดเลยจะดีกว่า” เย่เทียนหยู่นึกถึงเรื่องในอดีตของเขากับหลิวซือซือขึ้นมา ก่อนจะคาดเดาได้อย่างคลุมเครือว่าเธอกำลังจะพูดอะไร“ไม่ได้ค่ะ วันนี้ฉันต้องพูดให้ได้!”“ฉันกลัวว่าถ้าผ่านวันนี้ไปแล้ว ฉันไม่มีโอกาสได้พูดมันอีก”หลิวซือซือพูดด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่เย่คะ ฉันชอบพี่ค่ะ ชอบพี่มาตลอด ฉันชอบพี่มากจริง ๆ!”“ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันต้องไปทวงหนี้กับพี่ ฉันก็ถูกความสง่างามและความมั่นคงอันแข็งแกร่งของพี่ดึงดูดไปแล้วค่ะ ต่อมาพี่ก็คอยช่วยฉันเอาไว้ครั้งแล้วครั้งเล่า นั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกหัวใจเต้นแรงมากกว่าเดิม ทำให้ฉันชอบพี่มากขึ้นเรื่อย ๆ”“แต่ก็เหมือนว่าพี่จะไม่เคยสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของฉันเลย หลายครั้งที่ฉันอยากจะรุกเข้าหาพี่แต่ก็ไม่กล้า จนกระทั่งพบว่าพี่กับประธานหลินคบกันอยู่ ฉันถึงได้เข้าใจว่าฉันไม่ใช่อะไรสำหรับพี่เล

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1344

    แม้จะเป็นเพียงเวลาสั้น ๆ แต่ทั้งสองคนก็ได้ยินเรื่องราวที่เกี่ยวกับไป๋เฉิงกรุ๊ป และความน่ากลัวของแก๊งพยัคฆ์ทมิฬมาไม่น้อย ดังนั้นความหวาดกลัวและความรู้สึกหวั่นเกรงที่มีต่อตระกูลไป๋จึงมาจากใจของพวกเธออย่างแท้จริงสองสาวพูดสลับกันไปมา จนเกิดเป็นเสียงที่ดังอึกทึกขึ้น เย่เทียนหยู่แทบไม่มีโอกาสได้พูดเลยด้วยซ้ำ ในที่สุดเขาก็มีโอกาส เขาจึงพูดขึ้นว่า “เอาล่ะ พูดจบรึยัง?”สองสาวพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้“พวกเธอฟังฉันนะ พวกเธอวางใจเถอะ แค่ตระกูลไป๋ พวกมันทำอะไรฉันไม่ได้หรอก” เย่เทียนหยู่พูดออกมาตรง ๆ เดิมทีก็คิดจะบอกว่าไป๋เฉิงกรุ๊ปเป็นของตนอยู่หรอก แต่จู่ ๆ เขาก็เปลี่ยนความคิดถึงอย่างไรตอนนี้ก็อยู่ข้างนอก แถมแก๊งพยัคฆ์ทมิฬและไป๋เฉิงกรุ๊ปเองก็มีชื่อเสียงที่ไม่ดีสักเท่าไหร่คำพูดนี้ แทบจะไม่เห็นตระกูลไป๋อยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย นั่นเป็นถึงหนึ่งในตระกูลที่ทรงพลังที่สุดในเมืองตะวันออกเชียวนะ ในใจของสองสาวจึงรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่พวกเธอมองหน้ากัน ต่างคนต่างก็คิดว่าที่พี่เย่จงใจพูดแบบนี้ก็เพื่อทำให้พวกเธอสบายใจก็เท่านั้น“เอาล่ะ ไม่ต้องสนใจพวกเขาแล้ว ควรกินก็กิน ควรดื่มก็ดื่มเถอะ” ที

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1343

    สีหน้าหลี่ซินเยว่และหลิวซือซือเต็มไปด้วยความรู้สึกทำอะไรไม่ถูก เมื่อกี้ตอนที่พวกเธอนึกถึงความน่ากลัวของตระกูลไป๋ อันที่จริง พวกเธอก็คิดที่จะเตือนเย่เทียนหยู่ไม่ให้ทำร้ายตงซู่อยู่เหมือนกัยแต่เมื่อลองนึกดูอีกที ในสถานการณ์แบบนี้ ด้วยนิสัยของตงซู่ ต่อให้จะหยุดเอาไว้ได้ก็ไม่มีความหมายอยู่ดีเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ พวกเธอก็ไม่มีทางให้ถอยกลับอีกต่อไปแล้วเป็นอย่างที่คิด เห็นเพียงตงซู่ที่กำลังร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ขณะเดียวกันเขาก็หันไปจ้องเย่เทียนหยู่ด้วยความเกลียดชัง แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้ไม่สามารถพูดอะไรได้ ยิ่งไม่ควรทำอะไรบุ่มบ่ามด้วยเช่นกันอย่างไรก็ตาม รอจนกว่าตนจะออกไปจากที่นี่ได้เสียก่อน จากนั้นก็จะต้องรายงานเรื่องนี้ให้ไช่เตา คุณชายเตาได้ทราบ พอถึงตอนนั้น ตนจะต้องทำให้ไอ้เด็กนี่อยู่ไม่สู้ตายให้ได้ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็เงียบกริบ ไม่มีใครกล้าส่งเสียงใด ๆ ออกมาเลยแม้แต่น้อย เพราะกลัวว่าจะเผลอทำให้ตัวเองเข้าไปเอี่ยวด้วยใครจะไปคิดล่ะว่า ชายหนุ่มที่ดูสุภาพไม่มีพิษมีภัยข้าง ๆ สาวสวยสองคนนี้จะลงมือได้โหดเหี้ยมมากขนาดนั้น แต่ถึงอย่างไร อีกฝ่ายก็สมควรโดนแล้วแค่เห็นก็รู้เลยว่าไ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1342

    เมื่อได้ยินคำสั่ง ลูกน้องทั้งสองคนของเขาก็รีบตั้งท่าเตรียมพร้อมขึ้นทันที ก่อนจะเดินตรงไปหาเย่เทียนหยู่ด้วยท่าทางดุดัน งานที่ต้องจัดการกับคนแบบนี้ มันได้กลายเป็นการเสพติดของพวกเขาไปแล้ว อย่างน้อยพวกเขาก็ชอบความรู้สึกแบบนี้เย่เทียนหยู่ส่ายหัว ก่อนจะลุกขึ้นยืน หากไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะทำให้คนอื่นตกใจ ป่านนี้เขาคงจะโบกมือซัดเจ้าพวกนั้นให้กระเด็นไปนานแล้วจากนั้นก็เอาชีวิตของพวกมันมา ณ เดียวนั้นเลย!เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่ยังกล้าลุกขึ้นมาพูดท้าทายตนอยู่ ทั้งสองจึงรู้สึกว่าศักดิ์ศรีของพวกเขากำลังถูกดูหมิ่น นั่นจึงทำให้พวกเขารู้สึกโกรธอย่างมาก ก่อนที่ต่อมาทั้งสองจะเหวี่ยงหมัดออกไปพร้อมกันในทันทีผั๊วะ ผั๊วะ!เกิดเสียงผั๊วะดังขึ้นสองครั้งติด ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกตกตะลึงของผู้คน เย่เทียนหยู่ใช้ฝ่ามือฟาดพวกเขาจนกระเด็นออกไปก่อนที่ร่างของพวกเขาจะร่วงลงกระแทกพื้นอย่างแรง ร่างกายราวกับกำลังแหลกสลาย รู้สึกเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหวสีหน้าตงซู่ดูตกใจอย่างมาก คิดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กนี่จะรู้วิชากังฟูด้วย เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “ไม่แปลกใจเลยที่แกกล้าทำตัวหยิ่งยโสแบบนี้ ที่แท้แ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1341

    หลี่ซินเยว่และหลิวซือซือที่กำลังด่ากันอย่างเมามัน กลับคิดไม่ถึงเลยว่าจู่ ๆ เสียงของตงซู่จะดังขึ้นมาข้างหู นั่นจึงทำให้พวกเธอรู้สึกตกใจจนต้องหันมองไปตามเสียงในทันทีเป็นตงซู่จริง ๆ ด้วย!นอกจากนี้ ด้านหลังของเขายังมีเหล่าชายฉกรรจ์ที่ดูดุร้ายอยู่อีกด้วย แค่มองก็รู้เลยว่าไม่ใช่คนดีอะไรสีหน้าของพวกเธอซีดเผือดในทันที!ต้องเข้าใจก่อนว่า พวกเธอเตรียมตัววางแผนจะหนีในวันนี้กัน แต่ตอนนี้ตงซู่กลับมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ เป้าหมายของเขาไม่ต้องพูดก็รู้ หรือต่อให้จะเป็นการพบกันโดยบังเอิญ แต่หากได้ยินสิ่งที่พวกเธอเพิ่งจะพูดออกมาเมื่อสักครู่นี้ เกรงว่าคงไม่มีทางปล่อยพวกเธอไปง่าย ๆ แน่เมื่อตงซู่เห็นสีหน้าตกใจของทั้งสอง เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมาว่า “ด่าสิ ทำไมไม่ด่าต่อแล้วล่ะ นี่พวกเธอคิดว่าฉันไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม?”หลี่ซินเยว่ตัวสั่นเล็กน้อย ก่อนจะรีบลุกขึ้น และพูดออกไปว่า “รุ่นพี่เองเหรอคะ พอดีเมื่อกี้ฉันดื่มมากไปน่ะค่ะ เลยไม่รู้ว่าเผลอพูดอะไรไม่ดีออกไปบ้าง อย่าโกรธกันเลยนะคะ”“หลี่ซินเยว่ จริงอยู่ที่ฉันชอบเธอมาก แต่ฉันก็ไม่โง่ขนาดนั้น เธอคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ ว่าพวกเธอเตรียมตัวที่จะหนีในคืนน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1340

    หลิวซือซือไม่อยากให้เย่เทียนหยู่รู้เกี่ยวกับปัญหาใหญ่ที่ตนต้องเจอยังไงซะ ตระกูลไป๋ก็เป็นถึงหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่แห่งเมืองตะวันออก จะล่วงเกินตระกูลไป๋เพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยของตนไม่ได้“ไม่มีจริง ๆ น่ะเหรอ?”เย่เทียนหยู่สังเกตเห็นว่าเธอมีท่าทีแปลก ๆ เขาจึงพูดขึ้นว่า “หลี่ซิน พวกเธออยู่ด้วยกัน ไหนเธอพูดมาซิ”“ไม่มีอะไรจริง ๆ ค่ะ พี่เย่ ไหนเมื่อกี้พี่บอกว่ามีเรื่องอยากจะถามไงคะ เรื่องอะไรเหรอ?”จู่ ๆ หลี่ซินเยว่ก็รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันทีโดยไม่ทันตั้งตัวเย่เทียนหยู่จึงเข้าใจได้ในทันที ว่าทั้งสองจะต้องมีเรื่องปิดบังตนอยู่แน่นอน แต่ในเมื่อไม่ยอมพูด เขาเองก็ไม่อยากถามให้มากความ แต่ต้องบอกเลยว่า หลี่ซินเยว่คนนี้ค่อนข้างมีทักษะในการเข้าสังคมมากกว่าหลิวซือซือเสียอีกบวกกับที่เธอเคยทำงานเป็นผู้จัดการระดับกลางของหลินซื่อกรุ๊ปมาก่อน ตอนนั้นเธอเองก็ทำได้ไม่เลวเลยทีเดียวไม่แน่ว่าอาจจะพิจารณาให้เธอขึ้นมารับตำแหน่งผู้บริหารเลยก็ได้ หรือถ้าเธอไม่ไหวจริง ๆ ก็ให้รับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปก็ฟังดูไม่แย่เหมือนกัน แล้วตนก็รับบทบาทท่านประธานไปก็พอ ยังไงซะ บริษัทจะทำกำไรได้หรือไม่ได้ก็ไม่สำคัญอยู่

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1339

    ไม่นานก็ถึงเวลาเลิกงาน พวกหลี่ซินเยว่ก็พากันเดินทางออกจากบริษัท พวกเธอรู้สึกกังวลอยู่ตลอด เธอกลัวว่าตงซู่จะเล่นตุกติกเพื่อรั้งไม่ให้พวกเธอไปแต่ก็กลับคิดไม่ถึงว่าจะราบรื่นมากขนาดนี้ในตอนนั้นเอง ทั้งคู่ก็ได้รับสายจากเย่เทียนหยู่ หลังจากที่วางสาย หลี่ซินเยว่ก็ถามขึ้นว่า “ซือซือ พวกเราจะกลับไปเก็บของแล้วหนีไปเลย หรือพวกเราจะไปพบกับพี่เย่กันก่อนดี?”หลิวซือซือรู้สึกลังเล หากเป็นคนอื่นเชิญก็คงไม่เป็นไร แต่การที่จะได้ทานข้าวกับพี่เย่สักครั้ง สำหรับเธอนับว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากมากเธอจึงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไม่งั้นเราก็ไปตามนัดกันก่อนดีไหม ถึงยังไงคืนนี้เราก็สามารถไปได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว”“ได้ เอาตามที่เธอว่าเลย”“แต่ว่านะ เรื่องของพวกเรา อย่าได้บอกกับพี่เย่เด็ดขาด”“เข้าใจแล้ว ถึงยังไงที่นี่ก็เป็นเมืองหลวง พี่เย่เองก็ไม่ได้เก่งไปเสียทุกอย่าง พวกเราจะสร้างปัญหาให้เขาไม่ได้” หลี่ซินเยว่เองก็เห็นด้วยอย่างมากทั้งสองตัดสินใจกันอย่างแน่วแน่ ไม่นานพวกเธอก็มองเห็นรถของเย่เทียนหยู่เย่เทียนหยู่เองก็สังเกตเห็นการมาถึงของพวกเธอ ทั้งคู่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมกระโปรงรัดรูปทรงเอ เผ

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1338

    เขาถึงขั้นกล้าลงมือกับคุณท่านเย่ ที่เป็นถึงพ่อแท้ ๆ ของตัวเอง!อย่าไรก็ตาม ปัจจุบันตระกูลเย่นับว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน และอาจจะล้มได้ทุกเมื่อในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นก็รออีกสักสองสามวันก็แล้วกัน รอจนกว่าพวกงู แมลง มด หนูโผล่หัวออกมาให้หมดเสียก่อน พอถึงตอนนั้นก็ค่อยจัดการรวดเดียว แล้วค่อยมอบความสดใสให้กับตระกูลเย่อีกครั้งนอกจากนี้ ก็เพื่อที่จะรอดูว่าท่านอาจารย์จะมีการเคลื่อนไหวอะไรรึเปล่า มาถึงตอนนี้ อันที่จริงในใจเขาก็เริ่มรู้สึกสงสัยขึ้นมาบ้างแล้วเช่นกันหลังจากว่าง ๆ ไม่มีอะไรทำ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงหม่าต้านขึ้นมาได้ เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เพิ่งจะผ่านไป ก็ดูเหมือนว่าหม่าต้านคนนี้จะไม่ใช่คนดีอะไร เขาจึงได้สั่งการให้คนไปตรวจสอบคนผู้นี้ดูสักหน่อยจริงด้วย หลี่ซินเยว่กับหลิวซือซือเองก็ทำงานที่ไป๋เฉิงกรุ๊ปไม่ใช่รึไง เช่นนั้นก็เชิญพวกเธอมาก็ได้นี่ จะได้ให้พวกเธอช่วยอธิบายสถานการณ์ในไปเฉิงกรุ๊ปให้ฟังด้วยเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เย่เทียนหยู่ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะกดโทรออกหาหลี่ซินเยว่ทันที เดิมทีตั้งใจจะโทรหาหลิวซือซือ แต่เมื่อนึกถึงความรู้สึกของหลิวซือซือที่มีต่อตน

  • ภูพาจุติราชามังกร   บทที่ 1337

    ในใจโจวฉิงรู้สึกสั่นสะท้านอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ต้นจนจบหม่าต้านก็เผยความรู้สึกหวาดกลัวออกมาไม่หยุด นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกตกใจไปชั่วขณะการแสดงออกของหม่าต้านหลังจากนั้น ราวกับคนใกล้ตายที่กำลังร้องขอชีวิตไม่หยุดไม่มีผิด ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นถึงความกลัวของเขาที่มีต่อคุณเย่ได้เป็นอย่างดีคนคนหนึ่ง เหตุใดถึงทำให้คนอีกคนกลัวได้มากขนาดนี้ แต่นั่นก็ทำให้เธอได้เห็นถึงสถานะและจุดยืนของเขาได้อย่างชัดเจนหลังจากที่โจวฉิงได้สติ ในใจก็กลับรู้สึกเหมือนมีม้ากำลังวิ่งพล่านไปทั่ว ทำให้เธอรู้สึกสั่นสะเทือนอย่างมากในเวลานี้ เธอก็นึกถึงสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดก่อนหน้านั้นขึ้นมาได้ แต่ตอนนั้นเธอก็กลับไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการกดโทรออกเพียงครั้งเดียวเท่าที่เห็นแทบไม่จำเป็นต้องโทรเลยด้วยซ้ำ อารมณ์เหมือนแค่เขาไอออกมาก็สามารถทำให้หม่าต้านวิ่งมาคุกเข่าเพื่อร้องขอชีวิตได้เลยอย่าว่าแต่เธอเลย ขนาดหลินหว่านหรูเองก็ชะงักไปด้วยเช่นกัน แม้เธอจะรู้ดีว่าเย่เทียนหยู่เก่งกาจมาก แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าเย่เทียนหยู่จะเก่งกาจได้มากถึงเพียงนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า โจวฉินเองก็เพิ่งจะพูดไป ว่าตระกูลไป๋เป

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status