“นั่นสิ มาดูกันว่าพวกเขาจะหาทางออกยังไงอีก!”“ถูกต้อง นายทุนเหล่านี้ไร้มนุษยธรรมแถมยังมาหลอกเฟยเฟยของเราจริง”“ก็นั่นน่ะสิ ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกนะ แต่เพื่อเทพีของเรา ฉันจะสู้กับพวกเขาให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย”“เรามาคว่ำบาตร หลินซื่อกรุ๊ปและปล่อยให้พวกเขาล้มละลายไปเลย!”“……”ทันใดนั้น ผู้คนนับไม่ถ้วนก็เริ่มก่นด่ากันอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการด่าหลินซื่อกรุ๊ปในเวลานี้หลินหว่านหรูและเย่เทียนหยู่ทั้งคู่เดินเข้ามา เมื่อมองไปที่เฟสบุ๊คของจางต้าซานและความคิดเห็นด้านล่าง หลินหว่านหรูก็ตะคอกออกมาว่า “จางต้าซานคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นแพทย์ผู้มีชื่อเสียง เดิมทีนึกว่าเป็นพวกมีคุณธรรมซะอีก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกพูดเองเออเองแบบนี้ อวดดีจริง ๆ” “ไม่ใช่เขาหรอกที่อวดดี แต่มีคนอยู่เบื้องหลังเขาต่างหาก”“คุณหมายถึงอะไร? มีใครอยู่เบื้องหลังเขาเหรอ?” หลินหว่านหรูถามด้วยความประหลาดใจ“อืม!”“ใคร?” หลินหว่านหรูถามด้วยความโกรธ“กงซุนจื้อ!” เย่เทียนหยู่ตอบเสียงเรียบ เขารู้ข่าวนี้มานานแล้วกงซุนจื้อคิดว่าไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ จะหลุดรอดจากเครือข่ายข้อมูลของเย่เทียนหยู่ได้ยังไง
ตามคำขอของหลินหว่านหรู เฉินเฟยเฟยโพสต์เฟสบุ๊คของเธอเอง“ใครบอกว่ายาของหลินซื่อกรุ๊ปไม่ได้ผลกันคะ แค่ว่าแม้แต่ตัวฉันเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อผลลัพธ์เลยด้วยซ้ำ ฉันตกใจและดีใจมากจนลืมโพสต์บนเฟสบุ๊คไปค่ะ”“แล้วก็แพทย์เซียนจางอะไรนั่น ฉันซาบซึ้งในความมีน้ำใจของคุณที่รักษาฉันในตอนนั้น แม้ว่าในตอนนั้นคุณจะไม่สามารถรักษารอยแผลเป็นของฉันได้ก็ตาม”“เพียงแต่ว่า เพื่อที่จะโจมตีผู้มีพระคุณของฉัน คุณกำลังใช้ฉัน ใช้ความเป็นมืออาชีพของคุณ ในการพูดเรื่องเหลวไหล มันน่าสมเพชจริง ๆ ค่ะ!”คำพูดดังกล่าวได้จุดชนวนความคิดเห็นอีกครั้ง“พี่เฟยเฟย ที่คุณโพสต์แบบนี้ คุณหายดีแล้วจริงเหรอคะ”“ต้องจริงอยู่แล้วค่ะ ไม่งั้นฉันจะตกใจและมีความสุขมากจนลืมโพสต์ในเฟสบุ๊คไปได้ยังไงกัน”“จริงเหรอ พี่เฟยเฟยหายดีแล้วเหรอ ดีจังเลย”“พี่เฟยเฟย แน่ใจใช่ไหมคะว่าไม่ได้โกหกทุกคน ต่อให้พี่ยังไม่หาย แต่พวกเราแฟนคลับเฟยเฟยก็ยังจะอยู่เคียงข้างพี่นะคะ พี่ไม่จำเป็นต้องโกหกเลย”“ฉันคิดว่านี่เป็นเพียงการหลอกลวงที่หลินซื่อกรุ๊ปทำขึ้น ไม่อย่างนั้นจะไม่มีแม้แต่รูปถ่ายได้ยังไงกัน”“ใช่ ๆ ๆ ฉันก็สังเกตเหมือนกัน ในเมื่อหายแล้วทำไมไม่กล้าลงร
“ทำไมฉันถึงรู้สึกไม่อยากเชื่อเลย แต่ประธานของหลินซื่อกรุ๊ปพูดแบบนั้น มันจะเป็นข่าวปลอมได้ยังไง?”“สถานีโทรทัศน์เทียนไห่ใช่ไหม? วันนี้ฉันไม่ได้ดูซีรีย์ของไอดอลที่ฉันชื่นชอบเลยนะ จะคอยดูล่ะ”“ฉันก็เหมือนกัน ฉันจะไม่ดูซีรีย์ยอดฮิต จะไปเกาะติดกับสถานีโทรทัศน์เทียนไห่”“……”ภายในพริบตา ผู้คนนับไม่ถ้วนบอกว่าพวกเขาจะอยู่เฝ้าที่สถานีโทรทัศน์คืนนี้เพื่อพบเฉินเฟยเฟยในขณะเดียวกัน ผู้คนนับไม่ถ้วนเริ่มหลั่งไหลเข้าสู่เฟสบุ๊คของจางต้าซานและสาปแช่งด้วยความโกรธ พวกเขาเคลื่อนไหวแล้ว และจะถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์คืนนี้ ส่วนคุณ ก็ควรรีบตอบกลับซะโดยเฉพาะแฟน ๆ ของ เฉินเฟยเฟยจำนวนมากแน่นอนว่าจางต้าซานมองเห็นทั้งหมดนี้ และเขาได้วิเคราะห์ภาพถ่ายของเฉินเฟยเฟยอย่างรอบคอบ โดยผู้เชี่ยวชาญและความช่วยเหลือจากเพื่อนที่เรียนคอมพิวเตอร์ชั้นนำ และได้คำตัดสินในที่สุดนี่เป็นภาพถ่ายจริงที่ไม่เคยได้รับการแก้ไขแต่อย่างใด และยังแสดงให้เห็นว่าใบหน้าของเฉินเฟยเฟยฟื้นตัวขึ้นแล้วจริง ๆแม้จะยังไม่หายดีเสียทีเดียว แต่ก็เกือบหายเป็นปลิดทิ้งหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นการแต่งหน้าเพียงอย่างเดียวไม่สามารถปกปิดได้ ถ้าเธอทำได้เธอค
ตอนนี้หลินหว่านหรูมีความสุขมากกับผลงานของเฉินเฟยเฟยและการโปรโมตผลิตภัณฑ์ดูแลผิวไชน์นิ่งของบริษัทเป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันก็เปลี่ยนภาพลักษณ์ของบริษัทไปแต่ในขณะนี้ ซูถิงมารายงานว่ามีคนส่งพัสดุขนาดเล็กที่ไม่ระบุชื่อพร้อมข้อความที่เขียนถึงประธานหลินเป็นการส่วนตัวในตอนแรก ซูถิงกังวลว่ามีบางอย่างอาจเป็นอันตรายต่อหลินหว่านหรู ดังนั้นเธอจึงช่วยเปิดมันก่อน เพราะถึงยังไง ไม่มีใครรู้ว่ามีอะไรอยู่ในซองแต่เมื่อซองแต่ละชั้นถูกถอดออก ก็พบว่ามีกองภาพถ่ายอยู่ข้างในเมื่อดูเนื้อหาในรูปภาพ ซูถิงก็ดูตกใจและตะลึง ราวกับไม่รู้เรื่องราวหลินหว่านหรูหยิบไปทันที และเมื่อเธอเห็นภาพด้านบน ใบหน้าของเธอก็ซีดเผือดภาพถ่ายมีความชัดเจนมาก เป็นภาพถ่ายส่วนตัวของเย่เทียนหยู่กับหยางเฉียนเฉียนจากมุมต่าง ๆคืนนั้น หยางเฉียนเฉียนดื่มหนักมาก และก็กำลังพยายามมอบครั้งแรกของตัวเองให้กับเย่เทียนหยู่ ทำให้เธอรุกเร้าเขาเป็นอย่างมาก ทั้งสองคนจึงดูแนบชิดกันเป็นพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเย่เทียนหยู่อุ้มหยางเฉียนเชียนไว้ในอ้อมแขนของเขา พวกเขาดูเหมือนคู่รักที่มีความสัมพันธ์หวานแหววเป็นพิเศษเมื่อดูรูปถ่ายส่วนตัวเหล่านั้น ห
“เสียเมื่อไรกันคะ มันเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากเวลานี้ ฉันรู้สึกดีกว่าตอนที่ฉันอยู่ในจุดสูงสุด เมื่อก่อนอีกนะคะ ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณพี่เย่มากจริง ๆ”“พูดคำทางการกับผมอีกแล้วนะ”“เป็นความจริงนี่คะ ถ้าไม่ใช่เพราะพี่เย่ ตอนนี้ฉันคงได้ไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักที่ ว่าง่าย ๆ ก็คือไม่ว่าพี่เย่ขอให้ฉันทำอะไรในอนาคต ฉันจะทำค่ะ ต่อให้คุณพาฉันไปขายฉันก็จะไปค่ะ”“เด็กโง่ ผมจะขายคุณทำไมเล่า”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าและพูดว่า “แต่เพราะคุณ คนที่อยู่เบื้องหลังพวกนั้นต่างก็เสียหายกันไปไม่น้อย ผมกังวลว่าจะมีคนคิดไม่ดีกับคุณ เพราะงั้นผมเลยหาบอดี้การ์ดมาให้คุณ”ขณะที่เขาพูด เขาก็ชี้ไปที่ชายสองคนที่อยู่ไกล ๆ ซึ่งทั้งสองคนมีทักษะค่อนข้างดี อาจไม่มากพอให้ต่อกรกับจอมยุทธ์มากฝีมือ แต่กับจอมยุทธ์ทั่วไปพวกเขายังต้านได้“โอ้!”“ฉันจะฟังพี่เย่ค่ะ”จริง ๆ แล้ว เฉินเฟยเฟยไม่เต็มใจนัก แต่หลังจากที่เย่เทียนหยู่พูดเรื่องนี้ เธอก็เชื่อฟังเขาและตอบว่า “แต่ว่าคืนนี้พี่เย่ต้องพาฉันกลับบ้านนะคะ”“ได้!”ถึงยังไงเย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้มีอะไรต้องทำ ดังนั้น เขาจึงปฏิบัติตามความปรารถนาของเธอประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา เย่เทีย
“แค่นี้เองเหรอ?”“ใช่ แค่นั้นแหละ” นั่นคือทั้งหมดที่เย่เทียนหยู่พูดและรูปถ่ายก็ถูกถ่ายเอาไว้ได้ทั้งหมดแต่เมื่อหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น เธอรู้สึกว่าเขาไม่เต็มใจที่จะอธิบาย เธอระเบิดอารมณ์ออกมาและพูดด้วยความโกรธ “แค่นั้นแหละ ไม่มีคำอธิบายเลยเหรอ เย่เทียนหยู่ นายยังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า? นายเห็นฉันเป็นอะไรกันแน่”เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อยและถอนหายใจ “แน่นอนว่าเป็นภรรยา ไม่อย่างนั้น ทำไมผมถึงต้องพยายามช่วยเหลือคุณเต็มที่มาตลอดด้วย”“ช่วยฉันเหรอ?”“ใช่ นายช่วยฉัน แต่นายก็ช่วยเหลือตัวเองด้วย”หลินหว่านหรูพูดด้วยความโกรธ “ไม่อย่างนั้น ต่อให้คุณจะฉลาดแค่ไหน คุณก็ไม่มีอำนาจไม่มีคนสนับสนุนคุณและมันไม่มีประโยชน์ อย่าคิดว่าฉันจะทำไม่ได้ถ้าไม่มีคุณนะ”“อ่อ คุณพูดก็ถูก”เย่เทียนหยู่กล่าวท่าทางที่ไม่แยแสโดยสิ้นเชิงของเย่เทียนหยู่ทำให้หลินหว่านหรูไม่สบายใจเลย และมันทำให้เธอแทบคลั่งแต่จริง ๆ แล้วเธอกำลังเสียใจกับสิ่งที่เธอเพิ่งพูดไปเพราะเธอรู้ว่านั่นเป็นคำที่เจ็บปวดเกินไปโดยเฉพาะตอนที่เทียนหยู่ช่วยเธอสุดใจ และหากไม่มีเขา เธอก็ทำไม่ได้จริง ๆแม้ว่าเขาจะไม่มีตำแหน่งที่ทรงพลัง แต่คำแนะ
แต่ตอนนี้เธออารมณ์ไม่ดี เมื่อคิดถึงสิ่งที่จางต้าซานทำ เธอจึงพูดอย่างเย็นชา “แพทย์เซียนจางคุณเป็นหมอมหัศจรรย์ที่มีชื่อเสียง ฉันจะขอให้คุณขอโทษได้ยังไงกันคะ? ฉันกลัวคุณจะคิดจัดการกับฉันซะอีก”“ไม่หรอกครับ ประธานหลิน คุณล้อเล่นแล้ว คุณมีผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้นอยู่เบื้องหลัง ผมจะกล้าได้ยังไงกันครับ”“ไม่ต้องกังวลครับ ผมจะขอโทษต่อสาธารณะทางออนไลน์ในอีกสักครู่ และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ของบริษัทของคุณ ครั้งนี้ยกโทษให้ฉันผมด้วยนะครับ”จางต้าซานกล่าวอย่างเร่งรีบทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมาหลินหว่านหรูก็ตกตะลึง ผู้สนับสนุนที่ยิ่งใหญ่เบื้องหลังเธอ ฟังจากที่เขาพูดแล้ว เขาคงถูกตักเตือนมา เธอจึงรีบถามว่า “ใครคือคนสำคัญที่คุณกำลังพูดถึงเหรอคะ?”“เขาคือ อธิการบดีของมหาวิทยาลัยหลงหวาและประธานสมาคมการแพทย์แผนจีน คุณไม่รู้เหรอครับ?” จางต้าซานรู้สึกประหลาดใจมหาวิทยาลัยหลงหวา และมหาวิทยาลัยหรงตูหรือที่รู้จักกันอีกชื่อว่ามหาวิทยาลัยเมืองจิงตู เป็นสองมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ และเป็นสวรรค์ในฝันของนักศึกษานับไม่ถ้วนหลินหว่านหรูตกใจเล็กน้อย เธอไม่รู้จักอธิการบด
หลังจากได้ยินแบบนั้นหลินหว่านหรูก็เชื่อทันทีในใจของเธอนึกว่าอาจเป็นเย่เทียนหยู่มีวิธีการตามคนมาช่วยเหมือนเคย เธอจึงอยากสอบถามรายละเอียดจากเขาถ้าไม่ทะเลาะเธอคงจะถามไปแล้วทันทีแต่ ณ เวลานี้ มันหายไปหมดแล้ว“ครั้งนี้ ขอบคุณมากครับคุณกงซุน” หลินหว่านหรูกล่าว“ไม่เป็นไรครับ เราเป็นเพื่อนกัน ทำไมเราต้องเกรงใจกันขนาดนั้นล่ะครับ” กงซุนจื้อพูดด้วยรอยยิ้ม “อีกอย่าง ประธานหลินเหมือนกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมพบตอนที่ผมเป็นเด็ก ทำให้ฉันคิดอยู่เสมอว่า รู้สึกคุ้นเคย การช่วยคุณทำให้ผมมีความสุขมากเลยครับ”เมื่อหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น เธอก็ตกใจเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะถามว่า “นายน้อยกงซุนคอยคิดถึงผู้หญิงคนนั้นมาตลอดเลยเหรอคะ?”“แน่นอนครับ!”กงซุนจื้อทำน้ำเสียงราวกับคนที่มีความรู้สึกฝังใจ พร้อมกับถอนหายใจ “น่าเสียดายที่ผมไม่รู้ชื่อของเธอด้วยซ้ำ ผมเรียกเธอว่าเสี่ยวเถียนเถียน ส่วนเธอก็เรียกผมว่าขอทานตัวน้อย”“บางทีชีวิตนี้เราอาจจะไม่มีโอกาสได้พบกัน ไม่อย่างนั้นผมจะแต่งงานกับเธอแน่นอนครับ”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา หัวใจของหลินหว่านหรูก็สั่นสะท้าน เป็นเขาจริง ๆ ด้วย!แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกแตกต่
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก