อะไรนะ?เย่เทียนหยู่?เขาได้รับสัญญาครั้งใหญ่จริงๆหนอ?ไม่ใช่พูดว่าแต่ก่อนการชำระคืน 30 ล้านครั้งก่อนหน้า ไปอ้างเครดิตไม่ถูกต้องใช่ไหมทุกคนต่างความสงสัยในสายตาของพวกเขา ไม่ค่อยจะเชื่อในความสามารถของเย่เทียนหยู่“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องนี้เป็นฉันจัดการเอง อีกฝ่ายก็ยอมรับว่าเป็นเย่เทียนหยู่เจรจาได้ อีกอย่างนี่มันเป็นสัญญาที่ใหญ่มาก”หลี่ซินเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้ม“งั้น แล้วเท่าไหร่ล่ะ?” มีคนถามด้วยความตื่นเต้นหลี่ซินเยว่เหยียดนิ้วห้านิ้วออก“ห้าล้านหรอ?”“ไม่ถูกสิ ห้าล้านไม่พอ หรือว่าห้า ห้าสิบล้าน?”“แต่ว่า เป็นไปได้ยังไง!”“มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ก็คือ 50 ล้าน!”แม้ว่าหลี่ซินเยว่จะผ่านมาคืนนึง ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย นานแค่ไหนแล้วที่แผนกขายของพวกเขามียอดจำนวนมากขนาดนี้ในครั้งเดียว50 สิบล้านจริงๆ!โอ้มายก๊อด!ทุกคนต่างตื่นเต้นและตกใจมากอีกด้วย!เย่เทียนหยู่ได้ยินสิ่งก็เลยส่ายหัวแล้วพูดว่า “ หัวหน้าทีม คุณกำลังประกาศตอนนี้ ไม่กลัวว่ากลุ่มหนึ่งจะได้รับข่าว ใช้วิธีการอื่นหรอ?”“คงไม่หรอก ตอนนี้เวลาก็ใกล้จะถึงแล้ว ถ้าพวกเขาต้องการเล่นแง่ก็คงจะทำไม่ได้หรอก” หลี่ซินเยว่
หลี่ซินเยว่อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่เทียนหยู่ที่นั่งอยู่ข้างล่าง แค่เห็นเขานั่งอยู่ที่นั่นอย่างสงบเหมือนกับไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับเขาซึ่งไม่ได้กังวลเลยแต่ครั้งนี้เป็นผู้เข้าร่วมเดิมพันจริงๆเป็นเพราะเหตุนี้ เหม่ยหรงหรงเลยขอให้เย่เทียนหยู่มาแสดงตัวที่นี่แต่เวลานี้ เหม่ยหรงหรงก็พูดขึ้น“ ประธานหลิน ประธานหลิว คณะกรรมการระดับสูงของบริษัททุกท่าน รบกวนสักครู่ฉันรู้สึกว่าคิดว่าข้อมูลตัวเลขนี้มีบางอย่างผิดปกติ”ทุกคนต่างพากันตกใจเล็กน้อย สีหน้าของหลินหว่านหรูก็เข้มขึ้น เห็นได้ชัดว่าเธอสังเกตเห็นว่าบางอย่างผิดปกติ แต่เธอก็ได้สติแล้วพูดอย่างใจเย็น “ มีปัญหาอะไร?”“ ข้อมูลตัวเลขการขายของเราไม่ถูกต้อง ยอดจำนวน 30 ล้านรายการนี้ไม่ได้รวมอยู่ ”เหม่ยหรงหรงพูดไปด้วยแล้วหยิบสัญญาใหม่ออกมาแล้วส่งให้ก้นบึ้งของหัวใจหลี่ซินเยว่ก็จมลงเล็กน้อยตอนที่เธอนึกถึงคำพูดของเย่เทียนหยู่ถ้าเกิดรีบทำอีกฝ่ายอาจคงจะเตรียมการสำรองไว้ สุดท้ายใต้แรงกดดันของเขาเอง เย่เทียนหยู่ก็ยอมให้ไปที่บริษัทเทียนมู่กรุ๊ปเธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่เทียนหยูอีกครั้ง เห็นได้ว่าสีหน้าของเขาสงบไม่มีอะไรผิดปกติไปแต่ในใจคงจ
“เอาอีกแล้ว คุณมีหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่าฉันดิสเครดิตไหม ถ้าไม่มี นั่นก็เป็นการใส่ร้าย คุณต้องขอโทษฉันด้วย” เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชา“คุณ!”“คุณใส่ร้ายฉันโดยที่ไม่มีข้อมูลเหรอ? แต่ฉันขี้เกียจเกินกว่าจะเถียงกับคุณ วันนี้เป็นเรื่องเของการแข่งขัน” เหม่ยหรงหรงพูดอย่างเย็นชา“ถ้าเป็นเรื่องการแข่งขันก็โอเค แต่คุณต้องขอโทษฉันก่อน หรือเอาหลักฐานออกมาว่าฉันดิสเครดิตจริงๆ” เย่เทียนหยู่ตอบอย่างเย็นชาเหม่ยหรงหรงโกรธมาก แต่ในเวลานี้เธอได้รับคำใบ้ ว่าไม่สามารถทำลายภาพรวมได้ ยิ่งไม่ยอมรับเรื่องดักฟังจึงตอบอย่างช่วยไม่ได้ “ เอาล่ะ ฉันขอโทษในสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไป ”“ทำไมคำพูด ดูไม่ชัดเจน ไม่มีความจริงใจสักนิดเลย” เย่เทียนหยู่ไม่ยอมรับ“คุณ โอเค ฉันพูดว่า! ฉันขอโทษที่ใส่ร้ายคุณเมื่อกี้ ขอโทษ!” เหม่ยหรงหรงขอโทษอย่างช่วยไม่ได้“เอาล่ะ ดี ก็แค่นั้นแหละ งั้นฉันจะยกโทษให้กับความไม่รู้ของคุณล่ะกัน”เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆเหม่ยหรงหรงโกรธมาก และพูดว่า “ตอนนี้ฉันขอโทษแล้ว ควรบอกผลการแข่งขันได้แล้วสิ?”“แน่นอน ฉันจำสิ่งที่ฉันพูดตอนนั้นได้ ถ้าทีมที่สองของเราชนะ คุณจะลาออก และสละตำแหน่งหัวหน้
ดวงตาของหลินหว่านหรูเป็นประกายขึ้น รีบให้เย่เทียนหยู่มอบสัญญามาผู้นำอาวุโสหลายคนผลัดกันดู วิธีการก็คล้ายกับของเหม่ยหรงหรง สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ โอนเงินเข้าหรือยังเย่เทียนหยู่ยิ้มเล็กน้อย และกล่าวว่า “ หัวหน้าทีมเหม่ย ไม่ว่าจะพูดยังไง คุณและหัวหน้าทีมหลี่คือหัวกะทิของบริษัท บริษัทสูญเสียใครสักคน ก็เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ ”“คุณต้องการบอกอะไร?” เหม่ยหรงหรงถามอย่างเย็นชา“ที่ฉันหมายถึงคือ งั้นก็เอาแบบนี้ ให้มันเสมอกัน แบบนี้ ก็ไม่มีใครต้องจากไป และเราก็จะยังคงเป็นเพื่อนร่วมงานที่รักใคร่กัน”เย่เทียนหยู่อธิบายด้วยรอยยิ้มทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่มีใครคาดคิดว่า เย่เทียนหยู่จะพูดแบบนี้ในเวลานี้หลินหว่านหรูฟังจบก็ตกใจเล็กน้อย และแอบยิ้มอย่างขมขื่น เย่เทียนหยู่คงรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์อุบายเมืองร้างสินะกลัวว่านี่เป็นสัญญาปลอม หรือเป็นสัญญาที่ยังไม่ทำการโอนเงินมาเธอคิดแบบนี้ และเหม่ยหรงหรงก็คิดเรื่องนี้ในตอนแรก คิดอีกว่าคนในแผนกการเงินของตัวเองตรวจสอบว่าไม่ได้รับเงินในช่วงสองวันที่ผ่านมาเหม่ยหรงหรงมั่นใจทันที และพูดด้วยรอยยิ้ม “เย่เทียนหยู่ ถ้าคุณไม่พูดคำที่ฟังดูสูงส่งขนาดน
ท้ายที่สุด ถ้าอยากทำให้ตำแหน่งของหลี่ว์ซิงเหอสั่นคลอนนั้น ยากจริงๆ ไม่มีทางจะแทนที่เขาได้ขณะที่หลี่ซิงเหอพูด หลายคนก็พูดทันทีว่า “ใช่ เสียเวลาไปมากแล้วกับเรื่องไร้สาระ เย่เทียนหยู่หากคุณมีหลักฐานว่าได้รับเงินก็เอาออกมาให้เร็วที่สุด ไม่งั้น ก็แค่ยอมรับว่าแพ้ซะ”เมื่อได้ยินการสนับสนุนของทุกคน เหม่ยหรงหรงก็ได้ใจ มองไปที่เย่เทียนหยู่ด้วยสายตาเย่อหยิ่งของผู้ชนะหวังซินรู้สึกตื่นเต้นมาก ครั้งนี้ตัวเองได้ตามคนที่ทำถูกต้องแล้ว ในไม่ช้าก็จะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของหลี่ซินเยว่ และนั่งแท่นหัวหน้าทีมได้เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินหว่านหรู หลิวเหวินกับหลี่ซินเยว่เกือบจะแพ้ด้วยความสิ้นหวังแต่ในขณะนี้ เย่เทียนหยู่พูดอย่างใจเย็น “ เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนยังเชื่อว่าผู้ชนะถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัว ไม่นานต้องมีคนถูกไล่ออก งั้นเรามาตัดสินผู้ชนะกัน”“ผู้จัดการจง รบกวนคุณบอกทุกคนด้วย”ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็ตกตะลึงอีกครั้ง ไม่ได้โอนเงินจริงๆ และผู้จัดการจงก็รู้เรื่องนี้ล่วงหน้าด้วย ไม่งั้นเขาพูดแบบนี้ทำไมในขณะนี้ สายตาของทุกคนมองข้ามไปจงหยุนพยักหน้า คิดว่าเย่เทียนยวี่เคยสารภาพกับเขาม
หลิวเหวินทั้งประหลาดใจ และตกใจยิ่งกว่าเดิมเธอคิดไม่ถึงเลยว่า คนไร้ประโยชน์ที่เข้ามาแถมโดนดูถูกคนนี้ จะมีทักษะขนาดนี้เลยครั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเขาจริงๆในตอนนี้ ดูเหมือนเธอจะเข้าใจการจัดการของประธานหลินแล้วหากเธอตัดสินถูกต้อง เย่เทียนหยู่อาจเป็นคนที่ประธานหลินจัดหาให้เข้ามาจัดการกับคนของตระกูลหลู่ ไม่งั้น จะไม่สามารถอธิบายเรื่องต่อเนื่องล่าสุดได้แม้ว่าเธอจะคิดผิด แต่หลินหว่านหรูก็แค่อยากให้เย่เทียนหยู่ได้รับการฝึกฝน เพื่อที่จะได้มีชีวิตต่อไปหลังจากหย่าร้าง แต่เย่เทียนหยู่ก็มีเป้าหมายนี้อยู่ดังนั้นจึงเดาถูกโดยไม่ได้ตั้งใจแต่เหม่ยหรงหรงเป็นคนสนิทของเขา ดังนั้นแล้วหลี่ว์ซิงเหอจึงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และต้องออกปากปกป้องเธอเย่เทียนหยู่สังเกตเห็นหน้าตาของเขา และพูดทันทีว่า “เอาล่ะ ตอนนี้ผลลัพธ์ก็ชัดเจนมาก ตอนนี้ฉันต้องการยกเลิกการแข่งขัน แต่พูดแล้วก็พูด ไม่ว่าอย่างไร หัวหน้าทีมเหม่ยก็ปฏิเสธที่จะเห็นด้วย”“ยิ่งกว่านั้น หัวหน้าก็ปฏิเสธ และยืนกรานว่าจะต้องให้คนหนึ่งออกไป น่าเสียดายคนที่มีความสามารถอย่างหัวหน้าทีมเหม่ย”“แต่ เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางที่จะย้อนกลับไป ไม่
เมื่อหลี่ซิงเหอได้ยิน เขาก็ตะคอกอย่างเย็นชา และพูดว่า “พูดไร้สาระอะไร หัวหน้าฝ่ายขายคือผู้นำของบริษัท คุณซึ่งเป็นพนักงานขายธรรมดาๆ จะแต่งตั้งตามใจตัวเองได้อย่างไร หากเป็นแบบนี้มันจะไม่วุ่นวายเหรอ”“แต่เรื่องนี้มีการตกลงกันมาก่อนแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็รับปากแล้ว” เย่เทียนหยู่ตอบ“สัญญาอะไร พวกคุณสองฝ่ายรับปากกัน หัวหน้าพวกเราเห็นด้วยหรือยัง? ตำแหน่งหัวหน้าทีม ไม่ใช่พวกคุณจะตั้งกันตามใจได้” หลี่ซิงเหอแย้งตอบ“แต่ตอนนี้ เย่เทียนหยู่ยังเอ่ยถึงข้อเรียกร้องนี้ ผู้นำทุกท่านก็ไม่คัดค้าน” หลี่ซินเยว่อดไม่ได้ที่จะช่วย“ใช่ ฉันไม่ได้สนใจ ถ้าฉันฟังแล้ว จะปฎิเสธแน่นอน ตำแหน่งหัวหน้าทีมนั้นไม่ธรรมดา ต้องปรึกษากับฝ่ายธุรการและฝ่ายขายเท่านั้น ถึงจะตัดสินใจได้”หลี่ซิงเหอทำเสียงหึ ตอบว่า “พูดถึงตำแหน่งหัวหน้าทีม ยังมีเรื่องที่ต้องพูดอีกเรื่อง คุณชื่อเย่เทียนหยู่ใช่ไหม เข้าทำงานบริษัทตอนไหน ผ่านการสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ไหม?”เย่เทียนคนนี้ ทำลายเรื่องดีๆของเขาไปหมด งั้นก็ไสหัวออกไปจากบริษัทเถอะตอนนี้เขาไม่เพียงแต่รู้ว่าเย่เทียนหยู่ผ่านเข้ามาผ่านทางความสัมพันธ์ แต่แรกเริ่มก็ไม่ได้สนใจผู้ชายตัวเล็กๆเ
ทันทีที่คำพูดเหล่านั้นหลุดออกมา สีหน้าของหลินหว่านหรูและหลิวเหวินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยเฉพาะหลินหว่านหรู เธอรู้ดีว่า เย่เทียนหยู่ไม่ได้มีวุฒิการศึกษาอะไรทั้งนั้น เขาก็แค่ชาวป่าชาวดอยคนหนึ่งที่ลงมาจากภูเขา จะไปมีภูมิความรู้แบบนั้นได้ยังไง หลี่ซิงเหอที่รู้จักคุ้นเคยกับทั้งสองคนเป็นอย่างดี เมื่อเห็นท่าทีการแสดงออกของทั้งคู่ ในใจก็แอบรู้สึกพึงพอใจอยู่ไม่น้อย ในเมื่อคุณตัดลูกน้องที่มีความสามารถมากที่สุดของฉันไป วันนี้ก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะได้อยู่อย่างสงบสุข ที่สำคัญที่สุด เขาอยากจะใช้โอกาสนี้ดึงหลิวเหวินให้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ถ้าหากสามารถคว้าตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายได้ ถึงจะเสียเหม่ยหรงหรงไปสักคนก็ไม่เป็นไร ขณะเดียวกันเหม่ยหรงหรงพร้อมกับอีกสองคนยังไม่ได้ออกไปจากตรงนั้น ทันทีที่คนหมดสภาพอย่างพวกเขาได้ยินอย่างนั้น ก็รู้สึกมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาอีกครั้ง เพราะการได้เห็นความโชคร้ายของเย่เทียนหยู่นั้น ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก “ประธานหลิว ทำไมคุณถึงเงียบไปล่ะ อย่าบอกนะว่าเขาไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัยมาก่อนเลยน่ะ?”หลี่ซิงเหอจงใจถามขึ้นหลังจากที่เขาพูดออกมาแบบนั้น
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก
หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็เดินทางไปยังบ้านพักของตระกูลหยางและแจ้งให้หยางเฉียนเฉียนทราบด้วยตัวเองว่าปัญหาแก้ไขแล้ว หรือให้พูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจวินาทีแรกที่หยางเฉียนเฉียนได้ยิน เธอก็ยินยอมรับปากเย่เทียนหยู่ สำหรับเธอขอแค่พี่เย่มีความสุขเธอก็มีความสุขต่อมาแม้เธอจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่สุดท้ายเธอไม่ได้ลงเอยกับพี่เย่ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกับเขา และยังได้รับใบทะเบียนสมรสกับเขาด้วยหยางต้าฝูดูหดหู่มากกว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งมหาศาลนั่น จะไม่ใช่ของตระกูลหยางของพวกเขาหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งแต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตู เขาก็พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนถูกเขาลงโทษไปแล้ว เจ้าโง่นั่นก็ไม่ยอมแพ้แถมยังตามเขามาถึงที่นี่ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย!เดี๋ยวก่อน หลิวเมิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เธอกับหว่านหรูก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันพวกเขาทั้งสองเห็นเย่เทียนหยู่แล้วรีบรุดหน้ามาทันที
ใบหน้าของหลินหว่านหรูแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่อธิบายไม่ได้ในใจ“เฮ้ คุณบอกว่าคุณต้องการมันมากใช่ไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ดี เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากแก้ไขปัญหานี้ไม่อย่างนั้น เขารู้สึกจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนี้หยางเฉียนเฉียนมากจนเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญมันยังไง ในอนาคต“อะไรนะ ฉันจะมีอารมณ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง” ในเวลานี้ หลินหว่านหรูรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ตระกูลสวี่มาที่นี่หรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม ปัจจุบัน ตระกูลหลินควรจะมีเพียงธุรกิจของ หลินจื่อตงเท่านั้น“นั่นไม่เป็นความจริง แต่ตระกูลสวี่และตระกูลซุนตกลงกันว่าพ่อแม่ทั้งสองจะหมั้นกันในวันพรุ่งนี้ เราจะรอจนกว่าจะเลือกวันอันเป็นมงคลอื่นก่อนจึงจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ”“แล้วจื่อตงก็เริ่มวิตกกังวล พรุ่งนี้เขาต้องไปเยี่ยมตระกูลสวี่เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะไม่ปล่อยให้สวี่เจียเจียหมั้นหมายกับตระกูลซุนเลย” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง เขารู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายเพิ่งหมั้นกันและ
หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทันที มาจนถึงตอนนี้แล้วทำไมแม่เธอยังไม่ได้สติอีก ถ้าแม่เธอยังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่กลับมา จะช้าเร็วก็คงเกิดปัญหาอยู่ดีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นหน้าตาของลูกสาว เธอก็รำคาญทันที “สายตาอะไรของลูกฮะ หรือแกจะทนดูน้องชายตัวเองตายไปทั้งแบบนี้รึไง”คุณปู่ตระกูลหลินเองก็รีบ “หว่านหรู ไม่ว่ายังไงก็ น้องก็คอยสนับสนุนหลานมาโดยตลอด หลานต้องช่วยเขานะ”“ใช่ หว่านหรู ลูกต้องช่วยจื่อตงนะ” หลินหงรีบพูดเสริมหลินจื่อตงเปิดปาก เขาไม่ต้องการรบกวนพี่สาว เพราะมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงนี้ แถมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับพี่เขยก็จบลงไปแล้วแต่เขาไม่อยากเสียสวี่เจียเจียไปเลยจริง ๆเมื่อมองดูสายตาของคนในตระกูล หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งและพูดว่า “คิดว่าหนูจะไม่ช่วยจื่อตงเหรอคะ”คุณปู่ตระกูลหลินดูไม่ค่อยดีนัก แต่หลินจื่อตงก็พูดทันที “พี่ อย่าฟังคุณปู่กับทุกคนเลยครับ ผมเชื่อพี่อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่สะดวกจริง ๆ ผมจะไปเองครับ”“นายก็ยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี”หลินหว่านหรูโกรธ เธอหันหลังกลับและเดินกลับห้องด้วยความโมโหคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ที่ถูกทิ้งไว้ มองหน้ากันอย่างไม่เช
“แต่เธอจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”“โอเค ถ้างั้นผมจะรอ”ตอนนี้ ขอแค่แม่ของเขาสบายดีแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น แต่เขากังวลว่าตอนนี้แม่ของเขาเป็นอิสระแล้วจริง ๆ หรือเปล่า“ผมขอยืนยันอีกที พวกคุณไม่ขอให้ผมจดทะเบียนกับหยางเฉียนเฉียนแล้วใช่มั้ย” เย่เทียนหยู่ถามย้ำ“ใช่!”“โอเค ถ้างั้นผมไปละ!”เย่เทียนหยู่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะมีเสน่ห์มากและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ต่อต้านการการลุกล้ำของเขาเลยด้วยซ้ำจูเก่อหลิวหลีตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขา ออกไปแล้วเหรอตัวเธอมีเสน่ห์ไม่พอเลยหรือไงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัยในความสวยของตัวเอง!เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าเธอเต็มใจ ก็คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ท่านผู้หญิงของเธอโทรมา“ท่านผู้หญิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน” จูเก่อหลิวหลีรับสายและพูดทันที“ไม่เป็นไร!”“ฉันเพิ่งรู้ว่าเทียนหยู่ได้รับพลังลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นเขาจะอยู่กับหยางเฉียนเฉียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ”ท่านผู้หญิงตอบ“พลังลมปราณซวนหมิงนั่นคืออะไรคะ” จูเก่อหลิวหลีไม่เคยรู้