หลี่ซินเยว่อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่เทียนหยู่ที่นั่งอยู่ข้างล่าง แค่เห็นเขานั่งอยู่ที่นั่นอย่างสงบเหมือนกับไม่มีเรื่องอะไรเกี่ยวข้องกับเขาซึ่งไม่ได้กังวลเลยแต่ครั้งนี้เป็นผู้เข้าร่วมเดิมพันจริงๆเป็นเพราะเหตุนี้ เหม่ยหรงหรงเลยขอให้เย่เทียนหยู่มาแสดงตัวที่นี่แต่เวลานี้ เหม่ยหรงหรงก็พูดขึ้น“ ประธานหลิน ประธานหลิว คณะกรรมการระดับสูงของบริษัททุกท่าน รบกวนสักครู่ฉันรู้สึกว่าคิดว่าข้อมูลตัวเลขนี้มีบางอย่างผิดปกติ”ทุกคนต่างพากันตกใจเล็กน้อย สีหน้าของหลินหว่านหรูก็เข้มขึ้น เห็นได้ชัดว่าเธอสังเกตเห็นว่าบางอย่างผิดปกติ แต่เธอก็ได้สติแล้วพูดอย่างใจเย็น “ มีปัญหาอะไร?”“ ข้อมูลตัวเลขการขายของเราไม่ถูกต้อง ยอดจำนวน 30 ล้านรายการนี้ไม่ได้รวมอยู่ ”เหม่ยหรงหรงพูดไปด้วยแล้วหยิบสัญญาใหม่ออกมาแล้วส่งให้ก้นบึ้งของหัวใจหลี่ซินเยว่ก็จมลงเล็กน้อยตอนที่เธอนึกถึงคำพูดของเย่เทียนหยู่ถ้าเกิดรีบทำอีกฝ่ายอาจคงจะเตรียมการสำรองไว้ สุดท้ายใต้แรงกดดันของเขาเอง เย่เทียนหยู่ก็ยอมให้ไปที่บริษัทเทียนมู่กรุ๊ปเธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่เทียนหยูอีกครั้ง เห็นได้ว่าสีหน้าของเขาสงบไม่มีอะไรผิดปกติไปแต่ในใจคงจ
“เอาอีกแล้ว คุณมีหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่าฉันดิสเครดิตไหม ถ้าไม่มี นั่นก็เป็นการใส่ร้าย คุณต้องขอโทษฉันด้วย” เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชา“คุณ!”“คุณใส่ร้ายฉันโดยที่ไม่มีข้อมูลเหรอ? แต่ฉันขี้เกียจเกินกว่าจะเถียงกับคุณ วันนี้เป็นเรื่องเของการแข่งขัน” เหม่ยหรงหรงพูดอย่างเย็นชา“ถ้าเป็นเรื่องการแข่งขันก็โอเค แต่คุณต้องขอโทษฉันก่อน หรือเอาหลักฐานออกมาว่าฉันดิสเครดิตจริงๆ” เย่เทียนหยู่ตอบอย่างเย็นชาเหม่ยหรงหรงโกรธมาก แต่ในเวลานี้เธอได้รับคำใบ้ ว่าไม่สามารถทำลายภาพรวมได้ ยิ่งไม่ยอมรับเรื่องดักฟังจึงตอบอย่างช่วยไม่ได้ “ เอาล่ะ ฉันขอโทษในสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไป ”“ทำไมคำพูด ดูไม่ชัดเจน ไม่มีความจริงใจสักนิดเลย” เย่เทียนหยู่ไม่ยอมรับ“คุณ โอเค ฉันพูดว่า! ฉันขอโทษที่ใส่ร้ายคุณเมื่อกี้ ขอโทษ!” เหม่ยหรงหรงขอโทษอย่างช่วยไม่ได้“เอาล่ะ ดี ก็แค่นั้นแหละ งั้นฉันจะยกโทษให้กับความไม่รู้ของคุณล่ะกัน”เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มจาง ๆเหม่ยหรงหรงโกรธมาก และพูดว่า “ตอนนี้ฉันขอโทษแล้ว ควรบอกผลการแข่งขันได้แล้วสิ?”“แน่นอน ฉันจำสิ่งที่ฉันพูดตอนนั้นได้ ถ้าทีมที่สองของเราชนะ คุณจะลาออก และสละตำแหน่งหัวหน้
ดวงตาของหลินหว่านหรูเป็นประกายขึ้น รีบให้เย่เทียนหยู่มอบสัญญามาผู้นำอาวุโสหลายคนผลัดกันดู วิธีการก็คล้ายกับของเหม่ยหรงหรง สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ โอนเงินเข้าหรือยังเย่เทียนหยู่ยิ้มเล็กน้อย และกล่าวว่า “ หัวหน้าทีมเหม่ย ไม่ว่าจะพูดยังไง คุณและหัวหน้าทีมหลี่คือหัวกะทิของบริษัท บริษัทสูญเสียใครสักคน ก็เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ ”“คุณต้องการบอกอะไร?” เหม่ยหรงหรงถามอย่างเย็นชา“ที่ฉันหมายถึงคือ งั้นก็เอาแบบนี้ ให้มันเสมอกัน แบบนี้ ก็ไม่มีใครต้องจากไป และเราก็จะยังคงเป็นเพื่อนร่วมงานที่รักใคร่กัน”เย่เทียนหยู่อธิบายด้วยรอยยิ้มทุกคนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่มีใครคาดคิดว่า เย่เทียนหยู่จะพูดแบบนี้ในเวลานี้หลินหว่านหรูฟังจบก็ตกใจเล็กน้อย และแอบยิ้มอย่างขมขื่น เย่เทียนหยู่คงรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์อุบายเมืองร้างสินะกลัวว่านี่เป็นสัญญาปลอม หรือเป็นสัญญาที่ยังไม่ทำการโอนเงินมาเธอคิดแบบนี้ และเหม่ยหรงหรงก็คิดเรื่องนี้ในตอนแรก คิดอีกว่าคนในแผนกการเงินของตัวเองตรวจสอบว่าไม่ได้รับเงินในช่วงสองวันที่ผ่านมาเหม่ยหรงหรงมั่นใจทันที และพูดด้วยรอยยิ้ม “เย่เทียนหยู่ ถ้าคุณไม่พูดคำที่ฟังดูสูงส่งขนาดน
ท้ายที่สุด ถ้าอยากทำให้ตำแหน่งของหลี่ว์ซิงเหอสั่นคลอนนั้น ยากจริงๆ ไม่มีทางจะแทนที่เขาได้ขณะที่หลี่ซิงเหอพูด หลายคนก็พูดทันทีว่า “ใช่ เสียเวลาไปมากแล้วกับเรื่องไร้สาระ เย่เทียนหยู่หากคุณมีหลักฐานว่าได้รับเงินก็เอาออกมาให้เร็วที่สุด ไม่งั้น ก็แค่ยอมรับว่าแพ้ซะ”เมื่อได้ยินการสนับสนุนของทุกคน เหม่ยหรงหรงก็ได้ใจ มองไปที่เย่เทียนหยู่ด้วยสายตาเย่อหยิ่งของผู้ชนะหวังซินรู้สึกตื่นเต้นมาก ครั้งนี้ตัวเองได้ตามคนที่ทำถูกต้องแล้ว ในไม่ช้าก็จะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของหลี่ซินเยว่ และนั่งแท่นหัวหน้าทีมได้เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินหว่านหรู หลิวเหวินกับหลี่ซินเยว่เกือบจะแพ้ด้วยความสิ้นหวังแต่ในขณะนี้ เย่เทียนหยู่พูดอย่างใจเย็น “ เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนยังเชื่อว่าผู้ชนะถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัว ไม่นานต้องมีคนถูกไล่ออก งั้นเรามาตัดสินผู้ชนะกัน”“ผู้จัดการจง รบกวนคุณบอกทุกคนด้วย”ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็ตกตะลึงอีกครั้ง ไม่ได้โอนเงินจริงๆ และผู้จัดการจงก็รู้เรื่องนี้ล่วงหน้าด้วย ไม่งั้นเขาพูดแบบนี้ทำไมในขณะนี้ สายตาของทุกคนมองข้ามไปจงหยุนพยักหน้า คิดว่าเย่เทียนยวี่เคยสารภาพกับเขาม
หลิวเหวินทั้งประหลาดใจ และตกใจยิ่งกว่าเดิมเธอคิดไม่ถึงเลยว่า คนไร้ประโยชน์ที่เข้ามาแถมโดนดูถูกคนนี้ จะมีทักษะขนาดนี้เลยครั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเขาจริงๆในตอนนี้ ดูเหมือนเธอจะเข้าใจการจัดการของประธานหลินแล้วหากเธอตัดสินถูกต้อง เย่เทียนหยู่อาจเป็นคนที่ประธานหลินจัดหาให้เข้ามาจัดการกับคนของตระกูลหลู่ ไม่งั้น จะไม่สามารถอธิบายเรื่องต่อเนื่องล่าสุดได้แม้ว่าเธอจะคิดผิด แต่หลินหว่านหรูก็แค่อยากให้เย่เทียนหยู่ได้รับการฝึกฝน เพื่อที่จะได้มีชีวิตต่อไปหลังจากหย่าร้าง แต่เย่เทียนหยู่ก็มีเป้าหมายนี้อยู่ดังนั้นจึงเดาถูกโดยไม่ได้ตั้งใจแต่เหม่ยหรงหรงเป็นคนสนิทของเขา ดังนั้นแล้วหลี่ว์ซิงเหอจึงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และต้องออกปากปกป้องเธอเย่เทียนหยู่สังเกตเห็นหน้าตาของเขา และพูดทันทีว่า “เอาล่ะ ตอนนี้ผลลัพธ์ก็ชัดเจนมาก ตอนนี้ฉันต้องการยกเลิกการแข่งขัน แต่พูดแล้วก็พูด ไม่ว่าอย่างไร หัวหน้าทีมเหม่ยก็ปฏิเสธที่จะเห็นด้วย”“ยิ่งกว่านั้น หัวหน้าก็ปฏิเสธ และยืนกรานว่าจะต้องให้คนหนึ่งออกไป น่าเสียดายคนที่มีความสามารถอย่างหัวหน้าทีมเหม่ย”“แต่ เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางที่จะย้อนกลับไป ไม่
เมื่อหลี่ซิงเหอได้ยิน เขาก็ตะคอกอย่างเย็นชา และพูดว่า “พูดไร้สาระอะไร หัวหน้าฝ่ายขายคือผู้นำของบริษัท คุณซึ่งเป็นพนักงานขายธรรมดาๆ จะแต่งตั้งตามใจตัวเองได้อย่างไร หากเป็นแบบนี้มันจะไม่วุ่นวายเหรอ”“แต่เรื่องนี้มีการตกลงกันมาก่อนแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็รับปากแล้ว” เย่เทียนหยู่ตอบ“สัญญาอะไร พวกคุณสองฝ่ายรับปากกัน หัวหน้าพวกเราเห็นด้วยหรือยัง? ตำแหน่งหัวหน้าทีม ไม่ใช่พวกคุณจะตั้งกันตามใจได้” หลี่ซิงเหอแย้งตอบ“แต่ตอนนี้ เย่เทียนหยู่ยังเอ่ยถึงข้อเรียกร้องนี้ ผู้นำทุกท่านก็ไม่คัดค้าน” หลี่ซินเยว่อดไม่ได้ที่จะช่วย“ใช่ ฉันไม่ได้สนใจ ถ้าฉันฟังแล้ว จะปฎิเสธแน่นอน ตำแหน่งหัวหน้าทีมนั้นไม่ธรรมดา ต้องปรึกษากับฝ่ายธุรการและฝ่ายขายเท่านั้น ถึงจะตัดสินใจได้”หลี่ซิงเหอทำเสียงหึ ตอบว่า “พูดถึงตำแหน่งหัวหน้าทีม ยังมีเรื่องที่ต้องพูดอีกเรื่อง คุณชื่อเย่เทียนหยู่ใช่ไหม เข้าทำงานบริษัทตอนไหน ผ่านการสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ไหม?”เย่เทียนคนนี้ ทำลายเรื่องดีๆของเขาไปหมด งั้นก็ไสหัวออกไปจากบริษัทเถอะตอนนี้เขาไม่เพียงแต่รู้ว่าเย่เทียนหยู่ผ่านเข้ามาผ่านทางความสัมพันธ์ แต่แรกเริ่มก็ไม่ได้สนใจผู้ชายตัวเล็กๆเ
ทันทีที่คำพูดเหล่านั้นหลุดออกมา สีหน้าของหลินหว่านหรูและหลิวเหวินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยเฉพาะหลินหว่านหรู เธอรู้ดีว่า เย่เทียนหยู่ไม่ได้มีวุฒิการศึกษาอะไรทั้งนั้น เขาก็แค่ชาวป่าชาวดอยคนหนึ่งที่ลงมาจากภูเขา จะไปมีภูมิความรู้แบบนั้นได้ยังไง หลี่ซิงเหอที่รู้จักคุ้นเคยกับทั้งสองคนเป็นอย่างดี เมื่อเห็นท่าทีการแสดงออกของทั้งคู่ ในใจก็แอบรู้สึกพึงพอใจอยู่ไม่น้อย ในเมื่อคุณตัดลูกน้องที่มีความสามารถมากที่สุดของฉันไป วันนี้ก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะได้อยู่อย่างสงบสุข ที่สำคัญที่สุด เขาอยากจะใช้โอกาสนี้ดึงหลิวเหวินให้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ถ้าหากสามารถคว้าตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายได้ ถึงจะเสียเหม่ยหรงหรงไปสักคนก็ไม่เป็นไร ขณะเดียวกันเหม่ยหรงหรงพร้อมกับอีกสองคนยังไม่ได้ออกไปจากตรงนั้น ทันทีที่คนหมดสภาพอย่างพวกเขาได้ยินอย่างนั้น ก็รู้สึกมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาอีกครั้ง เพราะการได้เห็นความโชคร้ายของเย่เทียนหยู่นั้น ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก “ประธานหลิว ทำไมคุณถึงเงียบไปล่ะ อย่าบอกนะว่าเขาไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัยมาก่อนเลยน่ะ?”หลี่ซิงเหอจงใจถามขึ้นหลังจากที่เขาพูดออกมาแบบนั้น
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา เห็นได้ชัดเลยว่าเขาพยายามที่จะดึงหลิวเหวินให้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนไปทันที หลิวเหวินเป็นถึงหุ้นส่วนที่มีอำนาจในการตัดสินใจมากที่สุดในบริษัทของเธอหากเกิดเรื่องขึ้นกับหลิวเหวิน สำหรับเธอแล้วนั่นจะเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบเธอไปด้วยอย่างแน่นอน หลี่ซินเยว่และคนอื่น ๆ ก็ยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้นเย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “ประธานหลี่เก่งจริง ๆ พูดเพียงสองสามประโยคก็สามารถสาดน้ำสกปรกใส่ประธานหลิวได้แล้ว ทำไม คุณถึงอยากจะดึงประธานหลิวลงมาเกี่ยวข้องด้วยมากขนาดนั้น?” “เหลวไหลไร้สาระ ประธานหลิวเป็นเสาหลักของบริษัทเรา และได้ช่วยเหลือบริษัทไว้ตั้งมากมาย ฉันจะไปคิดแบบนั้นได้ยังไง?” หลี่ซิงเหอกล่าวท้วง “ถ้าอย่างนั้น ในเมื่อประธานหลิวมีผลงานโดดเด่นขนาดนี้ ต่อไปไม่ว่าฉันจะทำอะไร ก็คงจะไม่ไปสร้างปัญหาให้กับประธานหลิวสินะ?”หลี่ซิงเหออ้ำอึ้งไปพักหนึ่ง เขาตระหนักได้ว่าตัวเองถูกดึงเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแล้ว ก่อนจะพูดเสียงขรึม “หยุดพูดเรื่องไร้สาระ แล้วรีบอธิบายเรื่องของคุณมาได้แล้ว” “ถ้าหากว่าประธานหลิวมีพฤติกรรมที่ไม
เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สุดท้ายหลินหว่านหรูก็ตัดสินใจปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ยังไงอีกไม่นานความจริงก็จะถูกเปิดเผยออกมาแล้วและในเวลาเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับสนามกีฬาคนหนึ่งคือเฉินเฟยเฟย นักร้องชื่อดังจากอาณาจักรมังกร ตอนนี้เฉินเฟยเฟยกำลังโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเธอจะต้องแบกรับแรงกดดันที่ค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้เธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาบ้างแล้วอีกคนคืออดีตผู้ช่วยของเฉินเฟยเฟย ซึ่งปัจจุบันคนที่ทำหน้าที่แทนคือจางผิงคนสุดท้ายเป็นหญิงวัยสามสิบกว่า ๆ ที่มีใบหน้างดงาม หุ่นค่อนข้างสูง ทั้งหน้าอกและบั้นท้ายดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบของผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่และก็เป็นเพราะไม่สามารถทนต่อการคุกคามจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดิมได้ เธอจึงถูกบังคับให้ลาออก นอกจากนี้ก็เป็นเพราะได้รู้จักกับเฉินเฟยเฟย เฉินเฟยเฟยที่เดิมทีไม่ต้องการจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ดังนั้นสตูดิโอส่วนตัวของเธอเองจึงต้องการผู้จัดการด้วยเช่นกันเหอฉุนจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถ เธอจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระเบียบแต่เพราะค
หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็กดเบอร์โทรหาแม่ตระกูลหลินโดยตรง“ฮัลโหล!”“แม่ หนูเองนะคะ!”“อ๋อ หว่านหรูเองเหรอ” แม่ตระกูลหลินรู้สึกประหม่าในตอนแรก แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ลงทันที และถามออกไปว่า “แกเป็นไงบ้าง ช่วงนี้สบายดีไหม”“ก็ดีค่ะ แค่มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย”“แกหมายถึงเรื่องของปาร์คดาฮยอนนั่นน่ะเหรอ ฉันเองก็ติดตามข่าวนี้อยู่เหมือนกัน ปาร์คดาฮยอนนั่นเป็นคนที่ไร้ยางอายมากจริง ๆ นั่นแหละ ชาวเน็ตหน้าโง่พวกนั้นด้วย”“แต่ยังไงฉันก็เชื่อว่าขอแค่มีเทียนหยู่ แกจะต้องไม่เป็นไร เพราะงั้นฉันเลยไม่โทรศัพท์ไปรบกวนแก”แม่ตระกูลหลินอธิบายอย่างรวดเร็วในฐานะแม่ ตอนนั้นเธอไม่แม้แต่จะโทรหาเพื่อถามไถ่เลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริง ๆ“อืม เป็นอย่างที่ว่าแหละค่ะ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเทียนหยู่มากจริง ๆ” หลินหว่านหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงเลือกที่จะถามออกไป “แม่คะ ไม่นานมานี้มีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับหนูบนโลกอินเทอร์เน็ต แม่เห็นหรือยังคะ?”“ข่าวอะไรเหรอ แม่ไม่ค่อยเล่นอินเทอร์เน็ตสักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย เลยไม่รู้เรื่องน่ะ เรื่องของปาร์คดาฮยอนเองก็ฟังจากปากคนอื่
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว
ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะได้อยู่ข้าง ๆ คุณชายก็คงไม่เหลือ ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะทำตัวให้กระตือรือร้นมากขึ้นถึงแม้จะไม่ได้เป็นภรรยาของคุณชาย ขอแค่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณชายบ้าง ต่อไปเธอก็จะถือว่าเป็นผู้หญิงของคุณชาย และอย่างน้อยก็สามารถอยู่เคียงข้างคุณชายไปตลอดชีวิตได้เพราะไม่อย่างนั้น สักวันหนึ่งระยะห่างของเธอกับคุณชายก็คงจะไกลกันมากขึ้นเรื่อย ๆเพื่อเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจวางยา ยานี้ไม่ใช่ยาธรรมดา ไม่เพียงแต่ไม่มีสีและรสชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นยาที่หายากอีกด้วย เพียงแต่ผลลัพธ์ของยานั้นกลับไม่ได้มีความเข้มข้นมากนักแต่ก็ไม่เป็นไร โชคดีที่ได้เจอกับมันโดยบังเอิญ บวกกับเสน่ห์ที่ดูแพรวพราวของเธออีกเพื่อเสริมเสน่ห์ของตัวเองแล้ว หลายวันมานี้เธอได้ทำการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะทำให้คุณชายหลงใหล และให้คุณชายยอมกลืนกินเธอแม้ว่าวันนี้จูเก่อหลิวหลีจะสวมกระโปรงสีดำแหวกข้าง และเสื้อคอลึก จนทำให้ขาเรียวยาวของเธอโผล่พ้นออกมา ซึ่งความมีเสน่ห์ของเธอทำให้เขารู้สึกใจสั่นเล็กน้อยแต่เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ในขณะที่ดื่มน้ำในมือ เขาก็เดินดูรอบ ๆ พร้อมกับเอ่ยชมขึ้นว่า
อันที่จริงแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่การเตรียมการของเย่เทียนหยู่ แต่เป็นการเตรียมการของมู่หรงอิน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ามู่หรงอินเองก็ไม่ได้รังเกียจที่จะจัดการเรื่องนี้ กระทั่งเธอยังยินดีที่จะทำเสียด้วยซ้ำเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทเทียนเฟิงกรุ๊ปสาขาตะวันออก ข้อมูลก็ได้ถูกส่งไปถึงหูของมู่หรงอินแล้ว ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มออกมาแม้จะมีความช่วยเหลือจากเย่เทียนหยู่อยู่แล้ว แต่การแสดงออกของหลินหว่านหรูนั้นก็ทำให้เธอพอใจมากจริง ๆเดิมทีภาพรวมของเทียนเฟิงกรุ๊ปก็ดีมากอยู่แล้ว เพียงแค่ปัญหาร้ายแรงบังเอิญมาเกิดที่สาขานี้ก็เท่านั้น เธอแค่ต้องการอยากจะเห็นการแก้ปัญหาของหลินหว่านหรู และจะใช้เวลานานแค่ไหนในการจัดการคิดไม่ถึงเลยว่าจะจัดการได้เร็วขนาดนี้ แถมยังกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานให้มีแรงผลักดันมากขึ้นอีกด้วยไม่เสียแรงที่ตนให้คนเตรียมข้อมูลพนักงานที่ละเอียดขนาดนั้นเอาไว้ให้เธอเลยจริง ๆในตอนที่เย่เทียนหยู่เดินออกจากบริษัท เขาเองก็กำลังคิดว่าจะหาบ้านที่เหมาะสมในบริเวณใกล้เคียง แล้วซื้อเอาไว้สักหลัง ไม่ว่ายังไงก็จะให้หลินหว่านหรูพักอยู่โรงแรมตลอดไปไม่ได้หรอกนี่เห็นได้ชัดว่ามันไม่เ