ท้ายที่สุด ถ้าอยากทำให้ตำแหน่งของหลี่ว์ซิงเหอสั่นคลอนนั้น ยากจริงๆ ไม่มีทางจะแทนที่เขาได้ขณะที่หลี่ซิงเหอพูด หลายคนก็พูดทันทีว่า “ใช่ เสียเวลาไปมากแล้วกับเรื่องไร้สาระ เย่เทียนหยู่หากคุณมีหลักฐานว่าได้รับเงินก็เอาออกมาให้เร็วที่สุด ไม่งั้น ก็แค่ยอมรับว่าแพ้ซะ”เมื่อได้ยินการสนับสนุนของทุกคน เหม่ยหรงหรงก็ได้ใจ มองไปที่เย่เทียนหยู่ด้วยสายตาเย่อหยิ่งของผู้ชนะหวังซินรู้สึกตื่นเต้นมาก ครั้งนี้ตัวเองได้ตามคนที่ทำถูกต้องแล้ว ในไม่ช้าก็จะเข้ามาแทนที่ตำแหน่งของหลี่ซินเยว่ และนั่งแท่นหัวหน้าทีมได้เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว หลินหว่านหรู หลิวเหวินกับหลี่ซินเยว่เกือบจะแพ้ด้วยความสิ้นหวังแต่ในขณะนี้ เย่เทียนหยู่พูดอย่างใจเย็น “ เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนยังเชื่อว่าผู้ชนะถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ใช้อารมณ์ส่วนตัว ไม่นานต้องมีคนถูกไล่ออก งั้นเรามาตัดสินผู้ชนะกัน”“ผู้จัดการจง รบกวนคุณบอกทุกคนด้วย”ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา ทุกคนก็ตกตะลึงอีกครั้ง ไม่ได้โอนเงินจริงๆ และผู้จัดการจงก็รู้เรื่องนี้ล่วงหน้าด้วย ไม่งั้นเขาพูดแบบนี้ทำไมในขณะนี้ สายตาของทุกคนมองข้ามไปจงหยุนพยักหน้า คิดว่าเย่เทียนยวี่เคยสารภาพกับเขาม
หลิวเหวินทั้งประหลาดใจ และตกใจยิ่งกว่าเดิมเธอคิดไม่ถึงเลยว่า คนไร้ประโยชน์ที่เข้ามาแถมโดนดูถูกคนนี้ จะมีทักษะขนาดนี้เลยครั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเขาจริงๆในตอนนี้ ดูเหมือนเธอจะเข้าใจการจัดการของประธานหลินแล้วหากเธอตัดสินถูกต้อง เย่เทียนหยู่อาจเป็นคนที่ประธานหลินจัดหาให้เข้ามาจัดการกับคนของตระกูลหลู่ ไม่งั้น จะไม่สามารถอธิบายเรื่องต่อเนื่องล่าสุดได้แม้ว่าเธอจะคิดผิด แต่หลินหว่านหรูก็แค่อยากให้เย่เทียนหยู่ได้รับการฝึกฝน เพื่อที่จะได้มีชีวิตต่อไปหลังจากหย่าร้าง แต่เย่เทียนหยู่ก็มีเป้าหมายนี้อยู่ดังนั้นจึงเดาถูกโดยไม่ได้ตั้งใจแต่เหม่ยหรงหรงเป็นคนสนิทของเขา ดังนั้นแล้วหลี่ว์ซิงเหอจึงไม่ยอมแพ้ง่ายๆ และต้องออกปากปกป้องเธอเย่เทียนหยู่สังเกตเห็นหน้าตาของเขา และพูดทันทีว่า “เอาล่ะ ตอนนี้ผลลัพธ์ก็ชัดเจนมาก ตอนนี้ฉันต้องการยกเลิกการแข่งขัน แต่พูดแล้วก็พูด ไม่ว่าอย่างไร หัวหน้าทีมเหม่ยก็ปฏิเสธที่จะเห็นด้วย”“ยิ่งกว่านั้น หัวหน้าก็ปฏิเสธ และยืนกรานว่าจะต้องให้คนหนึ่งออกไป น่าเสียดายคนที่มีความสามารถอย่างหัวหน้าทีมเหม่ย”“แต่ เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่มีทางที่จะย้อนกลับไป ไม่
เมื่อหลี่ซิงเหอได้ยิน เขาก็ตะคอกอย่างเย็นชา และพูดว่า “พูดไร้สาระอะไร หัวหน้าฝ่ายขายคือผู้นำของบริษัท คุณซึ่งเป็นพนักงานขายธรรมดาๆ จะแต่งตั้งตามใจตัวเองได้อย่างไร หากเป็นแบบนี้มันจะไม่วุ่นวายเหรอ”“แต่เรื่องนี้มีการตกลงกันมาก่อนแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็รับปากแล้ว” เย่เทียนหยู่ตอบ“สัญญาอะไร พวกคุณสองฝ่ายรับปากกัน หัวหน้าพวกเราเห็นด้วยหรือยัง? ตำแหน่งหัวหน้าทีม ไม่ใช่พวกคุณจะตั้งกันตามใจได้” หลี่ซิงเหอแย้งตอบ“แต่ตอนนี้ เย่เทียนหยู่ยังเอ่ยถึงข้อเรียกร้องนี้ ผู้นำทุกท่านก็ไม่คัดค้าน” หลี่ซินเยว่อดไม่ได้ที่จะช่วย“ใช่ ฉันไม่ได้สนใจ ถ้าฉันฟังแล้ว จะปฎิเสธแน่นอน ตำแหน่งหัวหน้าทีมนั้นไม่ธรรมดา ต้องปรึกษากับฝ่ายธุรการและฝ่ายขายเท่านั้น ถึงจะตัดสินใจได้”หลี่ซิงเหอทำเสียงหึ ตอบว่า “พูดถึงตำแหน่งหัวหน้าทีม ยังมีเรื่องที่ต้องพูดอีกเรื่อง คุณชื่อเย่เทียนหยู่ใช่ไหม เข้าทำงานบริษัทตอนไหน ผ่านการสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ไหม?”เย่เทียนคนนี้ ทำลายเรื่องดีๆของเขาไปหมด งั้นก็ไสหัวออกไปจากบริษัทเถอะตอนนี้เขาไม่เพียงแต่รู้ว่าเย่เทียนหยู่ผ่านเข้ามาผ่านทางความสัมพันธ์ แต่แรกเริ่มก็ไม่ได้สนใจผู้ชายตัวเล็กๆเ
ทันทีที่คำพูดเหล่านั้นหลุดออกมา สีหน้าของหลินหว่านหรูและหลิวเหวินก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยเฉพาะหลินหว่านหรู เธอรู้ดีว่า เย่เทียนหยู่ไม่ได้มีวุฒิการศึกษาอะไรทั้งนั้น เขาก็แค่ชาวป่าชาวดอยคนหนึ่งที่ลงมาจากภูเขา จะไปมีภูมิความรู้แบบนั้นได้ยังไง หลี่ซิงเหอที่รู้จักคุ้นเคยกับทั้งสองคนเป็นอย่างดี เมื่อเห็นท่าทีการแสดงออกของทั้งคู่ ในใจก็แอบรู้สึกพึงพอใจอยู่ไม่น้อย ในเมื่อคุณตัดลูกน้องที่มีความสามารถมากที่สุดของฉันไป วันนี้ก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะได้อยู่อย่างสงบสุข ที่สำคัญที่สุด เขาอยากจะใช้โอกาสนี้ดึงหลิวเหวินให้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ถ้าหากสามารถคว้าตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายได้ ถึงจะเสียเหม่ยหรงหรงไปสักคนก็ไม่เป็นไร ขณะเดียวกันเหม่ยหรงหรงพร้อมกับอีกสองคนยังไม่ได้ออกไปจากตรงนั้น ทันทีที่คนหมดสภาพอย่างพวกเขาได้ยินอย่างนั้น ก็รู้สึกมีเรี่ยวมีแรงขึ้นมาอีกครั้ง เพราะการได้เห็นความโชคร้ายของเย่เทียนหยู่นั้น ทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก “ประธานหลิว ทำไมคุณถึงเงียบไปล่ะ อย่าบอกนะว่าเขาไม่เคยเรียนมหาวิทยาลัยมาก่อนเลยน่ะ?”หลี่ซิงเหอจงใจถามขึ้นหลังจากที่เขาพูดออกมาแบบนั้น
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา เห็นได้ชัดเลยว่าเขาพยายามที่จะดึงหลิวเหวินให้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนไปทันที หลิวเหวินเป็นถึงหุ้นส่วนที่มีอำนาจในการตัดสินใจมากที่สุดในบริษัทของเธอหากเกิดเรื่องขึ้นกับหลิวเหวิน สำหรับเธอแล้วนั่นจะเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบเธอไปด้วยอย่างแน่นอน หลี่ซินเยว่และคนอื่น ๆ ก็ยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้นเย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “ประธานหลี่เก่งจริง ๆ พูดเพียงสองสามประโยคก็สามารถสาดน้ำสกปรกใส่ประธานหลิวได้แล้ว ทำไม คุณถึงอยากจะดึงประธานหลิวลงมาเกี่ยวข้องด้วยมากขนาดนั้น?” “เหลวไหลไร้สาระ ประธานหลิวเป็นเสาหลักของบริษัทเรา และได้ช่วยเหลือบริษัทไว้ตั้งมากมาย ฉันจะไปคิดแบบนั้นได้ยังไง?” หลี่ซิงเหอกล่าวท้วง “ถ้าอย่างนั้น ในเมื่อประธานหลิวมีผลงานโดดเด่นขนาดนี้ ต่อไปไม่ว่าฉันจะทำอะไร ก็คงจะไม่ไปสร้างปัญหาให้กับประธานหลิวสินะ?”หลี่ซิงเหออ้ำอึ้งไปพักหนึ่ง เขาตระหนักได้ว่าตัวเองถูกดึงเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแล้ว ก่อนจะพูดเสียงขรึม “หยุดพูดเรื่องไร้สาระ แล้วรีบอธิบายเรื่องของคุณมาได้แล้ว” “ถ้าหากว่าประธานหลิวมีพฤติกรรมที่ไม
หลังจากที่หลี่ซิงเหอคิดตามทันทั้งหมดแล้ว ภายในใจก็โกรธจัด เขาคิดไม่ถึงเลยว่า คนไร้ค่าที่เขาดูถูกนั้น จะสร้างความอันตรายให้เขาได้มากถึงเพียงนี้ ในทางตรงกันข้าม สายตาที่หลิวเหวินมองไปยังเย่เทียนหยู่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกชื่นชม และก็ตกตะลึงมากเช่นกัน เธอคิดว่า นี่จะต้องเป็นกับดักที่เย่เทียนหยู่ได้วางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ความคิดแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะทำได้อย่างแน่นอนแต่ถึงจะเป็นแบบนี้แล้ว ก็ยังติดปัญหาพื้นฐานอยู่ นั่นก็คือเย่เทียนหยู่จะเข้ามาในบริษัทได้ยังไง หากไม่จัดการให้ดี วิกฤติก็จะยังคงอยู่แน่นอนว่า หลี่ซิงเหอต้องอดทนอดกลั้นต่อความอยากที่จะฆ่าเย่เทียนหยู่ให้ตายเอาไว้อย่างมาก เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เย่เทียนหยู่ พูดมาซะมากมายก่ายกอง คุณยังไม่ได้บอกเลยว่าคุณมีประสบการณ์อะไร ที่จะสามารถทำให้ประธานหลิวต้องรับคุณเข้ามาในบริษัท?”เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยิน เขาก็ส่ายหัวและขมวดคิ้ว “ประธานหลี่ หูคุณก็ไม่ได้หนวกนี่ เมื้อกี้ผมบอกไปแล้วว่า ประสบการณ์ของผมมันน่ากลัวเกินไป ไม่สามารถบอกพวกคุณได้”หลี่ซิงเหอได้ยินดังนั้นก็โกรธมาก พร้อมกับพูดออกมาด้วยความโกรธ “เย่เท
เป็นอย่างนั้นจริง ๆ!หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนหยู่จะใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย ทำใบรับรองเกียรติยศปลอมเตรียมไว้ก่อนแล้วล่วงหน้า เพียงแต่ว่า ของแบบนี้ตรวจสอบได้ง่ายมากที่ง่ายที่สุด ก็คือสอบถามกับทางมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็ได้คำตอบชัดเจนแล้วคนอื่น ๆ สีหน้าก็ดูตกใจเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนหยู่จะกล้าทำเรื่องที่โง่เขลาแบบนี้ หลี่ซินเยว่ยิ้มแห้ง ในความเห็นของเธอนั้น เรื่องแบบนี้เย่เทียนหยู่สามารถทำมันออกมาได้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ประธานหลิวก็ได้บอกไปแล้วว่าเขาไม่มีวุฒิการศึกษาหลิวเหวินเองก็ถอนหายใจเช่นกัน ดูท่าคงจะทำอะไรไม่ได้แล้ว แต่เย่เทียนหยู่กลับยิ้มออกมาเบา ๆ และพูดว่า “ใครบอกว่าใบรับรองเกียรติยศของฉันเป็นของปลอมกัน?” “ฉันนี่แหละ!”หลี่ซิงเหอพูดจบ เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง พร้อมกับพูดว่า “ถ้าหากว่าคุณหาประเทศอื่น เช่นที่ไหนสักแห่งในแอฟริกา แล้วเลือกมหาวิทยาลัยปลอมที่ชื่อใกล้เคียงกันฉันก็คงจะตรวจสอบได้ยาก” “แต่นี่คุณโง่มากจริง ๆ ที่ทำใบประกาศนียบัตรศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยเอ คุณคิดว่าพวกเราทุกคนปัญญ
หลี่ซิงเหอกวาดสายตามองรายชื่อบนนั้นอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าไม่มีชื่อของเย่เทียนหยู่ในนั้น จึงพูดเยาะเย้ยขึ้น “เย่เทียนหยู่ ฉันค้นดูในนี้หมดแล้ว ทำไมถึงไม่เห็นชื่อของคุณเลยล่ะ?” “คุณยังกล้าพูดอยู่อีกเหรอว่าคุณไม่ได้ปลอมใบประกาศนียบัตรน่ะ?” “ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน ไม่มีในนั้นแล้วต้องหมายความว่าผมปลอมขึ้นงั้นเหรอ คุณได้ไปถามคณบดี หรือว่าอธิการบดีของมหาวิทยาลัยแล้วหรือยัง?” เย่เทียนหยู่ถามกลับ “ไร้สาระ!”หลี่ซิงเหอโกรธ แล้วพูดว่า “เย่เทียนหยู่ คุณต้องการให้ฉันเจาะค้นลงไปลึกมากกว่านี้จริง ๆ ใช่ไหม นี่ถือเป็นเรื่องที่ผิดต่อกฎหมาย ถึงตอนนั้น คุณจะต้องติดคุกเพียงเพราะทำการกล่าวอ้างอันเป็นเท็จนี้” “ผมไม่ได้โกหก คุณลองตรวจสอบได้ตามสบายเลย” เย่เทียนหยู่หมดคำจะพูด “ได้ คุณรนหาที่เองนะ อย่ามาหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน” หลี่ซิงเหอพูดด้วยความโมโห หลินหว่านหรูทำอะไรไม่ถูกแล้ว เดิมทีเธอต้องการที่จะหยุดเขา แต่เห็นได้ชัดเลยว่าที่เย่เทียนหยู่ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อบริษัท “เย่เทียนหยู่ ถ้าหากว่าเป็นคนอื่น คงจะทำอะไรไม่ได้ แต่บังเอิญ ฉันรู้จักกับรองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเอ และก็บังเอิญมีเบอร์โ