หลี่ซิงเหอกวาดสายตามองรายชื่อบนนั้นอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าไม่มีชื่อของเย่เทียนหยู่ในนั้น จึงพูดเยาะเย้ยขึ้น “เย่เทียนหยู่ ฉันค้นดูในนี้หมดแล้ว ทำไมถึงไม่เห็นชื่อของคุณเลยล่ะ?” “คุณยังกล้าพูดอยู่อีกเหรอว่าคุณไม่ได้ปลอมใบประกาศนียบัตรน่ะ?” “ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน ไม่มีในนั้นแล้วต้องหมายความว่าผมปลอมขึ้นงั้นเหรอ คุณได้ไปถามคณบดี หรือว่าอธิการบดีของมหาวิทยาลัยแล้วหรือยัง?” เย่เทียนหยู่ถามกลับ “ไร้สาระ!”หลี่ซิงเหอโกรธ แล้วพูดว่า “เย่เทียนหยู่ คุณต้องการให้ฉันเจาะค้นลงไปลึกมากกว่านี้จริง ๆ ใช่ไหม นี่ถือเป็นเรื่องที่ผิดต่อกฎหมาย ถึงตอนนั้น คุณจะต้องติดคุกเพียงเพราะทำการกล่าวอ้างอันเป็นเท็จนี้” “ผมไม่ได้โกหก คุณลองตรวจสอบได้ตามสบายเลย” เย่เทียนหยู่หมดคำจะพูด “ได้ คุณรนหาที่เองนะ อย่ามาหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน” หลี่ซิงเหอพูดด้วยความโมโห หลินหว่านหรูทำอะไรไม่ถูกแล้ว เดิมทีเธอต้องการที่จะหยุดเขา แต่เห็นได้ชัดเลยว่าที่เย่เทียนหยู่ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อบริษัท “เย่เทียนหยู่ ถ้าหากว่าเป็นคนอื่น คงจะทำอะไรไม่ได้ แต่บังเอิญ ฉันรู้จักกับรองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเอ และก็บังเอิญมีเบอร์โ
เย่เทียนหยู่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ฉันอุตส่าห์ปิดบังขนาดนี้ แต่เก็บต่อไปไม่ไหวแล้วเพราะทุกคนเอาแต่ถาม คราวนี้ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเปิดเผยความสามารถอันแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมของเขาเดี๋ยวถ้าการประชุมจบลง คงจะต้องเตรียมรับคลื่นแห่งความชื่นชมจากเหล่าสาวสวย แม้แต่หว่านหรูเองก็คงจะอดไม่ได้ที่จะโผกายเข้ามาในอ้อมกอดของเขา หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว สีหน้าของหลี่ซิงเหอดูไม่ได้เลย เอาแต่จ้องไปที่เย่เทียนหยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับว่าอยากจะจับพิรุธอะไรแปลก ๆ ของเขา “เป็นยังไงล่ะ คุณหลี่ ยืนยันชัดเจนแล้วหรือยัง?”เย่เทียนหยู่ยิ้มเบา ๆ และพูดว่า “ผมบอกแล้ว ว่าประกาศนียบัตรนี้เป็นของจริง ตอนนี้คุณจะคืนมันมาให้ผมได้แล้วใช่ไหม?” “แน่นอน คุณเอาใบประกาศนียบัตรนี้ไปให้เขา”หลังจากที่หลี่ซิงเหอสั่งหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เสร็จแล้ว เขาก็เหลือบมองไปที่หลิวเหวิน และพูดว่า “แต่ในเมื่อคุณมีใบประกาศนียบัตรเช่นนี้แล้ว ทำไมถึงเต็มใจที่จะเป็นเพียงแค่พนักงานขายล่ะ?” “ถ้าฉันเดาไม่ผิด ประธานหลิวก็คงจะไม่รู้เหมือนกันสินะว่าคุณมีใบประกาศนียบัตรนี้น่ะ” “ใครว่าล่ะ ประธานหลี่ อย่าหาว่าผมสงสัยคุณเลยนะ
นอกจากหลิวเหวินแล้ว หลินหว่านหรูเองก็มีความคิดแบบนี้อยู่เหมือนกัน ทันทีที่ได้ยินข้อเสนอแนะนี้ ในใจของเธอก็รู้สึกเห็นด้วยเป็นอย่างมาก ถ้าเป็นแบบนี้ เย่เทียนหยู่ก็จะได้รับการฝึกฝนมากขึ้น ซึ่งนั่นก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อการเอาตัวรอดของเขาในอนาคต หลี่ซินเยว่เองก็ดีใจมากเช่นกัน ถึงแม้ว่าแบบนี้จะทำให้เธอต้องสูญเสียพรสวรรค์อันทรงพลังไป และมีคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง แต่เธอก็ยังมีความสุข และก็ดีใจไปกับเย่เทียนหยู่ด้วย แต่เย่เทียนหยู่กลับตกตะลึง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะต้องมาเป็นหัวหน้าของแผนกทีมขาย นั่นไม่ได้เป็นการหาเรื่องลำบากให้ตัวเองหรอกเหรอ?มันจะไปสบายใจเท่ากับการเป็นพนักงานขายธรรมดา ๆ ได้ยังไงกันสีหน้าของหลี่ซิงเหอเองก็ไม่ค่อยพอใจเช่นกัน เจ้าเด็กนี่หักหน้าเขากี่ครั้งไม่รู้ต่อกี่ครั้ง และยังสร้างปัญหาใหญ่ให้กับเขาอีก ไม่จัดการเขาไปตอนนั้นก็ดีเท่าไรแล้ว กลับยังจะให้เขาได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นไปอีก แต่สถานการณ์ในตอนนี้ หากว่าเขาปฏิเสธล่ะก็ จะต้องถูกกลุ่มคนวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน ซึ่งนั่นจะส่งผลเสียต่อความน่าเกรงขามของเขา ช่างมัน งั้นก็ให้เขาเป็นหัวหน้าของแผนกทีม
“ตกลง หลังจากประชุมเสร็จ ผมจะรับตำแหน่งและเริ่มทำงานทันที ” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มหลินหว่านหรูถอนหายใจด้วยความโล่งอก และพูดว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นการประชุมวันนี้ก็จบแต่เพียงเท่านี้ ทุกคนแยกย้ายได้!”หลังจากจบประโยคนี้ การประชุมในครั้งนี้ก็สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการแต่ถึงอย่างนั้นหลินหว่านหรูก็กระซิบหลิวเหวินที่อยู่ข้าง ๆ เธอว่า “เดี๋ยวคุณให้เย่เทียนหยู่มาหาฉันที่ห้องทำงานหน่อยนะ ฉันมีเรื่องจะถามเขา” “ได้!”หลิวเหวินพยักหน้า ดูเหมือนว่าเย่เทียนหยู่คนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ เขามีความลับมากมายเลยทีเดียวไม่อย่างงั้น วันนี้ประธานหลินคงจะไม่กังวลเหมือนกับเธอ ดูท่าเธอเองก็คงจะไม่รู้เรื่องใบประกาศนียบัตรนั่นเหมือนกันหลังการประชุมสิ้นสุดลง หลี่ซินเยว่เดินไปข้าง ๆ เย่เทียนหยู่ พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “เย่เทียนหยู่ ยินดีด้วยนะ จากนี้ไป คุณจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มหนึ่งแล้ว” “ยินดีอะไรกันล่ะ ต้องทำงานหนักขึ้นโดยไม่มีเหตุผล นี่มันน่ายินดีตรงไหน”เย่เทียนหยู่ถอนหายใจ และส่ายหัวหลี่ซินเยว่กำลังคิดที่จะเถียงกลับ แต่แล้วเธอก็นึกถึงความเคารพที่ถานล่างมีต่อเย่เทียนหยู่ขึ้นมา และคิดถึงตัวต
“พี่เยว่?” “เป็นยังไงบ้าง?” “ดูสิพวกคุณแต่ละคนคร่ำเครียดกันขนาดไหน มีเย่เทียนหยู่อยู่ ยังจะกังวลว่าจะไม่ชนะอีกเหรอ?” หลี่ซินเยว่กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “นี่หมายความว่าพวกเราชนะงั้นเหรอ?” “แน่นอน!” หลี่ซินเยว่ยืนยันทุกคนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องออกมาด้วยความดีใจทันทีถึงแม้จะเดาไว้แล้วว่าน่าจะชนะ แต่การที่ได้รับผลยืนยันว่าชนะนั่นต่างหากถึงจะเรียกว่าชนะอย่างแท้จริง ในเวลานี้หลี่ซินเยว่ก็กล่าวต่อว่า “พวกคุณไม่รู้หรอกว่ามันน่าตื่นเต้นมากแค่ไหน ครั้งนี้ต้องขอบคุณเย่เทียนหยู่จริง ๆ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงแพ้ไปแล้ว” “น่าตื่นเต้น? สัญญาการซื้อขายมูลค่าสองร้อยห้าสิบล้านบาทก็ลงนามเสร็จไปแล้วไม่ใช่เหรอ แค่รอการชำระเงิน หรือว่าการชำระเงินไม่ตรงเวลา?” มีคนอดไม่ได้ที่จะถาม “ไม่ใช่อย่างนั้น!”หลี่ซินเยว่รีบเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในห้องประชุมคร่าว ๆ ทันทีทุกคนที่ได้ยิน ต่างก็คิดไม่ถึงว่าภายในระยะเวลาสั้น ๆ จะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้ แถมยังเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก โดยประเด็นสำคัญทั้งหมดไม่ได้พ้นไปจากเย่เทียนหยู่เลย หลังจากที่ได้รู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของเย่เทียนหยู
“ประธานหลิว!” “ประธานหลิว...”เมื่อทุกคนได้ยินเสียง ก็ตกใจ จึงรีบเอ่ยชื่อเธอเพื่อแสดงความเคารพ จากนั้นก็พากันกลับไปนั่งที่นั่งของตัวเอง เว้นแต่เย่เทียนหยู่ที่ดูสบาย ๆ ทำตัวเหมือนกับว่าคนที่มาไม่ใช่หัวหน้ายังไงอย่างงั้น หลี่ซินเยว่รีบพูดขึ้น “ประธานหลิว คุณมีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ?” “ไม่มีอะไร ฉันมาหาเขา!”หลิวเหวินพูดกับเย่เทียนหยู่โดยตรงทันที “เย่เทียนหยู่ คุณมานี่หน่อยสิ”เย่เทียนหยู่ชะงักไปครู่หนึ่ง โถ่เอ๊ย ทำไมถึงไม่ให้คนเขาได้พักผ่อนสักหน่อยนะ อยู่ต่อหน้าทุกคน คงจะไม่ดีถ้าเขาไม่ไว้หน้าเธอ ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นและเดินตามเธอไป “ประธานหลิว มีอะไรหรือเปล่าครับ?” “ทำไม ไม่มีอะไรแล้วจะมาหาคุณไม่ได้อย่างงั้นเหรอ?” หลิวเหวินพูดอย่างเซง ๆ ถึงยังไงเธอก็เป็นผู้อำนวยการฝ่ายขาย แถมยังเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในบริษัทนี้อีกด้วยทำไมเย่เทียนหยู่จึงดูเหมือนว่าไม่อยากจะอยู่ใกล้กับเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียวถ้าเป็นเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่เกรงกลัวเจ้านายก็ว่าไปอย่าง แต่เห็นได้ชัดว่าเขา ชอบทำตัวยียวนกวนประสาทเธอ ไม่ได้มีความเกรงกลัวต่อเธอเลยสักนิด พูดง่าย ๆ ก็คือ เขาแค่ไม่อยากจะอยู่กับเธ
หลินหว่านหรูรู้สึกอยู่ในใจเสมอว่า เย่เทียนหยู่เป็นเหมือนดั่งคนป่าลงมาจากภูเขา และไม่ได้รับการศึกษาจากมหาลัยมาก่อนแม้จะมีความสามารถอยู่บ้าง โดยเฉพาะทักษะกังฟูที่ดีเยี่ยม แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังมีข้อจำกัดมากเกินไป ไม่มีการศึกษาหรือการบ่มเพาะกิริยามารยาทต่างๆ อย่างลึกซึ้งแต่หลังจากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาในวันนี้ มันจึงทำให้เธอสับสนเป็นธรรมดา แม้ว่าในใจจะคิดว่าใบรับรองนั้นเป็นของปลอม ยังไงเสียก็ต้องถามให้ชัดเจนอยู่ดีเย่เทียนหยู่หัวเราะเหอะๆ แล้วตอบกลับไปว่า "สิ่งที่คุณไม่รู้ยังมีอีกมากนะ"เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลินหว่านหรูก็โกรธเป็นอย่างมาก พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "ฟังคำพูดของคุณแบบนี้แล้ว หรือคุณยังมีเหตุผลอยู่?""เออ มีนิดหน่อยน่ะ""พอได้แล้ว อย่ามาล้อเล่นกับฉันนะ! ฉันถามคุณหน่อยนะว่า ใบรับรองนั่นมันคืออะไร?" หลินหว่านหรูชักเข้าประเด็นในทันที"อะไร ยังไง?""ฉันถามคุณว่า คุณไปเอาใบรับรองนั่นมาจากไหน แล้วยังได้รับการอนุมัติจากรองประธานมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดอีก นี่ใช่ไหมคุณถึงได้หลอกหลี่ว์ซิงเหอได้สำเร็จ"หลินหว่านหรูลงความเห็นแล้วว่า ใบรับรองนั่นจะต้องปลอมอย่างแน่นอน"ใครบอกคุณ
"ใช่ ภรรยาของผมสั่งสอนถูกต้อง!""ใครเป็นภรรยาของคุณ?"ไม่รู้ว่าทำไม สำหรับคำเรียกของเขาแบบนี้ หลินหว่านหรูดูเหมือนจะไม่โกรธเคืองเหมือนแต่ก่อนแล้ว ก่อนหน้านี้แค่ได้ยิน เธอก็โกรธจัดจนแทบจะชกหน้าอีกฝ่ายไปเสียแล้วแต่ตอนนี้กลับมีบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้"ก็ต้องเป็นคุณอยู่แล้ว" เย่เทียนหยู่รู้สึกได้ว่าช่วงนี้ตัวเองดูผ่อนคลายลงไปเรื่อยๆ ไม่ได้ตึงเครียดเหมือนก่อนหน้านี้แต่อย่างใดแล้ว"คุณอย่าลืมนะว่าพวกเรา...""ผมรู้ คุณไม่ต้องพูดอยู่ตลอดทุกวี่ทุกวันหรอก นี่มันยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่เหรอ?" เย่เทียนหยู่ยิ้มๆ แล้วถามขึ้นมาว่า "หลี่ว์ซิงเหออะไรนั่นจะมากเกินไปแล้ว คุณคิดที่จะจัดการเขาหรือเปล่า?"หลินหวานหรูชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า "คิดน่ะคิดอยู่แล้ว แต่มันยากเหลือเกิน! รากฐานของตระกูลหลี่ว์ เมื่ออยู่ในบริษัทเป็นรองแค่ตระกูลหลินของเราเอง และหลี่ว์ซิงเหอนั้นก็มีความสามารถอีกต่างหาก ไม่ได้จัดการง่ายๆ ขนาดนั้นหรอกนะ""แค่คุณมีความคิดก็พอแล้ว ที่เหลือไว้เป็นหน้าที่ของผมเอง ใช้เวลาไม่นานหรอก ผมจะให้เขาไสหัวออกจากบริษัทไปด้วยตัวเอง"เย่เทียนหยู่ยิ้มๆ และลุกเดินออกไปหลินหว
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก
หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็เดินทางไปยังบ้านพักของตระกูลหยางและแจ้งให้หยางเฉียนเฉียนทราบด้วยตัวเองว่าปัญหาแก้ไขแล้ว หรือให้พูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจวินาทีแรกที่หยางเฉียนเฉียนได้ยิน เธอก็ยินยอมรับปากเย่เทียนหยู่ สำหรับเธอขอแค่พี่เย่มีความสุขเธอก็มีความสุขต่อมาแม้เธอจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่สุดท้ายเธอไม่ได้ลงเอยกับพี่เย่ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกับเขา และยังได้รับใบทะเบียนสมรสกับเขาด้วยหยางต้าฝูดูหดหู่มากกว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งมหาศาลนั่น จะไม่ใช่ของตระกูลหยางของพวกเขาหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งแต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตู เขาก็พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนถูกเขาลงโทษไปแล้ว เจ้าโง่นั่นก็ไม่ยอมแพ้แถมยังตามเขามาถึงที่นี่ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย!เดี๋ยวก่อน หลิวเมิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เธอกับหว่านหรูก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันพวกเขาทั้งสองเห็นเย่เทียนหยู่แล้วรีบรุดหน้ามาทันที
ใบหน้าของหลินหว่านหรูแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่อธิบายไม่ได้ในใจ“เฮ้ คุณบอกว่าคุณต้องการมันมากใช่ไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ดี เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากแก้ไขปัญหานี้ไม่อย่างนั้น เขารู้สึกจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนี้หยางเฉียนเฉียนมากจนเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญมันยังไง ในอนาคต“อะไรนะ ฉันจะมีอารมณ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง” ในเวลานี้ หลินหว่านหรูรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ตระกูลสวี่มาที่นี่หรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม ปัจจุบัน ตระกูลหลินควรจะมีเพียงธุรกิจของ หลินจื่อตงเท่านั้น“นั่นไม่เป็นความจริง แต่ตระกูลสวี่และตระกูลซุนตกลงกันว่าพ่อแม่ทั้งสองจะหมั้นกันในวันพรุ่งนี้ เราจะรอจนกว่าจะเลือกวันอันเป็นมงคลอื่นก่อนจึงจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ”“แล้วจื่อตงก็เริ่มวิตกกังวล พรุ่งนี้เขาต้องไปเยี่ยมตระกูลสวี่เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะไม่ปล่อยให้สวี่เจียเจียหมั้นหมายกับตระกูลซุนเลย” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง เขารู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายเพิ่งหมั้นกันและ
หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทันที มาจนถึงตอนนี้แล้วทำไมแม่เธอยังไม่ได้สติอีก ถ้าแม่เธอยังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่กลับมา จะช้าเร็วก็คงเกิดปัญหาอยู่ดีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นหน้าตาของลูกสาว เธอก็รำคาญทันที “สายตาอะไรของลูกฮะ หรือแกจะทนดูน้องชายตัวเองตายไปทั้งแบบนี้รึไง”คุณปู่ตระกูลหลินเองก็รีบ “หว่านหรู ไม่ว่ายังไงก็ น้องก็คอยสนับสนุนหลานมาโดยตลอด หลานต้องช่วยเขานะ”“ใช่ หว่านหรู ลูกต้องช่วยจื่อตงนะ” หลินหงรีบพูดเสริมหลินจื่อตงเปิดปาก เขาไม่ต้องการรบกวนพี่สาว เพราะมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงนี้ แถมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับพี่เขยก็จบลงไปแล้วแต่เขาไม่อยากเสียสวี่เจียเจียไปเลยจริง ๆเมื่อมองดูสายตาของคนในตระกูล หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งและพูดว่า “คิดว่าหนูจะไม่ช่วยจื่อตงเหรอคะ”คุณปู่ตระกูลหลินดูไม่ค่อยดีนัก แต่หลินจื่อตงก็พูดทันที “พี่ อย่าฟังคุณปู่กับทุกคนเลยครับ ผมเชื่อพี่อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่สะดวกจริง ๆ ผมจะไปเองครับ”“นายก็ยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี”หลินหว่านหรูโกรธ เธอหันหลังกลับและเดินกลับห้องด้วยความโมโหคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ที่ถูกทิ้งไว้ มองหน้ากันอย่างไม่เช
“แต่เธอจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”“โอเค ถ้างั้นผมจะรอ”ตอนนี้ ขอแค่แม่ของเขาสบายดีแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น แต่เขากังวลว่าตอนนี้แม่ของเขาเป็นอิสระแล้วจริง ๆ หรือเปล่า“ผมขอยืนยันอีกที พวกคุณไม่ขอให้ผมจดทะเบียนกับหยางเฉียนเฉียนแล้วใช่มั้ย” เย่เทียนหยู่ถามย้ำ“ใช่!”“โอเค ถ้างั้นผมไปละ!”เย่เทียนหยู่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะมีเสน่ห์มากและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ต่อต้านการการลุกล้ำของเขาเลยด้วยซ้ำจูเก่อหลิวหลีตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขา ออกไปแล้วเหรอตัวเธอมีเสน่ห์ไม่พอเลยหรือไงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัยในความสวยของตัวเอง!เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าเธอเต็มใจ ก็คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ท่านผู้หญิงของเธอโทรมา“ท่านผู้หญิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน” จูเก่อหลิวหลีรับสายและพูดทันที“ไม่เป็นไร!”“ฉันเพิ่งรู้ว่าเทียนหยู่ได้รับพลังลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นเขาจะอยู่กับหยางเฉียนเฉียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ”ท่านผู้หญิงตอบ“พลังลมปราณซวนหมิงนั่นคืออะไรคะ” จูเก่อหลิวหลีไม่เคยรู้