เป็นอย่างนั้นจริง ๆ!หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนหยู่จะใช้ได้เหมือนกันนะเนี่ย ทำใบรับรองเกียรติยศปลอมเตรียมไว้ก่อนแล้วล่วงหน้า เพียงแต่ว่า ของแบบนี้ตรวจสอบได้ง่ายมากที่ง่ายที่สุด ก็คือสอบถามกับทางมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องโดยตรงก็ได้คำตอบชัดเจนแล้วคนอื่น ๆ สีหน้าก็ดูตกใจเช่นกัน คิดไม่ถึงว่าเย่เทียนหยู่จะกล้าทำเรื่องที่โง่เขลาแบบนี้ หลี่ซินเยว่ยิ้มแห้ง ในความเห็นของเธอนั้น เรื่องแบบนี้เย่เทียนหยู่สามารถทำมันออกมาได้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ประธานหลิวก็ได้บอกไปแล้วว่าเขาไม่มีวุฒิการศึกษาหลิวเหวินเองก็ถอนหายใจเช่นกัน ดูท่าคงจะทำอะไรไม่ได้แล้ว แต่เย่เทียนหยู่กลับยิ้มออกมาเบา ๆ และพูดว่า “ใครบอกว่าใบรับรองเกียรติยศของฉันเป็นของปลอมกัน?” “ฉันนี่แหละ!”หลี่ซิงเหอพูดจบ เขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง พร้อมกับพูดว่า “ถ้าหากว่าคุณหาประเทศอื่น เช่นที่ไหนสักแห่งในแอฟริกา แล้วเลือกมหาวิทยาลัยปลอมที่ชื่อใกล้เคียงกันฉันก็คงจะตรวจสอบได้ยาก” “แต่นี่คุณโง่มากจริง ๆ ที่ทำใบประกาศนียบัตรศาสตราจารย์กิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยเอ คุณคิดว่าพวกเราทุกคนปัญญ
หลี่ซิงเหอกวาดสายตามองรายชื่อบนนั้นอย่างรวดเร็ว และแน่นอนว่าไม่มีชื่อของเย่เทียนหยู่ในนั้น จึงพูดเยาะเย้ยขึ้น “เย่เทียนหยู่ ฉันค้นดูในนี้หมดแล้ว ทำไมถึงไม่เห็นชื่อของคุณเลยล่ะ?” “คุณยังกล้าพูดอยู่อีกเหรอว่าคุณไม่ได้ปลอมใบประกาศนียบัตรน่ะ?” “ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน ไม่มีในนั้นแล้วต้องหมายความว่าผมปลอมขึ้นงั้นเหรอ คุณได้ไปถามคณบดี หรือว่าอธิการบดีของมหาวิทยาลัยแล้วหรือยัง?” เย่เทียนหยู่ถามกลับ “ไร้สาระ!”หลี่ซิงเหอโกรธ แล้วพูดว่า “เย่เทียนหยู่ คุณต้องการให้ฉันเจาะค้นลงไปลึกมากกว่านี้จริง ๆ ใช่ไหม นี่ถือเป็นเรื่องที่ผิดต่อกฎหมาย ถึงตอนนั้น คุณจะต้องติดคุกเพียงเพราะทำการกล่าวอ้างอันเป็นเท็จนี้” “ผมไม่ได้โกหก คุณลองตรวจสอบได้ตามสบายเลย” เย่เทียนหยู่หมดคำจะพูด “ได้ คุณรนหาที่เองนะ อย่ามาหาว่าฉันไม่เกรงใจก็แล้วกัน” หลี่ซิงเหอพูดด้วยความโมโห หลินหว่านหรูทำอะไรไม่ถูกแล้ว เดิมทีเธอต้องการที่จะหยุดเขา แต่เห็นได้ชัดเลยว่าที่เย่เทียนหยู่ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อบริษัท “เย่เทียนหยู่ ถ้าหากว่าเป็นคนอื่น คงจะทำอะไรไม่ได้ แต่บังเอิญ ฉันรู้จักกับรองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเอ และก็บังเอิญมีเบอร์โ
เย่เทียนหยู่ยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ ฉันอุตส่าห์ปิดบังขนาดนี้ แต่เก็บต่อไปไม่ไหวแล้วเพราะทุกคนเอาแต่ถาม คราวนี้ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเปิดเผยความสามารถอันแข็งแกร่งที่ยอดเยี่ยมของเขาเดี๋ยวถ้าการประชุมจบลง คงจะต้องเตรียมรับคลื่นแห่งความชื่นชมจากเหล่าสาวสวย แม้แต่หว่านหรูเองก็คงจะอดไม่ได้ที่จะโผกายเข้ามาในอ้อมกอดของเขา หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว สีหน้าของหลี่ซิงเหอดูไม่ได้เลย เอาแต่จ้องไปที่เย่เทียนหยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับว่าอยากจะจับพิรุธอะไรแปลก ๆ ของเขา “เป็นยังไงล่ะ คุณหลี่ ยืนยันชัดเจนแล้วหรือยัง?”เย่เทียนหยู่ยิ้มเบา ๆ และพูดว่า “ผมบอกแล้ว ว่าประกาศนียบัตรนี้เป็นของจริง ตอนนี้คุณจะคืนมันมาให้ผมได้แล้วใช่ไหม?” “แน่นอน คุณเอาใบประกาศนียบัตรนี้ไปให้เขา”หลังจากที่หลี่ซิงเหอสั่งหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เสร็จแล้ว เขาก็เหลือบมองไปที่หลิวเหวิน และพูดว่า “แต่ในเมื่อคุณมีใบประกาศนียบัตรเช่นนี้แล้ว ทำไมถึงเต็มใจที่จะเป็นเพียงแค่พนักงานขายล่ะ?” “ถ้าฉันเดาไม่ผิด ประธานหลิวก็คงจะไม่รู้เหมือนกันสินะว่าคุณมีใบประกาศนียบัตรนี้น่ะ” “ใครว่าล่ะ ประธานหลี่ อย่าหาว่าผมสงสัยคุณเลยนะ
นอกจากหลิวเหวินแล้ว หลินหว่านหรูเองก็มีความคิดแบบนี้อยู่เหมือนกัน ทันทีที่ได้ยินข้อเสนอแนะนี้ ในใจของเธอก็รู้สึกเห็นด้วยเป็นอย่างมาก ถ้าเป็นแบบนี้ เย่เทียนหยู่ก็จะได้รับการฝึกฝนมากขึ้น ซึ่งนั่นก็จะยิ่งเป็นผลดีต่อการเอาตัวรอดของเขาในอนาคต หลี่ซินเยว่เองก็ดีใจมากเช่นกัน ถึงแม้ว่าแบบนี้จะทำให้เธอต้องสูญเสียพรสวรรค์อันทรงพลังไป และมีคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง แต่เธอก็ยังมีความสุข และก็ดีใจไปกับเย่เทียนหยู่ด้วย แต่เย่เทียนหยู่กลับตกตะลึง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะต้องมาเป็นหัวหน้าของแผนกทีมขาย นั่นไม่ได้เป็นการหาเรื่องลำบากให้ตัวเองหรอกเหรอ?มันจะไปสบายใจเท่ากับการเป็นพนักงานขายธรรมดา ๆ ได้ยังไงกันสีหน้าของหลี่ซิงเหอเองก็ไม่ค่อยพอใจเช่นกัน เจ้าเด็กนี่หักหน้าเขากี่ครั้งไม่รู้ต่อกี่ครั้ง และยังสร้างปัญหาใหญ่ให้กับเขาอีก ไม่จัดการเขาไปตอนนั้นก็ดีเท่าไรแล้ว กลับยังจะให้เขาได้ตำแหน่งที่สูงขึ้นไปอีก แต่สถานการณ์ในตอนนี้ หากว่าเขาปฏิเสธล่ะก็ จะต้องถูกกลุ่มคนวิพากษ์วิจารณ์อย่างแน่นอน ซึ่งนั่นจะส่งผลเสียต่อความน่าเกรงขามของเขา ช่างมัน งั้นก็ให้เขาเป็นหัวหน้าของแผนกทีม
“ตกลง หลังจากประชุมเสร็จ ผมจะรับตำแหน่งและเริ่มทำงานทันที ” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มหลินหว่านหรูถอนหายใจด้วยความโล่งอก และพูดว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นการประชุมวันนี้ก็จบแต่เพียงเท่านี้ ทุกคนแยกย้ายได้!”หลังจากจบประโยคนี้ การประชุมในครั้งนี้ก็สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการแต่ถึงอย่างนั้นหลินหว่านหรูก็กระซิบหลิวเหวินที่อยู่ข้าง ๆ เธอว่า “เดี๋ยวคุณให้เย่เทียนหยู่มาหาฉันที่ห้องทำงานหน่อยนะ ฉันมีเรื่องจะถามเขา” “ได้!”หลิวเหวินพยักหน้า ดูเหมือนว่าเย่เทียนหยู่คนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ เขามีความลับมากมายเลยทีเดียวไม่อย่างงั้น วันนี้ประธานหลินคงจะไม่กังวลเหมือนกับเธอ ดูท่าเธอเองก็คงจะไม่รู้เรื่องใบประกาศนียบัตรนั่นเหมือนกันหลังการประชุมสิ้นสุดลง หลี่ซินเยว่เดินไปข้าง ๆ เย่เทียนหยู่ พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้ม “เย่เทียนหยู่ ยินดีด้วยนะ จากนี้ไป คุณจะเป็นหัวหน้าของกลุ่มหนึ่งแล้ว” “ยินดีอะไรกันล่ะ ต้องทำงานหนักขึ้นโดยไม่มีเหตุผล นี่มันน่ายินดีตรงไหน”เย่เทียนหยู่ถอนหายใจ และส่ายหัวหลี่ซินเยว่กำลังคิดที่จะเถียงกลับ แต่แล้วเธอก็นึกถึงความเคารพที่ถานล่างมีต่อเย่เทียนหยู่ขึ้นมา และคิดถึงตัวต
“พี่เยว่?” “เป็นยังไงบ้าง?” “ดูสิพวกคุณแต่ละคนคร่ำเครียดกันขนาดไหน มีเย่เทียนหยู่อยู่ ยังจะกังวลว่าจะไม่ชนะอีกเหรอ?” หลี่ซินเยว่กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “นี่หมายความว่าพวกเราชนะงั้นเหรอ?” “แน่นอน!” หลี่ซินเยว่ยืนยันทุกคนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องออกมาด้วยความดีใจทันทีถึงแม้จะเดาไว้แล้วว่าน่าจะชนะ แต่การที่ได้รับผลยืนยันว่าชนะนั่นต่างหากถึงจะเรียกว่าชนะอย่างแท้จริง ในเวลานี้หลี่ซินเยว่ก็กล่าวต่อว่า “พวกคุณไม่รู้หรอกว่ามันน่าตื่นเต้นมากแค่ไหน ครั้งนี้ต้องขอบคุณเย่เทียนหยู่จริง ๆ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงแพ้ไปแล้ว” “น่าตื่นเต้น? สัญญาการซื้อขายมูลค่าสองร้อยห้าสิบล้านบาทก็ลงนามเสร็จไปแล้วไม่ใช่เหรอ แค่รอการชำระเงิน หรือว่าการชำระเงินไม่ตรงเวลา?” มีคนอดไม่ได้ที่จะถาม “ไม่ใช่อย่างนั้น!”หลี่ซินเยว่รีบเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในห้องประชุมคร่าว ๆ ทันทีทุกคนที่ได้ยิน ต่างก็คิดไม่ถึงว่าภายในระยะเวลาสั้น ๆ จะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายขนาดนี้ แถมยังเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก โดยประเด็นสำคัญทั้งหมดไม่ได้พ้นไปจากเย่เทียนหยู่เลย หลังจากที่ได้รู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของเย่เทียนหยู
“ประธานหลิว!” “ประธานหลิว...”เมื่อทุกคนได้ยินเสียง ก็ตกใจ จึงรีบเอ่ยชื่อเธอเพื่อแสดงความเคารพ จากนั้นก็พากันกลับไปนั่งที่นั่งของตัวเอง เว้นแต่เย่เทียนหยู่ที่ดูสบาย ๆ ทำตัวเหมือนกับว่าคนที่มาไม่ใช่หัวหน้ายังไงอย่างงั้น หลี่ซินเยว่รีบพูดขึ้น “ประธานหลิว คุณมีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ?” “ไม่มีอะไร ฉันมาหาเขา!”หลิวเหวินพูดกับเย่เทียนหยู่โดยตรงทันที “เย่เทียนหยู่ คุณมานี่หน่อยสิ”เย่เทียนหยู่ชะงักไปครู่หนึ่ง โถ่เอ๊ย ทำไมถึงไม่ให้คนเขาได้พักผ่อนสักหน่อยนะ อยู่ต่อหน้าทุกคน คงจะไม่ดีถ้าเขาไม่ไว้หน้าเธอ ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นและเดินตามเธอไป “ประธานหลิว มีอะไรหรือเปล่าครับ?” “ทำไม ไม่มีอะไรแล้วจะมาหาคุณไม่ได้อย่างงั้นเหรอ?” หลิวเหวินพูดอย่างเซง ๆ ถึงยังไงเธอก็เป็นผู้อำนวยการฝ่ายขาย แถมยังเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในบริษัทนี้อีกด้วยทำไมเย่เทียนหยู่จึงดูเหมือนว่าไม่อยากจะอยู่ใกล้กับเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียวถ้าเป็นเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่เกรงกลัวเจ้านายก็ว่าไปอย่าง แต่เห็นได้ชัดว่าเขา ชอบทำตัวยียวนกวนประสาทเธอ ไม่ได้มีความเกรงกลัวต่อเธอเลยสักนิด พูดง่าย ๆ ก็คือ เขาแค่ไม่อยากจะอยู่กับเธ
หลินหว่านหรูรู้สึกอยู่ในใจเสมอว่า เย่เทียนหยู่เป็นเหมือนดั่งคนป่าลงมาจากภูเขา และไม่ได้รับการศึกษาจากมหาลัยมาก่อนแม้จะมีความสามารถอยู่บ้าง โดยเฉพาะทักษะกังฟูที่ดีเยี่ยม แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังมีข้อจำกัดมากเกินไป ไม่มีการศึกษาหรือการบ่มเพาะกิริยามารยาทต่างๆ อย่างลึกซึ้งแต่หลังจากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาในวันนี้ มันจึงทำให้เธอสับสนเป็นธรรมดา แม้ว่าในใจจะคิดว่าใบรับรองนั้นเป็นของปลอม ยังไงเสียก็ต้องถามให้ชัดเจนอยู่ดีเย่เทียนหยู่หัวเราะเหอะๆ แล้วตอบกลับไปว่า "สิ่งที่คุณไม่รู้ยังมีอีกมากนะ"เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลินหว่านหรูก็โกรธเป็นอย่างมาก พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "ฟังคำพูดของคุณแบบนี้แล้ว หรือคุณยังมีเหตุผลอยู่?""เออ มีนิดหน่อยน่ะ""พอได้แล้ว อย่ามาล้อเล่นกับฉันนะ! ฉันถามคุณหน่อยนะว่า ใบรับรองนั่นมันคืออะไร?" หลินหว่านหรูชักเข้าประเด็นในทันที"อะไร ยังไง?""ฉันถามคุณว่า คุณไปเอาใบรับรองนั่นมาจากไหน แล้วยังได้รับการอนุมัติจากรองประธานมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดอีก นี่ใช่ไหมคุณถึงได้หลอกหลี่ว์ซิงเหอได้สำเร็จ"หลินหว่านหรูลงความเห็นแล้วว่า ใบรับรองนั่นจะต้องปลอมอย่างแน่นอน"ใครบอกคุณ