“ประธานหลิว!” “ประธานหลิว...”เมื่อทุกคนได้ยินเสียง ก็ตกใจ จึงรีบเอ่ยชื่อเธอเพื่อแสดงความเคารพ จากนั้นก็พากันกลับไปนั่งที่นั่งของตัวเอง เว้นแต่เย่เทียนหยู่ที่ดูสบาย ๆ ทำตัวเหมือนกับว่าคนที่มาไม่ใช่หัวหน้ายังไงอย่างงั้น หลี่ซินเยว่รีบพูดขึ้น “ประธานหลิว คุณมีเรื่องอะไรให้ฉันช่วยไหมคะ?” “ไม่มีอะไร ฉันมาหาเขา!”หลิวเหวินพูดกับเย่เทียนหยู่โดยตรงทันที “เย่เทียนหยู่ คุณมานี่หน่อยสิ”เย่เทียนหยู่ชะงักไปครู่หนึ่ง โถ่เอ๊ย ทำไมถึงไม่ให้คนเขาได้พักผ่อนสักหน่อยนะ อยู่ต่อหน้าทุกคน คงจะไม่ดีถ้าเขาไม่ไว้หน้าเธอ ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นและเดินตามเธอไป “ประธานหลิว มีอะไรหรือเปล่าครับ?” “ทำไม ไม่มีอะไรแล้วจะมาหาคุณไม่ได้อย่างงั้นเหรอ?” หลิวเหวินพูดอย่างเซง ๆ ถึงยังไงเธอก็เป็นผู้อำนวยการฝ่ายขาย แถมยังเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในบริษัทนี้อีกด้วยทำไมเย่เทียนหยู่จึงดูเหมือนว่าไม่อยากจะอยู่ใกล้กับเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียวถ้าเป็นเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่เกรงกลัวเจ้านายก็ว่าไปอย่าง แต่เห็นได้ชัดว่าเขา ชอบทำตัวยียวนกวนประสาทเธอ ไม่ได้มีความเกรงกลัวต่อเธอเลยสักนิด พูดง่าย ๆ ก็คือ เขาแค่ไม่อยากจะอยู่กับเธ
หลินหว่านหรูรู้สึกอยู่ในใจเสมอว่า เย่เทียนหยู่เป็นเหมือนดั่งคนป่าลงมาจากภูเขา และไม่ได้รับการศึกษาจากมหาลัยมาก่อนแม้จะมีความสามารถอยู่บ้าง โดยเฉพาะทักษะกังฟูที่ดีเยี่ยม แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยังมีข้อจำกัดมากเกินไป ไม่มีการศึกษาหรือการบ่มเพาะกิริยามารยาทต่างๆ อย่างลึกซึ้งแต่หลังจากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาในวันนี้ มันจึงทำให้เธอสับสนเป็นธรรมดา แม้ว่าในใจจะคิดว่าใบรับรองนั้นเป็นของปลอม ยังไงเสียก็ต้องถามให้ชัดเจนอยู่ดีเย่เทียนหยู่หัวเราะเหอะๆ แล้วตอบกลับไปว่า "สิ่งที่คุณไม่รู้ยังมีอีกมากนะ"เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลินหว่านหรูก็โกรธเป็นอย่างมาก พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า "ฟังคำพูดของคุณแบบนี้แล้ว หรือคุณยังมีเหตุผลอยู่?""เออ มีนิดหน่อยน่ะ""พอได้แล้ว อย่ามาล้อเล่นกับฉันนะ! ฉันถามคุณหน่อยนะว่า ใบรับรองนั่นมันคืออะไร?" หลินหว่านหรูชักเข้าประเด็นในทันที"อะไร ยังไง?""ฉันถามคุณว่า คุณไปเอาใบรับรองนั่นมาจากไหน แล้วยังได้รับการอนุมัติจากรองประธานมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดอีก นี่ใช่ไหมคุณถึงได้หลอกหลี่ว์ซิงเหอได้สำเร็จ"หลินหว่านหรูลงความเห็นแล้วว่า ใบรับรองนั่นจะต้องปลอมอย่างแน่นอน"ใครบอกคุณ
"ใช่ ภรรยาของผมสั่งสอนถูกต้อง!""ใครเป็นภรรยาของคุณ?"ไม่รู้ว่าทำไม สำหรับคำเรียกของเขาแบบนี้ หลินหว่านหรูดูเหมือนจะไม่โกรธเคืองเหมือนแต่ก่อนแล้ว ก่อนหน้านี้แค่ได้ยิน เธอก็โกรธจัดจนแทบจะชกหน้าอีกฝ่ายไปเสียแล้วแต่ตอนนี้กลับมีบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้"ก็ต้องเป็นคุณอยู่แล้ว" เย่เทียนหยู่รู้สึกได้ว่าช่วงนี้ตัวเองดูผ่อนคลายลงไปเรื่อยๆ ไม่ได้ตึงเครียดเหมือนก่อนหน้านี้แต่อย่างใดแล้ว"คุณอย่าลืมนะว่าพวกเรา...""ผมรู้ คุณไม่ต้องพูดอยู่ตลอดทุกวี่ทุกวันหรอก นี่มันยังไม่ถึงเวลาไม่ใช่เหรอ?" เย่เทียนหยู่ยิ้มๆ แล้วถามขึ้นมาว่า "หลี่ว์ซิงเหออะไรนั่นจะมากเกินไปแล้ว คุณคิดที่จะจัดการเขาหรือเปล่า?"หลินหวานหรูชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า "คิดน่ะคิดอยู่แล้ว แต่มันยากเหลือเกิน! รากฐานของตระกูลหลี่ว์ เมื่ออยู่ในบริษัทเป็นรองแค่ตระกูลหลินของเราเอง และหลี่ว์ซิงเหอนั้นก็มีความสามารถอีกต่างหาก ไม่ได้จัดการง่ายๆ ขนาดนั้นหรอกนะ""แค่คุณมีความคิดก็พอแล้ว ที่เหลือไว้เป็นหน้าที่ของผมเอง ใช้เวลาไม่นานหรอก ผมจะให้เขาไสหัวออกจากบริษัทไปด้วยตัวเอง"เย่เทียนหยู่ยิ้มๆ และลุกเดินออกไปหลินหว
"ใช่ ถ้าเขาทำตัวดีๆ ก็ยังพอพูดง่าย ไม่อย่างนั้นแล้ว เขาจะต้องไสหัวออกไปจากบริษัทแน่นอน"พวกเขาแต่ละคนเป็นพนักงานขายดีเด่นทั้งนั้น เพื่อบริษัทแล้วพวกเขาทุ่มเทไปไม่ใช่น้อย และแข็งแกร่งกว่ากลุ่มสองมากหากไม่ใช่เพราะหลี่ซินเยว่ได้ทุ่มเททำงานหนัก ประกอบกับมีหลิวเหวินสนับสนุนอยู่เบื้องหลังแบบนั้น ความแข็งแกร่งของกลุ่มสองคงจะด้อยกว่ากลุ่มหนึ่งเป็นอย่างมากใบหน้าของจางเหยียนเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ เมื่อมีพี่หรงชี้แนะอยู่เบื้องหลังประกอบกับการสนับสนุนของทุกคนแบบนี้แล้ว สำหรับตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มหนึ่ง เย่เทียนหยู่อย่าได้คิดฝันไปเลยขอแค่เธอจัดการเพียงเล็กน้อย ยอดขายของทุกคนก็จะตกต่ำลง ไม่จำเป็นที่จะจัดการกับเขาแต่อย่างใดพูดยังไม่ทันขาดคำ!ในเวลาเดียวกันนี้ เย่เทียนหยู่ก็ได้พาหลิวสุ่ยเดินเข้ามาและข้างๆ ตัวเขา ยังมีสาวสายคนหนึ่ง ซึ่งก็คือผู้ช่วยของหลิวเหวินนั่นเองอันที่จริง หลิวเหวินตั้งใจที่จะพาเขาเข้ามาด้วยตัวเองเพื่อเป็นฐานที่มั่นแก่เขา แต่ใครเขาไม่อยากจะพบเธอเสียด้วยซ้ำ เธอก็เลยไม่อยากจะทำให้ตัวเองเสียศักดิ์ศรีไปมากกว่านี้ซึ่งการจัดให้มีผู้ชายนำทางมานั้น ก็ถือว่าเธอมีน้ำใจมากที่ส
แม้ว่าห้องทำงานจะไม่ใหญ่ แต่จำนวนของพวกเขาก็ไม่ได้เยอะ จึงดูเหมือนจะแออัดอยู่เล็กน้อยเท่านั้น"โอเค ทุกคนมาพร้อมหน้ากันหรือยัง?" เย่เทียนหยู่ถามขึ้นมาแต่น่าเสียดายที่ว่า ไม่มีใครตอบกลับแต่อย่างใดแต่เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้รู้สึกลำบากใจอะไร เพียงแต่พูดอย่างเรียบๆ ว่า "ในเมื่อไม่มีใครคัดค้าน งั้นก็ครบแล้วล่ะ ต่อไป รบกวนพวกคุณแนะนำตัวกันทีละคน ให้ผมได้เข้าใจพวกคุณสักหน่อย""ผมถูกชะตากับคุณที่สุด งั้นก็เริ่มจากคุณก็แล้วกันนะ"ขณะที่พูด เย่เทียนหยู่ก็ชี้ไปยังหลิวซือซือที่อยู่ด้านซ้าย แล้วพูดขึ้นมา หลิวซือซือชะงักไปเล็กน้อย และไม่ได้ดีใจเพราะคำพูดเหล่านี้ แต่กลับก่นด่าในใจว่าคนลามกเสียต่างหาก "ฉันชื่อหลิวซือซือ!""จบแล้ว?""จบแล้ว!" หลิวซือซือตอบกลับมาอย่างเย็นชา"คนต่อไป!" เย่เทียนหยู่ไม่ได้ถือสาแต่อย่างใดและทุกคนก็เลียนแบบไปในทางเดียวกัน แค่แนะนำชื่อของตัวเอง และไม่ได้พูดอะไรที่มากไปกว่านั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเฉินฮุยที่จงใจหันหน้าไปทางอื่นพร้อมกับพูดชื่อของตัวเอง แสดงอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ไว้หน้าเมื่อเห็นว่าทุกคนไม่เห็นเย่เทียนหยู่อยู่ในสายตา หลิวสุ่ยก็รู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก แ
"ฮ่าฮ่า!""คุณรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่ รู้หรือเปล่าว่าผมทำยอดขายให้บริษัทได้มากแค่ไหนในแต่ละเดือน?"เฉินฮุยหัวเราะเสียงดังออกมาด้วยใบหน้าที่เหยียดหยามหากเขาทำเรื่องผิดพลาดอะไรที่ร้ายแรงขึ้นมา บริษัทอาจจะสามารถไล่เขาออกได้ แต่ทว่าในตอนนี้ เขาแค่โต้ตอบหัวหน้ากลุ่มไปแค่ประโยคเดียวเอง มีสิทธิ์อะไรมาไล่เขาออก?ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาจะมีคนสนับสนุนหรือไม่ ต่อให้เขาไม่มี เย่เทียนหยู่ก็จะไล่เขาออกแบบนี้ไม่ได้อยู่ดีต่อให้จะเป็นท่านประธานหลินที่มา เขาก็กล้าที่จะคัดง้างด้วยเหตุผลเช่นกันแต่เย่เทียนหยู่กลับส่ายหน้าไปมา แล้วพูดอย่างเรียบเฉยว่า "ผมไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องพวกนี้หรอก ผมแค่รู้ว่า คุณไม่ยอมทำตามคำสั่งผม งั้นก็ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ""ผมไม่ไปเสียอย่าง แล้วคุณจะทำอะไรได้?"เฉินฮุยหัวเราะเยาะ กระทั่งเขาไม่จำเป็นต้องยกเอาคนสนับสนุนออกมาเสียด้วยซ้ำ"ก็ได้ งั้นเรามาพูดถึงผลงานที่คุณได้ทำเอาไว้ในก่อนหน้านี้จะดีกว่านะ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมปีที่แล้ว คุณพยายามอย่างเต็มที่ที่จะขายสินค้าราคาต่ำที่สุดให้กับซุ่นเฉิง โดยได้รับเงินใต้โต๊ะจำนวนล้านห้า""วันที่ 10 ธันวาคม คุณ... วันนี้ วันท
โดยครั้งนี้หลิวซือซือไม่ได้พูดอะไรเลย เห็นได้ชัดว่าเธอตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก"ยอมรับก็ดีแล้ว งั้นต่อไปผมแจ้งกฎข้อกำหนดเลยก็แล้วกันนะ""อย่างแรก แม้ว่าผมจะเป็นหัวหน้าของพวกคุณ แต่ผมไม่มีเวลาควบคุมดูแลพวกคุณ ดังนั้น จากนี้เป็นต้นไป หลิวสุ่ยจะรับหน้าที่ดูแลควบคุมพวกคุณแทนผม""คำพูดของเขา ก็คือคำพูดของผม เข้าใจกันนะ?"เย่เทียนหยู่พูดอย่างสบายๆ ว่าเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้ว หลิวสุ่ยก็ตะลึงงันไปทันที เขาขยับริมฝีปากเล็กน้อย เหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมาแต่กลับถูกเย่เทียนหยู่ขัดจังหวะเสียก่อน แล้วพูดว่า "ไม่ใช่ว่าคุณไม่เข้าใจการขายสักหน่อย คุณทำงานเต็มที่ก็โอเคแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรหรอก มีผมสนับสนุนอยู่แล้วนะ""ครับ หัวหน้าเย่ ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ" หลิวสุ่ยพูดด้วยสายตาที่แน่วแน่ เขาสำเร็จการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยหลักชื่อดัง เพียงแต่ไม่มีประสบการณ์การทำงานเท่านั้น ประกอบกับนิสัยที่ขี้อาย ก็เลยไม่ได้มีโอกาสแสดงความสามารถอะไรออกมา"เอาล่ะ พวกคุณมีความคิดเห็นอะไรหรือเปล่า?""ไม่มีค่ะ!"ทุกคนต่างก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างเชื่อฟัง แต่ในใจเห็นได้ชัดว่ามีความคิดเห็นอะไรบางอย่างอยู่พวกเ
อะไรนะ เมื่อคำพูดนี้ได้โพล่งออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน และไม่กล้าเชื่อหูของตัวเองเสียด้วยซ้ำ"หัวหน้าเย่คะ คุณกำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า?"จางเหยียนอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็จับจ้องมาที่เย่เทียนหยู่อย่างไม่กะพริบเช่นกัน เพราะมันเกินความคาดหมายเกินไปเพราะท้ายที่สุดแล้วในฐานะหัวหน้ากลุ่ม ค่าคอมมิชชันนั้นไม่น้อยเลย โดยเฉพาะหัวหน้ากลุ่มที่มีหน้าที่รับผิดชอบเท่ากับผู้จัดการแบบนี้และพวกเขาก็ถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเพื่อการแข่งขันเงินจำนวนมากขนาดนี้ หากดึงออกไป เขาจะหากำไรจากไหน อาศัยแค่เงินเดือนขั้นพื้นฐานน่ะเหรอ?"คุณคิดว่ายังไงล่ะ?""ในเมื่อฉันพูดแบบนี้แล้ว ฉันก็ต้องทำได้อยู่แล้ว!" เย่เทียนหยู่พูดอย่างสบายๆ ออกมา"แล้วเงินเดือนของคุณล่ะ?""เงินแค่นิดเดียวแบบนั้น ฉันยังดูแคลนเลยนะ!""แต่โบนัสนี้ จะถูกแบ่งให้กับทุกคนเท่าๆ กัน!""แบ่งเท่าๆ กัน?"จางเหยียนตกตะลึง นี่มันเป็นการเหมารวมชัดๆ มันไม่สมเหตุสมผลเลย มันไม่ควรจัดลำดับการแข่งขัน เพื่อให้ทุกคนพยายามทำยอดหรอกเหรอ?"ถูกต้อง ผมรู้ว่าบางคนอาจจะไม่เข้าใจ แต่เราเป็นทีมเดียวกัน พวกเราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกั