รถม้าจากพระราชวังเคลื่อนตัวเข้ามาในคฤหาสน์อาโมรี และเมื่อรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของอลาโน ข้าหลวงก็เดินออกมาพร้อมกับถือจดหมายในมือเพื่อส่งมอบให้ท่านแกรนด์ดยุคแห่งอาโมรี
อลาโนมิได้ลุกขึ้นไปรับบัตรเชิญที่ถูกส่งมาจากองค์รัชทายาท เขายกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่มเงียบๆ พร้อมกับปรายตามองหน้าของข้าหลวงผู้นั้น “ท่านแกรนด์ดยุค องค์รัชทายาทมีพระประสงค์ที่จะให้ท่านหญิงอาโมรีเป็นคู่ควงในการเข้าร่วมงานเลี้ยงที่ตระกูลบาทาซาร์ในวันนี้ครับ” อลาโลขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำกล่าวของข้าหลวงประจำพระองค์ขององค์รัชทายาท “เรื่องนั้นข้าไม่ขอตอบตกลงหรือว่าจะรับจดหมายเชิญนั่นไว้ หากนาทาเลียจะไปที่งานเลี้ยงของตระกูลบาทาซาร์จริงๆ มันจะต้องมาจากความต้องการของนางเอง ใครหน้าไหนก็มาบังคับหรือว่าสั่งน้องสาวของข้าไม่ได้อย่างเด็ดขาด" ข้าหลวงยกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่ไหลซึมมาที่ใบหน้า เขาก้มหน้าลงเล็กน้อยเพื่อเป็นการทำความเคารพท่านแกรนด์ดยุคอาโมรี มีข่าวลือหนาหูทีเดียวว่าที่ท่านแกรนด์ดยุคยังไม่แต่งงานและยังครองโสดมาจนถึงทุกวันนี้เป็นเพราะว่าท่านแกรนด์ดยุคทรงรักและหวงน้องสาวเป็นอย่างมาก จึงอยากจะอยู่ตามใจน้องสาวก่อนเพราะเมื่อใดก็ตามที่ท่านแต่งงาน ท่านแกรนด์ดยุคหวาดกลัวว่าจะไม่มีเวลาให้ท่านหญิงนาทาเลีย ดูเหมือนว่าข่าวลือเหล่านั้นจะเป็นเรื่องจริงซะแล้วละสิ “เช่นนั้น..ท่านแกรนด์ดยุคได้โปรดเมตตาให้ข้าน้อยได้ส่งจดหมายเชิญฉบับนี้ให้แก่ท่านหญิงด้วยเถิด” อลาโนปรายตามองหน้าของพ่อบ้านแกสทอน “แกสทอนพาข้าหลวงผู้นี้ไปส่งจดหมายเชิญให้นาทาเลียหน่อยสิ หากว่านางปฏิเสธเจ้าก็ควรจะรามือในทันทีเข้าใจหรือไม่ข้าหลวง?” ข้าหลวงก้มหน้าลงอีกครั้งเพื่อเป็นการกล่าวขอบคุณ “รับทราบครับท่านแกรนด์ดยุค” แกสทอนขยับแว่นตาเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาหาท่านข้าหลวงที่กำลังยืนเหงื่อแตกอยู่ “เชิญตามข้ามาทางนี้ครับ” เขาเดินนำข้าหลวงท่านนั้นมายังคฤหาสน์ด้านข้างซึ่งเป็นคฤหาสน์ของท่านนาทาเลีย เขาเองก็ไม่ได้พบหน้าของท่านหญิงมาแรมเดือนแล้ว ท่านหญิงคนงามไม่ก้าวเท้าออกมาจากห้องนอนเลยในช่วงเวลาที่ผ่านมา เขาไถ่ถามกับอีฟก็พบว่านางสบายดี ไม่ได้เจ็บป่วยตรงไหน แค่นางอยากจะใช้เวลาอยู่กับตัวเองเท่านั้น คงไม่ใช่เพราะเรื่องในคืนนั้นหรอกใช่ไหม? “ท่านหญิงครับท่านข้าหลวงนำจดหมายเชิญมาให้ท่าน ให้ข้าเข้าไปด้านในได้หรือไม่..?” เขาเคาะประตูหน้าคฤหาสน์ของนาทาเลีย แม้แต่ประตูด้านหน้าคฤหาสน์ของนางก็ยังปิดเงียบไม่รับแขก “ท่านพ่อบ้านรอสักครู่นะคะ ข้าจะไปรายงานท่านหญิงให้” อีฟแง้มประตูออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้แกสทอน สาวใช้ร่างท้วมยกชายกระโปรงขึ้นมาก่อนจะวิ่งขึ้นบันไดไปทางด้านบน “ท่านหญิงคะ ท่านพ่อบ้านมาขอพบ เขาพาข้าหลวงผู้นำจดหมายเชิญไปร่วมงานเลี้ยงมาให้ท่านให้ฐานะคู่ควงขององค์รัชทายาทมาให้ท่านด้วยค่ะ” นาทาเลียที่กำลังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงถึงกับชะงักในทันทีเมื่ออีฟกล่าวจบ ว่าไงนะ? องค์รัชทายาทโอเวนที่เกลียดชังนาทาเลียนักหนากลับส่งบัตรเชิญมาให้เธอเพื่อให้เธอเป็นคู่ควงของเขาในคืนนี้อย่างนั้นหรือ? นี่เธอฝันกลางวันอยู่รึไง หรือว่าหมอนั่นจะมีแผนการอะไรในใจที่จะทำให้เธออับอาย เอาตรงๆ ความสัมพันธ์ของนาทาเลียและโอเวนมันไม่สามารถที่จะญาติดีกันได้หรอก เขาเกลียดเธอแล้วอยู่ๆ กลับส่งจดหมายเพื่อให้เธอไปเป็นคู่ควงของเขา ไม่ว่าจะมองทางไหน ดูอย่างไรมันก็แปลกอยู่ดี นาทาเลียชั่งใจอยู่พักหนึ่ง “ไปตามพวกเขาเข้ามา แล้วก็แต่งตัวให้ข้าที” อีฟเดินไปที่ด้านหน้าประตูห้องนอนของท่านหญิงเพื่อบอกกล่าวสาวใช้ที่ยืนรออยู่ด้านนอกให้ไปเรียนเชิญท่านพ่อบ้านและท่านข้าหลวงเข้ามา ส่วนอีฟ สาวใช้ร่างท้วมจัดการสวมเสื้อผ้าชุดใหม่และแต่งแต้มชาดและแป้งลงไปบนใบหน้างามล้ำของท่านหญิง “ข้าคิดว่าเจ้าควรจะเร่งมือ..” การปล่อยให้อีกฝ่ายรอนานไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไหร่ แถมพวกเขายังมานั่งรอเธอที่กำลังแต่งตัวอยู่อีก “ท่านหญิง..กฎของชนชั้นสูงระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่าในยามที่ท่านจะลงไปพบเจอบุรุษหรือว่าใครก็ตามที่เข้ามาหาโดยไม่ส่งบัตรเชิญมาแจ้งล่วงหน้า ท่านจะต้องใช้เวลาในการแต่งตัวราวหนึ่งถึงสองชั่วโมงค่ะ นั่นก็เพื่อทำให้พวกเขาตระหนักได้ว่าการมาหาโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าคือการกระทำที่ไม่สมควรทำ..” มีกฎอะไรแบบนี้ด้วยเรอะ!! สุดท้ายนาทาเลียก็ยินยอมเงียบเพื่อให้อีฟได้จัดการแต่งแต้มชาดลงไปบนใบหน้าของเธอ หลังจากรออยู่นาน ประตูห้องชั้นสองก็เปิดออกมา ใบหน้าหวานของโฉมงามที่อยู่ในความฝันของแกสทอนทุกคืนก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็น เขาลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจและเมื่อเห็นพ่อบ้านลุกขึ้นยืนข้าหลวงผู้นั้นก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกันในทันที “ไม่ว่าจะเห็นสักกี่ครั้ง ความงามที่ล้ำเลิศนั่นยอมไม่อาจทำใจให้ชินได้เลยนะครับท่านพ่อบ้าน” แกสทอนส่งยิ้มให้กับคำกล่าวของท่านข้าหลวง เขาเห็นด้วยกับคำกล่าวนั้นนะ เพราะถึงแม่ว่าเขาจะเห็นใบหน้านั้นนับครั้งไม่ถ้วนแต่ก็รู้สึกประทับใจในทุกครั้งที่ได้เห็น “ท่านหญิงอาโมรี นี่คือบัตรเชิญขององค์รัชทายาทครับ เพื่อเรียนเชิญท่านหญิงไปเป็นคู่ควงขององค์รัชทายาทในคืนนี้” สาบานได้เลยว่าเธอกำลังยิ้มแบบไหนออกไปนาทาเลียเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน เพราะเธอยังไม่อาจทำสีหน้าให้ปกติได้ในยามที่พบเจอกับแกสทอน ภาพในวันนั้นยังฉายชัดอยู่ในหัวและในสายตาของเธอถึงแม้ว่าเขาจะยังสวมใส่เสื้อผ้าครบถ้วนทุกชิ้นแต่มันเหมือนกับว่าเธอกำลังเห็นเขายืนแก้ผ้าต่อหน้าของเธอ นี่มัน..อันตรายเกินไปแล้ว ในหัวของเธอมีแต่เรื่องลามกเช่นนี้รึไงกัน!! “ขอบอกตามตรงว่าข้าคงจะต้องปฏิเสธ เพราะในคืนนี้ข้ามีนัดไปที่งานเลี้ยงนี้กับผู้อื่นแล้วค่ะ ฝากบอกองค์รัชทายาทด้วยว่าเอาไว้..เจอกันในงานนะคะ” คำกล่าวของนาทาเลียทำให้ข้าหลวงผู้นั้นแทบจะไม่เชื่อหูของตัวเอง วันนี้มีเรื่องราวมากมายที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองใกล้จะไปพบท่านเทพแห่งความตายแล้ว ตั้งแต่องค์รัชทายาทผู้ไม่เคยชายตามองท่านหญิงนาทาเลียแต่กลับส่งบัตรเชิญเลือกให้ท่านหญิงไปเป็นคู่ควรในคืนนี้ให้ ส่วนท่านหญิงนาทาเลียที่วิ่งตามองค์รัชทายาทมาโดยตลอด กลับปฏิเสธการเป็นคู่ควงขององค์รัชทายาทซะอย่างนั้น นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?เมื่อข้าหลวงเดินทางออกไปจากคฤหาสน์ของนาทาเลียพร้อมกับจดหมายเชิญในมือของเขาแล้ว ในคฤหาสน์ที่แสนหรูหราของนาทาเลียก็เหลือเพียงแค่เธอและพ่อบ้านแกสทอนที่กำลังนั่งมองหน้ากันอยู่นาทาเลียคิดว่าบรรยากาศระหว่างเรามันค่อนข้าง..ตึงเครียดไปนิด เพราะอย่างนั้นเธอจึงเลือกที่จะลุกขึ้นแล้วเดินกลับไปที่ห้องนอน โดยไม่กล่าวคำใดกับแกสทอนเลยทว่าเขากลับเดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับจับมือของนาทาเลียเอาไว้“ท่านหญิงจะเดินจากข้าไปเช่นนี้..ไม่ได้นะครับ”เธอหันหน้ากลับมามองหน้าเขาโดยที่หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก“ทำไมข้าจะเดินจากท่านไปไม่ได้ แกสทอน..ข้าคือท่านหญิงแห่งอาโมรี และคือเจ้านายคนหนึ่งของเจ้าด้วย”แกสทอนปรายตามองไปรอบๆ คฤหาสน์ของนาทาเลียเมื่อเขาไม่เห็นสาวใช้สักคนเดินผ่านมา แกสทอนก็อุ้มนาทาเลียขึ้นแล้วพาเธอเดินขึ้นไปยังชั้นบนซึ่งเป็นห้องนอนของนาทาเลีย“แกสทอน!!”เธอเรียกชื่อของเขาด้วยความตกใจ แน่นอนมันคือความไม่ทันได้ตั้งตัวของนาทาเลีย เพราะเธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าอุ้มเธอแล้วเดินขึ้นไปยังห้องนอนของเธอเพราะอย่างนั้นนาทาเลียในยามนี้กำลัง..ตกใจจนแทบเสียสติเลยแกสทอนพาท่านหญิงของเขาเข้ามาในห้องนอนของเธอที่มีอ
เมื่อได้ยินคำกล่าวของนาทาเลียอยู่ๆ หูของแกสทอนก็ร้อนขึ้นมา ส่วนนาทาเลียเมื่อได้ยินว่าเขาเพียงแค่อยากจะโอบกอดเธอในขณะที่เธออยากเปลื้องผ้าของเขาเธอก็กัดริมฝีปากเบาๆ ด้วยความเขินอายแกสทอนยกมือขึ้นมาโอบกอดท่านหญิงนาทาเลียของเขาเอาไว้ในอ้อมแขน เธอซุกหน้าอยู่กับอกของเขาด้วยความเขินอาย“สารภาพตามตรงว่าข้าอยากจะทำมากกว่าการกอด แต่การพูดออกไปตรงๆ นั้นช่างยากยิ่งนัก เพราะอย่างนั้นการที่ท่านหญิงกล่าวออกมาอย่างตรงมาตรงไปเช่นนี้นับว่าท่านเป็นคนกล้าหาญยิ่งแล้ว”นั่นคือคำชมใช่ไหม? เธอจะพยายามคิดว่านั่นคือคำชมก็แล้วกัน“ท่านหญิง หัวใจของข้ามันสั่นไหวทุกครั้งที่ท่านเรียกชื่อข้าและช่วงนี้ดูเหมือนว่ามันจะสั่นไหวมากกว่าปกติเพราะท่านไม่ได้ทำให้ข้าคำนึงถึงท่านเพียงแค่ในยามตื่น แต่ในยามที่ข้านอนหลับท่านยังเข้ามาในความฝันของข้าเพื่อเน้นย้ำให้ข้าหลงใหลท่าน..ท่านโหดร้ายเกินไปหน่อยหากว่าจะนับกันในตรงนี้”นาทาเลียเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของแกสทอน เขากำลังก้มมองหน้าเธอผ่านเลนของแว่นตาที่เขาสวมอยู่“ข้านึกว่ามีแค่ข้าที่เห็นเจ้าเพียงผู้เดียว..”แกสทอนเลิกคิ้วมองหน้าของนาทาเลีย เขาค่อนข้างสนใจในคำกล่าวของเธอมากทีเดีย
ความนุ่มนวลและความร้อนของผิวกายเอาเปลือยเปล่าที่ได้สัมผัสกันครั้งแรกปลุกเร้าความรู้สึกซาบซ่านขึ้นมานาทาเลียมองสบตาของแกสทอนในยามที่เขากำลังจุมพิตลงไปบนขาอ่อนคู่งามของเธอด้วยท่าทางที่ร้อนแรงในแบบที่เธออยากจะจดจำท่าทีเช่นนั้นของเขาเอาไว้ในนานเท่าที่จะนานได้เขาจุมพิตลงไปบนรอยแยกกลางกายผ่านทางกางเกงซับในตัวบางที่ยังไม่ได้ถอดออกจากเรียวขาของเธอเลย“อ่า..แกสทอน”ปลายลิ้นของเขาปาดเลียลงไปบนกางเกงซับในสีขาวตัวบางจนมันเปียกชุ่มและแนบลงไปบนส่วนนั้นของเธอจนมองเห็นชัดเป็นรูปเป็นร่างรวมไปถึงมองเห็นปุ่มกระสันที่นูนขึ้นมาได้ชัดเจนมากกว่าสิ่งอื่นใด ปลายลิ้นร้อนไล้ไปตามส่วนที่นูนขึ้นมาและเมื่อปลายลิ้นของเขาแตะลงไปบนนั้นด้วยความจงใจ นาทาเลียก็แอ่นสะโพกขึ้นมาจากเตียงในทันทีใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ เรือนผมสีเงินที่ส่องประกายของเธอกระทบกับแสงของดวงตะวันจนมันสะท้อนแสงออกมาได้อย่างสวยงามและโดดเด่นที่สุดในสายตาของแกสทอน อันที่จริงนาทาเลียโดดเด่นอยู่แล้วในยามที่เธออยู่บนเตียงในสภาพเช่นนี้ ภาพเบื้องหน้าคล้ายเป็นปฏิมากรรมอะไรสักอย่างที่ทั้งล้ำค่าและสวยงามในช่วงเวลาเดียว เธอทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองแสนโชค
เธอครอบครองเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดหลังจากนั้นก็ถอยร่นออกมาเป็นจังหวะ นาทาเลียระมัดระวังไม่ให้ฟันขบ ในขณะที่ริมฝีปากกำลังทำหน้าที่เธอไล้ปลายลิ้นโลมเลียไปตามส่วนปลายซึ่งอ่อนไหวมากที่สุด ก่อนที่แกสทอนจะผลักเธอเบาๆนาทาเลียจ้องมองส่วนนั้นที่แวววาวด้วยน้ำลายของเธอ และกว่าเธอจะรู้ตัวเขาก็ขึ้นมาบนเตียงกับเธอแล้วเธอล้มตัวนอนลงในขณะที่เขายกขาของเธอขึ้นไปฟาดเอาไว้บนบ่า“ท่านทำให้ข้าแทบคลั่งเลยท่านหญิง..”ความเป็นชายร้อนผ่าวของเขาค่อยๆ แทรกเข้ามาด้านในอย่างช้าๆ ทีละนิดตามจังหวะของลมหายใจ“อ่า..อื้อ”ส่วนที่เชื่อมโยงกำลังบีบรัดกันอย่างเร่าร้อนไม่แพ้อุณหภูมิของร่างกายที่พุ่งสูงขึ้นมา ในอกสะท้านวาบกับการกระทั้นกายเข้าออกโดยไม่ยั้งแรงใดๆ แกสทอนไม่ได้มีความอดทนมากมายที่จะรอคอยให้ส่วนนั้นของนาทาเลียได้ปรับสภาพกับขนาดที่ใหญ่เกินพอดีของเขา เพราะเมื่อมันแทรกเข้าไปและถูกบีบรัดอย่างรุนแรงเขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตายทั้งเป็นนาทาเลียล้ำค่ามากกว่าที่ตาเห็น ร่างกายของเขาถูกเติมเต็มชัดเจนมากกว่าทุกครั้งที่มีลมหายใจมาเลย เลือดฉีดซ่านไปทั่วทั้งตัวส่งผลให้ลมหายใจของขาค่อนข้างรุนแรง ทว่าทุกครั้งที่เคลื่อนไ
เมื่อมีข่าวลือว่าท่านหญิงอาโมรีซึ่งมิได้ออกงานมาเป็นระยะเวลานาน กลับมาออกงานสังคมอีกครั้งและงานแรกที่ท่านหญิงเข้าร่วมคืองานเลี้ยงของตระกูลบาทาซาร์ ตระกูลสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของจักรวรรดิ ในวันนี้เป็นงานเลี้ยงที่ถูกจัดขึ้นมาเพื่อที่ท่านเคาน์คนก่อนจะส่งมอบตำแหน่งหัวหน้าตระกูลให้กับลูกชายคนโต แลนเดน บาทาซาร์และเนื่องจากงานเลี้ยงนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากอีกทั้งท่านหญิงนาทาเลียจะเข้าร่วมโดยที่ห่างหายจากแวดวงสังคมเป็นระยะเวลานานทำให้งานเลี้ยงในตระกูลบาทาซาร์ค่ำคืนนี้เนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย“โลเวลเจ้ามายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้กัน เจ้าควรจะเข้าไปด้านในเพื่อแสดงความยินดีกับพี่ชาย.."ดวงตาที่แสดงออกถึงความไม่ชอบใจของโลเวลจับจ้องมองไปที่ท่านพ่อของเขา ก่อนที่เขาจะแค่นหัวเราะออกมา“แค่เกิดก่อนไม่กี่ปีข้าไม่นับว่าแลนเดนเป็นพี่ชายของข้าหรอกนะ แถมหมอนั่นไม่ได้เกิดมาจากแม่คนเดียวกันกับข้าด้วย”ท่านเคาน์เล็กซ์ยกมือขึ้นมานวดหว่างคิ้วเบาๆ“โลเวลพ่อไม่อยากให้มีข่าวลือเกี่ยวกับความบาดหมางในตระกูลของเราเล็ดลอดออกไป เพราะอย่างนั้นในวันนี้ลูกช่วยสร้างปัญหาให้มันน้อยลงหน่อยได้ไหม?”โลเวลมองหน้าท่านพ่อของเขาด้วยสาย
แล้ว..ทำไมฉันจะต้องสนใจชื่อเสียงของนายด้วยล่ะ ทีก่อนหน้านี้เป็นนายไม่ใช่เรอะที่ทำให้นาทาเลียอับอายน่ะ!!เพราะอย่างนั้นมือของนาทาเลียจึงไม่ยกมือขึ้นวางบนมือขององค์รัชทายาทอย่างที่ควรจะเป็น เธอเบือนหน้าหนี ก่อนจะเดินจากไปด้วยความไม่ไยดีคนเช่นองค์รัชทายาทโอเวนที่ไม่ชอบความพ่ายแพ้เขาจะต้องหาสตรีสักนางมาควงในวันนี้ แทนเธอเป็นแน่ และหากเธอเดาไม่ผิดบนใบหน้าที่แสนหล่อเหลานั่นกำลัง..โกรธเคืองเธอชนิดที่ว่าอยากจะพุ่งตัวเข้ามากระชากคอเสื้อของเธอให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยโอเวนหรี่ตามมองแผ่นหลังของนาทาเลียที่กำลังเดินออกห่างไปเรื่อยๆ เขาแสยะยิ้มออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลาพลันบิดเบี้ยวด้วยอารมณ์โกรธที่อัดแน่นในอก เพียงแต่อารมณ์นั้นมันจะมาระเบิดกลางงานเลี้ยงเช่นนี้ไม่ได้ เพราะว่าเขาจะต้องรักษาภาพลักษณ์ของราชวงศ์“เลดี้สกาเล็ต..เรามองเจ้ามานานแล้วเต้นรำกับเราสักเพลงสิ”สตรีผู้นั้นมองใบหน้าหล่อเหลาขององค์รัชทายาทด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง ใบหน้าของนางแดงซ่าน สกาเล็ตแย้มยิ้มด้วยความเอียงอายก่อนที่เธอจะวางมือของตัวเองลงบนมือขององค์รัชทายาท“เป็นเกียรติยิ่งแล้วเพคะฝ่าบาท”นาทาเลียคว้าขวดไว
นาทาเลียค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเล็ดลอดเข้ามาในห้องนอน ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความปวดศีรษะที่เธอต้องยกมือขึ้นมานวดขมับเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกกระหายน้ำอย่างรุนแรงจนต้องเดินลงจากเตียงเพื่อไปหาน้ำมาดื่มดับกระหาย“อีฟ..”นาทาเลียเรียกชื่ออีฟด้วยความเคยชิน ทว่าในห้องนอนที่เธอกำลังนอนอยู่นี้มันกลับไม่ใช่ห้องนอนแสนหรูหราที่คุ้นชินสายตาเลยแม้แต่น้อย แถมบนเตียงที่เธอพึ่งจะลุกออกมาก็มีคนนอนอยู่นาทาเลียกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาดด้วยความรู้สึกประหม่าพอสมควร ความทรงจำสุดท้ายที่เธอจำได้คือเธอกำลังกอดขวดไวน์เอาไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับพูดคุยกับ..ชายผู้มีดวงตาที่น่าจดจำ เพราะว่าดวงตาทั้งสองข้างของเขามันคนละสีกัน และเมื่อนาทาเลียเดินไปที่เตียงเธอก็ยกมือขึ้นมานวดขมับตัวเองเบาๆ เพราะว่าผู้ที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคือชายผู้มีดวงตาสองสีที่เธอพูดคุยด้วยไม่ผิดแน่เมื่อก้มมองชุดตัวเองก็พบว่าเธอไม่ได้สวมชุดเดรสสีน้ำเงินอย่างที่ควรจะเป็นแต่กลับสวมชุดนอนสบายๆ เครื่องประดับมากมายที่เธอสวมมาถูกถอดพร้อมกับวางเอาไว้บนโต๊ะ ส่วนชุดเดรสของเธอสวมเอาไว้ในหุ่นไม้ซึ่งมันน่าจะผ่านก
กว่านาทาเลียจะกลับมาถึงคฤหาสน์อาโมรีก็ปาเข้าไปช่วงเย็น เมื่อรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์ อลาโนก็เดินเข้ามาหาน้องสาวของเขาในทันทีและเมื่อนาทาเลียเห็นหน้าพี่ชายของเธอ มันก็รู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าเธอคือเด็กที่แอบหนีเที่ยวแต่กลับถูกจับได้ยังไงไม่รู้สิ“เทียร์มาคุยกันหน่อยสิ”นาทาเลียขบเม้มริมฝีปากเบาๆ พร้อมกับเดินตามพี่ชายเข้าไปที่คฤหาสน์อลาโนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ของเธอสักเท่าไหร่ และเมื่อนาทาเลียเข้ามานั่งด้านใน สาวใช้ก็รีบยกน้ำชาเข้ามาในทันที“เรื่องของลูกชายคนรองของเคาน์บาทาซาร์”อ่า..เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะต้องถูกตำหนิ เรื่องนั้นนาทาเลียคิดเอาไว้อยู่และ และเธอจะยินยอมให้ท่านพี่สั่งสอนเธอ เพราะดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอจะก่อเรื่องเอาไว้ใหญ่มากพอสมควร“หากเจ้าชอบเขาจริงๆ เช่นนั้นวันพรุ่งนี้พี่จะให้คนของเราไปพาเขาอยู่ที่คฤหาสน์ของเจ้าดีหรือไม่”นาทาเลียถึงกับสำลักน้ำชาที่เธอกำลังยกขึ้นมาดื่ม เธอคิดว่าท่านพี่จะตำหนิหรือไม่ก็ด่าทอเรื่องที่เธอทำให้ชื่อเสียงของอาโมรีเสื่อมเสีย แต่กลับกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน“ข้า..ไม่ได้ชอบเขาค่ะ ขอบคุณมากสำหรับความเมตตาของท่านพี่แต่กั
แกสทอนเดินเข้าที่คฤหาสน์ของท่านหญิงนาทาเลีย เขาเลิกคิ้วเพื่อเป็นการกล่าวถามอีฟถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าตกลงแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่“ท่านหญิงดูเหมือนว่าจะพึ่งกลับมาจากพระราชวังค่ะ และ..สภาพจิตใจของท่านหญิงนั้นไม่สู้ดีสักเท่าไหร่”แกสทอนพยักหน้า เขาเดินเข้าไปในห้องนอนของนาทาเลีย เธอกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนอนที่แสนกว้างใหญ่ แต่ทว่าที่หางตากลับเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา เขานั่งลงข้างๆ เตียงพร้อมกับค่อยๆ ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับไปที่หางตาของเธอด้วยความแผ่วเบานาทาเลียค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเล็กน้อย และเมื่อเธอมองเห็นแกสทอนหัวใจที่เจ็บปวดของนาทาเลียก็เหมือนว่าจะค่อยๆ ดีขึ้น“แกสทอน..”“ขอโทษด้วยนะครับ หากว่าข้าทำให้ท่านตื่น”นาทาเลียส่ายหน้าเบาๆ“ไม่เป็นไรหรอก ข้าเองก็นอนมานานมากพอสมควรแล้วเหมือนกัน เจ้าขึ้นมานอนบนนี้สิ”เขามองหน้าเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน เพียงแค่มองใบหน้านั้นของเธอก็ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุนแกสทอนไม่ได้ลังเลกับการขึ้นไปนอนบนเตียงของเจ้านาย เพราะเขามักจะทำอะไรตามความต้องการของตัวเองเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ในเวลานี้ไม่มีเจ้านายหรือว่าพ่อบ้านอะไรทั้งนั้น มี
ความเป็นชายร้อนผ่าวแนบลงมาบนขา นาทาเลียเหลือบไปมองก็พบว่าส่วนนั้นของเขากำลังสอดแทรกเข้าไปด้านในอย่างช้าๆ“อึ่ก..”“ผ่อนคลายนาทาเลีย ข้ารู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทนไหว แต่เจ้าจะต้องผ่อนคลาย โอบรัดข้าแน่นปานนั้นใจคอจะทำให้ข้าขาดใจตายเลยหรืออย่างไรกัน”สะโพกของเธอถูกมือของเขายึดเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้นาทาเลียได้มีโอกาสถอนสะโพกหนีโอเวนยิ้มออกมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลแรงปรารถนาซัดสาดไปทุกหนทุกแห่งจนร่างกายสั่นสะท้าน เขาจ้องมองใบหน้าของนาทาเลียพร้อมกับขยับเอวสอบกระแทกกระทั้นเข้าไปอย่างไม่มีความปรานี ส่วนที่เหลือสอดแทรกเข้าไปด้านในจนสุดลำแท่งเขากัดกรามแน่นพร้อมกับฝ่ามือที่เลื่อนไล้ไปตามผิวกายเปลือย มือของโอเวนขยำไปมากับเนินเนื้อคู่สวย"พอทำแบบนี้พร้อมๆ กันถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เลยอย่างนั้นหรือ นาทาเลียเจ้าชอบการกระทำของข้าก็บอกมาเถอะ ร่างกายของเจ้าตอบสนองเช่นนี้แล้ว อันที่จริงมันชัดเจนมากจนข้าไม่ต้องเอ่ยถามก็ได้..”แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอยากได้ยินว่าเธอสุขสมกับการกระทำของเขา อยากได้ยินว่าเธอกำลังมีความสุขภายใต้ร่างกายเขาความเป็นชายของเขาแทรกลึกเข้ามาก่อนจะถูกดึงออกเพื่อรอ
เมื่อเหล่าสตรีมากมายในห้องนอนขององค์รัชทายาทเห็นท่านหญิงอาโมรีซึ่งกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับออกปากไล่พวกนาง แน่นอนว่าสภาพของสตรีแต่ละคนมันไม่แตกต่างกันเลย และพวกนางกำลังหยิบคว้าผ้าห่มและชุดเดรสที่กระจัดกระจายไปตามพื้นขึ้นมาปกคลุมร่างกายเอาไว้ แล้ววิ่งหนีออกจากห้องไป สกาเล็ตมองที่องค์รัชทายาท แต่ทว่าพระองค์ก็ไม่มีการเอ่ยปากเพื่อรั้งเธอหรือว่าสตรีใดเอาไว้ บนใบหน้าที่หล่อเหลาของพระองค์มันเต็มไปด้วยความตื่นตกใจในแบบที่เหมือนกับว่าการที่ท่านหญิงมาหาพระองค์ที่นี่ในวันนี้มันคือเรื่องที่นอกเหนือการควบคุม และเมื่อสกาเล็ตเดินจากไปเป็นคนสุดท้าย ประตูห้องนอนขององค์รัชทายาทก็ปิดลง มือของนาทาเลียสั่นเทา เธอมองหน้าของโอเวนที่กำลังมีสีหน้าตื่นตกใจ ซึ่งเธอไม่ได้แปลกใจกับสีหน้าเช่นนั้นของเขาสักเท่าไหร่นัก เพราะเขาคงไม่คิดว่าเธอจะมาที่นี่มาหาเขาในยามนี้ ไม่ใช่เขาคนเดียวหรอกที่ไม่เคยคิด เพราะหากไม่ติดว่าจะต้องทำภารกิจเธอก็ไม่อยากจะมาเหยียบที่นี่เหมือนกัน! นาทาเลียคิดว่าตัวเองในยามนี้กำลังทำเรื่องที่น่าสมเพชมากที่สุด เธอสูญเสียศักดิ์ศรีและสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ไปให้ระบบเกมบ้าๆ นี่ ทว่าเธอไม่มีทางเลือก เ
นาทาเลียมองหน้าของโลเวลอีกครั้ง เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเรียกสติของตัวเองกลับมา“เช่นนั้นเรื่องที่เจ้าเขียนมาในจดหมาย เรื่องของเลดี้สกาเล็ต..หมายความว่าเจ้าให้คนมาแอบดูข้าอย่างนั้นหรือ?”โลเวลจุดยิ้มขึ้นด้วยความพึงพอใจ สาบานได้เลยว่าคราแรกเขาเกือบจะยอมแพ้เรื่องการเป็นผู้นำตระกูลบาทาซาร์แล้ว หากว่าเขาไม่ได้พบเจอกับเธอก่อน และในตอนนี้จะเรียกว่าเธอคือแสงสว่างของเขาก็คงจะไม่ผิด ในทางเดินที่มืดมิดท่านหญิงนาทาเลียเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับขวดไวน์ในมือ ราวกับนางกำลังบอกกล่าวกับเขา ว่าเขาสามารถทำอะไรกับนางก็ได้ในช่วงที่นางกำลังเมามายไม่ได้สติ เขาไม่เคยโลภหรือว่าอยากจะได้สิ่งใดมาก่อนเลยจนได้มาพบเธอโลเวลคิดว่าหากเขาได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับท่านหญิงอาโมรี เส้นทางการแย่งชิงอำนาจในตระกูลมันคงจะง่ายดายมากกว่าเดิม ทว่าด้วยการปฏิเสธในครั้งแรกมันทำให้เขามองเห็นความสั่นไหวในสายตาของเธออย่างเห็นได้ชัดเจน ราวกับว่านางมีเรื่องที่บอกใครไม่ได้อยู่..อีกทั้งเท่าที่เขาเห็น ท่านหญิงอาโมรีไม่ได้ใกล้เคียงกับข่าวลือเลย นางไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับที่เขาได้ยินมา อีกทั้งเขายื่นข้อเสนอเรื่องที่ให้เธอนอนกับเขาไปแล้
นาทาเลียยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่มและเมื่อเธอยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่ม เหล่าบรรดาสาวใช้ทั้งหลายก็เดินถอยหลังไปราวสิบเก้า ราวกับว่าการกระทำของเธอมันคือคำสั่งอะไรสักอย่างแต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน เพราะว่าในยามนี้มีเรื่องที่เธอไม่เข้าใจอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือองค์รัชทายาทโอเวน เขามานั่งปั้นยิ้มอยู่ที่คฤหาสน์ของเธอทำไมกัน“บรรยากาศที่คฤหาสน์ของเจ้านั้นช่างแตกต่างยิ่งนัก มิน่าเล่า เจ้าถึงไม่ค่อยออกงานในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะว่าเจ้ามีสวนที่แสนงดงามพวกนี้นี่เอง ข้าก็หลงคิดว่าเจ้าป่วยไข้หรือว่าไม่สบาย”หางคิ้วของนาทาเลียกระตุกเบาๆ เธอไม่ได้อยากจะพูดคุยกับคนเช่นองค์รัชทายาทสักเท่าไหร่นัก“บอกเหตุผลของฝ่าบาทมาเถอะเพคะ เราสองคนใช่คนที่จะสามารถมาดื่มชาด้วยกันอย่างนั้นหรือ?”“นาทาเลีย ถึงอย่างไรตำแหน่งพระชายาของข้ามันก็จะต้องเป็นของเจ้า เพราะอย่างนั้นมาญาติดีกันเอาไว้ตั้งแต่ในยามนี้ย่อมเหมาะสมยิ่งแล้ว”อีกเหตุผลที่เธอไม่ค่อยชอบราชวงศ์มากเท่าไหร่นัก คืออีกสองปีเมื่อวิตอเรียปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งองค์จักรพรรดิและองค์รัชทายาทจะหลงลืมการมีอยู่ของนาทาเลียไปจนหมดสิ้น พวกเขาให้ความสนใจกับอำนาจของพลังศักดิ์สิทธิ์มาก
มื้ออาหารแสนหรูหราในพระราชวังซึ่งถูกจัดขึ้นมาเพื่อต้อนรับแกรนด์ดยุคอาโมรีโดยเฉพาะ มีขุนนางมากหน้าหลายตาที่เข้ามาร่วมในงานเลี้ยงนี้ด้วย“ข้อตกลงของเรานั้น ท่านยังต้องการเวลาในการทำความเข้าใจอีกหรือไม่แกรนด์ดยุค”อลาโนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เขาส่งยิ้มให้กับองค์จักรพรรดิซึ่งกำลังคาดหวังกับคำตอบของเขาอยู่“นาทาเลียยังเด็ก อีกทั้งองค์รัชทายาทก็ยังทรงสนุกอยู่กับการเล่นกับเลดี้มากมาย..ข้อเสนอของเรานั้นยังคงต้องรักษาเพียงแต่นาทาเลียและองค์รัชทายาทยังไม่พร้อม”องค์จักรพรรดิเบนสายตาไปมองหน้าของลูกชายเขา คำกล่าวของแกรนด์ดยุคนั้นก็ถือว่ามีส่วนที่จริงอยู่เหมือนกัน เดิมทีเขาคือดยุคที่ไม่ได้มีสายเลือดของราชวงศ์อะไรเลย แต่แกรนด์ดยุคอาโมรีรุ่นก่อนกลับหยิบยื่นอำนาจที่ใครๆ ต่างไขว่คว้ามาให้เขา ด้วยพันธสัญญาว่าราชวงศ์เบลซที่พึ่งจะสถาปนาขึ้นมาใหม่จะต้องแต่งงานกับทายาทของอาโมรีเขาไม่ได้อยากจะกดดันอะไรเลย เพียงแต่เรื่องการเป็นราชวงศ์ของเขาก็ถูกจับตามองอยู่เหมือนกัน แน่นอนหากว่าเขาได้อำนาจของอาโมรีมาช่วยค้ำจุนราชวงศ์ ความมั่นคงมันก็จะมีมากขึ้นยามนี้ทั้งท่านหญิงนาทาเลียและโอเวนยังคงเล่นสนุกกับงานเลี้ยงต่างๆ น
กว่านาทาเลียจะกลับมาถึงคฤหาสน์อาโมรีก็ปาเข้าไปช่วงเย็น เมื่อรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์ อลาโนก็เดินเข้ามาหาน้องสาวของเขาในทันทีและเมื่อนาทาเลียเห็นหน้าพี่ชายของเธอ มันก็รู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าเธอคือเด็กที่แอบหนีเที่ยวแต่กลับถูกจับได้ยังไงไม่รู้สิ“เทียร์มาคุยกันหน่อยสิ”นาทาเลียขบเม้มริมฝีปากเบาๆ พร้อมกับเดินตามพี่ชายเข้าไปที่คฤหาสน์อลาโนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ของเธอสักเท่าไหร่ และเมื่อนาทาเลียเข้ามานั่งด้านใน สาวใช้ก็รีบยกน้ำชาเข้ามาในทันที“เรื่องของลูกชายคนรองของเคาน์บาทาซาร์”อ่า..เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะต้องถูกตำหนิ เรื่องนั้นนาทาเลียคิดเอาไว้อยู่และ และเธอจะยินยอมให้ท่านพี่สั่งสอนเธอ เพราะดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอจะก่อเรื่องเอาไว้ใหญ่มากพอสมควร“หากเจ้าชอบเขาจริงๆ เช่นนั้นวันพรุ่งนี้พี่จะให้คนของเราไปพาเขาอยู่ที่คฤหาสน์ของเจ้าดีหรือไม่”นาทาเลียถึงกับสำลักน้ำชาที่เธอกำลังยกขึ้นมาดื่ม เธอคิดว่าท่านพี่จะตำหนิหรือไม่ก็ด่าทอเรื่องที่เธอทำให้ชื่อเสียงของอาโมรีเสื่อมเสีย แต่กลับกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน“ข้า..ไม่ได้ชอบเขาค่ะ ขอบคุณมากสำหรับความเมตตาของท่านพี่แต่กั
นาทาเลียค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเล็ดลอดเข้ามาในห้องนอน ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความปวดศีรษะที่เธอต้องยกมือขึ้นมานวดขมับเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกกระหายน้ำอย่างรุนแรงจนต้องเดินลงจากเตียงเพื่อไปหาน้ำมาดื่มดับกระหาย“อีฟ..”นาทาเลียเรียกชื่ออีฟด้วยความเคยชิน ทว่าในห้องนอนที่เธอกำลังนอนอยู่นี้มันกลับไม่ใช่ห้องนอนแสนหรูหราที่คุ้นชินสายตาเลยแม้แต่น้อย แถมบนเตียงที่เธอพึ่งจะลุกออกมาก็มีคนนอนอยู่นาทาเลียกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาดด้วยความรู้สึกประหม่าพอสมควร ความทรงจำสุดท้ายที่เธอจำได้คือเธอกำลังกอดขวดไวน์เอาไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับพูดคุยกับ..ชายผู้มีดวงตาที่น่าจดจำ เพราะว่าดวงตาทั้งสองข้างของเขามันคนละสีกัน และเมื่อนาทาเลียเดินไปที่เตียงเธอก็ยกมือขึ้นมานวดขมับตัวเองเบาๆ เพราะว่าผู้ที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคือชายผู้มีดวงตาสองสีที่เธอพูดคุยด้วยไม่ผิดแน่เมื่อก้มมองชุดตัวเองก็พบว่าเธอไม่ได้สวมชุดเดรสสีน้ำเงินอย่างที่ควรจะเป็นแต่กลับสวมชุดนอนสบายๆ เครื่องประดับมากมายที่เธอสวมมาถูกถอดพร้อมกับวางเอาไว้บนโต๊ะ ส่วนชุดเดรสของเธอสวมเอาไว้ในหุ่นไม้ซึ่งมันน่าจะผ่านก
แล้ว..ทำไมฉันจะต้องสนใจชื่อเสียงของนายด้วยล่ะ ทีก่อนหน้านี้เป็นนายไม่ใช่เรอะที่ทำให้นาทาเลียอับอายน่ะ!!เพราะอย่างนั้นมือของนาทาเลียจึงไม่ยกมือขึ้นวางบนมือขององค์รัชทายาทอย่างที่ควรจะเป็น เธอเบือนหน้าหนี ก่อนจะเดินจากไปด้วยความไม่ไยดีคนเช่นองค์รัชทายาทโอเวนที่ไม่ชอบความพ่ายแพ้เขาจะต้องหาสตรีสักนางมาควงในวันนี้ แทนเธอเป็นแน่ และหากเธอเดาไม่ผิดบนใบหน้าที่แสนหล่อเหลานั่นกำลัง..โกรธเคืองเธอชนิดที่ว่าอยากจะพุ่งตัวเข้ามากระชากคอเสื้อของเธอให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยโอเวนหรี่ตามมองแผ่นหลังของนาทาเลียที่กำลังเดินออกห่างไปเรื่อยๆ เขาแสยะยิ้มออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลาพลันบิดเบี้ยวด้วยอารมณ์โกรธที่อัดแน่นในอก เพียงแต่อารมณ์นั้นมันจะมาระเบิดกลางงานเลี้ยงเช่นนี้ไม่ได้ เพราะว่าเขาจะต้องรักษาภาพลักษณ์ของราชวงศ์“เลดี้สกาเล็ต..เรามองเจ้ามานานแล้วเต้นรำกับเราสักเพลงสิ”สตรีผู้นั้นมองใบหน้าหล่อเหลาขององค์รัชทายาทด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง ใบหน้าของนางแดงซ่าน สกาเล็ตแย้มยิ้มด้วยความเอียงอายก่อนที่เธอจะวางมือของตัวเองลงบนมือขององค์รัชทายาท“เป็นเกียรติยิ่งแล้วเพคะฝ่าบาท”นาทาเลียคว้าขวดไว