ความนุ่มนวลและความร้อนของผิวกายเอาเปลือยเปล่าที่ได้สัมผัสกันครั้งแรกปลุกเร้าความรู้สึกซาบซ่านขึ้นมา
นาทาเลียมองสบตาของแกสทอนในยามที่เขากำลังจุมพิตลงไปบนขาอ่อนคู่งามของเธอด้วยท่าทางที่ร้อนแรงในแบบที่เธออยากจะจดจำท่าทีเช่นนั้นของเขาเอาไว้ในนานเท่าที่จะนานได้ เขาจุมพิตลงไปบนรอยแยกกลางกายผ่านทางกางเกงซับในตัวบางที่ยังไม่ได้ถอดออกจากเรียวขาของเธอเลย “อ่า..แกสทอน” ปลายลิ้นของเขาปาดเลียลงไปบนกางเกงซับในสีขาวตัวบางจนมันเปียกชุ่มและแนบลงไปบนส่วนนั้นของเธอจนมองเห็นชัดเป็นรูปเป็นร่างรวมไปถึงมองเห็นปุ่มกระสันที่นูนขึ้นมาได้ชัดเจนมากกว่าสิ่งอื่นใด ปลายลิ้นร้อนไล้ไปตามส่วนที่นูนขึ้นมาและเมื่อปลายลิ้นของเขาแตะลงไปบนนั้นด้วยความจงใจ นาทาเลียก็แอ่นสะโพกขึ้นมาจากเตียงในทันที ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ เรือนผมสีเงินที่ส่องประกายของเธอกระทบกับแสงของดวงตะวันจนมันสะท้อนแสงออกมาได้อย่างสวยงามและโดดเด่นที่สุดในสายตาของแกสทอน อันที่จริงนาทาเลียโดดเด่นอยู่แล้วในยามที่เธออยู่บนเตียงในสภาพเช่นนี้ ภาพเบื้องหน้าคล้ายเป็นปฏิมากรรมอะไรสักอย่างที่ทั้งล้ำค่าและสวยงามในช่วงเวลาเดียว เธอทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองแสนโชคดีที่ได้..ครอบครองเธอ ครองครอบร่างกายนี้ ทุกสัมผัสของเขามันเหมือนกับจะแกล้งให้อายหรือไม่ก็ยั่วให้เธอคลั่ง เพราะเมื่อเขาปรนเปรอเธอด้วยปลายลิ้นจนนาทาเลียรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะแตะถึงฝั่งฝัน แกสทอนก็จะหยุดในทันที แล้วค่อยเปลี่ยนไปใช้นิ้วในการสัมผัสเธอใหม่ เขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองกำลังตกจากที่สูงเลยให้ตายเถอะ “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับ การถึงง่ายๆ มันจะไปน่าสนุกอะไรกัน ท่านจะต้องอดกลั้นมันเอาไว้สิครับ..แบบนั้นถึงจะตราตรึงใจมากกว่า” เธอซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเองในขณะที่เขาสามารถหาความสุขจากร่างกายของเธอได้อย่างเต็มที่ ถึงแม้ว่านาทาเลียจะหงุดหงิดที่ไม่ได้ถึงที่หมายดังเช่นที่อยากจะเป็นแต่ทว่าการ..ได้รับการเอาใจใส่จากเขาก็ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากอย่างที่เขาพูด แกสทอนค่อยๆ ถอดกางเกงซับในออกอย่างเชื่องช้าผ่านทางปลายเท้าของเธอ เขาจ้องมองส่วนนั้นที่กำลังฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำลายและน้ำรักที่รินไหลออกมา มันปิดสนิทและช่างสวยงามจนเขาไม่คิดจะละสายตา อีกสิ่งอย่างที่ทำให้เขาอดแปลกใจไม่ได้คือท่าทีของท่านหญิงของเขา ทุกอย่างไม่ได้เป็นดังเช่นที่เขาคิดเอาไว้ เขาคิดว่าท่านหญิงจะกระโจนเข้าหาเขาพร้อมกับรสรักอันเร่าร้อนที่เราทั้งสองจะเสพสมบนเตียงนอน ทว่าไม่ใช่เลย ท่าทางของท่านหญิงนาทาเลียนางไร้เดียงสา ใบหน้าแดงซ่านและเสียงครวญครางที่เปล่งออกมาด้วยความขวยเขิน การตอบสนองที่เหมือนกับว่านี่คือครั้งแรกของท่านหญิงมันทำให้แกสทอนรู้สึกตะหงิดในใจแปลกๆ “แกสทอน..” เธอเรียกชื่อเขาอีกครั้งเมื่อปลายนิ้วของแกสทอนกรีดลงไปตามรอยแยกกลางกาย ร่างกายของนาทาเลียมันสั่นเทิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่เมื่อปลายนิ้วของเขามันเน้นย้ำและสะกิดเขี่ยอยู่บนปุ่มกระสันของเธอ “ตรงนี้นูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ..ท่านคงจะชื่นชอบมากทีเดียวเมื่อข้าสัมผัสตรงส่วนนี้ของท่าน กางขาออกสิครับการใช้เพียงนิ้วมือคงไม่อาจทำให้ท่านหญิงของข้าพึงพอใจได้” แรงกระตุ้นจากฝ่ามือส่งผลต่อทุกส่วนของร่างกายในแบบที่นาทาเลียเลือกที่จะเบือนหน้าหนี เธอไม่กล้าสบตากับแกสทอนด้วยซ้ำในเมื่อตัวเองตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เขากางขาเธอออกอีกครั้งพร้อมกับริมฝีปากที่พรมจูบตั้งแต่หัวเขาไล่ขึ้นไปอย่างเชื่องช้าพร้อมกับสร้างรอยกุหลาบเอาไว้ระหว่างทางบนผิวกายของเธอ ลิ้นของเขาแทรกเข้ามาช้าๆ ตรงปากทางเข้าด้วยสัมผัสที่นุ่มหยุ่นแตกต่างจากนิ้วอย่างสิ้นเชิง “อ๊ะ..” เธอสะดุ้งเฮือกเมื่อได้รับการปรนเปรอในระดับที่มากกว่าเดิม ร่างกายเกร็งไปทั้งตัวเมื่อเกลียวลิ้นของเขามันเสียดสีกับผิวอ่อนด้านใน ขณะที่ปลายนิ้วก็ยังคงเสียดสีอยู่ที่ด้านนอก การอดทนกับสิ่งนี้ แกสทอนกำลังสอนเธอเลยว่ามันไม่ง่ายเพราะแทบจะทุกจุดที่ไวต่อสัมผัสของเธอกำลังถูกเขาควบคุมอยู่ เหมือนร่างกายนี้มันไม่ใช่ร่างกายของเธอ เพราะว่ามันเชื่อฟังแกสทอนมากกว่าตัวเธอเองเสียอีก ช่องทางสั่นสะท้านเมื่อถูกเลียอย่างช้าๆ จนถึงด้านใน แกสทอนเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของนาทาเลีย เขาใช้ปลายนิ้วสอดลึกเข้าไปยังร่องรักฉ่ำวาวก่อนจะขยี้มันซ้ำๆ ตรงจุดที่ไวต่อสัมผัสเพื่อกลั่นแกล้งและทำให้ร่างกายของท่านหญิงสั่นเทิ้มและเรียกร้องจากเขามากกว่านี้ “อื้อ ถ้าทำแบบนั้น..ขะ..ข้าจะไม่ไหว..” “ชอบขนาดนั้นเลยหรือครับ? ท่านหญิงไม่คิดจะมองหน้าข้าหน่อยหรือ ทั้งๆ ที่ข้าปรารถนาสิ่งนี้แทบบ้า หรือมันเป็นเพราะว่าท่านยังไม่เห็นข้าเปลือยเปล่า” แกสทอนถอดกางเกงออกในทันที และเมื่อกางเกงขายาวสีดำของเขาหลุดลงไปกองบนพื้นดวงตาสีน้ำทะเลของนาทาเลียก็มองเห็นความเป็นชายที่ตั้งผงาดแทบจะทิ่มตา ส่วนนั้นของเขามันแข็งจัดจนมองเห็นเส้นเลือดปูดนูนขึ้นมา แถมที่ส่วนปลายยังมีน้ำไหลเยิ้มจนเปียกชุ่มไปหมด เขาพรมจูบบนใบหน้าของเธออีกครั้งก่อนจะจับให้เธอนั่งอยู่บนเตียงฝนขณะที่เขายืนอยู่ข้างเตียงและหันส่วนนั้นเข้ามาหาเธอ “ท่านหญิง..ข้าคิดว่าท่านน่าจะจำได้ว่าข้าเป็นพวกชื่นชอบความเท่าเทียมเพราะอย่างนั้นรบกวนท่านใช้ปากของท่านกับเจ้าส่วนนี้ด้วยครับ” เธอเงยหน้ามองหน้าเขา “ขะ..ข้าไม่เคย..ทำมาก่อน” แกสทอนหรี่ตามองหน้าของนาทาเลียอีกครั้ง นี่มันแปลกมากจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรเพราะว่าเขาเต็มใจสอนเธอ “ใช้มือของท่านสัมผัสมันก่อนสิครับ ลองใช้นิ้วของท่านขยี้ลงไปบนส่วนหัวของมัน” นาทาเลียกลืนน้ำลายลงคอ เธอยกมือขึ้นมาสัมผัสส่วนนั้นของเขา และมันเหมือนกับว่าแก่นกายของเขาถูกฉาบด้วยความร้อนเลย เพราะว่าในขณะที่เธอสัมผัสมันสิ่งแรกที่นาทาเลียรับรู้ได้คือความร้อนและ..ความตื่นตัวที่น่าตกใจ ความเปียกชื้นถูกซึมออกมาเรื่อยๆ ขณะที่เธอใช้ปลายนิ้วสัมผัสที่ส่วนปลายของเขา “อา..ลองใช้ปากกับมันสิครับ” เขากล่าวพร้อมกับเอื้อมมือมาบีบแก้มของนาทาเลียเพื่อให้เธออ้าปากออกให้กว้างมากกว่าเดิม แต่ถึงจะกว้างมากแค่ไหนแต่กับขนาดของเขาก็ยังนับว่าเล็กเกินไปอยู่ดี “อื้ม!..ดูดเบาๆ สิครับ” กลุ่มก้อนความร้อนอันแสนอ่อนไหวสะดุ้งน้อยๆ เมื่อปลายลิ้นของนาทาเลียสัมผัสไปยังส่วนปลายที่ปล่อยน้ำออกมาก่อนที่เธอจะค่อยๆ ดูดกลืนมันเข้าไปด้วยความทุลักทุเลเธอครอบครองเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดหลังจากนั้นก็ถอยร่นออกมาเป็นจังหวะ นาทาเลียระมัดระวังไม่ให้ฟันขบ ในขณะที่ริมฝีปากกำลังทำหน้าที่เธอไล้ปลายลิ้นโลมเลียไปตามส่วนปลายซึ่งอ่อนไหวมากที่สุด ก่อนที่แกสทอนจะผลักเธอเบาๆนาทาเลียจ้องมองส่วนนั้นที่แวววาวด้วยน้ำลายของเธอ และกว่าเธอจะรู้ตัวเขาก็ขึ้นมาบนเตียงกับเธอแล้วเธอล้มตัวนอนลงในขณะที่เขายกขาของเธอขึ้นไปฟาดเอาไว้บนบ่า“ท่านทำให้ข้าแทบคลั่งเลยท่านหญิง..”ความเป็นชายร้อนผ่าวของเขาค่อยๆ แทรกเข้ามาด้านในอย่างช้าๆ ทีละนิดตามจังหวะของลมหายใจ“อ่า..อื้อ”ส่วนที่เชื่อมโยงกำลังบีบรัดกันอย่างเร่าร้อนไม่แพ้อุณหภูมิของร่างกายที่พุ่งสูงขึ้นมา ในอกสะท้านวาบกับการกระทั้นกายเข้าออกโดยไม่ยั้งแรงใดๆ แกสทอนไม่ได้มีความอดทนมากมายที่จะรอคอยให้ส่วนนั้นของนาทาเลียได้ปรับสภาพกับขนาดที่ใหญ่เกินพอดีของเขา เพราะเมื่อมันแทรกเข้าไปและถูกบีบรัดอย่างรุนแรงเขาก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตายทั้งเป็นนาทาเลียล้ำค่ามากกว่าที่ตาเห็น ร่างกายของเขาถูกเติมเต็มชัดเจนมากกว่าทุกครั้งที่มีลมหายใจมาเลย เลือดฉีดซ่านไปทั่วทั้งตัวส่งผลให้ลมหายใจของขาค่อนข้างรุนแรง ทว่าทุกครั้งที่เคลื่อนไ
เมื่อมีข่าวลือว่าท่านหญิงอาโมรีซึ่งมิได้ออกงานมาเป็นระยะเวลานาน กลับมาออกงานสังคมอีกครั้งและงานแรกที่ท่านหญิงเข้าร่วมคืองานเลี้ยงของตระกูลบาทาซาร์ ตระกูลสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของจักรวรรดิ ในวันนี้เป็นงานเลี้ยงที่ถูกจัดขึ้นมาเพื่อที่ท่านเคาน์คนก่อนจะส่งมอบตำแหน่งหัวหน้าตระกูลให้กับลูกชายคนโต แลนเดน บาทาซาร์และเนื่องจากงานเลี้ยงนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากอีกทั้งท่านหญิงนาทาเลียจะเข้าร่วมโดยที่ห่างหายจากแวดวงสังคมเป็นระยะเวลานานทำให้งานเลี้ยงในตระกูลบาทาซาร์ค่ำคืนนี้เนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย“โลเวลเจ้ามายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้กัน เจ้าควรจะเข้าไปด้านในเพื่อแสดงความยินดีกับพี่ชาย.."ดวงตาที่แสดงออกถึงความไม่ชอบใจของโลเวลจับจ้องมองไปที่ท่านพ่อของเขา ก่อนที่เขาจะแค่นหัวเราะออกมา“แค่เกิดก่อนไม่กี่ปีข้าไม่นับว่าแลนเดนเป็นพี่ชายของข้าหรอกนะ แถมหมอนั่นไม่ได้เกิดมาจากแม่คนเดียวกันกับข้าด้วย”ท่านเคาน์เล็กซ์ยกมือขึ้นมานวดหว่างคิ้วเบาๆ“โลเวลพ่อไม่อยากให้มีข่าวลือเกี่ยวกับความบาดหมางในตระกูลของเราเล็ดลอดออกไป เพราะอย่างนั้นในวันนี้ลูกช่วยสร้างปัญหาให้มันน้อยลงหน่อยได้ไหม?”โลเวลมองหน้าท่านพ่อของเขาด้วยสาย
แล้ว..ทำไมฉันจะต้องสนใจชื่อเสียงของนายด้วยล่ะ ทีก่อนหน้านี้เป็นนายไม่ใช่เรอะที่ทำให้นาทาเลียอับอายน่ะ!!เพราะอย่างนั้นมือของนาทาเลียจึงไม่ยกมือขึ้นวางบนมือขององค์รัชทายาทอย่างที่ควรจะเป็น เธอเบือนหน้าหนี ก่อนจะเดินจากไปด้วยความไม่ไยดีคนเช่นองค์รัชทายาทโอเวนที่ไม่ชอบความพ่ายแพ้เขาจะต้องหาสตรีสักนางมาควงในวันนี้ แทนเธอเป็นแน่ และหากเธอเดาไม่ผิดบนใบหน้าที่แสนหล่อเหลานั่นกำลัง..โกรธเคืองเธอชนิดที่ว่าอยากจะพุ่งตัวเข้ามากระชากคอเสื้อของเธอให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยโอเวนหรี่ตามมองแผ่นหลังของนาทาเลียที่กำลังเดินออกห่างไปเรื่อยๆ เขาแสยะยิ้มออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลาพลันบิดเบี้ยวด้วยอารมณ์โกรธที่อัดแน่นในอก เพียงแต่อารมณ์นั้นมันจะมาระเบิดกลางงานเลี้ยงเช่นนี้ไม่ได้ เพราะว่าเขาจะต้องรักษาภาพลักษณ์ของราชวงศ์“เลดี้สกาเล็ต..เรามองเจ้ามานานแล้วเต้นรำกับเราสักเพลงสิ”สตรีผู้นั้นมองใบหน้าหล่อเหลาขององค์รัชทายาทด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง ใบหน้าของนางแดงซ่าน สกาเล็ตแย้มยิ้มด้วยความเอียงอายก่อนที่เธอจะวางมือของตัวเองลงบนมือขององค์รัชทายาท“เป็นเกียรติยิ่งแล้วเพคะฝ่าบาท”นาทาเลียคว้าขวดไว
นาทาเลียค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเล็ดลอดเข้ามาในห้องนอน ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความปวดศีรษะที่เธอต้องยกมือขึ้นมานวดขมับเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกกระหายน้ำอย่างรุนแรงจนต้องเดินลงจากเตียงเพื่อไปหาน้ำมาดื่มดับกระหาย“อีฟ..”นาทาเลียเรียกชื่ออีฟด้วยความเคยชิน ทว่าในห้องนอนที่เธอกำลังนอนอยู่นี้มันกลับไม่ใช่ห้องนอนแสนหรูหราที่คุ้นชินสายตาเลยแม้แต่น้อย แถมบนเตียงที่เธอพึ่งจะลุกออกมาก็มีคนนอนอยู่นาทาเลียกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาดด้วยความรู้สึกประหม่าพอสมควร ความทรงจำสุดท้ายที่เธอจำได้คือเธอกำลังกอดขวดไวน์เอาไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับพูดคุยกับ..ชายผู้มีดวงตาที่น่าจดจำ เพราะว่าดวงตาทั้งสองข้างของเขามันคนละสีกัน และเมื่อนาทาเลียเดินไปที่เตียงเธอก็ยกมือขึ้นมานวดขมับตัวเองเบาๆ เพราะว่าผู้ที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคือชายผู้มีดวงตาสองสีที่เธอพูดคุยด้วยไม่ผิดแน่เมื่อก้มมองชุดตัวเองก็พบว่าเธอไม่ได้สวมชุดเดรสสีน้ำเงินอย่างที่ควรจะเป็นแต่กลับสวมชุดนอนสบายๆ เครื่องประดับมากมายที่เธอสวมมาถูกถอดพร้อมกับวางเอาไว้บนโต๊ะ ส่วนชุดเดรสของเธอสวมเอาไว้ในหุ่นไม้ซึ่งมันน่าจะผ่านก
กว่านาทาเลียจะกลับมาถึงคฤหาสน์อาโมรีก็ปาเข้าไปช่วงเย็น เมื่อรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์ อลาโนก็เดินเข้ามาหาน้องสาวของเขาในทันทีและเมื่อนาทาเลียเห็นหน้าพี่ชายของเธอ มันก็รู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าเธอคือเด็กที่แอบหนีเที่ยวแต่กลับถูกจับได้ยังไงไม่รู้สิ“เทียร์มาคุยกันหน่อยสิ”นาทาเลียขบเม้มริมฝีปากเบาๆ พร้อมกับเดินตามพี่ชายเข้าไปที่คฤหาสน์อลาโนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ของเธอสักเท่าไหร่ และเมื่อนาทาเลียเข้ามานั่งด้านใน สาวใช้ก็รีบยกน้ำชาเข้ามาในทันที“เรื่องของลูกชายคนรองของเคาน์บาทาซาร์”อ่า..เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะต้องถูกตำหนิ เรื่องนั้นนาทาเลียคิดเอาไว้อยู่และ และเธอจะยินยอมให้ท่านพี่สั่งสอนเธอ เพราะดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอจะก่อเรื่องเอาไว้ใหญ่มากพอสมควร“หากเจ้าชอบเขาจริงๆ เช่นนั้นวันพรุ่งนี้พี่จะให้คนของเราไปพาเขาอยู่ที่คฤหาสน์ของเจ้าดีหรือไม่”นาทาเลียถึงกับสำลักน้ำชาที่เธอกำลังยกขึ้นมาดื่ม เธอคิดว่าท่านพี่จะตำหนิหรือไม่ก็ด่าทอเรื่องที่เธอทำให้ชื่อเสียงของอาโมรีเสื่อมเสีย แต่กลับกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน“ข้า..ไม่ได้ชอบเขาค่ะ ขอบคุณมากสำหรับความเมตตาของท่านพี่แต่กั
มื้ออาหารแสนหรูหราในพระราชวังซึ่งถูกจัดขึ้นมาเพื่อต้อนรับแกรนด์ดยุคอาโมรีโดยเฉพาะ มีขุนนางมากหน้าหลายตาที่เข้ามาร่วมในงานเลี้ยงนี้ด้วย“ข้อตกลงของเรานั้น ท่านยังต้องการเวลาในการทำความเข้าใจอีกหรือไม่แกรนด์ดยุค”อลาโนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เขาส่งยิ้มให้กับองค์จักรพรรดิซึ่งกำลังคาดหวังกับคำตอบของเขาอยู่“นาทาเลียยังเด็ก อีกทั้งองค์รัชทายาทก็ยังทรงสนุกอยู่กับการเล่นกับเลดี้มากมาย..ข้อเสนอของเรานั้นยังคงต้องรักษาเพียงแต่นาทาเลียและองค์รัชทายาทยังไม่พร้อม”องค์จักรพรรดิเบนสายตาไปมองหน้าของลูกชายเขา คำกล่าวของแกรนด์ดยุคนั้นก็ถือว่ามีส่วนที่จริงอยู่เหมือนกัน เดิมทีเขาคือดยุคที่ไม่ได้มีสายเลือดของราชวงศ์อะไรเลย แต่แกรนด์ดยุคอาโมรีรุ่นก่อนกลับหยิบยื่นอำนาจที่ใครๆ ต่างไขว่คว้ามาให้เขา ด้วยพันธสัญญาว่าราชวงศ์เบลซที่พึ่งจะสถาปนาขึ้นมาใหม่จะต้องแต่งงานกับทายาทของอาโมรีเขาไม่ได้อยากจะกดดันอะไรเลย เพียงแต่เรื่องการเป็นราชวงศ์ของเขาก็ถูกจับตามองอยู่เหมือนกัน แน่นอนหากว่าเขาได้อำนาจของอาโมรีมาช่วยค้ำจุนราชวงศ์ ความมั่นคงมันก็จะมีมากขึ้นยามนี้ทั้งท่านหญิงนาทาเลียและโอเวนยังคงเล่นสนุกกับงานเลี้ยงต่างๆ น
นาทาเลียยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่มและเมื่อเธอยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่ม เหล่าบรรดาสาวใช้ทั้งหลายก็เดินถอยหลังไปราวสิบเก้า ราวกับว่าการกระทำของเธอมันคือคำสั่งอะไรสักอย่างแต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน เพราะว่าในยามนี้มีเรื่องที่เธอไม่เข้าใจอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือองค์รัชทายาทโอเวน เขามานั่งปั้นยิ้มอยู่ที่คฤหาสน์ของเธอทำไมกัน“บรรยากาศที่คฤหาสน์ของเจ้านั้นช่างแตกต่างยิ่งนัก มิน่าเล่า เจ้าถึงไม่ค่อยออกงานในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะว่าเจ้ามีสวนที่แสนงดงามพวกนี้นี่เอง ข้าก็หลงคิดว่าเจ้าป่วยไข้หรือว่าไม่สบาย”หางคิ้วของนาทาเลียกระตุกเบาๆ เธอไม่ได้อยากจะพูดคุยกับคนเช่นองค์รัชทายาทสักเท่าไหร่นัก“บอกเหตุผลของฝ่าบาทมาเถอะเพคะ เราสองคนใช่คนที่จะสามารถมาดื่มชาด้วยกันอย่างนั้นหรือ?”“นาทาเลีย ถึงอย่างไรตำแหน่งพระชายาของข้ามันก็จะต้องเป็นของเจ้า เพราะอย่างนั้นมาญาติดีกันเอาไว้ตั้งแต่ในยามนี้ย่อมเหมาะสมยิ่งแล้ว”อีกเหตุผลที่เธอไม่ค่อยชอบราชวงศ์มากเท่าไหร่นัก คืออีกสองปีเมื่อวิตอเรียปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งองค์จักรพรรดิและองค์รัชทายาทจะหลงลืมการมีอยู่ของนาทาเลียไปจนหมดสิ้น พวกเขาให้ความสนใจกับอำนาจของพลังศักดิ์สิทธิ์มาก
นาทาเลียมองหน้าของโลเวลอีกครั้ง เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเรียกสติของตัวเองกลับมา“เช่นนั้นเรื่องที่เจ้าเขียนมาในจดหมาย เรื่องของเลดี้สกาเล็ต..หมายความว่าเจ้าให้คนมาแอบดูข้าอย่างนั้นหรือ?”โลเวลจุดยิ้มขึ้นด้วยความพึงพอใจ สาบานได้เลยว่าคราแรกเขาเกือบจะยอมแพ้เรื่องการเป็นผู้นำตระกูลบาทาซาร์แล้ว หากว่าเขาไม่ได้พบเจอกับเธอก่อน และในตอนนี้จะเรียกว่าเธอคือแสงสว่างของเขาก็คงจะไม่ผิด ในทางเดินที่มืดมิดท่านหญิงนาทาเลียเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับขวดไวน์ในมือ ราวกับนางกำลังบอกกล่าวกับเขา ว่าเขาสามารถทำอะไรกับนางก็ได้ในช่วงที่นางกำลังเมามายไม่ได้สติ เขาไม่เคยโลภหรือว่าอยากจะได้สิ่งใดมาก่อนเลยจนได้มาพบเธอโลเวลคิดว่าหากเขาได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับท่านหญิงอาโมรี เส้นทางการแย่งชิงอำนาจในตระกูลมันคงจะง่ายดายมากกว่าเดิม ทว่าด้วยการปฏิเสธในครั้งแรกมันทำให้เขามองเห็นความสั่นไหวในสายตาของเธออย่างเห็นได้ชัดเจน ราวกับว่านางมีเรื่องที่บอกใครไม่ได้อยู่..อีกทั้งเท่าที่เขาเห็น ท่านหญิงอาโมรีไม่ได้ใกล้เคียงกับข่าวลือเลย นางไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับที่เขาได้ยินมา อีกทั้งเขายื่นข้อเสนอเรื่องที่ให้เธอนอนกับเขาไปแล้
แกสทอนเดินเข้าที่คฤหาสน์ของท่านหญิงนาทาเลีย เขาเลิกคิ้วเพื่อเป็นการกล่าวถามอีฟถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าตกลงแล้วมันเป็นอย่างไรกันแน่“ท่านหญิงดูเหมือนว่าจะพึ่งกลับมาจากพระราชวังค่ะ และ..สภาพจิตใจของท่านหญิงนั้นไม่สู้ดีสักเท่าไหร่”แกสทอนพยักหน้า เขาเดินเข้าไปในห้องนอนของนาทาเลีย เธอกำลังนอนหลับอยู่บนเตียงนอนที่แสนกว้างใหญ่ แต่ทว่าที่หางตากลับเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา เขานั่งลงข้างๆ เตียงพร้อมกับค่อยๆ ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับไปที่หางตาของเธอด้วยความแผ่วเบานาทาเลียค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเล็กน้อย และเมื่อเธอมองเห็นแกสทอนหัวใจที่เจ็บปวดของนาทาเลียก็เหมือนว่าจะค่อยๆ ดีขึ้น“แกสทอน..”“ขอโทษด้วยนะครับ หากว่าข้าทำให้ท่านตื่น”นาทาเลียส่ายหน้าเบาๆ“ไม่เป็นไรหรอก ข้าเองก็นอนมานานมากพอสมควรแล้วเหมือนกัน เจ้าขึ้นมานอนบนนี้สิ”เขามองหน้าเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน เพียงแค่มองใบหน้านั้นของเธอก็ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าโลกทั้งใบกำลังหยุดหมุนแกสทอนไม่ได้ลังเลกับการขึ้นไปนอนบนเตียงของเจ้านาย เพราะเขามักจะทำอะไรตามความต้องการของตัวเองเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน ในเวลานี้ไม่มีเจ้านายหรือว่าพ่อบ้านอะไรทั้งนั้น มี
ความเป็นชายร้อนผ่าวแนบลงมาบนขา นาทาเลียเหลือบไปมองก็พบว่าส่วนนั้นของเขากำลังสอดแทรกเข้าไปด้านในอย่างช้าๆ“อึ่ก..”“ผ่อนคลายนาทาเลีย ข้ารู้ดีว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่จะทนไหว แต่เจ้าจะต้องผ่อนคลาย โอบรัดข้าแน่นปานนั้นใจคอจะทำให้ข้าขาดใจตายเลยหรืออย่างไรกัน”สะโพกของเธอถูกมือของเขายึดเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้นาทาเลียได้มีโอกาสถอนสะโพกหนีโอเวนยิ้มออกมาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลแรงปรารถนาซัดสาดไปทุกหนทุกแห่งจนร่างกายสั่นสะท้าน เขาจ้องมองใบหน้าของนาทาเลียพร้อมกับขยับเอวสอบกระแทกกระทั้นเข้าไปอย่างไม่มีความปรานี ส่วนที่เหลือสอดแทรกเข้าไปด้านในจนสุดลำแท่งเขากัดกรามแน่นพร้อมกับฝ่ามือที่เลื่อนไล้ไปตามผิวกายเปลือย มือของโอเวนขยำไปมากับเนินเนื้อคู่สวย"พอทำแบบนี้พร้อมๆ กันถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เลยอย่างนั้นหรือ นาทาเลียเจ้าชอบการกระทำของข้าก็บอกมาเถอะ ร่างกายของเจ้าตอบสนองเช่นนี้แล้ว อันที่จริงมันชัดเจนมากจนข้าไม่ต้องเอ่ยถามก็ได้..”แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอยากได้ยินว่าเธอสุขสมกับการกระทำของเขา อยากได้ยินว่าเธอกำลังมีความสุขภายใต้ร่างกายเขาความเป็นชายของเขาแทรกลึกเข้ามาก่อนจะถูกดึงออกเพื่อรอ
เมื่อเหล่าสตรีมากมายในห้องนอนขององค์รัชทายาทเห็นท่านหญิงอาโมรีซึ่งกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับออกปากไล่พวกนาง แน่นอนว่าสภาพของสตรีแต่ละคนมันไม่แตกต่างกันเลย และพวกนางกำลังหยิบคว้าผ้าห่มและชุดเดรสที่กระจัดกระจายไปตามพื้นขึ้นมาปกคลุมร่างกายเอาไว้ แล้ววิ่งหนีออกจากห้องไป สกาเล็ตมองที่องค์รัชทายาท แต่ทว่าพระองค์ก็ไม่มีการเอ่ยปากเพื่อรั้งเธอหรือว่าสตรีใดเอาไว้ บนใบหน้าที่หล่อเหลาของพระองค์มันเต็มไปด้วยความตื่นตกใจในแบบที่เหมือนกับว่าการที่ท่านหญิงมาหาพระองค์ที่นี่ในวันนี้มันคือเรื่องที่นอกเหนือการควบคุม และเมื่อสกาเล็ตเดินจากไปเป็นคนสุดท้าย ประตูห้องนอนขององค์รัชทายาทก็ปิดลง มือของนาทาเลียสั่นเทา เธอมองหน้าของโอเวนที่กำลังมีสีหน้าตื่นตกใจ ซึ่งเธอไม่ได้แปลกใจกับสีหน้าเช่นนั้นของเขาสักเท่าไหร่นัก เพราะเขาคงไม่คิดว่าเธอจะมาที่นี่มาหาเขาในยามนี้ ไม่ใช่เขาคนเดียวหรอกที่ไม่เคยคิด เพราะหากไม่ติดว่าจะต้องทำภารกิจเธอก็ไม่อยากจะมาเหยียบที่นี่เหมือนกัน! นาทาเลียคิดว่าตัวเองในยามนี้กำลังทำเรื่องที่น่าสมเพชมากที่สุด เธอสูญเสียศักดิ์ศรีและสูญสิ้นความเป็นมนุษย์ไปให้ระบบเกมบ้าๆ นี่ ทว่าเธอไม่มีทางเลือก เ
นาทาเลียมองหน้าของโลเวลอีกครั้ง เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเรียกสติของตัวเองกลับมา“เช่นนั้นเรื่องที่เจ้าเขียนมาในจดหมาย เรื่องของเลดี้สกาเล็ต..หมายความว่าเจ้าให้คนมาแอบดูข้าอย่างนั้นหรือ?”โลเวลจุดยิ้มขึ้นด้วยความพึงพอใจ สาบานได้เลยว่าคราแรกเขาเกือบจะยอมแพ้เรื่องการเป็นผู้นำตระกูลบาทาซาร์แล้ว หากว่าเขาไม่ได้พบเจอกับเธอก่อน และในตอนนี้จะเรียกว่าเธอคือแสงสว่างของเขาก็คงจะไม่ผิด ในทางเดินที่มืดมิดท่านหญิงนาทาเลียเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับขวดไวน์ในมือ ราวกับนางกำลังบอกกล่าวกับเขา ว่าเขาสามารถทำอะไรกับนางก็ได้ในช่วงที่นางกำลังเมามายไม่ได้สติ เขาไม่เคยโลภหรือว่าอยากจะได้สิ่งใดมาก่อนเลยจนได้มาพบเธอโลเวลคิดว่าหากเขาได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับท่านหญิงอาโมรี เส้นทางการแย่งชิงอำนาจในตระกูลมันคงจะง่ายดายมากกว่าเดิม ทว่าด้วยการปฏิเสธในครั้งแรกมันทำให้เขามองเห็นความสั่นไหวในสายตาของเธออย่างเห็นได้ชัดเจน ราวกับว่านางมีเรื่องที่บอกใครไม่ได้อยู่..อีกทั้งเท่าที่เขาเห็น ท่านหญิงอาโมรีไม่ได้ใกล้เคียงกับข่าวลือเลย นางไม่ได้เลวร้ายเหมือนกับที่เขาได้ยินมา อีกทั้งเขายื่นข้อเสนอเรื่องที่ให้เธอนอนกับเขาไปแล้
นาทาเลียยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่มและเมื่อเธอยกถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่ม เหล่าบรรดาสาวใช้ทั้งหลายก็เดินถอยหลังไปราวสิบเก้า ราวกับว่าการกระทำของเธอมันคือคำสั่งอะไรสักอย่างแต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน เพราะว่าในยามนี้มีเรื่องที่เธอไม่เข้าใจอยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือองค์รัชทายาทโอเวน เขามานั่งปั้นยิ้มอยู่ที่คฤหาสน์ของเธอทำไมกัน“บรรยากาศที่คฤหาสน์ของเจ้านั้นช่างแตกต่างยิ่งนัก มิน่าเล่า เจ้าถึงไม่ค่อยออกงานในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะว่าเจ้ามีสวนที่แสนงดงามพวกนี้นี่เอง ข้าก็หลงคิดว่าเจ้าป่วยไข้หรือว่าไม่สบาย”หางคิ้วของนาทาเลียกระตุกเบาๆ เธอไม่ได้อยากจะพูดคุยกับคนเช่นองค์รัชทายาทสักเท่าไหร่นัก“บอกเหตุผลของฝ่าบาทมาเถอะเพคะ เราสองคนใช่คนที่จะสามารถมาดื่มชาด้วยกันอย่างนั้นหรือ?”“นาทาเลีย ถึงอย่างไรตำแหน่งพระชายาของข้ามันก็จะต้องเป็นของเจ้า เพราะอย่างนั้นมาญาติดีกันเอาไว้ตั้งแต่ในยามนี้ย่อมเหมาะสมยิ่งแล้ว”อีกเหตุผลที่เธอไม่ค่อยชอบราชวงศ์มากเท่าไหร่นัก คืออีกสองปีเมื่อวิตอเรียปรากฏตัวขึ้นมา ทั้งองค์จักรพรรดิและองค์รัชทายาทจะหลงลืมการมีอยู่ของนาทาเลียไปจนหมดสิ้น พวกเขาให้ความสนใจกับอำนาจของพลังศักดิ์สิทธิ์มาก
มื้ออาหารแสนหรูหราในพระราชวังซึ่งถูกจัดขึ้นมาเพื่อต้อนรับแกรนด์ดยุคอาโมรีโดยเฉพาะ มีขุนนางมากหน้าหลายตาที่เข้ามาร่วมในงานเลี้ยงนี้ด้วย“ข้อตกลงของเรานั้น ท่านยังต้องการเวลาในการทำความเข้าใจอีกหรือไม่แกรนด์ดยุค”อลาโนยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม เขาส่งยิ้มให้กับองค์จักรพรรดิซึ่งกำลังคาดหวังกับคำตอบของเขาอยู่“นาทาเลียยังเด็ก อีกทั้งองค์รัชทายาทก็ยังทรงสนุกอยู่กับการเล่นกับเลดี้มากมาย..ข้อเสนอของเรานั้นยังคงต้องรักษาเพียงแต่นาทาเลียและองค์รัชทายาทยังไม่พร้อม”องค์จักรพรรดิเบนสายตาไปมองหน้าของลูกชายเขา คำกล่าวของแกรนด์ดยุคนั้นก็ถือว่ามีส่วนที่จริงอยู่เหมือนกัน เดิมทีเขาคือดยุคที่ไม่ได้มีสายเลือดของราชวงศ์อะไรเลย แต่แกรนด์ดยุคอาโมรีรุ่นก่อนกลับหยิบยื่นอำนาจที่ใครๆ ต่างไขว่คว้ามาให้เขา ด้วยพันธสัญญาว่าราชวงศ์เบลซที่พึ่งจะสถาปนาขึ้นมาใหม่จะต้องแต่งงานกับทายาทของอาโมรีเขาไม่ได้อยากจะกดดันอะไรเลย เพียงแต่เรื่องการเป็นราชวงศ์ของเขาก็ถูกจับตามองอยู่เหมือนกัน แน่นอนหากว่าเขาได้อำนาจของอาโมรีมาช่วยค้ำจุนราชวงศ์ ความมั่นคงมันก็จะมีมากขึ้นยามนี้ทั้งท่านหญิงนาทาเลียและโอเวนยังคงเล่นสนุกกับงานเลี้ยงต่างๆ น
กว่านาทาเลียจะกลับมาถึงคฤหาสน์อาโมรีก็ปาเข้าไปช่วงเย็น เมื่อรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์ อลาโนก็เดินเข้ามาหาน้องสาวของเขาในทันทีและเมื่อนาทาเลียเห็นหน้าพี่ชายของเธอ มันก็รู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าเธอคือเด็กที่แอบหนีเที่ยวแต่กลับถูกจับได้ยังไงไม่รู้สิ“เทียร์มาคุยกันหน่อยสิ”นาทาเลียขบเม้มริมฝีปากเบาๆ พร้อมกับเดินตามพี่ชายเข้าไปที่คฤหาสน์อลาโนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์ของเธอสักเท่าไหร่ และเมื่อนาทาเลียเข้ามานั่งด้านใน สาวใช้ก็รีบยกน้ำชาเข้ามาในทันที“เรื่องของลูกชายคนรองของเคาน์บาทาซาร์”อ่า..เป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะต้องถูกตำหนิ เรื่องนั้นนาทาเลียคิดเอาไว้อยู่และ และเธอจะยินยอมให้ท่านพี่สั่งสอนเธอ เพราะดูเหมือนว่าครั้งนี้เธอจะก่อเรื่องเอาไว้ใหญ่มากพอสมควร“หากเจ้าชอบเขาจริงๆ เช่นนั้นวันพรุ่งนี้พี่จะให้คนของเราไปพาเขาอยู่ที่คฤหาสน์ของเจ้าดีหรือไม่”นาทาเลียถึงกับสำลักน้ำชาที่เธอกำลังยกขึ้นมาดื่ม เธอคิดว่าท่านพี่จะตำหนิหรือไม่ก็ด่าทอเรื่องที่เธอทำให้ชื่อเสียงของอาโมรีเสื่อมเสีย แต่กลับกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน“ข้า..ไม่ได้ชอบเขาค่ะ ขอบคุณมากสำหรับความเมตตาของท่านพี่แต่กั
นาทาเลียค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเล็ดลอดเข้ามาในห้องนอน ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความปวดศีรษะที่เธอต้องยกมือขึ้นมานวดขมับเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกกระหายน้ำอย่างรุนแรงจนต้องเดินลงจากเตียงเพื่อไปหาน้ำมาดื่มดับกระหาย“อีฟ..”นาทาเลียเรียกชื่ออีฟด้วยความเคยชิน ทว่าในห้องนอนที่เธอกำลังนอนอยู่นี้มันกลับไม่ใช่ห้องนอนแสนหรูหราที่คุ้นชินสายตาเลยแม้แต่น้อย แถมบนเตียงที่เธอพึ่งจะลุกออกมาก็มีคนนอนอยู่นาทาเลียกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาดด้วยความรู้สึกประหม่าพอสมควร ความทรงจำสุดท้ายที่เธอจำได้คือเธอกำลังกอดขวดไวน์เอาไว้ในอ้อมแขน พร้อมกับพูดคุยกับ..ชายผู้มีดวงตาที่น่าจดจำ เพราะว่าดวงตาทั้งสองข้างของเขามันคนละสีกัน และเมื่อนาทาเลียเดินไปที่เตียงเธอก็ยกมือขึ้นมานวดขมับตัวเองเบาๆ เพราะว่าผู้ที่นอนอยู่บนเตียงนั้นคือชายผู้มีดวงตาสองสีที่เธอพูดคุยด้วยไม่ผิดแน่เมื่อก้มมองชุดตัวเองก็พบว่าเธอไม่ได้สวมชุดเดรสสีน้ำเงินอย่างที่ควรจะเป็นแต่กลับสวมชุดนอนสบายๆ เครื่องประดับมากมายที่เธอสวมมาถูกถอดพร้อมกับวางเอาไว้บนโต๊ะ ส่วนชุดเดรสของเธอสวมเอาไว้ในหุ่นไม้ซึ่งมันน่าจะผ่านก
แล้ว..ทำไมฉันจะต้องสนใจชื่อเสียงของนายด้วยล่ะ ทีก่อนหน้านี้เป็นนายไม่ใช่เรอะที่ทำให้นาทาเลียอับอายน่ะ!!เพราะอย่างนั้นมือของนาทาเลียจึงไม่ยกมือขึ้นวางบนมือขององค์รัชทายาทอย่างที่ควรจะเป็น เธอเบือนหน้าหนี ก่อนจะเดินจากไปด้วยความไม่ไยดีคนเช่นองค์รัชทายาทโอเวนที่ไม่ชอบความพ่ายแพ้เขาจะต้องหาสตรีสักนางมาควงในวันนี้ แทนเธอเป็นแน่ และหากเธอเดาไม่ผิดบนใบหน้าที่แสนหล่อเหลานั่นกำลัง..โกรธเคืองเธอชนิดที่ว่าอยากจะพุ่งตัวเข้ามากระชากคอเสื้อของเธอให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยโอเวนหรี่ตามมองแผ่นหลังของนาทาเลียที่กำลังเดินออกห่างไปเรื่อยๆ เขาแสยะยิ้มออกมาพร้อมกับหัวเราะเบาๆ ใบหน้าหล่อเหลาพลันบิดเบี้ยวด้วยอารมณ์โกรธที่อัดแน่นในอก เพียงแต่อารมณ์นั้นมันจะมาระเบิดกลางงานเลี้ยงเช่นนี้ไม่ได้ เพราะว่าเขาจะต้องรักษาภาพลักษณ์ของราชวงศ์“เลดี้สกาเล็ต..เรามองเจ้ามานานแล้วเต้นรำกับเราสักเพลงสิ”สตรีผู้นั้นมองใบหน้าหล่อเหลาขององค์รัชทายาทด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความลุ่มหลง ใบหน้าของนางแดงซ่าน สกาเล็ตแย้มยิ้มด้วยความเอียงอายก่อนที่เธอจะวางมือของตัวเองลงบนมือขององค์รัชทายาท“เป็นเกียรติยิ่งแล้วเพคะฝ่าบาท”นาทาเลียคว้าขวดไว