Share

บทที่ 54

Author: ซ่งจิ้น
ซังหนี่กลับมาถึงเมืองถงแล้ว

ซังหนี่ไม่รู้ว่านายท่านซัง ยังให้คนคอยจับตาดูเธออยู่หรือเปล่า แต่ว่าเธอไม่ได้จงใจหลีกเลี่ยงที่จะพบกับจวงโหย่วเหวย

ภัตตาคารฉีฝู———ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของเมืองถง

ตอนที่ซังหนี่มาถึง จวงโหย่วเหวยก็นั่งอยู่ตรงนั้นแล้ว กำลังนั่งไขว่ห้างพูดจาแทะโลมพนักงานที่อยู่ด้านข้าง

แววตาของเขาไร้ซึ่งการยับยั้งชั่งใจ กำลังพูดในเรื่องหยาบโลน ดวงตาของเด็กสาวแดงก่ำไปหมด แต่ว่าไม่กล้าแสดงอาการ ทำได้เพียงก้มหน้าและยืนอยู่ตรงนั้น ถือเมนูอาหารที่อยู่ในมือไว้แน่น

แม้ว่าจะเตรียมใจมาพร้อมแล้วก็ตาม แต่วินาทีที่มองเห็นโจวโหย่วเหวยอีกครั้ง หัวใจของซังหนี่ก็อดที่จะตึงเครียดไม่ได้!

และในตอนนั้นเอง โจวโหย่วเหวยก็มองเห็นเธอแล้ว

เขาลุกขึ้นยืนในฉับพลัน โบกมือให้เธออย่างตื่นเต้น “เยว่เยว่!”

หลังจากที่ซังหนี่ยืนกุมมืออยู่ชั่วขณะ ท้ายที่สุดก็เดินเข้าไป

ชีวิตของพนักงานคนนั้นเหมือนได้รับการปลดปล่อย หลังจากที่ซังหนี่เดินเข้ามาแล้ว ก็รีบวางเมนูอาหารแล้วจากไปในทันที

จวงโหย่วเหวยยังคงจับจ้องขาคู่นั้นของเธอ หลังจากผ่านไปไม่นาน เขาถึงได้มองมาที่ซังหนี่อีกครั้ง พลางแสยะยิ้ม “ไม่เจอกันนานเลยนะเยว
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 55

    ผ่านไปสักพัก เธอถึงได้หันหน้ากลับมา “ได้ คุณไปพูดเลยสิ”คำตอบนี้ของเธอ ทำให้จวงโหย่วเหวยตะลึงงันไปชั่วขณะเขายังไม่ทันจะตั้งสติได้ ซังหนี่ก็เดินไปข้างหน้าแล้วจวงโหย่วเหวยตบโต๊ะด้วยความโกรธ ขณะที่เตรียมจะเดินตามไปนั้น บริกรชายคนหนึ่งกลับขวางเขาเอาไว้ “คุณผู้ชายครับ คุณยังไม่ได้ชำระเงิน” “จ่ายเงินอะไรกัน? ฉันยังไม่ได้สั่งอาหารเลย!”“คุณผู้ชายครับ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้สั่งอาหาร แต่พวกเราก็ต้องเก็บค่าบริการอื่น ๆ ครับ”ขณะที่คนผู้นั้นกำลังพูด สายตาก็เหลือบมองไปที่จวงโหย่วเหวยสองสามครั้งสายตาแห่งความดูถูกชัดเจนยิ่งขึ้นอย่างมากจวงโหย่วเหวยโกรธจนตัวสั่น ในขณะที่กำลังเตรียมจะเอาบัตรธนาคาร ที่มีเงินฝากห้าแสนหยวนใบนั้นของตัวเองตบไปที่ใบหน้าของเขา ก็มีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น “ฉันจ่ายเองค่ะ”เมื่อได้ยินเสียง ใบหน้าของจวงโหย่วเหวยก็อดที่จะเปลี่ยนสีไม่ได้ตอนที่หันหน้ามาอย่างกะทันหัน ซังฉิงก็กำลังยื่นบัตรธนาคารของตนเองให้กับบริกรชายพอดี หลังจากนั้น ก็หันหน้ามาทางเขาแล้วยิ้ม “คุณคือคุณลุงจวงใช่ไหมคะ?”“เธอคือ…” “ฉันเป็นน้องสาวของซังหนี่ค่ะ ซังฉิง”“โอ้ เด็กที่เก็บมาเลี้ยงของตระกูลซ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 56

    ซังหนี่กับจ้าวจิ้งเหยานัดกันที่ร้านอาหารแบบส่วนตัวแห่งหนึ่งซังหนี่นับว่าอาศัยอยู่ที่เมืองถงมาเป็นเวลาหลายปีมากแล้ว ทว่าหากวันนี้ไม่ใช่จ้าวจิ้งเหยาพาเธอมา เธอก็คงไม่รู้ว่าเมืองถงมีสถานที่เช่นนี้อยู่ด้วยร้านอาหารแห่งนี้ สร้างอยู่ในจุดเชื่อมต่อระหว่างชานเมืองและตัวเมืองของเมืองถง กำแพงสีขาวหลังคาสีดำ ภายในร้านอาหารยังมีสระดอกบัวและป่าไผ่ด้วย มองดูแวบแรก ซังหนี่ยังนึกว่าที่นี่เป็นสวนพฤกษาที่ให้คนมาเที่ยวเล่นเสียอีกผู้จัดการร้านอาหารเป็นหญิงสาวคนหนึ่งหน้าตาของเธอไม่ถือว่าโดดเด่นมากนัก ทว่าบุคลิกดีมาก คำพูดคำจาก็อ่อนโยนมากเช่นกันเห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ จ้าวจิ้งเหยาได้ติดต่อกับเธอไว้แล้ว ตอนนี้แม้กระทั่งอาหารก็ไม่ต้องสั่ง ผู้หญิงคนนั้นเพียงแค่ช่วยเสิร์ฟน้ำชาให้พวกเขา จากนั้นก็ถอยกลับออกไป“วัตถุดิบของพวกเขาล้วนแต่เตรียมวันต่อวัน ดังนั้นหากอยากทานอะไรต้องบอกล่วงหน้าหนึ่งวัน เมื่อวานผมเลยตัดสินใจเอาเอง คุณไม่ถือสาใช่ไหมครับ?”จ้างจิ้งเหยายิ้มอย่างอ่อนโยน บนใบหน้ามองไม่เห็นร่องรอยของความโกรธ ที่เมื่อสองวันก่อนซังหนี่ขาดการติดต่อไปเลยแม้แต่น้อยซังหนี่รีบส่ายหัว “ไม่เป็นไรค่ะ”จ้าว

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 57

    “ไม่รู้ว่าคืนนี้ประธานฟู่ก็มาที่นี่เหมือนกัน ถ้ารู้ตั้งแต่แรกจะได้เชิญคุณมาด้วยกัน”จ้าวจิ้งเหยาพูดด้วยรอยยิ้ม ท่าทางไม่ถ่อมตัวหรือเย่อหยิ่ง ราวกับไม่มีความกระอักกระอ่วนเลยแม้แต่น้อยฟู่เซียวหานปล่อยมือ สายตาเหลือบมองคนที่อยู่ด้านข้างอยู่ชั่วครู่เธอยังคงก้มหน้า เห็นได้ชัดว่าไม่มีเจตนาจะทักทายเขาฟู่เซียวหานก็ไม่ได้มองเธออีก เพียงแค่ตอบคำถามของจ้าวจิ้งเหยาเท่านั้น “ในเมื่อเป็นการเดต ผมก็ไม่ขอรบกวนดีกว่า แล้วพบกันใหม่ครับ” “ครับ แล้วพบกันใหม่”หลังจากการทักทายกันสั้น ๆ แล้ว เถ้าแก่เนี้ยก็นำฟู่เซียวหานเดินต่อไปข้างหน้า และจ้าวจิ้งเหยาก็กลับไปนั่งตรงข้ามซังหนี่“ผมไม่รู้ว่าคืนนี้เขาก็จะมาที่นี่เหมือนกัน”จ้าวจิ้งเหยากล่าวอธิบายกับซังหนี่“ไม่เป็นไรค่ะ”สีหน้าของซังหนี่กลับคืนมาเป็นปกติแล้ว และยิ้มให้กับจ้าวจิ้งเหยาจ้าวจิ้งเหยาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเช่นกันทว่าเมื่อครู่นี้ หัวข้อสนทนาทั้งหมดระหว่างพวกเขาทั้งสองคน ล้วนเป็นจ้าวจิ้งเหยาที่เป็นผู้เริ่ม ในเวลานี้เมื่อเขาเงียบลง บรรยากาศระหว่างคนสองคน จึงดูอึดอัดและกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันทีซังหนี่ครุ่นคิดบางอย่างอยู่ชั่วครู่ พอกำลังเต

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 58

    จวงโหย่วเหวยไม่พูดอะไร เพียงแค่หรี่ตามองเธอเท่านั้นทว่าซังหนี่กลับหัวเราะออกมา “ทำไมถึงไม่พูดแล้วล่ะ?”“ซังหนี่”เมื่อเห็นบรรยากาศตึงเครียด ท้ายที่สุดจ้าวจิ้งเหยาก็ลุกขึ้นมา พลางดึงมือของซังหนี่ซังหนี่กลับไม่ยอมอ่อนข้อ “คุณไม่ไปใช่ไหม ได้ งั้นฉันไปเอง”กล่าวจบ ซังหนี่ก็หันหลังกลับเตรียมจะไปจ้าวจิ้งเหยากำลังจะตามไป จวงโหย่วเหวยกลับกล่าวออกมาอย่างช้า ๆ ว่า “โอ้ สมแล้วที่เป็นคุณหนูใหญ่มาหลายปี มีความมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยม”“แต่ว่านะซังหนี่ เป็นมนุษย์ไม่ควรลืมรากเหง้าของตัวเอง ตอนนั้นหากไม่ใช่ฉันละก็ เธอคงอดตายไปตั้งนานแล้ว จะมีเรี่ยวแรงมาชี้นิ้วอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน?”“ตอนนี้กลับหันมารังเกียจที่ฉันไร้ประโยชน์อย่างงั้นเหรอ? ฉันจะบอกเธอให้นะซังหนี่ ฉันคำนึงถึงสถานะพ่อลูกของพวกเรา เลยไม่อยากพูดอะไรที่มันแสลงหูเท่านั้น หากเธอไม่ไว้หน้ากันขนาดนี้ละก็ ถ้าฉันเอาเรื่องของเธอในตอนนั้นออกมาพูด ก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน!”เมื่อจวงโหย่วเหวยกล่าวจบ ฝีเท้าของซังหนี่ก็ค่อย ๆ หยุดลงหลังจากนั้น เธอก็หันกลับมาจวงโหย่วเหวยกำลังมองดูเธอพลางยิ้มออกมา มีความมั่นใจอยู่บนใบหน้าอย่างชัดเจนแน่นอนว่าซัง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 59

    ผู้คนบนโลกใบนี้…ต่างก็เป็นแบบนี้กันหมดแม้ว่าเรื่องแบบนี้ จะว่าไปแล้วไม่ว่าใครต่างก็รู้ดีว่าเธอคือคนที่เป็นเหยื่อแต่แล้วยังไงล่ะ?แม้กระทั่งแม่แท้ ๆ ของเธอเองยังรับไม่ได้และรังเกียจเธอ นับประสาอะไรกับคนอื่น?ซังหนี่ไม่ได้อยู่ที่เดิมต่อเพื่อให้พวกเขาได้ดูเรื่องตลก เธอเพียงแค่เหลือบมองไปทางจ้าวจิ้งเหยา จากนั้นก็หันหลังจากไปในทันที“จวงเยว่! ซังหนี่! หยุดเดี๋ยวนี้นะ นังชั้นต่ำ!”เสียงโกรธกระฟัดกระเฟียดของจวงโหย่วเหวยดังมาจากด้านหลัง ทว่าซังหนี่ไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับไปมอง พลางเร่งฝีเท้าให้เร็วยิ่งขึ้นเดิมทีเธอคิดจะโบกรถสักคันแล้วก็จากไปทว่าเมื่อเธอออกมาจากร้านอาหารถึงได้พบว่า ตรงนี้มีระยะทางที่ห่างไกลจากถนนมาก และคนที่มาที่นี่ได้ ก็มีแต่คนที่มีฐานะและมีหน้ามีตา เดิมทีก็ไม่ต้องการแท็กซี่อยู่แล้วดังนั้นในตอนนี้ บนถนนจึงว่างเปล่า มีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นเดิมทีซังหนี่คิดจะใช้โทรศัพท์เรียกรถผ่านทางออนไลน์ทว่าเมื่อเธอหยิบโทรศัพท์ออกมา กลับพบว่านิ้วมือของตนเองสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เพียงแค่การปลดล็อก เธอก็ใช้เวลาไปหลายนาทีมากแล้วตอนที่เธอเปิดเธอโทรศัพท์ได้อย่างยากเย็นนั้น ก

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 60

    ฟู่เซียวหานไม่ได้ตอบรับคำพูดของเธอและเมื่อเขาไม่ได้เอ่ยปาก แน่นอนว่าคนขับรถที่อยู่ด้านหน้า ก็ไม่สามารถเชื่อฟังคำพูดของซังหนี่ได้เช่นกันซังหนี่อดที่จะกำมือเอาไว้แน่นยิ่งขึ้นไม่ได้เธอรู้ว่าฟู่เซียวหานไม่ได้สนใจตนเองเลย ในสายตาของเขา บางทีเธอเองก็อาจไม่เคยมีศักดิ์ศรีเลยด้วยซ้ำ ทว่าเวลานี้ มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นคือ เธอไม่อยากให้เขาเห็นว่าตัวเธอเองกำลังย่ำแย่ต่อให้ในใจของเขาจะเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่ดูถูก เย้ยหยัน หรือแม้กระทั่งรังเกียจก็ตามแต่เธอคิดแต่เพียงว่า อยากจะรักษาศักดิ์ศรีที่หลงเหลืออยู่เอาไว้เท่านั้นและศักดิ์ศรีเล็ก ๆ น้อยในตอนนี้ ก็เป็นเพียงแค่...การให้เธอลงจากรถอย่างมีศักดิ์ศรีทว่าต่อให้เป็นคำขอเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ ก็ดูเหมือนว่าฟู่เซียวหานจะไม่ต้องการทำตามความต้องการของเธอเขาไม่เอ่ยปาก คนขับรถก็ทำได้เพียงขับไปข้างหน้าเท่านั้นซังหนี่ยังอยากพูดอะไรต่อทว่ามือถือของเธอกลับดังขึ้นพอดีชื่อของคนที่อยู่บนนั้น…ก็เป็นไปตามการคาดเดาของเธอเช่นกัน“ซังหนี่ แกไสหัวกลับมาเดี๋ยวนี้นะ!”เสียงของนายท่านซังที่แฝงไปด้วยความเดือดดาล ลอดผ่านโทรศัพท์และสะท้อนก้องอยู่ในห้องโดยสา

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 61

    ทว่าซังหนี่หลบได้ทัน แจกันกระแทกกับพื้นและแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ เศษกระเบื้องกระเด็นมาบาดน่องของเธอ ทำให้เลือดไหลซิบทันที เพียงแต่ในเวลานี้ ไม่มีใครใส่ใจมัน นายท่านซังชี้หน้าเธอ “เธอตั้งใจทำแบบนั้นใช่ไหม? เธอจงใจทำแบบนี้ต่อหน้าคนมากมาย ก็เพื่อจะทำลายตัวเองให้ย่อยยับ และทำให้ทุกคนในเมืองนี้ได้รู้ว่า เธอเป็นนังแพศยาใช่ไหม?!” “ฉันให้กำเนิดลูกสาวที่น่าอัปยศแบบเธอได้ยังไงกันนะ? ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ ฉันจะบีบคอเธอให้ตาย ตั้งแต่ที่เธอคลอดออกมาซะ! ยิ่งไม่ควรจะพาเธอกลับมา เพื่อให้เธอทำลายชื่อเสียงของตระกูลซังเราแบบนี้!” รอบด้านไม่มีใครกล้าเอ่ยปากพูด เสียงของนายท่านซังดังลั่น และสะท้อนก้องอยู่ในห้องรับแขกอย่างต่อเนื่อง เปรียบเสมือนมีดเลาะกระดูก ที่เฉือนลงไปบนร่างกายของซังหนี่ทีละนิด แต่...เธอไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดเลย เธอไม่หลบสายตาของนายท่านซังด้วยซ้ำ เพียงแค่ยืนจ้องมองเขาอยู่ตรงนั้น “เธอยังกล้ามองฉันแบบนี้อีกเหรอ? ดี! ถ้าวันนี้ฉันไม่ตีเธอให้ตายล่ะก็ อย่าเรียกฉันแซ่ซัง!” ขณะที่พูด นายท่านซังก็ถอดเข็มขัดของตนเองออกมา และในจังหวะที่กำลังจะฟาดใส่ซังหนี่

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 62

    “พี่ พี่จะพูดกับหม่ามี๊แบบนี้ไม่ได้นะคะ!” โดยไม่รอให้คุณนายซังได้พูดอะไร ซังฉิงก็เดินมาหยุดข้างหน้า และมองซังหนี่ด้วยดวงตาที่แดงระเรื่อ “ท่านเป็นห่วงพี่จริง ๆ นะ พี่จะคิดกับท่านแบบนี้ไม่ได้!” ซังหนี่ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาอีกแล้ว ตอนนี้ แค่เธอมองดูพวกเขาก็รู้สึกคลื่นไส้เต็มทน ดังนั้นเธอจึงไม่ได้โต้ตอบคำพูดของซังฉิง ทำแค่หันหลังแล้วเดินจากไป “พี่คะ!” ซังฉิงทำหมือนอยากจะไล่ตามไป กลับถูกคุณนายซังหยุดเธอไว้ ก่อนที่จะตะโกนไล่หลังซังหนี่ “ได้! ซังหนี่ ถ้าก้าวออกจากประตูนี้ไป นับจากนี้ก็เชิญอดตายอยู่ข้างนอก อย่าคิดที่จะกลับมาอีก!” จบคำพูดนั้นของเธอ ฝีเท้าของซังหนี่พลันหยุดชะงักชั่วครู่หนึ่ง ในตอนแรกคุณนายซังคิดว่าเธอจะเปลี่ยนใจแล้ว กลายเป็นว่าซังหนี่หันกลับมาและพูดกับเธอ “เช่นนั้นฉันก็ขอบคุณค่ะ” กิริยาของเธอยังคงสงบนิ่งเหมือนเคย ทว่าความสงบนิ่งนี้ ในสายตาของคุณนายซัง กลับเป็น...ความไม่แยแส เหมือนงูพิษที่พ่นพิษออกมา และมองเหยื่อของเธอด้วยความเย็นชา คุณนายซังผงะถอยหลังไปสองสามก้าว ใบหน้าเปลี่ยนเป็นขาวซีดทันที ซังฉิงรีบเ

Latest chapter

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 278

    เมื่อฟู่เซียวหานยังเป็นเด็ก ครั้งหนึ่งเขาเคยเจอแมวจรจัดในโรงเรียนของพวกเขาลูกแมวตัวนั้นอาจเพิ่งคลอดได้ไม่นานแต่ไม่มีแม่แมวอยู่เคียงข้าง มีเพียงมันตัวเดียวที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าและส่งเสียงร้องอย่างอ่อนแรงฟู่เซียวหานเพียงเหลือบตามองมันแต่เขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจที่เปี่ยมล้น ดังนั้นหลังจากเหลือบมองครั้งหนึ่งเขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วแต่เขาไม่คาดคิดว่าลูกแมวตัวนั้นจะเดินตามหลังเขามาฝีเท้าของเขาไม่ได้นับว่าก้าวเดินช้า ทั้งที่ลูกแมวตัวนั้นยังไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงแต่ยังคงยืนหยัดเดินตามเขามาทีละก้าวและในขณะที่ฟู่เซียวหานกำลังจะเดินไปถึงหน้าประตูโรงเรียน ในที่สุดเขาก็หยุดฝีเท้าลงจากนั้นก็หมุนตัวเดินไปที่ร้านของชำด้านข้าง พร้อมซื้อไส้กรอกมาหนึ่งชิ้นลูกแมวตัวน้อยกินอย่างมีความสุขดังนั้นนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฟู่เซียวหานจะเจอมันทุกครั้งหลังเลิกเรียนมันเป็นฝ่ายริเริ่มเข้ามาหาเขาก่อน หลังจากซุกไซร้เข้ากับฝ่ามือของเขาแล้วจึงรอให้เขาป้อนอาหารด้วยความเชื่อฟังและนับตั้งแต่นั้น ฟู่เซียวหานก็มักจะเตรียมขนมไว้ในกระเป๋านักเรียนของเขาเสมอในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาแม้กระทั่งตั้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 277

    ฟู่เซียวหานราวกับสงบสติลงแล้ว ในเวลานี้สองมือของเขายันเข้ากับพื้นโต๊ะ แผ่นหลังที่เหยียดตรงอยู่เสมอโค้งงอ เขาก้มศีรษะลง ดูจิตใจเหงาหงอยเศร้าซึมลงอย่างบอกไม่ถูกสวีเหยียนคิดอยากจะปลอบโยนเขา แต่ว่าสวีเหยียนไม่รู้เลยว่าตนควรจะพูดสิ่งใดและในขณะที่เขาลังเลนั้นเอง จู่ ๆ ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นพร้อมถามเขาว่า “มีบุหรี่ไหม?”สวีเหยียนชะงักไปกับคำถามที่เข้ามาอย่างกะทันหันนี้ หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็รู้สึกตัวและนึกขึ้นได้ว่าฟู่เซียวหานเลิกบุหรี่ไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้เขารีบส่งซองบุหรี่ที่พกติดตัวไปอย่างไม่ลังเล พร้อมกล่าวว่า “บุหรี่ยี่ห้อนี้แตกต่างกับที่คุณคุ้นเคย ให้ผมสั่งคนไปซื้อมาให้ไหมครับ?”“ไม่ต้อง”ฟู่เซียวหานพูดพลางหยิบบุหรี่ออกจากซองสวีเหยียนรีบส่งไฟแช็กที่จุดไฟแล้วไปให้อย่างรวดเร็วเพราะมือของเขายังคง…สั่นระริกอยู่ตลอดเวลาสวีเหยียนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทาเมื่อเห็นท่าทีของเขาเช่นนั้น โชคดีที่ครู่ต่อมาฟู่เซียวหานจุดบุหรี่ได้ในที่สุดสวีเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกฟู่เซียวหานสุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง หลังจากจ้องไปที่วงควันบนอากาศสักพัก เขาก็กล่าวว่า “เธอกำลังจะแต่งงานแล้ว”

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 276

    ฟู่เซียวหานมองภาพนั้นอยู่นานจนกระทั่งสวีเหยียนและผู้จัดการฝ่ายดำเนินการเข้ามากล่าวรายงานกับเขาได้ครู่ใหญ่ และพบว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดกลับมาเลย สวีเหยียนถึงจะตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ประธานฟู่ครับ?”เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นมองเขาดวงตาล้ำลึกคู่นั้นยังคงเปี่ยมด้วยความสงบอย่างเคยสวีเหยียนรู้สึกไปแม้กระทั่งว่าเมื่อกี้เป็นเขาที่คิดไปเอง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงยื่นเอกสารในมือให้เขา “นี่เป็นเอกสารที่ทางแผนกดำเนินการเพิ่งนำมาครับ ต้องใช้ลายเซ็นของคุณ”ฟู่เซียวหานเหมือนจะเอ่ยตอบรับในลำคอ และหยิบปากกาที่วางด้านข้างขึ้นมาสวีเหยียนและคนที่ยืนด้านข้างยืนรออยู่ฝั่งตรงข้ามหากยึดตามความเร็วในการตรวจสอบเอกสารของฟู่เซียวหานในอดีต เอกสารชุดนี้ก็จะใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบวินาทีเท่านั้น แต่ทั้งสองรอไปสักพักใหญ่ ก็พบว่าสายตาของฟู่เซียวหานยังคงหยุดอยู่ตรงหน้าแรกของเอกสาร“ประธานฟู่ครับ?”เขาทำได้เพียงเอ่ยถามอีกครั้ง ผู้จัดการฝ่ายดำเนินการกระทั่งเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ “ประธานฟู่ครับ เอกสาร…มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”ฟู่เซียวหานไม่กล่าวอะไรออกมา เพียงพลิกหน้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 275

    เขาคิดว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็จะยังคงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ราวกับสายน้ำแร่อันแสนอ่อนโยนที่คอยโอบอุ้มทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเอาไว้เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะจากไปและมากกว่านั้นคือเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากที่เธอจากไป เขาจะรู้สึก…เจ็บได้ถึงขนาดนี้——ราวกับสูญเสียอากาศและแหล่งน้ำที่จำต้องพึ่งพาเพื่อความอยู่รอดดังนั้น เขาคิดผิดไปอย่างไรก็ตาม มันก็เหมือนกันกับในตอนแรกที่เขาไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอได้อธิบาย ตอนนี้ เธอเองก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาเหนี่ยวรั้งเอาไว้เช่นกันความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ได้ถูกเธอตัดสินโทษประหารชีวิตเอาไว้แล้ว……ไม่กี่วันหลังจากนั้น ซังหนี่ยังคงไปทำงานที่บริษัทตามปกติข่าวการแต่งงานกับจี้อวี้หยวนไม่ใช่เรื่องที่เธอกุขึ้นมา แต่เป็นสิ่งที่พวกเขาปรึกษากันอย่างดีและตัดสินใจลงมือทำเพราะเวลาของคุณตาของจี้อวี้หยวนใกล้จะหมดลงแล้วชายชราไม่นับว่าอายุมากนัก แต่ก่อนหน้านี้จู่ ๆ เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือรู้จักกันทั่วไปว่าเป็นโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุยิ่งไปกว่านั้น อาการของเขาทรุดตัวลงไปอย่างรวดเร็ว จี้อวี้หยวนเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของเขา ความปรารถนาของผ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 274

    ทันทีที่คำพูดนี้ของฟู่เซียวหานหลุดออกจากปาก ซังหนี่พลันตกตะลึงจากนั้นเธอก็หัวเราะออกมา “จริงหรือคะ? แล้วนับว่าคุณชนะหรือเปล่า?”ฟู่เซียวหานไม่ตอบคำถามของเธอ ราวกับรู้สึกว่าคำถามนี้ไม่มีความจำเป็นต้องตอบเขาจึงเดินถือสัมภาระออกไปทั้งอย่างนั้นเสียงปิดประตูไม่ดังไม่เบา ไม่เจือไปด้วยอารมณ์ใด ๆ ซังหนี่เองก็ไม่ได้เหลือบมองไปฝั่งนั้นเลยด้วยซ้ำกล่าวตามตรง เดิมทีเธอไม่คิดจะพูดถ้อยคำเมื่อกี้ไปสักนิดเพราะมัน…ไม่มีความหมายอะไรอย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็จบลงแล้ว การที่จะไปขุดคุ้ยอารมณ์จากเรื่องราวในอดีตขึ้นมาอีกครั้งช่างเป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็นมันก็เหมือนกับผลไม้เน่าเสียที่แค่ต้องโยนทิ้งลงถังขยะไปก็เท่านั้น ทำไมต้องปอกเปลือกออกทีละชั้นเพื่อหาว่าตรงไหนกันที่เน่าเป็นจุดแรก?ท้ายที่สุดแล้ว บนมือก็หลงเหลือเพียงแกนกลางผลไม้ที่เน่าเปื่อยถึงจะยอมรับได้ในที่สุดว่า ——มันผิดมาตั้งแต่แรกแต่ซังหนี่เองที่อดใจไม่ไหวคำถามต่าง ๆ วนเวียนอยู่ในสมองของเธอ นับตั้งแต่เจิ้งชวนบอกกล่าวให้เธอฟังเกี่ยวกับเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ป นับตั้งแต่เธอรู้เรื่องว่าคุณนายฟู่ได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาแล้วไม

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 273

    เขาก็อาจมีความรู้สึกต่อเธออย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่รีบร้อนขนาดนั้นเวลาที่เธอมีเรื่องแต่ความรู้สึกนี้มีอยู่เท่าไหร่กันนะ?เป็นสิ่งที่ต่อท้ายจากผลประโยชน์ของเขา เป็นสิ่งที่หากมีเรื่องใดเกิดขึ้น เขาก็พร้อมจะใช้เธอเป็นไพ่ที่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างไม่ลังเลและการเหนี่ยวรั้งเธอไว้ตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่ตรงตามจังหวะขั้นตอนเพราะอย่างไรเสียเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ปก็ได้รับการแก้ไขแล้ว เขาได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการมาแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงหันมองย้อนกลับมานึกถึงไพ่ที่เขาทิ้งไปด้วยตัวเองตั้งแต่แรก?ถึงตอนนี้เขาจะเหนี่ยวรั้งไว้แล้วอย่างไร?ท้ายที่สุดก็โดนเขา…ทิ้งไปอยู่ดีซังหนี่ไม่คิดกล่าวโทษเขาเพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นนักธุรกิจคนหนึ่งอีกอย่างเธอรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนอื่น ๆ ต่างเห็นความรุ่งโรจน์ของเขา ทว่าจริง ๆ แล้วการจะมาถึงจุดนี้นั้นช่างแสนลำบาก ตอนนั้นคุณพ่อของเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เขาเองก็ยังอายุน้อยอยู่มาก ลับหลังล้วนมีแต่คนจับจ้องผลประโยชน์ตาเป็นมันดังนั้นการที่เขาจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์มาเป็นอันดับแรกจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ซังหนี่เกลียดภาพที่เขาแสดงออกมาว่

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 272

    “คุณหมายความว่าอะไร?”ฟู่เซียวหานถามเสียงต่ำซังหนี่ดึงเค้กก้อนนั้นกลับมาอีกครั้ง ในมือถือส้อมไว้แต่ไม่ได้ขยับ เธอเพียงเอ่ยถามเสียงเบาว่า “ปัญหาของทางจื้อเหอกรุ๊ปคุณจัดการแล้วหรือคะ?”ฟู่เซียวหานคาดไม่ถึงว่าจู่ ๆ เธอจะถามถึงเรื่องนี้ก่อนที่จะคิดได้ว่าควรตอบไปอย่างไร ซังหนี่ก็กล่าวเสริมขึ้นมา “วิกฤตการณ์ทางธุรกิจของจื้อเหอกรุ๊ปในปีที่แล้ว จริง ๆ แล้วเป็นเพียงระเบิดควันที่คุณวางไว้ใช่ไหมคะ?”“ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกฉันว่าจื้อเหอกรุ๊ปก่อตั้งมานานหลายสิบปี ซึ่งนั่นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วประเทศ มีทั้งชื่อเสียงทั้งรากฐานที่ยึดแน่น”“ข้อเสียคือในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ความกระตือรือร้นของพนักงานมากหน้าหลายตาล้วนถูกขัดเกลาจนแทบไม่หลงเหลือความรู้สึกนั้นอยู่ โดยเฉพาะเหล่าญาติสนิทมิตรสหายของผู้ถือหุ้นหลายราย แต่คุณรู้อยู่แก่ใจถึงการกระทำที่ไม่เอาการเอางานของพวกเขาดี ทว่ากลับไม่สามารถกำจัดทั้งหมดออกไปได้ เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นเก่าแก่ที่ร่วมทำงานหนักตรากตรำกันมากับคุณพ่อของคุณ หรือแม้แต่กับคุณปู่คุณด้วยซ้ำ หากคุณจะลงมือ มันก็คง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 271

    ไม่จำเป็นจะต้องเปิดโอกาสให้เธอหัวเราะเยาะเขาไปมากกว่านี้แต่ในเวลานี้ ฟู่เซียวหานยังคงควบคุมมันไม่ได้หลังจากสบตาเขาสักพัก ซังหนี่ก็ตอบว่า “เรื่องการแต่งงานเราได้ตัดสินใจกันไปเรียบร้อยในเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ค่ะ”“สำหรับเมื่อกี้…ประธานฟู่ที่มีประสบการณ์และความรู้กว้างขวางถึงเพียงนี้ หรือว่าคุณจะไม่รู้ว่าบนโลกนี้มีคำศัพท์อย่างคำว่าทำรักครั้งสุดท้ายเพื่อสิ้นสุดความสัมพันธ์งั้นหรือคะ? อีกอย่างไม่ว่าจะควรพูดหรือไม่ แต่ในช่วงที่ผ่านมานี้คุณได้ช่วยเหลือฉันไว้เยอะมากจริง ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสมควรที่ฉันจะตอบแทนคุณเพียงเพื่อให้คุณมีความสุขขึ้นมาบ้าง”ซังหนี่อธิบายเปี่ยมด้วยความจริงจังและจริงใจฟู่เซียวหานมองเธอพร้อมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ดังนั้นเมื่อกี้คุณ…ก็แค่อยากให้ผมมีความสุข?”“ใช่สิคะ ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นแล้วคุณคิดว่าอะไรล่ะ?”มือของฟู่เซียวหานที่จับเธอไว้ปล่อยออกแทบจะในทันที แม้แต่ดวงตาที่จับจ้องมาราวกับจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ เมื่อกี้นี้เองก็ลดสายตาลงเช่นกันสภาพเช่นนั้น ราวกับเขาอ่อนแรงไปอย่างกะทันหันอย่างไรอย่างนั้นเดิมทีซังหนี่คิดว่าเขายอมรับเรื่องนี้ได้แล้ว แต่วินาทีถัดมา ฟู่เ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 270

    ฟู่เซียวหานไม่อยากจะเชื่อเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน พวกเขาสองคนยังแนบชิดกันอยู่เลย แต่ตอนนี้ ซังหนี่กลับพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งว่าให้เขาออกฟู่เซียวหานนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนจะหัวเราะออกมา “คุณล้อผมเล่นใช่ไหม? ซังหนี่ คุณ……”“คุณกับโจวหลินทำข้อตกลงอะไรกัน?”ฟู่เซียวหานเดิมทีถอดถุงมือออกแล้วกำลังจะไปกอดเธอ แต่ซังหนี่กลับหลบเลี่ยงการกระทำของเขา แล้วถามเขาต่อสีหน้าจริงจังนั้น ทำให้มือของฟู่เซียวหานชะงักค้างกลางอากาศ สุดท้าย ก็ต้องค่อยๆ เก็บกลับไปแม้จะไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เธอพูดกับตัวเองตอนนี้ แต่ฟู่เซียวหานก็ตอบกลับไปว่า “เขามีปัญหาบางอย่างเรื่องการเงินที่ต่างประเทศ และผมเป็นคนช่วยจัดการให้เขา”“อืม ไม่น่าล่ะ”ซังหนี่พยักหน้าฟู่เซียวหานขมวดคิ้ว “ทำไมเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”“เปล่าค่ะ ตรงกันข้าม เพราะคุณช่วยเอาไว้ โครงการของเราถึงดำเนินไปอย่างราบรื่น เงินทุนก็ถูกโอนเข้ามาวันนี้แล้ว ไม่อย่างนั้น อาจต้องรอเป็นเดือนกว่าจะได้ข้อสรุป”ฟู่เซียวหานฟังแล้วกลับยิ่งไม่เข้าใจในเมื่อทุกอย่างราบรื่น แล้วทำไม…ราวกับรู้ว่าเขากำลังสงสัยอะไร ซังหนี่จึงพูดขึ้นทันทีว่า “เพราะฉะนั้นฟู่เ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status