Share

บทที่ 3

Author: ซ่งจิ้น
เวลาหนึ่งทุ่ม ฟู่เซียวหานกลับมาถึงคฤหาสน์ตรงเวลา

ตอนนั้นซังฉิงอยู่ที่ห้องรับแขกพอดี หลังจากเห็นเขา ก็รีบก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว “พี่เขย! พี่กลับมาแล้วเหรอคะ?”

ฟู่เซียวหานยิ้มบาง ๆ ให้เธอทีหนึ่ง แล้วเหลือบตามอง

หลังซังหนี่เม้มปากทีหนึ่ง ก็ก้าวมาข้างหน้าเพื่อรับเสื้อคลุมของเขา แล้วเอ่ยปากพูด “ทานข้าวได้แล้วค่ะ”

“ขอโทษด้วยนะคะพี่เขย ฉันรบกวนพี่กับพี่สาวแล้วใช่ไหมคะ?

บนโต๊ะอาหาร ซังฉิงมองซังหนี่ แล้วพูดเสียงเบา “ที่จริงฉันเคยบอกหม่ามี๊แล้วว่า ฉันอยู่คนเดียวได้ แต่เธอก็ไม่วางใจ...”

“ไม่เป็นไร” ฟู่เซียวหานตอบ “เธออยู่ที่นี่ได้ตามสบาย ต้องการอะไรก็บอกมาได้ตลอด”

“แบบนี้...ได้เหรอคะ? จะเป็นการรบกวนมากเกินไปไหมคะ?”

“ไม่หรอก”

“คุณหนูซังฉิงอยู่ที่นี่สิคะถึงจะดี” ป้าคังวางอาหารลงบนโต๊ะพลางพูด “ที่นี่ไม่ได้คึกคักขนาดนี้มานานแล้วค่ะ!”

เมื่อเธอพูดจบ ตะเกียบในมือของซังหนี่ก็หยุดชะงักไปทันที

แต่ว่าคำพูดประโยคนี้ของป้าคังไม่ผิด

เธอมีนิสัยเงียบขรึม สู้ซังฉิงที่มักจะทำให้ผู้คนมีความสุขไม่ได้จริง ๆ ไม่เพียงแค่พวกป้าคังเท่านั้น แม้แต่ฟู่เซียวหาน เธอก็เคยได้ยินเขาพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วเช่นกัน

ซังหนี่เองก็รู้ว่าตนเองเป็นส่วนเกินของที่นี่

หลังจากรีบทานอาหารในถ้วยของตนเองหมด เธอก็ลุกขึ้นทันที “ฉันขอตัวขึ้นห้องก่อน พวกคุณค่อย ๆ ทานนะ”

“พี่ทานแค่นี้เองเหรอคะ?” ซังฉิงกลับพูดขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นฉันขึ้นไปข้างบนเป็นเพื่อนพี่ดีกว่าค่ะ”

“ไม่ต้อง”

ซังหนี่ชักมือของตนเองที่เธอดึงเอาไว้ออก “เธอค่อย ๆ กินเถอะ ไม่เป็นไร”

เมื่อพูดจบ เธอก็กลับหลังหันแล้วเดินขึ้นไปข้างบนทันที

ก่อนเดินออกจากห้องทานอาหาร เธอได้ยินซังฉิงพูดกับฟู่เซียวหานอย่างระมัดระวัง “พี่เขย พี่ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่ใช่ไหมคะ? ฉัน...ไม่ควรมารบกวนพวกพี่ใช่ไหมคะ?”

ในน้ำเสียงของเธอ แฝงไปด้วยความน้อยใจและเสียงสะอื้น

ซังหนี่รู้สึกขึ้นทันทีว่าไม่อยากได้ยินอีกต่อไป

แม้แต่ฟู่เซียวหานจะตอบว่าอะไร เธอก็ไม่ได้สนใจ

หลังจากกลับมาถึงห้องของตัวเอง เธอก็เปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองอีกครั้ง

แต่หลังจากเปิดเอกสาร เธอกลับเขียนอะไรไม่ออก

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหน จู่ ๆ ก็มีข้อความเด้งขึ้นมาบนโทรศัพท์มือถือ

ฟู่เซียวหาน “มานี่”

ซังหนี่เหลือบมองข้อความนั่นแวบหนึ่ง แต่กลับเลือกที่จะเมินเฉย

แต่สุดท้ายฟู่เซียวหานก็ไม่ได้ส่งข้อความฉบับที่สองมา

หลังจากที่ซังหนี่จ้องไปยังช่องที่ไม่ได้ลงสีบนหน้าจออยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พับหน้าจอคอมพิวเตอร์ลง แล้วหันหลังเดินออกไป

——นี่ถึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฟู่เซียวหานไม่จำเป็นต้องส่งข้อความฉบับที่สอง

เพราะเขารู้ว่า เธอจะมาหา

เมื่อเธอมาถึงห้องนอนใหญ่ ฟู่เซียวหานก็เดินออกมาจากในห้องอาบน้ำพอดี

สิ่งแรกที่เขาสังเกตเห็นก็คือ เธอยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าบนตัวของเธอ

หว่างคิ้วของเขาขมวดเล็กน้อย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องคิดมาก ยื่นมือออกไป แล้วกระชากเธอเข้าไปในห้องน้ำทันที

น้ำอุ่นไหลออกมาจากฝักบัว ทำให้เสื้อผ้าและเส้นผมของซังหนี่เปียกทันที

ความรู้สึกไม่สบายตัวที่เสื้อผ้าแนบติดบนผิวของเธอ ทำให้หว่างคิ้วของเธอขมวดเข้าหากันแน่น ตอนที่กำลังอยากจะดันเขาออก ฟู่เซียวหานกลับยื่นมือไปจับศีรษะของเธอเอาไว้ แล้วประทับจูบลงบนริมฝีปากของเธอทันที

ริมฝีปากและลิ้นประสานกัน

นิสัยของฟู่เซียวหานดื้อรั้นเอาแต่ใจ จูบของเขาก็ย่อมต้องเป็นแบบเดียวกัน

แม้ว่าเวลาจะผ่านมาสองปีแล้ว ซังหนี่ก็ยังคงรู้สึกปรับตัวไม่ได้เท่าไหร่ ประกอบกับทั้งสองคนในเวลานี้กำลังอยู่ในห้องน้ำ ในไม่ช้าเธอก็รู้สึกขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง

ขาทั้งสองข้างของเธออดไม่ได้ที่จะอ่อนยวบ ร่างกายของเธอเกือบจะกดทับลงไปบนตัวของฟู่เซียวหาน

แต่ครู่ต่อมา เธอก็ได้ยินเสียงที่สดใสดังลอยมาจากด้านนอกประตู

“พี่เขย พี่อยู่ไหมคะ?”

Related chapters

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 4

    ร่างกายของซังหนี่แข็งทื่อไปเธอเบิกตากว้างทันที มือออกแรงผลักเขาออกแต่ฟู่เซียวหานกลับทำเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลย เพียงพลิกมือแล้วจับข้อมือของเธอเอาไว้ กดตัวเธอเข้ากับกำแพงการกระทำของเขายังคงแข็งแกร่งเหมือนเคยซังหนี่อยากจะคราง แต่เธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เธอพยายามกลืนเสียงกลับเข้าไปอีกครั้งเสียงน้ำจากฝักบัวยังคงดำเนินต่อไปประกอบกับมีประตูกั้นเอาไว้ ซังฉิงที่อยู่ด้านนอกเหมือนว่าจะไม่สังเกตเห็นอะไรเธอถามขึ้นอีก “พี่เขย?”ซังหนี่หันหน้ากลับไปมองฟู่เซียวหานไม่รู้ว่าเป็นเพราะโมโหหรือเพราะเหตุผลอื่น สีหน้าของเธอในเวลานี้แดงระเรื่อ ดวงตาทั้งสองข้างจ้องเขม็งเมื่อเทียบกับท่าทางที่เงียบขรึมในเวลาปกติ ไม่รู้ว่าดูมีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นกี่เท่าฟู่เซียวหานจ้องมอง การกระทำก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับกำลังระบายบางอย่างออกมาร่างกายที่สมบูรณ์แบบ ส่งซังหนี่ขึ้นสวรรค์ได้อย่างง่ายดายซังฉิงที่อยู่ด้านนอกเหมือนกำลังพูดอะไรบางอย่างอยู่ แต่ซังหนี่ฟังไม่ชัดเจนเลยแม้แต่ประโยคเดียวตอนที่ฟู่เซียวหานกดเธอลงไปอีกครั้ง สุดท้ายเธอก็ครางออกมาอย่างอดไม่อยู่แล้วจากนั้น คนที่อยู

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 5

    ซังฉิงเติบโตมาด้วยกันกับฟู่เซียวหานตั้งแต่เด็กดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับบ้านเก่าตระกูลฟู่หลังนี้ยิ่งกว่าซังหนี่ทันทีที่เข้าบ้าน เธอก็เดินเข้าไปหาคุณนายใหญ่ด้วยความสนิทสนม “คุณย่า!”“อ้าว ยัยหนูฉิงมาแล้วเหรอ?”คุณนายใหญ่ดีใจเป็นอย่างมาก “ย่าขอดูหน่อย ทำไมผอมลงไปอีกแล้วล่ะ?”“ไม่ผอมนะคะ” ซังฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณย่าดูสิคะ หนูทำลูกชิ้นปูมาให้คุณย่าด้วยนะคะ”“แม่หนู เธอช่างมีน้ำใจจริง ๆ!”ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างสนิทสนม บนใบหน้าของคุณนายใหญ่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแต่ทันทีที่ซังหนี่เดินเข้ามาใกล้ รอยยิ้มของคุณนายใหญ่ก็จางลงไปมากทันทีซังหนี่เหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็น เพียงแต่เรียกด้วยความเคารพ “คุณย่า”คุณนายใหญ่เห็นท่าทางของเธอแล้ว กำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก แต่ซังหนี่กลับย้ายสายตาไปอย่างรวดเร็ว กล่าวกับคนที่อยู่บนบันได “คุณแม่”“คุณป้า!”เมื่อเห็นคนที่เดินมา ซังฉิงที่แต่เดิมใช้ร่างกายอิงแอบอยู่บนบ่าของคุณนายใหญ่ ก็ยืนตัวตรงขึ้นทันที สายตาที่จ้องมองอีกฝ่าย แฝงไปด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย“คุณหนูรองมาแล้วเหรอ ยินดีต้อนรับ”คุณนายฟู่พยักหน้าให้เธอทีหนึ่ง แม้ท่าทางที่แสดงออกดูเหมือนขอ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 6

    ฟู่เซียวหานกลับมาก่อนมื้อเย็นเมื่อเห็นหลานชายของตนเอง คุณนายใหญ่ย่อมยิ้มด้วยความดีใจ ดึงมือของฟู่เซียวหานเอาไว้ตลอดพร้อมทั้งถามด้วยความห่วงใย“ดูสิ ผอมลงอีกแล้ว” คุณนายใหญ่พูดขึ้นด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย “ดูหลานใช้ชีวิตเข้าสิ ทำไมถึงได้ผอมลงกว่าตอนก่อนแต่งงานมากขนาดนั้น ภรรยาของหลานดูแลหลานยังไง?”คำพูดประโยคนี้ของเธอ เห็นได้ชัดว่าหมายถึงซังหนี่ซังหนี่ยังไม่ทันได้อ้าปากพูด ซังฉิงกลับพูดขึ้นว่า “คุณย่า อย่าเข้าใจพี่สาวของหนูผิดสิคะ พี่สาวของหนูยุ่งทุกวันเลยค่ะ ได้ข่าวว่าพี่มีการ์ตูนอีกเล่มที่กำลังจะตีพิมพ์ คุณย่าไม่สังเกตเห็นเหรอคะว่าพี่สาวของหนูก็ผอมลงไปเยอะเหมือนกัน? เมื่อวานหนูเห็นยังสงสารเลยค่ะ”ดูเหมือนปากของซังฉิงกำลังช่วยพูดแทนซังหนี่แต่ทำไมคำพูดประโยคนี้ฟังดูแปลก ๆ แน่นอนว่า คงจะมีเพียงซังหนี่คนเดียวเท่านั้น ถึงเข้าใจคำพูดประชดประชันในนั้นออกหลังจากคุณนายใหญ่ฟังซังฉิงพูดจบ ก็ไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม “การ์ตูนอะไร? ของไม่เข้าท่าพวกนั้นอีกแล้วเหรอ เธอนี่มัน...”คุณนายใหญ่เตรียมที่จะสั่งสอน ฟู่เซียวหานก็ตัดบทขึ้นมาทันที “เตรียมตัวกินข้าวได้หรือยังครับ?”“เซียวหาน หลาน...”

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 7

    “พี่เขย ขอบคุณพี่ที่ช่วยฉันพูดเมื่อกี้นี้”ระหว่างทางกลับบ้าน ซังฉิงนั่งอยู่เบาะหลังของรถ แต่ปากกลับพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด “ฉันคิดไม่ถึงว่าหม่ามี๊จะพูดเรื่องนี้กับคุณป้า ฉันตกใจแทบแย่ โชคดีที่พี่เขยช่วยฉันพูด ไม่อย่างนั้น ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงแล้วจริง ๆ ฉันไม่ได้อยากจะแต่งงานเร็วขนาดนี้หรอกค่ะ”ฟู่เซียวหานกำลังขับรถ เพียงส่งเสียงอืมเบา ๆ เท่านั้น ถือเป็นคำตอบท่าทีของเขาเหมือนกับขอไปทีเล็กน้อย แต่ซังฉิงรู้ว่า นิสัยของเขาเป็นแบบนี้มาตลอด ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ถือสา เพียงหันหน้าไปมองทางซังหนี่ที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ “จริงสิพี่คะ เมื่อครู่นี้คุณป้าดึงพี่ขึ้นไปข้างบนคุยอะไรกันเหรอคะ?”“ไม่มีอะไร”ตอนที่ซังหนี่ตอบ ท่าทางเทียบไม่ได้กับการขอไปทีด้วยซ้ำซังฉิงเบะปากด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย แต่ในไม่ใช่ก็พูดขึ้นอีกว่า “ช่างเถอะค่ะ พี่คะ พี่รู้ไหมคะ? ว่าพี่ฉินม่อจะกลับมาแล้ว”ทันทีที่พูดจบ สีหน้าของซังหนี่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยตอนนี้ ข้างหน้าเป็นไฟแดงพอดีฟู่เซียวหานหยุดรถอย่างรวดเร็วการเบรกของเขาไม่นับว่ากะทันหัน แต่เมื่อครู่นี้ซังหนี่อยู่ในอาการตกตะลึงพอดี ตอนนี้ตัวจึงโยกเล็กน้อยอย่างอด

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 8

    ซังหนี่ยังคงนั่งอยู่ที่ตำแหน่งด้านข้างคนขับเดิมทีเธอคิดว่าตนเองตายด้านมากพอแล้ว แต่ในเวลานี้ เธอยังคงรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจอยู่เป็นระยะ ๆเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังกัดกินตรงนั้นอยู่ทันใดนั้นซังหนี่ก็นึกถึงเรื่องในอดีตที่นานมาแล้วเรื่องหนึ่งขึ้นมานั่นคือตอนหลังจากที่เธอเพิ่งกลับมาที่บ้านตระกูลซังได้ไม่นานซังหนี่จำได้อย่างแม่นยำว่า วันนั้นฝนตกคุณแม่ของเธอไปรับเธอกับซังฉิงกลับจากโรงเรียนด้วยตนเองแต่ระหว่างทาง พวกเธอประสบอุบัติเหตุถึงแม้ว่าอุบัติเหตุจะไม่รุนแรง แต่เพื่อหลบรถคันหลัง คนขับรถจึงชนเข้ากับพื้นที่สีเขียวที่อยู่ริมทางตอนนั้นศีรษะของซังหนี่กระแทกเข้ากับกระจก ทำให้ตกอยู่ในอาการไม่ได้สติแต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สติ แต่ตอนนั้นเธอมองเห็นอย่างชัดเจนว่า คุณแม่ของเธอเดินอ้อมเธอไป อุ้มซังฉิงที่อยู่ข้างกายเธอพร้อมกับร้องไห้เป็นตอนนั้นเองที่ทำให้ซังหนี่ตระหนักได้ว่า พวกเขาตามตนกลับมา ก็แค่เพียงเพราะสายเลือดของพวกเขาไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเธอเท่านั้นแต่สำหรับพวกเขาแล้ว ซังฉิงถึงจะเป็นลูกสาวอันเป็นแก้วตาดวงใจของพวกเขาหลังจากเข้าใจข้อนี้แล้ว ซังหนี่ก็พยายามทำให้ตนเองล

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 9

    เธอ สบายดีไหม?ซังหนี่ลืมไปแล้วว่าไม่ได้ยินคำถามไถ่แบบนี้มานานขนาดไหนถึงขนาดที่ตนเองก็ยังลืมที่จะถามตัวเองด้วยซ้ำว่า เธอสบายดีไหม?คำตอบง่ายดายอย่างเห็นได้ชัดแต่เวลานี้เธอก็ยังตอบออกไปอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด “ดีมาก”“อืม ถ้าอย่างนั้นก็ดี”ฉินม่อกล่าวแต่ในไม่ช้า เขาก็เงียบลงอีกครั้ง“ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ฉันวางสายก่อนนะ?” ซังหนี่พูดขึ้นอีกครั้ง“ได้”ทางด้านฉินม่อตอบอย่างรวดเร็ว แต่ตอนที่ซังหนี่กำลังจะวางสาย จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาอีกว่า “ตอนนั้นต้องขอโทษมาก ๆ ที่ฉันไม่ได้บอกลาเธอ แต่ตลอดเวลาหลายปีที่ฉันอยู่ต่างประเทศ ฉันคิดถึงเธอมากจริง ๆ”“ดึกมากแล้ว นายรีบพักผ่อนเถอะ”เมื่อพูดจบ เขาถึงวางสายโทรศัพท์ซังหนี่ถือโทรศัพท์มือถือยืนอยู่บนขั้นบันได หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เธอถึงค่อย ๆ หันหลังกลับ แล้วเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองคืนนี้ ฟู่เซียวหานไม่ได้เรียกหาเธอซังหนี่ยังคงไม่สามารถหลับได้อย่างสนิทเช่นเดิมเป็นเพราะโทรศัพท์สายนั้นของฉินม่อ ทำให้เธอฝันตลอดทั้งคืนเธอในความฝัน ได้กลับไปยังช่วงเวลาที่เพิ่งกลับมาถึงตระกูลซังคุณพ่อคุณแม่ตระกูลซังได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับให้เธออย่างอ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 10

    นิสัยของซังหนี่มักจะดูหัวโบราณและน่าเบื่อหน่ายสำหรับคนนอกเสมอหลายครั้ง เธอแทบจะไม่แสดงอารมณ์ออกมาด้วยซ้ำแต่ตอนนี้เธอกลับเหมือนสัตว์ร้ายตัวน้อยที่ถูกบังคับให้ไปที่ริมหน้าผาตัวหนึ่ง สลัดคราบที่อ่อนโยนออก แสดงนิสัยที่ดุร้ายออกมาเพียงแต่การข่มขู่เล็ก ๆ น้อย ๆ นี้สำหรับฟู่เซียวหานแล้วแทบไม่มีความหมายอะไรเขาไม่แม้แต่ตอบเธอสักประโยคเสียด้วยซ้ำ กลับยกเธอขึ้นมาจากเตียงทันทีหลังจากนั้น ก็ลงมือเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอด้วยตนเองซังหนี่อยากจะผลักเขาออกไป แต่แรงของทั้งสองคนแตกต่างกันเกินไป สุดท้าย เธอก็ถูกเขาลากตัวลงไปที่ชั้นล่างอยู่ดี“คุณชาย คุณนายน้อย...”ป้าคังที่อยู่ตรงชั้นล่างอยู่แล้ว เมื่อเห็นฉากนี้ ก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมองเห็นเธอ ซังหนี่เก็บอาการทันที ไม่ขัดขืนอีกต่อไป ยอมให้ฟู่เซียวหานพาตนเดินออกจากประตูหลังจากที่รถขับออกมาได้ครู่หนึ่ง ซังหนี่ก็ค่อย ๆ เงียบสงบลงหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ ก็หันหน้าไปมองคนที่อยู่ข้าง ๆ “พวกเราไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลหรอก ด้านคุณแม่ของคุณ ฉันจะอธิบายให้ท่านฟังเอง”“ฉันรู้ว่างานของคุณยุ่งมาก คุณไม่จำเป็นต้องกลับไปส่งฉันหรอก ปล่อยฉันลงตรงไหนส

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 11

    แม้ว่าเขาจะเป็นชายชราผู้มากประสบการณ์ แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอกล่าว ก็ชะงักด้วยความตกตะลึงเล็กน้อยเพราะยังไงเสีย คนที่มาหาเขาถึงที่นี่ต่างต้องการมีลูกด้วยกันทั้งนั้นแต่ทันทีที่ซังหนี่อ้าปากพูด กลับบอกว่าเธอกำลังทานยาคุมกำเนิดเสียอย่างนั้น?ชายชราอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังฟู่เซียวหานเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเองก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้เช่นกัน และในเวลานี้คิ้วของเขาก็เริ่มขมวดย่นเข้าหากันแต่ชายชราก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาชะงักไปเพียงครู่เดียวก่อนจะกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้น ตั้งแต่นี้ไปก็หยุดทานยานั่นซะ ฉันจะสั่งยาให้ เริ่มบำรุงร่างกายเธอให้ดีเสียก่อนแล้วกัน”ซังหนี่ไม่ปริปากพูดอะไรอีก แต่เมื่อชายชรายื่นตำรับยาให้เธอ เธอกลับยื่นมือมารับไปอย่างรวดเร็ว“ขอบคุณค่ะ”หลังพูดจบเธอก็จากไปโดยไม่หันมามองอีกฟู่เซียวหานเดินตามหลังเธอมาซังหนี่รู้ดีว่าเขาไม่มีเวลามาสนใจดูแลเธอแน่นอน ดังนั้นเมื่อออกจากโรงพยาบาล เธอจึงตั้งใจจะเรียกรถด้วยตัวเอง แต่ฟู่เซียวหานกลับกระชากรั้งตัวเธอไว้อย่างรวดเร็ว“ขึ้นรถ”น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบ สายตาที่มองก็เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกนั้นเช่นกัน“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเรีย

Latest chapter

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 182

    แน่นอนว่าฟู่เซียวหานรู้ดีว่านางแพศยาที่พวกเขาเอ่ยถึงคือใครนี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่เขาขอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลขับไล่พวกเขาออกไปโดยตรงผู้เฒ่าทั้งสองคนที่มองดูแล้วอ่อนแรงไม่มีพิษภัยอะไร แต่เมื่อพวกเขาโดนลากออกไปกลับพ่นถ้อยคำด่าทอที่แสนก้าวร้าวออกมาเสียงดังสนั่น และยังกล่าวอีกว่าพวกเขาจะไปหานักข่าว จะให้ทุกคนรับรู้ว่าลูกชายของพวกเขานั้นเสียชีวิตลงเพราะตระกูลฟู่ในเวลานั้นฟู่เซียวหานเพียงตอบรับด้วยเสียงเรียบนิ่งว่า “ไปหาสิ”ท่าทางที่ไม่มีแม้แต่จะหวั่นเกรงนั้นพวกเขารู้สึกเย็นเยียบขึ้นมาในใจ!ทว่าฟู่เซียวหานไม่ได้เหลือบมองมายังพวกเขาอีกหลังจากนั้นไม่นาน สวีเหยียนก็รีบเร่งมาที่นี่ พร้อมบอกกับเขาว่าข้าวของจากถนนหมินเหอไปถูกส่งกลับไปที่บ้านพักป๋อซีหยวนเรียบร้อยแล้วฟู่เซียวหานเพียงตอบรับในลำคอ เป็นเชิงว่ารับรู้สวีเหยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวเสริมว่า “วันนี้ผมเห็นสีหน้าของคุณนาย…คุณหนูซังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ดูเหมือนจะป่วยเอาเสียแล้วล่ะครับ”ฟู่เซียวหานไม่ปริปากกล่าวอะไรออกมา“ประธานฟู่ครับ ที่จริงแล้วเรื่องนี้คุณหนูซังเองก็ไม่ได้ผิด คุณไประบายอารมณ์โกรธใส่เ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 181

    มันย่ำแย่ยิ่งกว่าจิบแรกเมื่อกี้นี้เสียอีกเรียวคิ้วของเขาขมวดแน่นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้จากนั้น เขาก็มองเห็นเงาร่างสีขาวร่างนั้นเพราะยืนอยู่บนตึกชั้นสูง ดังนั้นแท้จริงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างด้านล่างจึงล้วนหลงเหลือเพียงจุดที่แสนเลือนรางแต่ในเวลานี้ ฟู่เซียวหานยังคงจำเธอได้ในทันทีเขายังเห็นแม้กระทั่งว่าเธอยืนอยู่ข้างถังขยะ และนำอะไรบางอย่างทิ้งขว้างลงไปมือของฟู่เซียวหานจับแก้วเหล้าในมือแน่นขึ้นโดยพลันผ่านไปสักพัก เขาถึงจะค่อย ๆ ผ่อนแรงมือลงฟู่เซียวหานรู้ดีว่าตั้งแต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่ใช่คนที่ลึกล้ำในห้วงอารมณ์มากนักส่วนนี้เป็นเพราะการสอนที่คุณแม่สอนเขามาตั้งแต่เด็กในเวลานี้เมื่อคิดถึงเธอ สิ่งแรกที่ฟู่เซียวหานนึกถึงคือน้ำเสียงราบเรียบและรอยยิ้มที่ผิวเผินแต่ไปไม่ถึงดวงตาของเธอฟู่เซียวหานเคยคิดว่า เขาไม่มีความรู้สึกอะไรกับเธอเลยสักนิดจนกระทั่งวินาทีที่เกิดเรื่องขึ้นกับเธอฟู่เซียวตระหนักได้ถึงเรื่องหนึ่งทันที ——เธอคือคนที่มีสายเลือดใกล้ชิดกับเขามากที่สุดในโลกใบนี้แล้วเขาเคยอยู่ในกายของเธอด้วยซ้ำสายสะดือเส้นน้อย ที่คอยเชื่อมต่อพวกเขาเอาไว้ด้วยกันและความรู้สึกนี้ ก็พลันพุ่ง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 180

    หลังจากฟู่เซียวหานพูดจบ ซังหนี่ก็นิ่งเงียบอยู่นานประตูด้านหลังยังไม่ได้ปิดสนิท ลมหนาวที่พัดเข้ามากับความอบอุ่นภายในห้องช่างแตกต่างกันอย่างชัดเจนจนซังหนี่เองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าตกลงตอนนี้ร่างกายของเธอเย็น หรือว่าร้อนเธอรู้สึกเพียงว่าในสมองมันว่างเปล่าหลังจากเวลาผ่านไปสักพัก ในที่สุดเธอก็พูดขึ้นว่า “แสดงว่า คุณไม่อยากฟังคำอธิบายจากฉันใช่ไหม?”ฟู่เซียวหานมองเธอและพูดว่า “ซังหนี่ หลายๆ เรื่องบนโลกนี้ มันดูแค่ผลลัพธ์เท่านั้น”หลังจากพูดจบ ซังหนี่ก็ก้มหัวลงแล้วหัวเราะออกมาผลลัพธ์?อะไรคือผลลัพธ์?ผลลัพธ์คือตอนนี้แม่ของเขานอนหมดสติอยู่ที่โรงพยาบาล ผลลัพธ์จดหมายลาตายฉบับนั้น ถูกส่งจากมือของเธอ ให้กับมือของเขาผลลัพธ์ก็คือ เขาบอกว่าพวกเขาตอนนี้ ไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากันอีกแล้วแม้กระทั่งคำบอกเลิก ก็ยังไม่ยอมพูดกับเธอซังหนี่มองดูคนตรงหน้า จู่ๆ ก็นึกถึงช่วงเวลาที่อบอุ่นที่พวกเขาเคยใช้เวลาร่วมกันมาคำพูดที่เขาเคยพูดกับเธอ สายตาที่เขามองเธอ รวมถึงภาพที่พวกเขาคลอเคลียอยู่บนเตียงด้วยกันภาพของฟู่เซียวหานในตอนนั้น ค่อยๆ ซ้อนทับกับภาพของเขาที่อยู่ตรงหน้าในตอนนี้แต่ในตอนนี้ สายตาของเ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 179

    ซังหนี่โทรศัพท์หาฟู่เซียวหาน แต่เขา ติดสายอยู่ตลอดไม่มีทางเลือก เธอจึงทำได้เพียงติดต่อทางสวีเหยียนเท่านั้น“ประธานฟู่ยังประชุมอยู่ครับ แต่วันนี้เขาคงไม่มีเวลาพบคุณ เอายังงี้...”น้ำเสียงของสวีเหยียนพูดอย่างอ้อมค้อม แต่ซังหนี่กลับเข้าใจได้ทันทีถึงความหมายของเขาจะไม่มีเวลาพบ...ได้ยังไง?ซังหนี่จำได้ว่าช่วงก่อนหน้านี้เขาก็ยุ่งมากแต่ตอนนั้นไม่ว่าฟู่เซียวหานจะยุ่งมากแค่ไหน เขาก็หาเวลามาพบเธอได้เสมอ บางครั้งเดินทางไปต่างเมือง เขานั่งเครื่องบินกลับมาช่วงกลางดึกก็ตรงไปหาเธอทันทีแต่ตอนนี้ แม้แต่โทรศัพท์ของเธอก็ไม่มีเวลารับสายความคิดมากมายผุดขึ้นมาในใจของเธอ แต่สุดท้ายซังหนี่ก็ไม่ได้ถามออกมา เพียงตอบไปว่า “ฉันรู้แล้วค่ะ”พูดจบ เธอก็หันกลับไปแต่เมื่อคนขับแท็กซี่ถามสถานที่กับเธอ เธอกลับเปลี่ยนเป็นตอบว่า “ไปที่บ้านพักป๋อซีหยวน”เธอไม่ได้มาที่นี่นานมากแล้วเมื่อก่อนตอนที่ฟู่เซียวหานไม่ชอบที่พักของเธอ เขาก็มักจะพูดคำหนึ่งคือ ขอให้เธอกลับมาอยู่ที่นี่กับเขาซังหนี่ไม่เคยเห็นด้วยเลยเวลานี้เธอก็ไม่ได้เข้าไป แต่ยืนอยู่ที่หน้าประตู และส่งข้อความถึงฟู่เซียวหาน“ฉันจะรอคุณอยู่ที่บ้านพักป

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 178

    ตอนที่ซังฉิงพบเธอ ซังหนี่เพิ่งกลับออกมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตในมือของเธอถือถุงอยู่ และทันทีที่เธอเห็นซังฉิง มือของเธอก็กำแน่นขึ้นมาทันทีซังฉิงยืนอยู่บนบันได และยิ้มเยาะมองเธอ "เธอกลับมาแล้วเหรอ?"ซังหนี่ไม่ตอบอะไร เพียงสบตาเธออย่างนิ่งเฉยเท่านั้นซังฉิงยิ้มเยาะขึ้นมาอีกครั้ง "เห็นฉัน คงแปลกใจมากใช่ไหม?"“ฉันก็แค่อยากมาดูว่าตอนนี้เธอ...เป็นยังไงบ้าง” ซังฉิงกระพริบตา แล้วพูดว่า “ช่วงนี้พี่เซียวหานยุ่งมาก คงไม่มีเวลาดูแลเธอ ฉันในฐานะน้องสาว ตอนนี้เธอไม่มีใคร ฉันเป็นห่วงเธอเลยต้องมาดูสักหน่อย”“งั้นเธอก็ไปได้แล้ว”ซังหนี่ตอบ พร้อมกับเดินอ้อมเธอไปถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ ซังฉิงเป็นปฏิกิริยาของเธอแบบนี้ต้องโกรธมากแน่ๆแต่ในตอนนี้เธอกลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลย ตรงกันข้าม เวลานี้ที่เธอมองซังหนี่กลับหัวเราะออกมา “ซังหนี่ เธอคิดว่าตอนนี้ยังมีฟู่เซียวหานคอยให้ท้ายเธออยู่งั้นเหรอ?”“เธอไม่รู้สึกเหรอว่า? เธอกับพี่เซียวหาน...มันเป็นไปไม่ได้อีกต่อไปแล้ว”เธอพูดจบ ซังหนี่ก็หยุดนิ่งไปจากนั้น เธอก็หันกลับไปมองซังฉิงอีกฝ่ายยิ้มเยาะมองดูเธอ “เกิดเรื่องใหญ่กับแม่ของเขาขนาดนนั้น เธอคิดว่าเขาจะไม่โ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 177

    จากนั้น ผู้ช่วยของฟู่เซียวหานก็เดินเข้าไป และพูดอะไรบางอย่างกับเขาด้วยสีหน้าจริงจังใบหน้าของฟู่เซียวหานไม่แสดงอาการใดๆ และก็ไม่ได้ตอบสนอง“ประธานฟู่ หากเรื่องพวกนี้พรุ่งนี้เป็นกระแสขึ้นมา...”“ติดต่อคนให้ปิดข่าว แล้วก็ ติดต่อครอบครัวของเฉินเฟิงด้วย” น้ำเสียงของฟู่เซียวหานนิ่งมาก ราวกับว่าเขากำลังจัดการทำธุระในเรื่องที่ง่ายดายมาก“ส่วนทางบ้านตระกูลฟู่ ฉันจะไปคุยด้วยตัวเอง”ขณะที่พูดจบ เขาก็หันหลังแล้วเดินออกไปแต่เมื่อเขาเดินผ่านซังหนี่ ดูเหมือนว่าจู่ๆ เขาจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “ผมจะพาคุณไปส่งก่อน”“ฉัน…คืนนี้จะเฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาล?”แม้ว่าซังหนี่จะรู้ว่า คุณนายฟู่อยู่ในห้องICUตัวเองก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แต่ตอนนี้...เธอกลับรู้สึกกลัวการที่ต้องอยู่กับฟู่เซียวหาน เพราะจากสิ่งที่ซังฉิงเพิ่งพูดไป เธอไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลยแต่เธอไม่รู้จริงๆ ว่า...คุณนายฟู่จะตัดสินใจแบบนี้เธอคิดว่า คุณนายฟู่แค่ต้องการตามหาความสุขของตัวเองเท่านั้นแต่ตอนนี้...“ไปกับผม”ฟู่เซียวหานไม่ได้พูดอะไรกับเธอมากนัก หลังจากพูดประโยคนั้นจบ เขาก็เดินไปเลยหลังจากซังหนี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 176

    โรงพยาบาลในช่วงกลางดึกมักจะให้ความรู้สึกประหลาดไฟฉุกเฉินที่สว่างไสวตรงปลายทางเดินนั้นราวกับเลือดแดงสด ทำให้คนเกิดความประหม่า!และสิ่งที่ทำให้ซังหนี่ประหลาดใจก็คือ เวลานี้คนที่นั่งอยู่หน้าประตูห้องฉุกเฉินนอกจากผู้ช่วยของฟู่เซียวหานแล้ว ก็ยังเป็นซังฉิงอีกด้วยบนร่างกายของเธอดูเหมือนว่าจะเปื้อนเลือด สีหน้าซีดเซียวเมื่อเห็นฟู่เซียวหาน เธอก็รีบวิ่งเข้าไปทันที “พี่เซียวหาน!”ราวกับว่าอารมณ์ที่ตึงเครียดนั้นได้รับการผ่อนคลาย ทันใดนั้นน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา “ฉัน...ในที่สุดพี่ก็มาแล้ว ทำยังไงดีคะ? คุณป้าได้รับบาดเจ็บสาหัส พี่ว่าคุณป้าจะ...”ฟู่เซียวหานเหลือบมองเธอ แล้วหันไปมองผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆ เขา“ตอนนี้เรื่องอุบัติเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์...บอกว่าตอนนั้นบนถนนไม่มีรถคันอื่นอยู่เลย และจู่ๆ รถของคุณนายก็เสียหลักพุ่งชนอย่างกะทันหัน” น้ำเสียงของผู้ช่วยดูลังเล “บนรถยังมี...คุณเฉิน เมื่อครู่คุณหมอเพิ่งแจ้งว่า ได้พยายามช่วยคุณเฉินอย่างสุดความสามารถแล้วแต่เป็นผล คุณเฉินเสียชีวิตแล้ว”คำพูดของผู้ช่วยพูดได้อย่างละเอียดอ่อนมากสีหน้าของฟู่เซียวหานกลับดูแย่มาก

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 175

    แต่เวลานี้ซังหนี่กลับรู้สึกว่าสิ่งนั้นร้อนมาก ราวกับว่าวางไว้ตรงไหน...ก็ไม่ปลอดภัยสุดท้าย เธอก็หยิบซองจดหมายนั้นออกมา แล้ววางรวมกับกองหนังสือบนโต๊ะของเธอดูแล้ว...มันก็เด่นชัดมากแต่เมื่อฟู่เซียวหานกลับมาในตอนเย็น เขากลับไม่พบอะไรดูเหมือนว่าช่วงนี้เขาจะอารมณ์ดี หลังจากอาบน้ำเสร็จ เขาก็เดินเข้ามาช่วยซังหนี่ปิดคอมพิวเตอร์ จากนั้นก็อุ้มเธอขึ้นมาเนื่องจากซังหนี่ไม่ยอมย้ายออกไปจากที่นี่ และฟู่เซียวหานก็ไม่สามารถบังคับได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเช่าห้องข้างๆ แทนตอนนี้ ในที่สุดก็ไม่มีใครมารบกวนพวกเขาแล้วคืนนี้ เมืองถงมีหิมะแรกของฤดูหนาวในปีนี้ซังหนี่ไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับหิมะ แต่ฟู่เซียวหานกลับดูเหมือนจะชอบมากไม่อย่างนั้น เขาคงไม่กอดเธอไว้ที่หน้าต่างและชื่นชมอยู่ครึ่งค่อนคืน?จนสุดท้าย ขาทั้งสองข้างของซังหนี่เริ่มอ่อนแรงลง จึงอ้อนวอนเขาอยู่นานด้วยดวงตาสีแดง จนกระทั่งฟู่เซียวหานได้ยินคำว่าสามีจากเธออยู่หลายครั้งจนพอใจ เขาถึงได้อุ้มเธอกลับไปรอหลังจากเขาเสร็จภารกิจ ซังหนี่ก็เกือบจะหลับไปแล้วฟู่เซียวหานเห็นเธออ่อนล้าจนไม่อยากขยับตัว เขาจึงอุ้มเธอไปที่ห้องน้ำ“อีกสองวันเราไ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 174

    สองวันต่อมาซังหนี่ได้พบกับคุณนายฟู่อีกครั้งเธอเป็นคนโทรศัพท์หาซังหนี่ก่อน และขอนัดพบเธอที่ร้านกาแฟซังหนี่ไม่รู้ถึงจุดประสงค์ของเธอ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ “ฉันตัดสินใจจะไปจากเมืองถง”เมื่อมาถึงร้านกาแฟ คุณนายฟู่ก็พูดกับซางหนี่ตรงๆเธอพูดออกมาอย่างนั้น ทำให้ซังหนี่ถลึงตาโตชั่วขณะ “หมายความว่า...อะไรคะ?”“ก็หมายความอย่างที่พูด”“เป็นเพราะเหตุการณ์ครั้งที่แล้วนั้นเหรอคะ? คุณโกรธฟู่เซียวหาน...”“ไม่ใช่” คุณนายฟู่รีบพูดขึ้นมาทันที “และฉันบอกเธอก็ได้ว่า ฉันอยากไปเพราะ...เขาทนกับการทดสอบที่เซียวหานมอบให้เขาไม่ไหวแล้ว”หลังจากที่คุณนายฟู่พูดจบ รูม่านตาของซังหนี่ก็หดตัวลงเล็กน้อย“ดังนั้นคุณก็เลยอยาก...”ในเมืองถงมีคนรู้จักพวกเรามากเกินไป และตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันรู้สึกอึดอัดกับตำแหน่งคุณนายฟู่จนแทบจะหายใจไม่ออก และฉันก็ไม่ต้องการที่จะ...เป็นแบบนี้ต่อไปอีกแล้ว”“ดังนั้นพวกเราจึงตัดสินใจดีแล้วว่า พวกเราจะไปหาสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักพวกเรา และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน”“หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ เราตัดสินใจที่จะหนีตามกันไป”ขณะที่คุณนายฟู่พูด บนใบหน้ายังเต็มไปด้วยรอยยิ้มซังหนี่รู้มาตล

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status