Share

บทที่ 11

Penulis: ซ่งจิ้น
แม้ว่าเขาจะเป็นชายชราผู้มากประสบการณ์ แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอกล่าว ก็ชะงักด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย

เพราะยังไงเสีย คนที่มาหาเขาถึงที่นี่ต่างต้องการมีลูกด้วยกันทั้งนั้น

แต่ทันทีที่ซังหนี่อ้าปากพูด กลับบอกว่าเธอกำลังทานยาคุมกำเนิดเสียอย่างนั้น?

ชายชราอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังฟู่เซียวหาน

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเองก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้เช่นกัน และในเวลานี้คิ้วของเขาก็เริ่มขมวดย่นเข้าหากัน

แต่ชายชราก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาชะงักไปเพียงครู่เดียวก่อนจะกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้น ตั้งแต่นี้ไปก็หยุดทานยานั่นซะ ฉันจะสั่งยาให้ เริ่มบำรุงร่างกายเธอให้ดีเสียก่อนแล้วกัน”

ซังหนี่ไม่ปริปากพูดอะไรอีก แต่เมื่อชายชรายื่นตำรับยาให้เธอ เธอกลับยื่นมือมารับไปอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณค่ะ”

หลังพูดจบเธอก็จากไปโดยไม่หันมามองอีก

ฟู่เซียวหานเดินตามหลังเธอมา

ซังหนี่รู้ดีว่าเขาไม่มีเวลามาสนใจดูแลเธอแน่นอน ดังนั้นเมื่อออกจากโรงพยาบาล เธอจึงตั้งใจจะเรียกรถด้วยตัวเอง แต่ฟู่เซียวหานกลับกระชากรั้งตัวเธอไว้อย่างรวดเร็ว

“ขึ้นรถ”

น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบ สายตาที่มองก็เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกนั้นเช่นกัน

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเรีย
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 12

    ท้ายที่สุดฟู่เซียวหานก็ไม่ได้ส่งซังหนี่กลับไปที่คฤหาสน์เมื่อแสดงจุดยืนทางคำพูดของเขาอย่างชัดเจนแล้ว เขาก็มองหาทางแยกแล้วปล่อยซังหนี่ลงจากรถก่อนที่ซังหนี่จะทรงตัวยืนอย่างมั่นคง เขาก็เหยียบคันเร่งขับออกไปแล้วรถปอร์เช่สีดำคันนั้นขับผ่านเธอไปเช่นนี้ โดยไม่มีแม้แต่ความลังเลใด ๆ ซังหนี่ชินเสียแล้วแต่มือของเธอก็อดไม่ได้ที่จะกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อบริเวณนั้นส่งผ่านความรู้สึกมาเป็นความเจ็บปวดเล็กน้อย—นั่นคือสิ่งที่ที่ซังหนี่ใช้เตือนตัวเองอย่าคิดที่จะ…เพ้อฝันเรื่องใดเกี่ยวกับเขาอีกในเมื่อได้ออกมาข้างนอกแล้ว ซังหนี่จึงเตรียมจะเดินเล่นสักหน่อยโดยไม่ลังเลทว่าโชคของเธอไม่ดีนัก ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปในห้างสรรพสินค้า ก็ชนกับคนตรงหน้าเข้าอย่างจัง“โอ้ นี่มันคุณนายฟู่ไม่ใช่เหรอ?”หยวนโหรวพูดด้วยรอยยิ้ม “ช่างพบเจอได้ยากเสียจริง ฉันคิดว่าเธอจะไม่แปดเปื้อนโลกีย์บนโลกมนุษย์ ไม่เคยช้อปปิ้งเลยเสียอีก”ในฐานะเพื่อนสนิทอันดับหนึ่งของซังฉิง หยวนโหรวนับว่าเป็นคนในแวดวงที่ชอบหาเรื่องซังหนี่มากที่สุดหลังจากที่ซังหนี่และฟู่เซียวหานแต่งงานกัน คนอื่น ๆ ล้วนเก็บเขี้ยวเล็บของตัวเองไม่มากก็น

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 13

    หลังจากที่หยวนโหรวพูดจบ ซังหนี่เองก็หัวเราะออกมาเช่นกันเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอ รอยยิ้มของหยวนโหรวกลับเลือนหายไป คิ้วของเธอเองก็ขมวดแน่น “เธอหัวเราะอะไร?”“คุณหนูหยวน ถ้าเธอไม่มีอะไรทำก็ไปเรียนหนังสือเพิ่มเถอะนะ” ซังหนี่กล่าว “ไม่อย่างนั้น แค่ไร้มารยาทก็หนักหนาพอแล้ว แต่ถ้อยคำที่พูดออกมายังชวนให้ผู้คนหัวเราะเยาะอีก นี่มัน…ทั้งโง่ทั้งนิสัยเสียของจริง ”หากจะพูดว่า เมื่อกี้ซังหนี่ยังรู้จักเก็บซ่อนคำเสียดสีเอาไว้อยู่ เช่นนั้นตอนนี้ ก็เท่ากับชี้หน้าด่าหยวนโหรวโดยตรงแล้วสีหน้าของหยวนโหรวย่ำแย่ถึงขีดสุดในขณะที่ซังหนี่กำลังจะเดินผ่านเธอไปนั้น เธอกลับเอื้อมมือไปจิกผมของซังหนี่เอาไว้“นังตัวดีที่มาจากบ้านนอกอย่างแก มีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน?! แกไม่ดูสารรูปตัวเองเลยหรือไง?! คิดว่ามีฐานะขึ้นมาแล้ว ตัวเองจะกลายเป็นหงส์ได้จริง ๆ งั้นเหรอ? แก…”ยังไม่ทันที่หยวนโหรวจะพูดจบ ซังหนี่ก็หันกลับมา และตบหน้าเธอเข้าอย่างจัง!เฉียบขาดทรงพลังหยวนโหรวกลับตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกรีดร้องพร้อมโถมตัวพุ่งเข้าหาซังหนี่ทันทีระหว่างนั้นไม่รู้ว่าเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้นบางทีอาจจะเป็นเพราะซังฉิงต้องการหยุดหย

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 14

    “พี่คะ!”แต่ซังฉิงกลับยืนขึ้นแล้วจับแขนเธอไว้อย่างรวดเร็ว “พี่คะ พี่โกรธใช่ไหมคะ? หม่ามี๊ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะคะ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง เป็นฉันเองที่ไม่ระวัง…”“แต่พี่วางใจได้เลยนะคะ ฉันจะย้ายออกจากบ้านพี่แน่นอน และจะไม่รบกวนพี่กับพี่เขยอีก…”“อืม ได้สิ”ซังหนี่ตอบตกลงอย่างรวดเร็วคุณนายซังที่อยู่ด้านข้างอดขมวดคิ้วไม่ได้ แต่นัยน์ตาของซังฉิงกลับเต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด“พี่ไปก่อนล่ะ”ซังหนี่กลับไม่ได้สนใจอะไรมากถึงขนาดนั้น เธอทำแค่ดึงมือของตนออกมา ก่อนจะหันหลังเดินจากไปน้ำเสียงเจือสะอื้นของซังฉิงดังมาจากข้างหลัง“ทำยังไงดีคะหม่ามี๊? พี่ต้องเกลียดหนูมากแน่ ๆ …”ตอนนั้นซังหนี่แทบอยากจะหันหลังกลับไปตอบเธอว่า ใช่แล้ว ตนเองนั้นเกลียดเธอมากจริง ๆ แต่ทันทีที่ความคิดโผล่ขึ้นมาในหัว ซังหนี่ก็สลัดมันทิ้งไปทันทีเพราะเธอรู้ว่าหากเธอทำเช่นนั้น ผลลัพธ์หลังจากนั้นคงเป็นฝ่ามือของคุณนายซังที่จะตบลงบนหน้าเธอยังไงเสีย…เรื่องแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในตอนแรกซังหนี่ยังมีความรู้สึกสับสน ทั้งที่เธอเป็นลูกสาวในสายเลือดของพวกเขาแท้ ๆ ทำไมพวกเขาถึงลำเอียงไปทา

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 15

    ซังหนี่สะดุ้งตกใจจนใช้มือดึงเสื้อลงโดยไม่รู้ตัวจากนั้นเธอก็ขมวดคิ้วมองคนที่เพิ่งเข้ามาสีหน้าของฟู่เซียวหานเองก็ย่ำแย่ไม่ต่างกันทั้งสองคนจึงยืนสบตากันเช่นนั้น ช่างไม่เหมือนกับคู่สามีภรรยาเลยสักนิด แต่ราวกับเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันเสียมากกว่า“ถ้าไม่มีอะไร ก็โปรดออกไปเถอะค่ะ ฉันจะนอนแล้ว”ท้ายที่สุดก็เป็นซังหนี่ที่เอ่ยปากพูดก่อนแต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจคือฟู่เซียวหานไม่ได้ระบายอารมณ์ใส่เธอ แต่กลับหมุนตัวกลับไปทันทีพร้อมกล่าวว่า “พรุ่งนี้เที่ยงทำตัวให้ว่างด้วย”ซังหนี่หลุดปากโพล่งออกไปทันที “จะทำอะไรคะ?”แต่ฟู่เซียวหานกลับไม่ได้ตอบคำถามของเธอซังหนี่มองตามแผ่นหลังของเขา “ถ้าคุณจะให้ฉันไปขอโทษซังฉิงล่ะก็ ฉันไม่ไปค่ะ”คราวนี้ฝีเท้าของฟู่เซียวหานถึงหยุดลงปฏิกิริยาของเขาได้บอกให้ซังหนี่เข้าใจแจ่มแจ้งเลยว่า —สิ่งที่เธอคาดเดาไว้ไม่ผิดเลยทันใดนั้นมือของซังหนี่ก็กำแน่นทันที“ซังหนี่ นั่นคือน้องสาวของคุณนะ”ฟู่เซียวหานกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย“ฉันไม่มีน้องสาว อีกอย่างเป็นเธอที่ล้มเอง ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย จะให้ขอโทษเพื่ออะไร?”“ถ้าอย่างนั้นคุณทำถูกแล้วงั้นสิ?” ฟู่เซียวหานแค

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 16

    สุดท้ายเอกสารข้อตกลงการหย่าร้างชุดนั้น ก็ถูกซังหนี่วางกลับลงไปที่เดิมวันต่อมา เธอไม่ได้รอฟู่เซียวหาน แต่ขับรถไปบ้านตระกูลซังด้วยตัวเองบ้านตระกูลซังตั้งอยู่ขอบเขตระหว่างตัวเมืองและชายเมืองของเมืองถง เป็นเขตคฤหาสน์ชื่อดัง ซึ่งทุกตารางนิ้วล้วนมีค่าดั่งทองคำทันทีที่ซังหนี่จอดรถก็มีคนเห็นเธอแต่คนรับใช้คนนั้นไม่ได้ออกมาต้อนรับเธอ ทว่าหมุนตัวเดินกลับเข้าไปข้างในซังหนี่เองก็ไม่ใส่ใจนัก จึงเปิดประตูลงจากรถด้วยตัวเองก่อนจะออกจากบ้าน เธอยังตั้งใจถือของบำรุงสองสามอย่างมาด้วย ในเมื่อมาขอโทษ…ก็ควรมีท่าทีที่สื่อว่าต้องการจะขอโทษจริง ๆ“คุณหนูหนี่มาแล้ว”วินาทีที่ซังหนี่เข้าไปในบ้าน คนรับใช้ที่รีบเร่งเข้ามารายงานคนเมื่อกี้ ก็เดินมากล่าวต้อนรับด้วยรอยยิ้มซังหนี่พยักหน้าให้เธอ“พี่คะ!”ซังฉิงรีบลงมาจากชั้นบนอย่างรวดเร็วเธอสวมชุดเดรสสีขาว ผมยาวสีปีกกาแผ่สยายเลยไหล่ลงมา เมื่อรวมเข้ากับใบหน้าที่ไร้เดียงสาของเธอ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้นัยน์ตาของผู้คนเปล่งประกายแม้ว่าปากของซังฉิงจะเอ่ยเรียกพี่สาว แต่สายตากลับจ้องมองไปข้างหลังเมื่อพบว่าเธอมาที่นี่คนเดียว แววตาของซังฉิงก็เผยให้เห็นถึงคว

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 17

    “ลูกจะผิดได้ยังไง?”เมื่อเห็นท่าทางเช่นนั้นของซังฉิง คุณนายซังก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที และคว้ามือของเธอไว้ “ทำไมลูกถึงโง่แบบนี้นะ? ครั้งนี้โชคดีที่ล้มแล้วโดนมือ ถ้าล้มโดนหน้าแล้วเป็นแผลเป็นเข้าล่ะ จะทำยังไง?”ซังฉิงส่ายหน้า “ก็ตอนนั้นหนูคิดวิธีอื่นไม่ออกแล้วนี่คะ จะให้พี่กับหยวนโหรวตบตีกันต่อไปก็คงไม่ได้…”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเธอ คุณนายซังก็นึกบางอย่างออก ก่อนจะมองซังหนี่ด้วยแววตาเรียบนิ่ง “ดูสิว่าเธอก่อเรื่องงามหน้าอะไรขึ้น! ทั้งที่เธอเป็นพี่สาว แต่ยังต้องให้ฉิงฉิงช่วยเธอแบบนี้ เธอไม่รู้สึกละอายใจบ้างหรือยังไง?”“ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเธอหรอกค่ะ”คำตอบนี้ของซังหนี่ทำให้สีหน้าของคุณนายซังย่ำแย่ถึงขีดสุด “เธอพูดว่าอะไรนะ?!”“ถ้าตอนนั้นฉิงฉิงไม่ไปห้ามไว้ เธอคิดจะทำอะไร? เธอรู้ไหมว่านั่นคือพื้นที่สาธารณะ? ถ้ามีคนโพสต์คลิปของพวกเธอลงบนอินเทอร์เน็ต แล้วเธอจะให้พวกเราตระกูลซังเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? ทางตระกูลฟู่จะมองเธอยังไง?”ซังหนี่เงียบไปโดยไม่ปริปากเอ่ยอีกแต่สายตาที่เธอใช้มองคุณนายซังราวกับกำลังบอกคุณนายซังอย่างแน่ชัดว่า —เธอไม่สนใจคุณนายซังเริ่มโกรธจนตัวสั่น “เธอหมายความ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 18

    มือของซังหนี่ที่วางระนาบอยู่ข้างตัวกำแน่นในที่สุดและสุดท้ายเธอเองก็หันมามองซังฉิงอีกฝ่ายกำลังส่งยิ้มให้เธอในดวงตากลมโตคู่นั้นยังคงเต็มเปี่ยมด้วยความไร้เดียงสาซังหนี่สบตากับเธออยู่ครู่หนึ่ง จู่ ๆ ก็พลันยิ้มออกมาจากนั้นก็เอ่ยปากว่า “นังเด็กพันทาง”—โทสะ ไม่ว่าใครก็ล้วนมีกันทั้งนั้นและเห็นได้ชัดว่าคำนี้คือคำต้องห้ามของซังฉิงเมื่อซังหนี่กล่าวจบ สีหน้าของซังฉิงก็ย่ำแย่จนถึงขีดสุดทันที!พร้อมยื่นมือออกไปผลักซังหนี่ให้ล้มลงกับพื้นโดยไม่ต้องคิด!นี่คือปฏิกิริยาตามจิตใต้สำนึกของซังฉิงเปลวไฟแห่งความโกรธแค้นเผาผลาญสติของเธอจนหมดสิ้น มันมากเสียจน กว่าจะตระหนักได้ก็กระทำสิ่งนี้ลงไปแล้วแต่มันก็สายเกินไปน้ำเสียงตกใจของคุณนายซังดังขึ้นอย่างรวดเร็ว “ทำอะไรกันน่ะ?”การเคลื่อนไหวของซังฉิงหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมในทันทีเธอรีบร้อนหันกลับมา อยากจะเอ่ยปากกล่าวกับคุณนายซัง แต่อีกฝ่ายกลับเดินผ่านร่างเธอไปแล้วมือที่ยื่นออกไปของซังฉิงจึงคว้าได้เพียงอากาศในทางกลับกัน ซังหนี่นั้นรีบพยุงตัวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วพร้อมยิ้มบาง ๆ “ฉันไม่เป็นไรค่ะ”พฤติกรรมของเธอในตอนนี้ ราวกับพฤติกรรมในเวลาปกต

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 19

    คำพูดของคนรับใช้ ประกอบกับท่าทางที่อยากจะพูดออกมา แต่ก็ไม่พูดเพราะความโศกเศร้าของซังฉิงเมื่อกี้นี้ ทำให้คุณนายซังมีความคิดในใจทันทีเธอหันไปมองซังหนี่อย่างรวดเร็ว “ซังหนี่!”หากไม่ใช่เพราะฟู่เซียวหานอยู่ที่นี่ ตอนนี้คุณนายซังก็คงตบหน้าเธอไปแล้ว“ฉิงฉิงเป็นน้องสาวของเธอ เป็นคุณหนูรองที่พวกเราตระกูลซังยอมรับ! เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร? คิดว่าตระกูลซังของพวกเราเป็นอะไรกันแน่?!”ซังหนี่ไม่เอ่ยตอบเธอเพียงเหลือบมองใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาของซังฉิง ก่อนจะค่อย ๆ หันไปมองฟู่เซียวหานที่ยืนอยู่ข้างเธออีกฝ่ายเองก็กำลังมองเธอด้วยสายตามืดมนเช่นกันซังหนี่ทราบดีว่าเขาจะต้องไม่พอใจแน่นอนเขาไม่พอใจที่ภรรยาของตนกล่าวคำที่‘ไร้การศึกษา’เช่นนั้นออกมา ไม่พอใจที่น้องสาวที่เติบโตมาด้วยกันของเขาโดนกล่าววิจารณ์เช่นนี้แต่สำหรับซังหนี่ สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือประโยคที่เขาพูดเมื่อกี้…ความเชื่อมั่นที่เขามีในตัวซังฉิงอืม เขาเชื่อว่าซังฉิงไม่มีทางลงมือทำร้ายคนอื่นโดยไร้เหตุผลแต่เรื่องที่ทำไมเธอถึงได้ตบตีกับหยวนโหรว เขากลับไม่เคยถามเธอเลยสักครึ่งคำเพราะ…มันไม่มีค่าพอที่จะให้เขาใส่ใจเขาเองก็ไม่

Bab terbaru

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 278

    เมื่อฟู่เซียวหานยังเป็นเด็ก ครั้งหนึ่งเขาเคยเจอแมวจรจัดในโรงเรียนของพวกเขาลูกแมวตัวนั้นอาจเพิ่งคลอดได้ไม่นานแต่ไม่มีแม่แมวอยู่เคียงข้าง มีเพียงมันตัวเดียวที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าและส่งเสียงร้องอย่างอ่อนแรงฟู่เซียวหานเพียงเหลือบตามองมันแต่เขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจที่เปี่ยมล้น ดังนั้นหลังจากเหลือบมองครั้งหนึ่งเขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วแต่เขาไม่คาดคิดว่าลูกแมวตัวนั้นจะเดินตามหลังเขามาฝีเท้าของเขาไม่ได้นับว่าก้าวเดินช้า ทั้งที่ลูกแมวตัวนั้นยังไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงแต่ยังคงยืนหยัดเดินตามเขามาทีละก้าวและในขณะที่ฟู่เซียวหานกำลังจะเดินไปถึงหน้าประตูโรงเรียน ในที่สุดเขาก็หยุดฝีเท้าลงจากนั้นก็หมุนตัวเดินไปที่ร้านของชำด้านข้าง พร้อมซื้อไส้กรอกมาหนึ่งชิ้นลูกแมวตัวน้อยกินอย่างมีความสุขดังนั้นนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฟู่เซียวหานจะเจอมันทุกครั้งหลังเลิกเรียนมันเป็นฝ่ายริเริ่มเข้ามาหาเขาก่อน หลังจากซุกไซร้เข้ากับฝ่ามือของเขาแล้วจึงรอให้เขาป้อนอาหารด้วยความเชื่อฟังและนับตั้งแต่นั้น ฟู่เซียวหานก็มักจะเตรียมขนมไว้ในกระเป๋านักเรียนของเขาเสมอในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาแม้กระทั่งตั้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 277

    ฟู่เซียวหานราวกับสงบสติลงแล้ว ในเวลานี้สองมือของเขายันเข้ากับพื้นโต๊ะ แผ่นหลังที่เหยียดตรงอยู่เสมอโค้งงอ เขาก้มศีรษะลง ดูจิตใจเหงาหงอยเศร้าซึมลงอย่างบอกไม่ถูกสวีเหยียนคิดอยากจะปลอบโยนเขา แต่ว่าสวีเหยียนไม่รู้เลยว่าตนควรจะพูดสิ่งใดและในขณะที่เขาลังเลนั้นเอง จู่ ๆ ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นพร้อมถามเขาว่า “มีบุหรี่ไหม?”สวีเหยียนชะงักไปกับคำถามที่เข้ามาอย่างกะทันหันนี้ หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็รู้สึกตัวและนึกขึ้นได้ว่าฟู่เซียวหานเลิกบุหรี่ไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้เขารีบส่งซองบุหรี่ที่พกติดตัวไปอย่างไม่ลังเล พร้อมกล่าวว่า “บุหรี่ยี่ห้อนี้แตกต่างกับที่คุณคุ้นเคย ให้ผมสั่งคนไปซื้อมาให้ไหมครับ?”“ไม่ต้อง”ฟู่เซียวหานพูดพลางหยิบบุหรี่ออกจากซองสวีเหยียนรีบส่งไฟแช็กที่จุดไฟแล้วไปให้อย่างรวดเร็วเพราะมือของเขายังคง…สั่นระริกอยู่ตลอดเวลาสวีเหยียนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทาเมื่อเห็นท่าทีของเขาเช่นนั้น โชคดีที่ครู่ต่อมาฟู่เซียวหานจุดบุหรี่ได้ในที่สุดสวีเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกฟู่เซียวหานสุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง หลังจากจ้องไปที่วงควันบนอากาศสักพัก เขาก็กล่าวว่า “เธอกำลังจะแต่งงานแล้ว”

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 276

    ฟู่เซียวหานมองภาพนั้นอยู่นานจนกระทั่งสวีเหยียนและผู้จัดการฝ่ายดำเนินการเข้ามากล่าวรายงานกับเขาได้ครู่ใหญ่ และพบว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดกลับมาเลย สวีเหยียนถึงจะตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ประธานฟู่ครับ?”เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นมองเขาดวงตาล้ำลึกคู่นั้นยังคงเปี่ยมด้วยความสงบอย่างเคยสวีเหยียนรู้สึกไปแม้กระทั่งว่าเมื่อกี้เป็นเขาที่คิดไปเอง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงยื่นเอกสารในมือให้เขา “นี่เป็นเอกสารที่ทางแผนกดำเนินการเพิ่งนำมาครับ ต้องใช้ลายเซ็นของคุณ”ฟู่เซียวหานเหมือนจะเอ่ยตอบรับในลำคอ และหยิบปากกาที่วางด้านข้างขึ้นมาสวีเหยียนและคนที่ยืนด้านข้างยืนรออยู่ฝั่งตรงข้ามหากยึดตามความเร็วในการตรวจสอบเอกสารของฟู่เซียวหานในอดีต เอกสารชุดนี้ก็จะใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบวินาทีเท่านั้น แต่ทั้งสองรอไปสักพักใหญ่ ก็พบว่าสายตาของฟู่เซียวหานยังคงหยุดอยู่ตรงหน้าแรกของเอกสาร“ประธานฟู่ครับ?”เขาทำได้เพียงเอ่ยถามอีกครั้ง ผู้จัดการฝ่ายดำเนินการกระทั่งเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ “ประธานฟู่ครับ เอกสาร…มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”ฟู่เซียวหานไม่กล่าวอะไรออกมา เพียงพลิกหน้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 275

    เขาคิดว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็จะยังคงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ราวกับสายน้ำแร่อันแสนอ่อนโยนที่คอยโอบอุ้มทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเอาไว้เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะจากไปและมากกว่านั้นคือเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากที่เธอจากไป เขาจะรู้สึก…เจ็บได้ถึงขนาดนี้——ราวกับสูญเสียอากาศและแหล่งน้ำที่จำต้องพึ่งพาเพื่อความอยู่รอดดังนั้น เขาคิดผิดไปอย่างไรก็ตาม มันก็เหมือนกันกับในตอนแรกที่เขาไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอได้อธิบาย ตอนนี้ เธอเองก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาเหนี่ยวรั้งเอาไว้เช่นกันความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ได้ถูกเธอตัดสินโทษประหารชีวิตเอาไว้แล้ว……ไม่กี่วันหลังจากนั้น ซังหนี่ยังคงไปทำงานที่บริษัทตามปกติข่าวการแต่งงานกับจี้อวี้หยวนไม่ใช่เรื่องที่เธอกุขึ้นมา แต่เป็นสิ่งที่พวกเขาปรึกษากันอย่างดีและตัดสินใจลงมือทำเพราะเวลาของคุณตาของจี้อวี้หยวนใกล้จะหมดลงแล้วชายชราไม่นับว่าอายุมากนัก แต่ก่อนหน้านี้จู่ ๆ เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือรู้จักกันทั่วไปว่าเป็นโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุยิ่งไปกว่านั้น อาการของเขาทรุดตัวลงไปอย่างรวดเร็ว จี้อวี้หยวนเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของเขา ความปรารถนาของผ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 274

    ทันทีที่คำพูดนี้ของฟู่เซียวหานหลุดออกจากปาก ซังหนี่พลันตกตะลึงจากนั้นเธอก็หัวเราะออกมา “จริงหรือคะ? แล้วนับว่าคุณชนะหรือเปล่า?”ฟู่เซียวหานไม่ตอบคำถามของเธอ ราวกับรู้สึกว่าคำถามนี้ไม่มีความจำเป็นต้องตอบเขาจึงเดินถือสัมภาระออกไปทั้งอย่างนั้นเสียงปิดประตูไม่ดังไม่เบา ไม่เจือไปด้วยอารมณ์ใด ๆ ซังหนี่เองก็ไม่ได้เหลือบมองไปฝั่งนั้นเลยด้วยซ้ำกล่าวตามตรง เดิมทีเธอไม่คิดจะพูดถ้อยคำเมื่อกี้ไปสักนิดเพราะมัน…ไม่มีความหมายอะไรอย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็จบลงแล้ว การที่จะไปขุดคุ้ยอารมณ์จากเรื่องราวในอดีตขึ้นมาอีกครั้งช่างเป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็นมันก็เหมือนกับผลไม้เน่าเสียที่แค่ต้องโยนทิ้งลงถังขยะไปก็เท่านั้น ทำไมต้องปอกเปลือกออกทีละชั้นเพื่อหาว่าตรงไหนกันที่เน่าเป็นจุดแรก?ท้ายที่สุดแล้ว บนมือก็หลงเหลือเพียงแกนกลางผลไม้ที่เน่าเปื่อยถึงจะยอมรับได้ในที่สุดว่า ——มันผิดมาตั้งแต่แรกแต่ซังหนี่เองที่อดใจไม่ไหวคำถามต่าง ๆ วนเวียนอยู่ในสมองของเธอ นับตั้งแต่เจิ้งชวนบอกกล่าวให้เธอฟังเกี่ยวกับเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ป นับตั้งแต่เธอรู้เรื่องว่าคุณนายฟู่ได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาแล้วไม

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 273

    เขาก็อาจมีความรู้สึกต่อเธออย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่รีบร้อนขนาดนั้นเวลาที่เธอมีเรื่องแต่ความรู้สึกนี้มีอยู่เท่าไหร่กันนะ?เป็นสิ่งที่ต่อท้ายจากผลประโยชน์ของเขา เป็นสิ่งที่หากมีเรื่องใดเกิดขึ้น เขาก็พร้อมจะใช้เธอเป็นไพ่ที่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างไม่ลังเลและการเหนี่ยวรั้งเธอไว้ตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่ตรงตามจังหวะขั้นตอนเพราะอย่างไรเสียเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ปก็ได้รับการแก้ไขแล้ว เขาได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการมาแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงหันมองย้อนกลับมานึกถึงไพ่ที่เขาทิ้งไปด้วยตัวเองตั้งแต่แรก?ถึงตอนนี้เขาจะเหนี่ยวรั้งไว้แล้วอย่างไร?ท้ายที่สุดก็โดนเขา…ทิ้งไปอยู่ดีซังหนี่ไม่คิดกล่าวโทษเขาเพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นนักธุรกิจคนหนึ่งอีกอย่างเธอรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนอื่น ๆ ต่างเห็นความรุ่งโรจน์ของเขา ทว่าจริง ๆ แล้วการจะมาถึงจุดนี้นั้นช่างแสนลำบาก ตอนนั้นคุณพ่อของเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เขาเองก็ยังอายุน้อยอยู่มาก ลับหลังล้วนมีแต่คนจับจ้องผลประโยชน์ตาเป็นมันดังนั้นการที่เขาจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์มาเป็นอันดับแรกจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ซังหนี่เกลียดภาพที่เขาแสดงออกมาว่

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 272

    “คุณหมายความว่าอะไร?”ฟู่เซียวหานถามเสียงต่ำซังหนี่ดึงเค้กก้อนนั้นกลับมาอีกครั้ง ในมือถือส้อมไว้แต่ไม่ได้ขยับ เธอเพียงเอ่ยถามเสียงเบาว่า “ปัญหาของทางจื้อเหอกรุ๊ปคุณจัดการแล้วหรือคะ?”ฟู่เซียวหานคาดไม่ถึงว่าจู่ ๆ เธอจะถามถึงเรื่องนี้ก่อนที่จะคิดได้ว่าควรตอบไปอย่างไร ซังหนี่ก็กล่าวเสริมขึ้นมา “วิกฤตการณ์ทางธุรกิจของจื้อเหอกรุ๊ปในปีที่แล้ว จริง ๆ แล้วเป็นเพียงระเบิดควันที่คุณวางไว้ใช่ไหมคะ?”“ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกฉันว่าจื้อเหอกรุ๊ปก่อตั้งมานานหลายสิบปี ซึ่งนั่นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วประเทศ มีทั้งชื่อเสียงทั้งรากฐานที่ยึดแน่น”“ข้อเสียคือในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ความกระตือรือร้นของพนักงานมากหน้าหลายตาล้วนถูกขัดเกลาจนแทบไม่หลงเหลือความรู้สึกนั้นอยู่ โดยเฉพาะเหล่าญาติสนิทมิตรสหายของผู้ถือหุ้นหลายราย แต่คุณรู้อยู่แก่ใจถึงการกระทำที่ไม่เอาการเอางานของพวกเขาดี ทว่ากลับไม่สามารถกำจัดทั้งหมดออกไปได้ เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นเก่าแก่ที่ร่วมทำงานหนักตรากตรำกันมากับคุณพ่อของคุณ หรือแม้แต่กับคุณปู่คุณด้วยซ้ำ หากคุณจะลงมือ มันก็คง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 271

    ไม่จำเป็นจะต้องเปิดโอกาสให้เธอหัวเราะเยาะเขาไปมากกว่านี้แต่ในเวลานี้ ฟู่เซียวหานยังคงควบคุมมันไม่ได้หลังจากสบตาเขาสักพัก ซังหนี่ก็ตอบว่า “เรื่องการแต่งงานเราได้ตัดสินใจกันไปเรียบร้อยในเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ค่ะ”“สำหรับเมื่อกี้…ประธานฟู่ที่มีประสบการณ์และความรู้กว้างขวางถึงเพียงนี้ หรือว่าคุณจะไม่รู้ว่าบนโลกนี้มีคำศัพท์อย่างคำว่าทำรักครั้งสุดท้ายเพื่อสิ้นสุดความสัมพันธ์งั้นหรือคะ? อีกอย่างไม่ว่าจะควรพูดหรือไม่ แต่ในช่วงที่ผ่านมานี้คุณได้ช่วยเหลือฉันไว้เยอะมากจริง ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสมควรที่ฉันจะตอบแทนคุณเพียงเพื่อให้คุณมีความสุขขึ้นมาบ้าง”ซังหนี่อธิบายเปี่ยมด้วยความจริงจังและจริงใจฟู่เซียวหานมองเธอพร้อมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ดังนั้นเมื่อกี้คุณ…ก็แค่อยากให้ผมมีความสุข?”“ใช่สิคะ ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นแล้วคุณคิดว่าอะไรล่ะ?”มือของฟู่เซียวหานที่จับเธอไว้ปล่อยออกแทบจะในทันที แม้แต่ดวงตาที่จับจ้องมาราวกับจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ เมื่อกี้นี้เองก็ลดสายตาลงเช่นกันสภาพเช่นนั้น ราวกับเขาอ่อนแรงไปอย่างกะทันหันอย่างไรอย่างนั้นเดิมทีซังหนี่คิดว่าเขายอมรับเรื่องนี้ได้แล้ว แต่วินาทีถัดมา ฟู่เ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 270

    ฟู่เซียวหานไม่อยากจะเชื่อเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน พวกเขาสองคนยังแนบชิดกันอยู่เลย แต่ตอนนี้ ซังหนี่กลับพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งว่าให้เขาออกฟู่เซียวหานนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนจะหัวเราะออกมา “คุณล้อผมเล่นใช่ไหม? ซังหนี่ คุณ……”“คุณกับโจวหลินทำข้อตกลงอะไรกัน?”ฟู่เซียวหานเดิมทีถอดถุงมือออกแล้วกำลังจะไปกอดเธอ แต่ซังหนี่กลับหลบเลี่ยงการกระทำของเขา แล้วถามเขาต่อสีหน้าจริงจังนั้น ทำให้มือของฟู่เซียวหานชะงักค้างกลางอากาศ สุดท้าย ก็ต้องค่อยๆ เก็บกลับไปแม้จะไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เธอพูดกับตัวเองตอนนี้ แต่ฟู่เซียวหานก็ตอบกลับไปว่า “เขามีปัญหาบางอย่างเรื่องการเงินที่ต่างประเทศ และผมเป็นคนช่วยจัดการให้เขา”“อืม ไม่น่าล่ะ”ซังหนี่พยักหน้าฟู่เซียวหานขมวดคิ้ว “ทำไมเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”“เปล่าค่ะ ตรงกันข้าม เพราะคุณช่วยเอาไว้ โครงการของเราถึงดำเนินไปอย่างราบรื่น เงินทุนก็ถูกโอนเข้ามาวันนี้แล้ว ไม่อย่างนั้น อาจต้องรอเป็นเดือนกว่าจะได้ข้อสรุป”ฟู่เซียวหานฟังแล้วกลับยิ่งไม่เข้าใจในเมื่อทุกอย่างราบรื่น แล้วทำไม…ราวกับรู้ว่าเขากำลังสงสัยอะไร ซังหนี่จึงพูดขึ้นทันทีว่า “เพราะฉะนั้นฟู่เ

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status