Share

บทที่ 2

Author: ซ่งจิ้น
ผู้พูดคือหยวนโหรวเพื่อนสนิทของซังฉิง ซึ่งเป็นคุณหนูของกลุ่มบริษัทหนึ่งด้วยเช่นกัน

หยวนโหรวกับซังฉิงเติบโตมาด้วยกัน ก่อนหน้านี้ก็หวังว่าฟู่เซียวหานกับซังฉิงจะลงเอยกันด้วยดี

ตอนนี้ถูกซังหนี่แย่งตำแหน่งคุณนายฟู่ไปครองแล้ว จึงเป็นธรรมดาที่เธอย่อมไม่ชอบขี้หน้าซังหนี่

รวมถึงตอนที่เธอพบว่าซังหนี่ยืนอยู่ที่หน้าประตู บนใบหน้าของเธอไม่มีความอึดอัดหรือไม่สบายใจใด ๆ เลย

กลับเป็นซังฉิงที่ร้องเรียกเธอ “พี่ พี่มาแล้วเหรอ?”

ซังหนี่พยักหน้า “พี่มารับเธอกลับบ้าน เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”

“เรียบร้อยแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”

ท่าทางของซังฉิงดูเชื่อฟังมาก กลับเป็นหยวนโหรวที่อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “คุณนายฟู่ แล้วประธานฟู่ล่ะ? วันนี้ฉิงฉิงออกจากโรงพยาบาล เขาไม่มารับเหรอ?”

“อืม เขาไปที่บริษัทแล้ว”

“อ่อ ดูท่าเขาคงยุ่งมากสินะ แต่ก็ไม่รู้ว่าเขายุ่งจริง ๆ จนปลีกตัวมาไม่ได้ หรือว่าคุณนายฟู่ไม่ให้เขามากันแน่?”

เมื่อเธอพูดจบ ซังฉิงก็รีบพูดเสียงเบา “หยวนโหรว เธอเลิกพูดได้แล้ว”

หยวนโหรวกลับกล่าวเสียงเย็นชา “ทำไมจะพูดไม่ได้? มีใครบางคนร้อนตัวเหรอไง?”

ซังหนี่ไม่ได้โต้เถียงเธอ เพียงแต่เลื่อนหน้าจอโทรศัพท์มือถือเพื่อเปิดหาบันทึกการโทร แล้วก็กดเบอร์ของฟู่เซียวหาน ยื่นไปให้หยวนโหรว

“คุณหมายความว่ายังไง?”

ซังหนี่สีหน้าจริงจัง “เธอสงสัยไม่ใช่หรือไง? โทรศัพท์ไปถามเขาเองสิ”

“คุณ...”

หยวนโหรวกำลังจะระเบิดอารมณ์ ซังฉิงกลับคว้ามือของเธอเอาไว้ แล้วส่ายหน้า “เธออย่าทะเลาะกับพี่สาวของฉัน”

“เพราะเธอเป็นคนดี” หยวนโหรวกัดฟันกรอด “ถึงได้ยอมให้คนอื่นเหยียบหัวเธอเพื่อชูคอ!”

ซังหนี่คร้านจะสนใจเธอ เพียงลากกระเป๋าเดินทางของซังฉิง แล้วเดินนำหน้าไป

ทันทีที่ขึ้นรถ คุณนายซังก็โทรศัพท์มาหา

“ลูกไปรับฉิงฉิงแล้วหรือยัง?”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับลูกสาวแท้ ๆ ของตนเอง น้ำเสียงของคุณนายซังกลับแฝงไปด้วยความตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด

“ค่ะ”

“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม? หมอบอกว่าเป็นเพราะเธอทานอาหารไม่เป็นเวลาใช่ไหม? ตอนนี้แม่กับพ่อของลูกอยู่ต่างประเทศไม่สามารถรีบกลับไปได้ ลูกรับเธอเรียบร้อยแล้ว จะต้องดูแลเธอให้ดี เข้าใจไหม?”

“ค่ะ”

ซังหนี่ตอบอย่างเรียบเฉย ทำให้คุณนายซัง ดูเหมือนจะตระหนักได้ถึงปัญหาในท่าทีตนเอง หลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง ก็กล่าวขึ้นอีกว่า “ถึงยังไงลูกก็เป็นพี่สาว”

มือของซังหนี่กำพวงมาลัยแน่นอย่างอดไม่ได้

มีอารมณ์บางอย่างกำลังพลุ่งพล่านอยู่ภายในใจ แต่สุดท้ายเธอก็อดกลั้นเอาไว้ได้ แล้วตอบเพียงเบา ๆ “หนูทราบแล้วค่ะ คุณยังมีเรื่องอะไรอีกไหมคะ?”

หลังจากที่คุณนายซังนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก็กล่าวขึ้น “เอาโทรศัพท์ของลูกให้ฉิงฉิงหน่อย”

“ค่ะ”

ซังหนี่ตอบสั้น ๆ แล้วก็ยื่นมือถือให้คนที่นั่งอยู่เบาะหลังของรถ

“หม่ามี๊”

น้ำเสียงอันแผ่วเบาของซังฉิงดังลอยมาทันที แฝงไปด้วยความออดอ้อนที่ลูกสาวมีต่อมารดา

เมื่อเทียบกับน้ำเสียงที่เย็นชาและแข็งทื่อของซังหนี่เมื่อครู่นี้แล้ว แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ซังหนี่ไม่ได้หันหน้ากลับไปมองเช่นกัน เพียงคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยสีหน้าเรียบเฉยแล้วสตาร์ทรถ

“คุณหนูฉิงมาแล้ว”

ทันทีที่รถของซังหนี่จอดที่หน้าประตูคฤหาสน์ ป้าคังผู้ดูแลบ้านก็เดินมารออยู่ข้างหน้าแล้ว มองซังฉิงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ”

“ป้าคัง ไม่เจอกันนานเลยค่ะ”

บนใบหน้าของซังฉิงก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริงเช่นกัน

“ใช่ค่ะ ไม่เจอกันนานเลย! เด็กน้อย นับวันยิ่งสวยขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว พอดีเลย วันนี้ป้าทำซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานของที่หนูชอบที่สุดไว้ อีกเดี๋ยวหนูต้องลองชิมดูนะ!”

ในขณะที่พูด ป้าคังก็ได้ลากซังฉิงเข้าไปในบ้านแล้ว

เมื่อเทียบกับซังหนี่ที่อยู่ในฐานะนายหญิง แทบจะไม่มีความรู้สึกของการมีตัวตนอยู่เลย

แต่ว่าเธอก็คุ้นชินกับชีวิตแบบนี้ไปแล้ว หลังจากที่สั่งให้คนใช้ขนกระเป๋าเดินทางของซังฉิงไปไว้ที่ห้องรับแขกแล้ว ก็กลับไปที่ห้องของตนเอง

แต่ทันทีที่เธอหยิบแท็บเล็ตออกมา เสียงของซังฉิงก็ดังลอยมา “พี่ ที่แท้พี่ก็อยู่ที่นี่นี่เอง”

ซังหนี่หันหน้ากลับไปทันที

สายตาของซังฉิงเองก็กำลังสำรวจรอบ ๆ ภายในห้องของเธอพอดี จากนั้นก็ถามเธอว่า “พี่ พี่กับพี่เขย...แยกห้องนอนกันเหรอ?”

Related chapters

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 3

    เวลาหนึ่งทุ่ม ฟู่เซียวหานกลับมาถึงคฤหาสน์ตรงเวลาตอนนั้นซังฉิงอยู่ที่ห้องรับแขกพอดี หลังจากเห็นเขา ก็รีบก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว “พี่เขย! พี่กลับมาแล้วเหรอคะ?” ฟู่เซียวหานยิ้มบาง ๆ ให้เธอทีหนึ่ง แล้วเหลือบตามองหลังซังหนี่เม้มปากทีหนึ่ง ก็ก้าวมาข้างหน้าเพื่อรับเสื้อคลุมของเขา แล้วเอ่ยปากพูด “ทานข้าวได้แล้วค่ะ”“ขอโทษด้วยนะคะพี่เขย ฉันรบกวนพี่กับพี่สาวแล้วใช่ไหมคะ?บนโต๊ะอาหาร ซังฉิงมองซังหนี่ แล้วพูดเสียงเบา “ที่จริงฉันเคยบอกหม่ามี๊แล้วว่า ฉันอยู่คนเดียวได้ แต่เธอก็ไม่วางใจ...”“ไม่เป็นไร” ฟู่เซียวหานตอบ “เธออยู่ที่นี่ได้ตามสบาย ต้องการอะไรก็บอกมาได้ตลอด”“แบบนี้...ได้เหรอคะ? จะเป็นการรบกวนมากเกินไปไหมคะ?”“ไม่หรอก”“คุณหนูซังฉิงอยู่ที่นี่สิคะถึงจะดี” ป้าคังวางอาหารลงบนโต๊ะพลางพูด “ที่นี่ไม่ได้คึกคักขนาดนี้มานานแล้วค่ะ!”เมื่อเธอพูดจบ ตะเกียบในมือของซังหนี่ก็หยุดชะงักไปทันทีแต่ว่าคำพูดประโยคนี้ของป้าคังไม่ผิดเธอมีนิสัยเงียบขรึม สู้ซังฉิงที่มักจะทำให้ผู้คนมีความสุขไม่ได้จริง ๆ ไม่เพียงแค่พวกป้าคังเท่านั้น แม้แต่ฟู่เซียวหาน เธอก็เคยได้ยินเขาพูดแบบนี้มาหลายครั้งแล้วเช่นกัน

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 4

    ร่างกายของซังหนี่แข็งทื่อไปเธอเบิกตากว้างทันที มือออกแรงผลักเขาออกแต่ฟู่เซียวหานกลับทำเหมือนไม่ได้ยินอะไรเลย เพียงพลิกมือแล้วจับข้อมือของเธอเอาไว้ กดตัวเธอเข้ากับกำแพงการกระทำของเขายังคงแข็งแกร่งเหมือนเคยซังหนี่อยากจะคราง แต่เธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เธอพยายามกลืนเสียงกลับเข้าไปอีกครั้งเสียงน้ำจากฝักบัวยังคงดำเนินต่อไปประกอบกับมีประตูกั้นเอาไว้ ซังฉิงที่อยู่ด้านนอกเหมือนว่าจะไม่สังเกตเห็นอะไรเธอถามขึ้นอีก “พี่เขย?”ซังหนี่หันหน้ากลับไปมองฟู่เซียวหานไม่รู้ว่าเป็นเพราะโมโหหรือเพราะเหตุผลอื่น สีหน้าของเธอในเวลานี้แดงระเรื่อ ดวงตาทั้งสองข้างจ้องเขม็งเมื่อเทียบกับท่าทางที่เงียบขรึมในเวลาปกติ ไม่รู้ว่าดูมีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้นกี่เท่าฟู่เซียวหานจ้องมอง การกระทำก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกับกำลังระบายบางอย่างออกมาร่างกายที่สมบูรณ์แบบ ส่งซังหนี่ขึ้นสวรรค์ได้อย่างง่ายดายซังฉิงที่อยู่ด้านนอกเหมือนกำลังพูดอะไรบางอย่างอยู่ แต่ซังหนี่ฟังไม่ชัดเจนเลยแม้แต่ประโยคเดียวตอนที่ฟู่เซียวหานกดเธอลงไปอีกครั้ง สุดท้ายเธอก็ครางออกมาอย่างอดไม่อยู่แล้วจากนั้น คนที่อยู

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 5

    ซังฉิงเติบโตมาด้วยกันกับฟู่เซียวหานตั้งแต่เด็กดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับบ้านเก่าตระกูลฟู่หลังนี้ยิ่งกว่าซังหนี่ทันทีที่เข้าบ้าน เธอก็เดินเข้าไปหาคุณนายใหญ่ด้วยความสนิทสนม “คุณย่า!”“อ้าว ยัยหนูฉิงมาแล้วเหรอ?”คุณนายใหญ่ดีใจเป็นอย่างมาก “ย่าขอดูหน่อย ทำไมผอมลงไปอีกแล้วล่ะ?”“ไม่ผอมนะคะ” ซังฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณย่าดูสิคะ หนูทำลูกชิ้นปูมาให้คุณย่าด้วยนะคะ”“แม่หนู เธอช่างมีน้ำใจจริง ๆ!”ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างสนิทสนม บนใบหน้าของคุณนายใหญ่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแต่ทันทีที่ซังหนี่เดินเข้ามาใกล้ รอยยิ้มของคุณนายใหญ่ก็จางลงไปมากทันทีซังหนี่เหมือนจะไม่ได้สังเกตเห็น เพียงแต่เรียกด้วยความเคารพ “คุณย่า”คุณนายใหญ่เห็นท่าทางของเธอแล้ว กำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก แต่ซังหนี่กลับย้ายสายตาไปอย่างรวดเร็ว กล่าวกับคนที่อยู่บนบันได “คุณแม่”“คุณป้า!”เมื่อเห็นคนที่เดินมา ซังฉิงที่แต่เดิมใช้ร่างกายอิงแอบอยู่บนบ่าของคุณนายใหญ่ ก็ยืนตัวตรงขึ้นทันที สายตาที่จ้องมองอีกฝ่าย แฝงไปด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อย“คุณหนูรองมาแล้วเหรอ ยินดีต้อนรับ”คุณนายฟู่พยักหน้าให้เธอทีหนึ่ง แม้ท่าทางที่แสดงออกดูเหมือนขอ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 6

    ฟู่เซียวหานกลับมาก่อนมื้อเย็นเมื่อเห็นหลานชายของตนเอง คุณนายใหญ่ย่อมยิ้มด้วยความดีใจ ดึงมือของฟู่เซียวหานเอาไว้ตลอดพร้อมทั้งถามด้วยความห่วงใย“ดูสิ ผอมลงอีกแล้ว” คุณนายใหญ่พูดขึ้นด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย “ดูหลานใช้ชีวิตเข้าสิ ทำไมถึงได้ผอมลงกว่าตอนก่อนแต่งงานมากขนาดนั้น ภรรยาของหลานดูแลหลานยังไง?”คำพูดประโยคนี้ของเธอ เห็นได้ชัดว่าหมายถึงซังหนี่ซังหนี่ยังไม่ทันได้อ้าปากพูด ซังฉิงกลับพูดขึ้นว่า “คุณย่า อย่าเข้าใจพี่สาวของหนูผิดสิคะ พี่สาวของหนูยุ่งทุกวันเลยค่ะ ได้ข่าวว่าพี่มีการ์ตูนอีกเล่มที่กำลังจะตีพิมพ์ คุณย่าไม่สังเกตเห็นเหรอคะว่าพี่สาวของหนูก็ผอมลงไปเยอะเหมือนกัน? เมื่อวานหนูเห็นยังสงสารเลยค่ะ”ดูเหมือนปากของซังฉิงกำลังช่วยพูดแทนซังหนี่แต่ทำไมคำพูดประโยคนี้ฟังดูแปลก ๆ แน่นอนว่า คงจะมีเพียงซังหนี่คนเดียวเท่านั้น ถึงเข้าใจคำพูดประชดประชันในนั้นออกหลังจากคุณนายใหญ่ฟังซังฉิงพูดจบ ก็ไม่พอใจยิ่งกว่าเดิม “การ์ตูนอะไร? ของไม่เข้าท่าพวกนั้นอีกแล้วเหรอ เธอนี่มัน...”คุณนายใหญ่เตรียมที่จะสั่งสอน ฟู่เซียวหานก็ตัดบทขึ้นมาทันที “เตรียมตัวกินข้าวได้หรือยังครับ?”“เซียวหาน หลาน...”

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 7

    “พี่เขย ขอบคุณพี่ที่ช่วยฉันพูดเมื่อกี้นี้”ระหว่างทางกลับบ้าน ซังฉิงนั่งอยู่เบาะหลังของรถ แต่ปากกลับพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด “ฉันคิดไม่ถึงว่าหม่ามี๊จะพูดเรื่องนี้กับคุณป้า ฉันตกใจแทบแย่ โชคดีที่พี่เขยช่วยฉันพูด ไม่อย่างนั้น ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงแล้วจริง ๆ ฉันไม่ได้อยากจะแต่งงานเร็วขนาดนี้หรอกค่ะ”ฟู่เซียวหานกำลังขับรถ เพียงส่งเสียงอืมเบา ๆ เท่านั้น ถือเป็นคำตอบท่าทีของเขาเหมือนกับขอไปทีเล็กน้อย แต่ซังฉิงรู้ว่า นิสัยของเขาเป็นแบบนี้มาตลอด ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ถือสา เพียงหันหน้าไปมองทางซังหนี่ที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ “จริงสิพี่คะ เมื่อครู่นี้คุณป้าดึงพี่ขึ้นไปข้างบนคุยอะไรกันเหรอคะ?”“ไม่มีอะไร”ตอนที่ซังหนี่ตอบ ท่าทางเทียบไม่ได้กับการขอไปทีด้วยซ้ำซังฉิงเบะปากด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย แต่ในไม่ใช่ก็พูดขึ้นอีกว่า “ช่างเถอะค่ะ พี่คะ พี่รู้ไหมคะ? ว่าพี่ฉินม่อจะกลับมาแล้ว”ทันทีที่พูดจบ สีหน้าของซังหนี่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยตอนนี้ ข้างหน้าเป็นไฟแดงพอดีฟู่เซียวหานหยุดรถอย่างรวดเร็วการเบรกของเขาไม่นับว่ากะทันหัน แต่เมื่อครู่นี้ซังหนี่อยู่ในอาการตกตะลึงพอดี ตอนนี้ตัวจึงโยกเล็กน้อยอย่างอด

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 8

    ซังหนี่ยังคงนั่งอยู่ที่ตำแหน่งด้านข้างคนขับเดิมทีเธอคิดว่าตนเองตายด้านมากพอแล้ว แต่ในเวลานี้ เธอยังคงรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจอยู่เป็นระยะ ๆเหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังกัดกินตรงนั้นอยู่ทันใดนั้นซังหนี่ก็นึกถึงเรื่องในอดีตที่นานมาแล้วเรื่องหนึ่งขึ้นมานั่นคือตอนหลังจากที่เธอเพิ่งกลับมาที่บ้านตระกูลซังได้ไม่นานซังหนี่จำได้อย่างแม่นยำว่า วันนั้นฝนตกคุณแม่ของเธอไปรับเธอกับซังฉิงกลับจากโรงเรียนด้วยตนเองแต่ระหว่างทาง พวกเธอประสบอุบัติเหตุถึงแม้ว่าอุบัติเหตุจะไม่รุนแรง แต่เพื่อหลบรถคันหลัง คนขับรถจึงชนเข้ากับพื้นที่สีเขียวที่อยู่ริมทางตอนนั้นศีรษะของซังหนี่กระแทกเข้ากับกระจก ทำให้ตกอยู่ในอาการไม่ได้สติแต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สติ แต่ตอนนั้นเธอมองเห็นอย่างชัดเจนว่า คุณแม่ของเธอเดินอ้อมเธอไป อุ้มซังฉิงที่อยู่ข้างกายเธอพร้อมกับร้องไห้เป็นตอนนั้นเองที่ทำให้ซังหนี่ตระหนักได้ว่า พวกเขาตามตนกลับมา ก็แค่เพียงเพราะสายเลือดของพวกเขาไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเธอเท่านั้นแต่สำหรับพวกเขาแล้ว ซังฉิงถึงจะเป็นลูกสาวอันเป็นแก้วตาดวงใจของพวกเขาหลังจากเข้าใจข้อนี้แล้ว ซังหนี่ก็พยายามทำให้ตนเองล

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 9

    เธอ สบายดีไหม?ซังหนี่ลืมไปแล้วว่าไม่ได้ยินคำถามไถ่แบบนี้มานานขนาดไหนถึงขนาดที่ตนเองก็ยังลืมที่จะถามตัวเองด้วยซ้ำว่า เธอสบายดีไหม?คำตอบง่ายดายอย่างเห็นได้ชัดแต่เวลานี้เธอก็ยังตอบออกไปอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด “ดีมาก”“อืม ถ้าอย่างนั้นก็ดี”ฉินม่อกล่าวแต่ในไม่ช้า เขาก็เงียบลงอีกครั้ง“ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ฉันวางสายก่อนนะ?” ซังหนี่พูดขึ้นอีกครั้ง“ได้”ทางด้านฉินม่อตอบอย่างรวดเร็ว แต่ตอนที่ซังหนี่กำลังจะวางสาย จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาอีกว่า “ตอนนั้นต้องขอโทษมาก ๆ ที่ฉันไม่ได้บอกลาเธอ แต่ตลอดเวลาหลายปีที่ฉันอยู่ต่างประเทศ ฉันคิดถึงเธอมากจริง ๆ”“ดึกมากแล้ว นายรีบพักผ่อนเถอะ”เมื่อพูดจบ เขาถึงวางสายโทรศัพท์ซังหนี่ถือโทรศัพท์มือถือยืนอยู่บนขั้นบันได หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เธอถึงค่อย ๆ หันหลังกลับ แล้วเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองคืนนี้ ฟู่เซียวหานไม่ได้เรียกหาเธอซังหนี่ยังคงไม่สามารถหลับได้อย่างสนิทเช่นเดิมเป็นเพราะโทรศัพท์สายนั้นของฉินม่อ ทำให้เธอฝันตลอดทั้งคืนเธอในความฝัน ได้กลับไปยังช่วงเวลาที่เพิ่งกลับมาถึงตระกูลซังคุณพ่อคุณแม่ตระกูลซังได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับให้เธออย่างอ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 10

    นิสัยของซังหนี่มักจะดูหัวโบราณและน่าเบื่อหน่ายสำหรับคนนอกเสมอหลายครั้ง เธอแทบจะไม่แสดงอารมณ์ออกมาด้วยซ้ำแต่ตอนนี้เธอกลับเหมือนสัตว์ร้ายตัวน้อยที่ถูกบังคับให้ไปที่ริมหน้าผาตัวหนึ่ง สลัดคราบที่อ่อนโยนออก แสดงนิสัยที่ดุร้ายออกมาเพียงแต่การข่มขู่เล็ก ๆ น้อย ๆ นี้สำหรับฟู่เซียวหานแล้วแทบไม่มีความหมายอะไรเขาไม่แม้แต่ตอบเธอสักประโยคเสียด้วยซ้ำ กลับยกเธอขึ้นมาจากเตียงทันทีหลังจากนั้น ก็ลงมือเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอด้วยตนเองซังหนี่อยากจะผลักเขาออกไป แต่แรงของทั้งสองคนแตกต่างกันเกินไป สุดท้าย เธอก็ถูกเขาลากตัวลงไปที่ชั้นล่างอยู่ดี“คุณชาย คุณนายน้อย...”ป้าคังที่อยู่ตรงชั้นล่างอยู่แล้ว เมื่อเห็นฉากนี้ ก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมองเห็นเธอ ซังหนี่เก็บอาการทันที ไม่ขัดขืนอีกต่อไป ยอมให้ฟู่เซียวหานพาตนเดินออกจากประตูหลังจากที่รถขับออกมาได้ครู่หนึ่ง ซังหนี่ก็ค่อย ๆ เงียบสงบลงหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ ก็หันหน้าไปมองคนที่อยู่ข้าง ๆ “พวกเราไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลหรอก ด้านคุณแม่ของคุณ ฉันจะอธิบายให้ท่านฟังเอง”“ฉันรู้ว่างานของคุณยุ่งมาก คุณไม่จำเป็นต้องกลับไปส่งฉันหรอก ปล่อยฉันลงตรงไหนส

Latest chapter

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 274

    ทันทีที่คำพูดนี้ของฟู่เซียวหานหลุดออกจากปาก ซังหนี่พลันตกตะลึงจากนั้นเธอก็หัวเราะออกมา “จริงหรือคะ? แล้วนับว่าคุณชนะหรือเปล่า?”ฟู่เซียวหานไม่ตอบคำถามของเธอ ราวกับรู้สึกว่าคำถามนี้ไม่มีความจำเป็นต้องตอบเขาจึงเดินถือสัมภาระออกไปทั้งอย่างนั้นเสียงปิดประตูไม่ดังไม่เบา ไม่เจือไปด้วยอารมณ์ใด ๆ ซังหนี่เองก็ไม่ได้เหลือบมองไปฝั่งนั้นเลยด้วยซ้ำกล่าวตามตรง เดิมทีเธอไม่คิดจะพูดถ้อยคำเมื่อกี้ไปสักนิดเพราะมัน…ไม่มีความหมายอะไรอย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็จบลงแล้ว การที่จะไปขุดคุ้ยอารมณ์จากเรื่องราวในอดีตขึ้นมาอีกครั้งช่างเป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็นมันก็เหมือนกับผลไม้เน่าเสียที่แค่ต้องโยนทิ้งลงถังขยะไปก็เท่านั้น ทำไมต้องปอกเปลือกออกทีละชั้นเพื่อหาว่าตรงไหนกันที่เน่าเป็นจุดแรก?ท้ายที่สุดแล้ว บนมือก็หลงเหลือเพียงแกนกลางผลไม้ที่เน่าเปื่อยถึงจะยอมรับได้ในที่สุดว่า ——มันผิดมาตั้งแต่แรกแต่ซังหนี่เองที่อดใจไม่ไหวคำถามต่าง ๆ วนเวียนอยู่ในสมองของเธอ นับตั้งแต่เจิ้งชวนบอกกล่าวให้เธอฟังเกี่ยวกับเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ป นับตั้งแต่เธอรู้เรื่องว่าคุณนายฟู่ได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาแล้วไม

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 273

    เขาก็อาจมีความรู้สึกต่อเธออย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่รีบร้อนขนาดนั้นเวลาที่เธอมีเรื่องแต่ความรู้สึกนี้มีอยู่เท่าไหร่กันนะ?เป็นสิ่งที่ต่อท้ายจากผลประโยชน์ของเขา เป็นสิ่งที่หากมีเรื่องใดเกิดขึ้น เขาก็พร้อมจะใช้เธอเป็นไพ่ที่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างไม่ลังเลและการเหนี่ยวรั้งเธอไว้ตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่ตรงตามจังหวะขั้นตอนเพราะอย่างไรเสียเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ปก็ได้รับการแก้ไขแล้ว เขาได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการมาแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงหันมองย้อนกลับมานึกถึงไพ่ที่เขาทิ้งไปด้วยตัวเองตั้งแต่แรก?ถึงตอนนี้เขาจะเหนี่ยวรั้งไว้แล้วอย่างไร?ท้ายที่สุดก็โดนเขา…ทิ้งไปอยู่ดีซังหนี่ไม่คิดกล่าวโทษเขาเพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นนักธุรกิจคนหนึ่งอีกอย่างเธอรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนอื่น ๆ ต่างเห็นความรุ่งโรจน์ของเขา ทว่าจริง ๆ แล้วการจะมาถึงจุดนี้นั้นช่างแสนลำบาก ตอนนั้นคุณพ่อของเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เขาเองก็ยังอายุน้อยอยู่มาก ลับหลังล้วนมีแต่คนจับจ้องผลประโยชน์ตาเป็นมันดังนั้นการที่เขาจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์มาเป็นอันดับแรกจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ซังหนี่เกลียดภาพที่เขาแสดงออกมาว่

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 272

    “คุณหมายความว่าอะไร?”ฟู่เซียวหานถามเสียงต่ำซังหนี่ดึงเค้กก้อนนั้นกลับมาอีกครั้ง ในมือถือส้อมไว้แต่ไม่ได้ขยับ เธอเพียงเอ่ยถามเสียงเบาว่า “ปัญหาของทางจื้อเหอกรุ๊ปคุณจัดการแล้วหรือคะ?”ฟู่เซียวหานคาดไม่ถึงว่าจู่ ๆ เธอจะถามถึงเรื่องนี้ก่อนที่จะคิดได้ว่าควรตอบไปอย่างไร ซังหนี่ก็กล่าวเสริมขึ้นมา “วิกฤตการณ์ทางธุรกิจของจื้อเหอกรุ๊ปในปีที่แล้ว จริง ๆ แล้วเป็นเพียงระเบิดควันที่คุณวางไว้ใช่ไหมคะ?”“ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกฉันว่าจื้อเหอกรุ๊ปก่อตั้งมานานหลายสิบปี ซึ่งนั่นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วประเทศ มีทั้งชื่อเสียงทั้งรากฐานที่ยึดแน่น”“ข้อเสียคือในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ความกระตือรือร้นของพนักงานมากหน้าหลายตาล้วนถูกขัดเกลาจนแทบไม่หลงเหลือความรู้สึกนั้นอยู่ โดยเฉพาะเหล่าญาติสนิทมิตรสหายของผู้ถือหุ้นหลายราย แต่คุณรู้อยู่แก่ใจถึงการกระทำที่ไม่เอาการเอางานของพวกเขาดี ทว่ากลับไม่สามารถกำจัดทั้งหมดออกไปได้ เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นเก่าแก่ที่ร่วมทำงานหนักตรากตรำกันมากับคุณพ่อของคุณ หรือแม้แต่กับคุณปู่คุณด้วยซ้ำ หากคุณจะลงมือ มันก็คง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 271

    ไม่จำเป็นจะต้องเปิดโอกาสให้เธอหัวเราะเยาะเขาไปมากกว่านี้แต่ในเวลานี้ ฟู่เซียวหานยังคงควบคุมมันไม่ได้หลังจากสบตาเขาสักพัก ซังหนี่ก็ตอบว่า “เรื่องการแต่งงานเราได้ตัดสินใจกันไปเรียบร้อยในเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ค่ะ”“สำหรับเมื่อกี้…ประธานฟู่ที่มีประสบการณ์และความรู้กว้างขวางถึงเพียงนี้ หรือว่าคุณจะไม่รู้ว่าบนโลกนี้มีคำศัพท์อย่างคำว่าทำรักครั้งสุดท้ายเพื่อสิ้นสุดความสัมพันธ์งั้นหรือคะ? อีกอย่างไม่ว่าจะควรพูดหรือไม่ แต่ในช่วงที่ผ่านมานี้คุณได้ช่วยเหลือฉันไว้เยอะมากจริง ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสมควรที่ฉันจะตอบแทนคุณเพียงเพื่อให้คุณมีความสุขขึ้นมาบ้าง”ซังหนี่อธิบายเปี่ยมด้วยความจริงจังและจริงใจฟู่เซียวหานมองเธอพร้อมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ดังนั้นเมื่อกี้คุณ…ก็แค่อยากให้ผมมีความสุข?”“ใช่สิคะ ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นแล้วคุณคิดว่าอะไรล่ะ?”มือของฟู่เซียวหานที่จับเธอไว้ปล่อยออกแทบจะในทันที แม้แต่ดวงตาที่จับจ้องมาราวกับจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ เมื่อกี้นี้เองก็ลดสายตาลงเช่นกันสภาพเช่นนั้น ราวกับเขาอ่อนแรงไปอย่างกะทันหันอย่างไรอย่างนั้นเดิมทีซังหนี่คิดว่าเขายอมรับเรื่องนี้ได้แล้ว แต่วินาทีถัดมา ฟู่เ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 270

    ฟู่เซียวหานไม่อยากจะเชื่อเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน พวกเขาสองคนยังแนบชิดกันอยู่เลย แต่ตอนนี้ ซังหนี่กลับพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งว่าให้เขาออกฟู่เซียวหานนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนจะหัวเราะออกมา “คุณล้อผมเล่นใช่ไหม? ซังหนี่ คุณ……”“คุณกับโจวหลินทำข้อตกลงอะไรกัน?”ฟู่เซียวหานเดิมทีถอดถุงมือออกแล้วกำลังจะไปกอดเธอ แต่ซังหนี่กลับหลบเลี่ยงการกระทำของเขา แล้วถามเขาต่อสีหน้าจริงจังนั้น ทำให้มือของฟู่เซียวหานชะงักค้างกลางอากาศ สุดท้าย ก็ต้องค่อยๆ เก็บกลับไปแม้จะไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เธอพูดกับตัวเองตอนนี้ แต่ฟู่เซียวหานก็ตอบกลับไปว่า “เขามีปัญหาบางอย่างเรื่องการเงินที่ต่างประเทศ และผมเป็นคนช่วยจัดการให้เขา”“อืม ไม่น่าล่ะ”ซังหนี่พยักหน้าฟู่เซียวหานขมวดคิ้ว “ทำไมเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”“เปล่าค่ะ ตรงกันข้าม เพราะคุณช่วยเอาไว้ โครงการของเราถึงดำเนินไปอย่างราบรื่น เงินทุนก็ถูกโอนเข้ามาวันนี้แล้ว ไม่อย่างนั้น อาจต้องรอเป็นเดือนกว่าจะได้ข้อสรุป”ฟู่เซียวหานฟังแล้วกลับยิ่งไม่เข้าใจในเมื่อทุกอย่างราบรื่น แล้วทำไม…ราวกับรู้ว่าเขากำลังสงสัยอะไร ซังหนี่จึงพูดขึ้นทันทีว่า “เพราะฉะนั้นฟู่เ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 269

    ฟู่เซียวหานยังคงกังวลเกี่ยวรอยแดงบนผิวของซังหนี่ เมื่อตอนนี้อารมณ์ของทั้งคู่เริ่มเย็นลง เขากำลังจะปล่อยเธอไป แต่จู่ๆ ซังหนี่กลับคว้าตัวเขาไว้ “ฟู่เซียวหาน”จากนั้น เธอก็โน้มริมฝีปากไปกระซิบข้างหูเขา เบาๆ สองคำถ้อยคำที่ตรงไปตรงมาและเร่าร้อนทำให้ร่างกายของฟู่เซียวหานตึงเครียดขึ้นมาทันที และจ้องมองเธอด้วยสายตาเคร่งขรึมซังหนี่ยิ้มให้เขา ปลายนิ้วของเธอยังถือเนคไทที่เพิ่งถอดออกจากตัวเขา เวลานี้ผืนผ้านุ่มนั้นกำลังลื่นไหลผ่านปลายนิ้วของเธอจากนั้น เธอก็ขยับเข้ามาใกล้อีกครั้ง และแตะปลายลิ้นลงบนริมฝีปากของเขาเบา ๆเศษเสี้ยวของสติที่เหลืออยู่อันน้อยนิดในหัวของฟู่เซียวหานขาดสะบั้นลงในทันที!เขาไม่ลังเลอีกต่อไป จากนั้นจับท้ายทอยของซังหนี่ไว้แน่น แล้วจูบเธอลงไปอย่างเร่าร้อนในตอนนี้ พวกเขาราวกับปลาสองตัวที่ถูกซัดขึ้นฝั่ง เพราะกำลังขาดออกซิเจน จึงมีเพียงกันและกันเท่านั้นที่จะทำให้มีชีวิตรอด พวกเขาพัวพันกันแน่นหนาราวกับไม่อาจแยกจาก ราวกับได้พบเจออีกครึ่งหนึ่งของชีวิตที่ตัวเองตามหากลัวจะสูญเสียไปอีกครั้ง กลัวจะพลาดจากกันไปอีก จึงทำได้เพียงกอดกันไว้แน่นอยู่อย่างนั้นเมื่อทุกอย่างจบลง ซังหนี่

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 268

    ก็เหมือนกับที่เจิ้งชวนพูดไว้ การตรวจสอบที่โจวหลิงพูดถึง จริงๆ แล้วก็แค่พูดเป็นพิธีเท่านั้นใช้เวลาไม่ถึงห้าวันทำการ เงินทุนที่ซังหนี่ต้องการก็ได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้วแต่การได้เงินมาเป็นเพียงแค่ก้าวแรก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ ซังหนี่จึงต้องไปตรวจสอบไซต์ก่อสร้างด้วยตัวเองในวันนี้ตอนนี้เมืองอิ๋นเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการแล้ว ซังหนี่สวมหมวกนิรภัย และในเมื่อเธอไปตรวจงาน ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะมาแสร้งถือร่ม ดังนั้นตลอดทั้งวัน แขนและคอของเธอจึงโดนแดดจนแดงไปหมดระหว่างทางกลับบ้าน เธอจึงแวะซื้อยามาด้วยพอกลับถึงบ้านและกำลังเตรียมจะทายา ฟู่เซียวหานก็กลับมาพอดีคืนนี้เขามีงานเลี้ยง แต่ดูเหมือนจะแอบหนีกลับออกมาก่อน เวลานี้มือของเขายังหิ้วถุงอาหารที่ห่อกลับมาฝากซังหนี่ และที่สะดุดตาที่สุดคือเค้กชิ้นเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆซังหนี่ชะงักไปเล็กน้อยขณะนั้นเองฟู่เซียวหานก็เพิ่งสังเกตเห็นแขนของเธอ “เป็นอะไร?”“ไม่มีอะไรค่ะ แค่โดนแดดเผา”ซังหนี่พูดอย่างไม่ใส่ใจ พอดีกับที่เธอทายาตรงต้นคอด้านหลังเองไม่ได้ เธอจึงยื่นหลอดยาให้เขา ให้เขาช่วยทาแทนฟู่เซียวหานรับยาไปทันที แต่เมื่อเห็นสภา

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 267

    เมื่อเทียบกับเมื่อคืนนี้ ท่าทีของโจวหลินในวันนี้กลับดีขึ้นไม่น้อยหลังจากสอบถามไปสองสามคำ เขาก็บอกว่าจะรีบพิจารณา และจะให้คำตอบกับซังหนี่ภายในหนึ่งสัปดาห์ความเร็วระดับนี้ในแวดวงธุรกิจถือว่าเร็วมากแล้ว ซังหนี่เดาว่าฟู่เซียวหานคงทำอะไรบางอย่างแน่ แต่เธอก็ไม่ได้พูดเรื่องนี้กับใคร เพียงแค่ยิ้มแล้วบอกว่าครั้งหน้าจะเลี้ยงข้าวโจวหลินโจวหลินหัวเราะพลางตอบรับขณะออกจากตึก แม้แต่เจิ้งชวนยังอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นว่า “ผู้จัดการธนาคารโจวคนนี้ดูเหมือนจะพูดง่ายกว่าที่ข่าวลือกันเยอะเลยนะ อีกอย่างคำพูดของเขาก็ดูจะเป็นเพียงมารยาทเท่านั้น เขาเป็นถึงผู้จัดการธนาคาร โครงการจะผ่านหรือไม่ขึ้นอยู่กับเขาพูดคำเดียวไม่ใช่เหรอ?”“แต่กระบวนการก็ยังต้องดำเนินไปตามขั้นตอนอยู่ดี”ตอนนั้นซังหนี่ กำลังดูข่าวในโทรศัพท์ เลยตอบกลับเจิ้งชวนไปอย่างไม่ได้ใส่ใจนักจนกระทั่งพูดจบ เธอถึงได้รู้ว่าตอนนี้บรรยากาศในรถเงียบสงัดซังหนี่เงยหน้าขึ้นมาด้วยความสงสัย แต่กลับพบว่าเจิ้งชวนกำลังมองเธออยู่ “ประธานเสี่ยวซัง ทำไมคุณถึงดูมั่นใจขนาดนี้ล่ะ? ก่อนหน้านี้คุณบอกเองว่านี่เป็นงานหิน ไม่รู้ควรจะจัดการยังไงไม่ใช่เหรอ?”“หรือว่าเ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 266

    ซังหนี่เอนศีรษะพิงโซฟาไฟในห้องนั่งเล่นยังเปิดอยู่ เวลานี้แสงสีขาวสว่างนั้นจ้าจนแสบตา ทำให้น้ำตาไหลออกมาจากหางตาของเธอโดยไม่รู้ตัว จากนั้นมือกำแน่น แต่กลับไม่รู้ว่าจะคว้าอะไร สุดท้าย ทำได้เพียงลดมือลง และจับเส้นผมของฟู่เซียวหานไว้อย่างไม่มีทางเลือกสูญเสียการควบคุมในทันทีแต่ซังหนี่ยังไม่ลืมเรื่องสำคัญ เมื่อฟู่เซียวหานลุกขึ้นและอุ้มเธอไว้ ซังหนี่ดึงสติกลับมา และเขาว่า“คุณคิดจะช่วยฉันยังไง?”ฟู่เซียวหานไม่ตอบ แต่ฝีเท้ากลับไม่หยุดซังหนี่เริ่มร้อนใจ มือกำคอเสื้อของเขาแน่น “ฟู่เซียวหาน คุณกำลังหลอกฉันอยู่รึเปล่า?”ฟู่เซียวหานโยนเธอลงบนเตียงในห้องนอน และโน้มตัวกดไว้ข้างบน “ซังหนี่ คุณใจร้อนเกินไปหรือเปล่า?”“บอกให้คุณเอาใจฉันเพื่อข้อแลกเปลี่ยน แต่ตอนนี้เธอยังไม่ทำอะไรก็หวังจะได้ผลประโยชน์แล้วงั้นเหรอ?”น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยคำเตือนแต่ตอนนี้ซังหนี่กลับไม่กลัวเขาเลยสักนิด เพียงจ้องตาเขม็ง “ถ้าคุณเกิดเปลี่ยนใจทำไม่รู้จักฉันขึ้นมาล่ะ? ถ้าแบบนั้นจะทำยังไง?”“ก็คิดซะว่าคุณโชคร้ายไง”“คุณ...”ซังหนี่ยังพูดไม่จบ ฟู่เซียวหานก็โน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากของเธอพอคิดถึงสิ่งที่เขาเพิ่งทำไป

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status