Share

บทที่ 8

Penulis: ซ่งจิ้น
ซังหนี่ยังคงนั่งอยู่ที่ตำแหน่งด้านข้างคนขับ

เดิมทีเธอคิดว่าตนเองตายด้านมากพอแล้ว แต่ในเวลานี้ เธอยังคงรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจอยู่เป็นระยะ ๆ

เหมือนกับว่ามีอะไรบางอย่างกำลังกัดกินตรงนั้นอยู่

ทันใดนั้นซังหนี่ก็นึกถึงเรื่องในอดีตที่นานมาแล้วเรื่องหนึ่งขึ้นมา

นั่นคือตอนหลังจากที่เธอเพิ่งกลับมาที่บ้านตระกูลซังได้ไม่นาน

ซังหนี่จำได้อย่างแม่นยำว่า วันนั้นฝนตก

คุณแม่ของเธอไปรับเธอกับซังฉิงกลับจากโรงเรียนด้วยตนเอง

แต่ระหว่างทาง พวกเธอประสบอุบัติเหตุ

ถึงแม้ว่าอุบัติเหตุจะไม่รุนแรง แต่เพื่อหลบรถคันหลัง คนขับรถจึงชนเข้ากับพื้นที่สีเขียวที่อยู่ริมทาง

ตอนนั้นศีรษะของซังหนี่กระแทกเข้ากับกระจก ทำให้ตกอยู่ในอาการไม่ได้สติ

แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สติ แต่ตอนนั้นเธอมองเห็นอย่างชัดเจนว่า คุณแม่ของเธอเดินอ้อมเธอไป อุ้มซังฉิงที่อยู่ข้างกายเธอพร้อมกับร้องไห้

เป็นตอนนั้นเองที่ทำให้ซังหนี่ตระหนักได้ว่า พวกเขาตามตนกลับมา ก็แค่เพียงเพราะสายเลือดของพวกเขาไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเธอเท่านั้น

แต่สำหรับพวกเขาแล้ว ซังฉิงถึงจะเป็นลูกสาวอันเป็นแก้วตาดวงใจของพวกเขา

หลังจากเข้าใจข้อนี้แล้ว ซังหนี่ก็พยายามทำให้ตนเองลืมเรื่องนี้ซะ

เพราะทุกครั้งที่นึกถึง เธอรังแต่จะยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิมเท่านั้น

แต่ตอนนี้ เธอนึกถึงขึ้นมาอีกครั้งแล้ว

เพียงแต่คนคนนั้นที่อุ้มซังฉิง เปลี่ยนจากแม่ของเธอ เป็นสามีของเธอแทน

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหน ในที่สุดซังหนี่ก็ลงจากรถ

และในตอนนี้เอง ท้องฟ้าก็มีเสียงฟ้าร้องฮึ่ม ๆ ดังขึ้นมา

——ฝนกำลังจะตกหนัก

ซังหนี่ได้เร่งฝีเท้าแล้ว แต่สถานที่ที่ฟู่เซียวหานจอดรถห่างจากประตูอยู่พอสมควร สุดท้ายเธอก็หลบไม่ทันถูกฝนเปียกปอนไปทั้งตัว

แสงไฟที่ชั้นบนยังสว่างอยู่

ดวงหนึ่งเป็นห้องของซังฉิง อีกดวงหนึ่งเป็นห้องหนังสือของฟู่เซียวหาน

เห็นได้ชัดว่า เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอยังไม่ได้เข้าบ้าน

หลังจากซังหนี่ยืนอยู่ที่เดิมอยู่พักหนึ่งถึงได้มั่นใจเรื่องนี้ จากนั้นก็สาวเท้าที่แข็งทื่อเล็กน้อย ค่อย ๆ เดินขึ้นชั้นบน

หน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธอสว่างขึ้น

เป็นสายเรียกเข้าจากเบอร์แปลกเบอร์หนึ่ง

ซังหนี่มองเบอร์โทรศัพท์นั้น แต่ทันใดนั้นก็นึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ฝีเท้าจึงหยุดชะงักอยู่ที่เดิม

ตอนที่เธอกำลังมองเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ปรากฏบนหน้าจอ ในขณะที่กำลังลังเลว่าควรจะรับสายดีหรือไม่ อีกฝ่ายกลับวางสายแล้ว

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร วินาทีที่หน้าจอดับลงไปอีกครั้ง ซังหนี่กลับรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด

เพียงแต่ในไม่ช้า อีกฝ่ายก็โทรมาเป็นสายที่สอง

ซังหนี่รู้จักเขาดี ดังนั้นครั้งนี้เธอจึงไม่ได้ลังเลอีก กดรับสายทันที

“เสียวหนี่”

ซังหนี่ไม่ได้ยินคำเรียกนี้มานานมากแล้ว

ถึงขนาดที่ตอนที่ได้ยินสองคำนี้อย่างกะทันหัน เธอถึงขั้นใจลอยไปครู่หนึ่ง

“ผมเอง” เขาพูดขึ้น “ผมคือฉินม่อ”

“อืม” ซังหนี่ตอบเสียงเบา “นาย...กลับมาแล้วเหรอ?”

“เปล่า” เขาหัวเราะออกมาทีหนึ่ง “แต่ว่าก็ใกล้แล้วล่ะ ฉันจองตั๋วเครื่องบินวันมะรืนนี้เอาไว้ เธอว่างไหม? มารับฉันได้ไหม?”

ซังหนี่ไม่ได้พูดอะไร

“ไม่สะดวกเหรอ?” ฉินม่อสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเธอทันที “ไม่เป็นไร ฉันกลับไปเองก็ได้ ก็แค่...ไม่ได้เจอหน้ากันนานขนาดนี้ ตอนนี้ไม่ง่ายเลยที่จะตัดสินใจกลับไป ยังหวังว่าคนแรกที่จะได้เจอหน้าก็คือเธอนะ”

“ฉันแต่งงานแล้ว”

ซังหนี่พูดออกไปทันที

“ฉันรู้” คำตอบของฉินม่อไม่ประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย “กับคนนั้นของตระกูลฟู่ใช่ไหม? ถึงยังไงจื้อเหอก็เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงมากขนาดนั้น เรื่องที่ประธานบริษัทแต่งงาน...ถึงฉันจะอยู่เมืองนอกก็รู้ข่าวเหมือนกันนะ”

ซังหนี่ไม่ได้พูดอะไร

หลังจากฉินม่อนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก็ถามเธออีก “เสียวหนี่ ตอนนี้เธอสบายดีไหม?”

Bab terkait

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 9

    เธอ สบายดีไหม?ซังหนี่ลืมไปแล้วว่าไม่ได้ยินคำถามไถ่แบบนี้มานานขนาดไหนถึงขนาดที่ตนเองก็ยังลืมที่จะถามตัวเองด้วยซ้ำว่า เธอสบายดีไหม?คำตอบง่ายดายอย่างเห็นได้ชัดแต่เวลานี้เธอก็ยังตอบออกไปอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด “ดีมาก”“อืม ถ้าอย่างนั้นก็ดี”ฉินม่อกล่าวแต่ในไม่ช้า เขาก็เงียบลงอีกครั้ง“ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ฉันวางสายก่อนนะ?” ซังหนี่พูดขึ้นอีกครั้ง“ได้”ทางด้านฉินม่อตอบอย่างรวดเร็ว แต่ตอนที่ซังหนี่กำลังจะวางสาย จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาอีกว่า “ตอนนั้นต้องขอโทษมาก ๆ ที่ฉันไม่ได้บอกลาเธอ แต่ตลอดเวลาหลายปีที่ฉันอยู่ต่างประเทศ ฉันคิดถึงเธอมากจริง ๆ”“ดึกมากแล้ว นายรีบพักผ่อนเถอะ”เมื่อพูดจบ เขาถึงวางสายโทรศัพท์ซังหนี่ถือโทรศัพท์มือถือยืนอยู่บนขั้นบันได หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ เธอถึงค่อย ๆ หันหลังกลับ แล้วเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองคืนนี้ ฟู่เซียวหานไม่ได้เรียกหาเธอซังหนี่ยังคงไม่สามารถหลับได้อย่างสนิทเช่นเดิมเป็นเพราะโทรศัพท์สายนั้นของฉินม่อ ทำให้เธอฝันตลอดทั้งคืนเธอในความฝัน ได้กลับไปยังช่วงเวลาที่เพิ่งกลับมาถึงตระกูลซังคุณพ่อคุณแม่ตระกูลซังได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับให้เธออย่างอ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 10

    นิสัยของซังหนี่มักจะดูหัวโบราณและน่าเบื่อหน่ายสำหรับคนนอกเสมอหลายครั้ง เธอแทบจะไม่แสดงอารมณ์ออกมาด้วยซ้ำแต่ตอนนี้เธอกลับเหมือนสัตว์ร้ายตัวน้อยที่ถูกบังคับให้ไปที่ริมหน้าผาตัวหนึ่ง สลัดคราบที่อ่อนโยนออก แสดงนิสัยที่ดุร้ายออกมาเพียงแต่การข่มขู่เล็ก ๆ น้อย ๆ นี้สำหรับฟู่เซียวหานแล้วแทบไม่มีความหมายอะไรเขาไม่แม้แต่ตอบเธอสักประโยคเสียด้วยซ้ำ กลับยกเธอขึ้นมาจากเตียงทันทีหลังจากนั้น ก็ลงมือเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอด้วยตนเองซังหนี่อยากจะผลักเขาออกไป แต่แรงของทั้งสองคนแตกต่างกันเกินไป สุดท้าย เธอก็ถูกเขาลากตัวลงไปที่ชั้นล่างอยู่ดี“คุณชาย คุณนายน้อย...”ป้าคังที่อยู่ตรงชั้นล่างอยู่แล้ว เมื่อเห็นฉากนี้ ก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อมองเห็นเธอ ซังหนี่เก็บอาการทันที ไม่ขัดขืนอีกต่อไป ยอมให้ฟู่เซียวหานพาตนเดินออกจากประตูหลังจากที่รถขับออกมาได้ครู่หนึ่ง ซังหนี่ก็ค่อย ๆ เงียบสงบลงหลังจากหายใจเข้าลึก ๆ ก็หันหน้าไปมองคนที่อยู่ข้าง ๆ “พวกเราไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลหรอก ด้านคุณแม่ของคุณ ฉันจะอธิบายให้ท่านฟังเอง”“ฉันรู้ว่างานของคุณยุ่งมาก คุณไม่จำเป็นต้องกลับไปส่งฉันหรอก ปล่อยฉันลงตรงไหนส

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 11

    แม้ว่าเขาจะเป็นชายชราผู้มากประสบการณ์ แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอกล่าว ก็ชะงักด้วยความตกตะลึงเล็กน้อยเพราะยังไงเสีย คนที่มาหาเขาถึงที่นี่ต่างต้องการมีลูกด้วยกันทั้งนั้นแต่ทันทีที่ซังหนี่อ้าปากพูด กลับบอกว่าเธอกำลังทานยาคุมกำเนิดเสียอย่างนั้น?ชายชราอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังฟู่เซียวหานเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเองก็ไม่ได้รู้เรื่องนี้เช่นกัน และในเวลานี้คิ้วของเขาก็เริ่มขมวดย่นเข้าหากันแต่ชายชราก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาชะงักไปเพียงครู่เดียวก่อนจะกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้น ตั้งแต่นี้ไปก็หยุดทานยานั่นซะ ฉันจะสั่งยาให้ เริ่มบำรุงร่างกายเธอให้ดีเสียก่อนแล้วกัน”ซังหนี่ไม่ปริปากพูดอะไรอีก แต่เมื่อชายชรายื่นตำรับยาให้เธอ เธอกลับยื่นมือมารับไปอย่างรวดเร็ว“ขอบคุณค่ะ”หลังพูดจบเธอก็จากไปโดยไม่หันมามองอีกฟู่เซียวหานเดินตามหลังเธอมาซังหนี่รู้ดีว่าเขาไม่มีเวลามาสนใจดูแลเธอแน่นอน ดังนั้นเมื่อออกจากโรงพยาบาล เธอจึงตั้งใจจะเรียกรถด้วยตัวเอง แต่ฟู่เซียวหานกลับกระชากรั้งตัวเธอไว้อย่างรวดเร็ว“ขึ้นรถ”น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบ สายตาที่มองก็เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกนั้นเช่นกัน“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเรีย

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 12

    ท้ายที่สุดฟู่เซียวหานก็ไม่ได้ส่งซังหนี่กลับไปที่คฤหาสน์เมื่อแสดงจุดยืนทางคำพูดของเขาอย่างชัดเจนแล้ว เขาก็มองหาทางแยกแล้วปล่อยซังหนี่ลงจากรถก่อนที่ซังหนี่จะทรงตัวยืนอย่างมั่นคง เขาก็เหยียบคันเร่งขับออกไปแล้วรถปอร์เช่สีดำคันนั้นขับผ่านเธอไปเช่นนี้ โดยไม่มีแม้แต่ความลังเลใด ๆ ซังหนี่ชินเสียแล้วแต่มือของเธอก็อดไม่ได้ที่จะกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อบริเวณนั้นส่งผ่านความรู้สึกมาเป็นความเจ็บปวดเล็กน้อย—นั่นคือสิ่งที่ที่ซังหนี่ใช้เตือนตัวเองอย่าคิดที่จะ…เพ้อฝันเรื่องใดเกี่ยวกับเขาอีกในเมื่อได้ออกมาข้างนอกแล้ว ซังหนี่จึงเตรียมจะเดินเล่นสักหน่อยโดยไม่ลังเลทว่าโชคของเธอไม่ดีนัก ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปในห้างสรรพสินค้า ก็ชนกับคนตรงหน้าเข้าอย่างจัง“โอ้ นี่มันคุณนายฟู่ไม่ใช่เหรอ?”หยวนโหรวพูดด้วยรอยยิ้ม “ช่างพบเจอได้ยากเสียจริง ฉันคิดว่าเธอจะไม่แปดเปื้อนโลกีย์บนโลกมนุษย์ ไม่เคยช้อปปิ้งเลยเสียอีก”ในฐานะเพื่อนสนิทอันดับหนึ่งของซังฉิง หยวนโหรวนับว่าเป็นคนในแวดวงที่ชอบหาเรื่องซังหนี่มากที่สุดหลังจากที่ซังหนี่และฟู่เซียวหานแต่งงานกัน คนอื่น ๆ ล้วนเก็บเขี้ยวเล็บของตัวเองไม่มากก็น

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 13

    หลังจากที่หยวนโหรวพูดจบ ซังหนี่เองก็หัวเราะออกมาเช่นกันเมื่อเห็นปฏิกิริยาของเธอ รอยยิ้มของหยวนโหรวกลับเลือนหายไป คิ้วของเธอเองก็ขมวดแน่น “เธอหัวเราะอะไร?”“คุณหนูหยวน ถ้าเธอไม่มีอะไรทำก็ไปเรียนหนังสือเพิ่มเถอะนะ” ซังหนี่กล่าว “ไม่อย่างนั้น แค่ไร้มารยาทก็หนักหนาพอแล้ว แต่ถ้อยคำที่พูดออกมายังชวนให้ผู้คนหัวเราะเยาะอีก นี่มัน…ทั้งโง่ทั้งนิสัยเสียของจริง ”หากจะพูดว่า เมื่อกี้ซังหนี่ยังรู้จักเก็บซ่อนคำเสียดสีเอาไว้อยู่ เช่นนั้นตอนนี้ ก็เท่ากับชี้หน้าด่าหยวนโหรวโดยตรงแล้วสีหน้าของหยวนโหรวย่ำแย่ถึงขีดสุดในขณะที่ซังหนี่กำลังจะเดินผ่านเธอไปนั้น เธอกลับเอื้อมมือไปจิกผมของซังหนี่เอาไว้“นังตัวดีที่มาจากบ้านนอกอย่างแก มีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน?! แกไม่ดูสารรูปตัวเองเลยหรือไง?! คิดว่ามีฐานะขึ้นมาแล้ว ตัวเองจะกลายเป็นหงส์ได้จริง ๆ งั้นเหรอ? แก…”ยังไม่ทันที่หยวนโหรวจะพูดจบ ซังหนี่ก็หันกลับมา และตบหน้าเธอเข้าอย่างจัง!เฉียบขาดทรงพลังหยวนโหรวกลับตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกรีดร้องพร้อมโถมตัวพุ่งเข้าหาซังหนี่ทันทีระหว่างนั้นไม่รู้ว่าเกิดเรื่องผิดพลาดอะไรขึ้นบางทีอาจจะเป็นเพราะซังฉิงต้องการหยุดหย

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 14

    “พี่คะ!”แต่ซังฉิงกลับยืนขึ้นแล้วจับแขนเธอไว้อย่างรวดเร็ว “พี่คะ พี่โกรธใช่ไหมคะ? หม่ามี๊ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะคะ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง เป็นฉันเองที่ไม่ระวัง…”“แต่พี่วางใจได้เลยนะคะ ฉันจะย้ายออกจากบ้านพี่แน่นอน และจะไม่รบกวนพี่กับพี่เขยอีก…”“อืม ได้สิ”ซังหนี่ตอบตกลงอย่างรวดเร็วคุณนายซังที่อยู่ด้านข้างอดขมวดคิ้วไม่ได้ แต่นัยน์ตาของซังฉิงกลับเต็มไปด้วยความตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด“พี่ไปก่อนล่ะ”ซังหนี่กลับไม่ได้สนใจอะไรมากถึงขนาดนั้น เธอทำแค่ดึงมือของตนออกมา ก่อนจะหันหลังเดินจากไปน้ำเสียงเจือสะอื้นของซังฉิงดังมาจากข้างหลัง“ทำยังไงดีคะหม่ามี๊? พี่ต้องเกลียดหนูมากแน่ ๆ …”ตอนนั้นซังหนี่แทบอยากจะหันหลังกลับไปตอบเธอว่า ใช่แล้ว ตนเองนั้นเกลียดเธอมากจริง ๆ แต่ทันทีที่ความคิดโผล่ขึ้นมาในหัว ซังหนี่ก็สลัดมันทิ้งไปทันทีเพราะเธอรู้ว่าหากเธอทำเช่นนั้น ผลลัพธ์หลังจากนั้นคงเป็นฝ่ามือของคุณนายซังที่จะตบลงบนหน้าเธอยังไงเสีย…เรื่องแบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในตอนแรกซังหนี่ยังมีความรู้สึกสับสน ทั้งที่เธอเป็นลูกสาวในสายเลือดของพวกเขาแท้ ๆ ทำไมพวกเขาถึงลำเอียงไปทา

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 15

    ซังหนี่สะดุ้งตกใจจนใช้มือดึงเสื้อลงโดยไม่รู้ตัวจากนั้นเธอก็ขมวดคิ้วมองคนที่เพิ่งเข้ามาสีหน้าของฟู่เซียวหานเองก็ย่ำแย่ไม่ต่างกันทั้งสองคนจึงยืนสบตากันเช่นนั้น ช่างไม่เหมือนกับคู่สามีภรรยาเลยสักนิด แต่ราวกับเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันเสียมากกว่า“ถ้าไม่มีอะไร ก็โปรดออกไปเถอะค่ะ ฉันจะนอนแล้ว”ท้ายที่สุดก็เป็นซังหนี่ที่เอ่ยปากพูดก่อนแต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจคือฟู่เซียวหานไม่ได้ระบายอารมณ์ใส่เธอ แต่กลับหมุนตัวกลับไปทันทีพร้อมกล่าวว่า “พรุ่งนี้เที่ยงทำตัวให้ว่างด้วย”ซังหนี่หลุดปากโพล่งออกไปทันที “จะทำอะไรคะ?”แต่ฟู่เซียวหานกลับไม่ได้ตอบคำถามของเธอซังหนี่มองตามแผ่นหลังของเขา “ถ้าคุณจะให้ฉันไปขอโทษซังฉิงล่ะก็ ฉันไม่ไปค่ะ”คราวนี้ฝีเท้าของฟู่เซียวหานถึงหยุดลงปฏิกิริยาของเขาได้บอกให้ซังหนี่เข้าใจแจ่มแจ้งเลยว่า —สิ่งที่เธอคาดเดาไว้ไม่ผิดเลยทันใดนั้นมือของซังหนี่ก็กำแน่นทันที“ซังหนี่ นั่นคือน้องสาวของคุณนะ”ฟู่เซียวหานกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย“ฉันไม่มีน้องสาว อีกอย่างเป็นเธอที่ล้มเอง ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย จะให้ขอโทษเพื่ออะไร?”“ถ้าอย่างนั้นคุณทำถูกแล้วงั้นสิ?” ฟู่เซียวหานแค

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 16

    สุดท้ายเอกสารข้อตกลงการหย่าร้างชุดนั้น ก็ถูกซังหนี่วางกลับลงไปที่เดิมวันต่อมา เธอไม่ได้รอฟู่เซียวหาน แต่ขับรถไปบ้านตระกูลซังด้วยตัวเองบ้านตระกูลซังตั้งอยู่ขอบเขตระหว่างตัวเมืองและชายเมืองของเมืองถง เป็นเขตคฤหาสน์ชื่อดัง ซึ่งทุกตารางนิ้วล้วนมีค่าดั่งทองคำทันทีที่ซังหนี่จอดรถก็มีคนเห็นเธอแต่คนรับใช้คนนั้นไม่ได้ออกมาต้อนรับเธอ ทว่าหมุนตัวเดินกลับเข้าไปข้างในซังหนี่เองก็ไม่ใส่ใจนัก จึงเปิดประตูลงจากรถด้วยตัวเองก่อนจะออกจากบ้าน เธอยังตั้งใจถือของบำรุงสองสามอย่างมาด้วย ในเมื่อมาขอโทษ…ก็ควรมีท่าทีที่สื่อว่าต้องการจะขอโทษจริง ๆ“คุณหนูหนี่มาแล้ว”วินาทีที่ซังหนี่เข้าไปในบ้าน คนรับใช้ที่รีบเร่งเข้ามารายงานคนเมื่อกี้ ก็เดินมากล่าวต้อนรับด้วยรอยยิ้มซังหนี่พยักหน้าให้เธอ“พี่คะ!”ซังฉิงรีบลงมาจากชั้นบนอย่างรวดเร็วเธอสวมชุดเดรสสีขาว ผมยาวสีปีกกาแผ่สยายเลยไหล่ลงมา เมื่อรวมเข้ากับใบหน้าที่ไร้เดียงสาของเธอ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้นัยน์ตาของผู้คนเปล่งประกายแม้ว่าปากของซังฉิงจะเอ่ยเรียกพี่สาว แต่สายตากลับจ้องมองไปข้างหลังเมื่อพบว่าเธอมาที่นี่คนเดียว แววตาของซังฉิงก็เผยให้เห็นถึงคว

Bab terbaru

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 100

    ฟู่เซียวหานเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ของเธอแวบหนึ่งก่อนจะย้อนถามกลับว่า “คุณไปไหนมา?”ซังหนี่เม้มริมฝีปากแล้วตอบกลับว่า “ใครให้คุณเปลี่ยนกลอนประตูห้องของฉัน?”“ตอบ คำถาม ฉัน มา”สีหน้าของฟู่เซียวหานดูไม่ดีเอาเสียเลยเดิมทีซังหนี่ตั้งใจจะโต้เถียงกับเขาให้ถึงที่สุด แต่เมื่อสบตาเขาอยู่พักหนึ่ง เธอก็ยอมตอบในที่สุด “โรงพยาบาล”สีหน้าของฟู่เซียวหานเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขามองเธออีกครั้งตั้งแต่หัวจรดเท้า ซังหนี่ไม่ได้สังเกตสายตาของเขา เพียงพูดต่อว่า “ตอนบ่ายพวกเขาบอกฉันว่าแม่ฉันฟื้นแล้ว แต่พอฉันไปถึงเธอก็หลับไปอีก ฉันเลยรออยู่ที่นั่นตลอด เพื่อดูว่าเธอจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งได้หรือเปล่า”เสียงของซังหนี่แผ่วเบา และแฝงไปด้วยความเศร้าอย่างชัดเจนสีหน้าที่เย็นชาของฟู่เซียวหานผ่อนคลายลงเล็กน้อย แล้วเขาก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ ก่อนจะถามว่า “แล้วทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์?”“ฉันตั้งโหมดเงียบไว้ เลยไม่เห็น”ซังหนี่พูดพร้อมกับถามต่อ “ตอนนี้ฉันเข้าบ้านได้หรือยัง?”ฟู่เซียวหานจึงขยับตัวหลีกทางให้เธอเข้าไปซังหนี่โน้มตัวถอดรองเท้า แล้ววางกระเป๋าผ้าของเธอลงจากนั้น เธอหันกลับมามองเขา “แล้วคุณมาที่นี่ทำไม?”ฟ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 99

    ในฐานะผู้ที่อยู่ในตำแหน่งสูงส่ง ฟู่เซียวหานเคยพบเจอสิ่งล่อลวงมากมายนับไม่ถ้วนและชัดเจนว่าผู้หญิงตรงหน้านี้คือหนึ่งในประเภทผู้หญิงที่ร้ายกาจที่สุดดังนั้น เขาไม่แม้แต่จะเหลือบมองเธอ เพียงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาซังหนี่โดยตรงโทรติด แต่กลับไม่มีคนรับสายสีหน้าของฟู่เซียวหานยิ่งขุ่นหมองและดูไม่ดีมากขึ้นหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังเขา รู้สึกอับอายไม่น้อย กับการที่ถูกเมินเฉยแต่เมื่อนึกถึงรถยนต์สุดหรูของฟู่เซียวหาน รวมถึงเสื้อผ้าบนตัวเขาที่ดูแล้วรู้ทันทีว่าราคาไม่ธรรมดา เธอก็รวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหา “คุณกับซังหนี่เป็นอะไรกันเหรอ? เพื่อนกันใช่มั้ย?”“แต่ว่าตอนนี้เธอคงไม่มีเวลามารับโทรศัพท์ของคุณหรอกนะ ดึกขนาดนี้ยังไม่กลับบ้าน แสดงว่าต้องไปนัดเจอผู้ชายอยู่แน่ ๆ ”“ฉันบอกคุณเลยนะ เธอไม่ได้เรียบร้อยเหมือนที่คุณเห็นหรอก เบื้องหลังน่ะเธอออกจะสุดเหวี่ยงใช่เล่น เมื่อเช้าฉันยังเห็นเธอ...”ยังไม่ทันที่คำพูดของหญิงสาวจะจบ สายตาของฟู่เซียวหานหันมาจ้องเธอทันทีสายตาเย็นเยียบคมกริบดั่งมือที่มองไม่เห็น บีบเข้าที่ลำคอของเธอ ทำให้คำพูดที่ยังไม่ทันหลุดออกมาถูกกลืนกลับลงไปในทันทีหญิงสาวก็มั่นใจว่า

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 98

    ฟ้ามืดลงแล้วแสงไฟจากด้านนอกเริ่มส่องสว่าง หลอดไฟนีออนหลากสีผสานเข้ากับแสงสีแดงจากการจราจรยามค่ำคืน ทำให้เกิดภาพด้านหนึ่งที่สะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองและความเย็นชาของเมืองแห่งนี้อย่างเด่นชัดตึกจื้อเหอตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง หน้าต่างบานใหญ่สูงจรดพื้นดูราวกับกรอบรูปขนาดยักษ์บานหนึ่ง กักเก็บภาพทั้งหมดนี้ไว้ ให้คนได้ชื่นชมฟู่เซียวหานยืนอยู่ตรงนั้น มองดูทุกอย่างด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเขาถือไฟแช็กไว้ในมือ กดสวิตช์เปิดปิดซ้ำไปซ้ำมา เปลวไฟสีน้ำเงินพุ่งขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนจะดับวูบไปในพริบตาครั้งแล้วครั้งเล่าเกี่ยวกับความทรงจำของพ่อ ฟู่เซียวหานแทบจะจำอะไรไม่ได้แล้วสิ่งเดียวที่นึกออก คงเป็นใบหน้าที่เคร่งขรึมและไม่เคยยิ้มง่าย ๆ มีมาตรฐานที่เข้มงวดสำหรับเขา และท้ายที่สุดคือภาพพ่อที่นอนป่วยอยู่บนเตียงคนป่วยจนไม่สามารถดูแลตัวเองได้พ่อจากไปตอนที่ฟู่เซียวหานอายุเพียง 12 ปีแม้ความสัมพันธ์พ่อลูกจะไม่ได้แน่นแฟ้นมากนัก แต่ในความทรงจำของเขา พ่อก็ยังเป็น "พ่อ" ที่ธรรมดาคนหนึ่งระหว่างเขากับแม่ บางทีก็ดูเหมือนว่าเคยรักกันไม่อย่างนั้น เธอจะเฝ้ารอเขามาตลอดหลายปีเพื่ออะไร?ตอนแรกที่บังคับใ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 97

    น้ำตาของเธอไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่“ไอ้สารเลว” เธอกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอนชายที่เดิมทีกำลังจะก้มกัดที่ต้นคอของเธอ เมื่อได้ยินคำพูดนั้นกลับชะงักไปพักหนึ่งจากนั้น เขาเงยหน้าขึ้นมองตาเธอลิปสติกของซังหนี่เลอะเทอะไปหมด อายไลเนอร์ก็เลือนรางเพราะน้ำตาที่ไหลออกมา เส้นผมยุ่งเหยิง ทั้งตัวของเธอดูทุลักทุเลอย่างเห็นได้ชัดแต่เมื่อฟู่เซียวหานเห็นหยดน้ำตาที่เกาะอยู่บนขนตาของเธอ หัวใจของเขากลับเต้นแรงไปชั่วขณะจากนั้น เขาค่อย ๆ ชะลอการกระทำลง ก่อนจะโอบท้ายทอยของเธออีกครั้งและจูบลงไปทันทีจูบนี้อ่อนโยนและละมุนยิ่งกว่าเดิม ซังหนี่เองก็ดูเหมือนจะไม่ขัดขืนเหมือนในตอนนั้นที่จริงแล้วการที่เธอรู้สึกเจ็บปวด ฟู่เซียวหานเองก็ไม่ได้รู้สึกดีเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มผ่อนคลายลง ฟู่เซียวหานก็สงบสติอารมณ์ลงเช่นกันแต่ในจังหวะที่ฟู่เซียวหานกำลังจะพูดกับเธอดี ๆ ซังหนี่กลับอ้าปาก กัดไปที่ริมฝีปากของเขาอย่างแรง! ……“ประธานฟู่”ผ่านไปแล้วหนึ่งวัน ตอนที่สวีเหยียนกำลังพูดกับเขาอยู่ สายตากลับอดไม่ได้ที่มองริมฝีปากของฟู่เซียวหานแน่นอนว่า รอยฝ่ามือบนแก้มของฟู่เซียวหานนั้นโดดเด่นสะดุดตาไม่น้อย แต่เ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 96

    “นี่คุณจะทำอะไร?”ซังหนี่นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนเริ่มขัดขืน “ปล่อยฉันนะ! ฟู่เซียวหาน คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!”เท้าของเธอพยายามถีบตัวออกมา จนรองเท้าส้นสูงกระเด็นหลุดไปข้างหนึ่งทางเดินยาวของโรงแรมปูด้วยพรมหนานุ่ม เมื่อรองเท้ากระเด็นหล่นลงไป กลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาเลยเมื่อเข้ามาในลิฟต์ เขาถึงได้ยอมปล่อยเธอลงแต่ซังหนี่กลับถูกเขาดันไปติดมุมลิฟต์ พอเธอกำลังจะก้าวหนี เขาก็จับคางเธอไว้แล้วจูบลงมาทันทีเขาไม่เปิดโอกาสให้เธอลังเลหรือขัดขืนเลย เพียงแค่จูบลงไปลิ้นของเขาก็เข้าผ่านริมฝีปากของเธอโดยตรงการรุกล้ำที่เต็มไปด้วยความกระหายทำให้ซังหนี่เหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจในทันทีแต่สองมือของเธอถูกเขากดไว้แน่น เวลานี้แม้แต่จะผลักเขาออกไปยังทำไม่ได้เข่าของฟู่เซียวหานยกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สอดเข้าไปในใต้กระโปรงของเธอเขารู้จักร่างกายของเธอเป็นอย่างดี การกระทำที่ดุดันและรุนแรงในตอนนี้ ทำให้ซังหนี่รู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นปลาตัวที่ถูกตรึงไว้บนเขียงตัวหนึ่งเธอทำได้เพียงเฝ้ามองใบมีดที่กำลังจะตกลงมากรีดผิวและกระดูกตัวเองสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกอับอายยิ่งกว่าคือ ร่างกายของเธอกลับตอบสนองต่อสิ่งที

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 95

    ซังหนี่พึ่งจะรู้สึกตัว จึงค่อย ๆ ลดเท้าที่ตั้งใจจะเตะอีกลงอย่างช้า ๆหน้ากากของเขายังคงสวมไว้อย่างเรียบร้อย แต่ดวงตาคู่นั้นเย็นชาอย่างที่สุด ราวกับต้องการฉีกซังหนี่ทั้งตัวออกเป็นชิ้น ๆ“คุณ...คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม?”ซังหนี่สบตากับเขาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยถามในที่สุด“ทำไม? หรือว่าไม่พอใจที่ผมขัดขวางเรื่องดี ๆ ของคุณ?”สีหน้าของฟู่เซียวหานยิ่งตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ มือของเขาบีบปลายคางของซังหนี่แน่นขึ้นกว่าเดิมความโกรธจากการถูกปฏิเสธคำชวนเต้นและการเตะเมื่อครู่นี้ ดูเหมือนจะถูกเขาจดจำไว้ทั้งหมด แรงบีบในตอนนี้ราวกับจะบดขยี้กระดูกของซังหนี่ให้แหลกละเอียดซังหนี่ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว กำลังจะปัดมือของเขาออก แต่ฟู่เซียวหานกลับคว้าข้อมือทั้งสองข้างของเธอไว้แน่น จากนั้นยกเข่าขึ้นมาแทรกระหว่างขาของเธอทันที“คุณหนูซังนี่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยนะ”เขามองเธอพร้อมพูดขึ้นว่า “ทำไมผมถึงไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีแววจะเป็นดาวเด่นในวงสังคมได้?”——เธอในเมื่อก่อนมักจะเงียบขรึมและเรียบง่ายจนน่าเบื่อ มีเพียงบางช่วงเวลาเท่านั้นที่เธอจะเผยเสน่ห์เย้ายวนออกมาฟู่เซียวหานเคยคิดว่า ด้านนี้ของเธอมีเพียงเขาเท่

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 94

    การพูดคุยระหว่างซังหนี่และคุณชายเย่ดำเนินไปอย่างราบรื่นหลังจากเพลงแรกจบลง พวกเขาก็ยังไม่ได้ลงจากฟลอร์ แต่กลับเริ่มเต้นรำเพลงที่สองต่อทันที“ยังไม่รู้เลยว่าคุณชื่ออะไร?”คุณชายเย่อดไม่ได้ที่จะถามเธอซังหนี่ยักคิ้วเล็กน้อย “นี่มันงานเต้นรำหน้ากากนะคะ การบอกชื่อกันไม่จำเป็นหรอก”“แต่คุณก็รู้จักตัวผมนี่ ดูเหมือนไม่ยุติธรรมสำหรับผมเลยนะ? ““คนที่นี่ก็รู้จักคุณเยอะมาก คุณดังขนาดนี้ ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ”น้ำเสียงของซังหนี่แฝงด้วยความจนใจคุณชายเย่กลับไม่ได้โกรธเลยแม้แต่น้อย เพียงพูดขึ้นว่า “งั้นแปลว่าหลังคืนนี้ ผมคงไม่มีโอกาสชวนคุณออกไปกินข้าวแล้วสินะ?”“อืม มีโอกาสค่ะ” ซังหนี่พยักหน้าอย่างจริงจัง “ถึงตอนนั้น คุณพาคุณพ่อมาด้วย ส่วนฉันก็มากับประธานฉิน ทานข้าวด้วยกันแบบนี้ไม่ดีหรือคะ?”สรุปแล้ว คุณเป็นลูกน้องของฉินเหยา? เลขา? ผู้ช่วย? หรือว่าเป็นนักแสดงในสังกัดบริษัทของเขากันล่ะ?”คุณชายเย่เดาไปทีละอย่าง แต่ซังหนี่กลับไม่ตอบอะไร แค่ย้อนถามว่า “เรื่องทานข้าว คุณตกลงหรือเปล่า?”“ถ้าคุณไป ผมก็ต้องตกลงอยู่แล้วล่ะ”“ตกลงค่ะ”ซังหนี่ตอบรับอย่างไม่ลังเลคุณชายเย่จ้องมองเธอสักพักก่อนพูดว่า

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 93

    “นี่คุณ ไม่ทราบหรือว่าอะไรคือการมาก่อนมาหลัง?”คุณชายเย่หันกลับมา ยิ้มบาง ๆ พลางเอ่ยถามเขาฟู่เซียวหานตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ทราบดี แต่ผมคิดว่าสิทธิ์ในการเลือกควรเป็นของสุภาพสตรีท่านนี้มากกว่า”คำพูดของเขาทำเอาคนฟังไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดีฟู่เซียวหานไม่ได้มองคุณชายเย่อีก แต่สายตาจับจ้องไปที่ซังหนี่เพียงคนเดียวเท่านั้นดวงตาที่มักจะสงบนิ่งดั่งผืนน้ำ ในตอนนี้เหมือนกำลังพยายามอดกลั้นบางสิ่งไว้ คล้ายกับกระแสใต้ผิวน้ำที่กำลังจะไหลเชี่ยวมือของซังหนี่ที่อยู่ข้างตัวกำแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัวผ่านไปครู่หนึ่ง เธอยิ้มบาง ๆ ก่อนจะวางมือบนฝ่ามือของคุณชายเย่——เป็นการตอบรับคำเชิญของเขาประกายในแววตาของฟู่เซียวหานพลันจางหายไปทันทีมือที่แบออกก็กำแน่นขึ้นในทันทีเขาอยากมองซังหนี่อีกครั้ง แต่เธอหันหลังเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างไม่ลังเลฟู่เซียวหานมองตามแผ่นหลังของพวกเขา ฟันของเขาค่อย ๆ ขบกันจนแน่นในตอนนั้นเอง ฉินเหยาก็เดินเข้ามาหา “ประธานฟู่”ฟู่เซียวหานมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย“ไม่นึกเลยว่าคุณจะมาร่วมงานคืนนี้” ฉินเหยาพูดพร้อมรอยยิ้ม “ยังไม่ได้แสดงความยินดีเลย ได้ยินมาว่าคุณปิดการเจรจาที่ประเทศ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 92

    “ทางทิศหกนาฬิกา มองเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไหม?”ฉินเหยาถามเพราะท่าการเต้น ทำให้ตอนนี้ร่างกายของทั้งสองใกล้ชิดกันมาก ซังหนี่ไม่ได้สนุกแบบนี้มานานแล้ว จนลมหายใจของเธอตอนนี้เริ่มไม่เป็นจังหวะ และปลายจมูกภายใต้หน้ากากก็มีเหงื่อซึมออกมาเล็กน้อยหลังจากที่ฉินเหยาถามแบบนี้ เธอก็หันไปมองทันที“อืม แล้วไงล่ะ?”“นั่นคือลูกชายของประธานเย่แห่งไห่เฉากรุ๊ป เขามองคุณมาสักพักแล้ว เดี๋ยวผมจะแนะนำพวกคุณให้รู้จักกัน คุณช่วยเต้นรำกับเขาสักเพลงได้ไหม?”ซังหนี่หัวเราะเบา ๆ “ทำไมฉันต้องทำด้วยล่ะ?”“ช่วงนี้ผมกำลังเตรียมร่วมงามกับพ่อของเขา”ฉินเหยาไม่ได้ปิดบังซังหนี่ พูดตรง ๆ ว่า “ถ้าคุณช่วยผมได้ครั้งนี้ เรื่องลิขสิทธิ์ผมจะให้คุณร่วมลงทุนในการผลิตทันที ถ้าละครดังขึ้นมา คุณจะได้ส่วนแบ่งไม่น้อยแน่นอน”ซังหนี่ยังหัวเราะเหมือนเดิม ดูเหมือนไม่ได้สนใจกับสิ่งที่ฉินเหยาพูดเท่าไหร่ฉินเหยาไม่แปลกใจกับปฏิกิริยาของเธอ เพียงพูดต่อว่า “แน่นอน เงินอาจไม่ได้ดึงดูดใจคุณมาก แต่สิ่งนี้คือความมั่นใจที่คุณสร้างให้ตัวเองใช่ไหมล่ะ?”ซังหนี่ไม่ได้โต้แย้งคำพูดของฉินเหยาอีกหลังจากครุ่นคิดอยู่ไม่กี่วินาที เธอถามว่า “การช่

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status