“ถึงพวกเขาจะพลิกคดีได้ แต่มันก็ไม่ควรเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้! ตามขั้นตอนปกติ…”ก่อนที่ห่าว อี้เหมิงจะพูดจบ เธอก็ถูกห่าว ฉี่หลงขัดจังหวะ “อย่าลืมว่าใครเป็นคนช่วยเหลือเธอ!”ห่าว อี้เหมิงเงียบ ‘อี้ จิ่นหลี!’ตามขั้นตอนไต่สวนเพื่อพลิกคดีความนั้น ปกติแล้วจะใช้ได้กับคนธรรมดาเท่านั้น“ไม่ว่ายังไง เมื่อข่าวถูกรายงาน ตระกูลห่าวจะต้องแสดงให้ผู้คนเห็นว่าพวกเราไม่สามารถขัดขวางตระกูลอี้ในเรื่องนี้ได้ เข้าใจไหม?” ห่าว ฉี่หลงเตือนลูกสาวของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าห่าว อี้เหมิงจิกเล็บที่ตกแต่งอย่างประณีตลงบนโทรศัพท์ของเธอเธอเหยียบย่ำหลิง อี้หรานต่อหน้าสื่อมากมายและสร้างความฮือฮาอย่างมากเกี่ยวกับความจริงที่ว่าหลิง อี้หรานฆ่าพี่สาวของเธอแต่ตอนนี้ สิ่งที่พ่อของเธอพูดนั้นเทียบเท่ากับการขอให้เธอขอโทษหลิง อี้หรานต่อหน้าสื่อ นั่นไม่ใช่การตบหน้าตัวเองในที่สาธารณะเหรอ?“อี้เหมิง ได้ยินพ่อไหม?” เสียงของห่าว ฉี่หลงดึงขึ้น “อย่าลากตระกูลห่าวลงไปในโคลน พ่ออยากให้ตระกูลห่าวยังคงอยู่ตลอดไป!”ห่าว อี้เหมิงสูดหายใจลึกและพูดว่า “เข้าใจแล้วค่ะ!”หลังจากวางสาย ห่าว อี้เหมิงก็ปาโทรศัพท์ของเธอลงกับพื้นเธอจะต้องกล้ำกลืนศ
เขาก้มศรีษะลงเพื่อจ้องมองเธอที่พิงไหล่ของเขาอยู่ ‘ถ้าเธอรู้ความจริง เธอยังจะคิดว่า... โชคดีที่ได้พบฉันอยู่ไหม?’‘อาจจะไม่’เมื่อหลิง อี้หรานหลับสนิทแล้ว อี้ จิ่นหลีก็ขยับตัวเบา ๆ และช้อนตัวหลิง อี้หรานขึ้นมาอย่างระมัดระวัง พาเธอไปที่ห้องนอนและวางเธอลงบนเตียงนุ่ม จากนั้นเขาก็ใช้ปรายนิ้วปัดลูกผมของเธอเบา ๆ “อี้หราน ให้มันจบแค่นี้ ตกลงไหม?”ความจริงในคดีความของเธอจบลงแล้ว และอดีตของเธอกับกู้ ลี่เฉินก็จบลงเช่นกัน‘อย่าค้นหาคำตอบอะไรอีก!’‘มันจะที่ดีที่สุด!’...นักข่าวเผยแพร่ข่าวเรื่องการพลิกคดีความของหลิง อี้หรานลงบนอินเทอร์เน็ตสักพักก็มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้แน่นอน หลิง อี้หรานเป็นเพียงทนายความมือใหม่ที่มีแนวโน้มว่าจะถูกตัดสินลงโทษโดยมิชอบ อดีตแฟนหนุ่มของหลิง อี้หราน เซียว จื่อฉีและห่าว อี้เหมิงกำลังเป็นคนดังที่ถูกพูดถึงในขณะนี้แม้ว่านักข่าวที่ปล่อยเรื่องได้กล่าวว่าเขาได้สัมภาษณ์ห่าว อี้เหมิงก่อนหน้านี้ แต่ห่าว อี้เหมิงดูเหมือนจะไม่รู้เกี่ยวกับคดีนี้ หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้พูดอะไร!ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจำนวนมากขึ้นจึงไปดูโซเชียลมีเดียของห่าว อี้เหมิง เพื่อถามว่าเธอคิดอย่างไรเก
“ถ้าเธอพูดอย่างนั้นก็เหมือนกับว่าฉันเป็นคนนอก อี้หราน เราบอกว่าเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปไง คราวหน้าเธอต้องบอกฉันนะ ฉันไม่อยากเรียนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของฉันจากข่าวบนอินเทอร์เน็ต” ชิน เหลียนอีพูด“เข้าใจแล้ว” หลิง อี้หรานตอบกลับด้วยความรู้สึกทีเอ่อล้นนั่นคือสิ่งที่เหลียนอี เมื่อเธอมองว่าใครคือเพื่อนของเธอ เธอก็จะให้ใจกับเพื่อนเต็มร้อยวันรุ่งขึ้น ชิน เหลียนอีได้มาพบกับหลิง อี้หราน และได้รู้รายละเอียดของคดีนี้ รวมถึงเรื่องที่ว่าน หยวี่หมิงเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะใส่ร้ายคนอื่นเพียงเพราะเขากลัวที่จะโดนเอี่ยวด้วย ถ้าเธอพิสูจน์ได้ว่าเธอบริสุทธิ์ เธอจะทำยังไงต่อไป?” ชิน เหลียนอีถามอย่างอารมณ์ดี“ฉันไม่รู้เลย” หลิง อี้หรานตอบ ถึงเธอจะคาดหวังบางอย่างไว้บ้าง แต่เธอก็ยังรู้สึกลังเลกับอนาคตของเธอ“เธอจะกลับไปเป็นทนายความอีกไหม?” ชิน เหลียนอีถามหลิง อี้หรานหัวเราะอย่างขมขื่น “ฉันไม่ได้เป็นทนายความมาสี่ปีแล้ว ฉันยังไม่รู้เลยว่าฉันจะทำมันอีกครั้งได้ไหม ฉันจำไม่ได้แม้แต่บทบัญญัติทางกฎหมาย”“น่าเสียดายนะ ถ้าเธอเลิกเป็นทนายความ แต่เธอไม่ต้องรีบร้อนหรอก ค่อ
ผู้ชานคนนั้นพูดรัวออกมา เพื่อป้องกันห่าว อี้เหมิง เขาทำตัวเหมือนเป็นแฟนของห่าว อี้เหมิงหลิง อี้หรานขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอหยิบหนังสือสองสามเล่มที่เธอเลือกและเดินไปที่แคชเชียร์เพื่อจ่ายเงินและหลังจากนั้นจึงมองหาชิน เหลียนอีแต่ผู้ชายคนนี้กลับไม่ยอมแพ้และติดตามหลิง อี้หรานต่อไป เขายังคงพูดต่อหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมาเพื่อถ่ายวิดีโอ โดยเขาต้องการให้หลิง อี้หรานออกมาพูดว่าเธอเต็มใจให้อภัยห่าว อี้เหมิง หลิง อี้หรานขมวดคิ้วแน่นขึ้น “คุณไม่มีสิทธิ์มาถ่ายรูปฉัน ถ้าฉันไม่ยินยอม!”“คุณรู้สึกผิดใช่ไหม? ผมแค่ใช้โทรศัพท์ของตัวเองถ่าย แล้วเกี่ยวอะไรกับคุณ? เป็นไปได้ไหมที่คุณต้องการจะจุดไฟสร้างความสัมพันธ์ของคุณกับเซียว จื่อฉีอีกครั้ง?ชายคนนั้นพูดเกินจริงราวกับต้องการจะกระตุ้นให้กลายเป็นเรื่องซุบซิบประเด็นร้อนหลิง อี้หรานรีบจ่ายเงินเพื่อตามหาชิน เหลียนอี แต่กลับมีผู้คนมากมายมาล้อมเธอเอาไว้เพราะชายคนแปลกหน้าพูดแบบนั้น จึงทำให้คนรอบ ๆ รู้ว่าเธอเป็นใคร และคำขอโทษของห่าว อี้เหมิงก็กำลังเป็นประเด็นร้อนบนอินเทอร์เน็ตในทุกวันนี้“นั่นหลิง อี้หรานหนิ!”“เธอคือหลิง อี้หรานที่พลิกคดีความใช่ไหม?”“
คนจำนวนมากมารวมตัวกันที่ฝั่งของหลิง อี้หราน ด้วยเสียงกรีดร้องที่ดังสนั่น ทำให้ผู้คนจำนวนมากเข้ามาล้อมรอบตัวเธอกู้ ลี่เฉินขมวดคิ้ว เขารีบพาหลิง อี้หรานเข้าไปในรถที่จอดอยู่และขับรถออกไปฝูงชนที่รายล้อมอยู่ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากจ้องเขม็งไปที่รถที่แล่นออกไป จากนั้นพวกเขาก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของหลิง อี้หรานและกู้ ลี่เฉินหลังจากขึ้นรถแล้ว หลิง อี้หรานก็พูดกับกู้ ลี่เฉินว่า “ขอบคุณมากนะคะ แค่ส่งฉันไว้แถวนี้ก็ได้”แทนที่เขาจะหยุดรถ แต่กู้ ลี่เฉินกลับถามว่า “เกิดบ้าอะไรขึ้น?”“มีคนแปลกหน้าบางคนจำฉันได้ ตอนนี้ข่าวเรื่องย้อนคดีของฉันกลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเทอร์เน็ตเพราะคำขอโทษของห่าว อี้เหมิง ได้โปรดหยุดรถเถอะค่ะ เพื่อนของฉันยังอยู่ที่ร้านหนังสือ และฉันต้องไปหาเพื่อน!” หลิง อี้หรานพูดกู้ ลี่เฉินเม้มริมฝีปากบางของเขาเข้าหากัน จากนั้นเขาก็ขับรถไปเลียบกับข้างถนนหลิง อี้หรานพยายามลงจากรถ แต่กู้ ลี่เฉินกลับหยุดเธอ “มันห่างจากทางเข้าร้านหนังสือแค่ 300 เมตร บางทีคนเหล่านั้นอาจจะกำลังตามคุณมาและล้อมคุณไว้อีกครั้ง คุณติดต่อเพื่อนของคุณและเมื่อเพื่อนของคุณมาถึงที่นี่ คุณจะลงไปก็
“แล้วอยากทำอาชีพอะไร?” เขาถาม ทุกอย่างนั้นง่ายดายสำหรับเขาจนเขาไม่ต้องทำงานหนักเพื่อมันเขาเกิดมามีพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างนอกจากนี้... ‘อาชีพ’ เป็นคำที่เขาไม่เคยคิดมาก่อนแต่ผู้หญิงคนนี้ที่อายุน้อยกว่าเขาหนึ่งหรือสองปีกลับคิดเรื่องแบบนี้“ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่ฉันแค่อยากทำงานที่ได้ปกป้องตัวเองและคนที่ฉันชอบ!” เธอตอบ‘แค่?’การเกิดในครอบครัวชนชั้นสูง เขาเรียนรู้จากอิทธิพลที่เขาได้รับตั้งแต่ในวัยเด็กว่าในโลกนี้ไม่มีความยุติธรรมและบางครั้งสิ่งที่เรียกว่าความยุติธรรมก็เป็นแค่การหลอกลวงตนเองแต่ดวงตาของเธอดูจริงจังจนคำพูดบางคำติดอยู่ในลำคอของเขาเมื่อเวลาผ่านไปและเขาได้พบกับหวา ลี่ฟาง เขาพบว่าลี่ฟางไม่มีงานทำและแววตาของเธอก็ดูไม่ใส่ใจถึงความยุติธรรมอีกต่อไปแต่มันกลับเป็นเรื่องน่าขันที่สายตาของหลิง อี้หรานมีแววตาแบบนั้นแทน“คุณอยากกลับไปสู่โลกของกฎหมายโดยหวังว่าจะปกป้องตัวเองและคนที่คุณชอบได้เหรอ?” คำพูดหลุดออกมาจากปากเขาแบบนั้นหลิง อี้หรานสะดุ้งและทันใดนั้น เธอก็มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเล็ก ๆ ที่พูดแทรกในหัวของเธอว่า “ถึงเธอจะไม่มีงานทำ ฉันก็ปกป้องเธอได้
“ฉัน... ฉันขอโทษ!” เธอรีบขอโทษ ความเจ็บปวดที่ข้อมือของเธอทำให้อาการปวดหัวของเธอจางลง“ทำไมคุณถึงแตะต้องผม? ทำไมคุณถึงเรียกผมด้วยชื่อนั้นล่ะ?” ดวงตาของเขาจับจ้องมาที่เธอใบหน้าของเธอพลันซีดเผือด “คุณ… คุณเข้าใจผิดแล้ว!”“เข้าใจผิดงั้นเหรอ?” เขาหัวเราะขึ้นมาอย่างกะทันหัน “บอกผมทีว่าผมเข้าใจอะไรที่คุณเรียกผมด้วยชื่อเล่นของผมซ้ำแล้วซ้ำเล่าและคุณถึงกับเอามือแตะหน้าผมด้วยซ้ำ”เธอกัดริมฝีปากล่างของเธอ เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเธอจึงได้แต่พูดว่า “มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว ฉันปวดหัวและเข้าใจผิดคิดว่าคุณเป็นคนอื่น”“เข้าใจผิดว่าเป็นผมเหรอ? แต่คุณเรียกผมด้วยชื่อ ‘เฉินเฉิน’ แล้วมันผิดตรงไหนล่ะ?” เขาบ่น“คุณไม่ใช่คนเดียวในโลกที่ถูกเรียกว่าเฉินเฉินสักหน่อย” เธอโต้กลับทันใดนั้น เธอก็เหลือบเห็นชิน เหลียนอีที่อยู่ไม่ไกล เธอจึงพูดกับกู้ ลี่เฉินว่า “เพื่อนของฉันอยู่ที่นี่แล้ว ปล่อยฉัน ฉันต้องไปแล้ว”กู้ ลี่เฉินเพียงฟังด้วยท่าทีสงบนิ่ง แต่ดวงตาของฟีนิกซ์สีเข้มของเขายังคงจ้องมองที่หลิง อี้หราน ทันใดนั้น กู้ ลี่เฉินก็ปล่อยมืของเขาออกจากเธอและหลิง อี้หรานก็เปิดประต
...อี้ จิ่นหลีมองดูรูปถ่ายในโทรศัพท์ของเขา ทั้งหมดเป็นรูปถ่ายของกู้ ลี่เฉินที่ดึงหลิง อี้หรานเข้าไปในรถแม้ว่าเรื่องพวกเขาจะเพิ่งถูกโพสต์บนอินเทอร์เน็ต แต่มันกลับกลายเป็นประเด็นร้อนในทันทีหลายคนถึงกับคาดเดาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างหลิง อี้หรานกับก็ ลี่เฉินเกา ฉงหมิงรู้สึกหวาดกลัวขณะมองดูเจ้านายของเขาที่กำลังจ้องมองโทรศัพท์ในมือด้วยใบหน้าเคร่งขรึม จากนั้นเขาก็รวบรวมความกล้าพูดขึ้น “ก็... คุณกู้ปรากฏตัวเร็วเกินไป บอดี้การ์ดที่ดูแลคุณหลิงอย่างลับ ๆ เลยไม่มีโอกาสแม้แต่จะ...”เจ้านายของเขายังคงจ้องมองดูรูปบนโทรศัพท์ ขณะที่มือของเขากำโทรสัพท์แน่น“จัดการมันให้หมด ฉันไม่อยากเห็นข่าวของพวกเขาบนอินเทอร์เน็ตอีก” อี้ จิ่นหลีสั่งอย่างเย็นชา“ครับ” เกา ฉงหมิงรีบตอบรับและออกจากห้องทำงานของประธานในห้องที่เงียบสงบ ปรายนิ้วของอี้ จิ่นหลีค่อย ๆ ลูบไล้รูปของหลิง อี้หรานบนหน้าจอโทรศัพท์ ในที่สุดก็มาถึงจุดที่กู้ ลี่เฉินจับข้อมือของหลิง อี้หรานเอาไว้ภาพที่กู้ ลี่เฉินกำลังนำเธอไปข้างหน้า ฉากนี้ดูเหมือนภาพวาดที่เขาเคยเห็นมาก่อนเขายังคงจำได้ว่าตอนที่เขายังเป็นเด็ก เขาบังเอิญเข้าไปในสตูดิโอขอ