หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงเขาถอนหายใจ จากนั้นเขาก็ยืดตัวตรง แววตาที่น่าหลงใหลของเขามองไปที่เธอด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย “มีแค่เพียงพี่เท่านั้น” มีเพียงเธอเท่านั้น เธอเป็นคนเดียวที่เขาต้องการที่จะมี แค่เพียงเธอ เธอเป็นคนเดียวที่ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูกหลังจากถูกปฏิเสธ ราวกับว่าเขารู้สึกเสียความเป็นตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ “ช่วยเช็ดผมให้ผมหน่อย” เขากล่าว จากนั้นเขาก็ยื่นผ้าขนหนูที่เขาตั้งใจไว้เช็ดผมที่เปียกของเขาให้กับเธอ เธอมองไปที่เขาด้วยความแปลกใจ ขณะที่เขาก้มหัวลงให้กับเธอ “เป็นอะไรไป ตอนที่เราเคยอยู่บ้านเช่าพี่ไม่ได้เช็ดผมให้ผมทักครั้งหรอกเหรอ?” เขาถามขณะที่เขายักคิ้วขึ้น อะไร ๆ มันเปลี่ยนไปจากจากเดิมมาก หลิง อี้หราน เม้มริมฝีปากของเธอ จนในที่สุดเธอก็เริ่มเช็ดผมให้เขา เนื่องจากผ้าขนหนูปิดหน้าเขาอยู่จึงทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เขาเป็นเหมือนลูกหมาน้อยที่เชื่อฟังซึ่งปล่อยให้เธอเป่าผมให้แห้ง ในขณะที่หลิง อี้หราน มีความรู้สึกแปลก ๆ ราวกับว่าเธอเป็นผู้ปกครองของเขา และเขาก็ก้มลงมาหาเธอ เธอไม่สามารถหยุดที่จะขำในใจได้ พระเจ้า! ทำไมเธอถึงคิดแบบนี้? ต่อหน้าอี้ จิ่นห
”ผมจะเชื่อฟังพี่ เพราะฉะนั้นพี่จะชอบผมไหม?” เมื่อเขาพูดแบบนั้นเธอก็เริ่มรู้สึกสับสนเล็กน้อย ถ้า... ถ้าเขาไม่ใช่ อี้ จิ่นหลี บางที... เธออาจจะชอบเขาก็ได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็คือ อี้ จิ่นหลี ระยะเวลาสามปีในคุก ความชัดเจนของเขาเป็นเหมือนดังฝันร้ายสำหรับเธอ เขาเป็นคนที่เธอกลัวที่สุดในใจ ... หลิง อี้หราน รู้สึกว่าเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับอี้ จิ่นหลี อีก เธอกลัวเขามาก เธอหวาดกลัวเขามาก ๆ แต่บางครั้งเธอก็ไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้เป็นห่วงเขาได้ เมื่อเขามองเธอด้วยสีหน้าที่ดูจริงจังและคำพูดที่น่าประทับใจเธอก็ต้องยอมอีกครั้ง เขาทำกับเธอเหมือนว่ากำลังเล่นเกมอยู่จริง ๆ หรือว่าเขาจริงจังกันแน่? แล้วตัวเธอล่ะ? เธอรู้สึกอะไรกับเขาหรือเปล่า? เธอทำได้เพียงแค่ปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินไปอย่างช้า ๆ ราวกับว่าเธอจมลงไปในหนองน้ำ เธออยากจะออกมาจากตรงนั่นแต่เธอกลับจมลึกลงไปเรื่อย ๆ เธอส่งออเดอร์ทั้งหมดจนเสร็จ หลิง อี้หราน เดินทางกลับไปที่ร้านอาหารถึงกับตะลึง มีคนนั่งอยู่ในร้านอาหาร เป็นเพราะคนคนนี้ -กู้ ลี่เฉิน- ซึ่งไม่มีทางที่เขาจะปรากฏตัวในร้านอาหารเล็ก ๆ แบบนี้ เขาใส่ชุดร
“เดี๋ยวก่อน” เขาคว้าแขนเธอทันที “คุณจะบ้าเหรอ? ที่ผมพูดเมื่อกี้ ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกงานของคุณ” เธอมองเขาอย่างแปลกใจ “ฉันไม่ได้บ้า” ถ้าเธอโกรธเรื่องนี้ เธอคงตายเพราะความโกรธไปนานแล้ว “ถ้าคุณต้องการ ผมจะหางานที่ดีกว่านี้ให้คุณ” กู้ ลี่เฉิน กล่าว “คุณกู้ ฉันไม่คิดว่าเราจะสนิทกันขนาดนั้น คุณไม่จำเป็นต้องช่วยฉันหางานอื่นก็ได้ค่ะ ฉันมีความสุขดีแล้วกับสิ่งที่ฉันทำอยู่ตอนนี้แล้ว” หลิง อี้หราน พูดและมองไปที่มือที่เขาจับเธอไว้ “ปล่อยฉันได้ไหมคะ? ฉันจำเป็นต้องไปส่งของพวกนี้” แววตาคู่สีเข้มจ้องมองมาที่เธอ หลังจากนั้นไม่นานในที่สุดเขาก็ปล่อยมือเธอ ไม่สนิทเหรอ? อย่างไรก็ตามเขารู้จักเธอดีกว่าที่เธอรู้จักตัวเองอีก เขารู้เกี่ยวกับอดีของเธอจากการพูดคุยกับหลิง ลั่วอิน เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนเป็นผู้ใหญ่... “คุณมีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ไหม?” เขาหัวเราะเบา ๆ “อดีตทนายความ มีความสุขกับการส่งอาหารจริงเหรอ?” ดวงตาของหลิง อี้หราน มืดลง ทนายความ... ตอนนี้มันฟังดูห่างไกลจากเธอเหลือเกิน หลังจากที่เธอขึ้นจักรยานไฟฟ้าแล้วเธอก็ได้ยินเสียงของกู้ ลี่เฉิน พูดอีกครั้งว่า “มัน
”เขาแค่ถามฉันว่าเธออยู่ที่ไหนและฉันก็บอกว่าเธออยู่ในครัวเขาก็เลยเหลือบมองไปที่ห้องครัวแค่นั้น” คุณนายโจวถามอย่างสงสัย “คนนั้นเขาคือใครเหรอ เธอรู้จักเขาไหม?” หลังจากที่ลูกสาวของเธอเห็นเขา เธอก็รีบหนีไปทันที ใบหน้าของ โจว เชียนหยุน มีลักษณ์ที่สับสน “นั่นคือ กู้ ลี่เฉิน เขาคือเจ้าชายแห่งวงการบันเทิง ตอนที่ฉันอยู่กับ… คน ๆ นั้น ฉันเห็นเขาสองสามครั้งน่าจะได้” “เขาจำเธอได้ไหม?” คุณนายโจวถามอย่างกังวลใจ โจว เชียนหยุน ถอนหายใจ “ฉันก็กลัวว่าเขาจะจำได้” ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ของเธอจะดูแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง แต่หากกู้ ลี่เฉิน จำเธอไม่ ได้เขาคงไม่ถามถึงเธอก่อนที่จะออกไป คุณนายโจวก้มหน้าลง “ถ้าอย่างนั้น… เราจะทำอย่างไรกันดี? เขาจะบอกเรื่องนี้กับคนนั้นไหม? ฉันคิดว่าเขารู้จักอี้หราน ทำไมเราไม่ให้อี้หรานช่วยพูดกับเขาแทนเราล่ะ?” โจว เชียนหยุน กัดริมฝีปากของเธอ ตอนนี้เธอก็งงเหมือนกัน เธอคิดว่า กู้ ลี่เฉิน บังเอิญหลงเข้ามาในร้านของเธอโดยไม่ตั้งใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขากำลังรออี้หรานอยู่ อย่างไรก็ตาม... เจ้าชายแห่งวงการบันเทิงกับคนส่งอาหารในร้านเล็ก ๆ มันมีความแตกต่างกันมากเกินไป เม
หมายความว่า นายน้อยอี้ต้องการเป็นที่ชื่นชอบของคุณหลิงใช่ไหม? เกา ฉงหมิง รู้คำตอบแล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถซ่อนความแปลกใจไว้ได้ ตั้งแต่เมื่อไรกันที่นายน้อยอี้สนใจว่าผู้หญิงจะชอบเขาหรือไม่? “คุณหลิง... ก่อนหน้านี้ทรมานมาก ผมกลัวว่าเธอจะมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจนกว่าใคร ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้านายน้อยคบกับผู้หญิงแบบเธอ เธออาจจะฟังนายน้อยในตามสถานการณ์แต่เธออาจจะทำตัวห่างเหินจากนายน้อย” เกา ฉงหมิง วิเคราะห์สถานการณ์ของอี้ จิ่นหลี “จากสิ่งที่ผมเห็น คุณหลิงเป็นคนที่ชอบวิธีที่นุ่มนาล ทำไมนายน้อยไม่ลองถ่อมตัวต่อหน้าเธอล่ะครับ? บางทีมันอาจจะทำให้กำแพงของเธอพังก็ได้นะครับ” “ถ้าอย่างนั้นเธออาจจะชอบฉันก็ต่อเมื่อฉันหลอกเธองั้นเหรอ?” อี้ จิ่นหลี พึมพำ เกา ฉงหมิง กระพริบตาดูตกใจ เขา... เขาแค่แนะนำว่าเจ้านายควรจะอ่อนน้อม เขาไม่ได้บอกให้ประจบเธอ อืม... ถ้านายน้อยอี้ต้องการจะประจบผู้หญิงคนนี้แล้วผู้หญิงจะเป็นแบบไหน... “แล้วฉันจะประจบเธอได้โดยวิธีไหน?” อี้ จิ่นหลี กล่าว เกา ฉงหมิง รู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอพูดอะไรไม่ออก จากน้ำเสียงของเขา เขาต้องการที่จะประจบหลิง อี้หรานจริง ๆ ใช่ไหม? โทรศั
ผู้ชายคนนี้ใส่สูทโดยเน้นคุณลักษณะที่สมบูรณ์แบบของเขา เขาดูเหมือนเจ้าชายจากมังงะ ผู้คนอาจจะไม่เชื่อว่าคนแบบนี้จะเป็นแฟนของเธอ ชิน เหลียนอี อยากถอนหายใจไปจนถึงสวรรค์ เธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในสองสามวันนี้และคิดว่าเธอเป็นเรื่องที่น่าสังเวชอย่างมาก ทุกอย่างเริ่มขึ้นจากการนัดดูตัวครั้งนั้น เธอคิดว่าเนื่องจากทุกอย่างได้ไปสู่จุดจบแล้วนั่นจะเป็นจุดจบของมัน ด้วยความประหลาดใจของเธอ เธอถูกแม่ดุด้วยความโกรธเมื่อกลับถึงบ้านหลังจากนัดดูตัว แม่ถามเธอว่าทำไมเธอไม่บอกเขาว่าเธอมีแฟนแล้ว คนที่แนะนำเธอให้ไปนัดดูตัวถึงกับโทรหาพ่อแม่ของเธอและดุด่าพวกเขา พวกเขาบอกว่าเธอทำให้ทั้งครอบครัวอับอาย จากนั้นพ่อแม่ของเธอก็เริ่มถามเธอว่าแฟนของเธอเป็นใคร เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น ชิน เหลียนอี ต้องปฏิเสธแน่นอน เธอจะบอกว่าเขาเป็นแค่เพื่อนที่เดินผ่านไป เขารู้ว่าเธอไม่อยากไปนัดดูตัวเขาจึงพยายามช่วยเธอ ในตอนท้ายพ่อแม่ของเธอถามเธอว่าเป็นเพื่อนคนไหน เธอจึงพูดชื่อผู้ชายที่ค่อนข้างสนิทกับเธอ เธอตัดสินใจที่จะวางแผนที่จะบอกเรื่องราวของพวกเขาหลังจากนี้ ในท้ายที่สุด ก่อนที่พวกเขาจะทำเช่นนั้น ไป๋ ทิงชิน ก็โทรมาหาเธอ ก่อนท
จากนั้นไม่นานลิฟต์ก็มาถึง อย่างไรก็ตาม คนที่ออกมาจากลิฟต์ ก็คือเพื่อนบ้านของชิน เหลียนอี เมื่อพวกเขาเห็น ชิน เหลียนอี พวกเขาก็เริ่มทักทายเธอ “เหลียนอีเธอกลับมาแล้วเหรอ และนี่ก้ต้องเป็นแฟนของเธอแน่เลย” เพื่อนบ้านของเธอพูดและมองไปที่ไป๋ ทิงชิน ชิน เหลียนอี ลังเล ก่อนที่เธอจะได้สติกลับมา ไป๋ ทิงชิน ก็ได้เปิดปากของเขาและตอบไปแล้วว่า “ใช่ครับ ผมเป็นแฟนของเหลียนอีครับ” “เฮ้ เฮ้ ฉันหวังว่าจะได้ไปร่วมงานแต่งของคุณเร็ว ๆ นี้นะ” เพื่อนบ้านหัวเราะก็ที่จะรีบพูดออกไป “เหลียนอี แม่ของเธอจู้จี้มาทั้งวันเลย เธอกำลังรอพบแฟนของเธอนะ” ชิน เหลียนอี รู้สึกอึดอัดใจ ในที่สุดเธอก็รู้ว่าทำไมเพื่อนบ้านถึงรู้ว่า ไป๋ ทิงชิน เป็นแฟนของเธอ ดูเหมือนว่าแม่ของเธอได้ประกาศเรื่องนี้กับทุก ๆ คนแล้วสินะ พวกเขาเดินเข้าไปในลิฟต์ ชิน เหลียนอี มองไปที่ ไป๋ ทิงชิน และเขาก็กำลังมองมาที่เธอด้วยใบหน้าของเขาที่มีรอยยิ้มอ่อน ๆ เธอหน้าแดงอย่างควบคุมไม่ได้ เธอลังเลอยู่พักหนึ่งและพูดเตือนสติเขา “อืม... พ่อแม่ของฉันอาจจะเป็นห่วงนิดหน่อยนะ เพราะฉันไม่เคยมีแฟนมากก่อน เพียงแค่รับมือกับพวกเขาให้ดีที่สุดเท่าที่คุณจะสามารถทำได้แล
“สวัสดีจ่ะ” คุณชินและคุณนายชิน ตอบกลับอย่างรวดเร็ว คุณชินเชิญไป๋ ทิงซิน นั่งลงในขณะที่คุณนายชินดึงลูกสาวของเธอไปข้าง ๆ “นี่แฟนเธอเหรอ? เขาไม่ใช่คนที่เธอจ้างมาเพื่อตบตาใช่ไหม? ชิน เหลียนอี กลอกตาของเธอ “แม่จะคิดว่าเขาเป็นตัวแสดงที่ฉันจ้างมาก็ได้นะ” คุณนายชินโกรธมาก “เด็กอะไรเนี่ย! พูดแบบนั้นได้อย่างไร ได้เลยงั้นก็ไปเอาน้ำชามาเสิร์ฟ” จากนั้นคุณนายชินก็ทำหน้าตาอย่างเป็นมิตรและเดินไปที่ไป๋ ทิงชินเนื่องจาก ชิน เหลียนอี ได้รับมอบหมายให้ไปทำหน้าที่เสิร์ฟ เธอจึงตรงไปที่ห้องครัวเพื่อจะเตรียมน้ำชา เมื่อเธอเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นเธอพร้อมกับถาดน้ำชา เธอก็เห็นทั้งสามคนคุยกันอย่างสนุกสนาน “ทิงชิน คุณบอกว่าคุณรู้จักกับเหลียนอีในขณะที่อยู่ต่างประเทศ ดั้งนั้นคุณสองคนก็ติดต่อกันมาตลอดหลายปีแล้วใช่ไหม?” “ไม่ครับ เราไม่ได้ติดต่อกัน แต่เมื่อไม่นานมานี้หลังจากที่ผมกลับเข้ามาในประเทศ ผมก็ได้พบกับเหลียนอีโดยบังเอิญที่ถนนแห่งหนึ่งและเราก็ได้ติดต่อกัน ถ้าพูดตรง ๆ คือผมตามหาเหลียนอีมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และโชคดีที่ผมได้มาพบกับเธอ” ไป๋ ทิงชิน ยิ้ม เขามองไปที่ชิน เหลียนอี ขณะที่เขาพูดแบบนั้น จากมุม