แชร์

เหวลึกพลิกชะตา 1.4

ผู้เขียน: จ้าวฮุ่ยอิง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-03 06:33:49

บริเวณสถานที่เกิดเหตุ

รถกู้ภัยและรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทีมค้นหาต่างมารวมตัวกันอย่างคับคั่งเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุรถตกเขาในครั้งนี้ ซึ่งรถของทีมงานถ่ายทำเป็นรถตู้วิ่งตามหลังมาจึงเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่แรกเริ่ม ทำให้มีการแจ้งทีมกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างรวดเร็ว 

และผลจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตสองศพ เป็นคนขับรถ SUV คนดังกล่าวและบอดี้การ์ดซึ่งนั่งคู่กับคนขับมีผู้รอดชีวิตสามราย ซึ่งล้วนแล้วแต่บาดเจ็บสาหัสและหายสาบสูญหนึ่งรายซึ่งผู้สาบสูญเป็นดาราระดับซูเปอร์สตาร์จากประเทศสิงคโปร์และยังเป็นนักแสดงนำในซีรีส์เรื่องดังที่ทุ่มทุนสร้างกว่าหนึ่งร้อยล้านหยวน 

ร่างของอู๋ชิงเหยียนค่อยๆ ถูกช่วยขึ้นมาจากชะง่อนผา นำขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของทีมกู้ภัยที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ ทีมกู้ภัยใช้เวลาในการค้นหาสามวันจึงพบจุดที่รถตกลงไป ทันทีที่พบซากรถและมีผู้รอดชีวิตทางการจีนระดมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยเหลือผู้รอดชีวิตอย่างรวดเร็วและสามารถนำผู้รอดชีวิตขึ้นมาจากชะง่อนผาดังกล่าวได้ภายในวันที่สองหลังจากค้นพบ 

อุบัติเหตุร้ายแรงในครั้งนี้เป็นข่าวดังไปทั่วประเทศและสะเทือนวงการบันเทิง ด้วยผู้สูญหายเป็นดาราดังระดับแนวหน้าเลยทีเดียว และเพิ่งเซ็นสัญญากับค่ายยักษ์ใหญ่เป็นดาราในสังกัดได้ไม่นาน ทันทีที่ร่างของชิงเหยียนถูกนำมาวางไว้บนเปลผู้ป่วย บรรดานักข่าวต่างวิ่งตรงเข้ามาบันทึกภาพกันจ้าละหวั่น พร้อมสอบถามจนดังเอ็ดอึงไปหมด แต่ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกันนักข่าวออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทีมแพทย์เข้าปฐมพยาบาลเบื้องต้น

ปลอกคอหนาถูกห่อหุ้มไว้บนต้นคอ หญิงสาวมีอาการกระดูกต้นคอเคลื่อน ขาซ้ายและแขนซ้ายหัก ซี่โครงหักหลายซี่เลยทีเดียว แต่ยังมีสติดีเธอรีบสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมกู้ภัยทันทีที่พวกเขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเพื่อสอบปากคำเบื้องต้น

“คุณตำรวจค้นหาวาวาพบหรือยังคะ” หญิงสาวรีบถามกลับไปอย่างร้อนรน

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมกู้ภัยต่างหันกลับมามองหน้ากันเมื่อได้ยินคำถามกลับมาเช่นนั้น

“ตอนนี้ทุกฝ่ายพยายามกันอย่างเต็มที่ครับ อีกอย่างคุณวาวาตกลงไปที่ก้นเหวซึ่งมีความลึกมากขนาดนั้น ขนาดนักสำรวจยังไม่เคยลงไปเลย แต่ทีมงานทุกฝ่ายกำลังพยายามเต็มที่ พรุ่งนี้จะมีการปล่อยโดรนสื่อสารเพื่อร่อนลงไปถ่ายภาพที่ก้นเหวให้ทั่วบริเวณก่อนจะส่งทีมค้นหาลงไป คาดว่าคงจะใช้เวลาอีกหลายวัน”

สิ้นเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจชิงเหยียนแทบจะหมดเรี่ยวแรง โอกาสที่เพื่อนรักของเธอจะรอดชีวิตช่างริบหรี่เสียนี่กระไร

“ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุวาวาจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ จะบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน จะอยู่ตรงจุดไหนของก้นเหว ป่านนี้คงอดข้าวอดน้ำหลายวันแล้ว จะยังรอดชีวิตรอพวกคุณไปค้นหาจนพบเหรอเปล่า” หญิงสาวรำพึงรำพันเสียงสั่นเครือ

“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ามีอาการหนักใจอยู่มิใช่น้อย

“ถ้าจะถามว่าโอกาสจะรอดชีวิตมีไหมบอกได้เลยว่าแทบจะไม่มีเลยครับ เคยเกิดเหตุการณ์รถตกเหวที่นี่แต่ไม่บ่อยและทุกเคสไม่มีใครรอดชีวิตเลย เพิ่งจะมีพวกคุณนี่แหละที่รอดตายเป็นครั้งแรก”

“หา!” ชิงเหยียนอุทานออกมาทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“ถะ... ถ้า... เคสของพวกเรารอดชีวิตเป็นครั้งแรก โอกาสที่วาวาจะรอดก็มีโอกาสด้วยใช่ไหมคะคุณตำรวจ” หญิงสาวละล่ำละลักถามกลับไปทันที

เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแสดงสีหน้าหนักใจออกมาทันใด

“เรื่องนี้ก็พูดยากมากเช่นเดียวกัน เพราะเคสที่สูญหายไปก็มิใช่น้อย ไม่เคยค้นหาพบไม่เจอแม้กระทั่งซากศพ ผมแนะนำว่าให้ทำใจเอาไว้ล่วงหน้านะครับ โอกาสมีน้อยมากหากเธอรอดนั่นหมายถึงดวงแข็งจริงๆ และถ้ารอดจริงๆ จะมีสภาพไหนก็ไม่รู้ แต่ทางการจะพยายามค้นหาคุณวาวาให้พบ แม้ว่าจะเหลือเพียงซากศพก็จะนำขึ้นมาจากก้นเหวลึกนั้นให้ได้” เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวพูดพลางส่งยิ้มให้กำลังใจก่อนจะก้าวเดินจากไป

ท่ามกลางสายตาของชิงเหยียนมองตามแผ่นหลังไปจนลับสายตาด้วยความรู้สึกหมดอาลัยตายอยากขึ้นมาทันที ไม่คิดเลยว่าเพื่อนรักของเธอจะต้องพบจุดจบเช่นนี้จริง

“ไม่จริงใช่ไหม! วาวาจะต้องไม่มีจุดจบแบบนี้! เธอทิ้งฉันไปจริงๆ เหรอวาวา” ชิงเหยียนเอ่ยคร่ำครวญถึงเพื่อนรัก พร้อมหยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย 

ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาหันกลับไปมองจุดที่รถเกิดอุบัติเหตุก่อนจะเสียหลักพุ่งตกลงไปในหุบเหวลึก ด้วยความเศร้าโศกเสียใจอย่างยิ่งยวด

บริเวณก้นเหว

 ร่างงามในชุดเจ้าสาวนอนหมดสติอยู่บนใบไม้ขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับตัวคนดั่งเช่นหญิงสาวเอาไว้ได้ ใบไม้ดังกล่าวเป็นการผลิใบที่ซ้อนทับกันมาหลายพันปี และเติบโตอยู่ก้นเหวลึกปราศจากการรบกวนของมนุษย์มาอย่างยาวนานและเฉินวาวาเป็นสิ่งมีชีวิตที่เล็ดลอดเข้าสู่ก้นเหวลึกดังกล่าวที่แม้แต่นักสำรวจหรือนักปีนเขายังไม่เคยลงมาถึงก้นเหวนี้เลยสักครั้ง เพราะการสำรวจจะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ลงไป แต่จะส่งหุ่นยนต์ลงไปสำรวจแทนนั่นเองเพื่อความปลอดภัยของชีวิตมนุษย์

 เวลาผ่านไปมิรู้ยาวนานเพียงใด ปลายนิ้วเรียวสวยค่อยๆ ขยับไปมาอย่างช้าๆ ร่างงามค่อยๆ ขยับเรือนกายไหวไปมาเมื่อเธอเริ่มรู้สึกตัวก่อนจะค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นจากท่านอนคว่ำอย่างช้าๆ

 “อะ... อู้ยยยย!!!” เสียงร้องบ่งบอกว่าเธอเจ็บปวดไปทั่วเรือนกายเพราะตกจากที่สูงลงมาถึงก้นเหว

 แต่ไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวกลับมีแค่รอยฟกช้ำและแผลถลอก ที่มือทั้งสองข้างของเธอเต็มไปด้วยเลือด เพราะในระหว่างร่วงหล่นลงมา เธอคว้าเถาวัลย์เอาไว้ได้ทันเวลาพอดีก่อนจะรูดตัวลงมาตามเถาวัลย์และตกลงสู่เบื้องล่างโดยไม่มีบาดแผลฉกรรจ์มากไปกว่านี้ และทันทีที่หญิงสาวพลิกตัว ใบไม้ที่รองรับร่างของเธอเอาไว้อยู่ในขณะนั้นเริ่มพลิกไหวไปมา หญิงสาวที่กำลังเพิ่งฟื้นยังไม่ได้สติดีเสียเท่าไร เบิกตากว้างขึ้นมาทันใด

 “เหวอออ!!!” วาวาร้องเสียงหลงออกมาทันใด พร้อมร่างร่วงหล่นตกลงสู่พื้นเบื้องล่าง

 “พลั่ก!!!” ร่างของหญิงสาวกระแทกลงพื้นที่ปกคลุมไปด้วยหญ้าเขียวขจีหนานุ่มทำให้เธอไม่ได้รับบาดเจ็บเพียงแค่เกิดอาการจุกเท่านั้น

 “อะ... โอ๊ยยย!” หญิงสาวส่งเสียงร้องโอดโอยก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ 

 หญิงสาวนั่งนิ่งงันไปชั่วขณะ เมื่อดวงตากลมโตสำรวจไปทั่วบริเวณ รอบๆ ตัวของเธอเต็มไปด้วยต้นไม้สูงรูปทรงประหลาด และดอกไม้ที่ใหญ่กว่าปกติทั่วไปบานสะพรั่งเต็มไปหมด หลายหลากสีสันละลานตาเลยทีเดียว

 “สวยจัง!” หญิงสาวรำพึงออกมาเบาๆ 

 ร่างระหงค่อยๆ ลุกขึ้นยืนจากพื้นหญ้าก่อนจะหมุนกายมองไปทุกทิศทางเพื่อความแน่ใจอะไรบางอย่างของเธอ ครั้นดวงตากลมโตสำรวจเป็นที่แน่ชัดอาการโล่งอกปรากฏออกมาทันที

 “เฮ้อ! ค่อยยังชั่วหน่อย สถานที่นี้ไม่เหมือนในความฝัน เพราะฉะนั้นเฉินวาวาแกก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่าจะต้องพบกับผู้ชายในความฝันอย่างแน่นอน” หญิงสาวกล่าวพร้อมยืนยิ้มกริ่มด้วยความสบายใจ

แต่แล้วเพียงครู่เดียวใบหน้าสวยก็ต้องแปรเปลี่ยนไปทันที

“ไม่ใช่สิ! เราตกลงมาถึงก้นเหวและอยู่คนเดียวตามลำพัง จะมีใครรู้บ้างไหมว่าฉันยังไม่ตาย พวกเขาจะลงมาค้นหาฉันหรือเปล่า... ชิงเหยียน!” ประโยคสุดท้ายหญิงสาวรำพึงเรียกชื่อเพื่อนสนิทขึ้นมาทันที

ร่างงามหันซ้ายหันขวามิรู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ก่อนจะเหลือบไปเห็นกระเป๋าเป้ของเธอซึ่งภายในนั้นมีข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวที่ชิงเหยียนจัดเตรียมเอาไว้หากเกิดเหตุฉุกเฉิน

“กระเป๋าเป้!” วาวาเอ่ยออกมาด้วยความดีใจ

ร่างงามรีบเดินตรงไปยังจุดที่กระเป๋าเป้ตกอยู่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเขย่งปลายเท้าพร้อมยื่นแขนไปจนสุดเอื้อมเพื่อดึงกระเป๋าเป้ที่ตกค้างอยู่บนต้นไม้ และเธอก็ทำสำเร็จเมื่อสามารถคว้าสายสะพายได้ ก่อนจะดึงออกจากต้นไม้อย่างสุดแรง

“พรึ่บ!” กระเป๋าเป้มาอยู่ในมือเป็นที่เรียบร้อย

หญิงสาวรีบเปิดกระเป๋าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเทของทุกอย่างลงบนพื้นหญ้า ว่าภายในนั้นชิงเหยียนเพื่อนรักของเธอเตรียมอะไรเอาไว้บ้าง ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ละลานตาเต็มไปหมด สองแขนยกขึ้นเท้าสะเอวเมื่อเห็นทุกสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าเป้ปรากฏอยู่ตรงหน้า

“เชื่อเขาเลยจริงๆ เธอทำได้ยังไงชิงเหยียน มีแต่ของจำเป็นที่ฉันสามารถใช้ได้ตอนนี้มากเลย” หญิงสาวพึมพำในความสามารถของเพื่อนรักพลางทรุดกายลงนั่งกับพื้นหญ้า

มือเรียวเอื้อมหยิบชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาทำแผลที่มือของเธอ ก่อนจะใช้ผ้าพันแผลพันรอบฝ่ามือทั้งสองข้างของเธอจนเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะคว้าถุงผ้าที่อัดแน่นไปด้วยของว่างและขนมขบเคี้ยวมากมาย หญิงสาวไม่รอช้ารีบเปิดถุงผ้าพร้อมคว้าทุกอย่างรีบกินประทังชีวิตด้วยความหิวโหย 

ความหิวเพราะตกลงมาถึงก้นเหวลึกจนทำให้หมดสติไปถึงสองวันเต็มๆ ทำให้เฉินวาวากินของว่างทุกอย่างที่อยู่ในถุงผ้าจนเกลี้ยงมิมีเหลือ

“เอ่อออ...” เสียงเรอดังออกมาเมื่อวาวาดื่มโค้กกระป๋องแก้กระหายหมดรวดเดียวสี่กระป๋อง ก่อนจะนั่งมองเศษอาหารที่กองอยู่ตรงหน้า

“ไม่ตายแล้ว! อิ่มซะขนาดนี้” หญิงสาวรำพึงออกมาเบาๆ ก่อนจะเก็บเศษอาหารใส่ถุงพลาสติก

ไฟแช็กถูกจุดขึ้นทันใดเพื่อเผาขยะและเศษอาหารต่างๆ ก่อนจะเงยหน้ามองขึ้นเบื้องบนเมื่อเธอรู้สึกว่าความมืดกำลังจะเข้ามาเยือน จากที่แลดูอึมครึมแทบจะไม่มีแสงสว่างยิ่งมืดยิ่งไปกว่าเดิม

“ต้องออกเดินหากิ่งไม้แห้งๆ เพื่อมาก่อไฟแล้ว แถวนี้เย็นจังเลยขนาดชุดนี้ใส่ตั้งแปดชั้นยังรู้สึกหนาวเลย ดีนะที่สวมชุดนี้เข้าฉาก ถ้าเป็นชุดอื่นมีหวังวาวาเอ๋ยแกต้องหนาวตายแน่ๆ”หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนจะรีบคว้าทุกอย่างค่อยๆ ใส่ในกระเป๋าเป้พลางสะพายไว้ด้านหลัง ออกเดินหากิ่งไม้แห้งเพื่อก่อไฟ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวในชุดขาว 1.1

    ในเวลาต่อมาเวลาผ่านไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมง กิ่งไม้แห้งอยู่เต็มอ้อมแขนของหญิงสาว ร่างระหงก้าวเดินไปเรื่อยๆ เพื่อหาทางกลับไปยังจุดเดิมที่เธอตกลงมา ด้วยกลัวว่าหากทีมค้นหาลงมาช่วยจะสามารถพบได้อย่างง่ายดายไม่ต้องเดินหาแต่อย่างใด แต่แล้วในเวลานี้เธอรู้สึกว่ายิ่งเดินทุกอย่างเริ่มแปรเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ไม่ได้เดินไปไหนไกลจากจุดเดิมแม้แต่น้อย ก่อนจะแหงนหน้ามองเบื้องบนเมื่อความมืดเข้ามาเยือน “จะมืดแล้วทำไงดีล่ะฉัน จะไปปักหลักอยู่ตรงไหนทำไมยิ่งเดินเหมือนยิ่งห่างไกลจากจุดเดิมด้วยนะ แปลกจัง” หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนจะเหลือบไปเห็นชะง่อนผาที่ยื่นออกมาพอที่จะเข้าไปหลบได้ ใบหน้างามคลี่ยิ้มกว้างด้วยความดีใจออกมาทันที เมื่อเห็นสถานที่พอจะใช้หลบและหลับนอนได้ในคืนนี้ “เข้าไปหลบในนี้ก่อนแล้วกัน!” หญิงสาวกล่าวพร้อมเดินตรงไปเบื้องหน้าทันที เพียงไม่นานกองไฟก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางความมืดมิดที่แผ่เข้ามาปกคลุมโดยรอบ ทั่วบริเวณมืดสนิทไม่สามารถมองเห็นแม้แต่เงาของต้นไม้ด้านนอกแม้แต่น้อย แสงสว่างจากกองไฟสะท้อนเงาของเฉินวาวาในชุดเจ้าสาวทาบทับลงบนผนังหินผา ในขณะที่เจ้าตัวนั่งสัปหงกอยู่ที่พื้นด้วยความเหนื่อย “โฮกกก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวในชุดขาว 1.2

    ฉับพลัน! หินศิลารูปไฟอัคคีหลุดติดมือของหญิงสาวออกมาทันใด “เฮ้ยยย!!!” วาวาอุทานออกมาได้เพียงแค่นั้นหินศิลารูปไฟอัคคีหลุดตกมาอยู่ในอุ้งมือของหญิงสาว ก่อนจะพุ่งทะยานตรงเข้าสถิตกลางหน้าผากของเธอโดยพลัน เปล่งแสงสว่างสีแดงสาดแสงอยู่บนกลางหน้าผาก ก่อนจะเลือนหายไปเพียงชั่วพริบตา เหลือเพียงรอยปานคล้ายหยดน้ำเข้ามาแทนที่ พร้อมการเปลี่ยนแปลงปรากฏขึ้นกับเฉินวาวาใบหน้างามลึกล้ำปรากฏเส้นเลือดสีแดงแผ่ขยายดังเถาวัลย์ป่าเลื้อยขึ้นเต็มดวงหน้างามเต็มไปหมด ก่อนจะลามเลียลงไปถึงลำคอขาวผ่องและค่อยๆ แผ่กระจายไปทั่วเรือนร่างงาม มองแล้วช่างน่าสะพรึงกลัวเสียนี่กระไร เป็นผลจากไฟอัคคีย้ายไปสถิตอยู่ภายในร่างของเธอ ท่ามกลางความตกตะลึงของหญิงสาว ร่างระหงถูกตรึงอยู่กับที่มิอาจขยับเขยื้อนกายได้แม้แต่น้อย ในขณะที่หินศิลาที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวตรงหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนต่อหน้าต่อตาให้เธอได้เห็นจากก้อนหินตั้งโดดเดี่ยวค่อยๆ กลับกลายเป็นมนุษย์ขึ้นมาโดยพลัน หินศาลาค่อยๆ มลายเลือนหายไปอย่างช้าๆ พร้อมร่างบุรุษเข้ามาแทนที่ อาภรณ์สีนิลกาฬพร้อมเกศาสีเงินยวงปล่อยยาวสยายเริ่มปรากฏให้เห็นทีละน้อยและคืนสภาพกลับมาเป็นมนุษย์ดั่งเดิม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-03
  • พิศวาส 3000 ปี   โจวชินซาง 1.1

    แคว้นเทียนโจวรัชสมัยโจวเฉินกงฮ่องเต้อาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล อุดมสมบูรณ์ไปด้วยที่ราบลุ่ม สามารถเพาะปลูกได้พืชผลทางการเกษตรเป็นอย่างดี พื้นดินอุดมสมบูรณ์ปลูกอะไรก็ออกดอกผลมากมาย เทือกเขาน้อยใหญ่เต็มไปด้วยป่าดงดิบ แม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่านเป็นภูมิประเทศที่ถือได้ว่าหายากอย่างยิ่งยวด เป็นพื้นที่มหามงคลเพราะด้วยมังกรทั้งตัวสถิตอยู่ในแคว้นเทียนโจว ก่อให้เกิดพื้นที่สวยงามและสภาพอากาศที่เหมาะสม อากาศหนาวจัดด้วยหิมะปกคลุมก็มีระยะเวลาเพียงแค่สี่เดือนเท่านั้นไม่ยาวนานดั่งเช่นแคว้นอื่นๆ พากันประสบและด้วยเพราะความสมบูรณ์ของแคว้นเทียนโจว จึงเป็นสาเหตุทำให้แคว้นน้อยใหญ่ต้องการยึดครองเอามาเป็นของตน พืชผลมหาศาล พื้นที่ทางการเกษตรเป็นอู่ข่าวอู่น้ำเลยทีเดียว มิหนำซ้ำยังอุดมไปด้วยสายแร่ทองคำและเหมืองหยกชั้นดี ความสมบูรณ์ของแคว้นกลับเป็นดาบสองคมที่ทำให้เผชิญปัญหากับสงครามที่แคว้นอื่นต้องการแย่งชิงดินแดนแคว้นเทียนโจวในเวลานี้ถูกแคว้นฉู่ที่เป็นแคว้นพื้นบ้าน บุกประชิดชายแดนตีเมืองในอาณาเขตของแคว้นเทียนโจวไปแล้วถึงห้า เมือง โจวเฉินกงฮ่องเต้ มีพระบัญช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • พิศวาส 3000 ปี   โจวชินซาง 1.2

    ดาบปีศาจของจอมมารชินซาง ที่สถิตอยู่ในดินแดนปีศาจถูกดึงออกจากแท่นหินด้วยตัวเองก่อนจะลอยละลิ่วขึ้นสู่ผืนฟ้าเบื้องบน จากดินแดนปีศาจผ่านดินแดนน้อยใหญ่ พุ่งแหวกว่ายกลางอากาศลงมาพร้อมสายฟ้าฟาดตรงเข้ามาหาจอมมารผู้เป็นเจ้าของดาบเล่มนั้น พระหัตถ์ยกขึ้นรับดาบปีศาจของพระองค์อย่างรวดเร็ว พระวรกายสูงใหญ่หมุนไปโดยรอบพร้อมตวัดดาบปีศาจกวัดแกว่งไปมา จอมมารกระชับอาวุธประจำพระองค์เสด็จพระดำเนินตรงมาหาเฉินกงฮ่องเต้พร้อมใช้พระวรกายสูงใหญ่ทะมึน ยืนบังฮ่องเต้แคว้นต้าโจวเอาไว้ ท่อนพระกรใหญ่ยื่นออกไปข้างหน้าพลางยกพระหัตถ์ขึ้น ก่อนจะใช้นิ้วพระหัตถ์ชี้ไปที่พระพักตร์ฮ่องเต้แคว้นต้าฉู่พลางขยับนิ้วพระหัตถ์ขึ้นลงเป็นสัญญาณเรียกให้เข้ามาหา ท่ามกลางพระอาการตกตะลึงของเฉินกงฮ่องเต้ ครั้นเมื่อทรงได้ทอดพระเนตรบุรุษอาภรณ์สีนิลกาฬในระยะใกล้ชิด พระวรกายสูงใหญ่ทะมึนทรงยืนบังฮ่องเต้แคว้นเทียนโจวได้อย่างมิดชิดยิ่งนัก ในขณะที่ฮ่องเต้แคว้นต้าฉู่ทอดพระเนตรการกระทำของบุรุษปริศนาที่หาญกล้าแสดงอาการท้าทายพระองค์อย่างไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย ในขณะที่กองทัพของพระองค์โอบล้อมทัพต้าโจวเอาไว้รอบด้าน “หาคนมาช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • พิศวาส 3000 ปี   โจวชินซาง 1.3

    ทหารต้าฉู่ที่รอดชีวิตต่างพร้อมใจพากันทิ้งอาวุธอย่างพร้อมเพรียง ทุกชีวิตทรุดกายลงนั่งคุกเข่าพร้อมส่งเสียงขานรับพระบัญชาของจอมมารออกมาทันที“รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ! นับตั้งแต่นี้ต่อไปแคว้นต้าฉู่ยินดีสวามิภักดิ์ต่อแคว้นเทียนโจวตลอดไป ขอพระองค์ทรงพระเจริญ!”เหล่าทหารแคว้นต้าฉู่เปล่งถ้อยคำออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันครั้นจอมมารชินซางได้ยินคำกล่าวของบรรดาทหารต้าฉู่เอ่ยออกมาเช่นนั้น พระองค์หันพระวรกายกลับไปทอดพระเนตรเฉินกงฮ่องเต้ พระวรกายสูงทะมึนเสด็จพระดำเนินก้าวเข้าไปหาบุรุษที่เหมือนพระบิดาของพระองค์อย่างไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย“ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของท่านแล้ว ที่จะจัดการเยี่ยงไรต่อไป ข้าเชื่อว่าท่านจะสามารถจัดการได้ออกมาเป็นอย่างดี” รับสั่งสุรเสียงเรียบเฉย พร้อมพระดำเนินออกไปจากบริเวณนั้นครั้นเฉินกงฮ่องเต้หายจากพระอาการตกตะลึงและทอดพระเนตรบุรุษปริศนากำลังจะเดินจากไปอย่างเงียบๆ พระองค์ทรงรีบมีรับสั่งทักท้วงออกไปทันที“เดี๋ยวก่อนพ่อหนุ่ม!” สุรเสียงรับสั่งรั้งจอมมารพระวรกายสูงทะมึนทรงหยุดพระดำเนินเมื่อเฉิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-04
  • พิศวาส 3000 ปี   สวมรอย 1.1

    ชายแดนแคว้นฉู่ “พรึ่บ!” ร่างงามระหงในชุดเจ้าสาวสีขาวค่อยๆ ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ หญิงสาวนอนคว่ำหน้าหมดสติอยู่บริเวณชายป่าเขตแดนแคว้นฉู่ ซึ่งเดิมทีเป็นของแคว้นฉู่ทั้งหมด ภายหลังต้องแบ่งสิทธิในการดูแลและครอบครองเมืองแถบชายแดนของแคว้นฉู่ทั้งหมดให้กับแคว้นเทียนโจวคนละครึ่งช่วยกันปกครอง เพื่อทางเทียนโจวสามารถสอดส่องและส่งกองทหารมาตรึงตามชายแดน มิให้เกิดสงครามระหว่างแคว้นขึ้นมาได้อีก ด้วยผลจากการพ่ายแพ้สงครามในศึกเหิงไห่เมื่อห้าปีก่อน ทำให้แคว้นฉู่จำต้องยินยอมทำตามข้อตกลงทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ ซึ่งดีกว่าจะต้องเสียแคว้นให้อยู่ใต้การปกครองของเทียนโจวตลอดไป และการก้าวเดินถอยหลังของวาวาถึงห้าก้าวในเขตแดนปีศาจเข้าสู่ภพมนุษย์ทำให้เธอกลับมาในยุคอดีตภายหลังจากสงครามครั้งใหญ่ระหว่างแคว้นเทียนโจวและแคว้นฉู่เสร็จสิ้นไปแล้วเป็นเวลานานถึงห้าปี ในขณะที่จอมมารชินซางทรงสวมกอดนางเอาไว้แนบอกตลอดเวลาจึงทำให้พระองค์หวนกลับคืนสู่อดีตกาลเช่นเดียวกัน แต่ทรงกลับมาเพียงลำพังโดยไร้สิ้นนางในอ้อมกอด ด้วยเพราะเฉินวาวาก้าวถอยหลังถึงห้าก้าวทำให้กลับมาช้ากว่าพระองค์ห้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • พิศวาส 3000 ปี   สวมรอย 1.2

    ภายในกระโจมที่ประทับร่างงามนอนหลับใหลมิได้สติจนผ่านไปหนึ่งวันกับอีกสองคืน ภายในกระโจมส่วนตัวติดกับกระโจมขององค์หญิงชิวหรงซึ่งทรงพระประชวรอยู่ในขณะนี้ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยไฟอัคคีสร้างความหวาดกลัวให้แก่นางกำนัลที่เฝ้าคอยดูแลหญิงสาวเป็นยิ่งนัก พิศเพ่งหน้านางคราใดต้องตื่นตกใจทุกครา จนมิมีผู้ใดกล้าเฝ้านางอยู่ตลอดเวลาคงทำได้แต่เพียงยืนเฝ้าอยู่ตรงทางเข้าของกระโจมใบหน้าราวปีศาจปรากฏแสงเรืองรองสว่างวาบออกมาจากรอยปานคล้ายหยดน้ำซึ่งก็คือไฟอัคคีของจอมมารชินซางที่ย้ายมาสถิตอยู่ตรงกลางหน้าผากของหญิงสาว ใบหน้าเริ่มพลิกไปมาอย่างช้าๆ เปลือกตากลอกกลิ้งไปมาพร้อมเหงื่อผุดพรายขึ้นเต็มใบหน้า เมื่อเธอได้นิมิตฝันเห็นบุรุษร่างสูงใหญ่ทะมึน เจ้าของเกศาสีเงินยวงสวมชุดเกราะจอมทัพ ภายในมือถือดาบยาวขนาดใหญ่ ยืนอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงที่โหมลุกกระพือออกเป็นวงกว้างดั่งไฟจากขุมนรกทั่วบริเวณเต็มไปด้วยทหารนับหลายพันนายรายล้อมบุรุษผู้นั้นหมายรุมฆ่าลงประชาทัณฑ์ ในขณะที่มีเพียงบุรุษผู้นั้นเพียงหนึ่งเดียวยืนอยู่ท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกโชน เสียงตะโกนก้องกัมปนาทดังขึ้นพร้อมดาบยาวยกขึ้นช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05
  • พิศวาส 3000 ปี   สวมรอย 1.3

    บริเวณนอกกระโจม“ชิงเหยียน! อู๋ชิงเหยียน! อู๋…” หญิงสาวตะโกนได้เพียงแค่นั้นดวงตากลมโตกวาดสายตามองขบวนเจ้าสาวที่เต็มไปด้วยนางกำนัลมากมายพร้อมขันทีและกองทหารตามขบวนเสด็จไม่ต่ำกว่าสองร้อยนาย คอยถวายอารักขาไปตลอดการเดินทาง ม้านับร้อยตัวยืนอยู่อีกมุมหนึ่งรถม้าในสมัยโบราณมีมากมายหลายสิบคัน อุดมไปด้วยของมีค่ามากมายสิ่งเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ขององค์หญิงชิวหรงครั้นมองไปทิศทางใดก็มีแต่เทือกเขาสูงและป่าดงดิบทุกคนล้วนสวมชุดในสมัยโบราณที่แลดูแปลกตา ไม่เหมือนที่เธอเห็นในกองถ่ายซีรีส์ย้อนยุคแม้แต่น้อย แม้จะแลดูมีสีสันไม่แตกต่างกันแต่กลับมีความงามแปลกประหลาดในตัวเองในขณะที่ทุกสายตาหันกลับมามองเธอด้วยความตกใจสุดขีดที่เห็นใบหน้าดุจปีศาจของสตรีแปลกหน้า ก่อนจะรีบก้มหน้าลงมองพื้นทันทีเมื่อเห็นทางด้านหลังปรากฏองค์ฮ่องเต้เสด็จออกมาจากนอกกระโจม ยืนอยู่ด้านหลังของสตรีผู้มีใบหน้าดุจปีศาจ“ในเมื่อข้าถามเจ้าหลายครั้งหลายครา แต่ก็ไม่ได้คำตอบจากเจ้าแต่อย่างใด ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะบอกเจ้าด้วยตัวเองว่าที่นี่คือชายแดนแคว้นฉู่ พ้นเนินเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-05

บทล่าสุด

  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวจากแคว้นฉู่ 1.4

    ฟางหยางฮ่องเต้ทรงคิดหาวิธีที่จะทดสอบความจงรักภักดีของพระอนุชาขึ้นมาทันที ก่อนจะนึกวิธีทดสอบที่พระองค์เคยมองข้ามนั่นก็คือสมรสพระราชทานนั่นเอง เป็นวิธีที่สามารถทำให้พระองค์หยั่งรู้ว่าพระอนุชาจงรักภักดีด้วยใจจริงหรือไม่ “ถ้าเช่นนั้นก็ดี! ไหนๆ ก็พำนักอยู่ในวังหลวง อีกทั้งเจ้าเองก็อายุเข้าสู่ปีที่ยี่สิบเก้าแล้ว จนถึงป่านนี้ยังไม่ยอมอภิเษกสมรสมีพระชายาเสียที มิสู้ให้ข้าช่วยจัดการหาองค์หญิงจากต่างแคว้นที่เดินทางมาแต่งงานตามสัญญาสงบศึกให้เจ้าได้มีพระชายาดั่งเช่นผู้อื่นบ้างมิดีหรือไร เจ้ามัวแต่ทำศึกสงครามจะหาเวลาใดพึงใจสตรีได้จริงหรือไม่” ฟางหยางฮ่องเต้เริ่มต้นแผนการทันที “จริงด้วยพ่ะย่ะค่ะเสด็จอา ตอนนี้หลานๆ ทั้งหมดของพระองค์ที่ถึงวัยแต่งงานต้องรับพระราชทานองค์หญิงเหล่านั้นมาเป็นพระชายา จนตอนนี้ตำหนักแน่นไปหมดแล้ว เสด็จอามาประทับอยู่เช่นนี้มิสู้รับองค์หญิงจากต่างแคว้นไปเป็นพระชายาบ้างหรือพ่ะย่ะค่ะ เป็นการแบ่งเบาภาระเสด็จพ่อไปพร้อมกันด้วย” องค์รัชทายาทรับสั่งสนับสนุนตามประสาซื่อโดยมิล่วงรู้อะไรแม้แต่น้อย และถ้อยรับสั่งขององค์รัชทายาทสร้างความพึงพอพระทัยให้แก่ฟางหยางฮ่องเ

  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวจากแคว้นฉู่ 1.3

    พระราชวังหลวงเทียนฮุยภายในท้องพระโรง ท้องพระโรงขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นและออกแบบอย่างสวยงาม เป็นหน้าเป็นตาของแคว้นเทียนโจว เหมืองแร่ทองคำและเหมืองหยก ทำให้เทียนโจวมั่งคั่งและร่ำรวยกว่าแคว้นอื่นๆ การสรรสร้างพระตำหนักต่างๆ จึงเต็มไปด้วยศิลปะเฉพาะของแคว้น ทองคำและหยกสูงค่าจึงถูกนำมาประดับประดาภายในท้องพระโรงเพื่อประกาศศักดาและความยิ่งใหญ่ที่ต่างแคว้นล้วนริษยาในความอุดมสมบูรณ์และมั่งคั่งของเทียนโจวเป็นยิ่งนัก ในยามนี้เป็นเวลาที่โจวฟางหยางฮ่องเต้ ทรงออกว่าราชการตามปกติ ฮ่องเต้หนุ่มฉกรรจ์ในพระชนมายุสี่สิบพรรษา ยังคงหนุ่มแน่นและมีพระสิริโฉมคมคายถอดแบบมาจากหวงไทเฮาพระมารดา ซึ่งพระองค์เป็นพระโอรสองค์ใหญ่ประสูติจากฮองเฮา และมีพระอนุชาต่างพระมารดาประสูติจากพระสนมระดับฟูเหรินด้วยกันอีกสี่พระองค์ ซึ่งเดิมทีพระอนุชาทั้งสี่ คือองค์ชายรอง องค์ชายสามสิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ส่วนองค์ชายห้าเพิ่งจะสิ้นพระชนม์เมื่อห้าปีก่อน ส่วนองค์ชายสี่โจวชินซางหายสาบสูญไปพร้อมกับพระมารดาตั้งแต่ทรงมีชันษาได้เพียงหกเดือน แต่แล้วจู่ๆ องค

  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวจากแคว้นฉู่ 1.2

    องครักษ์ลู่เหอรีบลุกออกจากที่นั่งดังกล่าวทันทีพร้อมถวายคำนับองค์หญิงของตนเป็นการขออภัย “ผ่านด่านแล้วพ่ะย่ะค่ะองค์หญิง” ลู่เหอกล่าวพร้อมเงยหน้าขึ้นมององค์หญิงของตนทันที แต่แล้วกลับต้องหยุดชะงักเมื่อสายตาเห็นพระพักตร์งดงามลึกล้ำอย่างแปลกประหลาดขององค์หญิงเยว่วาวาไร้สิ้นรอยอัปลักษณ์ที่เห็นอยู่เป็นประจำแต่อย่างใดปรากฏอยู่ตรงหน้าในขณะนี้ องครักษ์หนุ่มได้แต่นั่งนิ่งอยู่เช่นนั้นไม่ขยับเขยื้อนกายแม้แต่น้อย จนเฉินวาวาผิดสังเกต “ลู่เหอ! ลู่เหอ! นี่เจ้าเป็นอะไร ทำไมถึงจ้องหน้าข้าแบบนี้” หญิงสาวถามกลับไปด้วยความแปลกใจพลางยกมือขึ้นจับใบหน้าของเธอ “นี่เจ้าอย่าบอกนะว่ายังไม่ชินกับรอยอัปลักษณ์ที่อยู่บนหน้าข้า อันที่จริงก็เห็นจนชินตาแล้วไม่ใช่เหรอ” หญิงสาวถามกลับไปก่อนจะได้ยินเสียงขององครักษ์ลู่เหอตอบกลับมา “มะ... ไม่ชินพ่ะย่ะค่ะ… พระพักตร์ขององค์หญิงตอนนี้มะ... ไม่มีรอยอัปลักษณ์แล้ว” “หา!” เฉินวาวาอุทานเสียงหลงขึ้นมาทันทีครั้นได้ยินเช่นนั้น มือเรียวยกขึ้นจับใบหน้าของเธอไปโดยรอบ ก่อนจะหันซ้ายหันขวาเพื่อหาสิ่งที่จะสามารถสะท้อนเงาแทนกระจกสัมฤทธิ์และสิ่งที่มาแทน

  • พิศวาส 3000 ปี   เจ้าสาวจากแคว้นฉู่ 1.1

    5 วันผ่านไปเมืองหลวงเทียนฮุย (เมืองหลวงตะวันออก)รถม้าขนาดบรรจุคนได้ประมาณสามสี่คนกำลังยืนรอการตรวจค้นเพื่อผ่านเข้าประตูเมืองเทียนฮุย อันเป็นเมืองหลวงตะวันออกและเป็นเมืองหลวงเอกของแคว้นเทียนโจว เฉินวาวาในขณะนี้สวมบทบาทเป็นหญิงสามัญชนกำลังอุ้มท้องอายุครรภ์เจ็ดเดือนนั่งอยู่บนรถม้าพร้อมด้วยองครักษ์ลู่เหอซึ่งสวมบทบาทเป็นสามีจำเป็นของเธอใบหน้าขององครักษ์ลู่เหอซึ่งติดหนวดปลอมนั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับองค์หญิงของตน ในขณะที่เฉินวาวายังคงสวมหน้ากากทองคำปิดบังใบหน้าของเธอเอาไว้ตลอดเวลา“เออ...องค์หญิงทรงเล่นพิเรนทร์อะไรเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ ให้กระหม่อมแสร้งเป็นพระสวามีหากฮ่องเต้ของเทียนโจวล่วงรู้หัวต้องหลุดออกจากบ่าเป็นแน่แท้ ทรงคิดอะไรอยู่... บอกได้ไหม” ลู่เหอบ่นรำพึงรำพันเฉินวาวาที่กำลังใช้พัดที่ถืออยู่ในมือโบกไปมาเพื่อคลายความร้อนในขณะนั้นอย่างสบายใจเฉิบ มีอันต้องหุบพัดดังกล่าวลงทันที“เพียะ!” เสียงพัดกระทบเข้ากับหน้าขาขององครักษ์หนุ่มจนตัวลีบตัวงอเข้าหากันทันใดด้วยความกลัว“ทำไมจะต้องคิ

  • พิศวาส 3000 ปี   เย่ววาวา 1.2

    โรงเตี๊ยมอาชาตัวมหึมาห้อตะบึงมาอย่างสุดฝีเท้า ติดตามด้วยกองทหารอารักขานับสิบนาย เสียงฝีเท้าม้าดังกระหึ่มมาตลอดเส้นทางสายหลักเมื่อม้าจำนวนหลายสิบตัวกำลังวิ่งมุ่งหน้าไปทางถนนใจกลางเมืองซึ่งเป็นสถานที่จัดงานเทศกาลลอยโคมประทีปที่เพิ่งจะสิ้นสุดลงก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงบริเวณหน้าโรงเตี๊ยมที่ยังเปิดให้บริการในขณะนั้นพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของจอมมารเสด็จลงจากหลังม้าอย่างรวดเร็ว พระพักตร์หล่อเหลาปราศจากหน้ากากทองคำปิดบังอำพรางแต่อย่างใด ด้วยทรงรีบร้อนเสด็จออกมาจากจวนเพื่อติดตามเยว่วาวาของพระองค์ พระวรกายใหญ่พระดำเนินเข้าไปภายในโรงเตี๊ยมดังกล่าวในขณะที่ชั้นล่างยังเต็มไปด้วยชาวเมืองที่มาเปิดห้องพักค้างคืนและดื่มกินอาหารอยู่ชั้นล่างเต็มทุกโต๊ะ“ชินอ๋องเสด็จ!!!” เสียงทหารอารักขาตะโกนออกมาเป็นทอดๆ ก่อนจะกระจายกำลังแยกย้ายกันค้นหาไปทั่วพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนสวมอาภรณ์สีนิลกาฬก้าวเข้ามาภายในโรงเตี๊ยมดังกล่าวทันที ท่ามกลางสายตาของชาวเมืองเทียนจิ้นและต่างแคว้นที่ได้มีโอกาสพานพบพระพักตร์ที่แท้จริง แต่ละคนตกตะลึงอ้าปากค้างกันทุกคนก่อนจะรีบพากันลงนั่งคุก

  • พิศวาส 3000 ปี   เย่ววาวา 1.1

    ยามห้ายบริเวณหน้าโรงเตี๊ยมร่างสูงตระหง่านของจอมมารหนุ่มกับหนุ่มน้อยเสี่ยววาวา บัดนี้มาหยุดยืนอยู่ตรงทางเข้าด้านหน้าของโรงเตี๊ยม ภายหลังที่ทั้งสองเดินเที่ยวชมงานจนย่างเข้าสู่ยามห้ายใกล้จะถึงเวลาที่งานเทศกาลจะจบสิ้นลง ครั้นเมื่อถึงเวลาที่จะกล่าวคำอำลาจริงๆ คนที่รู้สึกใจหายกลับเป็นองค์จอมมารที่ยืนทอดพระเนตรหนุ่มน้อยสหายใหม่ที่เพิ่งรู้จักอยู่ในขณะนี้“ถ้าหากเจ้าไม่รีบกลับพรุ่งนี้ข้าจะมาหาที่โรงเตี๊ยมเพื่อส่งเจ้าเดินทางกลับแคว้นอย่างปลอดภัย” รับสั่งด้วยความเป็นห่วงพร้อมยื่นบางอย่างส่งให้เฉินวาวาท่ามกลางความแปลกใจของเธอก่อนจะยื่นมือรับเอาไว้อย่างงงๆป้ายทองสลักตัวอักษรนำหน้าว่า ชิน ของพระองค์ยื่นส่งให้หญิงสาวเก็บไว้ติดตัว“นี่คือของที่ระลึกจากข้าเก็บเอาไว้ติดตัว ยามใดที่เจ้าต้องการความช่วยเหลือให้แสดงป้ายทองนี้ออกมา แล้วเจ้าจะได้รับการช่วยเหลือจากข้าและคนของข้าทันที” รับสั่งอธิบายกลับไป“โอ้โฮ! ของสำคัญขนาดนี้ท่านให้ข้าเก็บติดตัวไว้ทำไม เหตุใดจึงไม่เก็บไว้กับตัวเองล่ะพี่ชาย”

  • พิศวาส 3000 ปี   คำสัญญา 1.4

    เพียงครู่จอมมารชินซางและเฉินวาวามาหยุดยืนอยู่ริมแม่น้ำ อันเป็นสถานที่ซึ่งนิยมพากันมาปล่อยโคมประทีปที่แม่น้ำ เพื่อขอพรได้สมดั่งใจหวัง อีกทั้งเห็นพระจันทร์กลมโตได้อย่างชัดเจน โคมประทีปค่อยๆ ถูกจุดจากอุปกรณ์ที่ได้มาพร้อมกับโคมประทีปเตรียมพร้อมที่จะปล่อยขึ้นท้องฟ้าเบื้องบน“พี่ชายอธิษฐานเลยสิ! ท่านกำลังตามหาคนรักอยู่มิใช่เหรอ อธิษฐานแล้วท่านจะได้ปล่อยโคมออกไป” หญิงสาวบอกจอมมารที่ทรงยืนฟังเธอด้วยความแปลกพระทัย“เจ้าซื้อโคมประทีปนี้ให้ข้าอธิษฐานอย่างนั้นเหรอเสี่ยววาวา ข้านึกว่าเจ้าจะปล่อยเองเสียอีก” รับสั่งถามกลับไป“โคมประทีปนี้เป็นของท่าน ข้าแค่อำนวยความสะดวกและมาเป็นเพื่อนเฉยๆ รู้ไหมอธิษฐานเรื่องความรักและลอยโคมประทีปไปด้วยต่อหน้าพระจันทร์ คำอธิษฐานเป็นจริงนะพี่ชาย ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” หญิงสาวใช้คำปัจจุบันสอดแทรกออกมาตลอดจอมมารทรงยืนทอดพระเนตรเด็กหนุ่มตรงพระพักตร์สลับทอดพระเนตรโคมประทีป ก่อนจะเอื้อมพระหัตถ์จับมือเรียวสวยของสหายน้อยให้จับโคมประทีปพร้อมกับพระองค์“ถ้าเช่นนั้นเจ้ากับข้ามาอธิษฐานพร้อมกันเถอะหลังจากนั้นจะได้

  • พิศวาส 3000 ปี   คำสัญญา 1.3

    พระองค์ส่ายพระเศียรไปมาติดๆ กันพร้อมเปล่งเสียงพระสรวลออกมาเบาๆ กับท่าทางดังกล่าวของสหายน้อยมือเรียวของหญิงสาววางถ้วยชาลงทันทีพร้อมเปล่งเสียงหัวเราะร่วนเลยทีเดียว“แหม... พี่ชายท่านช่างมีอามรณ์ขันเสียจริง ปกติคนเราไม่ว่าสตรีหรือบุรุษถ้าไม่มีอะไรผิดปกติบนใบหน้าจะปิดบังอำพรางความงดงามหรือความหล่อเหลาของตนเอาไว้ทำไมจริงไหม คนที่ใช้หน้ากากปิดบังใบหน้าตัวเองก็มีอยู่แค่สองประเภทเท่านั้นแหละ” เฉินวาวากล่าวแสดงความคิดเห็น“อย่างไรรึ! เจ้าคาดเดาออกอย่างนั้นหรือว่าข้ามีสาเหตุอื่นอีกที่ใช้หน้ากากปิดบังอำพรางใบหน้าของตัวเอง” รับสั่งถามหยั่งเชิงกลับไป“ข้าก็พอจะเดาได้คร่าวๆ บ้างหรอกนะพี่ชาย ประเภทแรกคืออัปลักษณ์ ขี้เหร่เกินคำบรรยายไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็ตามทีเถอะเช่นข้าเป็นต้น จึงจำเป็นต้องใช้หน้ากากอำพรางใบหน้าของตัวเองเพื่อมิให้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนรอบข้าง” หญิงสาวกล่าวอธิบายอย่างชัดถ้อยชัดคำ“และกับอีกประเภทยกตัวอย่างพี่ชายก็แล้วกัน สาเหตุที่ท่านสวมหน้ากากนอกจากต้องการปิดบังความหล่อเหลาดั่งคำที่ท่านว่าแล้ว ซึ่งเป็นไป

  • พิศวาส 3000 ปี   คำสัญญา 1.2

    ในขณะที่ใบหน้าซีกซ้ายถูกหญิงสาวนำเครื่องสำอางในยุคปัจจุบันที่ติดตัวมาด้วยทาหน้าจนสีเข้มขึ้นจากผิวจริง พร้อมทำรอยจุดด่างดำไปทั่วบริเวณราวกับว่าเป็นช่างเมกอัปมืออาชีพที่สามารถสรรสร้างใบหน้าให้ออกมาแบบไหนก็ได้ ผิวหน้านวลเนียนขาวอมชมพูของวัยสาวมลายหายไปสิ้นคงเหลือเพียงใบหน้าที่มีแต่รอยจุดด่างดำเต็มไปหมด รวมไปถึงบริเวณลำคอที่มีรอยไฟอัคคีก็ถูกหญิงสาวใช้ครีมรองพื้นในยุคปัจจุบันทาทับกลบจนไม่เห็นร่องรอยแต่อย่างใดไม่สามารถปรากฏร่องรอยให้จอมมารชินซางได้ทอดพระเนตรแม้แต่น้อยพระเนตรสีนิลกาฬชะงักงันไปชั่วขณะเมื่อหนุ่มน้อยร่างบอบบางสวมหน้ากากทองคำซ่อนเร้นใบหน้าอันแท้จริงเฉกเช่นเดียวกับพระองค์ จอมมารเฝ้าทอดพระเนตรเสี่ยววาวาหนุ่มน้อยที่พระองค์ทรงเพิ่งรู้จักด้วยความสงสัยอย่างยิ่งยวดเมื่อได้ทรงทอดพระเนตรหน้ากากทองคำที่มีลักษณะเดียวกับพระองค์แตกต่างตรงที่ลวดลายสลักเท่านั้นสายพระเนตรจับจ้องที่ใบหน้าของเสี่ยววาวาที่กำลังก้มหน้าก้มตากินบะหมี่ตรงหน้าด้วยความหิวโหย ชนิดที่ว่าไม่เงยหน้าขึ้นมองผู้คนรอบข้างแม้แต่น้อย หากเธอแหงนหน้ามองขึ้นมาสักนิดจะต้องพบสายพระเนตรที่กำลังทอดพระเนตรเธอด้วยความแ

DMCA.com Protection Status