เมืองเหิงเตี้ยน
Hengdian World Studios
โรงถ่ายทำที่เมืองเหิงเตี้ยนถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ย้อนยุคใหญ่ที่สุดในประเทศจีนและในโลกเลยก็ว่าได้ สถานที่ถ่ายทำในเมืองเหิงเตี้ยนนั้นกว้างใหญ่เท่ากับเมืองหนึ่งในยุคอดีต แต่ละสถานที่ใช้เวลานานนับสัปดาห์กว่าจะไปครบทุกจุด ซึ่งภายในนั้นจะสร้างเป็นเมืองในยุคโบราณทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือนของผู้คนในสมัยโบราณ
ทั้งนี้เพื่อสะท้อนการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในยุคอดีต ตลอดจนถึงพระราชวังหลวงในสมัยโบราณ วังหลังซึ่งแยกเป็นตำหนักต่างๆ อุทยานหลวง จวนของเหล่าขุนนางและคหบดีผู้ร่ำรวย ตลอดจนถึงสร้างเมืองในยุคเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ก็อยู่ในโรงถ่ายนี้ด้วยเช่นกัน ทุกอย่างเหมือนจริงดั่งเช่นยุคโบราณไม่มีผิดเพี้ยน
และสถานที่ถ่ายทำเหิงเตี้ยนก็ได้เปิดเมืองเพื่อต้อนรับการถ่ายทำซีรีส์เรื่องยาว “นางมารร้ายตำหนักบูรพา” ฝีมือผู้กำกับชื่อดังเกาหยวนจาง ซึ่งได้ฉายาว่าผู้กำกับหมื่นล้าน เพราะลงมือกำกับเรื่องไหนเรื่องนั้นดังเป็นพลุแตก มียอดวิวในระดับหมื่นล้านวิวทุกเรื่อง ส่งผลให้ทัพดารานักแสดงจนถึงตัวประกอบต่างโด่งดังกันทั่วหน้า
กองทัพนักข่าวต่างเฝ้ารอทำข่าวซีรีส์เรื่องนี้กันตั้งแต่เช้า ภายหลังจากทำพิธีบวงสรวงและเปิดกล้องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อสามวันก่อน และวันนี้เป็นการถ่ายทำครั้งแรก ซึ่งนักแสดงที่มีคิวถ่ายทำต่างเดินทางมาอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และนักแสดงหลักๆ ซึ่งมีคิวถ่ายทำในวันนี้กำลังพากันนั่งแต่งตัวตามห้องที่ถูกจัดเอาไว้ และเฉินวาวาก็กำลังรอช่างแต่งหน้ามารับช่วงต่อหลังจากช่างทำผมจัดการกับทรงผมที่จะต้องถ่ายทำฉากในวันนี้
ดวงตาคู่สวยไร้สิ้นเครื่องสำอาง เปิดเปลือยผิวขาวอมชมพูนวลเนียน ดวงหน้าเงางาม คิ้วโก่งได้รูปสวยมิต้องเสียเวลาวาดแต่งเติมแม้แต่น้อย ริมฝีปากเรียวอวบอิ่มสีแดงอมชมพูไม่ต้องแต่งคนสวยยังไงก็เอาอยู่ ดวงหน้างามสะท้อนอยู่บนกระจกเงาบานใหญ่ในห้องแต่งตัวเพื่อเพ่งพิศตัวเอง
“เหยียนเหยียน ฉากวันนี้ที่จะต้องถ่ายทำเป็นพิธีแต่งงานในสมัยโบราณ ต้องเกล้าผมสูงขนาดนี้เลยเหรอทำไมฉันรู้สึกคุ้นๆ จังเลยกับการเกล้าผมแบบนี้” หญิงสาวเอ่ยกับเพื่อนรัก
“แกนี่ถ้าจะบ้าแล้ววาวา นี่เป็นซีรีส์จีนโบราณเรื่องแรกของแกที่จะต้องเกล้าผมเพื่อสวมมงกุฎเจ้าสาว เรื่องอื่นที่เคยเล่นมามีพิธีแต่งงานแบบนี้ด้วยเหรอ นึกให้ดีสิเพิ่งจะเป็นดาราแค่สองสามปีเอง มีซีรีส์โบราณกี่เรื่องยะที่เคยเล่นและสวมชุดแต่งงาน” ชิงเหยียนเอ่ยทบทวนความจำให้เพื่อนสนิทได้ล่วงรู้
“แหม...ถามนิดเดียวแม่ตอบยาวเป็นประเทศเลย ก็แค่คุ้นๆ ก็เลยถาม” หญิงสาวกล่าวพลางก้มหน้าก้มตาอ่านบทที่จะต้องเข้าฉากถ่ายทำในวันนี้ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเมื่อช่างแต่งหน้าและฝ่ายจัดเสื้อผ้าก้าวเข้ามาในห้อง
“คุณวาวาแต่งหน้าเจ้าสาวก่อนนะคะ แล้วค่อยสวมชุดเข้าฉาก” เจ้าหน้าที่กองถ่ายบอกกับเธอ
หญิงสาวพยักหน้าขึ้นลงติดๆ กันพร้อมส่งยิ้มหวานให้อย่างเป็นมิตรเมื่อช่างแต่งหน้าเริ่มเข้ามาทำหน้าที่ของตน
เวลาผ่านไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมง ใบหน้างามลึกล้ำถูกเนรมิตด้วยฝีมือช่างแต่งหน้าจนหญิงสาวต้องกะพริบตาติดต่อกันเมื่อเห็นตัวเองในกระจกเงา กับใบหน้างามอย่างมีมิติเพื่อให้รับกับชุดเจ้าสาว
“สวยไม่มีที่ติเลยค่ะคุณวาวา บอกตรงๆ ว่าคุณเป็นนางร้ายที่สวยกว่านางเอกของเรื่องเชียวนะ” ช่างแต่งหน้าซึ่งเป็นอาจารย์จากสถาบันการสอนเทคนิคแต่งหน้าการละครกล่าวอย่างชื่นชม
“มันต้องแน่นอนอยู่แล้วละค่ะ นางร้ายหน้าสวยโคตรๆ ต้องยกให้เฉินวาวา บทนางเอกนางไม่เล่นเพราะนางเล่นแต่บทร้ายและตีแตกกระจุย จนกวาดรางวัลมานับไม่ถ้วนเลย” ชิงเหยียนกล่าวเสริมยกยอเพื่อนตัวเอง
“พอเหอะเหยียนเหยียน! พูดดังเดี๋ยวก็โดนคนอื่นเขม่น เกิดมีประเด็นดราม่าขึ้นมาฉันขี้เกียจจะมาตอบคำถามนักข่าวแทนแกที่ขยันสร้างเรื่องรู้ไหม” หญิงสาวปรามเพื่อนรัก
ยังมิทันที่อู๋ชิงเหยียนจะตอบโต้เพื่อนสาว ฝ่ายคัดสรรเสื้อผ้าก็เดินถือชุดเจ้าสาวพร้อมเครื่องประดับเข้ามาภายในห้องพลางส่งยิ้มหวานให้
“ชุดเจ้าสาวสำหรับเข้าฉากแต่งงานมาแล้วค่ะ ตัดเย็บรับกับรูปร่างของคุณวาวาไม่ต้องกลัวว่าจะสวมไม่พอดีนะคะ” ฝ่ายเสื้อผ้ากล่าวอธิบายพร้อมกับชุดคลุมของเจ้าสาวเข็นเข้ามาในห้อง
ดวงตากลมโตมองชุดคลุมเจ้าสาวสีขาวประกายมุก ปักลวดลายหงส์กางปีกผงาด พร้อมหันไปมองตัวชุดด้านในซึ่งเป็นสีขาวเช่นกัน กำลังเตรียมจะสวมบนร่างระหงของเธอ
“ดะ...เดี๋ยว...นี่ชุดเจ้าสาวอย่างนั้นเหรอ!” หญิงสาวถามย้ำอีกครั้ง
และคำถามของเธอทำให้ทุกคนต่างหันกลับมามองหน้ากันด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินเช่นนั้น
“ชุดเจ้าสาวก็ต้องเป็นแบบนี้แหละค่ะคุณวาวา สงสัยอะไรเหรอคะ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายงานเสื้อผ้านักแสดงถามกลับไปด้วยความงุนงง
“อะ... เอ่อ... มะ... ไม่ใช่สีแดงหรอกเหรอ ปกติพิธีแต่งงานของจีนโบราณสวมชุดสีแดงทั้งนั้น” หญิงสาวถามกลับไปด้วยความสงสัยระคนแปลกใจ
และนั่นทำให้ฝ่ายออกแบบเสื้อผ้าต้องอธิบายให้กับนักแสดงสาวตัวแม่ให้ล่วงรู้ข้อมูลเบื้องต้น
“อ่อ! คุณวาวาคงจะยังไม่ได้รับบทละครฉบับปรับปรุง เรื่องการปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง ตอนแรกทางผู้กำกับจะให้เป็นสีแดงแต่ทางเจ้าของบทประพันธ์มีความเห็นแย้งในเรื่องนี้ ก็เลยต้องปรับเปลี่ยนกะทันหัน ทางเจ้าของบทประพันธ์ต้องการให้เหมือนจริงตามท้องเรื่องซึ่งเป็นยุคสมัยที่มีกษัตริย์ปกครองแต่ละแคว้น ในสมัยนั้นพิธีสมรสนิยมใช้สีขาวเข้าพิธีแต่งงานค่ะ”
ใบหน้างามพยักขึ้นลงติดต่อกันเมื่อได้ยินคำอธิบายเช่นนั้น
“อ่อ... อย่างนั้นเหรอคะ วาวาก็เพิ่งรู้จากคุณนี่แหละว่ายุคสมัยนั้นใช้สีขาว นึกว่าสวมชุดสีแดงตั้งแต่โบราณมาเลย” หญิงสาวตอบกลับไปในสิ่งที่เธอล่วงรู้มา ทำให้ฝ่ายเสื้อผ้าได้แต่ยืนอมยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้นก่อนจะอธิบายกลับไป
“ในช่วงต้นๆ ของยุคโบราณนับตั้งแต่ราชวงศ์เซี่ย ราชวงศ์ซาง จะใช้สีดำสลับแดงในพิธีแต่งงาน ซึ่งสีดำในสมัยนั้นหมายถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ ต่อมาในราชวงศ์โจวตะวันตกจะใช้สีดำสำหรับเข้าพิธี แต่พอมาถึงยุคโจวตะวันออกใช้สีขาวในพิธีแต่งงาน และใช้สีขาวเรื่อยมามาจนถึงยุคชุนชิวและยุคจ้านกว๋อค่ะ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายเสื้อผ้าอธิบายเสียยืดยาว
ใบหน้างามลึกล้ำส่งยิ้มแหยๆ กลับไปเมื่อได้ยินคำอธิบาย
“แหะๆ ... วาวาขอบคุณมากนะคะที่อธิบายเกร็ดประวัติศาสตร์ให้รู้ แย่มากๆ เลยเป็นลูกหลานเชื้อสายจีนเสียเปล่า แต่กลับไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับบรรพบุรุษ”
“คนไม่รู้ย่อมไม่ผิดค่ะ คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ก็คิดเหมือนกับคุณวาวาเช่นกัน ยิ่งเกิดและโตในต่างประเทศแบบคุณด้วยแล้วยากที่จะทราบนอกจากจะศึกษาประวัติศาสตร์เป็นการส่วนตัว หรือเรียนทางด้านประวัติศาสตร์มา” เจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลเสื้อผ้าส่งยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู ก่อนจะกล่าวสำทับตามติดมา
“รีบสวมชุดแต่งงานเถอะค่ะ เดี๋ยวจะต้องเดินทางไปถ่ายทำฉากแรกแล้ว” กล่าวพร้อมรีบหยิบชุดเจ้าสาวโบราณคลี่ออกกว้างเพื่อสวมบนร่างงามอย่างรวดเร็ว
ชุดเจ้าสาวในสมัยโบราณสวมใส่ถึงแปดชั้นเลยทีเดียวเล่นเอาเฉินวาวารู้สึกหนักและอึดอัดไปทั้งตัว เมื่อชั้นสุดท้ายเป็นชุดคลุมปักลวดลายหงส์กางปีกผงาดสีทองอร่ามลงบนเนื้อผ้าสีขาวประกายมุกถูกสวมลงบนเรือนร่างงาม และนั่นทำให้ร่างระหงโดดเด่นสวยงามอลังการ พร้อมมงกุฎหงส์เครื่องหมายของภรรยาเอกในยุคสมัยนั้นค่อยๆ บรรจงวางลงบนเส้นผมที่เกล้าเอาไว้
มงกุฎหงส์ทำมาจากทองคำแท้ ลวดลายวิจิตรประณีตด้วยฝีมือของช่างสมัยใหม่ที่ถูกถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษจนสร้างสรรค์เครื่องประดับในยุคโบราณได้สมตามความตั้งใจ
“โอ้โฮ!มงกุฎหงส์ทำไมหนักจังเลยคะ ใส่ไปนานๆ คอจะหักไหม” หญิงสาวบ่นรำพึงออกมาทันที เมื่อมงกุฎหงส์ถูกสวมลงบนศีรษะของเธอที่เกล้าสูงรองรับเอาไว้อย่างพอดิบพอดี
“อย่าบ่นเลยวาวา... ตรงกันข้ามแกโคตรสวยเลยว่ะ ขนาดฉันเป็นผู้หญิงแท้ๆ เห็นแกอยู่ในชุดแบบนี้อยากแต่งงานด้วยขึ้นมาทันที ไม่ต้องบอกนะว่า พ่อพระเอกเรื่องนี้พอเห็นแกแล้วจะไม่ตะลึงตาค้าง เห็นว่ากำลังดังมาแรงแซงทางโค้งเลยไม่ใช่เหรอ อายุก็เพิ่งจะยี่สิบห้าเองมันน่า...” ชิงเหยียนกล่าวยังไม่ทันจบก็ต้องเงียบเสียงลงไปทันที เมื่อถูกสายตาพิฆาตของเพื่อนรักกำราบเธอจนดวงตากลมโตแทบจะถลนออกมาเลยทีเดียว ก่อนจะได้ยินเสียงของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแทรกขึ้น “คุณวาวาจะไม่หนักได้ยังไงล่ะคะ ก็ในเมื่อมงกุฎหงส์ทำมาจากทองคำแท้ๆ เครื่องประดับของตัวละครหลักของเรื่องนี้โดยเฉพาะวังหลัง มีสปอนเซอร์สนับสนุนเรื่องเสื้อผ้าและเครื่องประดับตลอดทั้งเรื่อง และเครื่องประดับทุกชิ้นที่อยู่บนตัวคุณวาวาได้รับการออกแบบและถูกจัดส่งมาจาก JCS GOLD MASTER บริษัทจิวเอลรียักษ์ใหญ่ที่อยู่ในเครือของ JCS โพรดักชันค่ะ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลเสื้อผ้านักแสดงบอกเธอก่อนจะเอี้ยวตัวพร้อมเปิดกล่องกำมะหยี่หยิบป้ายหยกสีเขียวมรกตยื่นส่งให้หญิงสาว “ป้ายหยกที่จะต้องใช้เข้าฉากค่ะ เป็นหยกจักรพรรดิของแท้นะคะรักษาให้ดี สลักชื่อตัวละครที่คุณวาวาสวมบทบาท สนับสนุ
บริเวณสถานที่เกิดเหตุรถกู้ภัยและรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมทีมค้นหาต่างมารวมตัวกันอย่างคับคั่งเพื่อช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุรถตกเขาในครั้งนี้ ซึ่งรถของทีมงานถ่ายทำเป็นรถตู้วิ่งตามหลังมาจึงเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างตั้งแต่แรกเริ่ม ทำให้มีการแจ้งทีมกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างรวดเร็ว และผลจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตสองศพ เป็นคนขับรถ SUV คนดังกล่าวและบอดี้การ์ดซึ่งนั่งคู่กับคนขับมีผู้รอดชีวิตสามราย ซึ่งล้วนแล้วแต่บาดเจ็บสาหัสและหายสาบสูญหนึ่งรายซึ่งผู้สาบสูญเป็นดาราระดับซูเปอร์สตาร์จากประเทศสิงคโปร์และยังเป็นนักแสดงนำในซีรีส์เรื่องดังที่ทุ่มทุนสร้างกว่าหนึ่งร้อยล้านหยวน ร่างของอู๋ชิงเหยียนค่อยๆ ถูกช่วยขึ้นมาจากชะง่อนผา นำขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของทีมกู้ภัยที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ ทีมกู้ภัยใช้เวลาในการค้นหาสามวันจึงพบจุดที่รถตกลงไป ทันทีที่พบซากรถและมีผู้รอดชีวิตทางการจีนระดมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยเหลือผู้รอดชีวิตอย่างรวดเร็วและสามารถนำผู้รอดชีวิตขึ้นมาจากชะง่อนผาดังกล่าวได้ภายในวันที่สองหลังจากค้นพบ อุบัติเหตุร้ายแรงในครั้งนี้เป็นข่าวดังไปทั่วประเทศและสะเทือนวงการบันเ
ในเวลาต่อมาเวลาผ่านไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมง กิ่งไม้แห้งอยู่เต็มอ้อมแขนของหญิงสาว ร่างระหงก้าวเดินไปเรื่อยๆ เพื่อหาทางกลับไปยังจุดเดิมที่เธอตกลงมา ด้วยกลัวว่าหากทีมค้นหาลงมาช่วยจะสามารถพบได้อย่างง่ายดายไม่ต้องเดินหาแต่อย่างใด แต่แล้วในเวลานี้เธอรู้สึกว่ายิ่งเดินทุกอย่างเริ่มแปรเปลี่ยนไม่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ไม่ได้เดินไปไหนไกลจากจุดเดิมแม้แต่น้อย ก่อนจะแหงนหน้ามองเบื้องบนเมื่อความมืดเข้ามาเยือน “จะมืดแล้วทำไงดีล่ะฉัน จะไปปักหลักอยู่ตรงไหนทำไมยิ่งเดินเหมือนยิ่งห่างไกลจากจุดเดิมด้วยนะ แปลกจัง” หญิงสาวบ่นพึมพำก่อนจะเหลือบไปเห็นชะง่อนผาที่ยื่นออกมาพอที่จะเข้าไปหลบได้ ใบหน้างามคลี่ยิ้มกว้างด้วยความดีใจออกมาทันที เมื่อเห็นสถานที่พอจะใช้หลบและหลับนอนได้ในคืนนี้ “เข้าไปหลบในนี้ก่อนแล้วกัน!” หญิงสาวกล่าวพร้อมเดินตรงไปเบื้องหน้าทันที เพียงไม่นานกองไฟก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางความมืดมิดที่แผ่เข้ามาปกคลุมโดยรอบ ทั่วบริเวณมืดสนิทไม่สามารถมองเห็นแม้แต่เงาของต้นไม้ด้านนอกแม้แต่น้อย แสงสว่างจากกองไฟสะท้อนเงาของเฉินวาวาในชุดเจ้าสาวทาบทับลงบนผนังหินผา ในขณะที่เจ้าตัวนั่งสัปหงกอยู่ที่พื้นด้วยความเหนื่อย “โฮกกก
ฉับพลัน! หินศิลารูปไฟอัคคีหลุดติดมือของหญิงสาวออกมาทันใด “เฮ้ยยย!!!” วาวาอุทานออกมาได้เพียงแค่นั้นหินศิลารูปไฟอัคคีหลุดตกมาอยู่ในอุ้งมือของหญิงสาว ก่อนจะพุ่งทะยานตรงเข้าสถิตกลางหน้าผากของเธอโดยพลัน เปล่งแสงสว่างสีแดงสาดแสงอยู่บนกลางหน้าผาก ก่อนจะเลือนหายไปเพียงชั่วพริบตา เหลือเพียงรอยปานคล้ายหยดน้ำเข้ามาแทนที่ พร้อมการเปลี่ยนแปลงปรากฏขึ้นกับเฉินวาวาใบหน้างามลึกล้ำปรากฏเส้นเลือดสีแดงแผ่ขยายดังเถาวัลย์ป่าเลื้อยขึ้นเต็มดวงหน้างามเต็มไปหมด ก่อนจะลามเลียลงไปถึงลำคอขาวผ่องและค่อยๆ แผ่กระจายไปทั่วเรือนร่างงาม มองแล้วช่างน่าสะพรึงกลัวเสียนี่กระไร เป็นผลจากไฟอัคคีย้ายไปสถิตอยู่ภายในร่างของเธอ ท่ามกลางความตกตะลึงของหญิงสาว ร่างระหงถูกตรึงอยู่กับที่มิอาจขยับเขยื้อนกายได้แม้แต่น้อย ในขณะที่หินศิลาที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวตรงหน้าเริ่มแปรเปลี่ยนต่อหน้าต่อตาให้เธอได้เห็นจากก้อนหินตั้งโดดเดี่ยวค่อยๆ กลับกลายเป็นมนุษย์ขึ้นมาโดยพลัน หินศาลาค่อยๆ มลายเลือนหายไปอย่างช้าๆ พร้อมร่างบุรุษเข้ามาแทนที่ อาภรณ์สีนิลกาฬพร้อมเกศาสีเงินยวงปล่อยยาวสยายเริ่มปรากฏให้เห็นทีละน้อยและคืนสภาพกลับมาเป็นมนุษย์ดั่งเดิม
แคว้นเทียนโจวรัชสมัยโจวเฉินกงฮ่องเต้อาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล อุดมสมบูรณ์ไปด้วยที่ราบลุ่ม สามารถเพาะปลูกได้พืชผลทางการเกษตรเป็นอย่างดี พื้นดินอุดมสมบูรณ์ปลูกอะไรก็ออกดอกผลมากมาย เทือกเขาน้อยใหญ่เต็มไปด้วยป่าดงดิบ แม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่านเป็นภูมิประเทศที่ถือได้ว่าหายากอย่างยิ่งยวด เป็นพื้นที่มหามงคลเพราะด้วยมังกรทั้งตัวสถิตอยู่ในแคว้นเทียนโจว ก่อให้เกิดพื้นที่สวยงามและสภาพอากาศที่เหมาะสม อากาศหนาวจัดด้วยหิมะปกคลุมก็มีระยะเวลาเพียงแค่สี่เดือนเท่านั้นไม่ยาวนานดั่งเช่นแคว้นอื่นๆ พากันประสบและด้วยเพราะความสมบูรณ์ของแคว้นเทียนโจว จึงเป็นสาเหตุทำให้แคว้นน้อยใหญ่ต้องการยึดครองเอามาเป็นของตน พืชผลมหาศาล พื้นที่ทางการเกษตรเป็นอู่ข่าวอู่น้ำเลยทีเดียว มิหนำซ้ำยังอุดมไปด้วยสายแร่ทองคำและเหมืองหยกชั้นดี ความสมบูรณ์ของแคว้นกลับเป็นดาบสองคมที่ทำให้เผชิญปัญหากับสงครามที่แคว้นอื่นต้องการแย่งชิงดินแดนแคว้นเทียนโจวในเวลานี้ถูกแคว้นฉู่ที่เป็นแคว้นพื้นบ้าน บุกประชิดชายแดนตีเมืองในอาณาเขตของแคว้นเทียนโจวไปแล้วถึงห้า เมือง โจวเฉินกงฮ่องเต้ มีพระบัญช
ดาบปีศาจของจอมมารชินซาง ที่สถิตอยู่ในดินแดนปีศาจถูกดึงออกจากแท่นหินด้วยตัวเองก่อนจะลอยละลิ่วขึ้นสู่ผืนฟ้าเบื้องบน จากดินแดนปีศาจผ่านดินแดนน้อยใหญ่ พุ่งแหวกว่ายกลางอากาศลงมาพร้อมสายฟ้าฟาดตรงเข้ามาหาจอมมารผู้เป็นเจ้าของดาบเล่มนั้น พระหัตถ์ยกขึ้นรับดาบปีศาจของพระองค์อย่างรวดเร็ว พระวรกายสูงใหญ่หมุนไปโดยรอบพร้อมตวัดดาบปีศาจกวัดแกว่งไปมา จอมมารกระชับอาวุธประจำพระองค์เสด็จพระดำเนินตรงมาหาเฉินกงฮ่องเต้พร้อมใช้พระวรกายสูงใหญ่ทะมึน ยืนบังฮ่องเต้แคว้นต้าโจวเอาไว้ ท่อนพระกรใหญ่ยื่นออกไปข้างหน้าพลางยกพระหัตถ์ขึ้น ก่อนจะใช้นิ้วพระหัตถ์ชี้ไปที่พระพักตร์ฮ่องเต้แคว้นต้าฉู่พลางขยับนิ้วพระหัตถ์ขึ้นลงเป็นสัญญาณเรียกให้เข้ามาหา ท่ามกลางพระอาการตกตะลึงของเฉินกงฮ่องเต้ ครั้นเมื่อทรงได้ทอดพระเนตรบุรุษอาภรณ์สีนิลกาฬในระยะใกล้ชิด พระวรกายสูงใหญ่ทะมึนทรงยืนบังฮ่องเต้แคว้นเทียนโจวได้อย่างมิดชิดยิ่งนัก ในขณะที่ฮ่องเต้แคว้นต้าฉู่ทอดพระเนตรการกระทำของบุรุษปริศนาที่หาญกล้าแสดงอาการท้าทายพระองค์อย่างไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย ในขณะที่กองทัพของพระองค์โอบล้อมทัพต้าโจวเอาไว้รอบด้าน “หาคนมาช
ทหารต้าฉู่ที่รอดชีวิตต่างพร้อมใจพากันทิ้งอาวุธอย่างพร้อมเพรียง ทุกชีวิตทรุดกายลงนั่งคุกเข่าพร้อมส่งเสียงขานรับพระบัญชาของจอมมารออกมาทันที“รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ! นับตั้งแต่นี้ต่อไปแคว้นต้าฉู่ยินดีสวามิภักดิ์ต่อแคว้นเทียนโจวตลอดไป ขอพระองค์ทรงพระเจริญ!”เหล่าทหารแคว้นต้าฉู่เปล่งถ้อยคำออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันครั้นจอมมารชินซางได้ยินคำกล่าวของบรรดาทหารต้าฉู่เอ่ยออกมาเช่นนั้น พระองค์หันพระวรกายกลับไปทอดพระเนตรเฉินกงฮ่องเต้ พระวรกายสูงทะมึนเสด็จพระดำเนินก้าวเข้าไปหาบุรุษที่เหมือนพระบิดาของพระองค์อย่างไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย“ต่อไปก็เป็นหน้าที่ของท่านแล้ว ที่จะจัดการเยี่ยงไรต่อไป ข้าเชื่อว่าท่านจะสามารถจัดการได้ออกมาเป็นอย่างดี” รับสั่งสุรเสียงเรียบเฉย พร้อมพระดำเนินออกไปจากบริเวณนั้นครั้นเฉินกงฮ่องเต้หายจากพระอาการตกตะลึงและทอดพระเนตรบุรุษปริศนากำลังจะเดินจากไปอย่างเงียบๆ พระองค์ทรงรีบมีรับสั่งทักท้วงออกไปทันที“เดี๋ยวก่อนพ่อหนุ่ม!” สุรเสียงรับสั่งรั้งจอมมารพระวรกายสูงทะมึนทรงหยุดพระดำเนินเมื่อเฉิ
ชายแดนแคว้นฉู่ “พรึ่บ!” ร่างงามระหงในชุดเจ้าสาวสีขาวค่อยๆ ปรากฏขึ้นอย่างช้าๆ หญิงสาวนอนคว่ำหน้าหมดสติอยู่บริเวณชายป่าเขตแดนแคว้นฉู่ ซึ่งเดิมทีเป็นของแคว้นฉู่ทั้งหมด ภายหลังต้องแบ่งสิทธิในการดูแลและครอบครองเมืองแถบชายแดนของแคว้นฉู่ทั้งหมดให้กับแคว้นเทียนโจวคนละครึ่งช่วยกันปกครอง เพื่อทางเทียนโจวสามารถสอดส่องและส่งกองทหารมาตรึงตามชายแดน มิให้เกิดสงครามระหว่างแคว้นขึ้นมาได้อีก ด้วยผลจากการพ่ายแพ้สงครามในศึกเหิงไห่เมื่อห้าปีก่อน ทำให้แคว้นฉู่จำต้องยินยอมทำตามข้อตกลงทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ ซึ่งดีกว่าจะต้องเสียแคว้นให้อยู่ใต้การปกครองของเทียนโจวตลอดไป และการก้าวเดินถอยหลังของวาวาถึงห้าก้าวในเขตแดนปีศาจเข้าสู่ภพมนุษย์ทำให้เธอกลับมาในยุคอดีตภายหลังจากสงครามครั้งใหญ่ระหว่างแคว้นเทียนโจวและแคว้นฉู่เสร็จสิ้นไปแล้วเป็นเวลานานถึงห้าปี ในขณะที่จอมมารชินซางทรงสวมกอดนางเอาไว้แนบอกตลอดเวลาจึงทำให้พระองค์หวนกลับคืนสู่อดีตกาลเช่นเดียวกัน แต่ทรงกลับมาเพียงลำพังโดยไร้สิ้นนางในอ้อมกอด ด้วยเพราะเฉินวาวาก้าวถอยหลังถึงห้าก้าวทำให้กลับมาช้ากว่าพระองค์ห้
พระราชวังจำลองพิธีอภิเษกสมรสในซีรีส์เรื่องดัง ถ่ายทำฉากกราบไหว้ฟ้าดินระหว่างนางมารร้ายตัวเอกของเรื่องและชินอ๋องแห่งแคว้นเทียนโจว ปรากฏขึ้นต่อสายตาของเฉินวาวาด้วยความรู้สึกยากเกินจะบรรยายออกมาได้ ด้วยทุกอย่างตรงกับพิธีที่การทุกอย่างในยุคอดีต ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งสถานที่โดยรอบ บรรดาข้าราชบริพารที่ยืนประจำจุดของตน รวมไปถึงตำแหน่งที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ล้วนเหมือนกันทุกอย่าง“อะ... อะไรกันนี่!” หญิงสาวในชุดเจ้าสาวโบราณในพิธีเตรียมพร้อมเข้าฉากถึงกับยืนตะลึงไปโดยพลันในขณะที่อู๋ชิงเหยียนก็มีอาการไม่แตกต่างกันแม้แต่น้อย ไม่คาดคิดว่าพิธีแต่งงานในยุคโบราณจะยิ่งใหญ่อลังการถึงขนาดนี้“โอ้โฮ! วาวาเธอนี่โคตรโชคดีเลยให้ตายสิ! ได้เข้าฉากแต่งงานยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ ราวกับว่าเข้าไปมีชีวิตในซีรีส์เรื่องนี้เลยนะ” แม่ผู้จัดการสาวกล่าวออกมาตามความรู้สึก“ฉันเคยเข้าพิธีแบบนี้มาแล้วกับชินอ๋องแห่งเทียนโจว และครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ฉันจะได้เข้าพิธีแบบนี้อีก แตกต่างตรงที่คนที่ฉันจะเข้าพิธีในครั้งนี้ไม่ใช่ท่านอ๋องของฉัน”
งานแสดงแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรเฉินวาวานั่งเงียบงันอยู่บนรถ SUV ของบริษัทฯ ซึ่งเธอเดินทางมาร่วมงานในฐานะเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ของ JCS GOLD MASTER ใบหน้างดงามลึกล้ำถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนเฉิดฉายน่ามองชวนหลงใหลอย่างยิ่งยวด หากแต่ดวงตาคู่สวยกลับมีแต่ความหม่นหมอง ไม่มีชีวิตชีวาเหมือนก่อน“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจดังออกมาจากแม่ผู้จัดการสาว บ่งบอกให้รู้ว่าเธอกลุ้มใจกับอาการของเพื่อนรัก“วาวา! ถึงงานแล้วไม่ลงเหรอ นั่งเหม่อมาตลอดทาง ไม่ใช่สิ นั่งเหม่อมจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นแบบนี้จะสองอาทิตย์แล้วนะ ถามจริงเถอะ! เมื่อไรอาการแบบนี้จะหายไปจากตัวแกเสียที” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดให้เพื่อนรัก“ไม่หาย! ไม่มีใครรักษาฉันหายหรอกเหยียนเหยียน ป่วยกายรักษาด้วยยาหายได้ แต่ป่วยใจคนที่รักษาได้คือคนรักของฉันเท่านั้น มีเพียงท่านอ๋องคนเดียวที่ทำได้” กล่าวพร้อมหยาดน้ำตาหลั่งรินออกมาทันที“แปะ!” น้ำตาร่วงหล่นลงมาทันใด“อั้ยยะ! อย่าร้องนะ! อย่าร้อง... ห้ามร้องเด็ดขาดเลย จะต้องเข้าไปในงาน
มณฑลเสฉวน ณ โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องคนไข้พิเศษพระวรกายสูงใหญ่ทะมึนของจอมมารชินซางยังคงอยู่ในห้วงญาณหลับใหลมาโดยตลอด พระพักตร์หล่อเหลาตราตรึงรัญจวนจิต รับกับขนตางามงอนเป็นแพยาวสวย พระนาสิกโด่งสันสวยขึ้นเป็นสันคม ภายใต้เกศาสีเงินยาวสยายเต็มหมอนที่กำลังถูกนางพยาบาลใช้แปรงหวีพระเกศาสีเงินยาวสยายอย่างเบามือ“ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้หล่อยิ่งกว่าพระเอกหนังอีกเลยเนอะ พระเอกบางคนยังหล่อสู้ไม่ได้เลย เป็นลูกครึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ถึงมีเส้นผมสีบลอนด์เงินแบบนี้ สีเงินสม่ำเสมอไม่ใช่สีขาวเพราะผมหงอกก่อนวัยด้วย แถมสูงเกือบสองเมตร หุ่นก็ดี๊ดี... กล้ามเนื้อแน่นไปทุกส่วนเลย เช็ดตัวให้ทีไรมีความสุขจริงๆ เลยนะเธอ” นางพยาบาลสองคนที่ช่วยกันดูแลคนไข้ปริศนา ต่างคุยกันอยู่ใกล้เตียงด้วยความเคลิบเคลิ้มอย่างยิ่งยวดตั้งแต่จอมมารถูกช่วยขึ้นจากน้ำตกในอุทยานแห่งชาติที่เดียวกันกับเฉินวาวา หากแต่พบพระองค์ห่างไกลออกไปนอนหมดสติอยู่ทางต้นน้ำ หลังจากนั้นได้ถูกช่วยจากเจ้าหน้าที่อุทยานนำส่งโรงพยาบาลเฉิงตู หลังพระชายาเข้าทำการรักษาไปแล้วหนึ่งวัน นับ
ร่างระหงตรงดิ่งเข้าสวมกอดนางพยาบาลที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้าเธอด้วยความดีใจอย่างยิ่งยวด ในขณะที่อีกฝ่าย อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมนางร้ายหน้าสวยจึงรู้จักชื่อของเธอ สายตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ“คุณเฉินวาวารู้จักชื่อของฉันด้วยเหรอคะ” นางพยาบาลที่เหมือนมู่อิงราวเป็นคนเดียวกันถามทำลายความเงียบหญิงสาวที่กำลังสวมกอดด้วยความดีใจ ยิ้มกว้างพร้อมหยาดน้ำตาก่อนจะปล่อยร่างนั้นออกจากอ้อมกอดของเธอเพื่อสำรวจใบหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ครั้นยิ่งมองยิ่งเหมือนมู่อิงในยุคอดีตทำให้เฉินวาวายิ่งหลั่งน้ำตามากขึ้นไปกว่าเดิม“ขอโทษด้วยคะ พอดีคุณเหมือนกับคนที่ฉันรู้จักมากๆ เธอมีชื่อและหน้าตาเหมือนกับคุณพยาบาลไม่มีผิดเพี้ยน ก็เลยทำให้นึกถึงและคิดถึงมากด้วย”หญิงสาวตอบพลางส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมาทันทีนางพยาบาลสาวถึงกับน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาทันที เธอเอื้อมมือไปจับมือเรียวสวยของนางร้ายที่เธอชื่นชอบ พร้อมเอ่ยปลอบโยน“อย่าร้องไห้เลยนะคะ เดี๋ยวคนที่คุณรู้จักถ้ารู้ว่าร้องไห้เพราะคิดถึงแบบนี้จะไม่สบายใจเอาได้ ร้องไห้มากตาบวมเดี๋ยวไม่สวยนะคะ”หญิงสาวยิ้มกว้างออกมาทันทีเม
ยุคอนาคตมณฑลเสฉวน ณ.โรงพยาบาลเฉิงตูภายในห้องพิเศษบัดนี้ร่างงามระหงของเฉินวาวา กำลังนอนหลับใหลอยู่บนเตียงคนไข้ของโรงพยาบาล หญิงสาวได้กลับคืนสู่ยุคอนาคต และยังคงอยู่บนผืนแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ เธอหลับใหลตั้งแต่อยู่ในอดีตกาลจนกระทั่งกลับมาสู่อนาคตอย่างไม่คาดฝันร่างของเธอถูกพบอยู่บริเวณน้ำตกในอุทยานแห่งชาติในชุดเกราะและสวมหน้ากากทองคำอยู่ด้วยในขณะนั้น แผลจากคมธนูที่ถูกฮ่องเต้แคว้นเยว่ยิงปักถูกร่างนั้น ถูกเย็บและได้รับรักษาเป็นอย่างดีจากแพทย์แผนปัจจุบันไม่มีใครล่วงรู้ว่าเธอมาปรากฏกายอยู่ที่นี่ได้อย่างไร และเพราะเหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ ในขณะที่การพบนางร้ายหน้าสวยเฉินวาวาเป็นข่าวดังขึ้นหน้าหนึ่งขึ้นมาอีกครั้ง เพราะหญิงสาวหายสาบสูญไปนานกว่าหนึ่งเดือน อันเป็นระยะเวลาของโลกอนาคตที่ดำเนินอยู่ ซึ่งแตกต่างจากยุคอดีตที่จากมากาลเวลาในยุคอดีตผ่านไปแล้วหนึ่งปีในขณะที่เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นนักข่าวต่างรอทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น เมื่อข่าวการค้นพบของเฉินวาวา นางร้ายหน้าสว
ฉับพลันสุรเสียงของจอมมารชินซางดังกระหึ่มท่ามกลางทะเลเพลิง“มันผู้ใดหาญกล้าแตะต้องราชินีของข้า!” สุรเสียงของจอมมารดังกึกก้อง พร้อมพระวรกายค่อยๆ ปรากฏขึ้นท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงทิวเขาต่อหน้ากองทัพของทั้งสามแคว้นท่ามกลางสายตาของมนุษย์ที่มีมากมายเป็นเรือนแสนของสองฝั่งแม่น้ำ ต่างยืนมองอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นบุรุษสวมอาภรณ์สีนิลกาฬ เกศาสีเงินปลิวยายสยาย ในขณะที่รองแม่ทัพซึ่งล่วงรู้เหตุการณ์ทุกอย่างเมื่อเห็นชินอ๋องทรงฟื้นขึ้นดั่งเดิมและปรากฏอยู่ตรงหน้าท่ามกลางทะเลเพลิงอยู่ในขณะนี้“ชินอ๋องทรงฟื้นแล้ว! พระองค์ช่วยพระชายาด้วยพ่ะย่ะค่ะ! ฮ่องเต้โฉดผู้นี้กำลังจะจับพระชายาถ่วงน้ำ!” รองแม่ทัพตะโกนแทรกออกไปทันทีและนั่นทำให้ชิงอวิ้นฮ่องเต้ถึงกับชะงักงันเมื่อบุรุษสูงใหญ่ตรงพระพักตร์แท้จริงแล้วคือชินอ๋องผู้วายชนม์ไปแล้วเมื่อสามเดือนก่อนแต่บัดนี้กลับมาปรากฏพระวรกายด้วยร่างที่ยังคงรูปมิเน่าเปื่อยแต่อย่างใด“เป็นไปไม่ได้! คนตายแล้วฟื้นคืนกลับมาอย่างนั้นรึ!” รับสั่งรำพึงรำพันในขณะเดียวกันพระวรกายสูงใหญ่ทะ
ในขณะเดียวกันตำหนักลับทันทีที่เฉินวาวาราชินีปีศาจของจอมมาร ปลดปล่อยไอปีศาจจนทำลายแคว้นเยว่พินาศวอดวาย พระวรกายของจอมมารที่ตกอยู่ในห้วงญาณแห่งการหลับใหลมีความรู้สึกขึ้นมาโดยพลัน“ตึก ตึก ตึก” พระวรกายใหญ่เริ่มกระตุกติดต่อกันอย่างไม่รู้สาเหตุแรงกระตุกดังกล่าวราวกับทรงสัมผัสได้ว่าราชินีของพระองค์ตกอยู่ในห้วงอันตราย และทันทีที่ร่างระหงล้มลงหมดสติจอมมารชินซางก็ทรงตื่นจากห้วงญาณแห่งการหลับใหลขึ้นมาทันที“พรึ่บ!” เปลือกพระเนตรเปิดขึ้นทันใดพระเนตรสีเลือดวาววับขึ้นมาทันที พระวรกายใหญ่ลุกพรวดพราดจากฟูกบรรทมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว“วาเอ๋อร์! วาเอ๋อร์ของข้า!” รับสั่งเพรียกหาพระชายาพระวรกายใหญ่ลุกจากแท่นพระบรรทมโดยพลัน ก่อนจะซวนเซไปมาเมื่อพระองค์หลับใหลไปนานเกือบสามเดือนแต่ต้องตื่นก่อนกำหนดเพราะความรักที่ทั้งสองมอบให้แก่กันสื่อสัมผัสให้จอมมารชินซางออกจากญาณหลับใหลก่อนกำหนดที่ควรจะเป็น ทำให้การรวบรวมพลังเวทและตบะขั้นที่แปดหวนคืนกลับมาเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นบัดนี้พระเนตรสีเล
แคว้นเยว่เมืองหลวงมี่โจแผนผังวางระเบิดตามจุดถูกกางออกอยู่ตรงหน้านางร้ายจากยุคอนาคตในขณะนี้ หญิงสาวนั่งอยู่บนหลังม้ามองตรงไปจากเนินเขาสูง เบื้องล่างคือเมืองหลวงแคว้นเยว่ นามว่ามี่โจเป็นเมืองที่มีอาณาเขตกว้างขวาง แต่มีสิ่งปลูกสร้างไม่แออัดหรือสร้างติดต่อกัน ด้วยเป็นเมืองที่เพิ่งจะผลัดเปลี่ยนแผ่นดินใหม่ ซึ่งสิ่งปลูกสร้างเดิมถูกเผาทำลายเมืองครั้งผลัดเปลี่ยนราชวงศ์และการแย่งชิงความเป็นใหญ่ดังกล่าวจึงทำให้แคว้นเยว่มิได้เจริญเติบโตเท่าที่ควรจะเป็น เจ้าผู้ครองแคว้นฝักใฝ่ในการทำสงครามโดยมิประมาณตนว่ากองทัพมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด พื้นที่กว้างใหญ่แต่ไม่มีบุรุษลงมือทำการเกษตรเพราะถูกเกณฑ์เข้ากองทัพเพื่อไปรบทำสงครามจนหมด“จุดชนวนแล้วระเบิดกำแพงเมืองที่โอบล้อมให้พังทลายลงทั้งหมด ระเบิดคลังแสงของทหาร ตัดกำลังอาวุธ ระเบิดพระราชวังหลวงเพื่อข่มขวัญฮ่องเต้แคว้นเยว่ ระเบิดวังหลวงให้หมดทุกตำหนักและทุกที่ สุดท้ายระเบิดคลังเสบียงแล้วนำไปแจกจ่ายให้กับชาวเมือง หลังจากนั้นสายน้ำดำที่ฝังอยู่นอกตัวเมืองทุกจุด ให้ระเบิดขึ้นพร้อมก
แคว้นเยว่ ในขณะเดียวกันท่ามกลางทะเลเพลิงที่ลุกโชนท่วมสูงดั่งขุนเขาต่อหน้ากองทหารของราชินีปีศาจ และกองทหารแคว้นเยว่ที่ควบคุมตัวเฉินวาวาเอาไว้ตั้งแต่คราแรก หากแต่ในเวลานี้ต่างยอมจำนนกันหมดสิ้นทุกสายตาต่างยืนมองทะเลเพลิงเบื้องหน้าอย่างตื่นตะลึง ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าม้าคล้ายกองกำลังทหารกลุ่มใหญ่วิ่งมาหยุดอยู่ด้านหลัง พร้อมกำลังทหารกระจายล้อมรอบไปทั่วบริเวณ“อะไรกันนี่! แคว้นเยว่ถูกทำลา