"นางมาทำอะไร?"ฮูหยินผู้เฒ่าบ้านสองยังคงโกรธอยู่ หลังจากที่ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งทำให้นางโมโหจนหมดสติไป ซ่งอวี่เอ๋อร์ก็ไม่ได้อยู่รับใช้นางยังไม่ทันสิ้นเสียงนาง เท้าข้างหนึ่งของซ่งอวี่เอ๋อร์ก็ได้ก้าวเข้ามาในห้องแล้วเห็นซ่งอวี่เอ๋อร์ไม่มีมารยาทเช่นนี้ สีหน้าของนางก็น่าเกลียดมากยิ่งขึ้นซ่งอวี่เอ๋อร์ได้ยินคำพูดนี้ ในใจก็ไม่พอใจมาก หลังจากทำความเคารพแล้ว นางกลับยิ้มและพูดว่า "ฮูหยินผู้เฒ่าบ้านสอง ได้ยินว่าวันนี้ท่านโดนโบย ข้าจึงมาเยี่ยมท่านเจ้าค่ะ"นางเป็นทุกข์ งั้นทุกคนก็ต้องเป็นทุกข์ให้หมดฮูหยินผู้เฒ่าบ้านสองโกรธมากเมื่อได้ยินเช่นนี้ "ทำไม? เจ้ามาเพื่อเยาะเย้ยข้าเหรอ?"นางออกแรงเยอะเกินไป กระชากบาดแผลบนตัวจนเจ็บปวดมากขึ้นไปอีกซ่งอวี่เอ๋อร์ตื่นตระหนก "ไม่ใช่แน่นอนเจ้าค่ะ"นางหันไปมองเมิ่งจ้านถิง "ท่านพี่ถิง เดิมทีวันนี้แม่ข้าไม่ได้อยากให้พี่สองเข้าจวนเลย คิดไม่ถึงว่านางจะหาผู้ช่วยมาเจ้าค่ะ""ใครเหรอ?" เมิ่งจ้านถิงถาม"อ๋องหลิงเจ้าค่ะ"ซ่งอวี่เอ๋อร์สังเกตสีหน้าของเมิ่งจ้านถิง เมิ่งจ้านถิงสีหน้าเปลี่ยนไป เต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ "อย่างนาง? นางจะสามารถเชิญอ๋องหลิงมาช่วยได้?""ข้
ในห้องฮูหยินชราซ่งซ่งอวี่เอ๋อร์ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของฮูหยินชรา กัดริมฝีปากและขมวดคิ้ว ร้องไห้จนคนเห็นแล้วรู้สึกใจจะขาด น่าสงสารมาก"ท่านย่า พี่สองถูกไล่ออกจากจวนแม่ทัพแล้วเจ้าค่ะ นางอิจฉาที่ท่านพี่ถิงรักข้า นางแย่งเรือนข้า แถมยังทุบเรือนที่จวนแม่ทัพทิ้งอีกด้วยเจ้าค่ะ ตอนนี้คนข้างนอกต่างลือกันว่าคนของจวนเจิ้นเป่ยโหวไม่มีการศึกษาเจ้าค่ะ""ท่านย่า พี่สองนางทำให้จวนเจิ้นเป่ยโหวขายหน้ามากจริงๆ เจ้าค่ะ ต่อไปใครยังจะกล้าคบหากับเราอีกเจ้าคะ อนาคตของท่านพ่อก็ยิ่งจะลำบากมากขึ้นด้วยเจ้าค่ะ""ข้าแค่พูดว่านางไปสองสามคำ สอนนางเรื่องมารยาท นางก็ด่าตีข้า..."...หลังจากซ่งอวี่เอ๋อร์กลับมาจากจวนแม่ทัพมือเปล่า ในใจก็ยิ่งคิดยิ่งโกรธนางเชื่อว่าเหตุผลที่เมิ่งจ้านถิงไม่ได้มอบเงินทองและเครื่องประดับให้นางอย่างฟุ่มเฟือยเหมือนเมื่อก่อน ก็เพราะซ่งซือเหยาเอาสินสอดไปหมดนางต้องการโยนความผิดให้ซ่งซือเหยาทั้งหมดวันนี้นางกับแม่นางได้พ่ายแพ้ให้กับซ่งซือเหยาไปแล้ว ดังนั้นทันทีที่นางกลับถึงจวนก็มาหาฮูหยินชราเลยโดยตรง นางต้องการยืมมือฮูหยินชราจัดการกับซ่งซือเหยาตอนที่ซ่งซือเหยามาถึงเรือนฮูหยินชรา นางยังได้
ผู้ที่มาถ่ายทอดพระราชโองการคือหวังฝู ขันทีของจักรพรรดิชางหลง"คุณหนูสองตระกูลซ่ง รับพระราชโองการด้วยเถิด" หวังฝูมองไปที่ซ่งซือเหยาซ่งซือเหยาคุกเข่าลง หวังฝูเอ่ยปากว่า "ฮ่องเต้ตรัสว่า ให้คุณหนูสองตระกูลซ่งมาพบข้าในวังเดี๋ยวนี้""หม่อมฉันรับพระราชโองการเพคะ" ซ่งซือเหยาลุกขึ้นยืน"คุณหนูสองตระกูลซ่ง เชิญ" น้ำเสียงของหวังฝูเป็นปกติโดยไม่มีอารมณ์ใดๆ"ลำบากขันทีหวังแล้วเจ้าค่ะ" ซ่งซือเหยาสีหน้าสงบ ไม่โอหังไม่หมิ่นตนหวังฝูอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้ว ในแววตาเป็นประกายตอนที่ซ่งซือเหยาเดินตามหวังฝูออกจากประตูจวนเจิ้นเป่ยโหว ขุนนางซ่งก็เลิกงานกลับมาพอดีพอเขาเห็นหวังฝูก็เข้ามาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทันที "ไม่ทราบว่าขันทีหวังจะมาน่ะขอรับ ขออภัยที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับขอรับ""ขุนนางซ่งเพิ่งจะกลับมา จะไปต้อนรับได้อย่างไร?" หวังฝูถามขุนนางซ่งยิ้มอย่างกระอักกระอ่วนแล้วเริ่มสั่งสอนซ่งซือเหยาว่า "ซือเหยา ทำไมเจ้าไม่รู้จักมารยาทแบบนี้ล่ะ? ขันทีหวังมาก็ไม่ยอมให้ขันทีหวังอยู่ดื่มชาก่อน รอข้ากลับมาค่อยมาต้อนรับขันทีหวัง"ไม่รอให้ซ่งซือเหยาเอ่ยปาก หวังฝูก็แย่งพูดก่อน "ข้าได้รับคำสั่งจากฮ่องเต้ให้มาเช
ตอนที่ซ่งซือเหยาเดินออกประตูวัง ขอบฟ้าก็เต็มไปด้วยแสงสีแดงของดวงอาทิตย์ตกยามเย็นแล้วความมืดกำลังใกล้เข้ามาแล้วนางขึ้นรถม้าและเริ่มเดินทางกลับจวนกลับมาถึงเรือนของตัวเอง หงเฉาก็มาต้อนรับ ยื่นชาให้นางถ้วยหนึ่ง "คุณหนู ท่านกลับมาแล้วเหรอเจ้าคะ ฮ่องเต้เรียกพบท่านไม่ได้มีอะไรใช่ไหมเจ้าคะ?""ไม่มีอะไรมาก ถามถึงการวางแผนในอนาคต แล้วก็เรื่องรักษาขาให้อ๋องหลิงด้วย"ซ่งซือเหยาหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ เห็นใบหน้าของหงเฉามีความสุขมากจึงถามว่า "เรื่องอะไรทำให้เจ้ามีความสุขมากขนาดนี้?""ทางบ้านใหญ่ นายท่านกลับมาแล้วพอรู้ว่าฮูหยินชราขังคุณหนูสามไว้ในหอบรรพบุรุษจึงได้ไปขอขมา แต่ถูกด่าไล่ออกมาเจ้าค่ะ คุณหนูสามยังถูกขังอยู่ในหอบรรพบุรุษอยู่เลยเจ้าค่ะ" หงเฉาพูดด้วยรอยยิ้ม"คุณหนู คิดไม่ถึงว่าในเรื่องนี้ฮูหยินชราจะมีเหตุผลมากกว่าขุนนางซ่งและฮูหยินผู้เฒ่าซ่งนะเจ้าคะ" อวี๋เซียงพูดตัดพ้อ"นางไม่ใช่มีเหตุผล แต่ผลประโยชน์ของตัววเองได้รับความเสียหาย"ซ่งซือเหยาอธิบายว่า "ซ่งอวี่เอ๋อร์เป็นผู้หญิงที่มีความสามารถมากที่สุดในเมืองหลวง และรูปร่างหน้าตาของนางก็ไม่เลวเลย นอกจากชื่อเสียงที่ดีของนางแล้ว นางยังเป็นที
"เว่ยซิน!"สายตาของเสิ่นเผยที่มองเว่ยซินนั้นเย็นเฉียบถึงกระดูก ใช้คนต้องไม่สงสัย ถ้าสงสัยก็จะไม่ใช้ในเมื่อเขาเลือกที่จะเชื่อซ่งซือเหยา เขาก็จะเชื่อใจนางเว่ยซินยังคงไม่มั่นใจ แต่เขาต้องเชื่อฟังคำสั่งของเสิ่นเผย"ขออภัย...""รอข้ารักษาขาของท่านอ๋องหายแล้ว ค่อยขอโทษข้า" ซ่งซือเหยาขัดจังหวะคำพูดของเว่ยซิน"ขอรับ คุณหนูสองตระกูลซ่ง ขอแค่ท่านรักษาขาของท่านอ๋องข้าให้หาย อย่าว่าแต่ขอโทษเลยขอรับ ต่อไปจะให้เว่ยซินไปบุกน้ำลุยไฟแทนท่าน ก็จะไม่ปฏิเสธเด็ดขาดขอรับ" เว่ยซินสาบานอย่างจริงจัง"ท่านอ๋อง ขาของพระองค์ได้รับบาดเจ็บจากภายนอกไม่ผิดเพคะ แต่สาเหตุที่ทำให้พระองค์ได้รับบาดเจ็บจริงๆ คือยาพิษเพคะ แรงภายนอกในเวลานั้นน่าจะไม่เพียงพอที่จะทำให้ขาของพระองค์ได้รับบาดเจ็บ แต่พระองค์กลับได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก เพราะพิษได้เข้าสู่กระดูกแล้วเพคะ เปลี่ยนกระดูกของพระองค์ให้บางและกรอบ แม้แตะเบาๆ ก็จะแตกละเอียดได้เพคะ"ซ่งซือเหยาอธิบายว่า "โชคดีที่ท่านอ๋องมีร่างกายที่แข็งแรงและมีทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ไม่เช่นนั้น กระดูกขาของท่านอ๋องคงจะแตกเป็นชิ้นๆ จากการถูกโจมตีครั้งนั้นแล้วเพคะ คงไม่ใช่แค่กระดูกหัก
"ท่านบรรณาธิการเมิ่งของจวนแม่ทัพ แล้วก็ท่านลุงของหม่อมฉัน ท่านอ๋องเป็นคนจงใจขวางไว้ใช่ไหมเพคะ?"ซ่งซือเหยามองตาเสิ่นเผย นางคิดไม่ถึงว่าเสิ่นเผยจะแอบช่วยนางบรรณาธิการถูกขวางไว้ ซ่งซือเหยาออกจากจวนแม่ทัพก็จะมีผู้ขัดขวางน้อยลงในทำนองเดียวกัน หากไม่มีการขัดขวางของขุนนางซ่ง ซ่งซือเหยากลับไปที่จวนเจิ้นเป่ยโหวก็จะง่ายขึ้นเสิ่นเผยรู้สึกประหลาดใจที่ซ่งซือเหยารู้เรื่องนี้ "คุณหนูสองตระกูลซ่งทราบข่าวได้เร็วจริงๆ"ข่าวเหล่านี้ล้วนเป็นอวี๋เซียงไปสืบมาแล้วมาบอกซ่งซือเหยาอวี๋เซียงเป็นสาวใช้มือหนึ่งของฮูหยินติ้งอันโหว การได้รับข่าวพวกนี้นั้นเป็นเรื่องง่ายมาก"ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ" ซ่งซือเหยากล่าวด้วยเสียงสงบ"คุณหนูสองตระกูลซ่งเป็นหมอของข้า การช่วยเหลือคุณหนูสองตระกูลซ่งก็คือการช่วยตัวข้าเองด้วย ข้ายินดี" เสิ่นเผยกล่าวอย่างมั่นใจซ่งซือเหยามีรอยยิ้มที่แทบจะมองไม่เห็นบนริมฝีปาก อ๋องหลิงผู้มีอำนาจสะเทือนฟ้าบางครั้งก็มีนิสัยเหมือนเด็กน้อยเช่นกัน"ท่านอ๋อง หม่อมฉันไปก่อนนะเพคะ พรุ่งนี้จะมาใหม่เพคะ" ซ่งซือเหยากล่าว"เว่ยซิน ไปส่งคุณหนูสองตระกูลซ่งที" เสิ่นเผยสั่งเว่ยซินอ้าปากและยื่นมือเชิ
"คุณหนู ไม่มีคำสั่งจากฮูหยินชรา ท่านออกจากหอบรรพบุรุษไม่ได้นะเจ้าคะ" ซีหลานเตือนซ่งอวี่เอ๋อร์เต็มไปด้วยความมั่นใจ "ไม่มีคำสั่งแล้วจะทำไม? ข้ามีวิธีแล้วกัน!"นางโบกมือให้ซีหลาน "เจ้ามานี่สิ...""คุณหนู ท่านเก่งจริงๆ เจ้าค่ะ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ข้าน้อยจะไปจัดการเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ"ความมืดกลืนกินเมฆก้อนสุดท้าย ปกคลุมไปทั่วฟ้าดินเงามืดลับๆ ล่อๆ อยู่ในจวน สุดท้ายก็หายไปกับความมืดกลางดึกจวนเจิ้นเป่ยโหวเปลวไฟพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและมีควันหนาทึบคนแรกที่พบว่าไฟไหม้คือคนเฝ้าประตูจวน"ไฟไหม้! ไฟไหม้!”คนเฝ้าประตูร้องเสียงดังและรีบวิ่งไปที่หอบรรพบุรุษพร้อมกับถังน้ำในเวลาเดียวกันทุกคนในจวนก็ตกใจตื่นจากการหลับใหล"หอบรรพบุรุษไฟไหม้ได้อย่างไร? อวี่เอ๋อร์ยังอยู่ข้างใน!" ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งคว้าคนเฝ้าประตูแล้วถาม"บ่าวไม่ทราบขอรับ บ่าวกำลังออกลาดตระเวนตอนกลางคืน จู่ๆ ก็เห็นแสงไฟ..."ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งไม่ต้องการได้ยินคำพูดไร้ประโยชน์ของคนเฝ้าประตู นางยังคงถามต่อไปว่า "เห็นคุณหนูสามออกมาจากข้างในไหม?"คนเฝ้าประตูส่ายหัวแล้วพูดว่า "บ่าวไม่...""ช่วยคน! ใครก็ได้ วันนี้ใครสามารถช่วยคุณหน
"ท่านย่า รอไฟหอบรรพบุรุษดับลงแล้ว หลานจะเข้าไปรับโทษต่อเจ้าค่ะ""ไม่ ไม่ต้อง! เข้าไปไม่ได้อีกแล้ว เจ้าไม่ผิด ถูกลงโทษไม่ได้!" ฮูหยินชราจะกล้าขังซ่งอวี่เอ๋อร์ต่อไปที่ไหนกัน คราวนี้นางกลัวแล้ว นางไม่อยากให้คนนอกรู้แล้วด่านางว่าเป็นย่าใจร้าย"ท่านย่า แต่...""ไม่ต้องแต่แล้ว เรื่องนี้ข้าตัดสินใจแล้ว" ฮูหยินชรามองลูกชายและลูกสะใภ้ของนางแล้วถามว่า "ในจวนนี้ ข้ายังสามารถตัดสินใจได้หรือเปล่า?"นางก็ไม่ลืมที่จะสร้างอำนาจไม่โทษลูกสาวตัวเองแล้ว ฮูหยินผู้เฒ่าและขุนนางซ่งย่อมเต็มใจแน่นอน ทั้งสองตอบพร้อมกันว่า "พวกเราฟังท่านแม่ขอรับ/เจ้าค่ะ ท่านแม่ตัดสินใจก็พอขอรับ/เจ้าค่ะ"ฮูหยินชราพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ในที่สุดก็ได้หน้ากลับมาเล็กน้อย"อวี่เอ๋อร์ หอบรรพบุรุษอยู่ดีๆ ก็ไฟไหม้ได้อย่างไร?" ขุนนางซ่งถาม"ลูกก็ไม่ทราบเช่นกันเจ้าค่ะ เมื่อกี้ลูกกำลังสำนึกผิดอยู่ข้างใน จู่ๆ ก็ได้กลิ่นควันจึงให้ซีหลานไปตรวจสอบดูเจ้าค่ะ ซีหลานพบว่าไหม้ จึงรีบดึงลูกวิ่งออกมาข้างนอกเจ้าค่ะ ลูกไม่กล้าออกมา เพราะลูกกำลังถูกลงโทษอยู่เจ้าค่ะ ในระหว่างที่ลังเล ไฟก็เริ่มไหม้แรงขึ้นเรื่อยๆ เราอยากออกมาก็ออกไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ ได
ซ่งซือเหยาคิดว่าต่อให้ปฏิเสธแม่นางหลัวโดยสิ้นเชิงก็ไม่ใช่วิธีที่ดี นอกจากแม่นางหลัวแล้ว ในจวนแม่ทัพยังมีคนอื่น พวกเขาจะมาหาเธออย่างต่อเนื่องเพราะอาการป่วยของฮูหยินผู้เฒ่าบ้านสองตระกูลเมิ่งเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างสมบูรณ์ ได้แต่ไปหาหมอที่สำนักแพทย์อันดับหนึ่งเท่านั้น ถามให้รู้เรื่องว่าทำไมพวกเขาถึงไม่รักษาให้ฮูหยินผู้เฒ่าบ้านสองตระกูลเมิ่งอีก"ฮูหยินสาม ถ้าท่านกตัญญูจนสุดความสามารถแล้ว ไม่ว่าจะเชิญหมอของสำนักแพทย์อันดับหนึ่งกลับไปได้หรือไม่ คนจวนแม่ทัพก็ไม่มีเหตุผลที่จะตำหนิท่านอีกแล้วใช่ไหมเจ้าคะ?"แม่นางหลัวรู้สึกยินดีเมื่อได้ยินเช่นนี้ "เจ้าค่ะ คุณหนูสองตระกูลซ่งได้โปรดชี้แนะด้วยเจ้าค่ะ""ไปคุกเข่าที่หน้าสำนักแพทย์อันดับหนึ่งสิเจ้าคะ" ซ่งซือเหยากล่าวแม่นางหลัวมองไปที่ดวงอาทิตย์ที่แผดเผาข้างนอก "แต่วันนี้...""ฮูหยินสาม ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาเปล่าๆ เจ้าค่ะ อยากได้อะไรก็ต้องแลกด้วยอะไรบางอย่างเจ้าค่ะ"ซ่งซือเหยากล่าวว่า "ไม่ว่าจะลมแรง ฝนตก แดดจัดหรือหิมะตก ฮูหยินสามจะต้องคุกเข่าอยู่อย่างนั้น อดทนเพื่อแสดงความจริงใจเจ้าค่ะ"แม่นางหลัวก็เข้าใจทันทีแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "คุณหนูสอง
"นางมาทำไม?" ซ่งซือเหยาเลิกคิ้ว สายตาไม่มีอารมณ์ใดๆ"นางไม่ได้บอกเจ้าค่ะ บอกแค่ว่าตอนที่คุณหนูอยู่ที่จวนแม่ทัพ นางไม่ได้มีปัญหากับท่านเจ้าค่ะ ขอให้ท่านเห็นแก่สิ่งนี้พบนางสักครั้งเจ้าค่ะ" อวี๋เซียงกล่าวหงเฉาเตือนว่า "คุณหนู ฮูหยินสามนิสัยไม่เลวเจ้าค่ะ แต่ใจอ่อน ประกอบกับภูมิหลังเดิมที่ไม่ดี จึงถูกฮูหยินผู้เฒ่าบ้านสองรังแกอยู่ตลอดเจ้าค่ะ""งั้นวันนี้นางมาหาข้าก็คงโดนบังคับจนไม่มีทางเลือกแล้วล่ะสิ" ซ่งซือเหยามองไปที่อวี๋เซียง "ให้นางรอข้าที่ห้องโถงด้านหน้า""เจ้าค่ะ คุณหนู"ซ่งซือเหยามาที่ห้องโถงด้านหน้า เห็นดวงตาของแม่นางหลัวทั้งแดงทั้งบวม ก็รู้ว่าต้องร้องไห้มาหนักมาก"คุณหนูสองตระกูลซ่ง ไม่เจอกันนานเลยเจ้าค่ะ" แม่นางหลัวยืนขึ้น น้ำเสียงสุภาพ พยายามบีบรอยยิ้มบนใบหน้านางมองซ่งซือเหยาขึ้นๆ ลงๆ ไม่เจอกันสิบกว่าวัน ซ่งซือเหยาก็ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เย็นชาราวกับน้ำแข็งหิมะ แต่กลับสดใสมากสูงส่ง สง่างาม สวยล่มเมือง...คำพูดเหล่านี้ดูหยาบคายเป็นพิเศษเมื่อนำไปใช้กับซ่งซือเหยา จู่ๆ แม่นางหลัวก็รู้สึกว่าตัวเองเรียนมาน้อยเกินไป ไม่สามารถหาคำที่เหมาะสมมาอธิบายความงามของซ่งซือเหยาได้เลยน
"ข้ารีบร้อนเกินไป"เสิ่นเผยมีน้ำเสียงทุ้มต่ำ เขาเคยมีอำนาจในสนามรบ ตอนนี้กลับต้องพึ่งรถเข็นในการเดินทางเท่านั้น เขาจะไม่รีบร้อนได้อย่างไร?"คุณหนูสองตระกูลซ่ง แมลงกลืนวิญญาณที่เจ้าพูดถึงต้องวางยาพิษแบบไหนกัน? ข้าตรวจสอบมาหลายวันแล้ว ไม่พบเบาะแสเกี่ยวกับคนวางยาพิษเลยแม้แต่น้อย""พิษนี้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ด้วยการกินเท่านั้นเพคะ ท่านอ๋องสามารถเริ่มจากคนที่สามารถสัมผัสอาหารการกินของพระองค์ได้เพคะ" ซ่งซือเหยากล่าว"ข้าได้รับบาดเจ็บเมื่อห้าปีก่อน เจ้าเคยบอกว่าข้าถูกวางยาพิษก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บ แล้วเวลาของการโดนพิษนี้จะต้องเลื่อนไปข้างหน้านานแค่ไหน?" เสิ่นเผยถาม"หนึ่งปีเพคะ" ซ่งซือเหยาตอบเสิ่นเผยจมอยู่กับความคิด งั้นเขาก็ถูกวางยาพิษเมื่อหกปีก่อนเมื่อหกปีก่อน เสิ่นเผยขมวดคิ้วและจมอยู่กับความคิดจวนแม่ทัพเมิ่งในขณะนี้"คุณชายสี่ ตอนนี้จะทำยังไงดีเจ้าคะ? หมอสำนักแพทย์อันดับหนึ่งไม่มา ยาก็กินหมดแล้ว หมอจากสำนักแพทย์อื่นก็ไม่สามารถรักษาโรคท่านแม่ได้ ถ้ายังไม่เชิญหมออีก ท่านแม่เกรงว่า... เกรงว่า..."แม่นางหลัวกังวลจนน้ำตาไหล ตอนนี้นางเป็นคนรับผิดชอบดูแลบ้าน ไม่สามารถเชิญหมอมาได้ ถ
"ไสหัวไปให้พ้น!"เว่ยซินไม่ทันพูดจบก็โดนเสิ่นเผยด่าก่อนแล้ว เขาจึงรีบตอบกลับว่า "พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง"จากนั้นก็หันหลังจากไป คล่องแคล่วว่องไวมาก เร็วกว่ากระต่ายอีก สร้างโอกาสให้เสิ่นเผยกับซ่งซือเหยาซ่งซือเหยามองไปที่เสิ่นเผย เห็นเม็ดเหงื่อขนาดใหญ่บนหน้าผากของเขา เขาไม่สามารถออกแรงที่ขาได้ อยู่ในท่านี้นานๆ ต้องทรมานมากจริงๆ"ท่านอ๋อง พระองค์อย่าขยับเพคะ หม่อมฉันจะช่วยประคองพระองค์เพคะ"ซ่งซือเหยาพูดจบ ก็เอามือกอดเอวของเสิ่นเผยไว้ แขนทั้งสองข้างออกแรง พลิกตัวก็ทับเสิ่นเผยไว้ข้างล่าง"คุณหนูสองตระกูลซ่งแน่ใจนะว่าจะประคองข้า?"เสียงของเสิ่นเผยต่ำและสั่นเทา พลิกไปพลิกมาแบบนี้ ตัวเขาเองก็ไม่สามารถออกแรงได้ เหนื่อยจนหน้าแดงก่ำและหัวใจเต้นแรง"แน่นอนเพคะ"ซ่งซือเหยาจริงจัง เพื่อปกป้องเสิ่นเผย นางมือหนึ่งประคองหัวของเสิ่นเผย มือหนึ่งประคองเอวของเสิ่นเผยหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันมากกว่าเมื่อกี้นี้อีก ใกล้จนซ่งซือเหยาสามารถมองเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในดวงตาของเสิ่นเผยได้เสิ่นเผยมองขนตายาว ผิวขาวที่อ่อนโยนของซ่งซือเหยา ลูกกระเดือกของเขาขยับโดยไม่รู้ตัว"คุณหนูสองตระกูลซ่ง เราจะลุกขึ้นกัน
"เจ้าอย่าถามอะไรมากเลย อดทนรอดูซ่งซือเหยาทำผิดและถูกลงโทษก็พอ" ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งนึกถึงภาพแบบนั้น นางก็รู้สึกมีความสุขมาก"ท่านแม่ ในช่วงที่ข้าไม่อยู่หลานวันมานี้ จวนแม่ทัพได้มาพูดเรื่องสู่ขอบ้างไหมเจ้าคะ?" ซ่งอวี่เอ๋อร์ถาม"ไม่เคยมาเลย" ฮูหยินผู้เฒ่าซ่งมองความคิดของซ่งอวี่เอ๋อร์ออก รู้ความกังวลของนาง "อวี่เอ๋อร์ ไม่ต้องกลัว เรื่องนี้พวกเขาหนีไม่ได้หรอก""ท่านแม่ ข้ากล้วว่าเวลายิ่งนานอุปสรรคจะยิ่งมากเจ้าค่ะ ตอนนี้เมิ่งจ้านถิงมีความคิดที่จะคืนดีกับซ่งซือเหยาแล้วเจ้าค่ะ" ซ่งอวี่เอ๋อร์มีสีหน้าเกลียดชังฮูหยินผู้เฒ่าซ่งโกรธมาก "ข้าว่าแล้วเมิ่งจ้านถิงต้องไม่ใช่คนดีอะไร ถ้าเขากล้ากลับไปคืนดีกับซ่งซือเหยา แม้ข้าจะต้องแลกด้วยชีวิตก็ไม่มีทางปล่อยเขาไป"นางคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจว่า "อวี่เอ๋อร์ เรื่องหมั้นหมายแม่จะจัดการเอง ถึงตอนนั้นเจ้าจะต้องเข้าวังไปร่วมงานเฉลิมพระชนมพรรษาของฮองเฮาพร้อมกับซ่งซือเหยาในฐานะคู่หมั้นของเมิ่งจ้านถิง""เจ้าค่ะ ท่านแม่" ซ่งอวี่เอ๋อร์ทั้งดีใจทั้งตั้งตารอ "ท่านแม่ ข้าจะไปฝึกกู่ฉินเจ้าค่ะ ในงานเฉลิมพระชนมพรรษาของฮองเฮา ข้าจะให้ทุกคนประทับใจในตัวข้าเจ้าค่ะ!"โด
พอพูดถึงตำแหน่งหัวหน้า หัวใจของเมิ่งจ้านถิงดูเหมือนจะถูกแทงอย่างรุนแรง"อวี่เอ๋อร์ พระราชโองการลงมาแล้ว ข้าไม่ได้เลื่อนยศเป็นหัวหน้า" "ท่านว่าไงนะ ท่านพูดอีกทีสิ!" ซ่งอวี่เอ๋อร์ได้ยินแล้ว แต่นางไม่อยากจะเชื่อเลย"หัวหน้าเป็นคนอื่น ข้ายังเป็นรองหัวหน้าอยู่เหมือนเดิม" เมิ่งจ้านถิงอธิบายอย่างอดทน"ทำไมท่านถึงไม่ได้เป็นหัวหน้าล่ะเจ้าคะ? ท่านบอกว่าท่านมีความมั่นใจมากไม่ใช่เหรอเจ้าคะ? ก่อนหน้านี้ท่านหลอกข้าใช่ไหมเจ้าคะ?"ซ่งอวี่เอ๋อร์โจมตีเขาด้วยคำถามหลายข้อ เมิ่งจ้านถิงมีสีหน้าไม่พอใจในอดีตซ่งอวี่เอ๋อร์เป็นคนอ่อนโยน มีน้ำใจ และไม่สนใจชื่อเสียงลาภยศ นางยินดีที่จะอยู่กับเขาโดยไม่คำนึงถึงสถานะใดๆเมิ่งจ้านถิงคิดว่าไม่ได้ตำแหน่งหัวหน้า ซ่งอวี่เอ๋อร์จะปลอบใจเขา ใครจะไปรู้ว่าจะเป็นการสงสัยในตัวเขา"ข้าหลอกเจ้าหรือเปล่าเจ้าไม่รู้เหรอ? เพื่อเจ้า ข้าจึงทิ้งซ่งซือเหยา และแม้แต่ตำแหน่งที่อยู่ข้างหลังนางก็สูญเสียไปด้วย เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไรอีก?""เมิ่งจ้านถิง เจ้าหมายความว่าเป็นความผิดของข้าทั้งหมดเหรอ? เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าตอนนั้น...""น้องสาม อย่าพูดอีกเลย" ซ่งเหวินหวู่เดินมาห้าม คนที่สัญจรไ
"หม่อมฉันรับพระราชโองการเพคะ ขอบพระทัยฮ่องเต้เป็นอย่างยิ่งเพคะ" ซ่งซือเหยาซาบซึ้งใจ พระราชโองการนี้ยังเป็นการรำลึกของจักรพรรดิชางหลงที่มีต่อพ่อและพี่ชายของนางบนสวรรค์ จักรพรรดิชางหลงไม่ได้ลืมพ่อและพี่ชายของนางเลย"ขอแสดงความยินดีกับคุณหนูสองตระกูลซ่งด้วย ในอนาคต ไม่ว่าคุณหนูสองตระกูลซ่งจะอยู่บ้านหรือพบความสุขใหม่ก็จะความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งไม่รู้จบ"หวังฝูมอบพระราชโองการแก่ซ่งซือเหยา แอบพูดในใจว่า "ผู้มีพระคุณ ตอนนี้ท่านไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว""ขอบคุณท่านขันทีเจ้าค่ะ" ซ่งซือเหยารับพระราชโองการมา"คุณหนูสองตระกูลซ่ง ข้าจะกลับวังไปรายงานต่อฮ่องเต้ก่อนนะ" ขันทีหวังกล่าว"ขอบคุณขันทีหวังมากเจ้าค่ะ"ก่อนไปขันทีหวังได้เหลือบมองเมิ่งจ้านถิงแวบหนึ่ง มุมปากก็ดึงความเย็นชาที่ทำให้คนสังเกตได้ยากออกมา จากนั้นก็หันหลังและจากไปเมิ่งจ้านถิงได้ยินพระราชโองการก็รู้สึกไม่ดีมาก ทั้งเสียใจ อิจฉา เจ็บปวดและไม่พอใจ...เดิมทีเขาคิดว่าหลังจากซ่งซือเหยาจากเขาไปแล้วจะแต่งงานอีกได้ยาก แต่ไม่คิดว่าในอนาคตคนที่จะแต่งงานกับซ่งซือเหยาจะสามารถสืบทอดตำแหน่งท่านโหวได้ งั้นคนที่อยากแต่งงานกับซ่งซือเหยาจะไม่เข้
ซ่งซือเหยาเคยคิดว่าเมิ่งจ้านถิงเป็นคนไม่ดีแค่ทางด้านความสัมพันธ์ แต่มีผลงานทางทหารติดตัว ประสบความสำเร็จในการปกป้องประเทศชาติบ้านเมือง อย่างน้อยก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นคนแต่หลังจากได้ยินคำพูดของเมิ่งจ้านถิงในตอนนี้แล้ว ทำให้นางได้รับรู้เรื่องอะไรใหม่ๆ ที่ไม่น่าเชื่อเมิ่งจ้านถิงเป็นคนนิสัยไม่ดี"เมิ่งจ้านถิง เจ้าน่าขยะแขยงจริงๆ" ซ่งซือเหยาน้ำเสียงรังเกียจเมิ่งจ้านถิงอยู่ห่างจากซ่งซือเหยาสามฟุต เขาก็ยังได้กลิ่นความรังเกียจของซ่งซือเหยาที่มีต่อเขาแม้ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นหัวหน้าได้ แต่ยังคงเป็นรองหัวหน้า มีผลงานติดตัว กินเงินเดือนราชสำนักเลี้ยงดูครอบครัวซ่งซือเหยาคือตัวอะไร?เป็นหนอนน่าสงสารที่เกาะคนอื่นกิน อาศัยผลงานของพ่อกับพี่ชายในการดำรงชีวิตก็แค่ตอนนี้นางได้ฟื้นสติปัญญาแล้ว ถ้ายังเป็นเหมือนเมื่อก่อน นางเดินอยู่บนถนนก็จะไม่มีใครชายตามองนางเลยเมิ่งจ้านถิงที่รู้สึกได้รับความอัปยศอดสูครั้งใหญ่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ น้ำเสียงแหลมคม "ซ่งซือเหยา เจ้าไม่มีสิทธิ์มารังเกียจข้า มีแต่ข้าที่รังเกียจเจ้า เจ้าอย่าลืมว่าถ้าข้าไม่ได้แต่งงานกับเจ้าในตอนนั้น คนโง่อย่างเจ้าจะไม่มีใครอยากแต่งงานด
เพียงแต่ว่าทำไมเสิ่นเผยถึงช่วยนางครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นเพราะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับซ่งซือแย่นพี่ชายแฝดนาง? หรือเพราะนางรักษาขาให้เขา?ซ่งซือเหยาไม่ได้คิดอะไรมาก รู้แต่เพียงว่าติดหนี้บุญคุณเสิ่นเผยมากขึ้นเรื่อยๆด้วยการแทรกแซงของเสิ่นเผย ทำให้ซ่งอวี่เอ๋อร์ไม่สามารถได้รับการช่วยเหลือได้สายัณห์ตะวันลาลับ นกกาบินกลับไปสู่รังนอน วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เวลาสิบวันก็ไวเหมือนการดีดนิ้วยี่สิบห้าเดือนหกซ่งซือเหยาไปที่จวนอ๋องหลิงตามปกติ นางเพิ่งออกจากประตูจวนเจิ้นเป่ยโหว ก็เห็นเมิ่งจ้านถิงรีบวิ่งเข้ามาหานางด้วยสีหน้าโกรธเคือง"ซ่งซือเหยา เจ้าคิดว่าเจ้าใช้วิธีนี้ก็จะได้ข้าไปเหรอ? เพ้อฝันสิ้นดี ข้าเมิ่งจ้านถิงจะไม่มีวันตกหลุมรักเจ้า!""อยากหาเรื่องช่วยเปลี่ยนคำใหม่ด้วย ไม่งั้นจะดูเหมือนเจ้าไม่มีสมอง" ซ่งซือเหยารังเกียจที่จะทะเลาะกับเขา"ซ่งซือเหยา เจ้ามันสถุลจริงๆ ข้าไม่รักเจ้า เจ้าก็ไปขอฮ่องเต้ไม่ให้ข้าเลื่อนยศเป็นหัวหน้าเหรอ!"ดวงตาของเมิ่งจ้านถิงเป็นสีแดงเข้ม เต็มไปด้วยความเกลียดชังวันนี้มีพระราชโองการลงมาแล้ว หัวหน้าไม่ใช่เขา ความหวังของเขาก็ว่างเปล่าทั้งหมดตอนนี้เขาไม่มีส่วน