พาลินติดต่อกับคนรักไม่ได้หลายวันแต่เขาก็ยิ้มออกเมื่อกันต์ธีร์อีเมลมาบอกว่าเสาร์หน้าจะกลับกรุงเทพและจะไปเดินดูรถที่งานมอเตอร์โชว์ด้วยกัน
วันนี้หลังจากสอนเบจิงเสร็จในเวลาหนึ่งทุ่มพาลินจึงเรียกแกร็ปให้มารับที่หน้าบ้านของลูกศิษย์ เพื่อตรงไปยังคอนโดของแฟนเขาอยากไปทำความสะอาดห้องไว้รอคนรัก ถึงแม้กันต์ธีร์จะมีแม่บ้านแต่ก็อยากไปดูว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม
ชายหนุ่มมาถึงคอนโดมิเนียมของคนรักก็เกือบจะสองทุ่มเพราะเย็นวันศุกร์รถค่อนข้างติดกว่าวันอื่น พอขึ้นลิฟต์มายังชั้น 22 ก็กดรหัสที่หน้าประตูก่อนจะเปิดเข้าไปด้านใน
นึกแปลกใจที่ห้องดูสะอาดอีกทั้งยังเหมือนกันว่ามีคนอยู่ในห้องนอนเพราะเขาได้ยินเสียงจากในนั้น พาลินดีใจเพราะคิดว่าแฟนหนุ่มคงกลับมาก่อนเวลา
เขารีบเดินไปยังห้องนอนซึ่งประตูห้องเปิดแง้มอยู่เล็กน้อย พอผลักเขาไปด้านในโลกของพาลินก็หยุดหมุนทันที
เพราะคนที่อยู่ในห้องนอนตอนนี้ไม่ใช่มีเพียงกันต์ธีร์แต่ยังมีผู้หญิงอีกคนที่เขาจำได้ว่าเป็นรุ่นพี่ของแฟนหนุ่ม
ทั้งสองกำลังทำกิจกรรมกันอย่างเร่าร้อนอยู่บนเตียง ทั้งภาพและเสียงมันชัดมาก จนพาลินได้แต่มองตาค้าง ไม่คิดว่าจะมาเจอภาพบาดตาแบบนี้ เขาก้าวขาไม่ออก จึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น
ทั้งสองคนกำลังบรรเลงบทรักกันโดยไม่รู้เลยว่ามีอีกคนกำลังยืนมองอยู่ด้วยหัวใจที่แตกสลาย
“พี่กันต์” พาลินเรียกชื่อคนรักด้วยเสียงสั่นเครือ
ดูเหมือนทั้งสองคนเพิ่งจะรู้ตัวว่ามีใครอยู่ในห้องนอนอีกคน
“ว๊าย เขามาแบบนี้ได้ยังไง” อรณิชารีบดันตัวกันต์ธีร์ออก ขณะที่ชายหนุ่มก็รีบคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันไว้รอบเอวอย่างหัวเสีย
“พี่กันต์ทำแบบนี้ได้ยังไง”
“ไปคุยกันข้างนอก”
“ทำไมต้องคุยข้างนอก ทำไมไม่คุยกันในนี้คุยกันให้รู้เรื่องไปเลย”
“พี่บอกให้ออกไปคุยกันข้างนอก”
กันต์ธีร์ฉุดกระชากคนตัวเล็กกว่าออกมาจากห้องนอน ได้อย่างไม่ยากนักเพราะพาลินนั้นตัวเล็กกว่าเขามาก
“ทำไมถึงมาห้องพี่โดยไม่บอก”
“ถ้าผมบอกจะเห็นอะไรแบบนี้เหรอ พี่กันต์ทำแบบนี้ได้ยังไง พี่หักหลังผม”
“พาลิน ฟังพี่ก่อน ใจเย็นๆ นะ”
“เห็นตำตาขนาดนี้จะให้ใจเย็นได้ยังไง ผมไม่รู้ที่ผ่านมาระหว่างเรามันคืออะไร ผมกับพี่คบกันในฐานะอะไร นานแค่ไหนแล้วที่พี่ทำแบบนี้ลับหลังผม”
“พี่ก็อยากจะบอก แต่ไม่มีโอกาส”
“อย่ามาแก้ตัวหน่อยเลย พี่คงสนุกมากที่ปั่นหัวผมได้”
“ไม่เลย พี่ก็เครียดเรื่องนี้เหมือนกันนะ”
“ผมไม่เห็นว่าพี่จะเครียดตรงไหนเลย ดูพี่มีความสุขดีด้วยซ้ำ”
“พี่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้นะ พี่ไม่เคยคิดจะนอกใจเราเลยระหว่างพี่กับพี่อรมันซับซ้อน”
“แล้วที่เห็นล่ะจะบอกว่ายังไง บังเอิญเหรอครับ ผมเข้าใจแล้วว่าความสุขที่ผมให้พี่คงไม่เท่ากับที่เขาให้พี่ ผมไม่โกรธเลยถ้าพี่จะบอกกับผมตรงๆ ไม่ใช่ให้ผมเห็นมาเห็นเองแบบนี้”
“พี่ก็ตั้งใจจะบอกแต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน”
“ไม่เห็นยากเลยก็แค่บอกว่าเราจบกันแค่นั้น” พาลินพูดทั้งที่น้ำตายังอาบสองแก้ม เขารู้ว่าตัวเองเป็นผู้ชายและมอบความสุขอีกคนได้ไม่มากอย่างที่เขาต้องการ แต่ก็เป็นกันต์ธีร์เองไม่ใช่เหรอที่เดินเข้ามาเองมาบอกว่าชอบแบบนี้ มาบอกว่าตัวเองไม่ชอบผู้หญิง
ทุกอย่างที่ผ่านมามันคงเป็นแค่ละครที่เขาแสดงก็เท่านั้น เพราะสุดท้ายเขาก็ลืมคำพูดของตนเอง
“พี่ขอโทษ” เสียงเขาเบาลงพาลินแทบไม่ได้ยิน
“ขอโทษเหรอครับ ขอโทษแล้วความรู้สึกของผมที่เสียไปมันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม”
“จะให้พี่ทำยังไงถึงจะหายโกรธ” แม้ไม่ได้คบกันในฐานะคนรักแต่กันต์ธีร์ก็ยังไม่อยากเสียพาลินไป
“พี่กันต์ไม่ต้องทำอะไรหรอกครับ แค่อยู่เฉยๆ อยู่ที่เดิมของพี่ก็พอ ผมจะเป็นคนไปจากชีวิตพี่เอง”
“แต่เรายังเป็นพี่น้องกันได้นะ”
“ไม่มีพี่น้องที่ไหนเขานอนด้วยกันหรอกครับ จบก็คือจบผมหวังว่าพี่จะมีความสุขกับสิ่งที่พี่เลือก”
พาลินพูดจบก็สะบัดหน้าหนี เขาอยากออกไปจากที่นี่ไม่อยากเห็นหน้าของคนทรยศอีกแล้ว
กว่าอรณิชาจะแต่งตัวเสร็จและออกมาจากห้องพาลินก็กลับไปแล้ว
“กันต์บอกพี่มาสิ ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมรุ่นน้องของกันต์ถึงพรวดพราดเขามาในห้องนอนแบบนี้”
“ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“บอกพี่มาตามตรงนะ ระหว่างกันต์กับรุ่นน้องมีอะไรที่พี่ไม่รู้ไหม”
“พี่อรครับ ถ้าพี่อยากรู้ผมก็จะเล่าให้พี่ฟัง แต่พี่ต้องสัญญากับผมว่าจะไม่โกรธหรือหนีผมไปไหน” เขาดึงให้อรณิชามานั่งด้วยกันบนโซฟารับแขก
“ลองเล่ามาก่อนแล้วพี่จะตัดสินใจเองว่าจะทำยังไง”
“พาลินเขาชอบผมครับ”
แล้วกันต์ธีรืก็เล่าให้กับแฟนใหม่ฟังว่า พาลินแอบชอบเขามาตั้งแต่สมัยเรียนและพยายามมาตีสนิท และเขาก็สงสารที่รุ่นน้องไม่ค่อยมีเพื่อนอีกทั้งยังไม่มีครอบครัวคอยให้คำปรึกษาก็เลยเอ็นดูในฐานะน้องชาย
“แล้วทำไมเขาถึงเข้าห้องได้ เขารู้รหัสได้ยังไง”
“ผมบอกเขาเองครับ เพราะแต่ก่อนผมมักให้เขามาช่วยทำความสะอาดแลกกับเงินค่าขนมครับ ผมก็ไม่คิดว่าที่ทำแบบนี้เขาจะเข้าใจผิด”
“แค่นี้แน่นะ” อรณิชาเค้นถาม
“พี่คิดว่าระหว่างผมกับเขามีอะไรมากกว่านั้นเหรอครับ” กันต์ธีร์ทำหน้านิ่ง เขาจะพลาดให้อรณิชารู้ถึงความสัมพันธ์ในอดีตไม่ได้อย่างเด็ดขาด
“พูดความจริงกับพี่นะกันต์ เคยนอนด้วยกันหรือยัง” เธอถามเสียงแข็ง สีหน้าจริงจังกว่าทุกครั้ง
“โธ่! พี่อร ทำไม่คิดแบบนั้นล่ะครับ ผมผู้ชายทั้งแท่งพี่ก็รู้” มือเขาเริ่มไม่อยู่นิ่ง เขารู้ว่าอรณิชาเป็นผู้หญิงที่เร่าร้อน ถ้าเขาปลุกเร้าและเริ่มบทรักเธอก็จะลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไม่ยาก
“เรื่องรสนิยมทางเพศบางทีก็ไม่มีใครรู้ดีกว่าตัวเองนะกันต์”
“ผมรู้ดีครับ ว่าผมชอบแบบไหน ถ้าผมชอบพาลินผมก็คงเป็นแฟนกับเขาไปตั้งแต่เรียนแล้วสิครับ แต่เพราะผมไม่ได้ชอบแบบนั้น และที่ผ่านมาผมก็มีแฟนเป็นผู้หญิงมาตลอด”
“แล้วตอนเจอพี่มีแฟนอยู่ก่อนไหม”
“ไม่ครับ ช่วงเทอมสุดท้ายผมทั้งเรียนทั้งฝึกงาน แฟนที่เป็นรุ่นน้องก็ไม่เข้าใจ ผมกับเธอก็เลยเลิกกับครับ” ชายหนุ่มโหกคำโต
“ทำไมถึงเป็นพี่ ทั้งที่อายุมากกว่า” อรณิชายังซักไม่เลือกเธออยากรู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงมาคบกับเธอที่มีอายุมากกว่าถึงสาม ปี
“เพราะพี่อรเป็นผู้ใหญ่กว่าผม พี่ใจเย็นเข้าใจงานของผมครับ พี่อรทั้งสวยทั้งเก่ง”
“ทำไมถึงกล้าจับพี่ล่ะ”
“ก็ใจมันชอบไปแล้วนี่ครับ ถ้าไม่จีบจะได้พี่อรมาเป็นของผมได้ยังไง แล้วพี่อรล่ะครับ ทำไมถึงยอมเป็นแฟนผม ทั้งที่ผมไม่มีอะไรให้เท่าเทียมพี่เลย”
“เพราะเรากล้าจีบพี่ยังไงล่ะ คนอื่นแค่เห็นก็กลัวหัวหดแล้ว”
“แล้วในอนาคตถ้ามีคนอื่นมาจีบพี่ ผมจะไม่ถูกทิ้งใช่ไหม” กันต์ธีร์สวมกอดอย่างประจบ
“ก็กันต์ของพี่น่ารักแบบนี้พี่คงไม่มองคนอื่น”
“สัญญานะครับว่าพี่จะไม่ทิ้งผม”
“ถ้าไม่โกหกพี่ไม่นอกใจ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่พี่จะทิ้งกันต์”
“ผมรักพี่อรที่สุดเลยครับ เมื่อกี้ผมขอโทษที่ทำให้พี่อรต้องเสียหน้าแบบนั้น”
“พี่จะยกโทษให้ดีไหมนะ” เธอทำท่าทางคิดหนัก
“นะครับพี่อร ยกโทษให้ผมนะครับ”
“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ถ้ารุ่นน้องของกันต์ยังมายุ่งวุ่นวายอีกพี่จะไม่ยอมแล้วนะ”
“รับรองเลยครับ พาลินคงไม่มายุ่งกับเราอีก เขาก็เห็นแล้วว่าผมกับพี่เป็นอะไรกัน พี่อรครับ ผมว่าอย่าพูดถึงเรื่องนั้นอีกเลย เรามาทำเรื่องเมื่อกี้ต่อดีไหมครับ”
“ยังจะมีอารมณ์อีกเหรอ”
“อยู่ใกล้พี่อรผมก็มีอารมณ์ตลอดแหละครับ นะครับพี่อรผมสัญญาเลยคืนนี้พี่อรจะมีความสุขจนลืมไม่ลงเลย”
ชายหนุ่มที่ทำเป็นเข้มแข็งเดินออกมาจากห้องได้ไม่กี่ก้าวก็เข่าทรุด นั่งร้องไห้อยู่ตรงทางเดินอย่างไม่อายใคร ในเมื่อเขาจะไม่มาที่นี่อีกแล้วก็ไม่ต้องสนใจสายตาของคนอื่นพาลินสะอื้นไห้จนตัวโยน น้ำตาไหลพรากราวเขื่อนแตก ไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ โดนคนที่เป็นทุกอย่างในชีวิตหักหลังอย่างไม่น่าให้อภัยทั้งเสียใจ เสียดายเวลาและเสียดายความรู้สึกดีๆ ที่มีให้มาตลอด พาลินไม่คิดมาก่อนเลยว่าความรักของตัวเองจะจบลงอย่างเขาและกันต์ธีร์รู้จักกันมาปีกว่าจากนั้นก็ตกลงคบกันได้หกเดือน รวมเวลาทั้งหมดก็เกือบจะสองปีที่ได้รู้จักกัน พาลินคิดว่าตัวเองรู้จักคนรักของตัวเองดีแล้วถึงทุ่มเททั้งกายและใจให้ไปจนหมด ตั้งแต่คบกันเขาก็มีแต่กันต์ธีร์คนเดียวมาตลอด มีนาและพราวรุ้งเพื่อนสนิททั้งสองก็เคยบอกว่าให้เผื่อใจไว้บ้าง แต่เพราะตลอดเวลาที่คบกันชายหนุ่มทำตัวดีมาตลอด พาลินจึงไม่เคยคิดเผื่อใจเลยแล้วอย่างนี้จะโทษใครได้ ต้องโทษตัวเองที่คิดว่าความรักจะรั้งให้เขาอยู่กับตัวเองได้ โทษตัวเองที่หัวอ่อนจนเกินไป เขาเป็นคนรักคนแรกของพาลิน รักแรกที่พังลงตรงหน้าในเวลาไม่ถึงปียิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ พาลินไม่มีแรงจะลุกยืนด้วยซ้
พาลินกลับมาถึงห้องก็รีบอาบน้ำเรียกความสดชื่น แม้ในใจจะยังไม่เหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์แต่มันก็ดีกว่าเมื่อวานอยู่มากไม่คิดเลยว่าการได้พูด ได้ระบายออกจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นได้ ถ้าเมื่อคืนไม่บังเอิญเจอกับดลธรรมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นยังไง จะนอนอยู่ตรงนั้นถึงเช้าหรือจะกลับหอตัวเองได้ตอนไหนพาลินกลับมาให้ความสนใจกับตัวเองอีกครั้ง เขาเก็บของบางอย่างที่เห็นแล้วทำให้นึกถึงคนรักเก่าลงกล่อง เตรียมเอาลงไปทิ้งที่ถังขยะหน้าหอ ในเมื่อถูกเขาทิ้งแล้ว อะไรที่เป็นของกันต์ธีร์ก็ควรจะทิ้งลงขยะเช่นกันเก็บของทิ้งจนเหนื่อยก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน พาลินลงไปทานข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งหน้าหอพัก ช่วงปิดเทอมแบบนี้ไม่ค่อยมีคนอยู่หอ เขาเลยได้อาหารไว้กว่าที่คิดจัดการกับข้าวผัดปูไปครึ่งจานก็รู้สึกตื้อขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก พยายามสลัดภาพเมื่อคืนออกจากหัวแต่มันก็ยังคงติดตาพาลินปวดขมับทั้งสองข้างจนต้องเดินไปซื้อยาแก้ปวดหัวที่ร้านขายยาหน้าปากซอย จากนั้นก็กลับมาทานยาแล้วนอนพัก หวังว่าตื่นมาก็คงจะดีขึ้นเขานอนหลับยาวตั้งแต่บ่ายจนถึงสายของอีกวัน พาลินนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีงานมอเตอร์โชว์วันสุดท้ายและเขาไม่อยากพลาดชายหนุ่มรีบเป
เพราะเป็นวันสุดท้ายของการจัดงานคนเลยมากกว่าทุกวัน กว่าทั้งสองคนจะหาที่จอดรถได้ก็ผ่านไปเกือบชั่วโมงพาลินเกรงใจดลธรรมมากที่ทำให้ต้องลำบาก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ออกอาการหงุดหงิดให้เห็นเลยสักนิด“ขอโทษนะครับพี่โดม ผมทำพี่ลำบากเลย”“ลำบากยังไง”“ก็ลำบากที่ต้องวนหาที่จอดรถไงครับ”“ไม่ใช่ความผิดของเรานี่ มางานแบบนี้ก็ต้องเผื่อใจไว้บ้าง แต่เราก็ยังโชคดีที่ได้ที่จอด ต้องขอบคุณเรามากกว่าที่ตาไวเห็นว่าเขากำลังจะกลับ”“พี่พูดอย่างกับว่าผมไปกอบกู้โลกมาเลยนะครับ”ดลธรรมฟังแล้วก็หัวเราะ เห็นว่าพาลินไม่ทำหน้าหงอยแล้วเขาก็เบาใจ“อยากไปบูธไหนก่อน”“ยังไม่รู้เลยครับ แต่ผมอยากได้รถญี่ปุ่นราคาไม่แรงมากครับ”ทั้งสองพากันมาดูแผนที่ก่อนจะเข้าไปในงานเพื่อไม่ให้เสียเวลา“งั้นไปโซนนี้กันก่อนเลย”“เดี๋ยวค่อยไปดูก็ได้ ไปดูรถที่พี่อยากดูก่อน”“พี่ดูมาแล้ว”“ตอนไหนครับ มาแล้วทำไมยังมาอีก”“มาเสาร์ที่แล้ว แต่มาแล้วก็มาอีกได้ใครเขาห้ามกันล่ะ บางคนยังมาทุกวันเลย”“อ๋อ ผมเข้าใจแล้ว พี่มาดูพริตตี้ใช่ไหม” พาลินบอกอย่างรู้ทัน ผู้ชายก็คงไม่มีอะไรมากถ้ามาแล้วมาอีกก็คงไม่พ้นมาดูสาวสวยๆ“พี่มาดูรถ”“ไม่ต้องอายหรอกน่า มาดูหญิ
กลับมาถึงหอก็วิดีโอคอลคุยกับเพื่อนทั้งสองคน พาลินไม่มีอะไรปิดบังเพื่อนทั้งสองคนอยู่แล้ว เขาเลยเล่าทุกอย่างที่ได้เห็นในวันนั้นให้กับทั้งสองคนฟังตั้งแต่เลิกกับกันต์ธีร์หัวใจของพาลินก็ปิดตาย เขาไม่คิดจะคบใครอีกแล้ว เพราะตอนนี้ก็มีความสุขดี การไม่มีแฟนก็ใช่ว่าชีวิตจะดำเนินต่อไปไม่ได้ สองเดือนแล้วที่พาลินไม่มีกันต์ธีร์ในชีวิตชายหนุ่มยังคงไปสอนที่โรงเรียนสอนภาษา ตกเย็นก็ไปสอนเบจิงที่บ้านเหมือนเดิม แต่พาลินไม่ต้องเดินออกมาที่ปากซอยคนเดียวแล้ว เพราะช่วงนี้ดลธรรมมักจะไปทานข้าวเย็นที่บ้านพี่สาวและชวนเขาติดรถมาด้วยทุกครั้งแต่ถ้าวันไหนชายหนุ่มไม่มาพาลินก็จะเรียกแกรปให้มารับ ถ้าเป็นแต่ก่อนก็คงจะกังวลว่ากันต์ธีร์จะมารับไหม แต่พอตัดเขาออกไปจากชีวิตการตัดสินใจทุกอย่างก็ง่ายขึ้นวันนี้พาลินมีนัดกับโชว์รูมรถแห่งหนึ่ง เขาจะไปลองขับดูสักครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ“ว่าไง โอเคไหม” ดลธรรมถามหลังจากเขาลองขับรถและพากันมาทานข้าวที่ร้านแห่งหนึ่งบนศูนย์การค้า“ก็ดีครับ คันเล็กคล่องตัวดี”“ก็ดี หมายความว่ายังไม่ค่อยดีใช่ไหม”“พูดไม่ถูกครับ มันก็ชอบอยู่หรอก คันเล็กคล่องตัว การตกแต่งก็โอเค แต่เริ่มลังเลนิดหน่อย
ดลธรรมเดินกลับมาที่รถ เขาก็เห็นปณิชญาออกมาเรียกแท็กซี่จากนั้นก็ขึ้นรถออกไปจากหน้าโรงพยาบาลเขากับหญิงสาวเลิกกันได้สองปีแล้ว สาเหตุก็เพราะปณิชญามีคนอื่นและไม่ใช่ใครที่ไหน ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทของดลธรรมชายหนุ่มยอมรับว่าทั้งโกรธและเสียใจ แต่เวลาผ่านไปก็ทำใจยอมรับได้ อะไรที่มันไม่ใช่ของตัวเองเขาก็ไม่อยากจะรั้งไว้ ถึงตอนนี้เธอก็ไม่มีอิทธิพลกับเขาอีกแล้วแต่คนที่กำลังเข้ามาอิทธิพลกับหัวใจของเขาทีละนิดกลับเป็นพาลิน คุณครูของหลานชายที่ทำให้เขาใจเต้นแรงตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ แม้ตอนนั้นจะรู้ว่าอีกคนนั้นมีแฟนแล้วแต่ความรู้สึกก็ยังคงเหมือนเดิมเขาไม่รู้ว่าพาลินจะกลับถึงหอพักหรือยังเพราะนี่ก็ผ่านมาเป็นชั่วโมงแล้วที่ดลธรรมออกมาจากศูนย์การค้า เพราะเป็นห่างและรู้สึกผิดที่ปล่อยให้พาลินเดินคนเดียวและกลับคนเดียวเขาจึงรีบโทรหา“ครับพี่โดม ธุระเรียบร้อยแล้วเหรอครับ” ปลายสายถามอย่างเป็นห่วง“ครับ โอเคแล้ว กลับถึงหอหรือยัง”“ยังครับ ผมว่าจะดูหนังแล้วค่อยกลับ”“ดูกับใคร” เขารีบถาม“คนเดียวครับ”“หนังฉายกี่โมง”“หกโมงครับ”“จองตั๋วให้หน่อยสิ เดี๋ยวไปดูด้วย”“อีก 45 นาทีพี่จะมาทันเหรอครับ”“คิดว่าทันนะ
“ขอบคุณนะครับสำหรับวันนี้” พาลินกล่าวขอบคุณเมื่อเขาขับรถมาจอดที่หน้าปากซอย“แล้วไปดูหนังกันอีกนะ ครั้งหน้าพี่จะรีบมาให้ตรงเวลา”“ครับ พี่อยากดูเรื่องอะไรนัดมาเลยครับ ช่วงนี้ผมว่าง”“ไม่ไปทำงานเหรอ”“ไม่ครับ สัปดาห์หน้าก็เปิดเทอมแล้วครับ เลยอยากพักสักหน่อย”“งั้นค่อยนัดกันอีกทีละกันนะ”“ครับ พี่โดมอย่าลืมไก่หลังรถนะ” พาลินรีบเตือนเพราะถ้าเขาลืมพรุ่งนี้มันคงได้กลายเป็นไก่เน่าแน่ๆ“อือ”พาลินลงจากรถแล้วเดินไปยังหอพักวันนี้มีหลายคนเริ่มกลับมากันบ้างแล้ว เพราะอีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอม บรรยากาศก็เลยดูครึกครื้นเป็นพิเศษ พอเขาเดินมาถึงก็โบกมือให้ดลธรรมเพื่อให้ชายหนุ่มจะได้กลับคอนโดของตัวเอง“ลิน ไปไหนมา กลับดึกเชียวนะ” เจหรือเจษฎาเพื่อนร่วมหอพักที่นั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนทักทายขึ้น“ไปดูหนังมา มึงล่ะ เพิ่งมาวันนี้เหรอ”“อือ เพิ่งมาถึงขนของเพิ่งเสร็จกำลังจะขึ้นห้องก็เห็นมึงเดินมา พี่กันต์มาส่งเหรอ” เจษฎาเป็นรุ่นน้องคณะวิศวะจึงรู้จักกับกันต์ธีร์เป็นอย่างดี“ไม่ใช่พี่กันต์หรอก กูเลิกกันแล้ว”“งั้นแฟนใหม่เหรอหาได้เร็วดีนี่”“แฟนใหม่ที่ไหนล่ะ เขาเป็นน้าชายของเด็กที่กูไปสอนพิเศษช่วงปิดเทอม ว่าแต่มึงเถอ
สายวันอาทิตย์พาลินทำความสะอาดห้องจนสะอาด จากนั้นก็เอาชุดนักศึกษาไปส่งที่ร้านซักรีด วันจันทร์หน้าเขาต้องกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยก่อนจะเริ่มต้นฝึกงานในสัปดาห์ถัดไปร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ กับหอพักกลับมาคึกคักอีกครั้ง พาลินนั่งทานข้าวกับเพื่อนร่วมหอพักคนหนึ่ง เขาไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวแต่ก็เคยเห็นหน้ากันบ้าง ทั้งที่มหาวิทยาลัยและที่หอพัก เขายิ้มทักทายจากนั้นก็นั่งทานของตัวเองจนอิ่มหอนี้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมาก ค่าเช่าก็เลยมากตามไปด้วย คนอื่นอาจแชร์กันอยู่สองหรือสามคน แต่พาลินเลือกที่จะอยู่คนเดียวเพราะตอนเข้ามาเรียนที่นี่เขายังไม่ไว้ใจใครถึงขั้นให้มานอนด้วย แม้จะเหงาแต่ก็มีเพื่อนที่ไปมาหาสู่กันตลอดอีกอย่างเรื่องค่าเช่าก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะถึงแม้จะไม่มีบิดามารดาแต่พาลินก็มีเงินจำนวนหนึ่งที่เขาได้จากประกันชีวิตของบิดามารดารวมถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่ปู่กับย่าของเขาส่งให้กลับมาบนห้องก็นอนเล่นมือถือจนเบื่อ จึงโทรศัพท์ไปหามีนากับพราวรุ้ง แต่สองคนนั้นยังไม่กลับมาจากบ้าน จะไปคอนโดของดลธรรมก็รู้สึกเกรงใจ“เฮ้อ! เหงาชะมัด” พาลินบ่นก่อนจะล้มตัวลงนอน แล้วเขาก็หลับยาวจนเย็นพอตื่นมาก็คว้าโทรศัพท์มาดู
ทั้งสองออกจากห้องพักและพากันขึ้นลิฟต์มายังชั้นดาดฟ้าซึ่งมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่บนนี้“ทำตัวตามสบายไม่ต้องกลัวจะเจอเขาหรอกน่า” ดลธรรมเห็นอีกคนหันซ้ายหันขวามองไปรอบสระก็พูดขึ้น“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย ผมก็แค่สงสัยว่าทำไมคนน้อยจัง” เพราะเป็นเย็นวันอาทิตย์แต่บริเวณสระว่ายน้ำกลับมีคนว่ายน้ำอยู่ไม่กี่คน แถมยังเป็นชาวต่างชาติด้วย“ก็น้อยแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ดีเหรอ”“ดีครับ ผมว่ายไม่เก่งจะได้ไม่อายใคร” ว่าแล้วเขาก็ถอดเสื้อยืนตัวยาวออกจากนั้นก็นั่งห้อยขาอยู่ริมขอบสระดลธรรมถอดเสื้อของตัวเองออกบ้างจากนั้นเขาก็ลงไปในสระ หันมามองพาลินก็ต้องแอบกลืนน้ำลาย เพราะนอกจากผิวขาวแล้วชายหนุ่มคนน้องยังมีกล้ามเล็กสมส่วน ดูก็รู้ว่าคงออกกำลังอยู่บ่อยๆ เขาเห็นว่าชายหนุ่มเป็นคนตัวเล็กแต่ไม่คิดว่าจะมีร่างกายที่สวยงามเช่นนี้“ไม่ลงมาเหรอ” ดลธรรมว่ายมาใกล้ เกยคางกับขอบสระเอียงคอถาม ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งเห็นร่างกายของอีกคนชัดขึ้นลมหายใจเขาสะดุดแต่ต้องรีบปรับสีหน้าเป็นปกติก่อนจะว่ายออกห่างขึ้น พาลินกระโดดแล้วว่ายตามเขาไประหว่างว่ายน้ำกันอยู่นั้นก็มีคนในคอนโดว่ายเข้ามาทักทายดลธรรมเป็นระยะ ดูเหมือนเขาจะเป็นขวั
สัมผัสที่เร่าร้อนของเรียวปากหยักจูบแลกลิ้นกันอยู่อย่างนั้น พาลินหลงใหลไปกับรสจูบที่คนรักมอบให้ สองมือดันผนังห้องน้ำเอี้ยวคอมาจูบ สะโพกกลมขาวกดแนบชิดกับท่อนเอ็นร้อนเสียงคนพี่ครางในลำคอ เขาอยากกลืนกินคนช่างยั่วตั้งแต่เห็นรูปที่ส่งไปให้ ดลธรรมไม่ลังเลเลยที่จะรีบขับรถกลับมาที่คอนโด แล้วเขาก็ไม่ผิดหวังเมื่อรู้ว่าพาลินกับเขาต่างมีความต้องการเหมือนกัน“พาลินยั่วพี่เองนะครับ”“ถ้าน้องยั่วแล้วพี่ไม่อยากพี่จะกลับมาเหรอ”“นั่นยั่วอีกแล้ว”“น้องยั่วแล้วพี่อยากไหม”“ไม่ยั่วก็อยากครับ ยันผนังไว้นะครับพี่จะลงโทษคนยั่วแล้ว”ดลธรรมจูบไซร้ไปตามท้ายทอยและซอกคอ กัดติ่งหูคนด้านหน้าเบาๆ เพราะเป็นจุดอ่อน แค่นั้นพาลินก็ร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัวฝ่ามือร้อนไล้ไปทั้งแผงอกบีบคลึงเบาๆ บนยอดสีสวย สะโพกก็กดลงไปยังบั้นท้าย เสียงหวานครางแผ่วเบา สะโพกแอ่นโค้งเด่นคนตัวโตกดครีมอาบน้ำสูตรอ่อนโยนลงบนปลายนิ้วกลางจากนั้นลากไปตามช่องทางสีสวยกดลงไปช้าๆ ค่อยเพิ่มจำนวนนิ้วเป็นสองและสาม พาลินครางสะท้านรู้สึกถึงความคับแน่นที่กำลังนวดผนังด้านใน“อื้อ...พี่”เขาสะดุ้งเมื่อจุดอ่อนไหวด้านในถูกกระตุ้นเพียงแค่นั้นตัวตนของเขาก็ปวดหนึบ ม
หลังจากตรวจเสร็จและรับยาแล้วรถกระบะคันเดิมก็มาส่งดลธรรมและพาลินที่สนามบิน“พี่หน้าผมยังมีผื่นอยู่ไหม”“ยังมีอีกนิดหน่อย ใส่มาสก์ไปก่อน”“หมอบอกว่าเดี๋ยวมันก็หายไงครับ”“มันต้องใช้เวลาไง เดี๋ยวกลับถึงกรุงเทพถ้าผื่นยังไม่ยุบลงพี่จะพาไปหาหมออีกรอบ”“ไม่เอาแล้วไม่หาแล้ว ไปอีกก็โดนฉีดยาอีก”พาลินทานยาแก้แพ้ตั้งแต่อยู่บนเขาแต่พอมาถึงโรงพยาบาลผื่นก็ยังไม่หายและดูเหมือนจะขึ้นมากกว่าเดิมหมอเลยต้องฉีดยาเพราะมันได้ผลเร็วกว่า รวมถึงให้ยาทาแก้คันมาด้วยตอนนี้พาลินเลยสีชมพูไปทั้งตัว ยังดีที่เขามีเสื้อคลุมแขนยาวเลยไม่ค่อยอายคนเท่าไหร่แต่ที่ต้องอายก็คงจะเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างเพราะเขาเป็นคนทายาให้กับตนเองทั้งตัว“ยามันง่วงเดี๋ยวขึ้นเครื่องเราจะหลับเลยก็ได้ ถึงแล้วพี่จะปลุกเอง”“บินนานไหมครับ” เพราะขามาเขานั่งรถมาเพื่อนๆ เลยไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่“ไม่นานครับ ประมาณชั่วโมงหนึ่งครับ หลับแป๊บเดียวก็ถึงกรุงเทพแล้ว”“ผมหวังว่าถึงกรุงเทพแล้วผมจะหายนะ”“แต่พี่ว่าอย่าเพิ่งหายเลย ชมพูไปทั้งตัวแบบนี้ก็น่ารักดี”“ไม่ตลกนะครับพี่ มันคันไปทั้งตัวเลย”“อดทนอีกนิดนะครับ ถึงคอนโดจะเอาน้ำเย็นเช็ดให้”พอขึ้นเครื่อง
ดลธรรมไม่อยากให้พาลินพลาดการเข้าค่ายอาสาซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชายหนุ่มทำมาทุกปีตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย และถ้าปีสุดท้ายมาได้เข้าร่วมคงจะเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากถึงแม้จะทั้งหวงทั้งห่วงแต่เขาก็ไม่อยากพรากความทรงจำในวัยเรียนของคนรัก และนั่นก็คือเหตุผลที่ตอนนี้เขามานั่งอยู่ข้างคนขับรถกระบะสีประตูขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดที่นักศึกษามาออกค่ายเดิมทีก็ตกลงจะมาด้วยกัน แต่เพราะเขามีงานที่ยังเคลียร์ไม่เรียบร้อยจึงต้องยอมปล่อยให้คนน้องมาเข้าค่ายกับเพื่อนพาลินงอนนิดหน่อยที่เขาไม่ทำตามที่พูด แต่ก็ตัดสินใจมากับเพื่อน เพราะอยากใช้ชีวิตในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยให้คุ้มค่าที่สุด ส่วนตัวเขาก็รีบเคลียร์งานแล้วตามมาทีหลังโดยไม่ได้บอกพาลินแค่สองสามที่ต้องนอนอยู่คนเดียวเขาก็ทรมานเกินไปแล้ว“อันที่จริงมันก็ไม่ไกลหรอกนะครับ แต่ทางมันค่อนข้างลำบากมันเลยดูเหมือนไกล” เสียงคนขับรถกระบะทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์“ครับ”ดลธรรมให้ลูกน้องที่บริษัทซึ่งบังเอิญเป็นคนพื้นที่ช่วยติดต่อเช่ารถพร้อมคนขับไปส่งที่หมู่บ้านบนเขาชายหนุ่มนั่งเครื่องมาลงที่สนามบินพิษณุโลกตั้งแต่เช้าจากนั้นก็ให้คนขับรถพาไปซื้อไก่ทอด โด
ดลธรรมและพาลินย้ายกลับมาอยู่ที่คอนโดเพราะอยากให้มารดาได้ทำความรู้จักและปรับตัวกับเบจิงได้มากขึ้นแต่เขากับพาลินก็ยังแวะไปทานอาหารเย็นด้วยอยู่บ่อยๆ ดูเหมือนว่าเบจิงจะเข้ากันได้ดีกับคุณยายของตนเองแม้พาลินจะมีรถเป็นของตัวเองแล้ว แต่ดลธรรมก็ยังมารับส่งที่มหาวิทยาลัยเป็นบางวัน“พี่โดม ขอโทษทีครับคุยกับเพื่อนนานไปหน่อย”“ไม่เป็นไร แล้วตกลงเอาไงเราจะไปค่ายกับเพื่อนไหม” ช่วงวันหยุดยาวติดกันชมรมค่ายอาสาจะพากันไปออกค่ายที่พิษณุโลก“กำลังตัดสินใจอยู่ครับ”“ทำไมดูตัดสินใจยากจัง แต่ก่อนเห็นตื่นเต้นจะไป”“ก็ตอนนั้นยังไม่มีแฟน ตอนนี้มีแฟนแล้วติดแฟนครับ”“ฟังคำตอบแล้วชื่นใจจัง”“ถ้าผมไปพี่จะคิดถึงผมไหม”“ถ้าเราไปพี่ก็ไปด้วยครับ ไม่อยากนอนคนเดียว”“ถ้าผมไม่ไปก็เหมือนจะเอาเปรียบคนอื่นอยู่ที่ไม่ช่วยออกแรงอะไรเลย”“แต่พี่ก็ช่วยเรื่องคอมไปตั้ง 10 ชุดแล้วนะครับ”“นั้นมันส่วนของพี่ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย”“ถ้าอยากรู้สึกมีส่วนร่วมกับคอมห้าชุดนั่นก็แค่..”“แค่อะไรครับ” พาลินหันมามองคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย พอเห็นหน้าเขาก็เดาออกทันทีว่าตอนนี้สิ่งที่คนพี่ต้องการคืออะไร เพียงแค่คิดพาลินก็หน้าแดงขึ้นมาทันที“นานเ
คุณแพรเพ็ญและจอห์นสามีใหม่บินกลับมาทันทีหลังจากดลธรรมโทรไปบอกว่าย่าของเบจิงจะพาเบจิงไปอยู่ด้วยเธอเสียลูกสาวไปคนหนึ่งแล้วจึงไม่อยากจะเสียหลานชายไปอีกคน เพราะรู้ว่าที่ฝ่ายนั้นอยากพาเบจิงไปก็เพื่อต่อรองกับดลธรรมให้รับผิดชอบเด็กในท้องของปณิชญาเท่านั้น“คุณยายครับ ตาจอห์นบอกว่าที่บ้านตามีหิมะด้วยจริงไหมครับ”“จริงสิ เบจิงอยากไปดูหิมะไหม”“อยากไปครับ แต่เบจิงต้องไปโรงเรียนคงไปกับคุณยายไม่ได้”“ที่นั่นก็มีโรงเรียนครับ เดี๋ยวยายจะให้เบจิงดูนะครับว่าโรงเรียนที่นั่นเป็นยังไงบ้าง อยากดูไหมครับ”“อยากดูครับ พี่ลินมาดูด้วยกันไหม” เบจิงเรียกพาลินที่กำลังเดินถือผลไม้จานใหญ่ให้มาดูด้วยกันอีกคนแพรเพ็ญเปิดคลิปแนะนำโรงเรียนประถมในประเทศออสเตรียให้กับหลานชายดู เพราะเธอกับสามีคุยกันแล้วว่าจะรับเบจิงไปอยู่ที่นั่นในฐานะลูกชายของทั้งสองคนดลธรรมก็เห็นด้วยกันมารดาเพราะอยากให้เบจิงมีอนาคตที่ดี ลำพังเขากับพาลินคนดูแลเด็กชายได้ไม่ดีพอแต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเบจิงว่าอยากจะย้ายไปอยู่ที่นั่นไหม ตอนนี้ทั้งมาลีและป้าสายก็เริ่มฝึกภาษาอังกฤษกับจอห์นเพราะแพรเพ็ญอยากให้สองนั้นย้ายไปอยู่ด้วยกันทุกคนที่นี่เตรียมวางแผนก
สามเดือนแล้วที่แพรรดาจากไปและเบจิงอยู่กับดลธรรมและพาลินในบ้านหลังใหญ่ ชีวิตของเด็กชายกลับมาสดใสอีกครั้ง เสียงหัวเราะดังออกมานอกบ้านจนคนที่เพิ่งมาถึงยิ้มอย่างพอใจ“สวัสดีครับคุณย่า” เบจิงยกมือทักทายผู้เป็นย่าที่เจอกันครั้งสุดท้ายในงานศพของผู้เป็นมารดา“น้าชายเราไปอยู่ไหนแล้วล่ะ”“มีธุระอะไรกับผมเหรอครับแม่” ดลธรรมยังเรียกเธอว่าแม่อย่างเดิมเพราะอยากให้เกียรติในฐานะที่เธอเป็นย่าของเบจิงเขาค่อนข้างแปลกใจที่คุณปราณีมาหาถึงที่บ้าน เพราะตลอดหลายเดือนมานี้ท่านไม่เคยแวะมาที่นี่เลยสักครั้ง“แม่เรากลับไปแล้วใช่ไหม” คุณปราณีถามถึงแพรเพ็ญ“เพิ่งบินกลับไปสองวันก่อนมีธุระอะไรกับท่านหรือเปล่าครับ”“เปล่า แม่แค่อยากคุยกับโดมสักหน่อย”“ได้ครับ เบจิงไปหาพี่ลินก่อนนะครับน้าขอไปคุยธุระกับคุณย่าก่อน”“ครับน้าโดม”ชายหนุ่มพาคุณปราณีมายังห้องทำงานของตนเองที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของพี่สาวและพี่เขย“โดม แม่จะคุยกับเราเรื่องเบจิง”“มีอะไรเหรอครับ“แม่จะพาเบจิงไปอยู่ด้วย”“แต่เบจิงอยู่กับผมก็มีความสุขดี แม่ก็เห็นว่าเขากลับมาร่าเริงแล้ว”“แต่แม่อยากให้หลานไปอยู่กับแม่”“ผมว่าแม่ไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนั้นนะครับ“มีสิ
งานศพของปรานต์ผ่านมาแล้วสองสัปดาห์ แต่ภรรยาของเขาก็ยังคงนอนไม่ได้สติ แผลจากภายนอกร่างกายนั้นหายดีแล้ว แต่สมองของเธอยังคงบวมอยู่หมอต้องผ่าตัดระบายเลือดออกอีกครั้ง แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลยมารดาของดลธรรมและสามีใหม่บินมาร่วมงานศพของลูกเขยจากนั้นก็อยู่ดูอาการของแพรรดาต่ออีกสองวันจึงบินกลับส่วนครอบครัวของปรานต์ไม่ได้สนใจมาเยี่ยมพี่สาวของเขาเลย ฝ่ายนั้นบอกแต่ว่ายังทำใจไม่ได้ที่เสียลูกชายไปตอนนี้ดลธรรมต้องทำงานทั้งบริษัทตัวเองและบริษัทของพี่สาวซึ่ง นับว่าเป็นงานค่อนข้างหนัก เขาเองเพิ่งมาเริ่มศึกษางานก่อนหน้านี้ไม่นานเท่าไหร่ทางด้านพาลินก็ยุ่งไม่แพ้กันนอกจากจะต้องฝึกงานแล้วยังต้องแบ่งเวลามาดูแลเบจิงและแวะไปเยี่ยมแพรรดาที่โรงพยาบาลทุกวันก่อนหน้านี้เบจิงอาละวาดบ้านแทบแตกเด็กชายไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงทิ้งเขาไปแล้วทำไมแม่ถึงยังไม่ยอมตื่นในทุกวันพาลินต้องพาเด็กชายไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาล แม้ว่าหมอจะไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมเพราะกังวลเรื่องการติดเชื้อ แต่เบจิงก็มองเห็นมารดาของตนเองผ่านกระจก“แม่ครับวันนี้เบจิงมาเยี่ยมแล้วนะครับ แม่หายไวๆ นะครับ รีบตื่นนะครับแม่” ประโยคเดิมที่เด็
บ่ายวันอาทิตย์พาลินและดลธรรมไม่ได้ออกไปไหนทั้งสองสั่งอาหารมาทางที่ห้อง พาลินนั่งตรวจทานตัวเลขในบัญชีของบริษัทซึ่งแพรรดาให้ช่วยกันดูอีกรอบว่ามีจุดไหนผิดพลาดไปบ้างเพราะจะต้องส่งตัวเลขทั้งหมดให้กับสรรพากรในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนดลธรรมเองก็ได้รับมอบหมายงานจากพี่เขยให้ช่วยดูเอกสารสัญญาต่างๆ ที่บริษัทกำลังจะเซ็นสัญญา“พี่โดมเย็นนี้ผมจะไปเอาของที่หอนะครับ”“ไปกี่โมงเดี๋ยวพี่ไปส่ง”“ไม่เป็นไรผมไปคนเดียวได้พี่ทำงานต่อเถอะ”“ได้ยังไง ต้องไปส่งสิ”“งานตัวเองก็ยุ่งอยู่แล้วจะเสียเวลามาส่งผมอีกทำไม ผมไปเองก็กลับเองได้ ไม่นานหรอกครับ”“ไม่เอาจะไปด้วย ไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว ขากลับจะได้หาอะไรกินเลยดีไหม แล้วเรื่องรถเซลล์ว่ายังไงบ้าง”“อาทิตย์หน้าก็ได้แล้วครับ”พาลินตัดสินใจซื้อรถยุโรปราคาเกือบสามล้านเพราะบังเอิญว่าคุณยายของเขาได้ข่าวว่าหลานชายจะซื้อรถก็เลยเป็นคนจ่ายเงินให้ จากรถญี่ปุ่นที่ดูไว้เลยกลายเป็นรถหรูยี่ห้อเดียวกับดลธรรมต่างกันแค่สีและขนาด รถดลธรรมสีดำส่วนของเขานั้นสีขาว“เร็วดีเหมือนกันนะ แต่ได้รถแล้วก็อย่าคิดจะไปไหนคนเดียว ยังไงพี่ก็ต้องไปด้วย”“ถ้าผมไปเรียนล่ะ จะไปด้วยไหม” พาลินแกล้งถามเ
เสียงจูบแลกลิ้นดังอย่างต่อเนื่อง เมื่ออารมณ์ของคนทั้งสองกำลังทะยานขึ้นสูงอีกครั้งตอนนี้พาลินคร่อมอยู่เหลือร่างของดลธรรมที่กึ่งนั่งกึ่งนอนแผ่นหลังพิงอยู่กับหมอนใบใหญ่ ฝามือมือร้อนลูบตามผิวเนียน ก่อนจะนวดบั้นท้ายที่สัมผัสทีไรก็รู้สึกจนไม่อยากจะปล่อยพาลินสั่นสะท้านเมื่อรู้สึกว่าความร้อนของท่อนเอ็นกำลังถูอยู่ตรงช่องทางด้านหลังดลธรรมบีบเจลใส่มือแล้วกดนวดขณะที่ปากก็ยังจูบนัวเนียกันอยู่“อื้อ..”เขายกสะโพกขึ้นให้คนพี่สอดนิ้วเข้าไปทีละนิด สองมือเกาะบ่าดลธรรมไว้แน่น ปากที่จูบประกบอยู่เปลี่ยนเป็นดูดแรงตรงลำคอเพื่อระบายความเสียว ยิ่งเขาเพิ่มจำนวนนิ้วพาลินก็ขาสั่นเห็นท่าทางไม่ไหวของพาลินแล้วดลธรรมรีบหยิบถุงยางสวมให้กับตนเอง พออาวุธพร้อมรบก็ประคองสะโพกคนน้องขึ้นสูง จ่อท่อนเอ็นเข้ายังช่องทางคับแน่น“อื้อ พี่...”พาลินพยายามห้ามเสียงร้องของตัวเองแต่มันก็ยังเล็ดลอดออกมาอยู่ดีเขากดสะโพกลงอย่างช้าๆ เพราะรู้ถ้าทิ้งตัวลงมาคงได้จุกแน่ๆ ก็เจ้ามังกรของคนพี่นั้นไม่ธรรมดาเลยทั้งขนาดและความยาว ไม่รู้ว่าชาติแล้วทำบุญด้วยข้าวหลามหรือยังไงพระเจ้าถึงได้ให้มาทั้งยาวและใหญ่เช่นนี้“อ่าห์..แน่นฉิบ ดีเป็นบ้าเลย”