Home / LGBTQ+ / พาลินโดรม / 7.ใครมันใจร้ายแบบนั้น

Share

7.ใครมันใจร้ายแบบนั้น

Author: จินต์พิชา
last update Last Updated: 2024-11-12 14:39:05

ชายหนุ่มที่ทำเป็นเข้มแข็งเดินออกมาจากห้องได้ไม่กี่ก้าวก็เข่าทรุด นั่งร้องไห้อยู่ตรงทางเดินอย่างไม่อายใคร ในเมื่อเขาจะไม่มาที่นี่อีกแล้วก็ไม่ต้องสนใจสายตาของคนอื่น

พาลินสะอื้นไห้จนตัวโยน น้ำตาไหลพรากราวเขื่อนแตก ไม่คิดมาก่อนว่าตัวเองจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ โดนคนที่เป็นทุกอย่างในชีวิตหักหลังอย่างไม่น่าให้อภัย

ทั้งเสียใจ เสียดายเวลาและเสียดายความรู้สึกดีๆ ที่มีให้มาตลอด พาลินไม่คิดมาก่อนเลยว่าความรักของตัวเองจะจบลงอย่าง

เขาและกันต์ธีร์รู้จักกันมาปีกว่าจากนั้นก็ตกลงคบกันได้หกเดือน รวมเวลาทั้งหมดก็เกือบจะสองปีที่ได้รู้จักกัน พาลินคิดว่าตัวเองรู้จักคนรักของตัวเองดีแล้วถึงทุ่มเททั้งกายและใจให้ไปจนหมด ตั้งแต่คบกันเขาก็มีแต่กันต์ธีร์คนเดียวมาตลอด มีนาและพราวรุ้งเพื่อนสนิททั้งสองก็เคยบอกว่าให้เผื่อใจไว้บ้าง แต่เพราะตลอดเวลาที่คบกันชายหนุ่มทำตัวดีมาตลอด พาลินจึงไม่เคยคิดเผื่อใจเลย

แล้วอย่างนี้จะโทษใครได้ ต้องโทษตัวเองที่คิดว่าความรักจะรั้งให้เขาอยู่กับตัวเองได้ โทษตัวเองที่หัวอ่อนจนเกินไป เขาเป็นคนรักคนแรกของพาลิน รักแรกที่พังลงตรงหน้าในเวลาไม่ถึงปี

ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ พาลินไม่มีแรงจะลุกยืนด้วยซ้ำ ใบหน้าที่ก้มอยู่กับเข่าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

“คุณครับ เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงทุ้มถามขึ้นเมื่อออกจากลิฟต์แล้วเห็นว่ามีใครคนหนึ่งก้มหน้ากอดเข่าตัวสั่นอยู่ตรงทางเดิน

“ขอโทษที่รบกวนครับ” พาลินตอบ เขารีบเช็ดคราบน้ำตาด้วยแขนเสื้อก่อนจะเงยหน้าขึ้น

“พาลิน”

ดลธรรมตกใจที่เห็นพาลินในสภาพแบบนี้ พาลินที่เคยสดใสร่าเริง แต่ยามนี้ดวงตาของเขาแดงก่ำใบหน้าเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ดูก็รู้ว่าคงร้องไห้อย่างหนัก

“พี่โดม” เสียงเรียกแผ่วเบานั้นทำให้หัวใจของดลธรรมอ่อนยวบเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนตรงหน้า เขาไม่อยากเห็นพาลินเป็นแบบนี้

“พาลินครับ ลุกขึ้นก่อน เป็นอะไร ใครทำอะไร บอกพี่ได้ไหม”

“พี่โดม” นอกจากจะไม่ตอบแล้วพาลินยังโถมตัวเข้ามากอดเขาแน่นและร้องไห้อย่างหนักขึ้นมาอีกครั้ง

“ไปคุยกันในห้องพี่นะครับ” เขาพยายามนุ่มนวลกับพาลินมากที่สุด รู้ว่ายามนี้น้องกำลังเสียใจ รู้ว่าถ้าเสียงดังไปคนอื่นอาจจะเข้าใจผิดและจะทำให้คนที่ร้องอยู่ในอ้อมกอดตกใจ

ดลธรรมให้พาลินนั่งบนโซฟาในห้องรับแขกแล้วดึงคนที่กำลังร้องไห้ราวกับคนเสียสติมากอดอีกครั้ง

ชายหนุ่มไม่ได้ถามหรือพูดอะไร เขาแค่กอดและลูบไปบนศีรษะทุยและแผ่นหลังอย่างปลอบประโลม

พาลินยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้น ยิ่งเห็นดลธรรมก็ยิ่งสงสาร ถ้าหากเขารู้ว่าใครทำให้พาลินเป็นแบบนี้เขาจะทำให้มันเจ็บกว่าที่พาลินเป็นอยู่ร้อยเท่า

“พาลินครับ พาลิน” เมื่อเห็นว่าอีกคนเงียบไปนาน เจ้าของห้องก็เรียกเบาๆ แต่ดูเหมือนคนที่ร้องไห้มาอย่างหนักจะหมดแรงและหลับลงไปแล้ว

เขาไม่ใจร้ายพอที่จะทิ้งให้พาลินนอนในห้องรับแขกคนเดียว ถึงแม้คอนโดจะมีห้องนอนสองห้องแต่อีกห้องก็ยังไม่ได้ทำความสะอาด จะพาไปนอนห้องตัวเองก็กลัวอีกคนตื่นมาแล้วจะตกใจ

ดลธรรมเลยตัดสินใจให้พาลินนอนอยู่ที่เดิม ส่วนเขาก็ไปเอาหมอนและผ้าห่มออกมานอนเป็นเพื่อน ชายหนุ่มเปิดไฟตรงส่วนครัวไว้พอให้ได้แสงสว่าง เขานั่งมองหน้าพาลินจนเผลอหลับอยู่บนโซฟาอีกตัว

พาลินหลับยาวจนถึงเช้า พอตื่นมาก็ตกใจเพราะตอนนี้ตัวเองนอนอยู่บนโซฟา ส่วนเจ้าของห้องที่จำได้ว่าเป็นคนพาเข้ามานั้นกำลังนั่งหลับอยู่บนโซฟาอีกตัวที่อยู่ไม่ไกลมาก

“พี่โดมครับ พี่โดม”

“หือ ตื่นแล้วเหรอ” คนตอบงัวเงียเพราะเพิ่งได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมง

“ขอโทษนะครับที่รบกวน”

“ไม่เป็นไร ว่าแต่จะเล่าให้ฟังได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ได้บังครับ ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร”

“ครับ”

พาลินไม่รู้จะเล่าดีหรือเปล่าเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวและมันก็ไม่ใช่เรื่องของเขาเพียงคนเดียว

“ครับ นี้คือเล่าหรือไม่เล่า”

“ก็แค่อกหักครับ”

“อกหัก ใครมันใจร้ายมาหักอกเราได้”

“ก็แค่คนใจร้ายครับ”

“เมื่อคืนยังร้องไห้จะเป็นจะตาย ทำไมตื่นเช้ามาเข้มแข็งขึ้นซะงั้น”

“ร้องให้ตายมันก็ไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมครับ” พาลินแกล้งทำใจแข็งแต่ข้างในยังคงน้ำตาตก

“ถ้าเขามาง้อ มาขอคืนดี” ดลธรรมหยั่งเชิง

“ถึงผมจะโง่ก็แค่ครั้งเดียวครับ ไม่มีโง่ซ้ำสองแน่”

“ก็ดี เห็นเราเป็นแบบนี้พี่ก็สบายใจ บอกตามตรงนะเมื่อคืนพี่ตกใจมากเลยไม่เคยเห็นเราเป็นแบบนี้มาก่อน”

“ขอบคุณนะครับ ที่พาเข้ามาในห้อง ตอนนั้นผมไม่ไหวจริงๆ ครับ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก”

“ตอนนี้โอเคแล้วใช่ไหมครับ” เขาจ้องหน้าจนพาลินต้องรีบหลบสายตา

“คิดว่าโอเคในระดับหนึ่งครับ”

“คงไม่มีใครตัดใจได้ภายในคืนเดียวหรอก ว่าแต่คนนี้รักมากเลยใช่ไหม”

“ครับ รักแรกของผม”

“เคยได้ยินไหมเขาบอกว่ารักแรกมักไม่สมหวัง แต่มันจะเป็นประสบการณ์ให้เรามีสติมากขึ้นในรักครั้งต่อไป”

“ไม่มีครั้งต่อไปแล้วครับ”

“หมายถึงอะไรไม่มีครั้งต่อไป”

“เข็ดแล้วครับไม่เอาแล้ว” พาลินส่ายหัวจนผมกระเจิง

“เฮ้ย อย่าปิดกันตัวเองแบบนั้นสิลิน” ก็ถ้าพาลินคิดแบบนั้นเขาจะจีบพาลินได้ยังไง

“ไม่ได้ปิดกั้นครับ แค่ไม่อยากมีความรักอีกแล้ว”

“ถ้ามีคนใหม่เข้ามาจะไม่ให้โอกาสเขาเลยเหรอ”

“คงไม่ใช่เร็วๆ นี้ครับ แผลเก่าเพิ่งเกิดยังไม่อยากสร้างแผลใหม่ครับ”

“อ้อ นึกว่าจะไม่มีไปตลอด”

“ไม่ซีเรียสครับ ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรอยู่คนเดียวก็สบายดีออก”

“นั้นสิ พี่ก็ว่างั้นแหละ” เขาทำเป็นเห็นด้วยไปก่อน

“พี่ก็คิดเหมือนผมใช่ไหมล่ะ” พาลินหาพวก

“อือ ก็คงงั้น ว่าแต่ถ้ามีคนอื่นมาจีบก็ลองให้โอกาสเขาบ้าง เขาไม่ได้ผิดอะไรนะ อย่าเอาความรักครั้งแรกมาตัดสินความรักครั้งต่อไป”

“ขอบคุณครับ พี่โดมเป็นที่ปรึกษาที่ดีของผมเลย”

“พี่ยินดีให้เราปรึกษาตลอด ว่าแต่ตอนนี้ไปล้างหน้าหน่อยดีไหมจะได้ลงไปหาอะไรกินกัน”

“ผมขอให้ห้องน้ำหน่อยได้ไหม”

“ตามมาสิ”

ดลธรรมพาชายหนุ่มเข้ามาในห้อง ส่งผ้าเช็ดตัวผืนเล็กให้

“ใช้เสร็จโยนลงตะกร้าเลยนะ”

เขาอยากให้ความเป็นส่วนตัวกับพาลินเลยออกไปใช้ห้องน้ำอีกห้องที่อยู่ด้านนอก

ปกติแล้วดลธรรมไม่เคยให้ใครมาที่คอนโดของเขาเพราะถือเป็นพื้นที่ส่วนตัว แม้กระทั่งเพื่อนสนิท เขาก็นัดเจอแค่ด้านล่างเท่านั้น

แต่เพราะเมื่อคืนเป็นเหตุสุดวิสัยพาลินเลยเป็นคนแรกที่ได้ขึ้นมาบนห้องของเขา ดลธรรมก็คิดว่าเมื่อมีครั้งแรกแล้วก็อยากให้มีครั้งต่อไป เขาอยากให้พาลินรู้จักเขาให้มากขึ้น ไว้ใจเขาและปรึกษาเขาทุกเรื่อง

ชายหนุ่มอยากเข้าไปในชีวิตของพาลินอย่างช้าๆ ไม่อยากอีกคนรู้สึกอึดอัดเพราะรู้ว่าเพิ่งผ่านเรื่องเลวร้ายมา

ถึงแม้จะไม่รู้รายละเอียดมากแต่คิดว่าเรื่องราวคงหนักหนาเอาการ คนที่ร่าเริงและมองโลกในแง่ดีถึงได้เสียอาการขนาดนี้

ดลธรรมและพาลินมาทานอาหารเช้าที่ร้านหน้าคอนโดก่อนจะไปส่งชายหนุ่มที่หอพัก

“อยู่คนเดียวได้แน่นะ”

“ครับ”

“ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนไหม”

“ไม่เป็นไรครับ พี่โดมไม่ต้องห่วงเรื่องเมื่อวานก็คืออดีตครับ”

“พี่ดีใจที่เห็นเราเข้มแข็งแบบนี้ มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะ”

“ขอบคุณครับที่มาส่งและอยู่เป็นเพื่อนผมทั้งคืน พี่ก็ควรกลับไปพักผ่อนครับ”

“อือ ไปนะ อย่าลืมนะ มีอะไรให้โทรหาพี่”

“ครับ ไม่ลืมครับ”

พาลินลงจากรถแล้วเดินเข้าไปซอย พอถึงหอพักก็โบกมือให้ดลธรรม พอเห็นเขาขับรถออกไปก็เดินขึ้นไปบนหอพัก

Related chapters

  • พาลินโดรม   8.รับรองไม่ผิดหวัง

    พาลินกลับมาถึงห้องก็รีบอาบน้ำเรียกความสดชื่น แม้ในใจจะยังไม่เหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์แต่มันก็ดีกว่าเมื่อวานอยู่มากไม่คิดเลยว่าการได้พูด ได้ระบายออกจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นได้ ถ้าเมื่อคืนไม่บังเอิญเจอกับดลธรรมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นยังไง จะนอนอยู่ตรงนั้นถึงเช้าหรือจะกลับหอตัวเองได้ตอนไหนพาลินกลับมาให้ความสนใจกับตัวเองอีกครั้ง เขาเก็บของบางอย่างที่เห็นแล้วทำให้นึกถึงคนรักเก่าลงกล่อง เตรียมเอาลงไปทิ้งที่ถังขยะหน้าหอ ในเมื่อถูกเขาทิ้งแล้ว อะไรที่เป็นของกันต์ธีร์ก็ควรจะทิ้งลงขยะเช่นกันเก็บของทิ้งจนเหนื่อยก็ถึงเวลาอาหารกลางวัน พาลินลงไปทานข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งหน้าหอพัก ช่วงปิดเทอมแบบนี้ไม่ค่อยมีคนอยู่หอ เขาเลยได้อาหารไว้กว่าที่คิดจัดการกับข้าวผัดปูไปครึ่งจานก็รู้สึกตื้อขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก พยายามสลัดภาพเมื่อคืนออกจากหัวแต่มันก็ยังคงติดตาพาลินปวดขมับทั้งสองข้างจนต้องเดินไปซื้อยาแก้ปวดหัวที่ร้านขายยาหน้าปากซอย จากนั้นก็กลับมาทานยาแล้วนอนพัก หวังว่าตื่นมาก็คงจะดีขึ้นเขานอนหลับยาวตั้งแต่บ่ายจนถึงสายของอีกวัน พาลินนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีงานมอเตอร์โชว์วันสุดท้ายและเขาไม่อยากพลาดชายหนุ่มรีบเป

  • พาลินโดรม   9.คนใหม่

    เพราะเป็นวันสุดท้ายของการจัดงานคนเลยมากกว่าทุกวัน กว่าทั้งสองคนจะหาที่จอดรถได้ก็ผ่านไปเกือบชั่วโมงพาลินเกรงใจดลธรรมมากที่ทำให้ต้องลำบาก แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ออกอาการหงุดหงิดให้เห็นเลยสักนิด“ขอโทษนะครับพี่โดม ผมทำพี่ลำบากเลย”“ลำบากยังไง”“ก็ลำบากที่ต้องวนหาที่จอดรถไงครับ”“ไม่ใช่ความผิดของเรานี่ มางานแบบนี้ก็ต้องเผื่อใจไว้บ้าง แต่เราก็ยังโชคดีที่ได้ที่จอด ต้องขอบคุณเรามากกว่าที่ตาไวเห็นว่าเขากำลังจะกลับ”“พี่พูดอย่างกับว่าผมไปกอบกู้โลกมาเลยนะครับ”ดลธรรมฟังแล้วก็หัวเราะ เห็นว่าพาลินไม่ทำหน้าหงอยแล้วเขาก็เบาใจ“อยากไปบูธไหนก่อน”“ยังไม่รู้เลยครับ แต่ผมอยากได้รถญี่ปุ่นราคาไม่แรงมากครับ”ทั้งสองพากันมาดูแผนที่ก่อนจะเข้าไปในงานเพื่อไม่ให้เสียเวลา“งั้นไปโซนนี้กันก่อนเลย”“เดี๋ยวค่อยไปดูก็ได้ ไปดูรถที่พี่อยากดูก่อน”“พี่ดูมาแล้ว”“ตอนไหนครับ มาแล้วทำไมยังมาอีก”“มาเสาร์ที่แล้ว แต่มาแล้วก็มาอีกได้ใครเขาห้ามกันล่ะ บางคนยังมาทุกวันเลย”“อ๋อ ผมเข้าใจแล้ว พี่มาดูพริตตี้ใช่ไหม” พาลินบอกอย่างรู้ทัน ผู้ชายก็คงไม่มีอะไรมากถ้ามาแล้วมาอีกก็คงไม่พ้นมาดูสาวสวยๆ“พี่มาดูรถ”“ไม่ต้องอายหรอกน่า มาดูหญิ

  • พาลินโดรม   10.อยู่คนเดียวก็มีความสุข

    กลับมาถึงหอก็วิดีโอคอลคุยกับเพื่อนทั้งสองคน พาลินไม่มีอะไรปิดบังเพื่อนทั้งสองคนอยู่แล้ว เขาเลยเล่าทุกอย่างที่ได้เห็นในวันนั้นให้กับทั้งสองคนฟังตั้งแต่เลิกกับกันต์ธีร์หัวใจของพาลินก็ปิดตาย เขาไม่คิดจะคบใครอีกแล้ว เพราะตอนนี้ก็มีความสุขดี การไม่มีแฟนก็ใช่ว่าชีวิตจะดำเนินต่อไปไม่ได้ สองเดือนแล้วที่พาลินไม่มีกันต์ธีร์ในชีวิตชายหนุ่มยังคงไปสอนที่โรงเรียนสอนภาษา ตกเย็นก็ไปสอนเบจิงที่บ้านเหมือนเดิม แต่พาลินไม่ต้องเดินออกมาที่ปากซอยคนเดียวแล้ว เพราะช่วงนี้ดลธรรมมักจะไปทานข้าวเย็นที่บ้านพี่สาวและชวนเขาติดรถมาด้วยทุกครั้งแต่ถ้าวันไหนชายหนุ่มไม่มาพาลินก็จะเรียกแกรปให้มารับ ถ้าเป็นแต่ก่อนก็คงจะกังวลว่ากันต์ธีร์จะมารับไหม แต่พอตัดเขาออกไปจากชีวิตการตัดสินใจทุกอย่างก็ง่ายขึ้นวันนี้พาลินมีนัดกับโชว์รูมรถแห่งหนึ่ง เขาจะไปลองขับดูสักครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ“ว่าไง โอเคไหม” ดลธรรมถามหลังจากเขาลองขับรถและพากันมาทานข้าวที่ร้านแห่งหนึ่งบนศูนย์การค้า“ก็ดีครับ คันเล็กคล่องตัวดี”“ก็ดี หมายความว่ายังไม่ค่อยดีใช่ไหม”“พูดไม่ถูกครับ มันก็ชอบอยู่หรอก คันเล็กคล่องตัว การตกแต่งก็โอเค แต่เริ่มลังเลนิดหน่อย

  • พาลินโดรม   11.ผมกับพี่ใครจะมีแฟนก่อนกัน

    ดลธรรมเดินกลับมาที่รถ เขาก็เห็นปณิชญาออกมาเรียกแท็กซี่จากนั้นก็ขึ้นรถออกไปจากหน้าโรงพยาบาลเขากับหญิงสาวเลิกกันได้สองปีแล้ว สาเหตุก็เพราะปณิชญามีคนอื่นและไม่ใช่ใครที่ไหน ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนสนิทของดลธรรมชายหนุ่มยอมรับว่าทั้งโกรธและเสียใจ แต่เวลาผ่านไปก็ทำใจยอมรับได้ อะไรที่มันไม่ใช่ของตัวเองเขาก็ไม่อยากจะรั้งไว้ ถึงตอนนี้เธอก็ไม่มีอิทธิพลกับเขาอีกแล้วแต่คนที่กำลังเข้ามาอิทธิพลกับหัวใจของเขาทีละนิดกลับเป็นพาลิน คุณครูของหลานชายที่ทำให้เขาใจเต้นแรงตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอ แม้ตอนนั้นจะรู้ว่าอีกคนนั้นมีแฟนแล้วแต่ความรู้สึกก็ยังคงเหมือนเดิมเขาไม่รู้ว่าพาลินจะกลับถึงหอพักหรือยังเพราะนี่ก็ผ่านมาเป็นชั่วโมงแล้วที่ดลธรรมออกมาจากศูนย์การค้า เพราะเป็นห่างและรู้สึกผิดที่ปล่อยให้พาลินเดินคนเดียวและกลับคนเดียวเขาจึงรีบโทรหา“ครับพี่โดม ธุระเรียบร้อยแล้วเหรอครับ” ปลายสายถามอย่างเป็นห่วง“ครับ โอเคแล้ว กลับถึงหอหรือยัง”“ยังครับ ผมว่าจะดูหนังแล้วค่อยกลับ”“ดูกับใคร” เขารีบถาม“คนเดียวครับ”“หนังฉายกี่โมง”“หกโมงครับ”“จองตั๋วให้หน่อยสิ เดี๋ยวไปดูด้วย”“อีก 45 นาทีพี่จะมาทันเหรอครับ”“คิดว่าทันนะ

  • พาลินโดรม   12.ไม่อยากอยู่คนเดียว

    “ขอบคุณนะครับสำหรับวันนี้” พาลินกล่าวขอบคุณเมื่อเขาขับรถมาจอดที่หน้าปากซอย“แล้วไปดูหนังกันอีกนะ ครั้งหน้าพี่จะรีบมาให้ตรงเวลา”“ครับ พี่อยากดูเรื่องอะไรนัดมาเลยครับ ช่วงนี้ผมว่าง”“ไม่ไปทำงานเหรอ”“ไม่ครับ สัปดาห์หน้าก็เปิดเทอมแล้วครับ เลยอยากพักสักหน่อย”“งั้นค่อยนัดกันอีกทีละกันนะ”“ครับ พี่โดมอย่าลืมไก่หลังรถนะ” พาลินรีบเตือนเพราะถ้าเขาลืมพรุ่งนี้มันคงได้กลายเป็นไก่เน่าแน่ๆ“อือ”พาลินลงจากรถแล้วเดินไปยังหอพักวันนี้มีหลายคนเริ่มกลับมากันบ้างแล้ว เพราะอีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอม บรรยากาศก็เลยดูครึกครื้นเป็นพิเศษ พอเขาเดินมาถึงก็โบกมือให้ดลธรรมเพื่อให้ชายหนุ่มจะได้กลับคอนโดของตัวเอง“ลิน ไปไหนมา กลับดึกเชียวนะ” เจหรือเจษฎาเพื่อนร่วมหอพักที่นั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนทักทายขึ้น“ไปดูหนังมา มึงล่ะ เพิ่งมาวันนี้เหรอ”“อือ เพิ่งมาถึงขนของเพิ่งเสร็จกำลังจะขึ้นห้องก็เห็นมึงเดินมา พี่กันต์มาส่งเหรอ” เจษฎาเป็นรุ่นน้องคณะวิศวะจึงรู้จักกับกันต์ธีร์เป็นอย่างดี“ไม่ใช่พี่กันต์หรอก กูเลิกกันแล้ว”“งั้นแฟนใหม่เหรอหาได้เร็วดีนี่”“แฟนใหม่ที่ไหนล่ะ เขาเป็นน้าชายของเด็กที่กูไปสอนพิเศษช่วงปิดเทอม ว่าแต่มึงเถอ

  • พาลินโดรม   13.ภาพติดตา

    สายวันอาทิตย์พาลินทำความสะอาดห้องจนสะอาด จากนั้นก็เอาชุดนักศึกษาไปส่งที่ร้านซักรีด วันจันทร์หน้าเขาต้องกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยก่อนจะเริ่มต้นฝึกงานในสัปดาห์ถัดไปร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ กับหอพักกลับมาคึกคักอีกครั้ง พาลินนั่งทานข้าวกับเพื่อนร่วมหอพักคนหนึ่ง เขาไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวแต่ก็เคยเห็นหน้ากันบ้าง ทั้งที่มหาวิทยาลัยและที่หอพัก เขายิ้มทักทายจากนั้นก็นั่งทานของตัวเองจนอิ่มหอนี้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมาก ค่าเช่าก็เลยมากตามไปด้วย คนอื่นอาจแชร์กันอยู่สองหรือสามคน แต่พาลินเลือกที่จะอยู่คนเดียวเพราะตอนเข้ามาเรียนที่นี่เขายังไม่ไว้ใจใครถึงขั้นให้มานอนด้วย แม้จะเหงาแต่ก็มีเพื่อนที่ไปมาหาสู่กันตลอดอีกอย่างเรื่องค่าเช่าก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะถึงแม้จะไม่มีบิดามารดาแต่พาลินก็มีเงินจำนวนหนึ่งที่เขาได้จากประกันชีวิตของบิดามารดารวมถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่ปู่กับย่าของเขาส่งให้กลับมาบนห้องก็นอนเล่นมือถือจนเบื่อ จึงโทรศัพท์ไปหามีนากับพราวรุ้ง แต่สองคนนั้นยังไม่กลับมาจากบ้าน จะไปคอนโดของดลธรรมก็รู้สึกเกรงใจ“เฮ้อ! เหงาชะมัด” พาลินบ่นก่อนจะล้มตัวลงนอน แล้วเขาก็หลับยาวจนเย็นพอตื่นมาก็คว้าโทรศัพท์มาดู

  • พาลินโดรม   14.รู้ใช่ไหม nc นิดๆ

    ทั้งสองออกจากห้องพักและพากันขึ้นลิฟต์มายังชั้นดาดฟ้าซึ่งมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่บนนี้“ทำตัวตามสบายไม่ต้องกลัวจะเจอเขาหรอกน่า” ดลธรรมเห็นอีกคนหันซ้ายหันขวามองไปรอบสระก็พูดขึ้น“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย ผมก็แค่สงสัยว่าทำไมคนน้อยจัง” เพราะเป็นเย็นวันอาทิตย์แต่บริเวณสระว่ายน้ำกลับมีคนว่ายน้ำอยู่ไม่กี่คน แถมยังเป็นชาวต่างชาติด้วย“ก็น้อยแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ดีเหรอ”“ดีครับ ผมว่ายไม่เก่งจะได้ไม่อายใคร” ว่าแล้วเขาก็ถอดเสื้อยืนตัวยาวออกจากนั้นก็นั่งห้อยขาอยู่ริมขอบสระดลธรรมถอดเสื้อของตัวเองออกบ้างจากนั้นเขาก็ลงไปในสระ หันมามองพาลินก็ต้องแอบกลืนน้ำลาย เพราะนอกจากผิวขาวแล้วชายหนุ่มคนน้องยังมีกล้ามเล็กสมส่วน ดูก็รู้ว่าคงออกกำลังอยู่บ่อยๆ เขาเห็นว่าชายหนุ่มเป็นคนตัวเล็กแต่ไม่คิดว่าจะมีร่างกายที่สวยงามเช่นนี้“ไม่ลงมาเหรอ” ดลธรรมว่ายมาใกล้ เกยคางกับขอบสระเอียงคอถาม ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งเห็นร่างกายของอีกคนชัดขึ้นลมหายใจเขาสะดุดแต่ต้องรีบปรับสีหน้าเป็นปกติก่อนจะว่ายออกห่างขึ้น พาลินกระโดดแล้วว่ายตามเขาไประหว่างว่ายน้ำกันอยู่นั้นก็มีคนในคอนโดว่ายเข้ามาทักทายดลธรรมเป็นระยะ ดูเหมือนเขาจะเป็นขวั

  • พาลินโดรม   15.ความเงียบคือคำตอบ

    พาลินรู้สึกตัวในเวลาหกโมงเช้าเพราะเมื่อคืนดื่มไปเยอะจึงอยากเข้าห้องน้ำ พอลืมตามองก็เห็นว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้อยู่ที่หอพักของตนเอง และยังนอนอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนหนึ่งภาพเหตุการณ์เมื่อคืนพาลินจำได้ไม่ทั้งหมดแต่ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้ว่าความสัมพันธ์ไม่ได้ลึกซึ้งแต่เขาก็ไม่คิดว่าระหว่างตัวเองกับดลธรรมจะทำอะไรแบบนั้นที่ผ่านพาลินเข้าใจมาตลอดว่าดลธรรมนั้นเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงแต่ความรู้สึกที่รับรู้ได้ เขามั่นใจว่าดลธรรมต้องเคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนอย่างแน่นอนไม่รู้ว่าที่เกิดขึ้นเพราะเมาด้วยกันทั้งคู่หรือเพราะจริงๆ แล้วต่างฝ่ายต่างมีใจให้กัน แต่พาลินก็อายเกินกว่าจะอยู่สู้หน้าเขา ชายหนุ่มคิดว่าจะถอยไปตั้งหลักที่หอของตนเองก่อน อย่างน้อยก็ได้ทบทวนความรู้สึกของตนเองที่มีต่อดลธรรมอีกครั้งพาลินกลับมาถึงห้องพักก็รีบอาบน้ำแปรงฟัน พอเห็นรอยแดงที่ซอกคอก็อดคิดถึงใบหน้าของคนทำให้เกิดรอยไม่ได้ ร่างกายรู้สึกร้อนขึ้นมาอีกครั้ง ความเป็นชายตื่นตัวอย่างคุมไม่อยู่ พาลินหลับตานิ่งสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามข่มความต้องการ แต่มันไม่ได้ผลเลยสักนิดเขาต้องช่วยตัวเองอย่างที่เคยทำ แต่ครั้งนี้นึกถึงใบหน้าแดงก่ำของดลธรร

Latest chapter

  • พาลินโดรม   33.รักผมเพราะเซ็กซ์หรือเปล่า (จบ)

    สัมผัสที่เร่าร้อนของเรียวปากหยักจูบแลกลิ้นกันอยู่อย่างนั้น พาลินหลงใหลไปกับรสจูบที่คนรักมอบให้ สองมือดันผนังห้องน้ำเอี้ยวคอมาจูบ สะโพกกลมขาวกดแนบชิดกับท่อนเอ็นร้อนเสียงคนพี่ครางในลำคอ เขาอยากกลืนกินคนช่างยั่วตั้งแต่เห็นรูปที่ส่งไปให้ ดลธรรมไม่ลังเลเลยที่จะรีบขับรถกลับมาที่คอนโด แล้วเขาก็ไม่ผิดหวังเมื่อรู้ว่าพาลินกับเขาต่างมีความต้องการเหมือนกัน“พาลินยั่วพี่เองนะครับ”“ถ้าน้องยั่วแล้วพี่ไม่อยากพี่จะกลับมาเหรอ”“นั่นยั่วอีกแล้ว”“น้องยั่วแล้วพี่อยากไหม”“ไม่ยั่วก็อยากครับ ยันผนังไว้นะครับพี่จะลงโทษคนยั่วแล้ว”ดลธรรมจูบไซร้ไปตามท้ายทอยและซอกคอ กัดติ่งหูคนด้านหน้าเบาๆ เพราะเป็นจุดอ่อน แค่นั้นพาลินก็ร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัวฝ่ามือร้อนไล้ไปทั้งแผงอกบีบคลึงเบาๆ บนยอดสีสวย สะโพกก็กดลงไปยังบั้นท้าย เสียงหวานครางแผ่วเบา สะโพกแอ่นโค้งเด่นคนตัวโตกดครีมอาบน้ำสูตรอ่อนโยนลงบนปลายนิ้วกลางจากนั้นลากไปตามช่องทางสีสวยกดลงไปช้าๆ ค่อยเพิ่มจำนวนนิ้วเป็นสองและสาม พาลินครางสะท้านรู้สึกถึงความคับแน่นที่กำลังนวดผนังด้านใน“อื้อ...พี่”เขาสะดุ้งเมื่อจุดอ่อนไหวด้านในถูกกระตุ้นเพียงแค่นั้นตัวตนของเขาก็ปวดหนึบ ม

  • พาลินโดรม   32.Peppa Pig

    หลังจากตรวจเสร็จและรับยาแล้วรถกระบะคันเดิมก็มาส่งดลธรรมและพาลินที่สนามบิน“พี่หน้าผมยังมีผื่นอยู่ไหม”“ยังมีอีกนิดหน่อย ใส่มาสก์ไปก่อน”“หมอบอกว่าเดี๋ยวมันก็หายไงครับ”“มันต้องใช้เวลาไง เดี๋ยวกลับถึงกรุงเทพถ้าผื่นยังไม่ยุบลงพี่จะพาไปหาหมออีกรอบ”“ไม่เอาแล้วไม่หาแล้ว ไปอีกก็โดนฉีดยาอีก”พาลินทานยาแก้แพ้ตั้งแต่อยู่บนเขาแต่พอมาถึงโรงพยาบาลผื่นก็ยังไม่หายและดูเหมือนจะขึ้นมากกว่าเดิมหมอเลยต้องฉีดยาเพราะมันได้ผลเร็วกว่า รวมถึงให้ยาทาแก้คันมาด้วยตอนนี้พาลินเลยสีชมพูไปทั้งตัว ยังดีที่เขามีเสื้อคลุมแขนยาวเลยไม่ค่อยอายคนเท่าไหร่แต่ที่ต้องอายก็คงจะเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างเพราะเขาเป็นคนทายาให้กับตนเองทั้งตัว“ยามันง่วงเดี๋ยวขึ้นเครื่องเราจะหลับเลยก็ได้ ถึงแล้วพี่จะปลุกเอง”“บินนานไหมครับ” เพราะขามาเขานั่งรถมาเพื่อนๆ เลยไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่“ไม่นานครับ ประมาณชั่วโมงหนึ่งครับ หลับแป๊บเดียวก็ถึงกรุงเทพแล้ว”“ผมหวังว่าถึงกรุงเทพแล้วผมจะหายนะ”“แต่พี่ว่าอย่าเพิ่งหายเลย ชมพูไปทั้งตัวแบบนี้ก็น่ารักดี”“ไม่ตลกนะครับพี่ มันคันไปทั้งตัวเลย”“อดทนอีกนิดนะครับ ถึงคอนโดจะเอาน้ำเย็นเช็ดให้”พอขึ้นเครื่อง

  • พาลินโดรม   31.ผมเอาอาหารมาส่ง

    ดลธรรมไม่อยากให้พาลินพลาดการเข้าค่ายอาสาซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชายหนุ่มทำมาทุกปีตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย และถ้าปีสุดท้ายมาได้เข้าร่วมคงจะเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากถึงแม้จะทั้งหวงทั้งห่วงแต่เขาก็ไม่อยากพรากความทรงจำในวัยเรียนของคนรัก และนั่นก็คือเหตุผลที่ตอนนี้เขามานั่งอยู่ข้างคนขับรถกระบะสีประตูขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดที่นักศึกษามาออกค่ายเดิมทีก็ตกลงจะมาด้วยกัน แต่เพราะเขามีงานที่ยังเคลียร์ไม่เรียบร้อยจึงต้องยอมปล่อยให้คนน้องมาเข้าค่ายกับเพื่อนพาลินงอนนิดหน่อยที่เขาไม่ทำตามที่พูด แต่ก็ตัดสินใจมากับเพื่อน เพราะอยากใช้ชีวิตในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยให้คุ้มค่าที่สุด ส่วนตัวเขาก็รีบเคลียร์งานแล้วตามมาทีหลังโดยไม่ได้บอกพาลินแค่สองสามที่ต้องนอนอยู่คนเดียวเขาก็ทรมานเกินไปแล้ว“อันที่จริงมันก็ไม่ไกลหรอกนะครับ แต่ทางมันค่อนข้างลำบากมันเลยดูเหมือนไกล” เสียงคนขับรถกระบะทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์“ครับ”ดลธรรมให้ลูกน้องที่บริษัทซึ่งบังเอิญเป็นคนพื้นที่ช่วยติดต่อเช่ารถพร้อมคนขับไปส่งที่หมู่บ้านบนเขาชายหนุ่มนั่งเครื่องมาลงที่สนามบินพิษณุโลกตั้งแต่เช้าจากนั้นก็ให้คนขับรถพาไปซื้อไก่ทอด โด

  • พาลินโดรม   30.ไม่ต้องทุกครั้งก็ได้ nc

    ดลธรรมและพาลินย้ายกลับมาอยู่ที่คอนโดเพราะอยากให้มารดาได้ทำความรู้จักและปรับตัวกับเบจิงได้มากขึ้นแต่เขากับพาลินก็ยังแวะไปทานอาหารเย็นด้วยอยู่บ่อยๆ ดูเหมือนว่าเบจิงจะเข้ากันได้ดีกับคุณยายของตนเองแม้พาลินจะมีรถเป็นของตัวเองแล้ว แต่ดลธรรมก็ยังมารับส่งที่มหาวิทยาลัยเป็นบางวัน“พี่โดม ขอโทษทีครับคุยกับเพื่อนนานไปหน่อย”“ไม่เป็นไร แล้วตกลงเอาไงเราจะไปค่ายกับเพื่อนไหม” ช่วงวันหยุดยาวติดกันชมรมค่ายอาสาจะพากันไปออกค่ายที่พิษณุโลก“กำลังตัดสินใจอยู่ครับ”“ทำไมดูตัดสินใจยากจัง แต่ก่อนเห็นตื่นเต้นจะไป”“ก็ตอนนั้นยังไม่มีแฟน ตอนนี้มีแฟนแล้วติดแฟนครับ”“ฟังคำตอบแล้วชื่นใจจัง”“ถ้าผมไปพี่จะคิดถึงผมไหม”“ถ้าเราไปพี่ก็ไปด้วยครับ ไม่อยากนอนคนเดียว”“ถ้าผมไม่ไปก็เหมือนจะเอาเปรียบคนอื่นอยู่ที่ไม่ช่วยออกแรงอะไรเลย”“แต่พี่ก็ช่วยเรื่องคอมไปตั้ง 10 ชุดแล้วนะครับ”“นั้นมันส่วนของพี่ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย”“ถ้าอยากรู้สึกมีส่วนร่วมกับคอมห้าชุดนั่นก็แค่..”“แค่อะไรครับ” พาลินหันมามองคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย พอเห็นหน้าเขาก็เดาออกทันทีว่าตอนนี้สิ่งที่คนพี่ต้องการคืออะไร เพียงแค่คิดพาลินก็หน้าแดงขึ้นมาทันที“นานเ

  • พาลินโดรม   29.ย่ากับยาย

    คุณแพรเพ็ญและจอห์นสามีใหม่บินกลับมาทันทีหลังจากดลธรรมโทรไปบอกว่าย่าของเบจิงจะพาเบจิงไปอยู่ด้วยเธอเสียลูกสาวไปคนหนึ่งแล้วจึงไม่อยากจะเสียหลานชายไปอีกคน เพราะรู้ว่าที่ฝ่ายนั้นอยากพาเบจิงไปก็เพื่อต่อรองกับดลธรรมให้รับผิดชอบเด็กในท้องของปณิชญาเท่านั้น“คุณยายครับ ตาจอห์นบอกว่าที่บ้านตามีหิมะด้วยจริงไหมครับ”“จริงสิ เบจิงอยากไปดูหิมะไหม”“อยากไปครับ แต่เบจิงต้องไปโรงเรียนคงไปกับคุณยายไม่ได้”“ที่นั่นก็มีโรงเรียนครับ เดี๋ยวยายจะให้เบจิงดูนะครับว่าโรงเรียนที่นั่นเป็นยังไงบ้าง อยากดูไหมครับ”“อยากดูครับ พี่ลินมาดูด้วยกันไหม” เบจิงเรียกพาลินที่กำลังเดินถือผลไม้จานใหญ่ให้มาดูด้วยกันอีกคนแพรเพ็ญเปิดคลิปแนะนำโรงเรียนประถมในประเทศออสเตรียให้กับหลานชายดู เพราะเธอกับสามีคุยกันแล้วว่าจะรับเบจิงไปอยู่ที่นั่นในฐานะลูกชายของทั้งสองคนดลธรรมก็เห็นด้วยกันมารดาเพราะอยากให้เบจิงมีอนาคตที่ดี ลำพังเขากับพาลินคนดูแลเด็กชายได้ไม่ดีพอแต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเบจิงว่าอยากจะย้ายไปอยู่ที่นั่นไหม ตอนนี้ทั้งมาลีและป้าสายก็เริ่มฝึกภาษาอังกฤษกับจอห์นเพราะแพรเพ็ญอยากให้สองนั้นย้ายไปอยู่ด้วยกันทุกคนที่นี่เตรียมวางแผนก

  • พาลินโดรม   28.ข้อแลกเปลี่ยน

    สามเดือนแล้วที่แพรรดาจากไปและเบจิงอยู่กับดลธรรมและพาลินในบ้านหลังใหญ่ ชีวิตของเด็กชายกลับมาสดใสอีกครั้ง เสียงหัวเราะดังออกมานอกบ้านจนคนที่เพิ่งมาถึงยิ้มอย่างพอใจ“สวัสดีครับคุณย่า” เบจิงยกมือทักทายผู้เป็นย่าที่เจอกันครั้งสุดท้ายในงานศพของผู้เป็นมารดา“น้าชายเราไปอยู่ไหนแล้วล่ะ”“มีธุระอะไรกับผมเหรอครับแม่” ดลธรรมยังเรียกเธอว่าแม่อย่างเดิมเพราะอยากให้เกียรติในฐานะที่เธอเป็นย่าของเบจิงเขาค่อนข้างแปลกใจที่คุณปราณีมาหาถึงที่บ้าน เพราะตลอดหลายเดือนมานี้ท่านไม่เคยแวะมาที่นี่เลยสักครั้ง“แม่เรากลับไปแล้วใช่ไหม” คุณปราณีถามถึงแพรเพ็ญ“เพิ่งบินกลับไปสองวันก่อนมีธุระอะไรกับท่านหรือเปล่าครับ”“เปล่า แม่แค่อยากคุยกับโดมสักหน่อย”“ได้ครับ เบจิงไปหาพี่ลินก่อนนะครับน้าขอไปคุยธุระกับคุณย่าก่อน”“ครับน้าโดม”ชายหนุ่มพาคุณปราณีมายังห้องทำงานของตนเองที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของพี่สาวและพี่เขย“โดม แม่จะคุยกับเราเรื่องเบจิง”“มีอะไรเหรอครับ“แม่จะพาเบจิงไปอยู่ด้วย”“แต่เบจิงอยู่กับผมก็มีความสุขดี แม่ก็เห็นว่าเขากลับมาร่าเริงแล้ว”“แต่แม่อยากให้หลานไปอยู่กับแม่”“ผมว่าแม่ไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนั้นนะครับ“มีสิ

  • พาลินโดรม   27.รอคอย

    งานศพของปรานต์ผ่านมาแล้วสองสัปดาห์ แต่ภรรยาของเขาก็ยังคงนอนไม่ได้สติ แผลจากภายนอกร่างกายนั้นหายดีแล้ว แต่สมองของเธอยังคงบวมอยู่หมอต้องผ่าตัดระบายเลือดออกอีกครั้ง แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลยมารดาของดลธรรมและสามีใหม่บินมาร่วมงานศพของลูกเขยจากนั้นก็อยู่ดูอาการของแพรรดาต่ออีกสองวันจึงบินกลับส่วนครอบครัวของปรานต์ไม่ได้สนใจมาเยี่ยมพี่สาวของเขาเลย ฝ่ายนั้นบอกแต่ว่ายังทำใจไม่ได้ที่เสียลูกชายไปตอนนี้ดลธรรมต้องทำงานทั้งบริษัทตัวเองและบริษัทของพี่สาวซึ่ง นับว่าเป็นงานค่อนข้างหนัก เขาเองเพิ่งมาเริ่มศึกษางานก่อนหน้านี้ไม่นานเท่าไหร่ทางด้านพาลินก็ยุ่งไม่แพ้กันนอกจากจะต้องฝึกงานแล้วยังต้องแบ่งเวลามาดูแลเบจิงและแวะไปเยี่ยมแพรรดาที่โรงพยาบาลทุกวันก่อนหน้านี้เบจิงอาละวาดบ้านแทบแตกเด็กชายไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงทิ้งเขาไปแล้วทำไมแม่ถึงยังไม่ยอมตื่นในทุกวันพาลินต้องพาเด็กชายไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาล แม้ว่าหมอจะไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมเพราะกังวลเรื่องการติดเชื้อ แต่เบจิงก็มองเห็นมารดาของตนเองผ่านกระจก“แม่ครับวันนี้เบจิงมาเยี่ยมแล้วนะครับ แม่หายไวๆ นะครับ รีบตื่นนะครับแม่” ประโยคเดิมที่เด็

  • พาลินโดรม   26.ไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนี้

    บ่ายวันอาทิตย์พาลินและดลธรรมไม่ได้ออกไปไหนทั้งสองสั่งอาหารมาทางที่ห้อง พาลินนั่งตรวจทานตัวเลขในบัญชีของบริษัทซึ่งแพรรดาให้ช่วยกันดูอีกรอบว่ามีจุดไหนผิดพลาดไปบ้างเพราะจะต้องส่งตัวเลขทั้งหมดให้กับสรรพากรในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนดลธรรมเองก็ได้รับมอบหมายงานจากพี่เขยให้ช่วยดูเอกสารสัญญาต่างๆ ที่บริษัทกำลังจะเซ็นสัญญา“พี่โดมเย็นนี้ผมจะไปเอาของที่หอนะครับ”“ไปกี่โมงเดี๋ยวพี่ไปส่ง”“ไม่เป็นไรผมไปคนเดียวได้พี่ทำงานต่อเถอะ”“ได้ยังไง ต้องไปส่งสิ”“งานตัวเองก็ยุ่งอยู่แล้วจะเสียเวลามาส่งผมอีกทำไม ผมไปเองก็กลับเองได้ ไม่นานหรอกครับ”“ไม่เอาจะไปด้วย ไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว ขากลับจะได้หาอะไรกินเลยดีไหม แล้วเรื่องรถเซลล์ว่ายังไงบ้าง”“อาทิตย์หน้าก็ได้แล้วครับ”พาลินตัดสินใจซื้อรถยุโรปราคาเกือบสามล้านเพราะบังเอิญว่าคุณยายของเขาได้ข่าวว่าหลานชายจะซื้อรถก็เลยเป็นคนจ่ายเงินให้ จากรถญี่ปุ่นที่ดูไว้เลยกลายเป็นรถหรูยี่ห้อเดียวกับดลธรรมต่างกันแค่สีและขนาด รถดลธรรมสีดำส่วนของเขานั้นสีขาว“เร็วดีเหมือนกันนะ แต่ได้รถแล้วก็อย่าคิดจะไปไหนคนเดียว ยังไงพี่ก็ต้องไปด้วย”“ถ้าผมไปเรียนล่ะ จะไปด้วยไหม” พาลินแกล้งถามเ

  • พาลินโดรม   25.จะนับทำไม nc

    เสียงจูบแลกลิ้นดังอย่างต่อเนื่อง เมื่ออารมณ์ของคนทั้งสองกำลังทะยานขึ้นสูงอีกครั้งตอนนี้พาลินคร่อมอยู่เหลือร่างของดลธรรมที่กึ่งนั่งกึ่งนอนแผ่นหลังพิงอยู่กับหมอนใบใหญ่ ฝามือมือร้อนลูบตามผิวเนียน ก่อนจะนวดบั้นท้ายที่สัมผัสทีไรก็รู้สึกจนไม่อยากจะปล่อยพาลินสั่นสะท้านเมื่อรู้สึกว่าความร้อนของท่อนเอ็นกำลังถูอยู่ตรงช่องทางด้านหลังดลธรรมบีบเจลใส่มือแล้วกดนวดขณะที่ปากก็ยังจูบนัวเนียกันอยู่“อื้อ..”เขายกสะโพกขึ้นให้คนพี่สอดนิ้วเข้าไปทีละนิด สองมือเกาะบ่าดลธรรมไว้แน่น ปากที่จูบประกบอยู่เปลี่ยนเป็นดูดแรงตรงลำคอเพื่อระบายความเสียว ยิ่งเขาเพิ่มจำนวนนิ้วพาลินก็ขาสั่นเห็นท่าทางไม่ไหวของพาลินแล้วดลธรรมรีบหยิบถุงยางสวมให้กับตนเอง พออาวุธพร้อมรบก็ประคองสะโพกคนน้องขึ้นสูง จ่อท่อนเอ็นเข้ายังช่องทางคับแน่น“อื้อ พี่...”พาลินพยายามห้ามเสียงร้องของตัวเองแต่มันก็ยังเล็ดลอดออกมาอยู่ดีเขากดสะโพกลงอย่างช้าๆ เพราะรู้ถ้าทิ้งตัวลงมาคงได้จุกแน่ๆ ก็เจ้ามังกรของคนพี่นั้นไม่ธรรมดาเลยทั้งขนาดและความยาว ไม่รู้ว่าชาติแล้วทำบุญด้วยข้าวหลามหรือยังไงพระเจ้าถึงได้ให้มาทั้งยาวและใหญ่เช่นนี้“อ่าห์..แน่นฉิบ ดีเป็นบ้าเลย”

DMCA.com Protection Status