สายวันอาทิตย์พาลินทำความสะอาดห้องจนสะอาด จากนั้นก็เอาชุดนักศึกษาไปส่งที่ร้านซักรีด วันจันทร์หน้าเขาต้องกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยก่อนจะเริ่มต้นฝึกงานในสัปดาห์ถัดไป
ร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ กับหอพักกลับมาคึกคักอีกครั้ง พาลินนั่งทานข้าวกับเพื่อนร่วมหอพักคนหนึ่ง เขาไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวแต่ก็เคยเห็นหน้ากันบ้าง ทั้งที่มหาวิทยาลัยและที่หอพัก เขายิ้มทักทายจากนั้นก็นั่งทานของตัวเองจนอิ่ม
หอนี้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมาก ค่าเช่าก็เลยมากตามไปด้วย คนอื่นอาจแชร์กันอยู่สองหรือสามคน แต่พาลินเลือกที่จะอยู่คนเดียวเพราะตอนเข้ามาเรียนที่นี่เขายังไม่ไว้ใจใครถึงขั้นให้มานอนด้วย แม้จะเหงาแต่ก็มีเพื่อนที่ไปมาหาสู่กันตลอด
อีกอย่างเรื่องค่าเช่าก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะถึงแม้จะไม่มีบิดามารดาแต่พาลินก็มีเงินจำนวนหนึ่งที่เขาได้จากประกันชีวิตของบิดามารดารวมถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่ปู่กับย่าของเขาส่งให้
กลับมาบนห้องก็นอนเล่นมือถือจนเบื่อ จึงโทรศัพท์ไปหามีนากับพราวรุ้ง แต่สองคนนั้นยังไม่กลับมาจากบ้าน จะไปคอนโดของดลธรรมก็รู้สึกเกรงใจ
“เฮ้อ! เหงาชะมัด” พาลินบ่นก่อนจะล้มตัวลงนอน แล้วเขาก็หลับยาวจนเย็น
พอตื่นมาก็คว้าโทรศัพท์มาดูเวลา จึงเห็นว่าดลธรรมไลน์มาถามว่าจะเขามาที่คอนโดหรือเปล่า ตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้ว และหลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมงก็มีรูปพิซซ่าตามมา พร้อมกับข้อความที่บอกว่าสั่งพิซซ่ามารอ
เขารีบโทรกลับไปหาอีกคนทันที
“พี่โดม”
“ว่าไง”
“พิซซ่าหมดยังครับ”
“ใครจะกินหมดกันล่ะ ว่าแต่เราเถอะยุ่งอะไรอยู่ไลน์ไปไม่อ่านเลย”
“ไม่ได้ยุ่งหรอกครับ แต่หลับเพิ่งตื่น ขอโทษนะครับที่ไม่รีบตอบ”
“ไม่เป็นไร แล้วตกลงยังไงจะมาไหม”
“ครับ ไม่เกินครึ่งชั่วโมง ที่ห้องมีไมโครเวฟไหมครับ”
“มี จะอุ่นพิซซ่าเหรอ”
“ครับเดี๋ยวผมไปอุ่นเองพี่จะเอาอะไรเพิ่มไหมครับ”
“อยากกินน้ำอัดลม”
“เดี๋ยวผมซื้อเขาไปละกัน”
พาลินรีบอาบน้ำแต่งตัว เรียกแท็กซี่ให้ตรงไปร้านสะดวกซื้อที่ใกล้สุด เขาให้แท็กซี่จอดรอที่หน้าร้าน เลือกน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาลและขนมอีกหลายถุงก่อนจะกลับขึ้นมาอีกครั้งแล้วบอกคนขับไปยังคอนโดของดลธรรมทันที
กดลิฟต์ขึ้นมายังห้องที่เขาบอก กดออดและรอจนเจ้าของห้องเดินมาเปิดจึงเข้าไป
“สวัสดีครับพี่โดม ขอโทษทีผมมาช้าไปหลายชั่วโมงเลย”
“ไม่เป็นไร ยังดีกว่าไม่มา แล้วหิ้วอะไรมาเยอะเลย” คนตัวสูงกว่าเข้ามารับถุงจากมือของพาลินแล้วเดินนำไปวางบนเคาน์เตอร์ในห้องครัว
พาลินเดินตามพลางสำรวจห้องของชายหนุ่มไปด้วย ห้องของดลธรรมกว้างกว่าห้องของอดีตคนรักอยู่มาก เพราะห้องนั้นมีเพียงหนึ่งห้องนอนกับหนึ่งห้องน้ำเท่านั้น
“ทำไมกินไปชิ้นเดียวล่ะครับ” เขาถามเจ้าของห้องเมื่อเห็นว่าพิซซ่าสองถาดหายไปแค่ชิ้นเดียว
“ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่”
“ครับ ผมนึกว่ารอกินพร้อมกัน” พาลินพูดตามที่คิด แต่อีกคนทำหน้าไม่ถูกยังดีที่ตอนนี้เข้าหันหลังให้กับพาลิน
“กินอีกไหมครับ ผมจะได้อุ่นเผื่อ”
“ก็ได้ อุ่นแล้วยกตามมาหน้าทีวีนะ”
“ครับ”
พาลินอุ่นพิซซ่าทั้งหมด จากนั้นก็เดินตามดลธรรมไปยังหน้าทีวี
“สตรีมเกมเหรอครับ” เขามองไปบนหน้าจอทีวีขนาดใหญ่แล้วหันมาถามเจ้าของห้อง
“อือ บริษัทส่งของให้เขาน่ะ เลยจะดูสักหน่อยว่าเป็นไงบ้าง เราอยากดูอย่างอื่นก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ดูในไอแพดเอง”
“ไม่เป็นไรครับ ตามสบายเลย ปกติผมไม่ค่อยดูทีวีอยู่แล้ว”
ดลธรรมเบาเสียงทีวีที่เขาสะท้อนภาพจากไอแพดจากนั้นก็หยิบพิซซ่าขึ้นมากัดด้วยความหิว
อันที่จริงเขาหิวมากเลยทานไปหนึ่งชิ้นระหว่างที่รอให้พาลินอ่านไลน์ เขาจะทานก่อนก็ได้ แต่คิดว่าทานพร้อมกับพาลินคงจะอร่อยกว่าทานคนเดียว
ชายหนุ่มส่งกระป๋องน้ำอัดลมให้พาลิน หลังจากที่คนตัวเล็กทานไปสองชิ้นก็บอกว่าอิ่ม
“ทำไมกินนิดเดียว”
“ผมกินข้าวไปตอน 11 โมงครับ เลยยังไม่หิว แต่เดาว่าพี่คงยังไม่ได้กินอะไรเลยใช่ไหมล่ะ”
“อือ” เขาตอบพลางหยิบชิ้นที่สี่ขึ้นมากัดอย่างเอร็ดอร่อย
พิซซ่าหมดไปหนึ่งถาดดลธรรมก็อิ่มจนจุก แต่เพราะบอกพาลินว่าจะมาว่ายน้ำด้วยกันเขาจึงต้องทำอย่างที่พูดไว้
“เอากางเกงว่ายน้ำมาไหม เอาชุดมาเปลี่ยนหรือเปล่า”
“เอามาครับ ว่าแต่พี่จะว่ายไหวไหมครับ”
“ไหวสิ แต่คงไม่ใช่ตอนนี้ อีกสักชั่วโมงค่อยลงไปก็ได้ แดดไม่ร้อนด้วย”
“ก็ดีเหมือนกันครับ พี่ดูต่อเถอะเดี๋ยวผมเอาไปเก็บเอง” พูดพลางเก็บถาดพิซซ่าไปไว้ที่ห้องครัว จากนั้นก็กลับมานั่งที่โซฟา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าไลน์กลุ่มดูว่ามีนาและพราวรุ้งคุยอะไรกันบ้าง แล้วก็ตกใจเมื่อเห็นว่าตอนนี้ในกลุ่มมีสมาชิกใหม่เข้ามาอีกคน
“ผมขอออกไปคุยโทรศัพท์ตรงระเบียงได้ไหม” พาลินไม่อยากรบกวนเขาที่กำลังนั่งมองหน้าจออย่างตั้งใจ
“คุยตรงนี้แหละข้างนอกมันร้อน” พูดจบเขาก็ปิดทีวีก่อนพลางหยิบแอร์พอดร์ตขึ้นมาใส่ที่หูแล้วลุกไปนั่งโซฟาอีกตัว
พาลินเห็นเขาสนใจกับไอแพดตรงหน้าก็เลยรีบโทรไปหามีนาเป็นคนแรก
“มีนา เพื่อนในกลุ่มใครเหรอ”
“จำไม่ได้เหรอ นั่นลุงรหัสเราไง”
“อ๋อ พี่กุล แล้วทำไมถึงเพิ่มเข้ากลุ่มเรา”
“พวกเราต้องไปฝึกงานก็เลยดึงพี่เขาเข้ากลุ่มเผื่อมีปัญหา”
“ก็ดีเหมือนกันนะ ว่าแต่รุ้งโอเคใช่ไหม” พาลินรู้ว่าพราวรุ้งชอบพี่กุลแต่อีกฝ่ายไม่เคยรู้
“อือ เราบอกแล้วรุ้งก็ไม่ได้ว่าอะไร พาลินก็รู้นี่ว่าตอนนี้รุ้งมันปลื้มคนอื่นไปแล้ว”
“นั่นสิ ผู้หญิงนี้เปลี่ยนใจเร็วจริงๆ”
“ว่าแต่ลินเถอะ ทำใจเรื่องพี่กันต์ได้แล้วใช่ไหม”
“ทำใจได้แล้ว”
“สนใจพี่กุลไหม หล่อดีนะ”
“ไม่ล่ะ ไม่ใช้สเปกเลยพี่เขาดูสุภาพเกินไปอยู่ด้วยกันคงเกร็งแย่”
“สเปกพาลินเป็นแบบไหน”
“ขอแค่นิสัยดี รักเราคนเดียวก็พอแล้ว อ้อเกือบลืมข้อสำคัญเลย”
“อะไร”
“ถ้าตกลงคบเขาต้องยอมให้เราอยู่ใกล้ มีนาก็รู้ว่าเราขี้เหงา ถ้ามีแฟนก็อยากอยู่ด้วยกันตลอด ตอนคบกับพี่กันต์เราก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ที่แยกกันอยู่ มันอาจดูน่ารำคาญและเห็นแก่ตัว แต่เราคิดว่าครั้งต่อไปจะคบกับใครคงต้องบอกเขาก่อนว่าเราขี้เหงามากและอยากให้เขาอยู่กับเราตลอด”
“มีนาขอให้พาลินเจอคนที่ใช่”
“เราก็อยากเจอนะ อยากเจอคนที่ใช่ คนที่ให้เราอ้อนได้ตลอด”
ทุกคำพูดของพาลินนั้นดลธรรมฟังอยู่ตลอด ถึงเขาจะใส่แอร์พอร์ตที่หูแต่เขาก็ไม่ได้เปิดเสียง แล้วพอได้ยินว่าพาลินชอบคนแบบไหนดลธรรมก็ยิ้ม เพราะเขาเองถ้ามีแฟนก็อยากทำตัวติดกับแฟนและชอบให้แฟนอ้อน
นึกภาพตอนที่พาลินกำลังอ้อนเขาแล้วก็รู้สึกใจเต้นแรงขึ้นกว่าเดิม ชายหนุ่มรีบก้มหน้ามองไอแพด แต่หูยังคงฟังพาลินคุยกับเพื่อนจนกระทั่งวางสายไปพักใหญ่จึงทำทีเป็นว่าตัวเองก็เพิ่งดูสตรีมเกมจบ
“พี่โดมดูจบแล้วเหรอครับ”
“อือ ขอโทษนะ ดูนานไปหน่อย เราล่ะคุยกับเพื่อนเสร็จนานหรือยังจะไปว่ายน้ำเลยไหม”
“เพิ่งเสร็จครับไปเลยก็ได้ผมขอให้ห้องน้ำหน่อยได้ไหม”
“เอาสิ” ดลธรรมชิ้นไปยังห้องน้ำสำหรับแขกส่วนเขาเดินเข้าไปเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำในห้องนอนตัวเอง
ดลธรรมสวมกางเกงว่ายน้ำและเสื้อยืดพร้อมกับถือผ้าเช็ดตัวมาสองผืนสำหรับตัวเองและพาลิน
พาลินสวมกางเกงว่ายน้ำขาสั้นกับเสื้อยืดตัวโตยาวคลุมบั้นเอวลงมาเล็กน้อย พอออกมาจากห้องเห็นว่าตอนนี้ดลธรรมสวมแค่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียวใบหน้าของเขาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
“พี่โดมจะลงไปแบบนี้เหรอครับ”
“อือ ทำไม”
“ผมว่าใส่เสื้อไปหน่อยดีไหม” ที่บอกเขาใส่เสื้อไม่ใช่กลัวเขาจะโป๊แต่กลัวว่าตัวเองจะทำตัวไม่ถูกต่างห่าง
“งั้นเรอเดี๋ยวนะ” ดลธรรมยืนผ้าเช็ดตัวให้พาลินแล้วตัวเองก็เดินเข้าห้องไปอีกครั้ง
พาลินพยายามควบคุมลมหายใจของตนเองอย่างลำบาก เขายอมรับว่าหุ่นของดลธรรมเป็นหุ่นที่เขาชอบมากที่สุด หน้าท้องเป็นลอนสวย ไม่ได้ขึ้นรูปชัดเจนแต่มองออกว่าเจ้าของคงออกกำลังกายเป็นประจำ ไหล่กว้างแต่ช่วงเอวสอบเข้า มีรอยรูปตัววีเล็กน้อยเห็นแล้วอยากเอื้อมมือไปสัมผัส
เขารีบสลัดภาพของดลธรรมไปออกไปจากความคิดก่อนจะตะโกนบอกคนที่เดินเข้าไปให้หยิบชุดสำหรับเปลี่ยนมาหลังว่ายน้ำเสร็จมาด้วย ส่วนตัวเองนั้นเตรียมใสกระเป๋าไว้แล้ว
ดลธรรมเดินออกมาจากห้องพร้อมกับชุดสำหรับเปลี่ยนในมือ
“กระเป๋าเต็มหรือยัง ฝากได้ไหม”
“ยังครับ พี่ยัดลงมาเลย” เขาเปิดซิปให้อีกคนใส่ชุดของตัวเองลงไปในนั้น
“ลืมอะไรไหม”
“ไม่ครับ พี่โดมล่ะ ไม่เอาโทรศัพท์ไปเหรอครับ”
“ไม่ละ วันอาทิตย์ไม่มีใครติดต่อเรื่องงานหรอก”
“เผื่อมีเรื่องด่วนล่ะครับ”
“ถ้าด่วนก็โทรเข้าคอนโดเดียวนิติก็มาตามเอง ถ้าพาลินติดต่อพี่ไม่ได้ก็โทรมาที่คอนโดนะ เดี๋ยวพี่จะให้เบอร์ที่ทำงานกับที่นี่ไว้”
ทั้งสองออกจากห้องพักและพากันขึ้นลิฟต์มายังชั้นดาดฟ้าซึ่งมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่บนนี้“ทำตัวตามสบายไม่ต้องกลัวจะเจอเขาหรอกน่า” ดลธรรมเห็นอีกคนหันซ้ายหันขวามองไปรอบสระก็พูดขึ้น“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย ผมก็แค่สงสัยว่าทำไมคนน้อยจัง” เพราะเป็นเย็นวันอาทิตย์แต่บริเวณสระว่ายน้ำกลับมีคนว่ายน้ำอยู่ไม่กี่คน แถมยังเป็นชาวต่างชาติด้วย“ก็น้อยแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ดีเหรอ”“ดีครับ ผมว่ายไม่เก่งจะได้ไม่อายใคร” ว่าแล้วเขาก็ถอดเสื้อยืนตัวยาวออกจากนั้นก็นั่งห้อยขาอยู่ริมขอบสระดลธรรมถอดเสื้อของตัวเองออกบ้างจากนั้นเขาก็ลงไปในสระ หันมามองพาลินก็ต้องแอบกลืนน้ำลาย เพราะนอกจากผิวขาวแล้วชายหนุ่มคนน้องยังมีกล้ามเล็กสมส่วน ดูก็รู้ว่าคงออกกำลังอยู่บ่อยๆ เขาเห็นว่าชายหนุ่มเป็นคนตัวเล็กแต่ไม่คิดว่าจะมีร่างกายที่สวยงามเช่นนี้“ไม่ลงมาเหรอ” ดลธรรมว่ายมาใกล้ เกยคางกับขอบสระเอียงคอถาม ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งเห็นร่างกายของอีกคนชัดขึ้นลมหายใจเขาสะดุดแต่ต้องรีบปรับสีหน้าเป็นปกติก่อนจะว่ายออกห่างขึ้น พาลินกระโดดแล้วว่ายตามเขาไประหว่างว่ายน้ำกันอยู่นั้นก็มีคนในคอนโดว่ายเข้ามาทักทายดลธรรมเป็นระยะ ดูเหมือนเขาจะเป็นขวั
พาลินรู้สึกตัวในเวลาหกโมงเช้าเพราะเมื่อคืนดื่มไปเยอะจึงอยากเข้าห้องน้ำ พอลืมตามองก็เห็นว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้อยู่ที่หอพักของตนเอง และยังนอนอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนหนึ่งภาพเหตุการณ์เมื่อคืนพาลินจำได้ไม่ทั้งหมดแต่ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้ว่าความสัมพันธ์ไม่ได้ลึกซึ้งแต่เขาก็ไม่คิดว่าระหว่างตัวเองกับดลธรรมจะทำอะไรแบบนั้นที่ผ่านพาลินเข้าใจมาตลอดว่าดลธรรมนั้นเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงแต่ความรู้สึกที่รับรู้ได้ เขามั่นใจว่าดลธรรมต้องเคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนอย่างแน่นอนไม่รู้ว่าที่เกิดขึ้นเพราะเมาด้วยกันทั้งคู่หรือเพราะจริงๆ แล้วต่างฝ่ายต่างมีใจให้กัน แต่พาลินก็อายเกินกว่าจะอยู่สู้หน้าเขา ชายหนุ่มคิดว่าจะถอยไปตั้งหลักที่หอของตนเองก่อน อย่างน้อยก็ได้ทบทวนความรู้สึกของตนเองที่มีต่อดลธรรมอีกครั้งพาลินกลับมาถึงห้องพักก็รีบอาบน้ำแปรงฟัน พอเห็นรอยแดงที่ซอกคอก็อดคิดถึงใบหน้าของคนทำให้เกิดรอยไม่ได้ ร่างกายรู้สึกร้อนขึ้นมาอีกครั้ง ความเป็นชายตื่นตัวอย่างคุมไม่อยู่ พาลินหลับตานิ่งสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามข่มความต้องการ แต่มันไม่ได้ผลเลยสักนิดเขาต้องช่วยตัวเองอย่างที่เคยทำ แต่ครั้งนี้นึกถึงใบหน้าแดงก่ำของดลธรร
ทั้งสามคนพากันมาเดินที่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นห้างที่พาลินและดลธรรมเคยมาเดินด้วยกัน มันทำให้พาลินคิดถึงเขาอย่างห้ามไม่ได้ ไม่รู้เพราะคิดถึงมากเกินไปหรือเปล่าเพราะตอนนี้พาลินเห็นผู้ชายคนหนึ่งในร้านโทรศัพท์ดูยังไงก็เหมือนดลธรรมเขาหยุดเดินจนเพื่อนที่เดินนำหน้าไปแล้วเดินกลับมาตาม“มีอะไรหรือเปล่า” พราวรุ้งถามขึ้น“เราว่าเราเจอพี่โดม” ชายหนุ่มชี้ไปยังร้านโทรศัพท์ที่ข้างหน้า“เข้าไปทักไหม”“ไม่ดีกว่า เผื่อเขามาทำธุระ” พาลินไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกับเขายังไง จึงเลี่ยงจะเดินไปอีกทางแล้วก็รู้สึกถึงแรงสั่นของมือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงพอล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นสายโทรเข้าจากดลธรรม“รับเลย” มีนารีบบอกพลางมองไปยังคนที่กำลังโทรเข้าซึ่งเพิ่งเดินออกมาจากร้านโทรศัพท์“สวัสดีครับพี่โดม” พาลินทำเสียงเรียบทั้งที่ในใจเต้นแรงเพราะดีใจที่เขาโทรมาหา“ขอโทษนะครับที่เพิ่งโทรมาพอดีโทรศัพท์พังแล้วพี่ก็ต้องรีบไปจีนเพิ่งกลับมาถึง พาลินอยู่ไหน กินข้าวหรือยัง พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”“ผมมาเดินเที่ยวกับเพื่อนครับ ยังไม่ได้กินข้าว พี่ล่ะกินหรือยัง” พอรู้เหตุผลที่เขาเงียบไปรู้สึกดีขึ้นจนเผลอ
“พาลิน”“ครับ”“รีบไปไหนหรือเปล่า”“ไม่ครับ”“ขับรถให้พี่ได้ไหม อย่างงีบสักหน่อย”เพราะตั้งแต่ไปจีนก็แทบไม่ได้นอนพักเลย อยู่บนเครื่องเกือบห้าชั่วโมงก็นอนไม่หลับ เพราะไฟล์ทที่เขาบินนั้นมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเกือบทั้งลำ ถึงแม้จะเป็นชั้นธุรกิจแต่ก็ไม่อาจเลี่ยงความวุ่นวายได้“ไปง่วงมาจากไหนครับ” พาลินถามเมื่อเห็นว่าเขาหาวไปหลายรอบแล้ว“งานยุ่งนิดหน่อย”“งั้นก็หลับเลยถ้าถึงแล้วผมจะปลุกเอง คงอีกสักพักใหญ่เลย” พาลินมองไปด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซึ่งตอนนี้รถติดยาวเข้ามาถึงลานจอดรถ“ขอบคุณครับ”ดลธรรมปรับเบาะให้เอนลงจากนั้นก็ตะแคงข้างหันหน้ามาทางพาลิน พลางหยิบแว่นกันแดดที่เสียบอยู่ตรงที่บังแดดมาสวมใจอยากนั่งมองหน้าคนที่ทำให้ต้องรีบกลับมาก่อนกำหนด แต่ร่างกายก็สู้ไม่ไหว ชายหนุ่มหลับก่อนที่รถจะออกมาถึงถนนเส้นหลักด้วยซ้ำเพราะรถติดจนแทบไม่ขยับทำให้คนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยแอบมองหน้าอีกคนได้บ่อยขึ้นดลธรรมเป็นคนผิวขาวถึงแม้จะน้อยกว่าตัวเองแต่ถ้าเทียบกับคนอื่นก็ยังขาวอยู่มาก จมูกของเขาโด่งเป็นสัน คิ้วหนาเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ เขารู้จากพี่แพรรดาว่าทั้งเธอและดลธรรมเป็นลูกเสี้ยวแต่จำไม่ได้ว่าเป็นสัญช
ดลธรรมตื่นนอนตั้งแต่เช้าแต่เพราะวันนี้ไม่ต้องรีบเข้าบริษัทเขาเลยไม่ต้องรีบลุกจากที่นอน อีกอย่างก็รู้สึกดีที่ตอนนี้พาลินยังนอนกอดตนเองอยู่เขาฉวยโอกาสหอมแก้มชายหนุ่มไปหลายทีแต่คนขี้เซาก็ยังคงหลับลึก กว่าพาลินจะรู้สึกตัวตัวก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง“มอร์นิ่ง พาลิน”“มอร์นิ่งครับ” พาลินขยับตัวออกแต่ก็โดนอีกคนรั้งไว้“จะรีบไปไหน ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ”“ไม่มีเรียนครับ พี่ล่ะ ไม่รีบไปทำงานเหรอครับ”“วันนี้ไม่ต้องเขาบริษัทครับ ว่าจะอยู่กับเราทั้งวัน”“อยู่กับผมทำไมครับ”“พาลินบอกเองว่าถ้ามีแฟนก็อยากอยู่กับแฟนตลอด”“ผมบอกอย่างนั้นก็จริง แต่ผมกับพี่เราไม่ได้เป็นแฟนกัน”“ซ้อมไว้ก่อนก็ได้นี่ครับ หรือว่าจะเป็นแฟนกันตอนนี้ก็ได้ สนใจไหม”“ไม่เป็นไรครับผมไม่รีบ”“แต่พี่รีบ” ดลธรรมขยับเข้าใกล้จนปากของทั้งสองเกือบจะชนกัน“พี่โดมอย่า ผมยังไม่แปรงฟัน” พาลินรู้ว่าอีกคนกำลังจะทำอะไร เขารีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองย่างรวดเร็ว“พี่ก็ไม่ได้แปรงเหมือนกัน” จบประโยคเขาก็ดึงมือของพาลินออก จากนั้นปากของทั้งสองก็แนบชิด จูบรับวันใหม่ที่อบอุ่นและอ่อนโยนทำให้พาลินหลงไปกับความวาบหวามที่เขามอบให้ กว่าดลธรรมจะยอมปล่อยพาลิน
วันนี้ก็ครบสองเดือนแล้วที่พาลินและดลธรรมตกลงเป็นแฟนกับ ไม่มีใครย้ายมาอยู่กับใครอย่างที่เคยพูดไว้ แต่ต่างไปค้างที่ห้องของอีกฝ่ายสลับกันไปเรื่อยเรื่องฝึกงานของพาลินก็ไม่มีปัญหาอะไร ชายหนุ่มเพิ่งรู้ว่าบริษัทที่ตัวเองไปฝึกนั้นเป็นของแพรรดาก็วันที่มาฝึกงานวันแรก เขาโวยวายใส่ดลธรรมที่ไม่ยอมบอกตนเองตั้งแต่แรก ดลธรรมเลยถามกลับว่าถ้าบอกแล้วจะเปลี่ยนอะไรได้ไหม พาลินเลยหยุดโวยวายแต่ก็งอนไปหลายวันแพรรดารู้แล้วว่าดลธรรมกับพาลินตกลงคบกัน เธอจึงตั้งใจสอนงานพาลินและมีนาอย่างเต็มที่เพราะอยากได้คนที่ไว้ใจมาช่วยงานด้านนี้อยู่แล้ว“วันนี้ไปทานข้าวเย็นที่บ้านกับพี่ไหมพาลิน เบจิงบ่นคิดถึงมาหลายวันแล้ว” แพรรดาตรวจงานเสร็จก็เงยหน้าขึ้นคุยกับนักศึกษาฝึกงานคนโปรด“ได้ครับ ผมก็อยากเจอเบจิงเหมือนกัน”“งั้นไปพร้อมกันเลยนะ”“เดี๋ยวผมตามไปทีหลังดีกว่าครับ” พาลินไม่อยากในอื่นรู้ว่าเขากับแพรรดารู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพราะกลัวว่าจะกระทบกับการฝึกงาน“นั่นสิ พี่ลืมไปเลยว่าเรามีคนมารับ”“ผมจะรีบตามไปนะครับ”“ได้จ้ะ เบจิงคงดีใจมาก”“พี่แพรอย่าเพิ่งบอกได้ไหมครับ ผมอยากไปเซอร์ไพรส์”“ได้สิ แล้วเจอกันที่บ้านนะ พี่ขอตัวไปร
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มแต่ตอนนี้ทั้งสองคนก็เข้ามาอยู่ในห้องนอนแล้ว คนพี่ทับทาบอยู่ด้านบน ปากที่ประกบจูบลงมาอย่างแผ่วเบาในทีแรกนั้นเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนได้อย่างรวดเร็วทั้งบดจูบทั้งแลกลิ้นกันอย่างไม่ลดละ ร่างกายร้อนราวกับไฟ มือต่างสัมผัสกันและกันอย่างโหยหา เสื้อผ้าถูกดึงรั้งออกอย่างรวดเร็วพาลินเกี่ยวลำคอเขาไว้ ขณะที่ท่อนล่างก็เบียดเข้าหา ฝ่ามือใหญ่กอบกุมความเป็นชายที่มันแข็งชัน รูดรั้งเป็นจังหวะอย่างคนชำนาญ นิ้วโป้งกดนวดส่วนปลายจนน้ำหวานไหลเยิ้มจูบจนหนำใจก็เปลี่ยนไปขบเม้มติ่งหูเล่น ลากลิ้นยาวมายังลำคอขาว ดูดเบาๆ พอให้เกิดรอย“พี่โดม อื้อ มันจะเป็นรอย”เขาไม่สนใจเสียงห้ามของคนที่อยู่ใต้ร่างเลยสักนิด เรียวปากจูบพรมไปทั้งลำคอ ก่อนจะหยอกล้อกับยอดอกสีชมพูระเรื่อ“ทำไมน่ากินไปทั้งตัวอย่างนี้นะ”ดลธรรมอดไม่ได้ที่จะดูดเม็ดทับทิมเข้าปาก ลิ้นก็ตวัดเลีย มืออีกข้างที่ว่างก็บีบแล้วดึงขึ้นอย่างไม่อาจยับยั้ง ร่างกายของคนตัวขาวแดงระเรื่อเพราะอารมณ์วาบหวามที่มันมากขึ้นกว่าทุกครั้ง“ให้พี่นะ พาลิน”เขาเหยียดตัวขึ้นมากระซิบข้างหู“พี่โดมไม่รังเกียจใช่ไหม”อีกคนถามอย่างไม่แน่ใจ“ไม่เลย พี่รอวันนี้ รอวันที
วันนี้ก็ครบสองเดือนแล้วที่พาลินและดลธรรมตกลงเป็นแฟนกับ ไม่มีใครย้ายมาอยู่กับใครอย่างที่เคยพูดไว้ แต่ต่างไปค้างที่ห้องของอีกฝ่ายสลับกันไปเรื่อยเรื่องฝึกงานของพาลินก็ไม่มีปัญหาอะไร ชายหนุ่มเพิ่งรู้ว่าบริษัทที่ตัวเองไปฝึกนั้นเป็นของแพรรดาก็วันที่มาฝึกงานวันแรก เขาโวยวายใส่ดลธรรมที่ไม่ยอมบอกตนเองตั้งแต่แรก ดลธรรมเลยถามกลับว่าถ้าบอกแล้วจะเปลี่ยนอะไรได้ไหม พาลินเลยหยุดโวยวายแต่ก็งอนไปหลายวันแพรรดารู้แล้วว่าดลธรรมกับพาลินตกลงคบกัน เธอจึงตั้งใจสอนงานพาลินและมีนาอย่างเต็มที่เพราะอยากได้คนที่ไว้ใจมาช่วยงานด้านนี้อยู่แล้ว“วันนี้ไปทานข้าวเย็นที่บ้านกับพี่ไหมพาลิน เบจิงบ่นคิดถึงมาหลายวันแล้ว” แพรรดาตรวจงานเสร็จก็เงยหน้าขึ้นคุยกับนักศึกษาฝึกงานคนโปรด“ได้ครับ ผมก็อยากเจอเบจิงเหมือนกัน”“งั้นไปพร้อมกันเลยนะ”“เดี๋ยวผมตามไปทีหลังดีกว่าครับ” พาลินไม่อยากในอื่นรู้ว่าเขากับแพรรดารู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพราะกลัวว่าจะกระทบกับการฝึกงาน“นั่นสิ พี่ลืมไปเลยว่าเรามีคนมารับ”“ผมจะรีบตามไปนะครับ”“ได้จ้ะ เบจิงคงดีใจมาก”“พี่แพรอย่าเพิ่งบอกได้ไหมครับ ผมอยากไปเซอร์ไพรส์”“ได้สิ แล้วเจอกันที่บ้านนะ พี่ขอตัวไปร
สัมผัสที่เร่าร้อนของเรียวปากหยักจูบแลกลิ้นกันอยู่อย่างนั้น พาลินหลงใหลไปกับรสจูบที่คนรักมอบให้ สองมือดันผนังห้องน้ำเอี้ยวคอมาจูบ สะโพกกลมขาวกดแนบชิดกับท่อนเอ็นร้อนเสียงคนพี่ครางในลำคอ เขาอยากกลืนกินคนช่างยั่วตั้งแต่เห็นรูปที่ส่งไปให้ ดลธรรมไม่ลังเลเลยที่จะรีบขับรถกลับมาที่คอนโด แล้วเขาก็ไม่ผิดหวังเมื่อรู้ว่าพาลินกับเขาต่างมีความต้องการเหมือนกัน“พาลินยั่วพี่เองนะครับ”“ถ้าน้องยั่วแล้วพี่ไม่อยากพี่จะกลับมาเหรอ”“นั่นยั่วอีกแล้ว”“น้องยั่วแล้วพี่อยากไหม”“ไม่ยั่วก็อยากครับ ยันผนังไว้นะครับพี่จะลงโทษคนยั่วแล้ว”ดลธรรมจูบไซร้ไปตามท้ายทอยและซอกคอ กัดติ่งหูคนด้านหน้าเบาๆ เพราะเป็นจุดอ่อน แค่นั้นพาลินก็ร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัวฝ่ามือร้อนไล้ไปทั้งแผงอกบีบคลึงเบาๆ บนยอดสีสวย สะโพกก็กดลงไปยังบั้นท้าย เสียงหวานครางแผ่วเบา สะโพกแอ่นโค้งเด่นคนตัวโตกดครีมอาบน้ำสูตรอ่อนโยนลงบนปลายนิ้วกลางจากนั้นลากไปตามช่องทางสีสวยกดลงไปช้าๆ ค่อยเพิ่มจำนวนนิ้วเป็นสองและสาม พาลินครางสะท้านรู้สึกถึงความคับแน่นที่กำลังนวดผนังด้านใน“อื้อ...พี่”เขาสะดุ้งเมื่อจุดอ่อนไหวด้านในถูกกระตุ้นเพียงแค่นั้นตัวตนของเขาก็ปวดหนึบ ม
หลังจากตรวจเสร็จและรับยาแล้วรถกระบะคันเดิมก็มาส่งดลธรรมและพาลินที่สนามบิน“พี่หน้าผมยังมีผื่นอยู่ไหม”“ยังมีอีกนิดหน่อย ใส่มาสก์ไปก่อน”“หมอบอกว่าเดี๋ยวมันก็หายไงครับ”“มันต้องใช้เวลาไง เดี๋ยวกลับถึงกรุงเทพถ้าผื่นยังไม่ยุบลงพี่จะพาไปหาหมออีกรอบ”“ไม่เอาแล้วไม่หาแล้ว ไปอีกก็โดนฉีดยาอีก”พาลินทานยาแก้แพ้ตั้งแต่อยู่บนเขาแต่พอมาถึงโรงพยาบาลผื่นก็ยังไม่หายและดูเหมือนจะขึ้นมากกว่าเดิมหมอเลยต้องฉีดยาเพราะมันได้ผลเร็วกว่า รวมถึงให้ยาทาแก้คันมาด้วยตอนนี้พาลินเลยสีชมพูไปทั้งตัว ยังดีที่เขามีเสื้อคลุมแขนยาวเลยไม่ค่อยอายคนเท่าไหร่แต่ที่ต้องอายก็คงจะเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างเพราะเขาเป็นคนทายาให้กับตนเองทั้งตัว“ยามันง่วงเดี๋ยวขึ้นเครื่องเราจะหลับเลยก็ได้ ถึงแล้วพี่จะปลุกเอง”“บินนานไหมครับ” เพราะขามาเขานั่งรถมาเพื่อนๆ เลยไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่“ไม่นานครับ ประมาณชั่วโมงหนึ่งครับ หลับแป๊บเดียวก็ถึงกรุงเทพแล้ว”“ผมหวังว่าถึงกรุงเทพแล้วผมจะหายนะ”“แต่พี่ว่าอย่าเพิ่งหายเลย ชมพูไปทั้งตัวแบบนี้ก็น่ารักดี”“ไม่ตลกนะครับพี่ มันคันไปทั้งตัวเลย”“อดทนอีกนิดนะครับ ถึงคอนโดจะเอาน้ำเย็นเช็ดให้”พอขึ้นเครื่อง
ดลธรรมไม่อยากให้พาลินพลาดการเข้าค่ายอาสาซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชายหนุ่มทำมาทุกปีตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย และถ้าปีสุดท้ายมาได้เข้าร่วมคงจะเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากถึงแม้จะทั้งหวงทั้งห่วงแต่เขาก็ไม่อยากพรากความทรงจำในวัยเรียนของคนรัก และนั่นก็คือเหตุผลที่ตอนนี้เขามานั่งอยู่ข้างคนขับรถกระบะสีประตูขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดที่นักศึกษามาออกค่ายเดิมทีก็ตกลงจะมาด้วยกัน แต่เพราะเขามีงานที่ยังเคลียร์ไม่เรียบร้อยจึงต้องยอมปล่อยให้คนน้องมาเข้าค่ายกับเพื่อนพาลินงอนนิดหน่อยที่เขาไม่ทำตามที่พูด แต่ก็ตัดสินใจมากับเพื่อน เพราะอยากใช้ชีวิตในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยให้คุ้มค่าที่สุด ส่วนตัวเขาก็รีบเคลียร์งานแล้วตามมาทีหลังโดยไม่ได้บอกพาลินแค่สองสามที่ต้องนอนอยู่คนเดียวเขาก็ทรมานเกินไปแล้ว“อันที่จริงมันก็ไม่ไกลหรอกนะครับ แต่ทางมันค่อนข้างลำบากมันเลยดูเหมือนไกล” เสียงคนขับรถกระบะทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์“ครับ”ดลธรรมให้ลูกน้องที่บริษัทซึ่งบังเอิญเป็นคนพื้นที่ช่วยติดต่อเช่ารถพร้อมคนขับไปส่งที่หมู่บ้านบนเขาชายหนุ่มนั่งเครื่องมาลงที่สนามบินพิษณุโลกตั้งแต่เช้าจากนั้นก็ให้คนขับรถพาไปซื้อไก่ทอด โด
ดลธรรมและพาลินย้ายกลับมาอยู่ที่คอนโดเพราะอยากให้มารดาได้ทำความรู้จักและปรับตัวกับเบจิงได้มากขึ้นแต่เขากับพาลินก็ยังแวะไปทานอาหารเย็นด้วยอยู่บ่อยๆ ดูเหมือนว่าเบจิงจะเข้ากันได้ดีกับคุณยายของตนเองแม้พาลินจะมีรถเป็นของตัวเองแล้ว แต่ดลธรรมก็ยังมารับส่งที่มหาวิทยาลัยเป็นบางวัน“พี่โดม ขอโทษทีครับคุยกับเพื่อนนานไปหน่อย”“ไม่เป็นไร แล้วตกลงเอาไงเราจะไปค่ายกับเพื่อนไหม” ช่วงวันหยุดยาวติดกันชมรมค่ายอาสาจะพากันไปออกค่ายที่พิษณุโลก“กำลังตัดสินใจอยู่ครับ”“ทำไมดูตัดสินใจยากจัง แต่ก่อนเห็นตื่นเต้นจะไป”“ก็ตอนนั้นยังไม่มีแฟน ตอนนี้มีแฟนแล้วติดแฟนครับ”“ฟังคำตอบแล้วชื่นใจจัง”“ถ้าผมไปพี่จะคิดถึงผมไหม”“ถ้าเราไปพี่ก็ไปด้วยครับ ไม่อยากนอนคนเดียว”“ถ้าผมไม่ไปก็เหมือนจะเอาเปรียบคนอื่นอยู่ที่ไม่ช่วยออกแรงอะไรเลย”“แต่พี่ก็ช่วยเรื่องคอมไปตั้ง 10 ชุดแล้วนะครับ”“นั้นมันส่วนของพี่ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย”“ถ้าอยากรู้สึกมีส่วนร่วมกับคอมห้าชุดนั่นก็แค่..”“แค่อะไรครับ” พาลินหันมามองคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย พอเห็นหน้าเขาก็เดาออกทันทีว่าตอนนี้สิ่งที่คนพี่ต้องการคืออะไร เพียงแค่คิดพาลินก็หน้าแดงขึ้นมาทันที“นานเ
คุณแพรเพ็ญและจอห์นสามีใหม่บินกลับมาทันทีหลังจากดลธรรมโทรไปบอกว่าย่าของเบจิงจะพาเบจิงไปอยู่ด้วยเธอเสียลูกสาวไปคนหนึ่งแล้วจึงไม่อยากจะเสียหลานชายไปอีกคน เพราะรู้ว่าที่ฝ่ายนั้นอยากพาเบจิงไปก็เพื่อต่อรองกับดลธรรมให้รับผิดชอบเด็กในท้องของปณิชญาเท่านั้น“คุณยายครับ ตาจอห์นบอกว่าที่บ้านตามีหิมะด้วยจริงไหมครับ”“จริงสิ เบจิงอยากไปดูหิมะไหม”“อยากไปครับ แต่เบจิงต้องไปโรงเรียนคงไปกับคุณยายไม่ได้”“ที่นั่นก็มีโรงเรียนครับ เดี๋ยวยายจะให้เบจิงดูนะครับว่าโรงเรียนที่นั่นเป็นยังไงบ้าง อยากดูไหมครับ”“อยากดูครับ พี่ลินมาดูด้วยกันไหม” เบจิงเรียกพาลินที่กำลังเดินถือผลไม้จานใหญ่ให้มาดูด้วยกันอีกคนแพรเพ็ญเปิดคลิปแนะนำโรงเรียนประถมในประเทศออสเตรียให้กับหลานชายดู เพราะเธอกับสามีคุยกันแล้วว่าจะรับเบจิงไปอยู่ที่นั่นในฐานะลูกชายของทั้งสองคนดลธรรมก็เห็นด้วยกันมารดาเพราะอยากให้เบจิงมีอนาคตที่ดี ลำพังเขากับพาลินคนดูแลเด็กชายได้ไม่ดีพอแต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเบจิงว่าอยากจะย้ายไปอยู่ที่นั่นไหม ตอนนี้ทั้งมาลีและป้าสายก็เริ่มฝึกภาษาอังกฤษกับจอห์นเพราะแพรเพ็ญอยากให้สองนั้นย้ายไปอยู่ด้วยกันทุกคนที่นี่เตรียมวางแผนก
สามเดือนแล้วที่แพรรดาจากไปและเบจิงอยู่กับดลธรรมและพาลินในบ้านหลังใหญ่ ชีวิตของเด็กชายกลับมาสดใสอีกครั้ง เสียงหัวเราะดังออกมานอกบ้านจนคนที่เพิ่งมาถึงยิ้มอย่างพอใจ“สวัสดีครับคุณย่า” เบจิงยกมือทักทายผู้เป็นย่าที่เจอกันครั้งสุดท้ายในงานศพของผู้เป็นมารดา“น้าชายเราไปอยู่ไหนแล้วล่ะ”“มีธุระอะไรกับผมเหรอครับแม่” ดลธรรมยังเรียกเธอว่าแม่อย่างเดิมเพราะอยากให้เกียรติในฐานะที่เธอเป็นย่าของเบจิงเขาค่อนข้างแปลกใจที่คุณปราณีมาหาถึงที่บ้าน เพราะตลอดหลายเดือนมานี้ท่านไม่เคยแวะมาที่นี่เลยสักครั้ง“แม่เรากลับไปแล้วใช่ไหม” คุณปราณีถามถึงแพรเพ็ญ“เพิ่งบินกลับไปสองวันก่อนมีธุระอะไรกับท่านหรือเปล่าครับ”“เปล่า แม่แค่อยากคุยกับโดมสักหน่อย”“ได้ครับ เบจิงไปหาพี่ลินก่อนนะครับน้าขอไปคุยธุระกับคุณย่าก่อน”“ครับน้าโดม”ชายหนุ่มพาคุณปราณีมายังห้องทำงานของตนเองที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของพี่สาวและพี่เขย“โดม แม่จะคุยกับเราเรื่องเบจิง”“มีอะไรเหรอครับ“แม่จะพาเบจิงไปอยู่ด้วย”“แต่เบจิงอยู่กับผมก็มีความสุขดี แม่ก็เห็นว่าเขากลับมาร่าเริงแล้ว”“แต่แม่อยากให้หลานไปอยู่กับแม่”“ผมว่าแม่ไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนั้นนะครับ“มีสิ
งานศพของปรานต์ผ่านมาแล้วสองสัปดาห์ แต่ภรรยาของเขาก็ยังคงนอนไม่ได้สติ แผลจากภายนอกร่างกายนั้นหายดีแล้ว แต่สมองของเธอยังคงบวมอยู่หมอต้องผ่าตัดระบายเลือดออกอีกครั้ง แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลยมารดาของดลธรรมและสามีใหม่บินมาร่วมงานศพของลูกเขยจากนั้นก็อยู่ดูอาการของแพรรดาต่ออีกสองวันจึงบินกลับส่วนครอบครัวของปรานต์ไม่ได้สนใจมาเยี่ยมพี่สาวของเขาเลย ฝ่ายนั้นบอกแต่ว่ายังทำใจไม่ได้ที่เสียลูกชายไปตอนนี้ดลธรรมต้องทำงานทั้งบริษัทตัวเองและบริษัทของพี่สาวซึ่ง นับว่าเป็นงานค่อนข้างหนัก เขาเองเพิ่งมาเริ่มศึกษางานก่อนหน้านี้ไม่นานเท่าไหร่ทางด้านพาลินก็ยุ่งไม่แพ้กันนอกจากจะต้องฝึกงานแล้วยังต้องแบ่งเวลามาดูแลเบจิงและแวะไปเยี่ยมแพรรดาที่โรงพยาบาลทุกวันก่อนหน้านี้เบจิงอาละวาดบ้านแทบแตกเด็กชายไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงทิ้งเขาไปแล้วทำไมแม่ถึงยังไม่ยอมตื่นในทุกวันพาลินต้องพาเด็กชายไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาล แม้ว่าหมอจะไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมเพราะกังวลเรื่องการติดเชื้อ แต่เบจิงก็มองเห็นมารดาของตนเองผ่านกระจก“แม่ครับวันนี้เบจิงมาเยี่ยมแล้วนะครับ แม่หายไวๆ นะครับ รีบตื่นนะครับแม่” ประโยคเดิมที่เด็
บ่ายวันอาทิตย์พาลินและดลธรรมไม่ได้ออกไปไหนทั้งสองสั่งอาหารมาทางที่ห้อง พาลินนั่งตรวจทานตัวเลขในบัญชีของบริษัทซึ่งแพรรดาให้ช่วยกันดูอีกรอบว่ามีจุดไหนผิดพลาดไปบ้างเพราะจะต้องส่งตัวเลขทั้งหมดให้กับสรรพากรในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนดลธรรมเองก็ได้รับมอบหมายงานจากพี่เขยให้ช่วยดูเอกสารสัญญาต่างๆ ที่บริษัทกำลังจะเซ็นสัญญา“พี่โดมเย็นนี้ผมจะไปเอาของที่หอนะครับ”“ไปกี่โมงเดี๋ยวพี่ไปส่ง”“ไม่เป็นไรผมไปคนเดียวได้พี่ทำงานต่อเถอะ”“ได้ยังไง ต้องไปส่งสิ”“งานตัวเองก็ยุ่งอยู่แล้วจะเสียเวลามาส่งผมอีกทำไม ผมไปเองก็กลับเองได้ ไม่นานหรอกครับ”“ไม่เอาจะไปด้วย ไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว ขากลับจะได้หาอะไรกินเลยดีไหม แล้วเรื่องรถเซลล์ว่ายังไงบ้าง”“อาทิตย์หน้าก็ได้แล้วครับ”พาลินตัดสินใจซื้อรถยุโรปราคาเกือบสามล้านเพราะบังเอิญว่าคุณยายของเขาได้ข่าวว่าหลานชายจะซื้อรถก็เลยเป็นคนจ่ายเงินให้ จากรถญี่ปุ่นที่ดูไว้เลยกลายเป็นรถหรูยี่ห้อเดียวกับดลธรรมต่างกันแค่สีและขนาด รถดลธรรมสีดำส่วนของเขานั้นสีขาว“เร็วดีเหมือนกันนะ แต่ได้รถแล้วก็อย่าคิดจะไปไหนคนเดียว ยังไงพี่ก็ต้องไปด้วย”“ถ้าผมไปเรียนล่ะ จะไปด้วยไหม” พาลินแกล้งถามเ
เสียงจูบแลกลิ้นดังอย่างต่อเนื่อง เมื่ออารมณ์ของคนทั้งสองกำลังทะยานขึ้นสูงอีกครั้งตอนนี้พาลินคร่อมอยู่เหลือร่างของดลธรรมที่กึ่งนั่งกึ่งนอนแผ่นหลังพิงอยู่กับหมอนใบใหญ่ ฝามือมือร้อนลูบตามผิวเนียน ก่อนจะนวดบั้นท้ายที่สัมผัสทีไรก็รู้สึกจนไม่อยากจะปล่อยพาลินสั่นสะท้านเมื่อรู้สึกว่าความร้อนของท่อนเอ็นกำลังถูอยู่ตรงช่องทางด้านหลังดลธรรมบีบเจลใส่มือแล้วกดนวดขณะที่ปากก็ยังจูบนัวเนียกันอยู่“อื้อ..”เขายกสะโพกขึ้นให้คนพี่สอดนิ้วเข้าไปทีละนิด สองมือเกาะบ่าดลธรรมไว้แน่น ปากที่จูบประกบอยู่เปลี่ยนเป็นดูดแรงตรงลำคอเพื่อระบายความเสียว ยิ่งเขาเพิ่มจำนวนนิ้วพาลินก็ขาสั่นเห็นท่าทางไม่ไหวของพาลินแล้วดลธรรมรีบหยิบถุงยางสวมให้กับตนเอง พออาวุธพร้อมรบก็ประคองสะโพกคนน้องขึ้นสูง จ่อท่อนเอ็นเข้ายังช่องทางคับแน่น“อื้อ พี่...”พาลินพยายามห้ามเสียงร้องของตัวเองแต่มันก็ยังเล็ดลอดออกมาอยู่ดีเขากดสะโพกลงอย่างช้าๆ เพราะรู้ถ้าทิ้งตัวลงมาคงได้จุกแน่ๆ ก็เจ้ามังกรของคนพี่นั้นไม่ธรรมดาเลยทั้งขนาดและความยาว ไม่รู้ว่าชาติแล้วทำบุญด้วยข้าวหลามหรือยังไงพระเจ้าถึงได้ให้มาทั้งยาวและใหญ่เช่นนี้“อ่าห์..แน่นฉิบ ดีเป็นบ้าเลย”