หน้าหลัก / LGBTQ+ / พาลินโดรม / 12.ไม่อยากอยู่คนเดียว

แชร์

12.ไม่อยากอยู่คนเดียว

ผู้แต่ง: จินต์พิชา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-12 14:41:52

“ขอบคุณนะครับสำหรับวันนี้” พาลินกล่าวขอบคุณเมื่อเขาขับรถมาจอดที่หน้าปากซอย

“แล้วไปดูหนังกันอีกนะ ครั้งหน้าพี่จะรีบมาให้ตรงเวลา”

“ครับ พี่อยากดูเรื่องอะไรนัดมาเลยครับ ช่วงนี้ผมว่าง”

“ไม่ไปทำงานเหรอ”

“ไม่ครับ สัปดาห์หน้าก็เปิดเทอมแล้วครับ เลยอยากพักสักหน่อย”

“งั้นค่อยนัดกันอีกทีละกันนะ”

“ครับ พี่โดมอย่าลืมไก่หลังรถนะ” พาลินรีบเตือนเพราะถ้าเขาลืมพรุ่งนี้มันคงได้กลายเป็นไก่เน่าแน่ๆ

“อือ”

พาลินลงจากรถแล้วเดินไปยังหอพักวันนี้มีหลายคนเริ่มกลับมากันบ้างแล้ว เพราะอีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอม บรรยากาศก็เลยดูครึกครื้นเป็นพิเศษ พอเขาเดินมาถึงก็โบกมือให้ดลธรรมเพื่อให้ชายหนุ่มจะได้กลับคอนโดของตัวเอง

“ลิน ไปไหนมา กลับดึกเชียวนะ” เจหรือเจษฎาเพื่อนร่วมหอพักที่นั่งอยู่ตรงม้าหินอ่อนทักทายขึ้น

“ไปดูหนังมา มึงล่ะ เพิ่งมาวันนี้เหรอ”

“อือ เพิ่งมาถึงขนของเพิ่งเสร็จกำลังจะขึ้นห้องก็เห็นมึงเดินมา พี่กันต์มาส่งเหรอ” เจษฎาเป็นรุ่นน้องคณะวิศวะจึงรู้จักกับกันต์ธีร์เป็นอย่างดี

“ไม่ใช่พี่กันต์หรอก กูเลิกกันแล้ว”

“งั้นแฟนใหม่เหรอหาได้เร็วดีนี่”

“แฟนใหม่ที่ไหนล่ะ เขาเป็นน้าชายของเด็กที่กูไปสอนพิเศษช่วงปิดเทอม ว่าแต่มึงเถอะยังไง ไหนว่าปิดเทอมจะกลับไปช่วยพ่อกับแม่ทำงาน กูเห็นนะว่ามึงอยู่กับแฟนตลอด”

“กูก็ช่วยพ่อกับแม่ไง แต่เป็นพ่อแม่แฟน”

“กตัญญูจริงๆ เพื่อนกู แล้วไปไหนแล้วล่ะแฟนมึงอะ”

“นู่นไง” เจษฎาชี้ที่หน้าปากซอยก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินถือถุงอะไรสักอย่างเข้ามา

“งั้นกูขอตัวก่อนนะ”

“อือ”

พาลินรีบเดินขึ้นไปยังห้องของตัวเองเพราะไม่อยากให้เจษฎากับแฟนมีปัญหา เนื่องจากครั้งหนึ่งมีข่าวลือว่าเจษฎาเคยคิดจะจีบพาลิน พอแฟนรู้ก็เลยไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไหร่

“พี่เจ เมื่อกี้คุยกับใคร”

“ไอ้ลินไง”

“อะไร ยังไง ไหนว่าไม่ได้ชอบแล้ว หรือรู้ว่ามันโสดเลยคิดจะจีบอีกครั้ง”

“อ้าวนี่มะเหมี่ยวก็รู้เหรอว่ามันโสด”

“คนเขารู้กันทั้งนั้นแหละ ก็พี่เขาลบรูปคู่กับพี่กันต์ออกจนเกลี้ยงไอจีขนาดนั้น ตอบคำถามมะเหมี่ยวมาก่อนว่ายังไงจะจีบใช่ไหม”

“ไปกันใหญ่แล้วพี่ก็มีมะเหมี่ยวแล้วจะไปสนใจไอ้ลินมันทำไม มะเหมี่ยวก็รู้ว่าพี่ชอบกินนมกินหอย”

“พี่เจอย่ามาทะลึ่งนะ ขึ้นห้องได้แล้ว อย่าให้มะเหมี่ยวเห็นนะว่าแอบคุยกันอีก”

“จะบ้าเหรอ หึงไม่เข้าเรื่องเลย” เจษฎาส่ายหัว เขาไม่เคยคิดอะไรกับเพื่อนคนนี้เลยสักนิด แต่ที่ลือกันไปอย่างนั้นเพราะมีช่วงหนึ่งที่เขาสนิทกับพาลินมากกว่าใคร

ดลธรรมขับรถมาจอดที่หน้าคอนโดหยิบถุงไก่จากหลังรถ เดินมาจุดที่เคยเจอเจ้าสุนัขจรจัดเคยอยู่ ดีดนิ้วเรียกไม่กี่ครั้งเจ้าขนปุยก็วิ่งออกมาจากพุ่มไม้เตี้ยๆ

“ว่าไง จมูกไวเชียวนะขนุน อะพี่ซื้อมาฝาก” เขาเอากล่องไก่วางตรงพื้น แอบถ่ายรูปขณะที่มันกำลังดินอย่างเอร็ดอร่อย นั่งรอจนกระทั่งเจ้าขนุนกินจนเกลี้ยงจึงหยิบกล่องและถุงพลาสติกไปทิ้ง ดลธรรมรู้ว่ามันผิดที่แอบเอาอาหารให้กับสุนัขจรจัด แต่เขาก็อดสงสารไม่ได้

“พี่ไปก่อนนะ” เจ้าสุนัขกระดิกหางครางหงิงๆ ก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในซอย

ดลธรรมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็นึกถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน เขาเพิ่งรู้ว่าปณิชญากับภูวินทร์กำลังจะเลิกกันแล้ว ตั้งแต่เพื่อนกับอดีตคนรักแต่งงานกันไป เขาก็ไม่ได้สนใจข่าวคราวของทั้งคู่อีกเลย

ครั้งหนึ่งเขาเคยคิดจะจริงจังกับปณิชญาถึงขั้นแต่งงานเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเอง โดยไม่ได้สนใจเลยว่าตัวเองต้องฝืนใจมากแต่ไหน ทุกครั้งที่นอนกับเธอเขามีความสุขก็จริง แต่ในใจกลับไม่เคยอิ่มเอมเลยสักนิด

มีอยู่หลายครั้งที่แอบนอกกายเธอไปนอนกับคนอื่นที่เป็นชายแต่พอตัวเองถูกนอกกายบ้างกลับรับไม่ได้ ตอนนั้นเขาจมอยู่กับความทุกข์ถึงสามเดือนเต็ม ทุกข์เพราะไม่คิดว่าคนที่เธอเลือกจะเป็นเพื่อนสนิท แต่ถ้าลองกลับไปบทวนตัวเองอีกทีก็ถือว่าตัวเองมีส่วนผิดอยู่ไม่น้อย เพราะเป็นคนไม่ซื่อสัตย์กับเธอก่อน

ดลธรรมคิดว่าตัวเองจะสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เมื่อคบกับปณิชญาแต่มันก็เป็นเรื่องยากและที่ไม่คิดจะเลิกกับเธอก็เพราะความเห็นแก่ตัวบวกกับกลัวว่าพี่ปรานต์จะไม่พอใจ

หลังจากที่ปณิชญาแต่งงานไปแล้วเขากลับมาเป็นตัวของตัวเองเต็มร้อยอีกครั้ง เขาไม่เคยคบหากับผู้หญิงคนไหนอีกเลย แต่ไม่จริงจังกับผู้ชายหรือคู่นอนคนไหน เพราะอยากใช้ชีวิตให้สนุกอย่างเต็มที่

แต่หลังจากได้เจอกับพาลินความรู้สึกก็เปลี่ยนไป เขาอยากจริงจัง อย่างอยู่ใกล้อยากใช้ชีวิตร่วมกัน เหมือนว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างในตัวพาลินที่ทำให้เสืออย่างเขาอยากหยุด

เขานั่งไถมือถือไปเรื่อย เข้าไปดูว่าพาลินอัพรูปอะไรบ้างในแต่ละวันส่องทั้งเฟซบุ๊กทั้งไอจี แล้วก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าพาลินอัพรูปตั๋วหนังที่ไปดูมาวันนี้

เห็นข้อความที่เพื่อนๆ ของพาลินมาเมนท์แล้วก็ยิ้มเพราะมีหลายคนยินดีที่พาลินมีคนรู้ใจคนใหม่ซึ่งเมื่อเจ้าตัวไม่ออกมาปฏิเสธต่างก็คิดว่ามันคือความจริง

ยิ่งเห็นแบบนั้นก็ยิ่งดีใจเพราะดูแล้วพาลินก็คงไม่ได้รังเกียจตนเอง แต่ที่ยังไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เพราะตัวเองไม่เคยบอกพาลินว่าเป็นเกย์และกำลังจีบอยู่ อีกคนก็เลยปฏิบัติกับเขาเหมือนเป็นพี่ชายเสียมากกว่า

ความสัมพันธ์ครั้งนี้เขาไม่อยากให้มันไปเร็วเพราะรู้ว่าอีกคนเพิ่งเจ็บมา จึงอยากให้พาลินพร้อมมากกว่านี้ แต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลย เขายังเหลือเวลาใกล้ชิดกับพาลินอีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่จะเปิดเทอม

นาฬิกาที่ผนังบอกเวลาเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว แต่เห็นว่าพาลินยังออนไลน์อยู่จึงกดโทรศัพท์ไปหาอีกฝ่ายทันที

“สวัสดีครับพี่โดม โทรมาดึกมีอะไรหรือเปล่า”

“เปล่า ก็แค่อยากโทรมาคุยด้วย ง่วงหรือยัง”

“ง่วงแล้ว แต่ยังนอนไม่ได้ กินเยอะไปหน่อยอืดท้องมาก”

“อ้าว ในห้องมียาไหมล่ะ”

“ไม่ถึงขนาดต้องกินยาหรอก เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น”

“เป็นบ่อยเหรอ” เมื่อเห็นว่าพาลินมาได้ทุกข์ร้อนอะไรกับอาการของตัวเองก็อดถามไม่ได้

“ไม่หรอกครับ วันนี้ผมกินเยอะกว่าทุกวันไง ว่าแต่พี่เอาไก่ไปให้น้องหมาไหม”

“ให้แล้ว กินเกลี้ยงเลยสงสัยหิวมาก เดี๋ยวส่งรูปในไลน์ให้ดูนะ”

“กินเกลี้ยงจริงๆ ด้วย พี่โดม แล้วปกติมันกินข้าวที่ไหนเหรอครับ” พาลินเห็นแล้วนึกสงสารและคิดถึงตัวเองที่ตอนนี้เหมือนอยู่ตัวคนเดียว

“พี่ก็ไม่รู้แต่ก็คงมีคนให้อาหารแหละ ถ้างั้นคงผอมกว่านี้”

“นั้นสิครับ ดูแล้วคงมีคงเอ็นดูเยอะเลย” เสียงพูดเบาลงเล็กน้อย

“เป็นอะไร สงสารขนุนเหรอ”

“สงสารตัวเองครับ ขนุนยังมีคนเอ็นดูให้อาหาร แต่ตอนนี้ผมไม่เหลือใครเลย” พาลินรู้สึกโดดเดี่ยว ตั้งแต่บิดามารดาจากไปเขาก็มีเพื่อนและกันต์ธีร์คอยอยู่ใกล้ๆ แต่ตอนนี้ทั้งปิดเทอมทั้งเลิกกับแฟนเขาก็เลยไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่

“เหลือสิ พาลินยังมีพี่นะ” ดลธรรมพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและจริงจัง เขาอยากให้อีกคนรับรู้ว่าตัวเองไม่ได้โดดเดี่ยวอย่างที่คิดเลย

“...” พาลินเงียบ คำพูดของอีกคนทำให้รู้สึกใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก

“ทำไมเงียบครับ” เขาใจคอไม่ค่อยดี กลัวอีกคนจะคิดมากกับคำพูดของตัวเอง

“ผมไม่ทำให้พี่รำคาญใช่ไหมครับ”

พาลินรู้ว่าตัวเองเกาะติดชายหนุ่มมากเกินไป เขายอมรับว่าช่วงนี้กำลังอ่อนไหวและไม่อยากอยู่คนเดียว

“พี่ไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย”

“ถึงแม้ผมจะอยู่คนเดียวแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าชอบอยู่คนเดียว”

“แสดงว่าที่ผ่านมาเหงามาตลอดเลยใช่ไหม”

“ก็เหงาบ้างครับ แต่เปิดเทอมก็ดีหน่อยทำงานกับเพื่อนอยู่กับเพื่อนจนดึกถึงกลับหอ”

“พี่นึกว่าอยู่กับแฟน ขอโทษที่ต้องพูดถึงเขา”

“ไม่เป็นไรครับ ถึงเป็นแฟนก็ไม่ค่อยตัวติดกันหรอกครับ เขาไม่ค่อยชอบให้ผมตามติดเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ผมก็อยู่กับเพื่อน”

“แล้วไม่น้อยใจแย่เหรอ”

“ก็มีบ้างครับ แต่น้อยใจไปก็เท่านั้น”

ดลธรรมนึกเห็นใจชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย เพราะช่วงนี้ทั้งปิดเทอม ทั้งไม่ได้ไปสอนพิเศษพาลินคงเหงามากจริงๆ

“พรุ่งนี้วันอาทิตย์ มาคอนโดไหม มาว่ายน้ำกัน”

“ผมไม่กวนพี่ใช่ไหม”

“ไม่หรอกมาเลย ให้ไปรับไหม”

“ไม่เป็นไรครับ ถ้าผมจะไปจะโทรบอกก่อนนะครับ” พาลินไม่อยากไปหาใครโดยไม่โทรนัดอีกแล้ว เพราะกลัวไปเห็นภาพที่ไม่ควรเห็นอีกเป็นครั้งที่สอง ถึงแม้ว่าตัวเองกับดลธรรมไม่ได้เป็นแฟนกันแต่ภาพแบบนั้นเห็นแค่ครั้งเดียวก็เกินพอ

“ถ้าโทรมาพี่ไม่รับก็มารอในห้องได้เลยเดี๋ยวจะส่งรหัสห้องให้นะ”

“ถ้าพี่ไม่รับผมก็ไม่กล้าไปหาหรอก”

“ไม่ต้องกลัวจะเจอใครหรือเห็นอะไรหรอกน่า” ดลธรรมรู้ว่าอีกคนกำลังคิดอะไร

“แน่นะครับ”

“แน่นอนสิ”

คุยกันอีกกว่าสิบนาทีทั้งสองก็แยกย้ายเข้านอน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พาลินโดรม   13.ภาพติดตา

    สายวันอาทิตย์พาลินทำความสะอาดห้องจนสะอาด จากนั้นก็เอาชุดนักศึกษาไปส่งที่ร้านซักรีด วันจันทร์หน้าเขาต้องกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยก่อนจะเริ่มต้นฝึกงานในสัปดาห์ถัดไปร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆ กับหอพักกลับมาคึกคักอีกครั้ง พาลินนั่งทานข้าวกับเพื่อนร่วมหอพักคนหนึ่ง เขาไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวแต่ก็เคยเห็นหน้ากันบ้าง ทั้งที่มหาวิทยาลัยและที่หอพัก เขายิ้มทักทายจากนั้นก็นั่งทานของตัวเองจนอิ่มหอนี้อยู่ใกล้มหาวิทยาลัยมาก ค่าเช่าก็เลยมากตามไปด้วย คนอื่นอาจแชร์กันอยู่สองหรือสามคน แต่พาลินเลือกที่จะอยู่คนเดียวเพราะตอนเข้ามาเรียนที่นี่เขายังไม่ไว้ใจใครถึงขั้นให้มานอนด้วย แม้จะเหงาแต่ก็มีเพื่อนที่ไปมาหาสู่กันตลอดอีกอย่างเรื่องค่าเช่าก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะถึงแม้จะไม่มีบิดามารดาแต่พาลินก็มีเงินจำนวนหนึ่งที่เขาได้จากประกันชีวิตของบิดามารดารวมถึงค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่ปู่กับย่าของเขาส่งให้กลับมาบนห้องก็นอนเล่นมือถือจนเบื่อ จึงโทรศัพท์ไปหามีนากับพราวรุ้ง แต่สองคนนั้นยังไม่กลับมาจากบ้าน จะไปคอนโดของดลธรรมก็รู้สึกเกรงใจ“เฮ้อ! เหงาชะมัด” พาลินบ่นก่อนจะล้มตัวลงนอน แล้วเขาก็หลับยาวจนเย็นพอตื่นมาก็คว้าโทรศัพท์มาดู

  • พาลินโดรม   14.รู้ใช่ไหม nc นิดๆ

    ทั้งสองออกจากห้องพักและพากันขึ้นลิฟต์มายังชั้นดาดฟ้าซึ่งมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่บนนี้“ทำตัวตามสบายไม่ต้องกลัวจะเจอเขาหรอกน่า” ดลธรรมเห็นอีกคนหันซ้ายหันขวามองไปรอบสระก็พูดขึ้น“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย ผมก็แค่สงสัยว่าทำไมคนน้อยจัง” เพราะเป็นเย็นวันอาทิตย์แต่บริเวณสระว่ายน้ำกลับมีคนว่ายน้ำอยู่ไม่กี่คน แถมยังเป็นชาวต่างชาติด้วย“ก็น้อยแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ดีเหรอ”“ดีครับ ผมว่ายไม่เก่งจะได้ไม่อายใคร” ว่าแล้วเขาก็ถอดเสื้อยืนตัวยาวออกจากนั้นก็นั่งห้อยขาอยู่ริมขอบสระดลธรรมถอดเสื้อของตัวเองออกบ้างจากนั้นเขาก็ลงไปในสระ หันมามองพาลินก็ต้องแอบกลืนน้ำลาย เพราะนอกจากผิวขาวแล้วชายหนุ่มคนน้องยังมีกล้ามเล็กสมส่วน ดูก็รู้ว่าคงออกกำลังอยู่บ่อยๆ เขาเห็นว่าชายหนุ่มเป็นคนตัวเล็กแต่ไม่คิดว่าจะมีร่างกายที่สวยงามเช่นนี้“ไม่ลงมาเหรอ” ดลธรรมว่ายมาใกล้ เกยคางกับขอบสระเอียงคอถาม ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งเห็นร่างกายของอีกคนชัดขึ้นลมหายใจเขาสะดุดแต่ต้องรีบปรับสีหน้าเป็นปกติก่อนจะว่ายออกห่างขึ้น พาลินกระโดดแล้วว่ายตามเขาไประหว่างว่ายน้ำกันอยู่นั้นก็มีคนในคอนโดว่ายเข้ามาทักทายดลธรรมเป็นระยะ ดูเหมือนเขาจะเป็นขวั

  • พาลินโดรม   15.ความเงียบคือคำตอบ

    พาลินรู้สึกตัวในเวลาหกโมงเช้าเพราะเมื่อคืนดื่มไปเยอะจึงอยากเข้าห้องน้ำ พอลืมตามองก็เห็นว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้อยู่ที่หอพักของตนเอง และยังนอนอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายคนหนึ่งภาพเหตุการณ์เมื่อคืนพาลินจำได้ไม่ทั้งหมดแต่ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้ว่าความสัมพันธ์ไม่ได้ลึกซึ้งแต่เขาก็ไม่คิดว่าระหว่างตัวเองกับดลธรรมจะทำอะไรแบบนั้นที่ผ่านพาลินเข้าใจมาตลอดว่าดลธรรมนั้นเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงแต่ความรู้สึกที่รับรู้ได้ เขามั่นใจว่าดลธรรมต้องเคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนอย่างแน่นอนไม่รู้ว่าที่เกิดขึ้นเพราะเมาด้วยกันทั้งคู่หรือเพราะจริงๆ แล้วต่างฝ่ายต่างมีใจให้กัน แต่พาลินก็อายเกินกว่าจะอยู่สู้หน้าเขา ชายหนุ่มคิดว่าจะถอยไปตั้งหลักที่หอของตนเองก่อน อย่างน้อยก็ได้ทบทวนความรู้สึกของตนเองที่มีต่อดลธรรมอีกครั้งพาลินกลับมาถึงห้องพักก็รีบอาบน้ำแปรงฟัน พอเห็นรอยแดงที่ซอกคอก็อดคิดถึงใบหน้าของคนทำให้เกิดรอยไม่ได้ ร่างกายรู้สึกร้อนขึ้นมาอีกครั้ง ความเป็นชายตื่นตัวอย่างคุมไม่อยู่ พาลินหลับตานิ่งสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามข่มความต้องการ แต่มันไม่ได้ผลเลยสักนิดเขาต้องช่วยตัวเองอย่างที่เคยทำ แต่ครั้งนี้นึกถึงใบหน้าแดงก่ำของดลธรร

  • พาลินโดรม   16.ขอโทษที่หายไป

    ทั้งสามคนพากันมาเดินที่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นห้างที่พาลินและดลธรรมเคยมาเดินด้วยกัน มันทำให้พาลินคิดถึงเขาอย่างห้ามไม่ได้ ไม่รู้เพราะคิดถึงมากเกินไปหรือเปล่าเพราะตอนนี้พาลินเห็นผู้ชายคนหนึ่งในร้านโทรศัพท์ดูยังไงก็เหมือนดลธรรมเขาหยุดเดินจนเพื่อนที่เดินนำหน้าไปแล้วเดินกลับมาตาม“มีอะไรหรือเปล่า” พราวรุ้งถามขึ้น“เราว่าเราเจอพี่โดม” ชายหนุ่มชี้ไปยังร้านโทรศัพท์ที่ข้างหน้า“เข้าไปทักไหม”“ไม่ดีกว่า เผื่อเขามาทำธุระ” พาลินไม่รู้จะเริ่มต้นคุยกับเขายังไง จึงเลี่ยงจะเดินไปอีกทางแล้วก็รู้สึกถึงแรงสั่นของมือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงพอล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาก็เห็นว่าเป็นสายโทรเข้าจากดลธรรม“รับเลย” มีนารีบบอกพลางมองไปยังคนที่กำลังโทรเข้าซึ่งเพิ่งเดินออกมาจากร้านโทรศัพท์“สวัสดีครับพี่โดม” พาลินทำเสียงเรียบทั้งที่ในใจเต้นแรงเพราะดีใจที่เขาโทรมาหา“ขอโทษนะครับที่เพิ่งโทรมาพอดีโทรศัพท์พังแล้วพี่ก็ต้องรีบไปจีนเพิ่งกลับมาถึง พาลินอยู่ไหน กินข้าวหรือยัง พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”“ผมมาเดินเที่ยวกับเพื่อนครับ ยังไม่ได้กินข้าว พี่ล่ะกินหรือยัง” พอรู้เหตุผลที่เขาเงียบไปรู้สึกดีขึ้นจนเผลอ

  • พาลินโดรม   17.ผมจะห้ามอะไรพี่ได้ล่ะ

    “พาลิน”“ครับ”“รีบไปไหนหรือเปล่า”“ไม่ครับ”“ขับรถให้พี่ได้ไหม อย่างงีบสักหน่อย”เพราะตั้งแต่ไปจีนก็แทบไม่ได้นอนพักเลย อยู่บนเครื่องเกือบห้าชั่วโมงก็นอนไม่หลับ เพราะไฟล์ทที่เขาบินนั้นมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเกือบทั้งลำ ถึงแม้จะเป็นชั้นธุรกิจแต่ก็ไม่อาจเลี่ยงความวุ่นวายได้“ไปง่วงมาจากไหนครับ” พาลินถามเมื่อเห็นว่าเขาหาวไปหลายรอบแล้ว“งานยุ่งนิดหน่อย”“งั้นก็หลับเลยถ้าถึงแล้วผมจะปลุกเอง คงอีกสักพักใหญ่เลย” พาลินมองไปด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซึ่งตอนนี้รถติดยาวเข้ามาถึงลานจอดรถ“ขอบคุณครับ”ดลธรรมปรับเบาะให้เอนลงจากนั้นก็ตะแคงข้างหันหน้ามาทางพาลิน พลางหยิบแว่นกันแดดที่เสียบอยู่ตรงที่บังแดดมาสวมใจอยากนั่งมองหน้าคนที่ทำให้ต้องรีบกลับมาก่อนกำหนด แต่ร่างกายก็สู้ไม่ไหว ชายหนุ่มหลับก่อนที่รถจะออกมาถึงถนนเส้นหลักด้วยซ้ำเพราะรถติดจนแทบไม่ขยับทำให้คนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยแอบมองหน้าอีกคนได้บ่อยขึ้นดลธรรมเป็นคนผิวขาวถึงแม้จะน้อยกว่าตัวเองแต่ถ้าเทียบกับคนอื่นก็ยังขาวอยู่มาก จมูกของเขาโด่งเป็นสัน คิ้วหนาเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ เขารู้จากพี่แพรรดาว่าทั้งเธอและดลธรรมเป็นลูกเสี้ยวแต่จำไม่ได้ว่าเป็นสัญช

  • พาลินโดรม   18.ไม่รีบครับ

    ดลธรรมตื่นนอนตั้งแต่เช้าแต่เพราะวันนี้ไม่ต้องรีบเข้าบริษัทเขาเลยไม่ต้องรีบลุกจากที่นอน อีกอย่างก็รู้สึกดีที่ตอนนี้พาลินยังนอนกอดตนเองอยู่เขาฉวยโอกาสหอมแก้มชายหนุ่มไปหลายทีแต่คนขี้เซาก็ยังคงหลับลึก กว่าพาลินจะรู้สึกตัวตัวก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง“มอร์นิ่ง พาลิน”“มอร์นิ่งครับ” พาลินขยับตัวออกแต่ก็โดนอีกคนรั้งไว้“จะรีบไปไหน ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ”“ไม่มีเรียนครับ พี่ล่ะ ไม่รีบไปทำงานเหรอครับ”“วันนี้ไม่ต้องเขาบริษัทครับ ว่าจะอยู่กับเราทั้งวัน”“อยู่กับผมทำไมครับ”“พาลินบอกเองว่าถ้ามีแฟนก็อยากอยู่กับแฟนตลอด”“ผมบอกอย่างนั้นก็จริง แต่ผมกับพี่เราไม่ได้เป็นแฟนกัน”“ซ้อมไว้ก่อนก็ได้นี่ครับ หรือว่าจะเป็นแฟนกันตอนนี้ก็ได้ สนใจไหม”“ไม่เป็นไรครับผมไม่รีบ”“แต่พี่รีบ” ดลธรรมขยับเข้าใกล้จนปากของทั้งสองเกือบจะชนกัน“พี่โดมอย่า ผมยังไม่แปรงฟัน” พาลินรู้ว่าอีกคนกำลังจะทำอะไร เขารีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองย่างรวดเร็ว“พี่ก็ไม่ได้แปรงเหมือนกัน” จบประโยคเขาก็ดึงมือของพาลินออก จากนั้นปากของทั้งสองก็แนบชิด จูบรับวันใหม่ที่อบอุ่นและอ่อนโยนทำให้พาลินหลงไปกับความวาบหวามที่เขามอบให้ กว่าดลธรรมจะยอมปล่อยพาลิน

  • พาลินโดรม   19.พี่ว่าไงผมก็ว่างั้น

    วันนี้ก็ครบสองเดือนแล้วที่พาลินและดลธรรมตกลงเป็นแฟนกับ ไม่มีใครย้ายมาอยู่กับใครอย่างที่เคยพูดไว้ แต่ต่างไปค้างที่ห้องของอีกฝ่ายสลับกันไปเรื่อยเรื่องฝึกงานของพาลินก็ไม่มีปัญหาอะไร ชายหนุ่มเพิ่งรู้ว่าบริษัทที่ตัวเองไปฝึกนั้นเป็นของแพรรดาก็วันที่มาฝึกงานวันแรก เขาโวยวายใส่ดลธรรมที่ไม่ยอมบอกตนเองตั้งแต่แรก ดลธรรมเลยถามกลับว่าถ้าบอกแล้วจะเปลี่ยนอะไรได้ไหม พาลินเลยหยุดโวยวายแต่ก็งอนไปหลายวันแพรรดารู้แล้วว่าดลธรรมกับพาลินตกลงคบกัน เธอจึงตั้งใจสอนงานพาลินและมีนาอย่างเต็มที่เพราะอยากได้คนที่ไว้ใจมาช่วยงานด้านนี้อยู่แล้ว“วันนี้ไปทานข้าวเย็นที่บ้านกับพี่ไหมพาลิน เบจิงบ่นคิดถึงมาหลายวันแล้ว” แพรรดาตรวจงานเสร็จก็เงยหน้าขึ้นคุยกับนักศึกษาฝึกงานคนโปรด“ได้ครับ ผมก็อยากเจอเบจิงเหมือนกัน”“งั้นไปพร้อมกันเลยนะ”“เดี๋ยวผมตามไปทีหลังดีกว่าครับ” พาลินไม่อยากในอื่นรู้ว่าเขากับแพรรดารู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพราะกลัวว่าจะกระทบกับการฝึกงาน“นั่นสิ พี่ลืมไปเลยว่าเรามีคนมารับ”“ผมจะรีบตามไปนะครับ”“ได้จ้ะ เบจิงคงดีใจมาก”“พี่แพรอย่าเพิ่งบอกได้ไหมครับ ผมอยากไปเซอร์ไพรส์”“ได้สิ แล้วเจอกันที่บ้านนะ พี่ขอตัวไปร

  • พาลินโดรม   20.นัดเปิดสนาม nc

    ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มแต่ตอนนี้ทั้งสองคนก็เข้ามาอยู่ในห้องนอนแล้ว คนพี่ทับทาบอยู่ด้านบน ปากที่ประกบจูบลงมาอย่างแผ่วเบาในทีแรกนั้นเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนได้อย่างรวดเร็วทั้งบดจูบทั้งแลกลิ้นกันอย่างไม่ลดละ ร่างกายร้อนราวกับไฟ มือต่างสัมผัสกันและกันอย่างโหยหา เสื้อผ้าถูกดึงรั้งออกอย่างรวดเร็วพาลินเกี่ยวลำคอเขาไว้ ขณะที่ท่อนล่างก็เบียดเข้าหา ฝ่ามือใหญ่กอบกุมความเป็นชายที่มันแข็งชัน รูดรั้งเป็นจังหวะอย่างคนชำนาญ นิ้วโป้งกดนวดส่วนปลายจนน้ำหวานไหลเยิ้มจูบจนหนำใจก็เปลี่ยนไปขบเม้มติ่งหูเล่น ลากลิ้นยาวมายังลำคอขาว ดูดเบาๆ พอให้เกิดรอย“พี่โดม อื้อ มันจะเป็นรอย”เขาไม่สนใจเสียงห้ามของคนที่อยู่ใต้ร่างเลยสักนิด เรียวปากจูบพรมไปทั้งลำคอ ก่อนจะหยอกล้อกับยอดอกสีชมพูระเรื่อ“ทำไมน่ากินไปทั้งตัวอย่างนี้นะ”ดลธรรมอดไม่ได้ที่จะดูดเม็ดทับทิมเข้าปาก ลิ้นก็ตวัดเลีย มืออีกข้างที่ว่างก็บีบแล้วดึงขึ้นอย่างไม่อาจยับยั้ง ร่างกายของคนตัวขาวแดงระเรื่อเพราะอารมณ์วาบหวามที่มันมากขึ้นกว่าทุกครั้ง“ให้พี่นะ พาลิน”เขาเหยียดตัวขึ้นมากระซิบข้างหู“พี่โดมไม่รังเกียจใช่ไหม”อีกคนถามอย่างไม่แน่ใจ“ไม่เลย พี่รอวันนี้ รอวันที

บทล่าสุด

  • พาลินโดรม   33.รักผมเพราะเซ็กซ์หรือเปล่า (จบ)

    สัมผัสที่เร่าร้อนของเรียวปากหยักจูบแลกลิ้นกันอยู่อย่างนั้น พาลินหลงใหลไปกับรสจูบที่คนรักมอบให้ สองมือดันผนังห้องน้ำเอี้ยวคอมาจูบ สะโพกกลมขาวกดแนบชิดกับท่อนเอ็นร้อนเสียงคนพี่ครางในลำคอ เขาอยากกลืนกินคนช่างยั่วตั้งแต่เห็นรูปที่ส่งไปให้ ดลธรรมไม่ลังเลเลยที่จะรีบขับรถกลับมาที่คอนโด แล้วเขาก็ไม่ผิดหวังเมื่อรู้ว่าพาลินกับเขาต่างมีความต้องการเหมือนกัน“พาลินยั่วพี่เองนะครับ”“ถ้าน้องยั่วแล้วพี่ไม่อยากพี่จะกลับมาเหรอ”“นั่นยั่วอีกแล้ว”“น้องยั่วแล้วพี่อยากไหม”“ไม่ยั่วก็อยากครับ ยันผนังไว้นะครับพี่จะลงโทษคนยั่วแล้ว”ดลธรรมจูบไซร้ไปตามท้ายทอยและซอกคอ กัดติ่งหูคนด้านหน้าเบาๆ เพราะเป็นจุดอ่อน แค่นั้นพาลินก็ร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัวฝ่ามือร้อนไล้ไปทั้งแผงอกบีบคลึงเบาๆ บนยอดสีสวย สะโพกก็กดลงไปยังบั้นท้าย เสียงหวานครางแผ่วเบา สะโพกแอ่นโค้งเด่นคนตัวโตกดครีมอาบน้ำสูตรอ่อนโยนลงบนปลายนิ้วกลางจากนั้นลากไปตามช่องทางสีสวยกดลงไปช้าๆ ค่อยเพิ่มจำนวนนิ้วเป็นสองและสาม พาลินครางสะท้านรู้สึกถึงความคับแน่นที่กำลังนวดผนังด้านใน“อื้อ...พี่”เขาสะดุ้งเมื่อจุดอ่อนไหวด้านในถูกกระตุ้นเพียงแค่นั้นตัวตนของเขาก็ปวดหนึบ ม

  • พาลินโดรม   32.Peppa Pig

    หลังจากตรวจเสร็จและรับยาแล้วรถกระบะคันเดิมก็มาส่งดลธรรมและพาลินที่สนามบิน“พี่หน้าผมยังมีผื่นอยู่ไหม”“ยังมีอีกนิดหน่อย ใส่มาสก์ไปก่อน”“หมอบอกว่าเดี๋ยวมันก็หายไงครับ”“มันต้องใช้เวลาไง เดี๋ยวกลับถึงกรุงเทพถ้าผื่นยังไม่ยุบลงพี่จะพาไปหาหมออีกรอบ”“ไม่เอาแล้วไม่หาแล้ว ไปอีกก็โดนฉีดยาอีก”พาลินทานยาแก้แพ้ตั้งแต่อยู่บนเขาแต่พอมาถึงโรงพยาบาลผื่นก็ยังไม่หายและดูเหมือนจะขึ้นมากกว่าเดิมหมอเลยต้องฉีดยาเพราะมันได้ผลเร็วกว่า รวมถึงให้ยาทาแก้คันมาด้วยตอนนี้พาลินเลยสีชมพูไปทั้งตัว ยังดีที่เขามีเสื้อคลุมแขนยาวเลยไม่ค่อยอายคนเท่าไหร่แต่ที่ต้องอายก็คงจะเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างเพราะเขาเป็นคนทายาให้กับตนเองทั้งตัว“ยามันง่วงเดี๋ยวขึ้นเครื่องเราจะหลับเลยก็ได้ ถึงแล้วพี่จะปลุกเอง”“บินนานไหมครับ” เพราะขามาเขานั่งรถมาเพื่อนๆ เลยไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่“ไม่นานครับ ประมาณชั่วโมงหนึ่งครับ หลับแป๊บเดียวก็ถึงกรุงเทพแล้ว”“ผมหวังว่าถึงกรุงเทพแล้วผมจะหายนะ”“แต่พี่ว่าอย่าเพิ่งหายเลย ชมพูไปทั้งตัวแบบนี้ก็น่ารักดี”“ไม่ตลกนะครับพี่ มันคันไปทั้งตัวเลย”“อดทนอีกนิดนะครับ ถึงคอนโดจะเอาน้ำเย็นเช็ดให้”พอขึ้นเครื่อง

  • พาลินโดรม   31.ผมเอาอาหารมาส่ง

    ดลธรรมไม่อยากให้พาลินพลาดการเข้าค่ายอาสาซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชายหนุ่มทำมาทุกปีตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย และถ้าปีสุดท้ายมาได้เข้าร่วมคงจะเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากถึงแม้จะทั้งหวงทั้งห่วงแต่เขาก็ไม่อยากพรากความทรงจำในวัยเรียนของคนรัก และนั่นก็คือเหตุผลที่ตอนนี้เขามานั่งอยู่ข้างคนขับรถกระบะสีประตูขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดที่นักศึกษามาออกค่ายเดิมทีก็ตกลงจะมาด้วยกัน แต่เพราะเขามีงานที่ยังเคลียร์ไม่เรียบร้อยจึงต้องยอมปล่อยให้คนน้องมาเข้าค่ายกับเพื่อนพาลินงอนนิดหน่อยที่เขาไม่ทำตามที่พูด แต่ก็ตัดสินใจมากับเพื่อน เพราะอยากใช้ชีวิตในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยให้คุ้มค่าที่สุด ส่วนตัวเขาก็รีบเคลียร์งานแล้วตามมาทีหลังโดยไม่ได้บอกพาลินแค่สองสามที่ต้องนอนอยู่คนเดียวเขาก็ทรมานเกินไปแล้ว“อันที่จริงมันก็ไม่ไกลหรอกนะครับ แต่ทางมันค่อนข้างลำบากมันเลยดูเหมือนไกล” เสียงคนขับรถกระบะทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์“ครับ”ดลธรรมให้ลูกน้องที่บริษัทซึ่งบังเอิญเป็นคนพื้นที่ช่วยติดต่อเช่ารถพร้อมคนขับไปส่งที่หมู่บ้านบนเขาชายหนุ่มนั่งเครื่องมาลงที่สนามบินพิษณุโลกตั้งแต่เช้าจากนั้นก็ให้คนขับรถพาไปซื้อไก่ทอด โด

  • พาลินโดรม   30.ไม่ต้องทุกครั้งก็ได้ nc

    ดลธรรมและพาลินย้ายกลับมาอยู่ที่คอนโดเพราะอยากให้มารดาได้ทำความรู้จักและปรับตัวกับเบจิงได้มากขึ้นแต่เขากับพาลินก็ยังแวะไปทานอาหารเย็นด้วยอยู่บ่อยๆ ดูเหมือนว่าเบจิงจะเข้ากันได้ดีกับคุณยายของตนเองแม้พาลินจะมีรถเป็นของตัวเองแล้ว แต่ดลธรรมก็ยังมารับส่งที่มหาวิทยาลัยเป็นบางวัน“พี่โดม ขอโทษทีครับคุยกับเพื่อนนานไปหน่อย”“ไม่เป็นไร แล้วตกลงเอาไงเราจะไปค่ายกับเพื่อนไหม” ช่วงวันหยุดยาวติดกันชมรมค่ายอาสาจะพากันไปออกค่ายที่พิษณุโลก“กำลังตัดสินใจอยู่ครับ”“ทำไมดูตัดสินใจยากจัง แต่ก่อนเห็นตื่นเต้นจะไป”“ก็ตอนนั้นยังไม่มีแฟน ตอนนี้มีแฟนแล้วติดแฟนครับ”“ฟังคำตอบแล้วชื่นใจจัง”“ถ้าผมไปพี่จะคิดถึงผมไหม”“ถ้าเราไปพี่ก็ไปด้วยครับ ไม่อยากนอนคนเดียว”“ถ้าผมไม่ไปก็เหมือนจะเอาเปรียบคนอื่นอยู่ที่ไม่ช่วยออกแรงอะไรเลย”“แต่พี่ก็ช่วยเรื่องคอมไปตั้ง 10 ชุดแล้วนะครับ”“นั้นมันส่วนของพี่ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย”“ถ้าอยากรู้สึกมีส่วนร่วมกับคอมห้าชุดนั่นก็แค่..”“แค่อะไรครับ” พาลินหันมามองคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย พอเห็นหน้าเขาก็เดาออกทันทีว่าตอนนี้สิ่งที่คนพี่ต้องการคืออะไร เพียงแค่คิดพาลินก็หน้าแดงขึ้นมาทันที“นานเ

  • พาลินโดรม   29.ย่ากับยาย

    คุณแพรเพ็ญและจอห์นสามีใหม่บินกลับมาทันทีหลังจากดลธรรมโทรไปบอกว่าย่าของเบจิงจะพาเบจิงไปอยู่ด้วยเธอเสียลูกสาวไปคนหนึ่งแล้วจึงไม่อยากจะเสียหลานชายไปอีกคน เพราะรู้ว่าที่ฝ่ายนั้นอยากพาเบจิงไปก็เพื่อต่อรองกับดลธรรมให้รับผิดชอบเด็กในท้องของปณิชญาเท่านั้น“คุณยายครับ ตาจอห์นบอกว่าที่บ้านตามีหิมะด้วยจริงไหมครับ”“จริงสิ เบจิงอยากไปดูหิมะไหม”“อยากไปครับ แต่เบจิงต้องไปโรงเรียนคงไปกับคุณยายไม่ได้”“ที่นั่นก็มีโรงเรียนครับ เดี๋ยวยายจะให้เบจิงดูนะครับว่าโรงเรียนที่นั่นเป็นยังไงบ้าง อยากดูไหมครับ”“อยากดูครับ พี่ลินมาดูด้วยกันไหม” เบจิงเรียกพาลินที่กำลังเดินถือผลไม้จานใหญ่ให้มาดูด้วยกันอีกคนแพรเพ็ญเปิดคลิปแนะนำโรงเรียนประถมในประเทศออสเตรียให้กับหลานชายดู เพราะเธอกับสามีคุยกันแล้วว่าจะรับเบจิงไปอยู่ที่นั่นในฐานะลูกชายของทั้งสองคนดลธรรมก็เห็นด้วยกันมารดาเพราะอยากให้เบจิงมีอนาคตที่ดี ลำพังเขากับพาลินคนดูแลเด็กชายได้ไม่ดีพอแต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเบจิงว่าอยากจะย้ายไปอยู่ที่นั่นไหม ตอนนี้ทั้งมาลีและป้าสายก็เริ่มฝึกภาษาอังกฤษกับจอห์นเพราะแพรเพ็ญอยากให้สองนั้นย้ายไปอยู่ด้วยกันทุกคนที่นี่เตรียมวางแผนก

  • พาลินโดรม   28.ข้อแลกเปลี่ยน

    สามเดือนแล้วที่แพรรดาจากไปและเบจิงอยู่กับดลธรรมและพาลินในบ้านหลังใหญ่ ชีวิตของเด็กชายกลับมาสดใสอีกครั้ง เสียงหัวเราะดังออกมานอกบ้านจนคนที่เพิ่งมาถึงยิ้มอย่างพอใจ“สวัสดีครับคุณย่า” เบจิงยกมือทักทายผู้เป็นย่าที่เจอกันครั้งสุดท้ายในงานศพของผู้เป็นมารดา“น้าชายเราไปอยู่ไหนแล้วล่ะ”“มีธุระอะไรกับผมเหรอครับแม่” ดลธรรมยังเรียกเธอว่าแม่อย่างเดิมเพราะอยากให้เกียรติในฐานะที่เธอเป็นย่าของเบจิงเขาค่อนข้างแปลกใจที่คุณปราณีมาหาถึงที่บ้าน เพราะตลอดหลายเดือนมานี้ท่านไม่เคยแวะมาที่นี่เลยสักครั้ง“แม่เรากลับไปแล้วใช่ไหม” คุณปราณีถามถึงแพรเพ็ญ“เพิ่งบินกลับไปสองวันก่อนมีธุระอะไรกับท่านหรือเปล่าครับ”“เปล่า แม่แค่อยากคุยกับโดมสักหน่อย”“ได้ครับ เบจิงไปหาพี่ลินก่อนนะครับน้าขอไปคุยธุระกับคุณย่าก่อน”“ครับน้าโดม”ชายหนุ่มพาคุณปราณีมายังห้องทำงานของตนเองที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของพี่สาวและพี่เขย“โดม แม่จะคุยกับเราเรื่องเบจิง”“มีอะไรเหรอครับ“แม่จะพาเบจิงไปอยู่ด้วย”“แต่เบจิงอยู่กับผมก็มีความสุขดี แม่ก็เห็นว่าเขากลับมาร่าเริงแล้ว”“แต่แม่อยากให้หลานไปอยู่กับแม่”“ผมว่าแม่ไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนั้นนะครับ“มีสิ

  • พาลินโดรม   27.รอคอย

    งานศพของปรานต์ผ่านมาแล้วสองสัปดาห์ แต่ภรรยาของเขาก็ยังคงนอนไม่ได้สติ แผลจากภายนอกร่างกายนั้นหายดีแล้ว แต่สมองของเธอยังคงบวมอยู่หมอต้องผ่าตัดระบายเลือดออกอีกครั้ง แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลยมารดาของดลธรรมและสามีใหม่บินมาร่วมงานศพของลูกเขยจากนั้นก็อยู่ดูอาการของแพรรดาต่ออีกสองวันจึงบินกลับส่วนครอบครัวของปรานต์ไม่ได้สนใจมาเยี่ยมพี่สาวของเขาเลย ฝ่ายนั้นบอกแต่ว่ายังทำใจไม่ได้ที่เสียลูกชายไปตอนนี้ดลธรรมต้องทำงานทั้งบริษัทตัวเองและบริษัทของพี่สาวซึ่ง นับว่าเป็นงานค่อนข้างหนัก เขาเองเพิ่งมาเริ่มศึกษางานก่อนหน้านี้ไม่นานเท่าไหร่ทางด้านพาลินก็ยุ่งไม่แพ้กันนอกจากจะต้องฝึกงานแล้วยังต้องแบ่งเวลามาดูแลเบจิงและแวะไปเยี่ยมแพรรดาที่โรงพยาบาลทุกวันก่อนหน้านี้เบจิงอาละวาดบ้านแทบแตกเด็กชายไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงทิ้งเขาไปแล้วทำไมแม่ถึงยังไม่ยอมตื่นในทุกวันพาลินต้องพาเด็กชายไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาล แม้ว่าหมอจะไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมเพราะกังวลเรื่องการติดเชื้อ แต่เบจิงก็มองเห็นมารดาของตนเองผ่านกระจก“แม่ครับวันนี้เบจิงมาเยี่ยมแล้วนะครับ แม่หายไวๆ นะครับ รีบตื่นนะครับแม่” ประโยคเดิมที่เด็

  • พาลินโดรม   26.ไม่มีใครอยากให้เป็นแบบนี้

    บ่ายวันอาทิตย์พาลินและดลธรรมไม่ได้ออกไปไหนทั้งสองสั่งอาหารมาทางที่ห้อง พาลินนั่งตรวจทานตัวเลขในบัญชีของบริษัทซึ่งแพรรดาให้ช่วยกันดูอีกรอบว่ามีจุดไหนผิดพลาดไปบ้างเพราะจะต้องส่งตัวเลขทั้งหมดให้กับสรรพากรในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนดลธรรมเองก็ได้รับมอบหมายงานจากพี่เขยให้ช่วยดูเอกสารสัญญาต่างๆ ที่บริษัทกำลังจะเซ็นสัญญา“พี่โดมเย็นนี้ผมจะไปเอาของที่หอนะครับ”“ไปกี่โมงเดี๋ยวพี่ไปส่ง”“ไม่เป็นไรผมไปคนเดียวได้พี่ทำงานต่อเถอะ”“ได้ยังไง ต้องไปส่งสิ”“งานตัวเองก็ยุ่งอยู่แล้วจะเสียเวลามาส่งผมอีกทำไม ผมไปเองก็กลับเองได้ ไม่นานหรอกครับ”“ไม่เอาจะไปด้วย ไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว ขากลับจะได้หาอะไรกินเลยดีไหม แล้วเรื่องรถเซลล์ว่ายังไงบ้าง”“อาทิตย์หน้าก็ได้แล้วครับ”พาลินตัดสินใจซื้อรถยุโรปราคาเกือบสามล้านเพราะบังเอิญว่าคุณยายของเขาได้ข่าวว่าหลานชายจะซื้อรถก็เลยเป็นคนจ่ายเงินให้ จากรถญี่ปุ่นที่ดูไว้เลยกลายเป็นรถหรูยี่ห้อเดียวกับดลธรรมต่างกันแค่สีและขนาด รถดลธรรมสีดำส่วนของเขานั้นสีขาว“เร็วดีเหมือนกันนะ แต่ได้รถแล้วก็อย่าคิดจะไปไหนคนเดียว ยังไงพี่ก็ต้องไปด้วย”“ถ้าผมไปเรียนล่ะ จะไปด้วยไหม” พาลินแกล้งถามเ

  • พาลินโดรม   25.จะนับทำไม nc

    เสียงจูบแลกลิ้นดังอย่างต่อเนื่อง เมื่ออารมณ์ของคนทั้งสองกำลังทะยานขึ้นสูงอีกครั้งตอนนี้พาลินคร่อมอยู่เหลือร่างของดลธรรมที่กึ่งนั่งกึ่งนอนแผ่นหลังพิงอยู่กับหมอนใบใหญ่ ฝามือมือร้อนลูบตามผิวเนียน ก่อนจะนวดบั้นท้ายที่สัมผัสทีไรก็รู้สึกจนไม่อยากจะปล่อยพาลินสั่นสะท้านเมื่อรู้สึกว่าความร้อนของท่อนเอ็นกำลังถูอยู่ตรงช่องทางด้านหลังดลธรรมบีบเจลใส่มือแล้วกดนวดขณะที่ปากก็ยังจูบนัวเนียกันอยู่“อื้อ..”เขายกสะโพกขึ้นให้คนพี่สอดนิ้วเข้าไปทีละนิด สองมือเกาะบ่าดลธรรมไว้แน่น ปากที่จูบประกบอยู่เปลี่ยนเป็นดูดแรงตรงลำคอเพื่อระบายความเสียว ยิ่งเขาเพิ่มจำนวนนิ้วพาลินก็ขาสั่นเห็นท่าทางไม่ไหวของพาลินแล้วดลธรรมรีบหยิบถุงยางสวมให้กับตนเอง พออาวุธพร้อมรบก็ประคองสะโพกคนน้องขึ้นสูง จ่อท่อนเอ็นเข้ายังช่องทางคับแน่น“อื้อ พี่...”พาลินพยายามห้ามเสียงร้องของตัวเองแต่มันก็ยังเล็ดลอดออกมาอยู่ดีเขากดสะโพกลงอย่างช้าๆ เพราะรู้ถ้าทิ้งตัวลงมาคงได้จุกแน่ๆ ก็เจ้ามังกรของคนพี่นั้นไม่ธรรมดาเลยทั้งขนาดและความยาว ไม่รู้ว่าชาติแล้วทำบุญด้วยข้าวหลามหรือยังไงพระเจ้าถึงได้ให้มาทั้งยาวและใหญ่เช่นนี้“อ่าห์..แน่นฉิบ ดีเป็นบ้าเลย”

DMCA.com Protection Status