“พาลิน”“ครับ”“รีบไปไหนหรือเปล่า”“ไม่ครับ”“ขับรถให้พี่ได้ไหม อย่างงีบสักหน่อย”เพราะตั้งแต่ไปจีนก็แทบไม่ได้นอนพักเลย อยู่บนเครื่องเกือบห้าชั่วโมงก็นอนไม่หลับ เพราะไฟล์ทที่เขาบินนั้นมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเกือบทั้งลำ ถึงแม้จะเป็นชั้นธุรกิจแต่ก็ไม่อาจเลี่ยงความวุ่นวายได้“ไปง่วงมาจากไหนครับ” พาลินถามเมื่อเห็นว่าเขาหาวไปหลายรอบแล้ว“งานยุ่งนิดหน่อย”“งั้นก็หลับเลยถ้าถึงแล้วผมจะปลุกเอง คงอีกสักพักใหญ่เลย” พาลินมองไปด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซึ่งตอนนี้รถติดยาวเข้ามาถึงลานจอดรถ“ขอบคุณครับ”ดลธรรมปรับเบาะให้เอนลงจากนั้นก็ตะแคงข้างหันหน้ามาทางพาลิน พลางหยิบแว่นกันแดดที่เสียบอยู่ตรงที่บังแดดมาสวมใจอยากนั่งมองหน้าคนที่ทำให้ต้องรีบกลับมาก่อนกำหนด แต่ร่างกายก็สู้ไม่ไหว ชายหนุ่มหลับก่อนที่รถจะออกมาถึงถนนเส้นหลักด้วยซ้ำเพราะรถติดจนแทบไม่ขยับทำให้คนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยแอบมองหน้าอีกคนได้บ่อยขึ้นดลธรรมเป็นคนผิวขาวถึงแม้จะน้อยกว่าตัวเองแต่ถ้าเทียบกับคนอื่นก็ยังขาวอยู่มาก จมูกของเขาโด่งเป็นสัน คิ้วหนาเรียงตัวกันอย่างเป็นระเบียบ เขารู้จากพี่แพรรดาว่าทั้งเธอและดลธรรมเป็นลูกเสี้ยวแต่จำไม่ได้ว่าเป็นสัญช
ดลธรรมตื่นนอนตั้งแต่เช้าแต่เพราะวันนี้ไม่ต้องรีบเข้าบริษัทเขาเลยไม่ต้องรีบลุกจากที่นอน อีกอย่างก็รู้สึกดีที่ตอนนี้พาลินยังนอนกอดตนเองอยู่เขาฉวยโอกาสหอมแก้มชายหนุ่มไปหลายทีแต่คนขี้เซาก็ยังคงหลับลึก กว่าพาลินจะรู้สึกตัวตัวก็ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง“มอร์นิ่ง พาลิน”“มอร์นิ่งครับ” พาลินขยับตัวออกแต่ก็โดนอีกคนรั้งไว้“จะรีบไปไหน ไม่มีเรียนไม่ใช่เหรอ”“ไม่มีเรียนครับ พี่ล่ะ ไม่รีบไปทำงานเหรอครับ”“วันนี้ไม่ต้องเขาบริษัทครับ ว่าจะอยู่กับเราทั้งวัน”“อยู่กับผมทำไมครับ”“พาลินบอกเองว่าถ้ามีแฟนก็อยากอยู่กับแฟนตลอด”“ผมบอกอย่างนั้นก็จริง แต่ผมกับพี่เราไม่ได้เป็นแฟนกัน”“ซ้อมไว้ก่อนก็ได้นี่ครับ หรือว่าจะเป็นแฟนกันตอนนี้ก็ได้ สนใจไหม”“ไม่เป็นไรครับผมไม่รีบ”“แต่พี่รีบ” ดลธรรมขยับเข้าใกล้จนปากของทั้งสองเกือบจะชนกัน“พี่โดมอย่า ผมยังไม่แปรงฟัน” พาลินรู้ว่าอีกคนกำลังจะทำอะไร เขารีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองย่างรวดเร็ว“พี่ก็ไม่ได้แปรงเหมือนกัน” จบประโยคเขาก็ดึงมือของพาลินออก จากนั้นปากของทั้งสองก็แนบชิด จูบรับวันใหม่ที่อบอุ่นและอ่อนโยนทำให้พาลินหลงไปกับความวาบหวามที่เขามอบให้ กว่าดลธรรมจะยอมปล่อยพาลิน
วันนี้ก็ครบสองเดือนแล้วที่พาลินและดลธรรมตกลงเป็นแฟนกับ ไม่มีใครย้ายมาอยู่กับใครอย่างที่เคยพูดไว้ แต่ต่างไปค้างที่ห้องของอีกฝ่ายสลับกันไปเรื่อยเรื่องฝึกงานของพาลินก็ไม่มีปัญหาอะไร ชายหนุ่มเพิ่งรู้ว่าบริษัทที่ตัวเองไปฝึกนั้นเป็นของแพรรดาก็วันที่มาฝึกงานวันแรก เขาโวยวายใส่ดลธรรมที่ไม่ยอมบอกตนเองตั้งแต่แรก ดลธรรมเลยถามกลับว่าถ้าบอกแล้วจะเปลี่ยนอะไรได้ไหม พาลินเลยหยุดโวยวายแต่ก็งอนไปหลายวันแพรรดารู้แล้วว่าดลธรรมกับพาลินตกลงคบกัน เธอจึงตั้งใจสอนงานพาลินและมีนาอย่างเต็มที่เพราะอยากได้คนที่ไว้ใจมาช่วยงานด้านนี้อยู่แล้ว“วันนี้ไปทานข้าวเย็นที่บ้านกับพี่ไหมพาลิน เบจิงบ่นคิดถึงมาหลายวันแล้ว” แพรรดาตรวจงานเสร็จก็เงยหน้าขึ้นคุยกับนักศึกษาฝึกงานคนโปรด“ได้ครับ ผมก็อยากเจอเบจิงเหมือนกัน”“งั้นไปพร้อมกันเลยนะ”“เดี๋ยวผมตามไปทีหลังดีกว่าครับ” พาลินไม่อยากในอื่นรู้ว่าเขากับแพรรดารู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพราะกลัวว่าจะกระทบกับการฝึกงาน“นั่นสิ พี่ลืมไปเลยว่าเรามีคนมารับ”“ผมจะรีบตามไปนะครับ”“ได้จ้ะ เบจิงคงดีใจมาก”“พี่แพรอย่าเพิ่งบอกได้ไหมครับ ผมอยากไปเซอร์ไพรส์”“ได้สิ แล้วเจอกันที่บ้านนะ พี่ขอตัวไปร
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มแต่ตอนนี้ทั้งสองคนก็เข้ามาอยู่ในห้องนอนแล้ว คนพี่ทับทาบอยู่ด้านบน ปากที่ประกบจูบลงมาอย่างแผ่วเบาในทีแรกนั้นเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนได้อย่างรวดเร็วทั้งบดจูบทั้งแลกลิ้นกันอย่างไม่ลดละ ร่างกายร้อนราวกับไฟ มือต่างสัมผัสกันและกันอย่างโหยหา เสื้อผ้าถูกดึงรั้งออกอย่างรวดเร็วพาลินเกี่ยวลำคอเขาไว้ ขณะที่ท่อนล่างก็เบียดเข้าหา ฝ่ามือใหญ่กอบกุมความเป็นชายที่มันแข็งชัน รูดรั้งเป็นจังหวะอย่างคนชำนาญ นิ้วโป้งกดนวดส่วนปลายจนน้ำหวานไหลเยิ้มจูบจนหนำใจก็เปลี่ยนไปขบเม้มติ่งหูเล่น ลากลิ้นยาวมายังลำคอขาว ดูดเบาๆ พอให้เกิดรอย“พี่โดม อื้อ มันจะเป็นรอย”เขาไม่สนใจเสียงห้ามของคนที่อยู่ใต้ร่างเลยสักนิด เรียวปากจูบพรมไปทั้งลำคอ ก่อนจะหยอกล้อกับยอดอกสีชมพูระเรื่อ“ทำไมน่ากินไปทั้งตัวอย่างนี้นะ”ดลธรรมอดไม่ได้ที่จะดูดเม็ดทับทิมเข้าปาก ลิ้นก็ตวัดเลีย มืออีกข้างที่ว่างก็บีบแล้วดึงขึ้นอย่างไม่อาจยับยั้ง ร่างกายของคนตัวขาวแดงระเรื่อเพราะอารมณ์วาบหวามที่มันมากขึ้นกว่าทุกครั้ง“ให้พี่นะ พาลิน”เขาเหยียดตัวขึ้นมากระซิบข้างหู“พี่โดมไม่รังเกียจใช่ไหม”อีกคนถามอย่างไม่แน่ใจ“ไม่เลย พี่รอวันนี้ รอวันที
วันนี้ก็ครบสองเดือนแล้วที่พาลินและดลธรรมตกลงเป็นแฟนกับ ไม่มีใครย้ายมาอยู่กับใครอย่างที่เคยพูดไว้ แต่ต่างไปค้างที่ห้องของอีกฝ่ายสลับกันไปเรื่อยเรื่องฝึกงานของพาลินก็ไม่มีปัญหาอะไร ชายหนุ่มเพิ่งรู้ว่าบริษัทที่ตัวเองไปฝึกนั้นเป็นของแพรรดาก็วันที่มาฝึกงานวันแรก เขาโวยวายใส่ดลธรรมที่ไม่ยอมบอกตนเองตั้งแต่แรก ดลธรรมเลยถามกลับว่าถ้าบอกแล้วจะเปลี่ยนอะไรได้ไหม พาลินเลยหยุดโวยวายแต่ก็งอนไปหลายวันแพรรดารู้แล้วว่าดลธรรมกับพาลินตกลงคบกัน เธอจึงตั้งใจสอนงานพาลินและมีนาอย่างเต็มที่เพราะอยากได้คนที่ไว้ใจมาช่วยงานด้านนี้อยู่แล้ว“วันนี้ไปทานข้าวเย็นที่บ้านกับพี่ไหมพาลิน เบจิงบ่นคิดถึงมาหลายวันแล้ว” แพรรดาตรวจงานเสร็จก็เงยหน้าขึ้นคุยกับนักศึกษาฝึกงานคนโปรด“ได้ครับ ผมก็อยากเจอเบจิงเหมือนกัน”“งั้นไปพร้อมกันเลยนะ”“เดี๋ยวผมตามไปทีหลังดีกว่าครับ” พาลินไม่อยากในอื่นรู้ว่าเขากับแพรรดารู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพราะกลัวว่าจะกระทบกับการฝึกงาน“นั่นสิ พี่ลืมไปเลยว่าเรามีคนมารับ”“ผมจะรีบตามไปนะครับ”“ได้จ้ะ เบจิงคงดีใจมาก”“พี่แพรอย่าเพิ่งบอกได้ไหมครับ ผมอยากไปเซอร์ไพรส์”“ได้สิ แล้วเจอกันที่บ้านนะ พี่ขอตัวไปร
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มแต่ตอนนี้ทั้งสองคนก็เข้ามาอยู่ในห้องนอนแล้ว คนพี่ทับทาบอยู่ด้านบน ปากที่ประกบจูบลงมาอย่างแผ่วเบาในทีแรกนั้นเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนได้อย่างรวดเร็วทั้งบดจูบทั้งแลกลิ้นกันอย่างไม่ลดละ ร่างกายร้อนราวกับไฟ มือต่างสัมผัสกันและกันอย่างโหยหา เสื้อผ้าถูกดึงรั้งออกอย่างรวดเร็วพาลินเกี่ยวลำคอเขาไว้ ขณะที่ท่อนล่างก็เบียดเข้าหา ฝ่ามือใหญ่กอบกุมความเป็นชายที่มันแข็งชัน รูดรั้งเป็นจังหวะอย่างคนชำนาญ นิ้วโป้งกดนวดส่วนปลายจนน้ำหวานไหลเยิ้มจูบจนหนำใจก็เปลี่ยนไปขบเม้มติ่งหูเล่น ลากลิ้นยาวมายังลำคอขาว ดูดเบาๆ พอให้เกิดรอย“พี่โดม อื้อ มันจะเป็นรอย”เขาไม่สนใจเสียงห้ามของคนที่อยู่ใต้ร่างเลยสักนิด เรียวปากจูบพรมไปทั้งลำคอ ก่อนจะหยอกล้อกับยอดอกสีชมพูระเรื่อ“ทำไมน่ากินไปทั้งตัวอย่างนี้นะ”ดลธรรมอดไม่ได้ที่จะดูดเม็ดทับทิมเข้าปาก ลิ้นก็ตวัดเลีย มืออีกข้างที่ว่างก็บีบแล้วดึงขึ้นอย่างไม่อาจยับยั้ง ร่างกายของคนตัวขาวแดงระเรื่อเพราะอารมณ์วาบหวามที่มันมากขึ้นกว่าทุกครั้ง“ให้พี่นะ พาลิน”เขาเหยียดตัวขึ้นมากระซิบข้างหู“พี่โดมไม่รังเกียจใช่ไหม”อีกคนถามอย่างไม่แน่ใจ“ไม่เลย พี่รอวันนี้ รอวันที
ดลธรรมรู้สึกถึงหยดน้ำอุ่นๆ ที่กระทบบนแผงอก พอก้มหน้ามองก็ต้องตกใจเมื่อเห็นพาลินกำลังร้องไห้“พาลินเป็นอะไร พี่ทำเราเจ็บเหรอพี่ขอโทษ เจ็บมากไหมขอพี่ดูหน่อย”อีกคนส่ายหัวแต่กลับร้องไห้หนักขึ้น ร้องจนตัวโยนเหมือนกับวันนั้นวันที่เขาเจอพาลินตรงทางเดินในคอนโด“พี่โดมผมขอโทษ”“ขอโทษทำไมครับ เราทำอะไรผิด ไหนบอกพี่สิ” น้ำเสียงทั้งอบอุ่นและอ่อนโยนของดลธรรมยิ่งกระตุ้นให้พาลินร้องไห้มากกว่าเดิม“ผม ฮึก ผมขอโทษที่ไม่ใช่คนแรกของพี่ ผมขอโทษที่ผมเจอพี่ช้าไป”“พาลิน มองหน้าพี่นะ พี่ไม่โกรธไม่สนใจเรื่องคนแรกอะไรนั่นเลย ทุกคนก็มีอดีตมันผ่านมาแล้ว อย่าคิดแบบนี้อีกนะครับ”“พี่ไม่คิดมากใช่ไหม”“ไม่เลย ขอแค่จากนี้เรามีพี่คนเดียว ให้พี่เป็นคนสุดท้ายก็พอ รับปากได้ไหมจะไม่คิดแบบนี้อีก”“ครับ”“ไม่ต้องร้องแล้ว เกิดใครมาได้ยินคงคิดว่าพี่บังคับเราแน่”“ผมรู้พี่ไม่ได้บังคับ ผมเต็มใจ”“พี่รักเรานะพาลิน รักมากพี่อยากให้ทุกวันของเรามีแต่ความสุข”“ผมคิดว่าผมก็รักพี่แล้วแหละ”“ไม่ได้พูดเพราะอยากเอาใจใช่ไหม”“ไม่ได้เอาใจครับ แต่พูดเพราะรู้สึกแบบนั้น อยู่กับพี่มีความสุข”“แล้วเมื่อกี้มีความสุขไหม”“ผมมีความสุขมาก ผมไม่เค
บ่ายวันเสาร์พาลินและดลธรรมก็พากันมาที่บ้านของเบจิงตามที่นัดกับแพรรดาไว้เมื่อวาน“พี่ลิน” น้องเบจิงวิ่งเข้ามากอดคุณครูคนโปรด แม้ตอนนี้จะไม่ได้มาสอนแล้วแต่เด็กชายก็ยังคิดถึงและบ่นหาอยู่เกือบทุกวัน“คิดถึงจังเลยครับ” พาลินหอมแก้มป่องทั้งสองข้างอย่างเอ็นดู“ผมก็คิดถึงพี่ลินครับ คิดถึงมากที่สุดเลย” เด็กน้อยเดินตามพาลินไป พอเขานั่งลงเบจิงก็กระโดดขึ้นไปนั่งบนตัก“เบจิงครับ น้าโดมก็มาไม่เห็นทักทายกันบ้างเลย”“สวัสดีครับน้าโดม”“มานั่งกับน้าไหม นั่งตักพี่ลินแบบนั้นเดี๋ยวพี่ลินจะเมื่อยเอานะ”“พี่ลินเมื่อยเหรอครับ”“ไม่เมื่อยครับ นั่งได้สบายเลย เบจิงตัวนิดเดียวเอง”ดลธรรมเห็นทั้งสองคนคุยกันก็อิจฉาหลานชายขึ้นมาทันที ยิ่งเห็นพาลินหอมซ้ายหอมขวาก็แทบอยากจะชวนกลับ“พี่โดมเป็นอะไร”“เปล่า”“เหรอครับ ผมเห็นหน้าบึ้ง”“บึ้งที่ไหน ปกติเป็นแบบนี้”“ครับ” เขาพยักหน้าแล้วกลับมาสนใจเบจิงต่อ“มากันแล้วเหรอ”“สวัสดีครับพี่แพร พี่ปรานต์” ทั้งสองคนกล่าวทักทายเจ้าของบ้าน“พาลินอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหมพี่จะบอกป้าสายให้”“ผมกินอะไรก็ได้ครับ”“นั่งคุยไปก่อนนะพี่ไปดูป้าสายหน่อยว่าทำกับข้าวไปถึงไหนแล้ว”“ครับ พี่แพรครับ
สัมผัสที่เร่าร้อนของเรียวปากหยักจูบแลกลิ้นกันอยู่อย่างนั้น พาลินหลงใหลไปกับรสจูบที่คนรักมอบให้ สองมือดันผนังห้องน้ำเอี้ยวคอมาจูบ สะโพกกลมขาวกดแนบชิดกับท่อนเอ็นร้อนเสียงคนพี่ครางในลำคอ เขาอยากกลืนกินคนช่างยั่วตั้งแต่เห็นรูปที่ส่งไปให้ ดลธรรมไม่ลังเลเลยที่จะรีบขับรถกลับมาที่คอนโด แล้วเขาก็ไม่ผิดหวังเมื่อรู้ว่าพาลินกับเขาต่างมีความต้องการเหมือนกัน“พาลินยั่วพี่เองนะครับ”“ถ้าน้องยั่วแล้วพี่ไม่อยากพี่จะกลับมาเหรอ”“นั่นยั่วอีกแล้ว”“น้องยั่วแล้วพี่อยากไหม”“ไม่ยั่วก็อยากครับ ยันผนังไว้นะครับพี่จะลงโทษคนยั่วแล้ว”ดลธรรมจูบไซร้ไปตามท้ายทอยและซอกคอ กัดติ่งหูคนด้านหน้าเบาๆ เพราะเป็นจุดอ่อน แค่นั้นพาลินก็ร้อนวูบวาบไปทั่วทั้งตัวฝ่ามือร้อนไล้ไปทั้งแผงอกบีบคลึงเบาๆ บนยอดสีสวย สะโพกก็กดลงไปยังบั้นท้าย เสียงหวานครางแผ่วเบา สะโพกแอ่นโค้งเด่นคนตัวโตกดครีมอาบน้ำสูตรอ่อนโยนลงบนปลายนิ้วกลางจากนั้นลากไปตามช่องทางสีสวยกดลงไปช้าๆ ค่อยเพิ่มจำนวนนิ้วเป็นสองและสาม พาลินครางสะท้านรู้สึกถึงความคับแน่นที่กำลังนวดผนังด้านใน“อื้อ...พี่”เขาสะดุ้งเมื่อจุดอ่อนไหวด้านในถูกกระตุ้นเพียงแค่นั้นตัวตนของเขาก็ปวดหนึบ ม
หลังจากตรวจเสร็จและรับยาแล้วรถกระบะคันเดิมก็มาส่งดลธรรมและพาลินที่สนามบิน“พี่หน้าผมยังมีผื่นอยู่ไหม”“ยังมีอีกนิดหน่อย ใส่มาสก์ไปก่อน”“หมอบอกว่าเดี๋ยวมันก็หายไงครับ”“มันต้องใช้เวลาไง เดี๋ยวกลับถึงกรุงเทพถ้าผื่นยังไม่ยุบลงพี่จะพาไปหาหมออีกรอบ”“ไม่เอาแล้วไม่หาแล้ว ไปอีกก็โดนฉีดยาอีก”พาลินทานยาแก้แพ้ตั้งแต่อยู่บนเขาแต่พอมาถึงโรงพยาบาลผื่นก็ยังไม่หายและดูเหมือนจะขึ้นมากกว่าเดิมหมอเลยต้องฉีดยาเพราะมันได้ผลเร็วกว่า รวมถึงให้ยาทาแก้คันมาด้วยตอนนี้พาลินเลยสีชมพูไปทั้งตัว ยังดีที่เขามีเสื้อคลุมแขนยาวเลยไม่ค่อยอายคนเท่าไหร่แต่ที่ต้องอายก็คงจะเป็นคนที่นั่งอยู่ข้างเพราะเขาเป็นคนทายาให้กับตนเองทั้งตัว“ยามันง่วงเดี๋ยวขึ้นเครื่องเราจะหลับเลยก็ได้ ถึงแล้วพี่จะปลุกเอง”“บินนานไหมครับ” เพราะขามาเขานั่งรถมาเพื่อนๆ เลยไม่รู้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่“ไม่นานครับ ประมาณชั่วโมงหนึ่งครับ หลับแป๊บเดียวก็ถึงกรุงเทพแล้ว”“ผมหวังว่าถึงกรุงเทพแล้วผมจะหายนะ”“แต่พี่ว่าอย่าเพิ่งหายเลย ชมพูไปทั้งตัวแบบนี้ก็น่ารักดี”“ไม่ตลกนะครับพี่ มันคันไปทั้งตัวเลย”“อดทนอีกนิดนะครับ ถึงคอนโดจะเอาน้ำเย็นเช็ดให้”พอขึ้นเครื่อง
ดลธรรมไม่อยากให้พาลินพลาดการเข้าค่ายอาสาซึ่งเป็นกิจกรรมที่ชายหนุ่มทำมาทุกปีตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย และถ้าปีสุดท้ายมาได้เข้าร่วมคงจะเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากถึงแม้จะทั้งหวงทั้งห่วงแต่เขาก็ไม่อยากพรากความทรงจำในวัยเรียนของคนรัก และนั่นก็คือเหตุผลที่ตอนนี้เขามานั่งอยู่ข้างคนขับรถกระบะสีประตูขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังจุดที่นักศึกษามาออกค่ายเดิมทีก็ตกลงจะมาด้วยกัน แต่เพราะเขามีงานที่ยังเคลียร์ไม่เรียบร้อยจึงต้องยอมปล่อยให้คนน้องมาเข้าค่ายกับเพื่อนพาลินงอนนิดหน่อยที่เขาไม่ทำตามที่พูด แต่ก็ตัดสินใจมากับเพื่อน เพราะอยากใช้ชีวิตในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยให้คุ้มค่าที่สุด ส่วนตัวเขาก็รีบเคลียร์งานแล้วตามมาทีหลังโดยไม่ได้บอกพาลินแค่สองสามที่ต้องนอนอยู่คนเดียวเขาก็ทรมานเกินไปแล้ว“อันที่จริงมันก็ไม่ไกลหรอกนะครับ แต่ทางมันค่อนข้างลำบากมันเลยดูเหมือนไกล” เสียงคนขับรถกระบะทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์“ครับ”ดลธรรมให้ลูกน้องที่บริษัทซึ่งบังเอิญเป็นคนพื้นที่ช่วยติดต่อเช่ารถพร้อมคนขับไปส่งที่หมู่บ้านบนเขาชายหนุ่มนั่งเครื่องมาลงที่สนามบินพิษณุโลกตั้งแต่เช้าจากนั้นก็ให้คนขับรถพาไปซื้อไก่ทอด โด
ดลธรรมและพาลินย้ายกลับมาอยู่ที่คอนโดเพราะอยากให้มารดาได้ทำความรู้จักและปรับตัวกับเบจิงได้มากขึ้นแต่เขากับพาลินก็ยังแวะไปทานอาหารเย็นด้วยอยู่บ่อยๆ ดูเหมือนว่าเบจิงจะเข้ากันได้ดีกับคุณยายของตนเองแม้พาลินจะมีรถเป็นของตัวเองแล้ว แต่ดลธรรมก็ยังมารับส่งที่มหาวิทยาลัยเป็นบางวัน“พี่โดม ขอโทษทีครับคุยกับเพื่อนนานไปหน่อย”“ไม่เป็นไร แล้วตกลงเอาไงเราจะไปค่ายกับเพื่อนไหม” ช่วงวันหยุดยาวติดกันชมรมค่ายอาสาจะพากันไปออกค่ายที่พิษณุโลก“กำลังตัดสินใจอยู่ครับ”“ทำไมดูตัดสินใจยากจัง แต่ก่อนเห็นตื่นเต้นจะไป”“ก็ตอนนั้นยังไม่มีแฟน ตอนนี้มีแฟนแล้วติดแฟนครับ”“ฟังคำตอบแล้วชื่นใจจัง”“ถ้าผมไปพี่จะคิดถึงผมไหม”“ถ้าเราไปพี่ก็ไปด้วยครับ ไม่อยากนอนคนเดียว”“ถ้าผมไม่ไปก็เหมือนจะเอาเปรียบคนอื่นอยู่ที่ไม่ช่วยออกแรงอะไรเลย”“แต่พี่ก็ช่วยเรื่องคอมไปตั้ง 10 ชุดแล้วนะครับ”“นั้นมันส่วนของพี่ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเลย”“ถ้าอยากรู้สึกมีส่วนร่วมกับคอมห้าชุดนั่นก็แค่..”“แค่อะไรครับ” พาลินหันมามองคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย พอเห็นหน้าเขาก็เดาออกทันทีว่าตอนนี้สิ่งที่คนพี่ต้องการคืออะไร เพียงแค่คิดพาลินก็หน้าแดงขึ้นมาทันที“นานเ
คุณแพรเพ็ญและจอห์นสามีใหม่บินกลับมาทันทีหลังจากดลธรรมโทรไปบอกว่าย่าของเบจิงจะพาเบจิงไปอยู่ด้วยเธอเสียลูกสาวไปคนหนึ่งแล้วจึงไม่อยากจะเสียหลานชายไปอีกคน เพราะรู้ว่าที่ฝ่ายนั้นอยากพาเบจิงไปก็เพื่อต่อรองกับดลธรรมให้รับผิดชอบเด็กในท้องของปณิชญาเท่านั้น“คุณยายครับ ตาจอห์นบอกว่าที่บ้านตามีหิมะด้วยจริงไหมครับ”“จริงสิ เบจิงอยากไปดูหิมะไหม”“อยากไปครับ แต่เบจิงต้องไปโรงเรียนคงไปกับคุณยายไม่ได้”“ที่นั่นก็มีโรงเรียนครับ เดี๋ยวยายจะให้เบจิงดูนะครับว่าโรงเรียนที่นั่นเป็นยังไงบ้าง อยากดูไหมครับ”“อยากดูครับ พี่ลินมาดูด้วยกันไหม” เบจิงเรียกพาลินที่กำลังเดินถือผลไม้จานใหญ่ให้มาดูด้วยกันอีกคนแพรเพ็ญเปิดคลิปแนะนำโรงเรียนประถมในประเทศออสเตรียให้กับหลานชายดู เพราะเธอกับสามีคุยกันแล้วว่าจะรับเบจิงไปอยู่ที่นั่นในฐานะลูกชายของทั้งสองคนดลธรรมก็เห็นด้วยกันมารดาเพราะอยากให้เบจิงมีอนาคตที่ดี ลำพังเขากับพาลินคนดูแลเด็กชายได้ไม่ดีพอแต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเบจิงว่าอยากจะย้ายไปอยู่ที่นั่นไหม ตอนนี้ทั้งมาลีและป้าสายก็เริ่มฝึกภาษาอังกฤษกับจอห์นเพราะแพรเพ็ญอยากให้สองนั้นย้ายไปอยู่ด้วยกันทุกคนที่นี่เตรียมวางแผนก
สามเดือนแล้วที่แพรรดาจากไปและเบจิงอยู่กับดลธรรมและพาลินในบ้านหลังใหญ่ ชีวิตของเด็กชายกลับมาสดใสอีกครั้ง เสียงหัวเราะดังออกมานอกบ้านจนคนที่เพิ่งมาถึงยิ้มอย่างพอใจ“สวัสดีครับคุณย่า” เบจิงยกมือทักทายผู้เป็นย่าที่เจอกันครั้งสุดท้ายในงานศพของผู้เป็นมารดา“น้าชายเราไปอยู่ไหนแล้วล่ะ”“มีธุระอะไรกับผมเหรอครับแม่” ดลธรรมยังเรียกเธอว่าแม่อย่างเดิมเพราะอยากให้เกียรติในฐานะที่เธอเป็นย่าของเบจิงเขาค่อนข้างแปลกใจที่คุณปราณีมาหาถึงที่บ้าน เพราะตลอดหลายเดือนมานี้ท่านไม่เคยแวะมาที่นี่เลยสักครั้ง“แม่เรากลับไปแล้วใช่ไหม” คุณปราณีถามถึงแพรเพ็ญ“เพิ่งบินกลับไปสองวันก่อนมีธุระอะไรกับท่านหรือเปล่าครับ”“เปล่า แม่แค่อยากคุยกับโดมสักหน่อย”“ได้ครับ เบจิงไปหาพี่ลินก่อนนะครับน้าขอไปคุยธุระกับคุณย่าก่อน”“ครับน้าโดม”ชายหนุ่มพาคุณปราณีมายังห้องทำงานของตนเองที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของพี่สาวและพี่เขย“โดม แม่จะคุยกับเราเรื่องเบจิง”“มีอะไรเหรอครับ“แม่จะพาเบจิงไปอยู่ด้วย”“แต่เบจิงอยู่กับผมก็มีความสุขดี แม่ก็เห็นว่าเขากลับมาร่าเริงแล้ว”“แต่แม่อยากให้หลานไปอยู่กับแม่”“ผมว่าแม่ไม่มีสิทธิ์จะทำแบบนั้นนะครับ“มีสิ
งานศพของปรานต์ผ่านมาแล้วสองสัปดาห์ แต่ภรรยาของเขาก็ยังคงนอนไม่ได้สติ แผลจากภายนอกร่างกายนั้นหายดีแล้ว แต่สมองของเธอยังคงบวมอยู่หมอต้องผ่าตัดระบายเลือดออกอีกครั้ง แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลยมารดาของดลธรรมและสามีใหม่บินมาร่วมงานศพของลูกเขยจากนั้นก็อยู่ดูอาการของแพรรดาต่ออีกสองวันจึงบินกลับส่วนครอบครัวของปรานต์ไม่ได้สนใจมาเยี่ยมพี่สาวของเขาเลย ฝ่ายนั้นบอกแต่ว่ายังทำใจไม่ได้ที่เสียลูกชายไปตอนนี้ดลธรรมต้องทำงานทั้งบริษัทตัวเองและบริษัทของพี่สาวซึ่ง นับว่าเป็นงานค่อนข้างหนัก เขาเองเพิ่งมาเริ่มศึกษางานก่อนหน้านี้ไม่นานเท่าไหร่ทางด้านพาลินก็ยุ่งไม่แพ้กันนอกจากจะต้องฝึกงานแล้วยังต้องแบ่งเวลามาดูแลเบจิงและแวะไปเยี่ยมแพรรดาที่โรงพยาบาลทุกวันก่อนหน้านี้เบจิงอาละวาดบ้านแทบแตกเด็กชายไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงทิ้งเขาไปแล้วทำไมแม่ถึงยังไม่ยอมตื่นในทุกวันพาลินต้องพาเด็กชายไปเยี่ยมมารดาที่โรงพยาบาล แม้ว่าหมอจะไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมเพราะกังวลเรื่องการติดเชื้อ แต่เบจิงก็มองเห็นมารดาของตนเองผ่านกระจก“แม่ครับวันนี้เบจิงมาเยี่ยมแล้วนะครับ แม่หายไวๆ นะครับ รีบตื่นนะครับแม่” ประโยคเดิมที่เด็
บ่ายวันอาทิตย์พาลินและดลธรรมไม่ได้ออกไปไหนทั้งสองสั่งอาหารมาทางที่ห้อง พาลินนั่งตรวจทานตัวเลขในบัญชีของบริษัทซึ่งแพรรดาให้ช่วยกันดูอีกรอบว่ามีจุดไหนผิดพลาดไปบ้างเพราะจะต้องส่งตัวเลขทั้งหมดให้กับสรรพากรในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนดลธรรมเองก็ได้รับมอบหมายงานจากพี่เขยให้ช่วยดูเอกสารสัญญาต่างๆ ที่บริษัทกำลังจะเซ็นสัญญา“พี่โดมเย็นนี้ผมจะไปเอาของที่หอนะครับ”“ไปกี่โมงเดี๋ยวพี่ไปส่ง”“ไม่เป็นไรผมไปคนเดียวได้พี่ทำงานต่อเถอะ”“ได้ยังไง ต้องไปส่งสิ”“งานตัวเองก็ยุ่งอยู่แล้วจะเสียเวลามาส่งผมอีกทำไม ผมไปเองก็กลับเองได้ ไม่นานหรอกครับ”“ไม่เอาจะไปด้วย ไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว ขากลับจะได้หาอะไรกินเลยดีไหม แล้วเรื่องรถเซลล์ว่ายังไงบ้าง”“อาทิตย์หน้าก็ได้แล้วครับ”พาลินตัดสินใจซื้อรถยุโรปราคาเกือบสามล้านเพราะบังเอิญว่าคุณยายของเขาได้ข่าวว่าหลานชายจะซื้อรถก็เลยเป็นคนจ่ายเงินให้ จากรถญี่ปุ่นที่ดูไว้เลยกลายเป็นรถหรูยี่ห้อเดียวกับดลธรรมต่างกันแค่สีและขนาด รถดลธรรมสีดำส่วนของเขานั้นสีขาว“เร็วดีเหมือนกันนะ แต่ได้รถแล้วก็อย่าคิดจะไปไหนคนเดียว ยังไงพี่ก็ต้องไปด้วย”“ถ้าผมไปเรียนล่ะ จะไปด้วยไหม” พาลินแกล้งถามเ
เสียงจูบแลกลิ้นดังอย่างต่อเนื่อง เมื่ออารมณ์ของคนทั้งสองกำลังทะยานขึ้นสูงอีกครั้งตอนนี้พาลินคร่อมอยู่เหลือร่างของดลธรรมที่กึ่งนั่งกึ่งนอนแผ่นหลังพิงอยู่กับหมอนใบใหญ่ ฝามือมือร้อนลูบตามผิวเนียน ก่อนจะนวดบั้นท้ายที่สัมผัสทีไรก็รู้สึกจนไม่อยากจะปล่อยพาลินสั่นสะท้านเมื่อรู้สึกว่าความร้อนของท่อนเอ็นกำลังถูอยู่ตรงช่องทางด้านหลังดลธรรมบีบเจลใส่มือแล้วกดนวดขณะที่ปากก็ยังจูบนัวเนียกันอยู่“อื้อ..”เขายกสะโพกขึ้นให้คนพี่สอดนิ้วเข้าไปทีละนิด สองมือเกาะบ่าดลธรรมไว้แน่น ปากที่จูบประกบอยู่เปลี่ยนเป็นดูดแรงตรงลำคอเพื่อระบายความเสียว ยิ่งเขาเพิ่มจำนวนนิ้วพาลินก็ขาสั่นเห็นท่าทางไม่ไหวของพาลินแล้วดลธรรมรีบหยิบถุงยางสวมให้กับตนเอง พออาวุธพร้อมรบก็ประคองสะโพกคนน้องขึ้นสูง จ่อท่อนเอ็นเข้ายังช่องทางคับแน่น“อื้อ พี่...”พาลินพยายามห้ามเสียงร้องของตัวเองแต่มันก็ยังเล็ดลอดออกมาอยู่ดีเขากดสะโพกลงอย่างช้าๆ เพราะรู้ถ้าทิ้งตัวลงมาคงได้จุกแน่ๆ ก็เจ้ามังกรของคนพี่นั้นไม่ธรรมดาเลยทั้งขนาดและความยาว ไม่รู้ว่าชาติแล้วทำบุญด้วยข้าวหลามหรือยังไงพระเจ้าถึงได้ให้มาทั้งยาวและใหญ่เช่นนี้“อ่าห์..แน่นฉิบ ดีเป็นบ้าเลย”