ภาพคุณหมอหนุ่มที่คุ้นหน้าเดินจับมือหญิงสาวแสนสวยออกจากห้องทำงานเป็นภาพที่แปลกตาสำหรับบุคลากรในโรงพยาบาลแห่งนี้ เพราะไม่มีใครเคยเห็นคุณหมอหนุ่มทำแบบนี้มาก่อนถึงได้รู้สึกแปลกตาและแปลกใจเป็นอย่างมากและหนึ่งในนั้นก็คือฟ้ารดาที่กำลังจะกลับบ้าน ภาพที่เห็นนอกจากสร้างความแปลกใจให้เธอแล้วยังสร้างความเสียใจให้เธออีกด้วย กุมารแพทย์สาวทอดสายตามองคนที่เธอรู้สึกพิเศษจนลับตาพลางขบคิดว่าเขาทั้งสองมีความสัมพันธ์กันแบบไหนกัน...คนรู้จักกันธรรมดาไม่จับมือถือแขนกันอย่างนั้นเป็นแน่
“มองไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนะหมอฟ้า หมอเสือเขากำลังนอกใจเธอชัดๆ” เสียงพยาบาลสาวขี้อิจฉาเอ่ยขึ้น นางพยาบาลสาวไม่ชอบฟ้ารดาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงเยาะเย้ยและเสี้ยมกุมารแพทย์สาวในทางที่ผิด ฟ้ารดาหันหน้ามามองพยาบาลสาวก่อนจะเดินหนีอย่างไม่สนใจสร้างความโมโหให้พยาบาลสาวอย่างมากจนเผลอคิดในใจอย่างโกรธแค้น
‘ฉันจะทำให้เธออับอายให้ได้ฟ้ารดา หมอเสือเขากำลังนอกใจเธอแบบนี้คงเจ็บไม่น้อยฉันจะทำให้เรื่องนี้รู้ไปทั่วโรงพยาบาลเลย’
ด้านคนถูกมองว่านอกใจทั้งที่ไม่เคยคบยังคงจับมือมัณฑนากรสาวไม่ยอมปล่อยทั้งที่สาวเจ้าสะบัดก็แล้วจนในที่สุดแพรวารินทร์ก็หยุดเดินแล้วหันไปพูดกับผู้เป็นสามี
“คุณหมอไม่ต้องจูงก็ได้ แพรไม่หลงหรอก”
“พี่ไม่ได้กลัวหลงแค่อยากจับมือหนูแพรแค่นั้น” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกแต่ในใจกลับอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้จับมือหญิงสาวและเดินเคียงข้างกันมา อัตราการเต้นของหัวใจก็ผิดปกติไปเช่นกัน
แค่จับมือก็ใจเต้นขนาดนี้ ความรู้สึกมันไม่ได้จางหายไปเลย ชายหนุ่มลอบยิ้มยอมรับความรู้สึกข้างในจิตใจอย่างยินดี เพราะเขาเก็บความรู้สึกนั้นมาหลายปีทำให้ไม่แน่ใจว่ายังรู้สึกเหมือนเดิมอยู่หรือไม่การจับมือหรือใกล้ชิดกับอดีตเพื่อนน้องสาวคนนี้จึงถือเป็นการทดสอบความรู้สึกได้ดี ตอนนี้เขารู้แล้วว่ายังเหมือนเดิมแต่จะทำให้คนข้างๆรับรู้ด้วยนี้สิต้องทำไง
“อยากจับ? ถามจริงเถอะนี่หลังจากเดินตามพี่เมฆออกไปจากห้องของทรายเนี่ยหัวคุณหมอไปกระแทกอะไรรึเปล่าดูไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยนะ ให้คุณหมอเขาเช็กหน่อยมั้ยคะ?” แพรวารินทร์เอ่ยถามอย่างสงสัยกับพฤติกรรมที่ผ่านมาของหมอหนุ่มตั้งแต่ขอโอกาสจากเธอสิ่งที่แพรวารินทร์พูดทำให้หมอหนุ่มถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
“ฮะฮะฮ่า หนูแพรพี่เป็นประสาทศัลยแพทย์นะครับพี่รู้พี่ไม่ได้ป่วยหัวไม่ได้กระแทกอะไรด้วยแต่อยากลองดูว่าจับมือหนูแพรแล้ว...ตรงนี้มันรู้สึกยังไง” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจับมือหญิงสาวยกขึ้นมาทาบอกข้างซ้ายมือบางที่ถูกยกขึ้นทาบอกแกร่งสัมผัสได้ถึงก้อนเนื้อที่เต้นรัวอยู่ภายใน โลกทั้งใบคล้ายมีเพียงเธอและเขาหากไม่มีเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้น
“ไอ้เสือโลกนี้ไม่ได้มีแค่นายสองคนนะเพื่อน” ปัญจวัตรเอ่ยแซวเพื่อนรักความจริงเขาคงต้องกลับบ้านไปแล้วหากไม่ได้ยินข่าวลือที่แพร่สะพัดรวดเร็วยิ่งกว่าไฟลามทุ่งจนต้องเดินมาดู
“ยังไม่กลับเหรอ?” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามเพื่อนรักแม้จะลดมือลงแล้วแต่ยังกุมมือหญิงสาวไว้แน่นด้านคนถูกกุมมือหาได้สะบัดออกได้แต่ปล่อยให้ชายหนุ่มจับไว้ในใจคิดหาคำตอบว่าในจังหวะที่มือบางสัมผัสอกแกร่งหัวใจของใครมันเต้นแรงกว่ากันแล้วทำไมใจเธอกับเขาถึงได้เต้นในจงหวะเดียวกันแบบนี้
“ก็ว่าจะกลับแต่ได้ยินข่าวลือที่แพร่เร็วยิ่งกว่า4G ก็เลยมาดู ที่แท้สาวที่หมอพงศ์พยัคฆ์จับมือเดินออกจากห้องทำงานก็คือน้องแพรนี่เอง กลัวน้องหลงรึไงวะเสือ?” ปัญจวัตรยังคงแกล้งแหย่เพื่อนรักและน้องสาวให้เขินไปข้างแต่เหมือนจะไม่สำเร็จเมื่อเพื่อนรักเปลี่ยนเรื่องอย่างทันท่วงที
“ไปห้องหนูทรายกันไอ้ปัญจ์ ไหนๆก็ยังไม่กลับมาเร็ว” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะเดินนำเพื่อนไปแต่มือก็ไม่ยอมปล่อยมัณฑนากรสาว ปัญจวัตรได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินตามไป
ห้องพักพิมพ์พิชชา
ก็อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนร่างของพงศ์พยัคฆ์จะเปิดเข้ามาภาพที่เห็นตรงหน้าสร้างความแปลกใจให้คุณสิงหา คุณหญิงพราวกะรัตและพิมพ์พิชชาเป็นอย่างมากและสร้างรอยยิ้มให้ทั้งสามได้ดีเช่นกันแม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ดูจากที่จับมือถือแขนกันมาแบบนี้ทั้งสามก็พอเดาได้ว่าต้องมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นเป็นแน่
“หนูแพรบอกว่าเราอยากกินข้าวพร้อมพี่เหรอยัยตัวแสบ?” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามน้องสาวคำพูดของพี่ชายทำให้ดีใจจนแทบกระโดด เธอรู้สึกว่าเธอได้พี่ชายคนเดิมกลับมาแล้ว
“พี่เสือของทรายกลับมาแล้วมากอดหน่อย” พิมพ์พิชชาเอ่ยอย่างดีใจพร้อมทำท่ายกแขนอ้อนพี่ชายให้กอดเหมือนตอนเด็ก ๆ ด้าน “พี่เสือ” ก็จัดให้ตามคำขอเดินเข้าไปกอดน้องสาวก่อนจะผละออกแล้วหันไปยกมือไว้ผู้เป็นพ่อและแม่
“เสือขอโทษนะครับที่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวัง ต่อไปนี้เสือจะเป็นลูกที่ดี พี่ที่ดี และสามีที่ดีครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขอโทษผู้เป็นพ่อและแม่จากใจจริงสร้างความดีใจแก่สองสามีภรรยาเป็นอย่างมากที่ผ่านมาแม้จะเข้าใจว่าบุตรชายโกรธที่ปู่บังคับจนต้องประชดแต่ทั้งสองก็ไม่เคยเข้าใจว่าบุตรชายทำไมต้องนิ่งเฉยให้เวลากับงานมากกว่าครอบครัว
คุณสิงหาลูบไหล้ลูกชายก่อนจะพูดบางสิ่ง “เสือเป็นลูกที่ดี เป็นพี่ที่ดีมาตลอด ต่อไปนี้ก็ทำตัวให้เป็นสามีที่ดี แค่นี้พ่อกับแม่ก็ไม่มีอะไรต้องผิดหวังในตัวเสือแล้ว”
“เสือจะไม่ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกพร้อมกับโผเข้ากอดคนเป็นแม่ที่อ้าแขนรออยู่แล้ว อ้อมกอดของมารดามันยังอุ่นเสมอแม้เขาไม่ได้สัมผัสมา9ปีเต็ม ๆ ที่ผ่านมายอมรับว่าเขาแทบจะไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่เลยถ้าทั้งคู่ไม่เรียกพบอันเนื่องมาจากเขารีบออกมาทำงานและกลับดึกเพื่อจะได้ไม่ต้องพบหน้าแพรวารินทร์ให้ตัวเองต้องเจ็บปวด...มันช่างบ้าบอสิ้นดี เพียงเพราะทิฐิต่อปู่และความเข้าใจผิดเขาถึงได้เป็นลูกอกตัญญูได้ขนาดนี้
“เอ่อ...ซึ้งกันพอยังค่ะทรายหิวข้าว” พิมพ์พิชชาเอ่ยขึ้นขัดจังหวะซึ้ง ๆจนปัญจวัตรส่ายหน้าหันไปดุน้องสาวเพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก
“โธ่ยัยตัวแสบพี่กำลังอิน หมดกันซึ้ง กันอยู่ดี ๆ หิวซะงั้นดูเพื่อนเราสิน้องแพร”
“แกนี่น๊า ยัยทรายมาหิวอะไรตอนนี้ แต่จะว่าไปฉันก็หิวเหมือนกันแหะ”
“ใช่มั้ยล่า เห็นมั้ยพี่ปัญจ์ไม่ได้มีแต่ทรายที่หิวยัยแพรยังหิวเลย” ปัญจวัตรถึงกับส่ายหัวเมื่อสองสาวรวมกำลังกันแกล้งตนพงศ์พยัคฆ์ คุณสิงหา และคุณหญิงพราวกะรัตถึงกับหัวเราะอย่างมีความสุข
“ขออนุญาติค่ะอาหารมาแล้วค่ะ”เสียงของพยาบาลสาวดังขึ้นหยุดบรรยากาศสุขสันต์ไว้
“มีแต่ข้าวต้มอ่ะทรายอยากกินอย่างอื่นได้มั้ยค่ะคุณพยาบาล” พิมพ์พิชชาเอ่ยถามพร้อมทำหน้าเบื่ออาหารตรงหน้าพยาบาลสาวส่ายหน้ายิ้มๆก่อนจะเอ่ยบอก
“ไม่ได้ค่ะคุณต้องทานตามนี้ค่ะ”
“แต่ทรายเบื่อนะคะคุณพยาบาลนะนะนะ” พิมพ์พิชชาอ้อนพยาบาลสาวอย่างน่ารักแม้จะไม่รู้จักกันจนคนเป็นพี่ต้องออกมาปราม
“อย่าใจอ่อนนะครับคุณปุ้มยัยตัวแสบเนี่ยร้ายนัก กินข้าวต้มไปก่อนนะหนูทรายเดี๋ยวผ่าตัดเสร็จหนูทรายอยากได้อะไรพี่หามาให้หมดเลยนะครับ”
พยาบาลสาวแทบไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อได้ยินสิ่งที่หมอหนุ่มผู้ได้ฉายาเสือยิ้มยากแสนเย็นชาประจำโรงพยาบาลเอ่ยเสียงนุ่มแถมไม่ติดเย็นชาเหมือนก่อน
“คุณปุ้มครับ หมอเสือไม่ใช่หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนะครับไม่ต้องอึ้งขนาดนั้นก็ได้” ปัญจวัตรเอ่ยบอกพร้อมกับกลั้นหัวเราะอย่างสุดกำลังแหงล่ะถึงไม่ใช่นางพยาบาลสาวคนนี้คนอื่นก็ต้องมีอึ้งและงงกันล่ะ เพราะตั้งแต่ทำงานที่นี่บุคลากรในโรงพยาบาลไม่เคยได้เห็นเพื่อนรักยิ้มหรือพูดเสียงนุ่มรื่นหูจนได้ขนานนามว่าเสือยิ้มยากแสนเย็นชามาครอบครอง
“ก็มันแปลกนี่ค่ะหมอปัญจ์ ไม่ให้อึ้งไงไหว”
“ไม่แปลกหรอกครับคุณปุ้มที่นายเสือจะพูดแบบนี้กับคนในครอบครัว” ปัญจวัตรเอ่ยบอก บุคลากรในโรงพยาบาลส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้ภูมิหลังของพงศ์พยัคฆ์สักเท่าไหร่เพราะหมอหนุ่มค่อนข้างเก็บตัวแถมยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้าของโรงพยาบาลทำให้ไม่มีใครกล้าถามประวัติความเป็นมาของหมอหนุ่ม
“ครอบครัวเหรอค่ะจริงสิถึงว่าคนไข้นามสกุลคุ้นๆแต่หมอ...” ก่อนที่นางพยาบาลสาวจะถามต่อโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพอดีนางพยาบาลสาวจึงจำต้องขอตัวออกจากห้องไป
“หิวก็กินสิครับหนูทราย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกน้องสาวส่วนตัวเองก็หยิบข้าวกล่องที่ได้สั่งให้คนเอามาส่งก่อนหน้านี้มาเปิดให้บิดามารดาและภรรยา กลิ่นอาหารลอยมาปะทะจมูกพิมพ์พิชชาจนอดเสียดายไม่ได้
“แพรแบ่งฉันมั้งดิ” พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกเพื่อนสาวพร้อมทำหน้าอ้อน ๆ แพรวารินทร์ใจอ่อนกับเธอเสมอข้อนี้เธอรู้ดี
“เอาไปเลยมีแต่ผักมีประโยชน์คุณหมอคงไม่ว่า” แพรวารินทร์ยอมยกข้าวกล้องมาให้เพื่อนแล้วหันไปมองข้าวต้มปลาที่คงเป็นเธอที่ต้องทานมันลงไปทั้งที่ไม่ชอบแต่เพื่อเพื่อนเธอยอม แพรวารินทร์ยกถ้วยข้าวต้มมาที่โต๊ะพลางจะยกช้อนขึ้นตักแต่กล่องข้าวกล่องหนึ่งก็ถูกยื่นมาตรงหน้า
“กินนี่ดีกว่าครับ ส่วนข้าวต้มเนี่ยพี่กินเองส่วนหนูทรายพี่อนุโลมให้ครั้งเดียวนะครับปัญจ์มากินด้วยกันมั้ย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกภรรยาและน้องสาวก่อนหันไปถามเพื่อนรัก
“ไม่อ่ะกลับดีกว่าสัญญากับม้าไว้ว่าจะกลับไปกินข้าวกับม้า” ปัญจวัตรเอ่ยบอกก่อนจะยกมือไหว้พ่อแม่เพื่อนแล้วออกไปอย่างสบายใจงานนี้มีหรือปัญจวัตรจะไม่บอกผู้เป็นปู่เล็กอย่างพ่อเลี้ยงพยัคฆ์
“เทคแคร์ดีนะพี่เสือ ทรายถามหน่อยสิ” พิมพ์พิชชาเอ่ยถามผู้เป็นพี่ทันทีหลังจากที่พี่ชายทำท่าจะเช็ดปากให้เพื่อนรัก
“ถามอะไร” มือหน้าที่ชะงักกลางอากาศเอื้อมไปเช็ดปากให้ภรรยาก่อนจะถามกลับแต่สิ่งที่น้องสาวถามกลับทำให้แพรวารินทร์ที่กำลังยกน้ำขึ้นมาดื่มแก้เขินถึงกับสำลัก
“ที่พี่เสือทำแบบนี้เรียกจีบรึเปล่าค่ะ”
“แค่ก ๆ”พงศ์พยัคฆ์หยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดปากแพรวารินทร์ก่อนจะหันมาตอบคำถามน้องสาวจนคนในห้องถึงกับยิ้มกับคำตอบยกเว้นแพรวารินทร์ที่ถึงกับช็อค
“จีบเหรอ? จะเรียกว่าจีบก็ได้มั้ง พี่กำลังจีบภรรยาตัวเองอยู่”
ลานจดรถโรงพยาบาลรักษ์บดินทร์ร่างสูงเท่ห์เดินมาถึงลานจอดรถก่อนจะหันไปเห็นรถของกุมารแพทย์สาวยังจอดอยู่ทั้งที่เลยเวลาเลิกงานของเธอมาสักพักแล้วปัญจวัตรมองด้วยใบหน้าฉงนก่อนที่ร่างสูงตัดสินใจเดินเข้าไปใกล้แล้วเคาะประตูรถร่างบางในรถลดกระจกลงก่อนจะหันมามอง“ยังไม่กลับเหรอหมอฟ้า”“ฉันจะกลับไม่กลับก็เรื่องของฉัน” กุมารแพทย์สาวเอ่ยบอกพลางเช็ดหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม“หมอฟ้า คุณร้องไห้ทำไมใครทำอะไรคุณ” ศัลยแพทย์หัวใจหนุ่มเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงก่อนจะถือวิสาสะเปิดประตูรถแล้วดึงร่างบางออกมาจากรถ“ปล่อยนะหมอปัญจ์คุณทำบ้าอะไร” กุมารแพทย์สาวเอ่ยถามก่อนจะถูกพามาที่รถของปัญจวัตร ศัลยแพทย์ทรวงอกหนุ่มเปิดประตูข้างคนขับก่อนจะยัดร่างของกุมารแพทย์สาวเข้าไปแล้วรีบอ้อมไปเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง“หมอฟ้าคุณร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรคุณรึว่าเพราะข่าวลือของไอ้เสือ” หมอหนุ่มพูดก่อนจะสังเกตุเห็นหยดน้ำตาที่ไหลลงเมื่อเอ่ยถึงข่าวลือ“ฉันจะเป็นอะไรมันก็เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับคุณ ปลดล็อกฉันจะกลับ” ฟ้ารดาเอ่ยบอกแต่แทนที่หมอหนุ่มจะฟังกลับสตาร์ทเครื่องก่อนรถหรูจะพุ่งทะยายไปตามทาง บ้านเกตทิวรากุลรถหรูจอดเทียบท่าหน้าบ้านหลังใหญ่
เรือนแสนรักรถหรูแล่นเข้ามาจอดในโรงจอดรถของเรือนแสนรักสร้างความแปลกใจให้แก่แม่อุ่นและบรรดาคนรับใช้ในเรือนแสนรักเป็นอย่างมากก่อนที่จะเรียกรอยยิ้มให้พวกเขาเมื่อชายหนุ่มเจ้าของรถก้าวลงมาก่อนจะอ้อมไปเปิดประตูให้หญิงสาวที่คุ้นเคยของบรรดาคนรับใช้“คุณเสือ คุณแพร” แม่อุ่นแม่นมคนสนิทเอ่ยอย่างยินดีที่ได้เห็นคู่สามีภรรยาที่วัน ๆ แทบไม่ได้เจอหน้ากันเดินมาหาตนพร้อมกัน“นมยังไม่นอนเหรอครับ นี่ดึกแล้วนะเดี๋ยวจะไม่สบายนะครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามแม่นมคนสนิท“โธ่พ่อคุณทูนหัวของนม นมก็ว่าจะนอนแล้วค่ะแต่คุณหนูทรายเธอโทรมาบอกให้จัดการเรื่องให้ก็เลยต้องมาสั่งคนนี่ล่ะค่ะ นมว่าเราเข้าบ้านกันดีกว่านะคะ” แม่อุ่นเอ่ยบอกก่อนที่พงศ์พยัคฆ์จะโอบเอวแม่อุ่นเดินเข้าไปในตัวบ้านโดยไม่ลืมที่จะใช้มืออีกข้างไปกุมมือบางของแพรวารินทร์แล้วเดินไปพร้อม ๆกัน“แล้วนี่คุณหนูทรายเป็นอย่างไรบ้างค่ะ นมลืมถามเธอตอนที่เธอโทรศัพท์มา” แม่อุ่นเอ่ยถามเมื่อทั้งสามนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่น“อาทิตย์หน้าก็จะผ่าตัดแล้วครับปล่อยไว้นานกว่านี้ไม่ได้ จริง ๆผมอยากจะเฝ้าน้องนะครับแต่พ่อกับแม่บอกว่าจะเฝ้าเองให้ผมกับหนูแพรกลับมานอนที่บ้าน”“ดีแล้วค่ะ คุณแ
“ทำอะไรอยู่ครับนมหอมจัง” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามทันทีที่เข้ามาถึงห้องครัวของเรือนแสนรัก แม่อุ่นที่กำลังวุ่นอยู่กับข้าวต้มกุ้งตรงหน้าหันมองหน้าเจ้านายหนุ่มที่ตนอุ้มชูมาก่อนจะเอ่ยตอบ“ก็ข้าวต้มกุ้งของโปรดคุณเสือไงค่ะ รออีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้วค่ะ”“จริงเหรอครับดีจังเสือคิดถึงข้าวต้มกุ้งฝีมือนมที่สุดเลย” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกพร้อมทั้งออดอ้อนแม่นมเล็กๆ“แหม่ถ้าจริงอย่างคุณเสือว่าทูนหัวคงอยู่ทานทุกมื้อแล้วค่ะ ไม่รีบร้อนออกไปปล่อยให้อาหารนมกินแห้วแบบนี้ตั้ง9ปีหรอกค่ะ” แม่อุ่นเอ่ยบอกอย่างแง่งอน“นมครับต่อไปเสือจะทานอาหารนมทุกวันเลยหายงอนนะครับดีกันนะครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกพร้อมยกนิ้วก้อยขึ้นมา แม่อุ่นหัวเราะร่าก่อนจะยกนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของเจ้านายหนุ่ม“คุณนมขาข้าวต้มกุ้งจะไหม้แล้วค่ะ” แต้วเอ่ยแซวผู้อาวุโสกว่าที่เธอรักดั่งบุพการี แม่อุ่นหันมาตีแขนแต๋วก่อนจะหันมาบอกนายหนุ่ม“คุณเสือไปนั่งรอที่โต๊ะก่อนนะคะทูนหัวเดี๋ยวก็เสร็จแล้วค่ะ”“ครับนม ผมจะรอที่ศาลาริมน้ำนะครับ” พงศ์พ
พงศ์พยัคฆ์นั่งมองแพรวารินทร์คุยงานกับปกรณ์ลูกค้าวัยกลางคนของน้องสาวที่แพรวารินทร์ต้องเข้ามาพูดคุยและรับผิดชอบแทนโดยไม่คิดจะละสายตา เขาไม่ได้มองหญิงสาวมาตั้งนานในตอนนี้เขาจึงอยากจะมองชดเชยที่ไม่กล้ามองมานาน...มองเธอให้นานที่สุดแม้ว่าจะมีพงศ์พยัคฆ์มานั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ แต่แพรวารินทร์ก็ไม่ได้ประหม่าจนเสียงาน หญิงสาวพูดคุยกับลูกค้าด้วยน้ำเสียงสบายหูจนแม้แต่พงศ์พยัคฆ์เองยังรู้สึกสบายไปด้วยแม้จะมีหลายอย่างที่เขาไม่เข้าใจก็ตาม“ผมไม่มีปัญหากับแบบที่นำเสนอนะครับ ทางผมไม่ได้รีบร้อนอะไรทางบริษัทไม่ต้องกังวล และคุณแพรวารินทร์เองก็ไม่ต้องมาคุมงานนี้แทนหรอกครับ ผมได้ยินว่าคุณแพรวารินทร์มีงานใหญ่ที่ต้องทำอีกหลายงาน ไม่ต้องลำบากหรอก บอกตามตรงผมถูกชะตาคุณพิมพ์พิชชามากอยากให้เธอได้เป็นคนควบคุมงานที่เธอออกแบบด้วยตัวเธอเอง”“ทางเราเองก็อยากให้พิมพ์พิชชาได้ทำค่ะ แต่ก็เกรงว่าทางคุณปกรณ์รอไม่ไหว”“รอได้ครับ ผมจะรอมัณฑนากรเจ้าของแบบนี้ แล้วก็หวังว่าคุณพิมพ์พิชชาจะหายกลับมาจัดการงานนี้ด้วยตัวเองได้ในเร็ววันนะครับ”“พิมพ์พิชชาจะกลั
ดวงตาคู่หวานทอดสายตามองปลาสวยงามในตู้ปลาตรงหน้าด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าไม่ว่างานจะหนักแค่ไหนเธอก็ไม่เคยเหนื่อยล้าและหมดแรงเท่าตอนนี้เลย ตอนรู้ความสัมพันธ์ของพงศ์พยัคฆ์และหญิงสาวอีกคนก็ช็อคแล้วยิ่งได้เห็นทั้งคู่เดินจับจูงมือกันอีกยิ่งรู้สึกเสียใจ“ยังไม่เลิกทำหน้าเหมือนหมาเปิดปลากระป๋องไม่ได้อีกเหรอคุณ” น้ำเสียงยียวนเอ่ยทักจากด้วยหลังทำให้คนยืนมองตู้ปลาอยู่ต้องละลายตาไปมอง “อุตส่าห์พาไปเลี้ยงข้าวปลอบใจถึงที่บ้านคุณยังไม่หายเศร้าอีกเหรอ อะไรจะอกหักเบอร์นั้นครับหมอฟ้ารดา”“ยุ่ง” คนโดนถามว่าแล้วก็หัวกลับไปดูปลาในตู้ต่อไป “เป็นปลานี่ดีเนอะ ไม่เห็นจะอกหักรักคุดเหมือนคนเลย”“อกหักแล้วเพี้ยนก็มีด้วยเว้ยเห้ย ไปกันใหญ่ ปะ ไปกินข้าวบ้านผมดีกว่าวันนี้ม้าผมทำแต่ของอร่อย เผื่อจะหายจากอาการอกหักบ้าง” ว่าแล้วก็ดันไหล่หญิงสาวจากด้านหลังออกไปจากโรงพยาบาลทันที ที่รีบก็เพราะเขากลัวสาวเจ้าจะได้เห็นภาพบาดตาเข้าอีกน่ะสิวันนี้ก็เป็นอีกวันที่บ้านเกตทิวรากุลได้ต้อนรับแขกสาวอีกครั้งหลังจากที่เมื่อวานนี้ได้ต้อนรับไปแล้วทว่าคุณหญิงปริศนากลับไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไรแม้แต่น้อย ออกจะชอบใจ
วันต่อมาโรงพยาบาลรักษ์บดินทร์การที่พงศ์พยัคฆ์ไปไหนมาในกับแพรวารินทร์ถือเป็นสิ่งที่ถูกพูดถึงไม่หยุดตั้งแต่ที่หญิงสาวเดินออกมาจากห้องทำงานของหมอหนุ่ม บ้างก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับหมอหนุ่มผู้แสนเย็นชาและเงียบขรึมที่ทำให้หมอหนุ่มเปลี่ยนเป็นคนที่มีรอยยิ้ม บ้างก็ใคร่รู้เหลือเกินว่าหญิงสาวเป็นใครทำไมถึงได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับเสือยิ้มยากของโรงพบายาลได้แบบนี้และข่าวล่ามาแรงวันนี้ก็คือข่าวสารที่ว่าคืนวานนี้คุณหมอหนุ่มและหญิงสาวคนนั้นไม่ได้กลับออกไปจากโรงพยาบาลจนกระทั่งช่วงสาย ๆ จึงได้จูงมือกันออกไปข้างนอกคุณหญิงปริศนาเงี่ยหูฟังพยาบาลสาวที่เม้าท์กันอย่างเมามันก่อนจะหันมามองหน้าลูกสาวที่กำลังตั้งใจฟังอยู่ไม่แพ้กันแล้วก็ได้แต่พ้นลมหายใจอย่างเบื่อหน่าย“เรื่องชาวบ้านนี่ขยันจริง ๆ คนเรานี่”“นั่นสิคะ โอ๊ะ นั่นพี่เสือกับพี่แพรนี่คะ” ปรียาภัทรเอ่ยอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของผู้เป็นแม่ก่อนจะหันไปเห็นคนที่ถูกพูดถึงกำลังเดินไปยังลิฟต์จึงส่งเสียงเรียกทันที“พี่แพร พี่เสือ” เสียงร้องเรียกทำให้แพรวาริน
เสียงเครื่องยนต์ของรถที่คุ้นหูทำให้ปัญจวัตรรีบเดินออกมาหน้าบ้านด้วยความแปลกใจทันที เขาจำได้เสียงนี้เป็นเสียงรถพงศ์พยัคฆ์อย่างแน่นอน และก็เป็นไปตามคาดรถหรูของพงศ์พยัคฆ์จอดอยู่ตรงหน้าจริง ๆหลังจากนั้นไม่นานรถของปรียาภัทรก็ขับมาจอดใกล้ๆกัน ปัญจวัตรมองผู้มาเยือนที่ไม่ได้มีแต่พงศ์พยัคฆ์แต่ยังมีลูกพี่ลูกน้องสุดที่รักอย่างแพรวารินทร์ด้วยความประหลาดใจ“มาได้ไงวะไอ้เสือ น้องแพร” ปัญจวัตรเอ่ยถามอย่างสงสัยทันทีที่เพื่อนรักและลูกพี่ลูกน้องสาวลงจากรถ“ปิ่นชวนเองแหละ เห็นว่าวันนี้ม้าทำแต่ของอร่อยเลยชวนมาแจมด้วย”“ชวนมาแจมเนี่ยนะ” ปัญจวัตรเอ่ยพึมพำหมอหนุ่มสังหรณ์ใจไม่ดีเท่าไรแล้วน้องสาวเขาคิดจะทำอะไรนั้นคือสิ่งที่ปัญจวัตรกำลังหาคำตอบให้ตัวเอง ส่วนพงศ์พยัคฆ์และแพรวารินทร์นั้นไม่ได้สนใจปัญจวัตรทั้งคู่เดินเข้าบ้านไปพร้อมกับปรียาภัทรโดยไม่ต้องมีใครชวน คนนอกเห็นอาจคิดว่าเสียมารยาทแต่ไม่ใช่เลยเพราะทั้งสองเข้าออกบ้านหลังนี้จนเหมือนบ้านตัวเองไปแล้วทั้งคุณหญิงปริศนากับคุณศรันย์ผู้เป็นสามีเองก็เอ็นดูพงศ์พยัคฆ์เหมือนลูกแพ
โต๊ะอาหารหลังจากที่ทุกคนย้ายสถานที่จากห้องรับแขกมาเป็นห้องอาหารพงศ์พยัคฆ์ก็เลื่อนเก้าอี้ให้แพรวารินทร์นั่งโดยจงใจให้ที่นั่งของตนและภรรยาสาวอยู่ตรงข้ามกับฟ้ารดา แพรวารินทร์มองชายผู้เป็นสามีอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ไม่เอ่ยอะไรด้านพงศ์พยัคฆ์ก็รู้ว่าภรรยาไม่เข้าใจแต่ก็ไม่อธิบายได้แต่ตักปูมาแกะก่อนจะยื่นมาตรงหน้าแพรวารินทร์“อ้าปากสิครับ พี่จะป้อน” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกน้ำเสียงไม่เบานัก แพรวารินทร์มองอย่างไม่เข้าใจก่อนจะขยับปากจะพูดแต่ถูกพงศ์พยัคฆ์ขัดขึ้นก่อน“ไม่อ้าปากพี่จูบนะ เลือกเอา” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขู่จนคนไม่อยากโดนจูบรีบอ้าปากงับเนื้อปูอย่างไม่รอช้า พงศ์พยัคฆ์ยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะโน้นศีรษะไปใกล้หญิงสาวแล้วเอ่ยบางอย่างออกมา“น่ารักที่สุด แบบนี้ต้องให้รางวัล” พูดจบริมฝีปากหนาของพงศ์พยัคฆ์ก็ทาบลงจุ๊บที่แก้มเนียนของแพรวารินทร์โดยไม่เอียงอายต่อสายตาของผู้ร่วมโต๊ะคนอื่น ๆ แพรวารินทร์ผงะไปอย่างตกตะลึงก่อนที่แก้มเนียนจะเปลี่ยนเป็นแดงซ่าน“ป้อนให้พี่บ้างสิครับ หนูแพร” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะโน้นศีรษะลงไปใกล้ใบหูของหญิงส
“จากที่ไม่ชอบ ก็กลายเป็นใช่ กลายเป็นคำตอบของใจฉันความผูกพันเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นไม่ลดเลย ฉันรักเธอจัง...”เมื่อเสียงเพลงจบลงแพรวารินทร์ได้แต่เขินอายจนต้องวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทั้งเขินทั้งเสียใจที่หมอหนุ่มยังคงนิ่งโดยไม่รู้เลยว่าคนที่คิดว่านิ่งนั้นแอบยิ้มและร้องไชโยในใจอยู่ถ้าไม่ติดที่ต้องเก๊กนิ่งนะเขาจะกระโดดเต้นแร้งเต้นกาเลยด้วยซ้ำ“สำเร็จ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยเบาๆอย่างดีใจเมื่อแพรวารินทร์วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ“สำเร็จแต่ยังไม่พอ ต้องบอกตรง ๆ” หมอหนุ่มเอ่ยบอกตัวเองและทำหน้านิ่งตัวตรงอีกครั้งด้านคนในห้องน้ำยืนมองตัวเองในกระจกอย่างเขินอายก่อนจะกรี๊ดลั่นแต่หมอหนุ่มก็ไม่มีทางได้ยินเพราะเป็นห้องเก็บเสียง ก่อนที่จะโทรศัพท์หาที่ปรึกษาตัวแสบอย่างพิมพ์พิชชาพร้อมเล่าทุกอย่างให้ฟัง“แก ฉันร้องเพลงบอกรักไปแล้วแต่พี่เสือยังนิ่งอีกเอาไงดีล่ะ”ด้านพิมพ์พิชชาอมยิ้มและกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่เธอไม่เชื่อว่าพี่ชายเธอยังนิ่งแค่ยัยเพื่อนรักไม่เห็นเท่านั้นแหละ“บอกรักผ่านเพลงอาจจะครุมเครือมั้งแก พี่เส
พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้วแต่คุณหมอหนุ่มยังไม่เลิกงานซึ่งนั้นก็หมายความว่าผู้ติดตามอย่างแพรวารินทร์ก็ยังไม่เลิกงานด้วยหญิงสาวมองญาติคนไข้ฉุกเฉินของพงศ์พยัคฆ์อย่างหงุดหงิดเธอพอจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นตกใจเสียใจที่ญาติเข้าโรงพยาบาลแต่มีสิทธิ์อะไรมากอดสามีเธอไว้แบบนั้นแถมยังเบียดหน้าอกหน้าใจเข้าหาเขาอีกนั้นสามีของเธอนะภรรยาเขานั่งอยู่นี่ไม่เห็นรึไง‘ชิ แกนั่งอยู่นี่ทั้งคน นางยังเบียดนมเข้าแนบอกพี่เสืออีกยัยนมแตงโม’ แพรวารินทร์ได้แต่แยกเขี้ยวใส่พร้อมก่นด่าในใจตอนนี้เข้าใจความรู้สึกของคนหึงแล้วโวยวายไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไงและพอเข้าใจความรู้สึกของพงศ์พยัคฆ์ในวันนั้นแล้วด้วย แพรวารินทร์ได้แต่หงุดหงิดก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงานของพงศ์พยัคฆ์เพราะทนภาพบาดตาไม่ไหวอยากจะกระชากออกจากกันให้รู้แล้วรู้รอด“พิมพ์พิชชาส่งคุณมาใช่มั้ย” หมอหนุ่มเอ่ยถามเมื่อแพรวารินทร์กลับห้องทำงานไปแล้ว เขามั่นใจว่าผู้หญิงที่พยายามเอาหน้าอกมาเบียดเขาเนี่ยไม่ใช่ญาติของคนไข้แน่นอนและจะเป็นใครไปไม่ได้ที่จะส่งมาถ้าไม่ใช่น้องสาวเขา“รู้ด้วย ฉลาดจังหมอขา&r
เดอะ ซัน คอนโดมิเนี่ยมคนที่ไม่ออกจากเรือนแสนรักมาโดยไม่รู้จุดหมายปลายทางเลือกจะมายังคอนโดมิเนียมแห่งนี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลและเป็นที่พักในช่วงที่เขาไปทำงานที่นิติเวชร่างสูงเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะเดินเข้ามายังห้องนอนแล้วทรุดลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง เขาน้อยใจที่เธอว่าเขาไม่มีเหตุผลและมีสิทธิ์อะไรไปทำแบบนั้นและเขาหึงที่เธออยู่ในอ้อมกอดของชายคนอื่นและที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่ความผิดของแพรวารินทร์แต่เป็นเพราะเขารักเธอมากเกินไปแถมเธอยังไม่มีใจให้กันอีกด้วย พงศ์พยัคฆ์ล้มลงนอนก่อนจะฝืนหลับตาลงอย่างยากลำบาก“พี่เสือคิดถึงหนูแพรนะครับ ขอแค่คิดถึงแต่จะไม่ไปกวนใจอีกแล้ว”2วันผ่านไปเรือนแสนรักเป็นเวลาสองวันแล้วหลังจากพงศ์พยัคฆ์ขับรถออกไปและหมอหนุ่มก็ไม่ได้กลับมาอีกตลอดระยะเวลาสองวันที่ผ่านมาช่างดูหดหู่ในความรู้สึกของแพรวารินทร์และทุกคนในบ้านที่ต่างเฝ้ารอการกลับมาของหมอหนุ่มโดยเฉพาะแพรวารินทร์ที่มีอาการเหม่อลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนต้องขอลางานอีกหนึ่งอาทิตย์“แพรจะไปตามพี่เสือกลับมา พี่เสือ
ร่างสูงสมบูรณ์แบบของพงศ์พยัคฆ์หันมองไปยังโต๊ะที่มีคนคุ้นเคยในหัวใจของเขานั่งอยู่อย่างหงุดหงิดและพยายามควบคุมอารมณ์ไว้ไม่เดินเข้าไปกระชากผู้ชายคนนั้นขึ้นมาต่อยเพราะรู้ดีว่าตนทำผิดไว้มากและถ้าเดินเข้าไปต่อยลูกค้าของเธออีกมีหวังโอกาสของเขาคงหมดลงเป็นแน่แม้ว่าคำว่าสามีจะมีสิทธิ์ทำแบบนั้นแต่เขาไม่ใช่สามีที่เธอรักและยังอยู่ในสถานะที่รอการพิจารณาว่าจะรักหรือไม่เท่านั้นหมอหนุ่มจึงหันกลับมาสนใจกลุ่มเพื่อนร่วมงานตรงหน้าที่ชวนเขามาทานอาหารเที่ยงแทน ทีมแพทย์ที่สนิทของชายหนุ่มซึ่งนำทีมโดยรามินเอ่ยชวนเขามาทานอาหารเที่ยงที่นี่พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกขค.ของเพื่อนรักกับกุมารแพทย์สาวจึงไม่คิดปฏิเสธการร่วมโต๊ะในครั้งนี้แต่เมื่อมาถึงที่นั่งของเขาดันบังเอิญมองไปเห็นอีกมุมนึงของร้านซึ่งเป็นที่ที่เจ้าของหัวใจของเขานั่งอยู่นั้นเอง“พี่เสือเป็นไรเปล่า ผมว่าพี่ทำหน้าดูน่ากลัวไงไม่รู้”รามินเอ่ยถามหลังจากเห็นรุ่นพี่หนุ่มทำหร้าเหมือนจะหักคอคนได้“เปล่าไม่มีอะไร ว่าแต่ที่มากันครบทีมแบบนี้เนื่องในโอกาสอะไร” พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกอขอคอของเพื่อนรักเอ่ย
รุ่งอรุณแห่งวันเริ่มต้นการทำงานได้เริ่มขึ้นอย่างอึมครึมแต่ที่อึมครึมหาใช่สภาพอากาศไม่แต่หากเป็นความรู้สึกของพงศ์พยัคฆ์หลังจากกลับจากไร่พยัคฆาเมื่อเช้าวานซืนรณพีร์ก็โทรศัพท์มาบอกว่าทัศนะต้องการจะดูแบบและคุยรายละเอียดกับแพรวารินทร์เพียงแค่หมอหนุ่มทราบเท่านั้นแหละถึงกับหน้าบึ้งตึงไปเฉยๆ“ไม่ไปไม่ได้เหรอครับ หนูแพร” คือถ้อยคำที่พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามเมื่อช่วงเช้าวานที่ผ่านมาหากแต่แพรวารินทร์กลับบอกว่าเมื่อรับงานมาแล้วก็ต้องทำจะปฏิเสธไม่ได้เพราะเคยรับปากรณพีร์ไว้แล้วแค่เพียงได้ยินเช่นนั้นหมอหนุ่มที่เคยยิ้มแย้มเอาอกเอาใจก็เงียบลงทันตาแถมพูดถามคำตอบคำจนแพรวารินทร์ได้แต่สงสัยพอเอ่ยถามหมอหนุ่มกลับบอกว่าไม่เป็นไรแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะกลับจางหายไปตลอดหนึ่งวันมานี้ยิ่งรุ่งเช้าที่ผ่านมาหมอหนุ่มก็รีบออกไปทำงานแต่เช้าตรู่“พี่เสือหึงแกอยู่น่ะสิยัยแพร”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกขณะที่เดินมาส่งแพรวารินทร์ที่รถเพื่อไปทำงานเนื่องจากรณพีร์เกรงว่าเธอจะเป็นอะไรไปอีกชายหนุ่มจึงให้พักอีกหนึ่งอาทิตย์พิมพ์พิชชาจึงได้พักยาวๆจนถึงสิ้นเดือนนี้“พูดไปนั่นยัยทร
เช้าวันเสาร์ที่แสนสดใสวันนี้คือวันสุดท้ายที่พวกของพงศ์พยัคฆ์จะอยู่ที่ไร่พยัคฆารุ่งเช้าของวันพรุ่งนี้ทั้งหมดยกเว้นท่านสัตยะจะเดินทางกลับกรุงเทพฯความสัมพันธ์ของพงศ์พยัคฆ์กับแพรวารินทร์และปัญจวัตรกับฟ้ารดาดีขึ้นมากพอสมควรส่วนรณพีร์และพิมพ์พิชชาก็ถือว่าดีแต่เมื่อใกล้จะกลับพิมพ์พิชชายิ่งต้องหาวิธีบอกว่าความจำเธอกลับมาแล้ว พิมพ์พิชชายืนมองคนอื่น ๆอย่างคิดหนักโอกาสเล่นละครว่าความทรงจำเพิ่งกลับมามีแค่วันนี้เท่านั้นแล้วเธอจะทำอย่างไรดี‘เอาไงดีเนี่ย บอกไปตรง ๆไม่มีใครเชื่อแน่ บอกว่าจำได้ตั้งแต่สองวันแรกที่มาอีตาคุณพีร์คงโกรธแน่ เอาไงดีล่ะ ใช่แล้ว…ยัยแพร’ พิมพ์พิชชาครุ่นคิดในใจก่อนจะคิดอะไรได้หญิงสาวรีบเดินไปหาแพรวารินทร์“แพรมาทางนี้กับทรายหน่อยสิ”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกก่อนจะดึงเพื่อนรักไปในมุมลับตาคน“มีอะไรจ๊ะยัยคนความจำเสื่อม” แพรวารินทร์เอ่ยแกล้งเพื่อนรักที่ทำเป็นจำอะไรไม่ได้“แกรู้?” พิมพ์พิชชาเอ่ยถามอย่างตกใจไม่คิดว่าเพื่อนรักจะล่วงรู้ว่าเกือบสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเธอแกล้งจำอะไรไม่ได้
ในวันที่9ของการมาเยือนไร่พยัคฆ์ของพงศ์พยัคฆ์และครอบครัวเป็นวันที่ท้องฟ้าสดใสพระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจรัส โปรมแกรมการฟื้นฟูความทรงจำของพิมพ์พิชชาที่แพรวารินทร์วางไว้คือการไปปิ๊กนิคที่ทุ่งหญ้าพักใจแต่เมื่อถึงถึงวันจริงพงศ์พยัคฆ์กลับมีอาการตัวร้อนแพรวารินทร์จึงอยู่คอยดูแล มีเพียงปัญจวัตร ฟ้ารดา รณพีร์ และพิมพ์พิชชาเท่านั้นที่ไปตามโปรแกรมส่วนปรียาภัทรนั้นต้องอยู่เคลียร์งานเพื่อส่งให้เจ้านายที่โทรศัพท์มาทวงงานจึงไม่ได้ไป“หนูแพรครับ พี่เสืออยากไปนั่งชิงช้าริมน้ำจังไปด้วยกันหน่อยนะครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่แพรวารินทร์กลับจากเรือนใหญ่เพราะผู้เป็นพ่อแม่สามีเรียกให้ไปพบด้วยสาเหตุบางอย่าง“แต่ไข้ยังไม่ลดเลยนะคะ” แพรวารินทร์เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง“ไม่มีไข้แล้วครับ แตะดูสิตัวไม่ร้อนแล้วเห็นไหม”หมอหนุ่มเอ่ยบอกก่อนจะจับมือขวาของหญิงสาวขึ้นสัมผัสหน้าผาก“จริงด้วย ก่อนแพรจะไปเรือนใหญ่ยังตัวร้อนจี๋อยู่เลย”แพรวารินทร์เอ่ยอย่างสงสัยหากแต่หมอหนุ่มไม่ยอมให้หญิงสาวได้สงสัยนานไม่หมอหนุ่มลดมือหญิงสาวลงก่อนจ
“หมอปัญจ์ ฉันอยากได้ดอกไม้ตรงนั้นเอาให้หน่อย” ฟ้ารดาเอ่ยบอกขณะเดินตามทางเพื่อกลับไปที่จุดรวมพลพร้อมชี้ไม้ชี้มือไปที่ดอกของไม้เลื้อยชนิดหนึ่งที่เกาะอยู่บนต้นไม้ ปัญจวัตรมองดอกไม้ที่อยู่สูงพอสมควรก่อนจะเอ่ยขึ้น“จัดไปตามคำขอครับ คุณผู้หญิง” เมื่อจบหมอหนุ่มก็ถอดรองเท้าก่อนจะปีนป่ายขึ้นไปบนต้นไม้“ระวังนะหมอปัญจ์”“รับทราบครับผม” ปัญจวัตรเอ่ยบอกและในที่สุดหมอหนุ่มก็มาถึงจุดที่มีดอกไม้ที่ฟ้ารดาต้องการหมอหนุ่มเด็ดมันก่อนจะหันไปเห็นดอกไม้อีกชนิดที่สวยงามไม่แพ้กัน หมอหนุ่มดึงมาทั้งเถาก่อนจะทำเป็นมงกุฏดอกไม้ป่าพร้อมยิ้มสายตาพลันเหลือบไปเห็นน้องสาวที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้านล่างหมอหนุ่มจับตามองก่อนจะพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ...คงไม่ได้คุยกับไอ้บอสดี้นั่นอีกนะ“ได้รึยังหมอปัญจ์”เสียงของฟ้ารดาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นหมอหนุ่มเงียบไปนาน ปัญจวัตรละสายตาจากน้องสาวกลับมาสนใจดอกไม้ในมือก่อนจะปีนป่ายหาทางลงไป“นี่ครับดอกไม้ของคุณ ส่
เพราะความขบเมื่อยตรงบริเวณต้นคอปลุกให้คนแกล้งลืมต้องรู้สึกตัวขึ้นบรรยากาศรอบข้างไม่ได้น่ามองกว่าเจ้านายปากเสียของเธอเลยเพราะไหล่ขวาถูกเธอครอบครองไว้ทำให้ชายหนุ่มเลือกที่จะเอาศีรษะพิงต้นไม้ใหญ่ข้างๆแทนเพื่อไม่ให้รบกวนเธอแม้จะหลับอยู่ชายตรงหน้าก็มีเสน่ห์อยู่มาก ปากนิดจมูกหน่อยน่ารักเวลายิ้มก็น่ารัก‘อีตาคุณพีร์ขี้เก๊ะหลงให้เข้าใจว่าชอบยัยแพรอยู่ได้ตั้งหลายปี หึถ้าอธิบายแต่แรกฉันคงรักคุณหัวปักหัวปำไปแล้วอีตาคนซื่อบื้อ’ พิมพ์พิชชาได้แต่คิดในใจอย่างหมั่นไส้ก่อนจะลุกขึ้นอย่างเบาๆก่อนจะย่องลงไปในน้ำอย่างระวังไม่ทำให้เจ้านายขี้เซาตื่น หญิงสาวมองคนหลับอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะวิดน้ำใสใส่เต็มแรงความเย็นจากของเหลวบางอย่างทำให้รณพีร์สะดุ้งตื่นพร้อมหาที่มาของสิ่งนั้น พลันสายตาปะทะเข้ากับร่างบางที่กำลังสะบัดน้ำใส่เขาอย่างสนุกสนาน“คุณพีร์คะมาเล่นน้ำกัน”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกแน่นอนว่าชายหนุ่มไม่มีทางสงสัยได้แน่นอนจากการพูดที่แสนจะสุภาพ“แล้วถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ”รณพีร์เอ่ยถามอยากรู้ว่าพิมพ์พิชชาเวอร์ชั่นเสียความทรงจำจะทำอย่า