“เยี่ยม นี่มันเยี่ยมมาก!!”ประธานคังดีใจแล้วหัวเราะออกมาอย่างตื่นเต้น“ประธานคัง คุณพูดได้ถูกต้อง ฉันกับเจียฮุ่ยช่วยให้บริษัทได้ทำสัญญากับโจวกรุ๊ปแล้วจริง ๆ!”“แต่ว่าต้องขอโทษด้วย ตอนนี้เราทั้งคู่ถูกไล่ออกจากบริษัทคุณแล้ว!”“เพราะงั้น สัญญานี้ถือว่าเป็นโมฆะ!”หยางจิงยิ้มอย่างเย็นชา คว้าสัญญาออกมจากมือของประธานคังอย่างแรง!หลังจากที่หยางจิงยึดสัญญานี้กลับไป รอยยิ้มบนใบหน้าของประธานคังก็แข็งค้าง จากนั้นเขาถึงเพิ่งจำได้ว่าตัวเองเพิ่งไล่หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยออกจากบริษัท!หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยได้ช่วยให้บริษัทของพวกเขาได้รับความร่วมมือกับโจวกรุ๊ป ซึ่งพวกเธอสมควรจะได้รับความชื่นชมมากที่สุด!แต่สิ่งที่น่าหัวเราะก็คือ เมื่อสักครู่นี้เขาตบหยางจิงโดยไม่ถามอะไรสักคำ แถมยังไล่หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยออกจากบริษัท ไม่ให้โอกาสผู้หญิงทั้งสองได้อธิบายแม้แต่น้อย!นี่มันโง่เขลามาก!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกเสียใจภายหลังจนลำไส้เขียวคล้ำไปหมดแล้ว“ประธานหยาง นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด เป็นฉันที่เข้าใจทั้งสองคนผิดไป…”“ตอนนี้ฉันขอคืนคำสั่งที่ไล่ทั้งสองคนออกจากบริษัท หวังว่าทั้งสองคนจะไม่ถือสาหาความกับฉั
“ฉันจะหางานที่มีรายได้สูงแบบนี้ได้อีกไหม คุณไม่ต้องมากังวลแทนฉันหรอก!”หยางจิงแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชาแต่แม้ว่าเธอจะพูดแบบนี้ ในใจของเธอก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าเธอทำงานอยู่ที่บริษัทคังกรุ๊ปมานานกว่าหกปีแล้ว ไม่รู้ว่าเธอใช้ความพยายามไปมากแค่ไหนกว่าจะก้าวขึ้นมานั่งตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายขายได้ในที่สุดถ้าเธอออกจากบริษัทคังกรุ๊ป มันจะเป็นเรื่องยากมากที่เธอจะหางานใหม่ที่มีตำแหน่งเดียวกันและมีรายได้ปีละกว่าหนึ่งล้าน เกรงว่าเธออาจจะต้องกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่!ซึ่งค่าตอบแทนนี้มันสูงมาก!“พวกเธอสองคนก็รู้ดี ว่าพวกเธอได้มีส่วนร่วมอย่างมากในการช่วยให้บริษัทได้รับสิทธิ์ความร่วมมือกับโจวกรุ๊ปในครั้งนี้ ผลงานนี้ใหญ่มาก และฉันก็จะไม่ปฏิบัติต่อพวกเธออย่างเลวร้ายอย่างแน่นอน!”“ประธานหยาง ตราบเท่าที่เธอเต็มใจที่จะอยู่ต่อ ฉันจะเลื่อนตำแหน่งให้เธอขึ้นเป็นผู้จัดการใหญ่ จะเพิ่มเงินเดือนและผลประโยชน์ให้เธอเป็นสองเท่าด้วย!”“ส่วนผู้จัดการหลี่ หลังจากที่ประธานหยางได้รับการเลื่อนตำแหน่งแล้ว ตำแหน่งของเธอจะตกเป็นของเธอ และเธอจะขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายคนใหม่ของบริษัทเรานับจากนี้!”“ตอนนี้พวกเธอสองคนยั
“สำหรับเงินเดือน ผมจะให้เงินคุณปีละสามล้าน ไม่นับโบนัสและสวัสดิการอื่น ๆ ของบริษัทซึ่งจะแยกคิดอีกที!”“อะไรนะ? รายได้ปีละสามล้าน?”“ฉินหมิง คุณไม่ได้ล้อฉันเล่นใข่ไหม?”“คุณเปิดบริษัทตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมฉันถึงไม่รู้เลย”หลี่เจียฮุ่ยตกตะลึง“เรื่องที่ว่าผมเปิดบริษัทเมื่อไหร่นั้นตอนนี้ยังอธิบายได้ไม่ชัดเจน ไว้ผมจะเล่าให้คุณฟังอีกทีหลังจากนี้”“ยังไงก็ตามคุณเชื่อผมเถอะ!”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มในช่วงที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ หลี่เจียฮุ่ยใจดีกับเขาแล้วช่วยเหลือเขาไว้มากเขาอยากจะตอบแทนบุญคุณนี้มาหลายครั้งแล้ว!ตอนนี้เขามีชื่อเสียงและสถานะในเมืองเจียงเฉิงแล้ว ย่อมไม่ปฏิบัติต่อผู้มีพระคุณเก่าของตัวเองอย่างเลวร้าย เขาเสนองานให้หลี่เจียฮุ่ยด้วยรายได้สามล้านต่อปี ประการแรกก็เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจของเธอประการที่สอง เขาคือประธานบริษัทของหมิงเหยากรุ๊ป แต่ก็มักจะมีภาระอื่น ๆ ทำให้เขาไม่อยู่บริษัทบ่อย ๆ ทำให้งานต่าง ๆ ตกไปเป็นภาระของซูซินเหยาเพียงลำพังหลี่เจียฮุ่ยเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เขาไว้วางใจมากที่สุด ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะฝึกฝนหลี่เจียฮุ่ยแล้วให้เธอเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระและคว
“แกกล้าดียังไงมาแย่งคนของฉัน? แกกำลังรนหาที่ตายอยู่ใช่ไหม?”ประธานคังจับจ้องฉินหมิงด้วยสีหน้าอาฆาตแค้น เขาแทบอยากจะฉีกฉินหมิงออกเป็นชิ้น ๆ!“คุณสิที่รนหาที่ตาย”“ตาแก่ ฉันจะให้โอกาสคุณ คุกเข่าลงและขอโทษประธานหยางตอนนี้ และขอให้เธอยกโทษให้กับคุณ ฉันอาจจะพิจารณาปล่อยคุณไป!”“ไม่อย่างนั้น คุณก็รอรับผลที่จะตามมาได้เลย!”ฉินหมิงไพล่มือไว้ด้านหลัง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าการตบหนึ่งฉาดที่หยางจิงได้รับจากประธานคังเมื่อสักครู่นี้เกิดจากเขาทางอ้อม ตอนนี้หยางจิงได้ออกจากบริษัทคังกรุ๊ปและเลือกเข้าร่วมกับหมิงเหยากรุ๊ปของเขาแล้วเขาย่อมต้องออกหน้าแทนหยางจิง ช่วยทวงความยุติธรรมและช่วยระบายความโกรธแค้นแทนเธอ!“อยากให้ฉันคุกเข่าขอโทษเธอ?”“ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร!”ประธานคังโกรธมาก เขาโบกมือจากนั้นก็สั่งบอดี้การ์ดสองคนที่อยู่ข้างหลังเขา "แกสองคนไปสั่งสอนบทเรียนให้กับไอ้เด็กนี่หน่อย มันจะได้รู้ว่าท้องฟ้านั้นสูงขนาดไหน!"“นอกจากนี้ อย่าลืมแย่งสัญญาพวกนั้นมา ตราบเท่าที่มีสัญญานั้นอยู่ในมือ หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยอยากจะย้ายไปบริษัทไหนมันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว!”ประธานคังมีสีหน้าเคร่งขรึม
เขาไม่คิดฝันเลยว่าบอดี้การ์ดที่แข็งแกร่งทั้งสองคนของเขา จะพ่ายแพ้ให้กับฉินหมิงด้วยกระบวนท่าเดียว!ถ้าเขาไม่เห็นฉากนี้ด้วยตาตัวเอง เขาจะไม่มีวันเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง!“ร้าย...ร้ายกาจมาก!หยางจิงตกตะลึงถ้าไม่นับความคับข้องใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อสักครู่นี้ที่ฉินหมิงมีต่อรองประธานหลี่ นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นทักษะวรยุทธที่แท้จริงของฉินหมิง แม้แต่บอดี้การ์ดมืออาชีพสองคนก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอได้พบกับฉินหมิง เธอก็เข้าใจมาโดยตลอดว่าฉินหมิงเป็นเด็กยากจนคนหนึ่งถึงได้ขับรถมอเตอร์ไซค์พัง ๆ แต่ตอนนี้ ฉินหมิงไม่เพียงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคุณชายใหญ่ตระกูลโจว เขายังมีทักษะการต่อสู้ที่เป็นเลิศอีกด้วยสิ่งนี้จึงล้มล้างความคิดและภาพลักษณ์ในใจของเธอที่มีต่อฉินหมิงก่อนหน้านี้ไปโดยสิ้นเชิง!เธอตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ชักอยากจะรู้แล้วว่าฉินหมิงเป็นใครกันแน่!“ตาแก่ ถึงตาของคุณแล้ว!”ฉินหมิงยิ้มอย่างเย็นชา เขารับสัญญามากจากหยางจิง จากนั้นก็เดินเข้าไปหาประธานคังทีละก้าว ๆ“แก...แกคิดจะทำอะไร?”“ฉันขอเตือนแกก่อนเลยนะ อย่าเข้ามาใกล้ฉัน...”ประธานคังตกใจกลัวจนถอ
“ถ้าทำแบบนี้ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้ว” “ดันให้ตัวเองต้องถูกทุบตีก่อนถึงจะยอม ช่างน่าเสียดาย!”ฉินหมิงยิ้มอย่างดูถูกแล้วหยุดประธานคังหวาดกลัวบรรยากาศรอบตัวและความกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวของฉินหมิง แม้ว่าเขาจะเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองใจและต้องการที่จะสับฉินหมิงเป็นชิ้น ๆ แต่เขาก็ไม่กล้าแสดงออกมา“ตาแก่ ฉันจะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย ขอโทษคุณหยางซะ!”ฉินหมิงพูดอย่างเย็นชา“ได้ ๆ…”ประธานคังคลานพื้นไปหยุดต่อหน้าหยางจิง จากนั้นก็คุกเข่าลงและร้องขอความเมตตาว่า “คุณหยาง เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่กี้นี้ทั้งหมดของความผิดของฉันเอง ฉันขอโทษ ได้โปรดยกโทษให้กับฉันในครั้งนี้ด้วย…”"ฉัน..."หยางจิงตกตะลึงเธอรู้ว่าสถานะของเธอนั้นแตกต่างกับของประธานคังมาก เธอจึงได้อดทนต่อความอัปยศอดสูและไม่กล้าที่จะคาดหวังถึงคำขอโทษจากปากของประธานคังแต่ตอนนี้ฉินหมิงช่วยให้เธอได้รับความยุติธรรมแล้วจริง ๆ!ประธานคังไม่เพียงแต่ขอโทษเธอเท่านั้น เขายังคุกเข่าลงเพื่อขอโทษเธอด้วย เพียงแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับการลบล้างความอัปยศอดสูที่เธอเพิ่งได้รับ“ลืมมันไปซะเถอะค่ะ คุณลุกขึ้นเถอะ...”หลังจากที่พูดจบ สายตาของหยาง
เขาเชื่อว่าด้วยความแข็งแกร่งของโอวเย่าเฟิง การทำลายฉินหมิงไม่ใช่เรื่องยาก!เขาแอบสวดภาวนาในใจว่าทางที่ดีที่สุดคือให้โอวเย่าเฟิงหักแขนหักขาให้ฉินหมิงพิการไปซะ ไม่อย่างนั้นคงยากที่จะขจัดความเกลียดชังในใจของเขาไปได้!“แย่แล้ว รองประธานหลี่เรียกคนของตระกูลโอวมาเพื่อแก้แค้นแล้ว!”ในเวลาเดียวกัน ใบหน้าของหยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยก็เปลี่ยนไป พวกเธอจดจำตัวตนของโอวเย่าเฟิงและคนไม่กี่คนนี้ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งหยางจิง เธอมักจะติดต่อกับกลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ป ดังนั้นย่อมเคยพบปะกับโอวเย่าเฟิงหลายครั้ง เธอรู้ว่าเขาเป็นคุณชายรองของตระกูลโอว สถานะของเขานั้นสูงส่งมากและไม่สามารถทำให้ขุ่นเคืองใจได้!“จบสิ้นแล้ว มันจบสิ้นแล้ว...”“ฉินหมิง ฉันเตือนคุณก่อนหน้านี้แล้วว่าให้รีบออกไปจากที่นี่ แต่คุณก็ไม่ฟัง!”“ตอนนี้คนจากตระกูลโอวมาที่นี่แล้ว เราคงไม่สามารถออกไปได้แม้ว่าจะต้องการก็ตาม…”สีหน้าของหยางจิงดูน่าเกลียดเธอคาดเดาไว้แล้วว่ารองประธานหลี่จะไม่มีวันยอมรามือง่าย ๆ แต่สิ่งที่เธอไม่เคยคิดมาก่อนก็คือรองประธานหลี่จะเรียกโอวเย่าเฟิง คุณชายรองของตระกูลโอวมาที่นี่ด้วยตัวเอง!สถานะของโอวเย่าเฟิงนั้นเกือบ
“อาศัยแก?”“ช่างตลกอะไรขนาดนี้!”ฉินหมิงเยาะเย้ย สีหน้าเขาดูถูกเหยียดหยามอย่างเห็นได้ชัด“ไอ้หนู แกยังกล้ามาพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้าฉันอีก แกมันเย่อหยิ่งมาก!”ใบหน้าของโอวเย่าเฟิงเปลี่ยนเป็นเย็นชา ดวงตาของเขาที่จับจ้องไปที่ฉินหมิงทวีความร้ายกาจยิ่งขึ้น“ทำไม คุณชายรองโอวคิดที่จะออกหน้าจัดการกับฉันแทนเขาเหรอ?”ฉินหมิงหันความสนใจไปที่โอวเย่าเฟิง“ถูกต้อง!”“ดังคำพูดที่ว่า จะตีสุนัขก็ต้องดูเจ้าของของมัน!”“รองประธานหลี่เป็นคนของกลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ปของเรา ในเมื่อแกลงมือทำร้ายเขา นั่นก็เท่ากับว่าแกประกาศตัวเป็นศัตรูกับตระกูลโอวของเราแล้ว!”“ยังไงวันนี้ฉันก็จะทวงความยุติธรรมแทนเขา!”โอวเย่าเฟิงพูดด้วยท่าทางเย็นชาและเย่อหยิ่ง“ประธานโอวพูดได้ถูกต้องแล้วครับ”รองประธานหลี่พยักหน้าและสำทับตามหนึ่งประโยค แม้ว่าโอวเย่าเฟิงจะพูดว่าเขาเป็นสุนัข แต่เขาก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจแต่อย่างใด กลับกันยังคงยิ้มกว้างแล้วประจบประแจงอีกฝ่าย“คุณชายรองโอว รองประธานหลี่คนนี้ถือโอกาสในการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างสองบริษัทพยายามรังแกเพื่อนของฉัน!”“ฉันหักแขนของเขาข้างหนึ่งและลงโทษเขาเพียงเล็กน